Share

บทที่ 3 ค่าตัดใจ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-10 13:54:46

เมิ่งอ้ายเยว่หลับตาลงเพื่อระงับโทสะ พวกเขาจะด่านางกี่ครั้งนางไม่โกธร แต่ถึงขนาดไม่ให้กินอิ่มสักมื้อมันก็ออกจะเกินไปเสียหน่อย

นางทิ้งกายนั่งลงบนเก้าอี้ พลางครุ่นคิดอย่างหนัก เหตุใดทุกอย่างในยามนี้ไม่ดำเนินไปตามนิยายเล่า ทั้งที่นางก็ทะลุมิติมาตั้งแต่ตอนที่เมิ่งอ้ายเยว่ยังไม่ตายแท้ๆ แต่เรื่องราวกลับดูพิลึกชอบกล ในนิยายทุกคนในจวนแม้จะไม่ชอบนางแต่กลับไม่ได้โหดร้ายกับนางถึงขนาดนี้ ยิ่งคิดนางก็ยิ่งว้าวุ่นใจ ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตไปในทิศทางไหน เพราะทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไม่เดินไปตามเส้นเรื่องที่มันควรจะเป็น

เดิมทีคิดว่าจะรอให้ร่างนี้ตายเร็วๆ จะได้กลับไปที่โลกปัจจุบันแต่เหมือนทุกอย่างจะสับสนอลหม่านไปหมด

“อาหมี่ มานี่”

เมิ่งอ้ายเยว่กวักมือเรียกอาหมี่ที่ยืนอยู่หน้าประตูให้เข้ามาหานาง อาหมี่เดินเข้ามาหาเจ้านายตนอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“มีอันใดหรือเจ้าคะคุณหนู”

“เหตุใดจึงมีแต่ผัก เนื้อเล่า?”

เมิ่งอ้ายเยว่เอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์ อาหมี่เม้มริมฝีปากแน่นแล้วจึงตัดสินใจเอ่ยตอบเจ้านายไปตามตรง

“คุณหนูลืมแล้วหรือเจ้าคะ ท่านมีดวงชะตาพิเศษ ในทุกๆ หนึ่งเดือนจะสามารถกินเนื้อได้หนึ่งครั้งเท่านั้น ที่เหลือต้องกินเจเพื่อชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ นี่คือคำสั่งของเถียนฮูหยินและไต้ซือเจ้าค่ะ”

เหลวไหลสิ้นดี หนึ่งเดือนกินเนื้อได้หนึ่งครั้ง เช่นนี้ก็ขาดสารอาหารตายกันพอดี นางไม่แปลกใจเลยที่ร่างของเมิ่งอ้ายเยว่จะผอมบางเช่นนี้ เป็นเพราะนางไม่ได้กินอิ่มเท่าใดนี่เอง

ช่างแปลกพิกลนัก เหตุใดพวกเขาต้องทำถึงเพียงนี้ด้วยนะ ดวงชะตาของร่างเดิมพิเศษปานนั้นเชียว ในนิยายนางไม่เห็นจะมีบรรยายถึงเรื่องนี้เลย?

แต่ช่างเถอะ เพิ่งมาใหม่อย่าทำตัวเรื่องมากหรือสงสัยอะไรให้มากความเลย ควรทำตัวเงียบๆ ไปก่อนแล้วค่อยคิดหาหนทางทีหลัง ที่แน่ๆ นางไม่ยอมงดเนื้อสัตว์ตามคำสั่งของไต้ซือบัดซบนี่ไปตลอดหรอก คอยดูเถอะ!

เมิ่งอ้ายเยว่จำต้องฝืนใจกินอาหารสัปปะรังเคตรงหน้าเพื่อประทังชีวิต เมื่อกินอิ่มแล้วจึงทิ้งกายลงบนเตียงเพื่อนอนหลับพักผ่อน ต่อให้จะต้องพบเจอเรื่องยุ่งยากมากเพียงใด คนเราย่อมต้องนอนหลับเอาแรง เมื่อคุณภาพการนอนดี แน่นอนว่าสมองก็จะดีตามไปด้วย

ว่าแล้วนางก็เข้าสู่ห้วงนิทรารมย์อย่างรวดเร็ว เมิ่งอ้ายเยว่นอนหลับยาวไปจนถึงยามเย็น เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครา ก็พบว่าท้องฟ้ามืดเสียแล้ว หญิงสาวบิดกายไปมาบนเตียง อยู่ๆ ท้องน้อยๆ ของนางก็ร้องประท้วงขึ้นมา มันคงจะหิวอีกแล้ว นางต้องไปหาอะไรกิน ว่าแล้วก็เรียกอาหมี่ให้ยกสำรับยามเย็นเข้ามาในห้อง

แต่เมื่อได้เห็นอาหารเย็นที่มีแต่ผัก นางก็ถึงกับหมดความอยากอาหารไปทันที

"อาหมี่ ห้องครัวอยู่ที่ใดหรือ?"

อาหมี่ที่กำลังกินกับข้าวเหลือจากเจ้านาย พลันเงยหน้ามาเอ่ยตอบ

"อยู่ด้านหลังจวนเจ้าค่ะ โรงครัวจะอยู่ห่างจากเรือนหลักและเรือนข้างไปไกลหน่อย เพราะเถียนฮูหยินไม่ชอบให้กลิ่นอาหารลอยมาติดเสื้อผ้าเจ้าค่ะ"

เมิ่งอ้ายเยว่พยักหน้าหนหนึ่ง สตรียุคโบราณนี่เรื่องมากจริงๆ ทุกอย่างจะต้องพิถีพิถัน ช่างต่างจากนางที่ไม่ค่อยสนใจอะไรสักเท่าไหร่

เมิ่งอ้ายเยว่ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกไปจากเรือนทันที อีกทั้งยังไม่ให้อาหมี่ตามไปด้วย อาหมี่เองก็ไม่กล้าขัดรีบก้มหน้ากินข้าวต่อ ตั้งแต่นางมารับใช้คุณหนูใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณหนูแบ่งอาหารให้นางกินและไม่ดุด่าทุบตีนาง นางคิดไปไกลถึงขนาดที่ว่า หากเจ้านายของนางใจดีเช่นนี้ไปเรื่อยๆ นางก็ยินดีเหลือแสน

ด้านเมิ่งอ้ายเยว่นั้นนางเดินมาจนถึงโรงครัวที่ตั้งอยู่หลังจวน แต่กลับพบว่ายามนี้โรงครัวถูกปิดล็อคด้วยกุญแจไปเสียแล้ว นางกระทืบเท้าเร่าๆ คนบ้านนี้จะแล้งน้ำใจเกินไปแล้ว ให้ตายเถอะ!

ครั้นจะเอาสมบัติที่พอมีติดตัวไปขายแลกเงินมาซื้อของกินก็รู้สึกเสียดายยิ่ง ส่วนเครื่องประดับสวยๆ งามๆ ที่เถียนฮูหยินเจียดมาให้ด้วยความเวทนานางก็ตัดใจขายไม่ลง เมื่อคิดถึงเครื่องประดับที่อยู่ในหีบนางก็ถึงกับส่ายหน้าไปมาอย่าทอดถอนใจ เสื้อผ้าเครื่องประดับที่เหมือนแม่ชีจำศีลพวกนั้นดูแล้วไม่เข้ากับนางเลย ครั้นอยากจะใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสก็ไม่มีสักชุด ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห!

เมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับกุมขมับ นี่มันเกิดอันใดขึ้นกับนิยายเรื่องนี้กันนะ ทุกอย่างดูไม่เหมือนกับที่นางเคยอ่านมาเลย ซ้ำร้ายฐานะคุณหนูใหญ่แต่เปลือกนี้ก็เหมือนจะมีเรื่องราวซับซ้อนอยู่ไม่น้อย!

เมิ่งอ้ายเยว่เดินคอตกกลับเรือนตนอย่างอดสู ทว่าระหว่างทางนางไม่ทันระวังจึงเดินไปชนเข้ากับใครบางคน เมื่อหญิงสาวเงยหน้าไปมองก็ชะงักไปทันทีเมื่อพบว่าตนได้เดินชนบุรุษผู้หนึ่งเข้า ชายหนุ่มตรงหน้าร่างกายสูงใหญ่กำยำหน้าตาหล่อเหลา เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูหรูหราเป็นอย่างยิ่ง แม้กระทั่งเข็มขัดบนเอวของเขายังเป็นเข็มขัดทอง ดูแล้วคงเป็นขุนนางที่เรืองอำนาจไม่น้อยเลย

ชายหนุ่มตรงหน้าขยับกายหนีเมิ่งอ้ายเยว่อย่างรังเกียจ อีกทั้งยังปรายตามองนางอย่างดูแคลน

"เมิ่งอ้ายเยว่ ข้าจำได้ว่าข้าเคยบอกเจ้าไปหลายครั้งแล้ว ว่าชาตินี้นอกจากเมิ่งลี่หรู ข้าไม่มีวันชายตามองเจ้า เจ้ามันก็แค่บุตรสาวบุญธรรม เทียบไม่ได้กับเมิ่งลี่หรู อีกทั้งยังจิตใจคับแคบริษยา อยากได้อยากมีในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน และยังคิดเพ้อฝันอยากจะอยู่ข้างกายข้า ช่างหน้าด้านหน้าทนยิ่งนัก ข้าไป๋จิ่งหยวน ไม่มีทางชายตามองเจ้า จำใส่หัวเอาไว้!"

เมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับกระพริบตาปริบๆ เมื่อถูกด่าเป็นชุด ไม่นานสมองของนางก็สามารถประมวลผลการทำงานได้

อ้อ ที่แท้บุรุษตรงหน้าของนางก็คือไป๋จิ่งหยวนพระเอกผู้ผดุงคุณธรรมที่เป็นคนสังหารฮ่องเต้ทรราชเพื่อราษฎรนี่เอง ในนิยายกล่าวเอาไว้ว่าบิดาของไป๋จิ่งหยวนเดิมทีเป็นรองแม่ทัพผู้มากความสามารถ ชนะศึกใหญ่ในสงครามมานับไม่ถ้วนและยังมีส่วนช่วยให้อดีตฮ่องเต้ผู้ล่วงลับได้ขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่น จึงได้รับบรรดาศักดิ์เป็นท่านโหว หลังจากบิดาของเขาตายในสนามรบ บุรุษผู้นี้ก็รับตำแหน่งโหวต่อจากบิดาและก้าวเข้าสู่กองทัพเพื่อสานต่อเจตนารมย์ของบิดาตน ต่อมาได้สร้างความดีความชอบสามารถกวาดล้างกบฏทางชายแดนตอนใต้จนหมดสิ้น ตอนนี้เขามีอายุยี่สิบสามปีแล้ว และยังมีอำนาจทางการทหารอยู่ในมือไม่น้อยเลย คนตระกูลไป๋เป็นแม่ทัพมาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งยังไม่ค่อยจะลงรอยกับตระกูลหลี่ ซึ่งเป็นตระกูลแม่ทัพเช่นเดียวกัน แต่ที่คนตระกูลหลี่ได้ครองตำแหน่งแม่ทัพใหญ่เป็นเพราะฮ่องเต้ทรราชยกยอคนของตนโดยไม่สนใจคำทัดทานของขุนนาง อีกทั้งยังมอบตำแหน่งกั๋วกงให้ตระกูลหลี่อีกด้วย

ตระกูลหลี่เป็นตระกูลของไทเฮา ซึ่งสนับสนุนฮ่องเต้ทรราชผู้นั้น แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับตระกูลไป๋อย่างราบคาบ

ตอนอ่านนิยายนางจินตนาการว่าเขาจะต้องหน้าตาหล่อเหลาเป็นบุรุษหน้าหยกในตำนาน แต่ทว่าเมื่อมาเห็นด้วยตาเนื้อกลับพบว่าก็ไม่เท่าไหร่

เมิ่งอ้ายเยว่ที่รู้ตัวตนของชายหนุ่มตรงหน้าแล้วก็ไม่คิดจะรั้งอยู่ต่อเพื่อหาเรื่องสนทนากับเขา นางไม่ใช่เมิ่งอ้ายเยว่คนเก่า ไม่มีความจำเป็นต้องเสวนาพาทีกับบุรุษที่ไม่ชอบหน้านาง

“ขออภัยที่ล่วงเกิน เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน"

"เหอะ ทำผิดแล้วคิดหนี ช่างเป็นสันดานที่ตามติดตัวเจ้ามาตั้งแต่เกิดโดยแท้"

เมิ่งอ้ายเยว่ที่กำลังจะเดินจากไป พลันชะงักฝีเท้าในทันที แล้วจึงหันกลับไปมองไป๋จิ่งหยวนทันที อันใดอัน เป็นบุรุษอกสามศอกแต่กลับด่าทอสตรีเช่นนี้

เอ๋? นางจำได้ว่าในนิยายถึงเขาจะปากจัดแต่ก็ไม่รุนแรงปานนี้นี่นา แล้วเหตุใดยามนี้ถึงปากร้ายได้ขนาดนี้กันเล่า

เหอะ คิดว่าด่าเป็นคนเดียวหรือ?

เมิ่งอ้ายเยว่ยิ้มเยาะแล้วจึงเปิดสกิลด่าคนทันที

"นี่ไป๋จิ่งหยวน ท่านอย่าทะนงตนเองให้มันมากนักจะได้หรือไม่ ท่านคิดว่าท่านหน้าตาหล่อเหลาชวนมองมากนักหรือ ให้ตายเถอะ ข้าจะบอกให้นะ ตาของท่านยามนี้ดำคล้ำเหมือนพวกไม่หลับไม่นอน จมูกท่านก็โด่งเหมือนพวกผีปีศาจ ปากท่านก็ห้อย องค์รวมบนใบหน้าของท่านช่างอุบาทว์สิ้นดี นิสัยก็แย่ ปากก็เหมือนเลี้ยงสุนัขเอาไว้ตลอดเวลา ข้าช่างตาบอดจริงๆ ที่เคยหลงรักท่าน แต่ตอนนี้ข้าตาสว่างแล้วล่ะ นับแต่นี้ข้าจะไม่ตามตอแยท่านอีก เหอะ หน้าเหมือนปลาคราฟขี้ไม่ออกแท้ๆ แต่กลับทะนงตนว่าหล่อปานเทพบุตร ช่างทุเรศสิ้นดี โยว่!"

อ่า ความรู้สึกเหมือนได้ร้องเพลงแรพด่าคนนี่มันช่างมีความสุขจริงๆ

ช่างปลอดโปร่งโล่งสบายที่สุดเลย!

ไป๋จิ่งหยวนถูกด่าจนทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ เขาไม่เคยถูกสตรีคนใดด่าทออย่างสาดเสียเทเสียเช่นนี้มาก่อนเลย

“เจ้าช่างบังอาจนัก!"

"อะไรกัน ท่านด่าคนอื่นได้แต่คนอื่นด่าท่านไม่ได้หรือ ใหญ่โตมาจากที่ใดกัน?"

ไป๋จิ่งหยวนถูกเมิ่งอ้ายเยว่ยั่วโทสะจนโมโห เมิ่งอ้ายเยว่เองก็ไม่ชอบหน้าเขาเช่นเดียวกัน พระเอกบัดซบอันใดกัน คนเขียนตาบอดหรือไร!

"เมิ่งอ้ายเยว่ ที่เจ้าด่าทอข้าเช่นนี้เป็นเพราะว่าเจ้าอยากเรียกร้องความสนใจจากข้าสินะ เจ้าต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยนกับการออกไปจากชีวิตข้า ไหนบอกมาสิ เผื่อว่าข้าจะเวทนาเจ้าบ้าง"

โอโหว พ่อสุดหล่อในใต้หล้า เรียกร้องความสนใจอะไร นี่เขาเรียกเกลียดค่ะ!

เมิ่งอ้ายเยว่หมดคำจะด่าจริงๆ แต่ทว่าอยู่ๆ นางก็คิดแผนการหนึ่งขึ้นมาได้ จึงหันมาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เขา

"ไป๋จิ่งหยวน เมื่อครู่ท่านบอกว่า หากข้าอยากได้สิ่งใดท่านก็จะให้ ขอเพียงข้าตัดใจจากท่านใช่หรือไม่?"

"ถูกต้อง"

"ห้าร้อยตำลึง"

"หา!"

ไป๋จิ่งหยวนถึงกับหน้าดำคล้ำขึ้นมาทันที

"เมิ่งอ้ายเยว่ ข้าเพิ่งรู้ว่านอกจากเจ้าจะหน้าด้านแล้วยังหน้าเงินอีกด้วยด้วย!"

เมิ่งอ้ายเยว่ที่ได้ยินเช่นนั้นกลับไม่โกธร นางจำได้ว่าพระเอกบัดซบนี่มันมีจุดอ่อนคือป่วยเป็นโรคคลั่งรักเมิ่งลี่หรู และกลัวสตรีนางนั้นจะโกธรจนขึ้นสมอง จึงยอมทำทุกอย่างเพื่อเมิ่งลี่หรูอย่างไม่มีข้อแม้ ไม่ยอมให้เมิ่งลี่หรูต้องเจ็บปวดใจแม้แต่น้อย

อยู่ๆ เมิ่งอ้ายเยว่ก็รู้สึกว่าตนเองกำลังถือไพ่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม หญิงสาวรีบขยับเข้ามาแนบชิดกับบุรุษตรงหน้าทันที

"จะเอายังไง ข้าลดให้แล้วนะห้าร้อยตำลึงค่าตัดใจ ท่านจ่ายห้าร้อยตำลึงมาปุ๊บ ข้าตัดใจปั๊บเลย แต่ถ้าท่านมัวชักช้า เกิดน้องลี่หรูของท่านมาเห็นว่าข้ากับท่านกำลังออดอ้อนออเซาะกันอยู่ตรงนี้ นางอาจจะโกธรและไม่ยอมแต่งงานกับท่าน ให้ตายเหอะ ท่านโหวผู้ยิ่งใหญ่ระหว่างหญิงงามในดวงใจกับเงินห้าร้อยตำลึง ท่านว่าสิ่งไหนมีค่ามากว่ากัน?"

ไป๋จิ่งหยวนกัดฟันกรอด ยามนี้เขารู้สึกเหมือนว่าตนเองกำลังถูกโจรปล้นชิงอย่างไรอย่างนั้น

"ข้าไม่มีตั๋วเงินติดตัวมามากมายปานนั้น"

"เช่นนั้นก็เอาเข็มขัดทองบนเอวท่านมาให้ข้าจำนำก่อนดีไหม?"

ไป๋จิ่งหยวนถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก ส่วนเมิ่งอ้ายเยว่ก็ขยับเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเด็ดขาด ล้วงหยิบตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงยัดใส่มือนางทันที

“ได้เงินแล้วก็ไสหัวไป และอย่ามาเข้าใกล้ข้าอีก ข้าไม่อยากให้ลี่หรูเข้าใจข้าผิด ใจของข้ามีเพียงนางผู้เดียวเท่านั้น"

"จ๊ะ พ่อคนคลั่งรัก"

ไป๋จิ่งหยวนถึงกับขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกว่าวันนี้เมิ่งอ้ายเยว่ดูแปลกไป คำพูดคำจาก็ดูพิลึกกว่าแต่ก่อนยิ่งนัก

"จำไว้ เจ้าบอกจะตัดใจก็ห้ามผิดคำพูด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่ปรานีเจ้า!"

"แน่นอน ระหว่างท่านกับเงินห้าร้อยตำลึง ข้าเลือกเงิน ขอบคุณท่านมากที่จ่ายค่าตัดใจให้กับข้า ขอตัวก่อนนะ บายจ๊ะ"

เอ่ยจบนางก็รีบเดินกลับไปที่เรือนของตนเองทันที เมื่อมาถึงเรือน นางก็ล้มตัวลงไปนอนกลิ้งบนเตียงเหมือนปลาเค็มได้น้ำ พลางกู่ร้องออกมาอย่างมีความสุข

ให้ตายเถอะ!อยู่ดีดีก็มีเงินห้าร้อยตำลึงร่วงลงมาใส่หัว เงินก้อนนี้นับได้ว่าช่วยต่อชีวิตให้กับนางโดยแท้ นางจะต้องเก็บเงินส่วนนี้เอาไว้และใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น แล้วค่อยคิดหาลู่ทางต่อไป

โชคดีที่โรคคลั่งรักของไป๋จิ่งหยวนยังไม่เปลี่ยนไป นางจึงหลอกเอาเงินเขามาได้โดยง่าย

จะว่าไปนางก็รู้สึกเสียดายเข็มขัดทองบนเอวเขาอยู่ไม่น้อย ถ้านางเอาไปจำนำจะต้องได้ราคาสูงแน่เลย!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 50 จบบริบูรณ์

    หลังจากพิธีฉลองการอภิเษกสมรสผ่านพ้นไปแล้ว ทุกคนก็กลับไปใช้ชีวิตเฉกเช่นปกติตามเดิม หลังจากที่ซือหม่าอี้เฉินแต่งงานกับอวี๋อ้ายเยว่ได้ไม่นาน ซือหม่าตงและอวี๋ลู่เหลียนก็เข้าพิธีแต่งงานกันทันที หลังจากผ่านงานแต่งงานมาแล้วคนทั้งสองก็เดินทางเข้าวังหลวงมาเพื่อสนทนาพูดคุยกับซือหม่าอี้เฉินและอวี๋อ้ายเยว่อวี๋อ้ายเยว่และอวี๋ลู่เหลียนนั้นนั่งสนทนากันกันอยู่อีกมุมหนึ่งของตำหนัก ส่วนซือหม่าอี้เฉินและซือหม่าตงก็นั่งสนทนากันอยู่ที่โต๊ะทรงอักษรไม่ไกลจากสตรีทั้งสองมากนัก"อาตงข้าจะมอบตำแหน่งชินอ๋องให้กับเจ้า"ซือหม่าตงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับพ่นชาร้อนออกจากปากทันที เขาวางถ้วยชาลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายตนอย่างหมดอาลัยตายอยาก"เสด็จพี่ ข้าไม่อยากเป็นชินอ๋องท่านก็รู้นี่ ข้าไม่อยากทำงานในราชสำนัก ข้าไม่อยากร่วมประชุมยามเช้า ข้าอยากอยู่แต่กับเมียข้า""ค่าจ้างเป็นชินอ๋องเดือนละหนึ่งพันตำลึง ไม่ต้องประชุมยามเช้า อยากไสหัวไปทำอันใดก็ไป เพียงแค่เป็นชินอ๋องหุ่นเชิดให้ข้าก็พอ ไม่เช่นนั้นคนนอกจะหาว่าข้าตระหนี่แม้กระทั่งตำแหน่งชินอ๋องที่ควรจะเป็นของน้องชาย ข้าไม่อยากถูกคนเอาข้าไปนินทาว่าไม่รักพี่รักน้อง"ซือห

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 49 แต่งงาน

    เมื่อสงครามจบสิ้นลง บ้านเมืองก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง คนชั่วถูกปราบปรามจนสิ้นซากไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว เหล่าช่าวบ้านต่างกู่ร้องยินดีกันถ้วนหน้าซือหม่าอี้เฉินทิ้งทหารเอาไว้ที่ชายแดนทางทิศเหนือหลายหมื่นนายเพื่อคอยดูแลความปลอดภัยของชาวบ้าน ส่วนราษฎรแคว้นฉีนั้นต่างยอมสวามิภักดิ์ต่อเขาอย่างไม่มีข้อแม้ อีกทั้งยังบอกว่าซือหม่าอี้เฉินเปรียบเสมือนเทพเซียนมาโปรด ที่ช่วยสังหารฉีอ๋องจนตกตายไปได้ เพราะที่ผ่านมาฉีอ๋องเอาเปรียบราษฎรไม่หยุดหย่อน อีกทั้งยังทำชั่วเอาไว้มาก ที่ผ่านมาก็ปกครองบ้านเมืองด้วยความอำมหิต เมื่อฉีอ๋องตกตายไป พวกเขาก็ถือว่าได้หลุดพ้นจากนรกขุมนี้เสียทีเมิ่งอ้ายเยว่รู้สึกดีใจยิ่งนักที่สงครามครานี้จบลงด้วยการที่แคว้นเยี่ยเป็นฝ่ายกุมชัยชนะ เมฆหมอกดำได้ผ่านพ้นไปจนหมดสิ้นแล้ว ยามนี้ได้เวลาเริ่มต้นใหม่เสียทีเมื่อสะสางเรื่องที่ชายแดนจบสิ้น ซือหม่าอี้เฉินและเมิ่งอ้ายเยว่ก็เดินทางกลับเมืองหลวงในทันที เมื่อกลับมาถึงเขาก็ปูนบำเหน็จให้กับเหล่าขุนนางที่มีความดีความชอบอย่างสมเกียรติ ส่วนขุนนางที่ได้รับผลกระทบก็ได้รับการปลอบประโลมเช่นเดียวกัน ไป๋จิ่งหยวนและหลี่หรงได้รับการปูนบำเหน

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 48 -2 สงครามใหญ่

    กลางดึกเขาสั่งให้คนลอบไปเผาคลังเสบียงในค่ายทหารของฉีอ๋อง ทั้งค่ายพลันวุ่นวายขึ้นมาทันที ซือหม่าอี้เฉินจึงใช้โอกาศนี้ไปแย่งชิงตัวซือหม่าตงกลับมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ง่ายนัก กว่าจะแย่งตัวคนมาได้ ฉีอ๋องก็รู้ตัวเสียแล้ว และได้ส่งทหารจำนวนหนึ่งออกมาจัดการกับซือหม่าอี้เฉิน ซือหม่าอี้เฉินรีบสั่งให้คนพาซือหม่าตงกลับเข้าชายแดนแคว้นเยี่ยโดยเร็วส่วนเขาและหลี่หรงก็รับมือกับทหารของฉีอ๋องเพื่อถ่วงเวลาให้น้องชายกลับเข้าเมืองไปได้อย่างปลอดภัยเมิ่งอ้ายเยว่และอวี๋ลู่เหลียนที่รออยู่ก่อนแล้วเมื่อเห็นว่าซือหม่าตงถูกช่วยกลับมาได้แล้วจึงสั่งให้คนตามท่านหมอมารักษาเขาทันที ด้านซือหม่าตงและหลี่หรงก็อาศัยโอกาสนี้โจมตีฉีอ๋องไม่หยุด ยามนี้ทหารของฉีอ๋องถูกสังหารไปไม่น้อย อีกทั้งคลังเสบียงก็มาถูกไฟเผา ฉีอ๋องจึงโกธรแค้นมาก และประกาศก้องว่าจะออกรบสังหารซือหม่าอี้เฉินและหลี่หรงด้วยตนเอง!ซือหม่าตงถูกพาตัวมารักษาโดยมีอวี๋ลู่เหลียนคอยจับมือเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ซือหม่าตงแม้จะเจ็บหนักแต่ยังพอมีสติอยู่บ้าง เขาหันมามองอวี๋ลู่เหลียนและยิ้มให้นางอย่างอ่อนล้า"ลู่เหลียน""ข้าอยู่นี่แล้ว ฮึก เจ้าอย่าเพิ่งพูดอันใดให้มากความเลย

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 48 -1สงครามใหญ่

    เมื่อมีเรื่องดี ย่อมต้องมีเรื่องร้ายตามมายามนี้ชายแดนทางเหนือกำลังเกิดสงครามประทุขึ้นอย่างหนัก ส่วนชายแดนทางใต้ก็มีคนของอู่อ๋องที่รอดชีวิตจากสงครามหลายปีก่อนกำลังก่อความไม่สงบหมายจะช่วงชิงชายแดนคืน ซือหม่าอี้เฉินที่แต่ไหนแต่ไรมักทำตัวตามสบายมาโดยตลอด กลับมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาเรียกให้ขุนนางฝ่ายบุ๋นเข้าร่วมประชุมอย่างเร่งด่วนมาหลายวันติดแล้ว แม่ทัพใหญ่หลี่และไป๋จิ่งหยวนแทบจะกินนอนอยู่ในวังหลวง หลังจากปรึกษาหารือกันอย่างดุเดือดในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเสียทีซือหม่าอี้เฉินเห็นชอบให้ไป๋จิ่งหยวนนำกำลังทหารหลายแสนนายไปทำสงครามที่ชายแดนทางทิศใต้ และปราบปรามสุนัขรับใช้ที่เหลืออยู่ของอู่อ๋องให้สิ้นซาก ไป๋จิ่งหยวนรับคำและเร่งระดมพลออกค้นหาทันทีว่ามีคนของอู่อ๋องหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่ หากมีก็ให้สังหารทิ้งให้สิ้นซาก จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังชายแดนทางใต้อย่างรวดเร็วส่วนซือหม่าอี้เฉินและหลี่หรงเดินทางไปยังชายแดนทิเหนือเพื่อต่อสู่กับกองทัพของฉีอ๋อง วันที่พวกเขาออกเดินทางมีชาวบ้านมายืนส่งตลอดทางและอวยพรให้พวกเขากลับมาพร้อมชัยชนะส่วนเมิ่งอ้ายเยว่และอวี๋ลู่เหลียนก็ติดตามซือหม่าอี้เฉินไปด

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 47-2 กลับสู่ฐานะเดิม

    "ฝ่าบาท บุญคุณครานี้กระหม่อมจะไม่มีวันลืมเลย"ซือหม่าอี้เฉินเข้ามาประคองราชครูอวี๋ให้ลุกขึ้น ก่อนจะเอ่ย“สำนึกบุญคุณก็ดี ตาแก่อวี๋ หากอยากตอบแทนบุญคุณข้า ก็ยกบุตรสาวเจ้าให้แต่งกับข้า เป็นอย่างไร ได้ข้าเป็นลูกเขย เจ้านี่ทำบุญมาดีจริงๆ”ราชครูอวี๋ลอบเบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย"ฝ่าบาท เช่นนั้นกระหม่อมขอพาตัวบุตรสาวกลับจวนได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมอยากพานางไปทำความคุ้นเคยกับบ้านของนาง และกลับไปดูเรือนของแม่นาง แล้วกระหม่อมจะพานางกลับมาส่งให้ฝ่าบาท""ได้ ไปเถอะ คิดซะว่าชดเชยช่วงเวลาที่ไม่ได้พบเจอหน้ากันมานาน""ขอบพระทัยฝ่าบาท"เมื่อซือหม่าอี้เฉินอนุญาต เมิ่งอ้ายเยว่จึงติดตามราชครูอวี๋กลับจวน ซือหม่าอี้เฉินเพียงยิ้มเล็กน้อย เดิมทีเขาอยากตามนางไปด้วย แต่คิดอีกทีเขาไม่ไปดีกว่า อย่างไรควรจะให้สองพ่อลูกได้ใช้เวลาร่วมกันจะดีกว่าราชครูอวี๋พาเมิ่งอ้ายเยว่มาที่จวนของตนทันที เมื่อเข้าจวนมาแล้วเมิ่งอ้ายเยว่ก็พบว่าการตกแต่งของจวนราชครูอวี๋ช่างงดงามมากนัก แต่เพราะนางอยู่ในวังจนเคยชิน เห็นความงดงามมามากนัก จึงไม่ได้แสดงท่าทีตื่นเต้นจนเกินงาม"เรือนนี้เป็นเรือนของแม่เจ้า พ่อปิดตายเอาไว้ไม่ให้คน

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 47-1 กลับสู่ฐานะเดิม

    ท้ายที่สุดคนตระกูลเมิ่งก็ถูกประหารตกตายไปตามกัน ของมีค่าทั้งหมดถูกยึดเข้าท้องพระคลังหลวง ข้ารับใช้ถูกขายไปที่โรงขายทาส ความชั่วที่พวกเขาเคยกระทำถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชน สร้างความเกลียดชังให้แก่เหล่าชาวบ้านไม่น้อยเลยวันที่พวกเขาถูกประหารเมิ่งอ้ายเยว่ไม่ได้ไปร่วมดูด้วย นางเพียงนอนหลับพักผ่อนอยู่ในตำหนักมังกรสวรรค์ โดยมีซือหม่าอี้เฉินนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆหลังจากจบสิ้นเรื่องของตระกูลเมิ่ง ก็มีเรื่องใหม่อีกเรื่องหนึ่งที่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้คนไปทั่วทั้งเมืองหลวงก่อนเดินทางไปชายแดนองค์รักษ์ลับที่ซือหม่าอี้เฉินส่งไปสืบเรื่องราวภูมิหลังของเมิ่งอ้ายเยว่เมื่อหลายเดือนก่อนก็กลับมารายงานงานผลลัพธ์ที่ได้แท้จริงแล้วเมิ่งอ้ายเยว่คือบุตรสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาเอกของราชครูอวี๋ที่ถูกโจรป่าลักพาตัวไป คนของซือหม่าอี้เฉินสืบลึกลงไปอีกจนหาตัวสาวใช้ของอดีตฮูหยินนามว่าอาหลวนพบ ยามนี้นางเริ่มอายุมากแล้ว และยังแต่งงานกับชาวนาผู้หนึ่งและใช้ชีวิตอยู่ในชนบท นางบอกว่าตนเองและฮูหยินหนีตายไปด้วยกัน และยังเล่าความจริงทั้งหมดว่าย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ภรรยาเอกของราชครูอวี๋ถูกโจรป่าลักพาตัวไป ยามนั้นฮูหยินกำล

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status