Share

บทที่ 3 ค่าตัดใจ

last update Last Updated: 2025-10-10 13:54:46

เมิ่งอ้ายเยว่หลับตาลงเพื่อระงับโทสะ พวกเขาจะด่านางกี่ครั้งนางไม่โกธร แต่ถึงขนาดไม่ให้กินอิ่มสักมื้อมันก็ออกจะเกินไปเสียหน่อย

นางทิ้งกายนั่งลงบนเก้าอี้ พลางครุ่นคิดอย่างหนัก เหตุใดทุกอย่างในยามนี้ไม่ดำเนินไปตามนิยายเล่า ทั้งที่นางก็ทะลุมิติมาตั้งแต่ตอนที่เมิ่งอ้ายเยว่ยังไม่ตายแท้ๆ แต่เรื่องราวกลับดูพิลึกชอบกล ในนิยายทุกคนในจวนแม้จะไม่ชอบนางแต่กลับไม่ได้โหดร้ายกับนางถึงขนาดนี้ ยิ่งคิดนางก็ยิ่งว้าวุ่นใจ ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตไปในทิศทางไหน เพราะทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไม่เดินไปตามเส้นเรื่องที่มันควรจะเป็น

เดิมทีคิดว่าจะรอให้ร่างนี้ตายเร็วๆ จะได้กลับไปที่โลกปัจจุบันแต่เหมือนทุกอย่างจะสับสนอลหม่านไปหมด

“อาหมี่ มานี่”

เมิ่งอ้ายเยว่กวักมือเรียกอาหมี่ที่ยืนอยู่หน้าประตูให้เข้ามาหานาง อาหมี่เดินเข้ามาหาเจ้านายตนอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“มีอันใดหรือเจ้าคะคุณหนู”

“เหตุใดจึงมีแต่ผัก เนื้อเล่า?”

เมิ่งอ้ายเยว่เอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์ อาหมี่เม้มริมฝีปากแน่นแล้วจึงตัดสินใจเอ่ยตอบเจ้านายไปตามตรง

“คุณหนูลืมแล้วหรือเจ้าคะ ท่านมีดวงชะตาพิเศษ ในทุกๆ หนึ่งเดือนจะสามารถกินเนื้อได้หนึ่งครั้งเท่านั้น ที่เหลือต้องกินเจเพื่อชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ นี่คือคำสั่งของเถียนฮูหยินและไต้ซือเจ้าค่ะ”

เหลวไหลสิ้นดี หนึ่งเดือนกินเนื้อได้หนึ่งครั้ง เช่นนี้ก็ขาดสารอาหารตายกันพอดี นางไม่แปลกใจเลยที่ร่างของเมิ่งอ้ายเยว่จะผอมบางเช่นนี้ เป็นเพราะนางไม่ได้กินอิ่มเท่าใดนี่เอง

ช่างแปลกพิกลนัก เหตุใดพวกเขาต้องทำถึงเพียงนี้ด้วยนะ ดวงชะตาของร่างเดิมพิเศษปานนั้นเชียว ในนิยายนางไม่เห็นจะมีบรรยายถึงเรื่องนี้เลย?

แต่ช่างเถอะ เพิ่งมาใหม่อย่าทำตัวเรื่องมากหรือสงสัยอะไรให้มากความเลย ควรทำตัวเงียบๆ ไปก่อนแล้วค่อยคิดหาหนทางทีหลัง ทีแน่ๆ นางไม่ยอมงดเนื้อสัตว์ตามคำสั่งของไต้ซือบัดซบนี่ไปตลอดหรอก คอยดูเถอะ!

เมิ่งอ้ายเยว่จำต้องฝืนใจกินอาหารสัปปะรังเคตรงหน้าเพื่อประทังชีวิต เมื่อกินอิ่มแล้วจึงทิ้งกายลงบนเตียงเพื่อนอนหลับพักผ่อน ต่อให้จะต้องพบเจอเรื่องยุ่งยากมากเพียงใด คนเราย่อมต้องนอนหลับเอาแรง เมื่อคุณภาพการนอนดี แน่นอนว่าสมองก็จะดีตามไปด้วย

ว่าแล้วนางก็เข้าสู่ห้วงนิทรารมย์อย่างรวดเร็ว เมิ่งอ้ายเยว่นอนหลับยาวไปจนถึงยามเย็น เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครา ก็พบว่าท้องฟ้ามืดเสียแล้ว หญิงสาวบิดกายไปมาบนเตียง อยู่ๆ ท้องน้อยๆ ของนางก็ร้องประท้วงขึ้นมา มันคงจะหิวอีกแล้ว นางต้องไปหาอะไรกิน ว่าแล้วก็เรียกอาหมี่ให้ยกสำรับยามเย็นเข้ามาในห้อง

แต่เมื่อได้เห็นอาหารเย็นที่มีแต่ผัก นางก็ถึงกับหมดความอยากอาหารไปทันที

"อาหมี่ ห้องครัวอยู่ที่ใดหรือ"

อาหมี่ที่กำลังกินกับข้าวเหลือจากเจ้านาย พลันเงยหน้ามาเอ่ยตอบ

"อยู่ด้านหลังจวนเจ้าค่ะ โรงครัวจะอยู่ห่างจากเรือนหลักและเรือนข้างไปไกลหน่อย เพราะเถียนฮูหยินไม่ชอบให้กลิ่นอาหารลอยมาติดเสื้อผ้าเจ้าค่ะ"

เมิ่งอ้ายเยว่พยักหน้าหนหนึ่ง สตรียุคโบราณนี่เรื่องมากจริงๆ ทุกอย่างจะต้องพิถีพิถัน ช่างต่างจากนางที่ไม่ค่อยสนใจอะไรสักเท่าไหร่

เมิ่งอ้ายเยว่ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกไปจากเรือนทันที อีกทั้งยังไม่ให้อาหมี่ตามไปด้วย อาหมี่เองก็ไม่กล้าขัดรีบก้มหน้ากินข้าวต่อ ตั้งแต่นางมารับใช้คุณหนูใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณหนูแบ่งอาหารให้กับนางกินและไม่ดุด่าทุบตีนาง นางคิดไปไกลถึงขนาดที่ว่า หากเจ้านายของนางใจดีเช่นนี้ไปเรื่อยๆ นางก็ยินดีเหลือแสน

ด้านเมิ่งอ้ายเยว่นั้นนางเดินมาจนถึงโรงครัวที่ตั้งอยู่หลังจวน แต่กลับพบว่ายามนี้โรงครัวถูกปิดล็อคด้วยกุญแจไปเสียแล้ว นางกระทืบเท้าเร่าๆ คนบ้านนี้จะแล้งน้ำใจเกินไปแล้ว ให้ตายเถอะ!

ครั้นจะเอาสมบัติที่พอมีติดตัวไปขายแลกเงินมาซื้อของกินก็รู้สึกเสียดายยิ่ง ส่วนเครื่องประดับสวยๆ งามๆ ที่เถียนฮูหยินเจียดมาให้ด้วยความเวทนานางก็ตัดใจขายไม่ลง เมื่อคิดถึงเครื่องประดับที่อยู่ในหีบนางก็ถึงกับส่ายหน้าไปมาอย่าทอดถอนใจ เสื้อผ้าเครื่องประดับที่เหมือนแม่ชีจำศีลพวกนั้นดูแล้วไม่เข้ากับนางเลย จะใส่เสื้อผ้าสดใสก็ไม่มีสักชุด ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห!

เมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับกุมขมับ นี่มันเกิดอันใดขึ้นกับนิยายเรื่องนี้กันนะ ทุกอย่างดูไม่เหมือนกับที่นางเคยอ่านมาเลย ซ้ำร้ายฐานะคุณหนูใหญ่แต่เปลือกนี้ก็เหมือนจะมีเรื่องราวซับซ้อนอยู่ไม่น้อย!

เมิ่งอ้ายเยว่เดินคอตกกลับเรือนตนอย่างอดสู ทว่าระหว่างทางนางไม่ทันระวังจึงเดินไปชนเข้ากับใครบางคน เมื่อหญิงสาวเงยหน้าไปมองก็ชะงักไปทันทีเมื่อพบว่าตนได้เดินชนบุรุษหนึ่งเข้า ชายหนุ่มตรงหน้าร่างกายสูงใหญ่กำยำหน้าตาหล่อเหลา เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูหรูหราเป็นอย่างยิ่ง แม้กระทั่งเข็มขัดบนเอวของเขายังเป็นเข็มขัดหยกทอง ดูแล้วคงเป็นขุนนางที่เรืองอำนาจไม่น้อยเลย

ชายหนุ่มตรงหน้าขยับกายหนีเมิ่งอ้ายเยว่อย่างรังเกียจ อีกทั้งยังปรายตามองนางอย่างดูแคลน

"เมิ่งอ้ายเยว่ ข้าจำได้ว่าข้าเคยบอกเจ้าไปหลายครั้งแล้ว ว่าชาตินี้นอกจากเมิ่งลี่หรู ข้าไม่มีวันชายตามองเจ้า เจ้ามันก็แค่บุตรสาวบุญธรรม เทียบไม่ได้กับเมิ่งลี่หรู อีกทั้งยังจิตใจคับแคบริษยา อยากได้อยากมีในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน และยังคิดเพ้อฝันอยากจะอยู่ข้างกายข้า ช่างหน้าด้านหน้าทนยิ่งนัก ข้าไป๋จิ่งหยวน ไม่มีทางชายตามองเจ้า จำใส่หัวเอาไว้!"

เมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับกระพริบตาปริบๆ เมื่อถูกด่าเป็นชุด ไม่นานสมองของนางก็สามารถประมวลผลการทำงานได้

อ้อ ที่แท้บุรุษตรงหน้าของนางก็คือไป๋จิ่งหยวนพระเอกผู้ผดุงคุณธรรมที่เป็นคนสังหารฮ่องเต้ทรราชเพื่อราษฎรนี่เอง ในนิยายกล่าวเอาไว้ว่าบิดาของไป๋จิ่งหยวนเดิมทีเป็นรองแม่ทัพผู้มากความสามารถ ชนะศึกใหญ่ในสงครามมานับไม่ถ้วนและยังมีส่วนช่วยให้อดีตฮ่องเต้ผู้ล่วงลับได้ขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่น จึงได้รับบรรดาศักดิ์เป็นท่านโหว หลังจากบิดาของเขาตายในสนามรบ บุรุษผู้นี้ก็รับตำแหน่งโหวต่อจากบิดาและก้าวเข้าสู่กองทัพเพื่อสานต่อเจตนารมย์ของบิดาตน ต่อมาได้สร้างความดีความชอบสามารถกวาดล้างกบฏทางชายแดนตอนใต้จนหมดสิ้น ตอนนี้เขามีอายุยี่สิบสามปีแล้ว และยังมีอำนาจทางการทหารอยู่ในมือไม่น้อยเลย คนตระกูลไป๋เป็นแม่ทัพมาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งยังไม่ค่อยจะลงรอยกับตระกูลหลี่ ซึ่งเป็นตระกูลแม่ทัพเช่นเดียวกัน แต่ที่คนตระกูลหลี่ได้ครองตำแหน่งแม่ทัพใหญ่เป็นเพราะฮ่องเต้ทรราชยกยอคนของตนโดยไม่สนใจคำทัดทานของขุนนาง อีกทั้งยังมอบตำแหน่งกั๋วกงให้ตระกูลหลี่อีกด้วย

ตระกูลหลี่เป็นตระกูลของไทเฮา ซึ่งสนับสนุนฮ่องเต้ทรราชผู้นั้น แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับตระกูลไป๋อย่างราบคาบ

ตอนอ่านนิยายนางจินตนาการว่าเขาจะต้องหน้าตาหล่อเหลาเป็นบุรุษหน้าหยกในตำนาน แต่ทว่าเมื่อมาเห็นด้วยตาเนื้อกลับพบว่าก็ไม่เท่าไหร่

เมิ่งอ้ายเยว่ที่รู้ตัวตนของชายหนุ่มตรงหน้าแล้วก็ไม่คิดจะรั้งอยู่ต่อเพื่อหาเรื่องสนทนากับเขา นางไม่ใช่เมิ่งอ้ายเยว่คนเก่า ไม่มีความจำเป็นต้องเสวนาพาทีกับบุรุษที่ไม่ชอบหน้านาง

“ขออภัยที่ล่วงเกิน เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน"

"เหอะ ทำผิดแล้วคิดหนี ช่างเป็นสันดานที่ตามติดตัวเจ้ามาตั้งแต่เกิดโดยแท้"

เมิ่งอ้ายเยว่ที่กำลังจะเดินจากไป พลันชะงักฝีเท้าในทันที แล้วจึงหันกลับไปมองไป๋จิ่งหยวนทันที อันใดอัน เป็นบุรุษอกสามศอกแต่กลับด่าทอสตรีเช่นนี้

เอ๋? นางจำได้ว่าในนิยายถึงเขาจะปากจัดแต่ก็ไม่รุนแรงปานนี้นี่นา แล้วเหตุใดยามนี้ถึงปากร้ายได้ขนาดนี้กันเล่า

เหอะ คิดว่าด่าเป็นคนเดียวหรือ?

เมิ่งอ้ายเยว่ยิ้มเยาะแล้วจึงเปิดสกิลด่าคนทันที

"นี่ไป๋จิ่งหยวน ท่านอย่าทะนงตนเองให้มันมากนักจะได้หรือไม่ ท่านคิดว่าท่านหน้าตาหล่อเหลาชวนมองมากนักหรือ ให้ตายเถอะ ข้าจะบอกให้นะ ตาของท่านยามนี้ดำคล้ำเหมือนพวกไม่หลับไม่นอน จมูกท่านก็โด่งเหมือนพวกผีปีศาจ ปากท่านก็ห้อย องค์รวมบนใบหน้าของท่านช่างอุบาทว์สิ้นดี นิสัยก็แย่ ปากก็เหมือนเลี้ยงสุนัขเอาไว้ตลอดเวลา ข้าช่างตาบอดจริงๆ ที่เคยหลงรักท่าน แต่ตอนนี้ข้าตาสว่างแล้วล่ะ นับแต่นี้ข้าจะไม่ตามตอแยท่านอีก เหอะ หน้าเหมือนปลาคราฟขี้ไม่ออกแท้ๆ แต่กลับทะนงตนว่าหล่อปานเทพบุตร ช่างทุเรศสิ้นดี โยว่!"

อ่า ความรู้สึกเหมือนได้ร้องเพลงแรพด่าคนนี่มันช่างมีความสุขจริงๆ

ช่างปลอดโปร่งโล่งสบายที่สุดเลย!

ไป๋จิ่งหยวนถูกด่าจนทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ เขาไม่เคยถูกสตรีคนใดด่าทออย่างสาดเสียเทเสียเช่นนี้มาก่อนเลย

“เจ้าช่างบังอาจนัก!"

"อะไรกัน ท่านด่าคนอื่นได้แต่คนอื่นด่าท่านไม่ได้หรือ ใหญ่โตมาจากที่ใดกัน?"

ไป๋จิ่งหยวนถูกเมิ่งอ้ายเยว่ยั่วโทสะจนโมโห เมิ่งอ้ายเยว่เองก็ไม่ชอบหน้าเขาเช่นเดียวกัน พระเอกบัดซบอันใดกัน คนเขียนตาบอดหรือไร!

"เมิ่งอ้ายเยว่ ที่เจ้าด่าทอข้าเช่นนี้เป็นเพราะว่าเจ้าอยากเรียกร้องความสนใจจากข้าสินะ เจ้าต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยนกับการออกไปจากชีวิตข้า ไหนบอกมาสิ เผื่อว่าข้าจะเวทนาเจ้าบ้าง"

โอโหว พ่อสุดหล่อในใต้หล้า เรียกร้องความสนใจอะไร นี่เขาเรียกเกลียดค่ะ!

เมิ่งอ้ายเยว่หมดคำจะด่าจริงๆ แต่ทว่าอยู่ๆ นางก็คิดแผนการหนึ่งขึ้นมาได้ จึงหันมาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เขา

"ไป๋จิ่งหยวน เมื่อครู่ท่านบอกว่า หากข้าอยากได้สิ่งใดท่านก็จะให้ ขอเพียงข้าตัดใจจากท่านใช่หรือไม่?"

"ถูกต้อง"

"ห้าร้อยตำลึง"

"หา!"

ไป๋จิ่งหยวนถึงกับหน้าดำคล้ำขึ้นมาทันที

"เมิ่งอ้ายเยว่ ข้าเพิ่งรู้ว่านอกจากเจ้าจะหน้าด้านแล้วยังหน้าเงินอีกด้วยด้วย!"

เมิ่งอ้ายเยว่ที่ได้ยินเช่นนั้นกลับไม่โกธร นางจำได้ว่าพระเอกบัดซบนี่มันมีจุดอ่อนคือป่วยเป็นโรคคลั่งรักเมิ่งลี่หรู และกลัวสตรีนางนั้นจะโกธรจนขึ้นสมอง จึงยอมทำทุกอย่างเพื่อเมิ่งลี่หรูอย่างไม่มีข้อแม้ ไม่ยอมให้เมิ่งลี่หรูต้องเจ็บปวดใจแม้แต่น้อย

อยู่ๆ เมิ่งอ้ายเยว่ก็รู้สึกว่าตนเองกำลังถือไพ่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม หญิงสาวรีบขยับเข้ามาแนบชิดกับบุรุษตรงหน้าทันที

"จะเอายังไง ข้าลดให้แล้วนะห้าร้อยตำลึงค่าตัดใจ ท่านจ่ายห้าร้อยตำลึงมาปุ๊บ ข้าตัดใจปั๊บเลย แต่ถ้าท่านมัวชักช้า เกิดน้องลี่หรูของท่านมาเห็นว่าข้ากับท่านกำลังออดอ้อนออเซาะกันอยู่ตรงนี้ นางอาจจะโกธรและไม่ยอมแต่งงานกับท่าน ให้ตายเหอะ ท่านโหวผู้ยิ่งใหญ่ระหว่างหญิงในดวงใจกับเงินห้าร้อยตำลึง ท่านว่าสิ่งไหนมีค่ามากว่ากัน?"

ไป๋จิ่งหยวนกัดฟันกรอด ยามนี้เขารู้สึกเหมือนว่าตนเองกำลังถูกโจรปล้นชิงอย่างไรอย่างนั้น

"ข้าไม่มีตั๋วเงินติดตัวมามากมายปานนั้น"

"เช่นนั้นก็เอาเข็มขัดหยกทองบนเอวท่านมาให้ข้าจำนำก่อนดีไหม?"

ไป๋จิ่นหยวนถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก ส่วนเมิ่งอ้ายเยว่ก็ขยับเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเด็ดขาด ล้วงหยิบตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงยัดใส่มือนางทันที

“ได้เงินแล้วก็ไสหัวไป และอย่ามาเข้าใกล้ข้าอีก ข้าไม่อยากให้ลี่หรูเข้าใจข้าผิด ใจของข้ามีเพียงนางผู้เดียวเท่านั้น"

"จ๊ะ พ่อคนคลั่งรัก"

ไป๋จิ่งหยวนถึงกับขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกว่าวันนี้เมิ่งอ้ายเยว่ดูแปลกไป คำพูดคำจาก็ดูพิลึกกว่าแต่ก่อนยิ่งนัก

"จำไว้ เจ้าบอกจะตัดใจก็ห้ามผิดคำพูด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่ปรานีเจ้า!"

"แน่นอน ระหว่างท่านกับเงินห้าร้อยตำลึง ข้าเลือกเงิน ขอบคุณท่านมากที่จ่ายค่าตัดใจให้กับข้า ขอตัวก่อนนะ บายจ๊ะ"

เอ่ยจบนางก็รีบเดินกลับไปที่เรือนของตนเองทันที เมื่อมาถึงเรือนนางก็ล้มตัวลงไปนอนกลิ้งบนเตียงเหมือนปลาเค็มได้น้ำ พลางกู่ร้องออกมาอย่างมีความสุข

ให้ตายเถอะ!อยู่ดีดีก็มีเงินห้าร้อยตำลึงร่วงลงมาใส่หัว เงินก้อนนี้นับได้ว่าช่วยต่อชีวิตให้กับนางโดยแท้ นางจะต้องเก็บเงินส่วนนี้เอาไว้และใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น แล้วค่อยคิดหาลู่ทางต่อไป

โชคดีที่โรคคลั่งรักของไป๋จิ่งหยวนยังไม่เปลี่ยนไป นางจึงหลอกเอาเงินเขามาได้โดยง่าย

จะว่าไปนางก็รู้สึกเสียดายเข็มขัดทองบนเอวเขาอยู่ไม่น้อย ถ้านางเอาไปจำนำจะต้องได้ราคาสูงแน่เลย!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 5 นัดพบ

    ด้านเมิ่งอ้ายเยว่นั้นหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้ากลับจวนตระกูลเมิ่งในทันที เดิมทีนางไม่อยากจะกลับไปเหยียบสถานที่แห่งนั้นอีก แต่ทว่านางเพิ่งทะลุมิติมาที่นี่เป็นครั้งแรก และยังไม่มีหนทางไป อย่างไรย่อมต้องคิดให้ละเอียดรอบคอบเสียก่อน แล้วค่อยหาหนทางอีกครั้งนางมุดลอดช่องสุนัขเข้ามาอย่างยากลำบาก เมื่อเข้ามาแล้วก็รีบหันมองซ้ายขวาเมื่อพบว่าไม่มีคนมาเห็นจึงโล่งใจไปเปราะหนึ่งอยู่ๆ นางก็คิดถึงเด็กหนุ่มนามว่าอาอี้ขึ้นมา และยังเสียดายเงินหนึ่งพันตำลึงที่เขาเสนอให้ไม่น้อยเลย แต่ทว่าคุณธรรมในจิตใจของนางมันแรงกล้ามากกว่าตัวเงิน นางจึงไม่อยากตกปากรับคำเขาสายเลือดคนดีของนางนี่มันช่างเข้มข้นดีจริงๆหญิงสาวส่ายหน้าไปมาพลางยิ้มเล็กน้อยแล้วรีบกลับเรือนพักทันที ระหว่างทางทางนางแวะซื้อของกินหลายอย่างมาฝากอาหมี่สาวใช้ด้วย อย่างไรเสียคนที่นางพอจะพึ่งพาและไว้ใจได้เห็นทีก็จะมีแต่อาหมี่เสียแล้ว ผูกมิตรกับอาหมี่เอาไว้เสียหน่อย เพียงเท่านี้ก็จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขแล้วเมิ่งอ้ายเยว่กลับมาถึงจวนในตอนบ่ายแก่ๆ เมื่อมาถึงก็พบว่าอาหมี่กำลังรอนางอย่างร้อนใจ เมื่อเห็นว่านางกลับมาแล้วก็รีบวิ่ง

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 4-2 หนุ่มน้อยหน้าหยก

    เมิ่งอ้ายเยว่พลันหันขวับมามอง ก่อนจะต้องตกตะลึงไปทันทีเมื่อครู่นางมัวแต่ตั้งใจเล่นเพราะอยากได้เงินสักก้อนไปเป็นทุน จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นว่ามีหนุ่มน้อยหน้าหยกคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านข้างตนใบหน้าของเขาหล่อเหลาเป็นอย่างมาก ผิวพรรณของเขาขาวจัด ริมฝีปากแดงระเรื่อ ดวงตาก็ทรงเสน่ห์หาใดเปรียบ ทุกอย่างบนใบหน้าของเขาราวกับถูกเสริมสรรค์ปั้นแต่งเป็นอย่างดี“เจ้าคือ?”“ข้ามีนามว่าอาอี้”อาอี้หรือ?เหตุใดตอนนางอ่านนิยายจึงไม่เห็นเจอตัวละครชื่อนี้เลย เอาแล้วสิ ทุกอย่างในตอนนี้มันไม่เหมือนกับในนิยายเลยแม้แต่น้อย เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงพิจารณามองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ"เจ้าอายุเท่าไหร่หรือ หน้าตายังดูอ่อนวัยเหมือนหนุ่มน้อยอยู่เลย"ชายหนุ่มตรงหน้าพลันชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มมุมปาก"ปีนี้ข้าอายุสิบแปดแล้ว"เมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับร้องอุทานในใจ ที่แท้ก็เป็นหนุ่มน้อยเสเพลที่ผลาญเงินพ่อแม่มาเล่นการพนันนี่เอง หญิงสาวมีท่าทีครุ่นคิดเล็กน้อย นางนึกถึงประโยคที่ว่าเด็กๆ คือความหวังของชาติ จะให้อบายมุขมามอมเมาเขาไม่ได้ เงินน่ะนางอยากได้ แต่การได้เงินจากการทำลายอนาคตเด็กหนุ่มคนหนึ่ง นางคงไม่อาจเชิดหน้าได้

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 4-1 หนุ่มน้อยหน้าหยก

    เมิ่งอ้ายเยว่เก็บตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงนั้นซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี นางเก็บเงินไปพลางก็ก่นด่าไป๋จิ่งหยวนไปพลาง นางไม่คิดเลยว่าเขาจะปากเสียมากถึขนาดนี้หญิงสาวจัดการแบ่งเงินเป็นสัดส่วน ส่วนหนึ่งเอาไว้ติดตัวยามต้องการใช้สอย ส่วนหนึ่งเก็บเอาไว้ยามจำเป็น จะให้คนในจวนรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่านางไปขูดรีดเงินมาจากไป๋จิ่งหยวนท่านโหวหน้าโง่ผู้นั้นยามเช้าของวันต่อมา นางก็รีบตื่นแต่เช้าเพื่อจะไปทำความเคารพพ่อแม่บุญธรรมเหมือนเช่นเคย แต่ทว่าวันนี้กลับต่างออกไปจากทุกวัน เถียนฮูหยินให้สาวใช้มาปรนนิบัตินางแต่งกายตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อนางสอบถามก็ได้ความว่าวันนี้จะมีแขกมาที่จวน เถียนฮูหยินจึงให้นางแต่งกายให้ดีเสียหน่อย เมิ่งอ้ายเยว่ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใดอีก เพียงยืนนิ่งๆ ให้เหล่าสาวใช้ช่วยแต่งตัวให้ เมื่อเรียบรอยดีแล้ว นางจึงรีบมาที่เรือนหลัก เมื่อมาถึงเถียนฮูหยินก็ให้นางมานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะอาหารด้วย อาหารบนโต๊ะล้วนเป็นของดีทั้งสิ้น นางถึงกับนึกสงสัยในใจว่าแขกคนนั้นจะต้องเป็นคนสำคัญมากเป็นแน่อ้อ เพราะมีคนมาที่จวนสินะ จึงให้นางแต่งตัวสวยๆ กินอาหารดีดี เถียนฮูหยินคงกลัวจะถูกคนเอาไปนินทาลับหลังว่า

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 3 ค่าตัดใจ

    เมิ่งอ้ายเยว่หลับตาลงเพื่อระงับโทสะ พวกเขาจะด่านางกี่ครั้งนางไม่โกธร แต่ถึงขนาดไม่ให้กินอิ่มสักมื้อมันก็ออกจะเกินไปเสียหน่อยนางทิ้งกายนั่งลงบนเก้าอี้ พลางครุ่นคิดอย่างหนัก เหตุใดทุกอย่างในยามนี้ไม่ดำเนินไปตามนิยายเล่า ทั้งที่นางก็ทะลุมิติมาตั้งแต่ตอนที่เมิ่งอ้ายเยว่ยังไม่ตายแท้ๆ แต่เรื่องราวกลับดูพิลึกชอบกล ในนิยายทุกคนในจวนแม้จะไม่ชอบนางแต่กลับไม่ได้โหดร้ายกับนางถึงขนาดนี้ ยิ่งคิดนางก็ยิ่งว้าวุ่นใจ ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตไปในทิศทางไหน เพราะทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไม่เดินไปตามเส้นเรื่องที่มันควรจะเป็นเดิมทีคิดว่าจะรอให้ร่างนี้ตายเร็วๆ จะได้กลับไปที่โลกปัจจุบันแต่เหมือนทุกอย่างจะสับสนอลหม่านไปหมด“อาหมี่ มานี่”เมิ่งอ้ายเยว่กวักมือเรียกอาหมี่ที่ยืนอยู่หน้าประตูให้เข้ามาหานาง อาหมี่เดินเข้ามาหาเจ้านายตนอย่างกล้าๆ กลัวๆ“มีอันใดหรือเจ้าคะคุณหนู”“เหตุใดจึงมีแต่ผัก เนื้อเล่า?”เมิ่งอ้ายเยว่เอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์ อาหมี่เม้มริมฝีปากแน่นแล้วจึงตัดสินใจเอ่ยตอบเจ้านายไปตามตรง“คุณหนูลืมแล้วหรือเจ้าคะ ท่านมีดวงชะตาพิเศษ ในทุกๆ หนึ่งเดือนจะสามารถกินเนื้อได้หนึ่งครั้งเท่านั้น ที่เหลือต้องกินเ

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 2 ชะตาอาภัพของนางร้าย

    เมิ่งอ้ายเยว่อยากจะดึงทึ้งหัวตนเพื่อระบายอารมณ์ แต่เพราะรู้ว่าทำไปก็ไร้ประโยชน์นางจึงเลือกจะสงบสติอารมณ์ตนเอง ในเมื่อทะลุมิติมาแล้ว สิ่งที่จะสามารถทำได้ก็คือต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ดี นี่ไม่ใช่เวลามาคร่ำครวญร้องไห้ แต่ต้องเตรียมการตั้งรับให้ดีต่างหากนางพยายามคิดถึงนิยายที่ตนเองเพิ่งอ่านจบ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะนิยายนั้นเป็นเรื่องสั้นสิบบทจบ จึงไม่ได้ปูเรื่องราวพื้นฐานของเมิ่งอ้ายเยว่คนเก่าเอาไว้มากนัก คนเขียนบอกเพียงว่านางถูกรับมาเลี้ยง ส่วนเรื่องที่ว่าเถียนฮูหยินไปเจอนางได้เช่นไรนั้นกลับไม่ได้ลงรายละเอียดชัดเจนเช่นที่อาหมี่เล่าให้นางฟังแต่ช่างเถอะ ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่าเมื่อคิดได้เช่นนั้นเมิ่งอ้ายเยว่จึงหันไปมองอาหมี่แล้วจึงพบว่าตอนนี้สาวใช้น้อยของนางกำลังนั่งก้มหน้าตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว อยู่ๆ ในใจของเมิ่งอ้ายเยว่ก็บังเกิดความสงสารสายหนึ่งขึ้นมา เมิ่งอ้ายเยว่คนเก่ามีนิสัยทะเยอะทะยานและชอบทำร้ายบ่าวไพร่อย่างทารุณ เมื่อถูกคนเรือนหลักรังแกมา นางก็จะเอาโทสะทั้งหมดมาลงกับบ่าวไพร่ ไม่เพียงเท่นั้น ทุกคราที่ออกไปร่วมงานเลี้ยงหรือไปสถานที่ต่างๆ พร้อมกับคนในจวน นางก็จะพยายามทำต

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 1 ทะลุมิติมาเป็นนางร้าย

    "ให้ตายเถอะ นางร้ายเรื่องนี้จะมีชะตาชีวิตที่น่าอดสูเกินไปแล้ว ถูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะเพื่อเป็นลูกชังยังไม่พอ ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยการดูสีหน้าของคนในจวนอยู่ตลอดเวลา ที่แย่ไปกว่านั้นนางยังมีจิตใจทะเยอะทะยานอยากจะเทียบเคียงกับบุตรสาวแท้ๆ ของตระกูลเมิ่งอีกด้วย ช่างไม่เจียมตัวเลยจริงๆฉันอ่านจนจบเล่มแล้ว รู้สึกสงสารตัวละครนี้ได้ไม่สุดจริงๆ มันทั้งสงสารและหมั่นไส้ในคราวเดียวกัน ช่างเป็นนางร้ายที่ไม่ได้เรื่องได้ราวเลยสักอย่าง สุดท้ายแล้วนางก็ตายเพราะความทะเยอะทะยานของตนเอง ส่วนพระเอกที่เป็นท่านโหวก็ปากจัดด่านางร้ายสาดเสียเทเสีย นางเอกที่ชื่อเมิ่งลี่หรูผู้นั้นก็ทำตัวเหมือนแม่ดอกบัวขาวอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายแล้วพระเอกก็เลือกแต่งงานกับนางเอกได้ครองคู่กันไปชั่วชีวิต ตัวร้ายต่างพ่ายแพ้หมด ช่างเป็นนิยายเรื่องสั้นเพ้อฝันที่บอกเล่าเรื่องราวความรักลึกซึ้งของท่านโหวผู้เก่งกาจกับแม่ดอกบัวขาวคนงามโดยเฉพาะ ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็กลายเป็นตัวประกอบเสริมบทให้พระนางรักกันหวานซึ้ง ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแม้แต่น้อยเห้อ หากฉันทะลุมิติไปอยู่ในร่างนางร้ายได้นะ ฉันจะทำให้หล่อนเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ ไม่ต้องมาปักใจรัก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status