LOGINจ้าวหย่งเฉิงเอ่ยลาบิดาของสาวน้อยก่อนจะเรียกให้นางตามไป ไป๋เจินเจินเดินตามเขามาด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ เมื่อขึ้นบนรถม้าก็นั่งห่างจากเขาราวกับรังเกียจเขานักหนา จ้าวหย่งเฉิงยกยิ้มมุมปาก เด็กคนนี้ต้องสั่งสอนจริงๆ
รถม้าออกจากตรอกมาได้ครึ่งทางจ้าวหย่งเฉิงนั่งเคาะนิ้วเล่นเบาที่เก้าอี้ก่อนจะลงลมปราณทำให้รถมาสั่นโคลงไปมาทำให้ไป๋เจินเจินถลามาหาเขากอดเขาเอาไว้ทันทีจ้าวหย่งเฉิงโอบแผ่นหลังนางไว้กระซิบข้างหูเบาๆ
"ไหนว่าบุรุษน่ารังเกียจ กอดข้าแน่นเพียงนี้หรือว่าข้าเป็นข้อยกเว้น หื้ม"
"อาจารย์จ้าว ปะ ปล่อยศิษย์เถอะเจ้าค่ะ"
มือที่โอบนางเอาไว้ปล่อยเอวบางข้างหนึ่ง ก่อนจะก้มลงช้อนข้อพับแล้วเอาร่างบางมานั่งบนตักตนเอง เขาแผ่ลมปราณให้รถม้าส่ายไปมาจนคนตัวเล็กต้องโอบรอบคอเขาไว้เพราะกลัวตก จ้าวหย่งเฉิงสูดกลิ่นหอมของเส้นผมที่สะอาดบวกกับดอกไม้ที่นางแซมผมเอาไว้ ไป่๋เจินเจินนั่งบนตักเขาจนถึงสำนักศึกษา เขาไม่ให้นางลงได้แต่สั่งคนขับรถม้า
"เสี่ยวจง...ไปหาอาจารย์หยุนบอกเอาชุดนักเรียนสตรีมาสามชุด"
เสี่ยวจงรับคำแล้วเข้าไปในสำนัก ไป่เจินเจินพยายามดิ้นลงจากตักเขาแต่จ้าวหย่งเฉิงกระซิบข้างหูนาง
"นั่งดีๆสิ เจ้ายุกยิกๆรถม้าส่ายไปมาคนนอกเห็นอาจคิดว่าข้างในกำลัง....."
"จ้าวหย่งเฉิงท่านมันลามก เป็นอาจารย์ได้อย่างไรกัน"
"ข้าหมายถึงคนนอกไม่รู้อาจคิดว่าข้างในเกิดเรื่องไม่ดีและอาจพรวดพราดเปิดเข้ามาเจอเรา ไป๋เจินเจินเจ้ากำลังคิดอะไรกันเป็นเด็กเป็นเล็กใครลามกกันแน่"
นางกำลังจะเถียงก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก
"นายท่านชุดได้แล้วขอรับ"
"อืมวางไว้แล้วไปตลาดต่อ"
เสี่ยวจงเปิดม่านเพียงเล็กน้อยนำชุดมาวางไว้ก่อนรถม้าจะเคลื่อนไปยังใจกลางของเมือง ไม่นานก็มาถึงตลาดไป๋เจินเจินนั่งนิ่งจนเขาต้องทัก
"ไม่ลงหรือ....เจ้าตัวเบาเพียงนี้ข้ายินดีเป็นเบาะให้จะนั่งนานเพียงไรก็ได้"
"ไอ้โรคจิต"
นางบ่นอุบอิบๆก่อนจะปีนลงจากตักเขาแล้วรีบลงรถม้า อยากไปให้พ้นแต่กลับไม่คิดว่าเขาจะตามลงมา จ้าวหย่งเฉิงเดินจุงมือนางเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ไป๋เจินเจินพยายามออกจากการเกาะกุมของเขาแต่สุดท้ายได้แต่เดินตาม จนกระทั่งมีเสียงทักทาย
"ท่านราชครูวันนี้ว่างมาเดินตลาดหรือขอรับ เอ่อแล้วนั่น"
"อ้อ..ใต้เท้าหม่าพอดีข้าพาลูกศิษย์ส่วนตัวมาหาซื้อเครื่องเขียนน่ะ บิดานางฝากฝังเอาไว้"
"อ้อเป็นเช่นนี้ ถ้าเช่นนั้นข้าน้อยไม่รบกวนแล้วขอรับเชิญท่านราชครูตามสบาย"
จ้าวหย่งเฉิงพานางกลับมายังรถม้าก่อนจะให้นางขึ้นไปก่อน เขาต้องการส่งนางกลับบ้านเองเพราะว่านี่ปลายยามโหย่วแล้วข้าวของเต็มรถม้าจนไม่มีที่นั่ง คนตัวสูงตบลงที่ตักตนเอง ไป๋เจินเจินหันหน้าหนีเขาหัวเราะในลำคอก่อนที่มือหนาจะยื่นมารั้งเอวบางด้วยมือข้างเดียวไปนั่งบนตักเขาจนได้
"อาจารย์ท่านจำเป็นต้องซื้อมากเพียงนี้เชียวหรือ"
"แน่นอน..ต่อไปไม่มีอะไรขาดอีกเจ้าจะได้เลิกอ้างบิดาสักทีแล้วตั้งใจเรียน"
คนตัวเล็กหน้างอ ปากบนคว่ำลงทันทีที่เขาพูดจบ จ้าวหย่งเฉิงอมยิ้มปากจิ้มลิ้มของนางยั่วยวนจริงๆ ก่อนจะสลัดความคิดออกไป นางเป็นลูกศิษย์ที่เขาต้องสั่งสอน จากนั้นก็สั่งเสี่ยวจงให้ขับรถม้าไปบ้านนาง ไป่จิ้งเห็นข้าวของมากมายก่ายกองก็สงสัย
"ข้าซื้อให้ท่านเพื่อที่บุตรสาวท่านจะได้ไม่ต้องกังวล นางจะได้มีสมาธิกับการเรียน"
"อ้อ..อาเจินขอบคุณอาจารย์หรือยัง"
"เฮ้อ..ศิษย์ขอบคุณอาจารย์เจ้าค่ะ ท่านพ่อลูกขอตัวนะเจ้าคะ"
ไป๋เจินเจินเดินเข้าบ้านไปก่อน ไม่นานจ้าวหย่งเฉิงก็เอ่ยลาไป่จิ้งเพื่อกลับบ้านพักนอกเมือง เขาไม่พักในเมืองเพราะรำคาญความวุ่นวาย พรุ่งนี้แล้วสินะที่ต้องจัดการนางเด็ดขาด นางเป็นเด็กฉลาดแต่กลับใช้ในทางที่ผิดน่าเสียดายความฉลาดนางนัก
หลังจากที่จ้าวหย่งเฉิงส่งไป๋เจินเจินเรียบร้อยแล้วก็ยังไม่กลับในทันที เขายังจอดอยู่หน้าตรอกที่บ้านของนาง จ้างหย่งเฉิงหลับตาเพื่อคลายอารมณ์แปรปรวนที่ก่อกำเนิดโดยที่เขาไม่รู้ตัว เหตุใดเขาหวั่นไหวกับเด็กคนนี้กัน นางเพิ่งจะปักปิ่นไม่นาน มิใช่ว่าไม่มีสตรีงดงามมาทอดกายหรือให้เขาได้เลือก แต่เขาไม่เคยหวั่นไหวกับสตรีคนใดสักนิด การที่รับนางเป็นศิษย์ส่วนตัวไม่รู้ว่าเขาคิดผิดหรือไม่
"เสี่ยวจง..กลับบ้านพักเถอะ"
"ขอรับใต้เท้า"
จินเสี่ยวฟงเขินอาย ทุกคนต่างก็หัวเราะ จ้าวหย่งเฉิงลุกไปช่วยคู่หมั้นจัดการอาหารสามอย่างสุดท้าย วันนี้นางทำของโปรดของเขาแทบจะทุกอย่าง ไป๋เจินเจินคีบเนื้อปลาเปรี้ยวหวานใส่ชามบิดา จากนั้นถึงคีบให้เขา จ้าวหย่งเฉิงมองหน้านาง ไป๋เจินเจินส่งสายตาดุกลับไป คนเยอะแยะเขาช่างหน้าด้าน"ดูก้างให้อาด้วย เดี๋ยวอาติดคอนะ""ท่านอา...คนอื่นยังกินได้เลย"สวีข่ายเหยียนคีบก้างปลาออกทีละเส้นๆจากนั้นก็คีบมาใส่ในชามของเขา ยิ้มประจบประแจงแล้วเอ่ย"อาจารย์ขอรับ ศิษย์เอาก้างปลาออกหมดแล้วรับรองไม่มีก้างแน่นอน อาจารย์ทานให้สบายใจเถอะขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงแค่นยิ้มให้ลูกศิษย์ที่หวังดีผิดที่ก่อนจะเอ่ยลอดไรฟัน"ขอบใจ ขอบใจมากแต่วันหน้าวันหลังเจ้าไม่ต้อง""อ้อ..ยินดีขอรับท่านอาจารย์ เอะ!! ห๊ะ ห๊า ศิษย์ทำอะไรผิดไปหรือขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงหลับตาก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกให้กินข้าน"กินข้าวของเจ้าไป สู่รู้นัก"สิ้นคำของเขาสามสหายก็เงียบทันที สวีข่ายเหยียนไม่เข้าใจแต่อีกสองคนเข้าใจจึงกระตุกชายเสื้อเขาเบาๆ ไป๋เจินเจินส่ายหน้าให้กับความงอแงก่อนจะคีบก้างปลาออกแล้วเอาเนื้อปลาที่ไร้ก้างใส่ในชามบิดาก่อน จากนั้นจึงคีบ
ร่างบางเดินกลับไปยังรถม้าซึ่งเป็นรถม้าของจวนราชครู สามจอมเสเพลรู้สึกว่าสหายตัวน้อยไม่ชอบหน้าองค์ชายห้าพวกเขาจึงตามนางไปและพาลไม่ชอบตามไปด้วย ใครที่อาเจินเกลียดพวกเขาก็เกลียดด้วยเช่นกัน องครักษ์ของจ้าวหย่งเฉิงไปรายงานที่สำนักศึกษาแล้ว เขาจึงตรงไปจวนสกุลไป่ทันที หยางตงชิงอยากยุ่งกับนางเจ้าก็ลองดูสิ เมื่อมาถึงจวนไป๋จิ้งหยวนที่กำลังนั่งเช็ดกระบี่อยู่เห็นรถม้าของจวนราชครูเข้ามาก็เก็บกระบี่เขาฝัก มีรถม้าอีกสามคันตามมาพอจอดสนิทก็เป็นจ้าวลู่ซิน องค์หญิงแปดและองค์ชายห้า เขามาได้อย่างไรกัน เห็นทีต้องเพิ่มคนอารักขาบุตรสาวเสียแล้ว นางฉลาดเฉลียวหากองค์ชายห้ารู้ว่านางมีความสามารถอาเจินอาจตกอยู่ในอันตราย ร่างอรชรเดินมาหาบิดาเอ่ยทักทาย"ท่านพ่อ..ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ""คารวะท่านอาไป๋ขอรับ"สามจอมเสเพลคำนับไป๋จิ้งหยวน จ้าวลู่ซินกับเหอฉู่หรานก็ทำความเคารพเขา ไป๋จิ้งหยวนคำนับอีกสองคนที่เดินตามมา"ถวายพระพรองค์ชายห้า ถวายพระพรองค์หญิงแปดพ่ะย่ะค่ะ""องครักษ์ไป๋ตามสบายเถอะ วันนี้เราแค่อยากมากินข้าวกับอาเจินและลู่ซินน่ะ"ไป๋จิ้งหยวนเข้าใจดี ไทเฮาคือย่าทวดของจ้าวลู่ซินและเป็นเสด็จย่
หลังจากที่ไป๋เจินเจินจัดการหนานซวงซวงและหยุนเสี่ยวหว่านเรียบร้อยแล้วก็จะกลับจวน อีกสิบวันเป็นงานแต่งงานของนางกับจ้าวหย่งเฉิง หลังจากงานแต่งสามวันนางกลับบ้านเดิมเยี่ยมบิดาเรียบร้อย ท่านพ่อจะไปต้อนรับคณะทูตที่เดินทางมาเพื่อถวายเครื่องบรรณาการ ร่างอรชรเดินซื้อข้าวของเพื่อวันนี้คู่หมั้นรูปงามของนางจะมากินมื้อค่ำที่จวน จ้าวหย่งเฉิงชอบกินอาหารฝีมือนางโดยเฉพาะปลาเปรี้ยวหวานและบะหมี่ตุ๋นสามชั้น ไป๋เจินเจินไปร้านขายยาเพื่อซื้อเครื่องเทศ เถ้าแก่ร้านออกมาต้อนรับนางด้วยตนเอง ยามนี้จากเด็กสาวมือปราบไร้ชื่อที่หนีหน้าที่ กลับกลายเป็นคุณหนูไป๋บุตรสาวหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร คนที่เคยเหยียดหยามต่างก้มหน้าเมื่อเจอนางองครักษ์พิทักษ์หญิงงามเดินตามหลัง ไม่มีใครกล้ามาต่อกรหรือหาเรื่อง สกุลของจอมเสเพลทั้งสามคนนั้นยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่ละตระกูลล้วนแต่มีคุโณปการต่อราชสำนัก สวีข่ายเหยียนเอ่ยถามเมื่อเห็นนางเดินมาหน้าร้านโอสถ"อาเจิน...เจ้าป่วยเป็นอันใดหรือถึงมาซื้อยา"จินเสี่ยวฟงถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสหาย"อาเจินจะมาซื้อเครื่องเทศไปทำอาหารอร่อยให้พวกเรากิน นางไม่ได้ป่วยเจ้าทึ่ม"ใบหน้าหวานยิ้มน้
หยางตงชิงที่รอรายงานก็ร้อนใจ ได้ยินว่ามีการทูลเกล้าฯถวายฎีกาเรื่องไฟไหม้ครั้งนั้นเป็นการวางเพลิง คนทำต้องการเอาชีวิตของไท่จื่อเฟยและองค์ชาย องค์ชายห้ากำมือแน่นคนสนิทหลับตาก่อนจะเอ่ยอย่างหวาดหวั่น"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าคนที่รู้ว่านี่คือการวางเพลิงคือคุณหนูไป๋ นางพบหลักฐานที่เกิดเหตุอีกด้วย""นางพบอะไร ห้องนั้นไฟไหมจนไม่เหลือซาก นางก็แค่เด็กน้อยเพิ่งปักปิ่นจะมีความสามารถอะไรได้กัน"หยางตงชิงไม่เชื่อว่าเด็กสกุลไป๋คนนั้นจะมีหลักฐาน คงต้องการล่อเขาออกมามากกว่า หากเขาทำไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่มีใครเอาผิดเขาได้ ร้านค้าที่จำหน่ายน้ำมันเตานั่นเข้าก็ให้คนของเขาไปจัดการคนที่ขายของให้คนของตนเรียบร้อยแล้ว นางเด็กนั่นฉลาดนักหรือ เจ้าเล่ห์เหมือนบิดาของนางไม่มีผิด หากมิใช่เพราะไป๋จิ้งหยวนมาขัดขวางเขาคงจัดการรัชทายาทไปนานแล้ว ยังแอบซ่อนตัวทำเป็นคนพิการขาเป๋ รัชทายาทคนที่อยู่ตำหนักบูรพาคนนั้นน่าจะตัวปลอม เขาไม่เคยรับรู้มาก่อนกระทั่งตัวจริงกลับมา หยางตงชิงสั่งให้คนของตนไปพบกับคนของโจรภูเขา กองกำลังที่เขาแอบซ่องสุมมานานไม่ช้าก็จะเข้าเมืองหลวงได้ทั้งหมด "ไปหาเฉินฮุ่ย....บอกให้เ
นี่หรือคนที่ไม่ชอบสตรี นี่คือคนที่ไม่ไยดีผู้หญิงจริงๆหรือ สามสิบเจ็ดแล้วเขายังไม่เคยหลับนอนกับสตรีคนไหน จนมีข่าวลือว่าเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ไป๋เจินเจินขยับเอี้ยวตัวไปหาเขาก่อนจะยิ้มให้แล้วตอบตกลง"เจ้าค่ะ แต่ห้ามอาจารย์แช่น้ำนานเกินไปนะเจ้าคะ อีกอย่าพวกเรายังไม่แต่งกันสักหน่อยคำว่าผัวเมียท่านเรียกบ่อยเกินไปแล้ว"หึ หึ หึ จ้าวหย่งเฉิงหัวเราะในลำคอจากนั้นก็อุ้มนางออกทางหลังเรือน พาดีดขึ้นยอดไม้ไปยังเขตต้องห้ามสำหรับเขาเท่านั้น เมื่อมาถึงก็วางร่างบางลง ไป่เจินเจินนั่งบนโขดหินรอเขาแช่น้ำ แต่คนตัวโตกลับไม่ยอม"ลงแช่น้ำกับอาด้วยเด็กดี""ห๊ะ ห๊า ไม่ดีกระมังเจ้าคะ ข้ามิได้เอาเสื้อผ้ามา ท่านอาตามสบายเถอะเจ้าคะ""ก็ไม่ต้องใส่ถอดเถอะ ยังมีอะไรที่ไม่เคยเห็นอีก อาเจินตั้งแต่เห็นเจ้าเดินขึ้นมาจากบ่อน้ำพุคราวนั้น อาก็ลืมภาพเย้ายวนเจ้าไม่ได้สักวัน"ไป่เจินเจินมองหน้าเขาทันที หรือว่าวันนั้นเขาเห็นงั้นหรือ ใบหน้าหวานแดงซ่านก่อนจะเอ่ยโมโหกลบเกลื่อนความเขินอาย"คนบ้า ท่านเป็นถึงราชครูแห่งแคว้น เป็นอาจารย์สำนักศึกษาเหตุใดไม่สำรวม ช่างหน้าหนายิ่งนักแอบดูข้าหรือคนหน้าไม่อาย"จ้าวหย่งเ
เมืองหลวงหยางตงชิงที่ยามนี้กำลังกราดเกรี้ยวใส่คนของตน เขาต้องการสังหารพระชายาและองค์ชายน้อยเหตุใดทั้งคู่จึงไม่ตาย ดีที่เขารอบคอบตอนที่วางเพลิงไม่มีคนพบเห็นเพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่สำนักศึกษาพาลูกศิษย์มาไหว้พระและศึกษาพระธรรมจึงทำให้คนพลุกพล่านเหมาะแก่การลงมือ"แต่ละคนไม่ได้เรื่องทั้งนั้น""องค์ชาย ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะลูกศิษย์สำนักศึกษาที่ชื่อไป๋เจินเจินคนนั้นเข้าไปพาทั้งสองออกมาก็คงจะสำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ""ไป๋เจินเจินงั้นหรือ""ทูลองค์ชาย ไป๋เจินเจินคือบุตรสาวหัวหน้าองครักษ์หลวงไป๋จิ้งหยวน เขาเพิ่งกลับมารับตำแหน่งเมื่อไม่นานนี้พ่ะย่ะค่ะ"หยางตงชิงปาจอกชางงพื้นจนแตกกระจาย ไป๋จิ้งหยวนเป็นเจ้าอีกแล้ว สองปีก่อนถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าข้าสังหารหยางมู่เฉินสำเร็จไปแล้ว ไอ้สารเลว"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ท่านตาของพระองค์กำลังหาทางให้องค์ชายสิบสองผูกสัมพันธ์กับคณะทูตที่จะมาถึงเดือนหน้าพ่ะย่ะค่ะ""ท่านตาของข้างช่างทุ่มเทเสียจริงๆ หยางหลิงเทียนหรือจะนั่งบัลลังก์ ฝันเฟื่อง"หยางตงชิงเสแสร้งว่าตนเองไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ ตำแหน่งรัชทายาทไม่ใชสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด ทำตัวราวกับองค์ชายเกียจคร้านเรื่องกา







