LOGINไป่เจินเจินไม่รู้ว่าตนเองกำลังเป็นเป้าสายตาคนกลุ่มหนึ่ง อีกทั้งยังกำลังถูกอาจารย์เจ้าระเบียบหมายหัวอีกต่างหาก นางวิ่งลัดเลาะไปทั่วเขา วางกับดักเอาไว้ หากได้สัตว์ป่าสักตัวนางจะได้ไม่ต้องเสียเงินมาซื้อเนื้อหมูหรือซื้อไก่ สายตาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างสีขาวๆแวบๆ
"หืมนี่มันของดีนี่นา อีกสามวันจะเป็นวันเกิดของท่านย่าพี่ข่ายเหยียนเอาไปให้เขาดีกว่า อย่างน้อยเขาก็ใจกว้าง"
ไป๋เจินเจินวางกับดัก คนที่ตามมาดูก็งงว่านางทำอะไรเพื่อจะกลับไปรายงาน ไป๋เจินเจินวางกับดักทั่วภูเขา ที่นางเดินผ่าน ไม่นานก็มีแต่กับดักเต็มไปหมด บุรุษที่เฝ้าสังเกตการณ์ไม่รู้ว่านนางกำลังทำอะไรเห็นนางก้มๆเงย หลังจากวางกับดักแล้วก็ใจเย็นนอนบนกิ่งไม้รอให้เหยื่อมาติดกับ
สวบ!!เสียงกับดักทำงานแต่ไป๋เจินเจินไม่ลงมาดู ไม่นานก็ได้ยินอีก สวบ!! สวบ!! สวบ!! สวบ!! สวบ!!มู่ถิงน้ำตาคลอนี่มันกับดักบ้าอะไร นังเด็กน้อยนี่ฝีมือไม่ธรรมดาเลย หากเขาจัดการนางคุณชายเอาเรื่องเขาแน่ๆ ดูท่าทางจะสนใจปีศาจน้อยตัวนี้เสียด้วย มูาถิงเดินเขยกๆกลับไปรายงาน ไป๋เจินเจินยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
"เหอะ นึกว่าจะแน่ไอ้คนไม่เอาไหนเอ้ย"
จากนั้นก็วางกับดักต่อไป ไม่นานเจ้าตัวดีก็โผล่มา ไป่เจินเจินดักได้หนึ่งตัว กำลังจะจับอีกตัวปรากฏว่าตัวในตะกร้าก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เพียงพอนขาวอีกตัวก็รีบมาที่ตะกร้าพร้อมกับทำท่าจะกัดนางเช่นกัน ไป๋เจินเจิ่นเอาร่มฟางให้มันงับแทนจากนั้นก็เปิดตะกร้าดู ให้ตายสิพระเจ้ามันกำลังคลอดลูก ไป่เจินเจินเอาชุดนักเรียนของสำนักศึกษาวางให้มัน แม่เพียงพอนคลอดออกมาสามตัวเป็นสีขาวทั้งหมด
"แคว้นต้าเหลียงนับถือว่าเพียงพอนเป็นสัตว์มงคล ถ้าเช่นนั้นขายพวกเจ้าข้าก็รวยแล้ว"
แม่เพียงพอนกะพริบตามองมายังนาง ส่วนเจ้าตัวผู้ที่น่าจะเป็นพ่อของมันก็อาศัยความไวกระโดดลงไปในตะกร้า ก่อนจะดมเลียๆลูกๆทั้งสามตัว ไป่เจินเจินถอนหายใจ
"ไปอยู่กับข้าๆสัญญาว่าจะเลี้ยงดูตกลงไหม ตอนแรกจะให้เจ้ากับฮูหยินเฒ่าตระกูลสวี ไม่เป็นไรเดี๋ยวข้าวาดรูปสักใบไปให้นางก็ได้มาเถอะกลับบ้านกัน"
ไป๋เจินเจินเดินลงเขาพร้อมตะกร้าสะพายหลัง นางไม่รู้เลยว่าด้านหลังมีคนมองตามอยู่ ส่วนที่บ้านก็มีคนมารอเช่นกัน
"คุณชายแม่นางน้อยดูท่าคงรู้แต่แรกว่ามู่ถิงสะกดรอยตามนาง เพียงพอนเป็นสัตว์มงคลของแคว้น นายพรานเก่งๆยังล่าไม่ได้แต่นางกลับล่าได้"
"อืม...ช่างเป็นเด็กน้อยที่คาดเดายากจริงๆ เป็นอย่างไรบ้างเล่ามู่ถิง โชคเลือดมาเชียว"
"กับดักนางร้ายกาจมากนัก หากไม่แข็งแกร่งพอเป็นคนธรรมดาอาจเจาะลึกถึงกระดูกเลยขอรับ"
"ไปกันเถอะ ข้าอยากไปสำนักศึกษาสักหน่อยมีเรื่องจะคุยกับอาเฉิง"
ทั้งหมดพากันไปด้านที่ตั้งของสำนักศึกษา คนละด้านกับที่ดรุณีน้องเดินจากไป ไป๋เจินเจินมาถึงที่บ้านก็พยายามย่องเข้าบ้านให้เงียบที่สุด เพราะว่าตอนนี้นางสวมชุดบุรุษมิใช่ชุดของสำนักศึกษาเช่นเมื่อเช้าก่อนออกจากบ้าน จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าห้อง บิดาเคยเป็นองครักษ์มาก่อนเขารับรู้ตั้งแต่นางมาถึงแล้ว เพียงแต่คนที่นั่งอยู่ด้วยส่ายหน้าให้เขาไม่ต้องทัก
ไป๋เจินเจินรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที นางนำลูกเพียงพอนกับแม่ของมันไว้ในตะกร้า และปิดฝาอย่างเดิม ก่อนจะไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า แม้ว่าเงินที่สามคนนั้นให้มาเมื่อวานจะไม่มากแต่ซื้อชุดใหม่ได้สองชุดเดี๋ยววันนี้ไปซื้อให้บิดาด้วยดีกว่า ไป๋เจินเจินถักเปียสองข้างหลวมแซมด้วยดอกไม้ป่าสีเหลืองสลับชมพูขาวตามร่องของรอยที่เปีย ตัดกับชุดสีฟ้าที่นางสวมใส่ ทันทีที่นางเดินออกมาจากในห้องคนที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นจิบถึงกลับชะงักค้าง มือยังคงถือถ้วยชาไว้มิได้ยกดื่มแต่อย่างใด
("ไม่ยักรู้เจ้างามเพียงนี้แม่เด็กน้อย")
จ้าวหย่งเฉิงเก็บสีหน้าและอาการตกอยู่ในภวังค์กลับมาพร้อมกับที่ไป่เจินเจินเห็นเขานั่งอยู่กับบิดานางจึงเดินมาหา ไม่รู้ว่าตาเฒ่านี่มาถึงนานแค่ไหนแล้วฟ้องอะไรกับท่านพ่อไปบ้าง ไป๋เจินเจินเดินเข้าไปหาทั้งคู่ก่อนจะเอ่ยคำและเอ่ยทักทาย
"ศิษย์คารวะอาจารย์จ้าวเจ้าค่ะ...ท่านพ่อลูกกลับมาแล้ว"
"อืม..ไปเรียนวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง"
"เอ่อ...ก็ดีเจ้าค่ะท่านพ่อลูกขอตัวไปตลาดสักหน่อยนะเจ้าคะพอดีลูกอยากซื้อของใช้สตรีเจ้าค่ะ"
"อาเจินอ่า..พ่อมีบุตรสาวแค่คนเดียวก็หวังว่าลูกจะมีความรู้ไม่ถูกใครดูหมิ่นดูแคลนลูกเข้าใจหรือไม่"
ไป๋เจินเจินเดินมาข้างหน้าก่อนจะคุกเข่าลง มือสองข้างวางที่หัวเข่าบิดาแนบใบหน้างามลงไปก่อนจะเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
"ท่านพ่อ..ลูกขออภัยเจ้าค่ะ แต่ลูกไม่อยากเรียนแล้วลูกอยากหาเงินมารักษาขาของท่านมากกว่า"
"อาเจิน..พ่อแก่แล้วจะอยู่อีกกี่ปีก็ไม่รู้ หากอาจารย์จ้าวไม่มาพ่อก็ไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมาเจ้าไม่ได้เรียน เพราะพวกเขาไม่ยอมสอนตอนนี้อาจารย์จ้าวรับปากแล้วว่าจะให้เจ้าเป็นลูกศิษย์ส่วนตัวของท่าน อีกอย่างไม่มีบ้านเดิมสนับสนุนอย่างน้อยเจ้าก็มีความรู้"
"ใครอยากแต่งงานกัน บุรุษเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจที่สุดบนโลกใบนี้"
พรวด!!จ้าวหย่งเฉิงที่ได้ยินคำพูดของนางถึงกับสำลักน้ำชา เด็กคนนี้ไปเอาวาจาร้ายกาจเหล่านี้มาจากที่ไหนกัน โลกนี้สตรีมิพึ่งพาบุรุษจะอยู่ได้หรือ ไป๋จิ้งลูบหัวบุตรสาวก่อนจะเอ่ยกับคนที่นั่งตรงข้าม
"ขออภัยอาจารย์จ้าว นางยังเด็กอาจพูดจาไร้ความคิดไปบ้างท่านอย่าถือสาเลยนะขอรับ"
"พี่ไป๋จิ้งอย่ากังวลข้ามิถือสาเด็กที่ยังไม่โตเช่นนางหรอก วันนี้มีโอกาสได้พบท่านนับว่ามาไม่เสียเที่ยว ท่านความรู้กว้างขวางวันหลังมีเวลาข้าจะมาสนทนาด้วยอีก ส่วนอาเจินไม่ว่าบทกวีหรือคัมภีร์ต่างๆข้าจะตั้งใจสอนจนกว่านางจะได้อักษรทุกตัวแน่นอน"
"ขอบคุณท่านราชครูแล้ว"
"ท่านเรียกข้าหย่งเฉิงก็พอ"
"ท่านพ่อข้าไม่มีชุดไปเรียนแล้วคงไปเรียนไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ เงินที่มีต้องเอาไว้ซื้อเสบียง"
ไป๋เจินเจินหาข้ออ้างไปเรื่อยแต่คนตัวโตกับรู้ทันนางก่อนที่เขาจะเอ่ย
"ตามข้าไปสำนักเดี๋ยวจะให้คนเอาชุดให้เจ้าใหม่ แล้วค่อยให้คนกลับมาส่ง"
"ไปเถอะ..ใกล้จะปลายยามเซินแล้วเดี๋ยวจะมืดเสียก่อน ทางกลับบ้านไกลนัก"
"เจ้าค่ะ ท่านพ่อข้าขอแวะตลาดสักแป๊บแล้วจะซื้อขนมมาฝากนะเจ้าคะ"
"อาเจินพ่อจะไม่ถามว่าลูกไปเอาเงินตำลึงมาจากที่ใด ในเมื่อลูกบอกว่าคัดอักษรทั้งที่อาจารย์บอกว่าลูกเรียนไม่ได้สักตัว แต่หวังว่ามันจะมีที่มาสะอาดโปร่งใส"
"ท่านพ่อ ลูกขึ้นเขาหาสมุนไพรบ่อยๆก็ไปขายมาบ้าง แต่ว่ายังไม่พอค่ารักษาของท่าน"
"อย่ากังวลเรื่องพ่อนักเลย"
"พี่ไป้จิ้งข้าขอตัวก่อน ไป๋เจินเจินไปกันได้แล้ว"
จินเสี่ยวฟงเขินอาย ทุกคนต่างก็หัวเราะ จ้าวหย่งเฉิงลุกไปช่วยคู่หมั้นจัดการอาหารสามอย่างสุดท้าย วันนี้นางทำของโปรดของเขาแทบจะทุกอย่าง ไป๋เจินเจินคีบเนื้อปลาเปรี้ยวหวานใส่ชามบิดา จากนั้นถึงคีบให้เขา จ้าวหย่งเฉิงมองหน้านาง ไป๋เจินเจินส่งสายตาดุกลับไป คนเยอะแยะเขาช่างหน้าด้าน"ดูก้างให้อาด้วย เดี๋ยวอาติดคอนะ""ท่านอา...คนอื่นยังกินได้เลย"สวีข่ายเหยียนคีบก้างปลาออกทีละเส้นๆจากนั้นก็คีบมาใส่ในชามของเขา ยิ้มประจบประแจงแล้วเอ่ย"อาจารย์ขอรับ ศิษย์เอาก้างปลาออกหมดแล้วรับรองไม่มีก้างแน่นอน อาจารย์ทานให้สบายใจเถอะขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงแค่นยิ้มให้ลูกศิษย์ที่หวังดีผิดที่ก่อนจะเอ่ยลอดไรฟัน"ขอบใจ ขอบใจมากแต่วันหน้าวันหลังเจ้าไม่ต้อง""อ้อ..ยินดีขอรับท่านอาจารย์ เอะ!! ห๊ะ ห๊า ศิษย์ทำอะไรผิดไปหรือขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงหลับตาก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกให้กินข้าน"กินข้าวของเจ้าไป สู่รู้นัก"สิ้นคำของเขาสามสหายก็เงียบทันที สวีข่ายเหยียนไม่เข้าใจแต่อีกสองคนเข้าใจจึงกระตุกชายเสื้อเขาเบาๆ ไป๋เจินเจินส่ายหน้าให้กับความงอแงก่อนจะคีบก้างปลาออกแล้วเอาเนื้อปลาที่ไร้ก้างใส่ในชามบิดาก่อน จากนั้นจึงคีบ
ร่างบางเดินกลับไปยังรถม้าซึ่งเป็นรถม้าของจวนราชครู สามจอมเสเพลรู้สึกว่าสหายตัวน้อยไม่ชอบหน้าองค์ชายห้าพวกเขาจึงตามนางไปและพาลไม่ชอบตามไปด้วย ใครที่อาเจินเกลียดพวกเขาก็เกลียดด้วยเช่นกัน องครักษ์ของจ้าวหย่งเฉิงไปรายงานที่สำนักศึกษาแล้ว เขาจึงตรงไปจวนสกุลไป่ทันที หยางตงชิงอยากยุ่งกับนางเจ้าก็ลองดูสิ เมื่อมาถึงจวนไป๋จิ้งหยวนที่กำลังนั่งเช็ดกระบี่อยู่เห็นรถม้าของจวนราชครูเข้ามาก็เก็บกระบี่เขาฝัก มีรถม้าอีกสามคันตามมาพอจอดสนิทก็เป็นจ้าวลู่ซิน องค์หญิงแปดและองค์ชายห้า เขามาได้อย่างไรกัน เห็นทีต้องเพิ่มคนอารักขาบุตรสาวเสียแล้ว นางฉลาดเฉลียวหากองค์ชายห้ารู้ว่านางมีความสามารถอาเจินอาจตกอยู่ในอันตราย ร่างอรชรเดินมาหาบิดาเอ่ยทักทาย"ท่านพ่อ..ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ""คารวะท่านอาไป๋ขอรับ"สามจอมเสเพลคำนับไป๋จิ้งหยวน จ้าวลู่ซินกับเหอฉู่หรานก็ทำความเคารพเขา ไป๋จิ้งหยวนคำนับอีกสองคนที่เดินตามมา"ถวายพระพรองค์ชายห้า ถวายพระพรองค์หญิงแปดพ่ะย่ะค่ะ""องครักษ์ไป๋ตามสบายเถอะ วันนี้เราแค่อยากมากินข้าวกับอาเจินและลู่ซินน่ะ"ไป๋จิ้งหยวนเข้าใจดี ไทเฮาคือย่าทวดของจ้าวลู่ซินและเป็นเสด็จย่
หลังจากที่ไป๋เจินเจินจัดการหนานซวงซวงและหยุนเสี่ยวหว่านเรียบร้อยแล้วก็จะกลับจวน อีกสิบวันเป็นงานแต่งงานของนางกับจ้าวหย่งเฉิง หลังจากงานแต่งสามวันนางกลับบ้านเดิมเยี่ยมบิดาเรียบร้อย ท่านพ่อจะไปต้อนรับคณะทูตที่เดินทางมาเพื่อถวายเครื่องบรรณาการ ร่างอรชรเดินซื้อข้าวของเพื่อวันนี้คู่หมั้นรูปงามของนางจะมากินมื้อค่ำที่จวน จ้าวหย่งเฉิงชอบกินอาหารฝีมือนางโดยเฉพาะปลาเปรี้ยวหวานและบะหมี่ตุ๋นสามชั้น ไป๋เจินเจินไปร้านขายยาเพื่อซื้อเครื่องเทศ เถ้าแก่ร้านออกมาต้อนรับนางด้วยตนเอง ยามนี้จากเด็กสาวมือปราบไร้ชื่อที่หนีหน้าที่ กลับกลายเป็นคุณหนูไป๋บุตรสาวหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร คนที่เคยเหยียดหยามต่างก้มหน้าเมื่อเจอนางองครักษ์พิทักษ์หญิงงามเดินตามหลัง ไม่มีใครกล้ามาต่อกรหรือหาเรื่อง สกุลของจอมเสเพลทั้งสามคนนั้นยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่ละตระกูลล้วนแต่มีคุโณปการต่อราชสำนัก สวีข่ายเหยียนเอ่ยถามเมื่อเห็นนางเดินมาหน้าร้านโอสถ"อาเจิน...เจ้าป่วยเป็นอันใดหรือถึงมาซื้อยา"จินเสี่ยวฟงถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสหาย"อาเจินจะมาซื้อเครื่องเทศไปทำอาหารอร่อยให้พวกเรากิน นางไม่ได้ป่วยเจ้าทึ่ม"ใบหน้าหวานยิ้มน้
หยางตงชิงที่รอรายงานก็ร้อนใจ ได้ยินว่ามีการทูลเกล้าฯถวายฎีกาเรื่องไฟไหม้ครั้งนั้นเป็นการวางเพลิง คนทำต้องการเอาชีวิตของไท่จื่อเฟยและองค์ชาย องค์ชายห้ากำมือแน่นคนสนิทหลับตาก่อนจะเอ่ยอย่างหวาดหวั่น"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าคนที่รู้ว่านี่คือการวางเพลิงคือคุณหนูไป๋ นางพบหลักฐานที่เกิดเหตุอีกด้วย""นางพบอะไร ห้องนั้นไฟไหมจนไม่เหลือซาก นางก็แค่เด็กน้อยเพิ่งปักปิ่นจะมีความสามารถอะไรได้กัน"หยางตงชิงไม่เชื่อว่าเด็กสกุลไป๋คนนั้นจะมีหลักฐาน คงต้องการล่อเขาออกมามากกว่า หากเขาทำไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่มีใครเอาผิดเขาได้ ร้านค้าที่จำหน่ายน้ำมันเตานั่นเข้าก็ให้คนของเขาไปจัดการคนที่ขายของให้คนของตนเรียบร้อยแล้ว นางเด็กนั่นฉลาดนักหรือ เจ้าเล่ห์เหมือนบิดาของนางไม่มีผิด หากมิใช่เพราะไป๋จิ้งหยวนมาขัดขวางเขาคงจัดการรัชทายาทไปนานแล้ว ยังแอบซ่อนตัวทำเป็นคนพิการขาเป๋ รัชทายาทคนที่อยู่ตำหนักบูรพาคนนั้นน่าจะตัวปลอม เขาไม่เคยรับรู้มาก่อนกระทั่งตัวจริงกลับมา หยางตงชิงสั่งให้คนของตนไปพบกับคนของโจรภูเขา กองกำลังที่เขาแอบซ่องสุมมานานไม่ช้าก็จะเข้าเมืองหลวงได้ทั้งหมด "ไปหาเฉินฮุ่ย....บอกให้เ
นี่หรือคนที่ไม่ชอบสตรี นี่คือคนที่ไม่ไยดีผู้หญิงจริงๆหรือ สามสิบเจ็ดแล้วเขายังไม่เคยหลับนอนกับสตรีคนไหน จนมีข่าวลือว่าเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ไป๋เจินเจินขยับเอี้ยวตัวไปหาเขาก่อนจะยิ้มให้แล้วตอบตกลง"เจ้าค่ะ แต่ห้ามอาจารย์แช่น้ำนานเกินไปนะเจ้าคะ อีกอย่าพวกเรายังไม่แต่งกันสักหน่อยคำว่าผัวเมียท่านเรียกบ่อยเกินไปแล้ว"หึ หึ หึ จ้าวหย่งเฉิงหัวเราะในลำคอจากนั้นก็อุ้มนางออกทางหลังเรือน พาดีดขึ้นยอดไม้ไปยังเขตต้องห้ามสำหรับเขาเท่านั้น เมื่อมาถึงก็วางร่างบางลง ไป่เจินเจินนั่งบนโขดหินรอเขาแช่น้ำ แต่คนตัวโตกลับไม่ยอม"ลงแช่น้ำกับอาด้วยเด็กดี""ห๊ะ ห๊า ไม่ดีกระมังเจ้าคะ ข้ามิได้เอาเสื้อผ้ามา ท่านอาตามสบายเถอะเจ้าคะ""ก็ไม่ต้องใส่ถอดเถอะ ยังมีอะไรที่ไม่เคยเห็นอีก อาเจินตั้งแต่เห็นเจ้าเดินขึ้นมาจากบ่อน้ำพุคราวนั้น อาก็ลืมภาพเย้ายวนเจ้าไม่ได้สักวัน"ไป่เจินเจินมองหน้าเขาทันที หรือว่าวันนั้นเขาเห็นงั้นหรือ ใบหน้าหวานแดงซ่านก่อนจะเอ่ยโมโหกลบเกลื่อนความเขินอาย"คนบ้า ท่านเป็นถึงราชครูแห่งแคว้น เป็นอาจารย์สำนักศึกษาเหตุใดไม่สำรวม ช่างหน้าหนายิ่งนักแอบดูข้าหรือคนหน้าไม่อาย"จ้าวหย่งเ
เมืองหลวงหยางตงชิงที่ยามนี้กำลังกราดเกรี้ยวใส่คนของตน เขาต้องการสังหารพระชายาและองค์ชายน้อยเหตุใดทั้งคู่จึงไม่ตาย ดีที่เขารอบคอบตอนที่วางเพลิงไม่มีคนพบเห็นเพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่สำนักศึกษาพาลูกศิษย์มาไหว้พระและศึกษาพระธรรมจึงทำให้คนพลุกพล่านเหมาะแก่การลงมือ"แต่ละคนไม่ได้เรื่องทั้งนั้น""องค์ชาย ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะลูกศิษย์สำนักศึกษาที่ชื่อไป๋เจินเจินคนนั้นเข้าไปพาทั้งสองออกมาก็คงจะสำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ""ไป๋เจินเจินงั้นหรือ""ทูลองค์ชาย ไป๋เจินเจินคือบุตรสาวหัวหน้าองครักษ์หลวงไป๋จิ้งหยวน เขาเพิ่งกลับมารับตำแหน่งเมื่อไม่นานนี้พ่ะย่ะค่ะ"หยางตงชิงปาจอกชางงพื้นจนแตกกระจาย ไป๋จิ้งหยวนเป็นเจ้าอีกแล้ว สองปีก่อนถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าข้าสังหารหยางมู่เฉินสำเร็จไปแล้ว ไอ้สารเลว"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ท่านตาของพระองค์กำลังหาทางให้องค์ชายสิบสองผูกสัมพันธ์กับคณะทูตที่จะมาถึงเดือนหน้าพ่ะย่ะค่ะ""ท่านตาของข้างช่างทุ่มเทเสียจริงๆ หยางหลิงเทียนหรือจะนั่งบัลลังก์ ฝันเฟื่อง"หยางตงชิงเสแสร้งว่าตนเองไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ ตำแหน่งรัชทายาทไม่ใชสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด ทำตัวราวกับองค์ชายเกียจคร้านเรื่องกา







