แชร์

ตอนที่9. คุกเข่า

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-05 09:58:20

“คุกเข่า!”

ทหารที่จับตัวของสองพ่อลูก เตะเข้าที่ข้อพับของชายชรา จนเขาล้มลงเข่ากระแทกกับพื้น เกาจ้านเจ็บร้าวไปทั้งขา ก่อนจะเงยหน้ามองไปที่สามีคนใหม่ของอดีตภรรยา

“สตรีผู้นั้นอยู่ที่ใด กล้าที่จะกำแหงต่อครอบครัวข้า ก็ต้องกล้าที่ออกมารับโทษทัณฑ์”

“โบยมันให้ตายเลยขอรับท่านพ่อ”

เจียงหลุนรีบเติมเชื้อไฟ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครที่จะหักหน้าเขาเช่นวันนี้มาก่อน

“โบยมันสองพ่อลูก จนกว่าจะบอกว่าสตรีผู้นั้นอยู่ที่ใด”

“ลองโบยดูสิ!”

เสียงกร้าวดังขึ้นจากประตูบ้าน ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของรองแม่ทัพจะก้าวออกมา โดยมีเหล่านายกองติดตามมามิห่าง ทั้งหมดมีใบหน้าทะมึนตึงไม่แพ้กันกับรองแม่ทัพ ที่สำคัญไปกว่านั้นชุดที่ชายหนุ่มทั้งหมดสวมอยู่นั้น บ่งบอกถึงตัวตนว่าเป็นใคร

ท่านเจ้าเมืองถึงกับหายใจติดขัด เมื่อเห็นลวดลายที่ปักบนแขนเสื้อของพวกเขา มีเพียงแค่สังกัดเดียวเท่านั้น ที่ปักลวดลายนี้ไว้บนแขนเสื้อ

“ทหารจากแดนเหนือ”

“รู้จักด้วยรึ! อยากพบสตรีผู้นั้นมากใช่หรือไม่ท่านเจ้าเมือง เช่นนั้นรอสักครู่ประเดี๋ยวนางก็มา และข้าหวังว่าท่านและครอบครัว จะคิดหาคำแก้ตัวที่น่าฟัง นอกจากคำว่า...”

“มิได้ตั้งใจ!”

เสียงเย็นเยียบจากด้านหลัง ทำให้ท่านเจ้าเมืองถึงกับเย็นสันหลังวาบเลยทีเดียว มีใครบ้างไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพหญิงจากแดนเหนือนั้นเลือดเย็นเพียงใด แล้วสาสน์ที่เขาได้รับมันคืออะไรกัน ไหนบอกว่าท่านแม่ทัพจากแดนเหนือยังมาไม่ถึง

“ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยเพียงทำตามหน้าที่เท่านั้นขอรับ”

            ท่านเจ้าเมืองรีบค้อมกายประสานให้แก่หญิงสาว ที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ด้วยแววตาเรียบนิ่ง สองแม่ลูกสกุลเจียงถึงกับใบหน้าซีดเผือด ด้วยไม่คิดว่าคนที่พวกตนหมายเด็ดหัว จะกลายเป็นคนที่มาเด็ดหัวพวกตนแทน

            “เป็นเจ้าเมืองนับว่ามีอำนาจสุดในเมือง แต่นั่นมิได้หมายความว่าจะทำสิ่งใดตามอำเภอใจได้ บุตรชายและภรรยาทำผิด ยังอาจหาญมาทำร้ายชาวเมืองอย่างอุกอาจ หรือท่านคิดว่าโบยคนตรงนี้ แล้วจะประกาศถึงอำนาจที่ล้นมืออย่างนั้นสินะ!”

            “ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นแม้แต่น้อยขอรับ”

            “บิดาข้าเป็นท่านเจ้าเมือง อำนาจสิทธิ์ขาดอยู่ที่บิดาข้า เป็นแค่แม่ทัพบ้านนอกกล้าดียังไงมาอวดเบ่งอยู่ตรงนี้!”

            คำพูดอย่างคนที่ไม่รู้ลำดับฐานะในราชสำนัก ดังขึ้นจากด้านหลังของชาวเมืองที่มามุงดูเหตุการณ์ เรียกเสียงอื้ออึงขึ้นในทันที และนั่นก็คือคมดาบที่บุตรสาวสุดที่รักยื่นมาวางทาบบนคอของบิดาโดยแท้

            “นางมิได้เรียนหนังสือหรืออย่างไร อ่อ...ข้าลืมไป เป็นบุตรสาวเจ้าเมืองไม่ต้องเรียน เพราะทุกคำคือสิทธิ์อันชอบธรรมสินะ!”

            “รู้ดีนี่!”

            หญิงสาวผู้มาใหม่ก้าวมายืนเคียงข้างบิดา ใบหน้าแสนธรรมดานั้นเชิดขึ้นสูง ต่างจากพ่อแม่และพี่ชาย ที่ตอนนี้แทบสิ้นสติเสียให้ได้ เจียงฮูหยินพยายามกระตุกแขนเสื้อบุตรสาว เพื่อให้หยุดพูดแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล

            “ลี่เอ๋อร์เงียบปากเจ้าเดี๋ยวนี้”

            “ท่านพ่อจะกลัวอะไรกันเจ้าคะ ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ ท่านพ่อมีอำนาจมากที่สุดอยู่แล้ว สั่งโบยพวกมันเสียให้หลาบจำ”

            ท่านเจ้าเมืองลดสายตาลงมองมีดสั้น ซึ่งเหน็บอยู่ที่เอวของแม่ทัพสาว พร้อมกลืนน้ำลายหนืด ๆ ลงคอ ดาบสั้นนั้นคือตัวแทนของฮ่องเต้ ต่อให้เป็นเชื้อพระวงศ์ ยังไม่อาจเหิมเกริมต่อคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าตอนนี้ได้เลย

            “โบยพวกเขาจนกว่าข้าจะมีคำสั่งให้หยุด เห็นเรียกร้องกันเหลือเกินกับการโบย”

            “ท่านแม่ทัพโปรดอภัยให้ความมิรู้ของบุตรสาวข้าด้วยเถิด ข้าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายสองคนนี้เลยนะขอรับ”

            “รองแม่ทัพเจา ลำบากเจ้าแล้ว”

            “ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ ข้าจะเบามือให้มากขอรับ”

            ท่านเจ้าเมืองถึงกับเข่าทรุด เมื่อได้ยินคำพูดของแม่ทัพสาวและรองแม่ทัพ แค่ตำแหน่งแม่ทัพเขาก็ยากจะต่อกรแล้ว นี่ยังจะพกมีดสั้นพระราชทาน ที่ฮ่องเต้ทรงประกาศให้เป็นตัวแทนของพระองค์อีกเล่า

            “ท่านพ่อ ไยไม่ทำอันใดเลยเล่าเจ้าคะ”

            “หุบปาก! เพราะเจ้าแท้ ๆ ที่ทำให้เราทุกคนต้องตกที่นั่งลำบาก ไม่รู้แล้วยังอวดฉลาดอีก!”

            ท่านเจ้าเมืองด่าทอบุตรสาวอย่างเหลืออด เพราะเขาคิดว่ามีนายใหญ่คอยส่งเสริม จึงไม่คิดเผื่อถึงอำนาจที่เหนือกว่า สุดท้ายแล้วเขาก็พบเข้ากับคนผู้นั้นจนได้

            หยวนไป่หลิงก้าวไปนั่งลงที่เก้าอี้ ซึ่งหนึ่งในผู้ติดตามได้ยกออกมาวางหน้าประตู โดยไม่ลืมโต๊ะน้ำชา เพื่อให้ผู้เป็นนายไม่เหงาในช่วงเวลาที่คนจวนเจ้าเมืองถูกลงทัณฑ์

            ส่วนมู่อิงได้พาผู้เป็นลุงกลับเข้าบ้าน ยกเว้นเกาชุนหลางที่แม่ทัพสาวให้มานั่งอีกด้านของโต๊ะน้ำชา เพื่อมองสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งชายหนุ่มยังเรียกสติตนเองจากความจริง ที่เพิ่งรู้พร้อมกับทุกคนไม่ได้

            “ตำแหน่งของข้ากับทุกคน คืองานและหน้าที่ ส่วนคำว่าพี่น้องนั่นคือครอบครัว”

            แม่ทัพสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเนิบช้า นางไม่ได้อยากให้เกาชุนหลางรู้สึกสาแก่ใจที่มารดาถูกโบย แต่อยากให้เขามองถึงโทษของคนที่คิดอะไรน้อยเกินไป ทั้งยังให้ปากเป็นนายสมองเป็นพยาธิในอาจม

            “หลางเอ๋อร์ เจ้าจะใจร้ายปล่อยให้พวกเขาทุบตีแม่ไม่ได้นะ”

            เจียงฮูหยินพยายามดิ้นรนให้หลุดจากมือของทหาร เพื่อเข้าหาบุตรชายที่นั่งอยู่กับแม่ทัพหญิง ทว่าสายตาของชายหนุ่มกลับเย็นชาเสียอย่างนั้น เมื่อได้ยินคำว่ามารดาจากปากของคนที่เขาเคยรัก

            ชายหนุ่มถอดหน้ากากอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นรอยแผลเป็นบนใบหน้า ซึ่งเป็นเสมือนตราประทับของคำว่ามารดา ที่มอบแก่บุตรชายเยี่ยงเขาเมื่อนานมาแล้ว

            “บุตรชายของฮูหยินเช่นนั้นรึ! เขายังไม่ตายอีกหรือ ท่านแม่ทัพหากข้าเกาชุนหลาง อยากร้องขอความเป็นธรรมให้ตนเองจะยังได้อยู่หรือไม่ขอรับ”

            “ย่อมได้!”

            “บาดแผลบนใบหน้าของข้า หาได้เกิดเพราะความคะนองเยี่ยงบุรุษ ทว่ามันเกิดจากฝีมือของคนที่เรียกตนเองว่ามารดา ที่ยินยอมให้สามีของนางกระทำต่อข้าราวสัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งเท่านั้น วันนี้ข้าเกาชุนหลางจะร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม ต่อหน้าชาวเมือง”

            “ข้าในฐานะตัวแทนฮ่องเต้ รับคำร้องนี้”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่30. จบ.

    สิบวันต่อมา จวนสกุลกั๋ว หลังจากเรื่องวุ่นวายสิ้นสุดลง กว่าที่สองสามีภรรยาจะได้พบหน้ากัน ก็กินเวลาไปนับสิบวันเลยทีเดียว หมับ! กั๋วเชียวหลางคว้าร่างภรรยาเข้าสู่อ้อมแขน แม่ทัพสาวยังคงนิ่งงันด้วยมิคิดว่าเขาจะทำเช่นนี้ “คืนนี้เราจะไม่คุยเรื่องงาน ทั้งของเจ้าและข้า แต่จะเป็นเรื่องของเราเท่านั้น” ชายหนุ่มพูดชิดอยู่กับกลุ่มผมดกดำของภรรยา แม้ว่าใจของเขาจะแป้วไปมาก ด้วยนางยืนนิ่งในอ้อมกอดของเขา แต่ทว่ามิได้โอบรัดเขาตอบเลยแม้แต่น้อย “เรื่องไหน!” คำถามห้วนสั้นของนาง แทบจะทำให้กั๋วเชียวหลางหลั่งน้ำตา เขาอยากให้นางสัมผัสได้ถึงความรู้สึก ที่เขาพยายามถ่ายทอดให้แก่นางในตอนนี้ “เรื่องอนาคตของครอบครัวเราอย่างไรเล่า” “ว่ามาสิ!” แม่ทัพสาวมิใช่ไม่รู้ว่าตอนนี้ สามีของนางกำลังต้องการสื่อถึงอะไร หากนางไร้ความทรงจำในอีกโลก อาจยังไม่รู้ประสากับความรัก แต่เพราะนางเคยมีมันมาก่อนแล้ว จึงรู้ว่าตอนนี้สามี กำลังรู้สึกเยี่ยงไรต่อนาง “อื้อ!” ไม่มีคำพูดใดนอกจากเสียงครางเบา ๆ เมื่อริมฝีปากหนาประกบลงบนเรี

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่29. เป็นหน้าที่

    จ้าวลู่เชียนไม่คิดเอ่ยถามหาความกระจ่างแล้ว สิ่งที่ผู้คนมากมายต้องการรู้ เขาก็ได้เห็นชัดแก่สายตาแล้ว ว่าใครคือนายแห่งวิหกฟ้า หยวนไป่หลิงรีบเดินเข้าไปหามารดา ก่อนจะสวมกอดเอาไว้แน่น นางอยู่กับแม่มากกว่าน้องสาวและพี่ชาย ตอนที่เห็นคมมีดกดลงใบบนผิวอ่อนนุ่มของมารดา นางแทบอยากจะฉีกสตรีผู้นั้นออกเป็นชิ้น ๆ เสียในทันที “เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย แม่ดีใจเหลือเกิน” “จะมาเมืองหลวงไยมิรอข้าก่อน” “เป็นพี่เองที่อยากมาดูหน้าน้องเขย ท่านแม่เลยติดตามมาด้วยเพราะพี่จะทำตัวมุทะลุ” “ข้านึกว่าพี่เฟยจะคอยออกรับแทนข้ากับหลินเอ๋อร์เท่านั้น แล้วไยวันนี้ท่านกลับออกรับแทนท่านแม่เสียได้” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดกับพี่ชาย แน่นอนว่าเฟยไม่อาจต้านทานอาการนี้ของน้อง ๆ ได้ จึงทำเพียงยิ้มแห้ง ๆ แก้เก้อ ก่อนจะมองไปที่ผู้เป็นแม่ “แม่เรียกพี่ชายเจ้ามา เพื่อเข้าเมืองหลวงเอง เจ้ารู้นิสัยของหลินเอ๋อร์ดีมิใช่หรือ ไม่มีเจ้าอยู่ด้วย แม่เกรงนางจะทำให้ตนเองไม่สบายใจไปชั่วชีวิต” เมื่อพูดถึงตรงนี้ สายตาคู่งามก็หันมองไปยั

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่28. สารเลว!

    “สิ่งใดเช่นนั้นรึพ่ะย่ะค่ะ ทรงเห็นความดีของข้าบ้างไหม หรือคิดแค่ว่าตัวข้าอ่อนแอไร้สามารถ ตำแหน่งที่คู่ควรจึงไม่คิดจะมอบให้” “ความดีอย่างนั้นเหรอ เจ้าเห็นข้าเป็นลารึยังไง เจ้าคิดว่าพ่ออย่างข้ามองลูกตัวเองไม่ออกสักคนเลยรึ! เจ้าฆ่าพี่ชายหวังชิงตำแหน่ง หาหนส่งหลานตัวเองไปตายใต้คมดาบศัตรู แม้แต่พี่สาวน้องสาวที่มิอาจครองบัลลังก์ ก็เป็นเจ้าที่ทำให้พวกนางต้องแต่งไปแคว้นอื่น ไยมิเอาความฉลาดของเจ้าช่วยเหลือบ้านเมืองของเราให้รุ่งเรือง” “เพราะข้าอยากนั่งแทนที่ท่านอย่างไรเล่า!” ลั่วเจี๋ยกวาดสายตามองศัตรู ที่ซ้อนแผนเขาได้อย่างแนบเนียน ถึงว่าทำไมบิดายอมทำตามคำของมารดาง่ายดายเช่นนั้น ไม่ว่าจะเรื่องแต่งงานของกั๋วเชียวหลางและหยวนไป่หลิน แม้แต่การส่งลั่วหยางไปชายแดน ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นกับดักที่วางเอาไว้ แค่รอเขาวิ่งมาติดกับ แต่ไม่ว่ายังไงวันนี้ เขาเท่านั้นที่จะกลายเป็นฮ่องเต้คนใหม่ ที่ไร้มลทินจากคำว่ากบฏ “คิดว่าจะมีใครรอดออกจากประตูวังหลวงไปได้อย่างนั้นรึ!” “หากจะรอกองกำลังที่ท่านอาเตรียมการไว้นั้น อย่ารอเลยพ่ะย่ะค่ะ เพ

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่27. เข้าใจแล้วว่า...

    “มุทะลุได้ใจดีองค์ชายเจ็ด” แม่ทัพสาวก้าวเข้ามายืนขวางระหว่างผู้เป็นนาย กับสองแม่ลูกที่หมายช่วงชิงอำนาจ “ข้าอยากรู้นัก ที่ผู้คนยำเกรงเจ้าที่มากด้วยฝีมือ จะเอาชีวิตรอดจากตรงนี้ไปได้ไหม” ลั่วเจี้ยนวาดแขนกันมารดาให้ไปอยู่เบื้องหลังของตนเอง ก่อนจะพุ่งเข้าหาแม่ทัพหญิง เขาชิงชังสตรีที่คิดว่าตนเองเทียบเท่าบุรุษยิ่งนัก หยวนไป่หลินยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะขยับเท้าเข้าหาองค์ชายเจ็ดการต่อสู้ของผู้ที่อยากนั่งบัลลังก์กับผู้พิทักษ์บัลลังก์ เป็นไปอย่างดุเดือด เสียงอาวุธกระทบกันดังขึ้นรอบด้าน แผนการที่วางไว้ พลันต้องเปลี่ยนแปลงไป เพราะความคับแค้นใจของหญิงสาวผู้หนึ่ง ที่ทนนิ่งเงียบเพื่อรอวันนี้ ชูเยี่ยนมองหน้ามารดาด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ นางคิดเสมอว่าตนเองเหนือกว่าใคร ๆ แต่วันนี้นางเห็นชัดเจนแล้ว ว่าชาติกำเนิดไม่ได้การรันตีว่านางคือที่หนึ่ง ที่ผ่านมานางเสมือนเงา ไม่เคยมีตัวตนในสายตาของชายคนรัก เป็นนางเองที่พยายามจะไขว่คว้า ทว่าอีกฝ่ายกลับหวังเพียงผลประโยชน์เท่านั้น “ท่านแม่ ข้าเข้าใจแล้วว่ามารดาที่อุ้มท้องลูก โดยบุรุษไม่ยอมรั

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่26. ณ วังหลวง

    “พี่ชายของข้า รู้จักเพียงการปกป้องครอบครัว”แม่ทัพสาวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มอันอ่อนโยน ชีวิตของคนอื่นอาจราบรื่นเพราะร่ำรวย แต่ชีวิตของลูกหญิงหม้ายนั้นล้วนต้องต่อสู้ การที่พี่ชายบุญธรรมไม่ค่อยแสดงตัว มิใช่เขาถูกลืม แต่เพราะเขาเลือกทำหน้าที่เป็นปีกที่กางปกป้องครอบครัวอยู่เบื้องหลัง เขาคือเงาที่ไม่เคยหายไปไหน แค่ไม่ชื่นชอบเปิดเผยตัวก็เท่านั้น“ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไม การค้าของมวลเมฆาถึงมั่นคงนัก”“การให้ใจคนใช่ว่าเราจะได้ใจตอบแทนเสมอ ทุกอย่างล้วนเสี่ยงทั้งสิ้น”“วันนี้เจ้าเหนื่อยมากแล้ว เราเข้านอนกันเถอะ”กั๋วเชียวหลางจูงมือภรรยาเข้าเรือน เขาไม่สนว่าตอนนี้จะมีสายตาของศัตรูคนไหนซุ่มมองอยู่ เพราะอีกไม่กี่วันทุกอย่างก็จะต้องจบสิ้น มิว่าจะเป็นฝ่ายไหนกำชัย ขอแค่เวลาที่ยังเหลืออยู่ในตอนนี้ เขาได้ใช้มันให้คุ้มค่าก็ดีมากแล้วสิบห้าวันต่อมา วังหลวง เสียงดนตรีดังก้องไปทั้งลานหน้าท้องพระโรง เพื่อเฉลิมฉลองสำหรับงานอภิเษกสมรสขององค์ชายเจ็ด แขกจากต่างเมืองที่มาถึงก่อนหน้า ได้เข้าร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง พระนางกุ้ยเฟยคลี่ยิ้มกว้าง เมื่อเห็นโอรสคนโปรด กำลังจะก้าวสู่อำน

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่25.  คิดจะหลอกลวง

    ชูถงมองหน้าชายหนุ่ม ที่อ้างตัวเป็นบุตรชายคนโตของอดีตภรรยา ความสับสนเกิดขึ้นมาในทันที หากเป็นคู่แฝดอายุของพวกนาง คือลูกของเขาอย่างแน่นอน แต่ชายหนุ่มตรงหน้าย่อมไม่ใช่บุตรชายของเขา ด้วยวัยที่มันเกินจากที่เขาคิดคำนวณ“เจ้าคิดจะหลอกลวงข้าสินะ!”“ข้ามีนามว่าหยวนเฟย ท่านจะถามใครในเมืองหน้าด่านชายแดนตะวันออกก็ได้ ทุกคนรู้หมดว่าข้าคือบุตรชายคนโตของนายหญิงใหญ่หยวนไป่หลี”“หากเจ้าเป็นบุตรชายของนางจริง ไยจึงได้ยินยอมให้น้องสาวออกเรือนก่อนได้เล่า”“การออกเรือนก่อนหลังมันจะเป็นอะไรไป ในเมื่อข้าพอใจที่จะอยู่แบบนี้ ไยข้าต้องรั้งชีวิตน้อง ๆ ไว้กับตัวเอง เพียงเพราะข้ายังไม่ออกเรือน แล้วอีกอย่างท่านรู้ได้อย่างไร ว่าข้ายังไม่ออกเรือน เป็นเห็บเกาะตัวข้าอยู่รึ! รู้จักกันหรือก็มิเคย ยังมาสู่รู้เรื่องครอบครัวคนอื่นอยู่อีก”กั๋วเชียวหลางที่เดินมาตามภรรยา ได้แต่กลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ เมื่อได้ยินฝีปากของหยวนเฟย เขาต้องทำตัวให้คุ้นชินกับคำเลาะร้ายของคนสกุลนี้ให้มากกว่าเดิม“ท่านเสนาบดี มาทำอะไรที่นี่หรือขอรับ ข้าไม่เห็นมีบ่าวมารายงานเลยว่าท่านมาเยือนกลางดึก”“ข้ามาทักทายคนรู้จัก”“ใครกันที่ท่านรู้จัก”กั๋วเชียว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status