จวนเฟยจู
เฟยจู “เพลานี่บ่าวของข้าคงจัดการนาง เสร็จแล้ว ดูสิว่านางยังจะกล้าแข็งข้อกับข้าอีกหรือไม่ “ ก๊อก ๆ .... เสียงเคาะประตูจากบ่าวทั้งสอง เฟยจู “ พวกเจ้ากลับมาแล้วรึ ไหนเล่าให้ข้าฟังที่ว่าสีหน้าของนางนั้นเป็นเช่นไร “ เฟยจูยืนหันหลังให้บ่าวทั้งสองโดยไม่รู้ว่าทั้งสองนั้นสภาพยับเยินไปหมดแล้ว เฟยจูเห็นว่าพวกนางนั่งเงียบไม่ยอมตอบเสียที ในขณะนั้นนางจึงหันมาพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่แล้วนางต้องเบิกตาโพรงมองดูบ่าวทั้งสองที่เต็มไปด้วยเลือด เฟยจู “ เหตุใดพวกเจ้าถึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี่ “ เฟยจูใจหายทันทีเมื่อเห็นบ่าวรับใช้เจ็บหนักเช่นนี่ บ่าวรับใช้ “ เป็นฝีมือของพระชายาเพคะ “ เฟยจู “นางรึ นางจะกล้าทำกับพวกเจ้าถึงเพียงนี่เชียวรึ “ เฟยจูไม่อยากจะเชื่อว่าหนิงหลงจะกล้าลงไม้ลงมือกับบ่าวไพร่อย่างโหดเหี้ยม เพราะเมื่อก่อนหนิงหลงเป็นคนไม่สู้คน เฟยจู “ พวกเจ้ากลับไปรักษาตัวก่อน ส่วนข้าจะออกไปจวนพี่สาว “ เฟยจูได้นำทหารสองนายไปจวนหนิงหลงเพื่อจะจัดการนาง เฟยจู “ พวกเจ้าเข้าไปลากตัวพี่สาวที่แสนดีของข้าออกมา “ ตอนนี่นางเดินทางมาถึงหน้าจวนแล้ว เฟยจูรีบสั่งทหารอย่างร้อนใจ ทหาร “ พระชายาขอเชิญท่านออกจากจวนอย่างว่าง่าย มิเช่นนั้นพวกข้าจะลากท่านออกมาเอง “ หนิงหลง “ ทหารพวกนี่ไม่มีมรยาทเสียจริง “ เสียงดึงประตูดังมากจนหนิงหลงต้องเอามือมาอุดหู อันอัน “พระชายา จะทำเช่นไรดีเพคะ คุณหนูเฟยจูคงไม่ยอมปล่อยท่านไปง่าย ๆ “ หนิงหลงจึงคิดแผนที่จะเล่นงานนายทหารสองคนนี่ หนิงหลง “ อันอัน เจ้านำเครื่องปะหน้ามาให้ข้า “ อันอัน “ พระชายาจะเอามาทำอะไรรึ “ หนิงหลง “ เอามาเถิด ประเดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เอง “ เมื่ออันอันนำเครื่องปะหน้ามาแล้ว หนิงหลงจึงสั่งให้อันอัน หาผ้าคลุมสีดำมาสองชุด หนิงหลงจึงแต่งหน้าผีหน้าเกียจให้อันอัน ก่อน แล้วค่อยมาแต่งให้ตัวเอง อันอัน “ พระชายาแต่งหน้าเก่งมาก เหมือนจริงมากเพคะ ข้าส่องกระจกดูแล้วข้ายังกลัวตัวเองเลย “ ทันใดนั้นทั้งสองก็ได้แต่งตัวเป็นผีหน้ากลัว เสร็จทันเวลา ในจังหวะนั้นคุณหนูเฟยจูก็เดินมายังหน้าประตูพร้อมเอ่ยท้าทายหนิงหลงอีกครั้ง เฟยจู “ เก่งนักมิใช่รึ แน่จริงเจ้าก็ออกมา “ เฟยจูยืนกอดอกตัวเองด้วยความหงุดหงิดเพราะหนิงหลงไม่ยอมเปิดประตูเสียที เฟยจู “ พวกเจ้าพังประตูเข้าไป “ ในจังหวะนั้นหนิงหลงได้เอากลอนประตูออกแล้ว ตอนนี่นางยืนด้านข้างประตูฝั่งขวามือส่วนอันอัน นั้นยืนฝั่งซ้ายมือ ทหาร “ประตูเปิดได้แล้วขอรับ “ เฟยจูยิ้มยกมุมปากขมวดคิ้วข้างเดียวอย่างผู้ชนะ นางเดินนำหน้าทหารทั้งสองเข้าไปในจวน ทันใดนั้น หนิงหลงก็เริ่มหลอกหลอนเฟยจูอย่างบ้าครั่ง ส่วนอันอัน แกล้งหลอกทหารทั้งสองนายจนฉี่ราด หนิงหลง “ จะไปไหน มานี่ “ เสียงโหยหวนกวักมือเรียกเฟยจูให้กลับมาพร้อมในมือนั้นถือเครื่องในไก่โยนใส่เฟยจู นางกลัวจนตัวสั่นทั้งกรีดร้อง ทั้งขอร้อง จนเกือบกลับจวนไม่ถูก หนิงหลง “ ฮ่า ๆ ได้แกล้งคนนี่มันสนุกเช่นนี่เอง “ อันอัน “ แผนของพระชายาใช้ได้ผลเพคะ “ ตอนนี่นายทหารทั้งสองกลัวจนวิ่งไปชนต้นไม้ อีกคนวิ่งตกสระน้ำไปคนละทิศละทาง หนิงหลง “ ข้าจะไปอาบน้ำ เพื่อเข้าเฝ้าฮองเฮา “ อันอันได้ยินเช่นนั้น รีบไปเตรียมเสื้อผ้าให้หนิงหลงทันที ตำหนักฮองเฮา ในระหว่างการเดินทางไปยังตำหนักฮองเฮา นางกำนัลทั้งหลายต่างนินทาเรื่องของหนิงหลงโดยที่ไม่สนว่านางจะได้ยินหรือไม่ หนำซ้ำยังมองหนิงหลงไม่กระพริบตา นางเห็นเช่นนั้นจึงอยากสั่งสอนนางกำนัลเหล่านี่ให้รู้จักว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร ดังนั้นนางจึงเลือกนางกำนัลมาหนึ่งคน แล้วมองดูว่าผู้ใดเกียจนางมากที่สุด หนิงหลง “ อันอัน เรียกนากำนัลที่มีไฝที่ปาก ให้นางมาหาข้า “ อันอัน “เพคะพระชายา “ ทุกคนสนใจเป็นพิเศษ ทุกคนต่างกระซิบนินทาว่าหนิงหลงจะทำอะไรอีก “คำนับพระชายาเพคะ “ หนิงหลง” เมื่อครู่ข้าเห็นว่าเจ้านินทาข้าอยู่ เจ้าเป็นนางกำนัลของจวนไหนรึ “ “ หม่อมฉันเป็นคนรับใช้ของคุณหนูเฟยจูเพคะ “ คำตอบของนางกำนัลช่างเย่อหยิ่งน้ำเสียงแข็งกระด้างเวลาเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่เต็มใจที่จะสนทนาด้วย ในเมื่อนางกำนัลผู้นี่ไม่เกรงกลัว หนิงหลงจึงตบหน้าจนเลือดกบปากต่อหน้านางกำนัลคนอื่น ๆ “ พระชายา ข้ายอมแล้วข้าตีข้าอีกเลย “ กลัวจนพูดเสียงสั่นในลำคอแม้แต่เงยขึ้นมามองหน้าหนิงหลงนางยังไม่กล้า หนิงหลง “ จำใส่หัวของเจ้าเอาไว้ ข้าไม่ได้มีฐานะเท่ากับเจ้า เช่นนั้นอย่าได้ริอาจมาตีตัวเสมอข้า “ หลังจากนั้นหนิงหลงก็เดินมุ่งหน้าไปยังตำหนักฮองเอาโดยที่นางกำนัลทุกคนเริ่มก้มหัวคำนับให้ทีละคน องค์รักษ์ “ องค์ชายพระชายา เหตุใดถึงเดินทางมาที่นี่ “ องค์รักษ์กำลังยืนเฝ้าหน้าตำหนักฮองเฮา ตนนั้นเห็นหนิงหลงเดินทางมาหมายมุ่งหน้ามาที่นี่ ตนจึงเข้าไปทูลองค์ชายที่กำลังนั่งเฝ้าฮองเฮาที่นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา อี้เฉิน “ นางมาทำไม “ อี้เฉินกำหมัดแน่นด้วยความแค้นใจ ตนจึงลุกออกจากที่นั่งแล้วออกมาจากตำหนัก ทันใดนั้นหนิงหลงก็มาถึงหน้าตำหนักพอดีราชวงศ์ซาง จี้เถา " พวกเจ้าฝึกเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เสียแรงที่ข้าไว้ว่างใจ " อาสาม อาหนึ่ง อาเก้า ได้อยู่ลานฝึกวรยุทธ เพื่อรับราชการตำแหน่งองครักษ์และขุนนาง ฝีมือของทั้ง 3 คนนั้นเก่งกาจพอตัวอาสาม " ข้าต้องเก่งเหมือนท่านน้ากับท่านอาให้ได้ " รูปร่างสูงโปร่งแววตาดุดันกริยามารยาทอ่อนน้อมถ่อมตน มีภาวะความเป็นผู้นำ แสดงความเอาจริงเอาจัง เคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แขนแกว่างดาบไปมา หมุนร่างกานรอบแก่นกลาง อาหนึ่ง " เยี่ยมยอด พี่สามเก่งยิ่งนัก " ใบหน้าคมเข้มสมชายชาตรีคิ้วเข้มพาดเฉียงดวงตาคมกริบดุจเยี่ยวกรามแข็งแรงเด่นชัด ท่วงท่าการร่ายรำดาบคู่ใจ ดังสายน้ำที่เย็นจนเกิดอายหมอก อาเก้า " ฝีมือของเจ้าก็ไม่เบาเลยยอดเยี่ยมเช่นกัน " ใบหน้ารูปไข่สมชายชาตรี จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมกริบขวนมองรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ ในมือถือกระบองไม้ไผ่ธรรมดาแต่กำลังภายในนั้นไม่ธรรมดา นั้นเป็นวรยุทธขั้นสูงสุดที่อาเก้านั้นกล้าที่จะฝึกมัน ร่างกายในธาตุทั้ง 5 รับรู้ความรู้สึกไวกว่าปกติความคิดความอ่านนั้นมองรวดเดียวก็เดาได้แล้วอาหนึ่ง/อาสาม " น้องเจ้าช่างเป็นยอดฝีมือยิ่งนัก เห็นทีหากมีภรรยาต้องเลือกภรรยาที่สามารถ
1-6 " คำนับพระชายาแห่งราชวงศ์เจ้าดินแดนแห่งเมืองสวรรค์ขอทรงอายุยืนเป็นหมื่นหมื่นปีหมื่นหมื่นปี "หนิงหลง " ลุกขึ้นเถิดได้ข่าวว่าพวกเจ้ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับข้าเช่นนั้นเชิญเล่ามาเถอะจะได้ไม่เสียเวลา " 1" พระชายาขอรับลูกสาวข้าอยากจะมาร่ำเรียนในดินแดนแห่งเมืองสวรรค์มิทราบว่าท่านจะเปิดโอกาสให้คนต่างแดนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเข้ามาอยู่ที่นี่หรือไม่ " เมื่อสิ้นสุดประโยคหัวหน้าแขวนทั้ง 5 ก็นิ่งเงียบไม่รู้ว่าจะได้คำตอบอะไรกลับมาจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าถามต่อไป ทันใดนั้นหนิงหลงจึงชมเชยหัวหน้าแคว้นที่ 1 ทันทีหนิงหลง " ช่างเป็นความคิดที่ดีข้าลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ข้าสนใจเรื่องนี้ข้าจะลองปรึกษากับสามีของข้า แต่พวกเจ้าไม่ต้องห่วงจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นแน่ " ดวงตากลมโตเเหงนหน้ามองด้วยความปลื้มปิติ ซาบซึ้งในกรุณาที่คุณเป็นอย่างมาก 5 " ไม่แปลกใจเลยที่ดินแดนแห่งนี้จะเป็นดินแดนแห่งเมืองสวรรค์เพราะมีกษัตริย์รับฟังประชาชนเช่นนี้นี่เองถึงได้เจริญรุ่งเรืองสืบไปข้างหน้า " หลังจากนั้นหนิงหลงจึงให้แคว้นทั้ง 6 พักผ่อนอยู่ที่นี่สักวันแล้วค่อยออกเดินทางจะมีบ่าวรับใช้คอยส่งอาหารของว่างให้ทุก 3 เวลาไม่ขาดตก
หัวหน้าทหาร " ยินดีต้อนรับเข้าสู่ดินแดนแห่งเมืองสวรรค์ เชิญท่านชายเสด็จลงจากเรือข้าจะนำพาท่านไปพบพระราชากับพระราชินี " เหรินห่าวพร้อมบุตรสาววัย 5 ขวบและภรรยาลงมาจากเรือลำใหญ่ พร้อมองครักษ์รอบกายเมื่อหัวหน้าทหารนำพาเหรินห่าวมาถึงหน้าตำหนักแล้ว หนิงหลงกับจื่อหานก็ออกมารอต้อนรับทันทีหนิงหลง " คำนับฝ่าบาทจากแดนไกล "จื่อหาน " ท่านมาเหนื่อยๆข้าจะจัดที่พักที่ดีที่สุดให้ " เหรินห่าว " เช่นนั้นมีเวลาว่างข้าอยากจะออกไปเที่ยวชมสถานที่ผู้คนต่างเมืองชอบไปมากที่สุด " หนิงหลง " ได้เจ้าค่ะ แต่ก่อนจะไปนั่งพักให้หายเหนื่อยอยู่กลางศาลาก่อนได้หรือไม่ " เหรินห่าว " ได้ๆข้าก็มีเรื่องจะถามเจ้าอีกมากมายเลย " ทันใดนั้นหนิงหลงได้สั่งให้สาวใช้น้ำชาชั้นดีมาถวายให้ และอาหารประจำวัง ของทางราชวงศ์เจ้า สองกษัตริย์ได้คุยกันอย่างถูกคอจนลืมเรื่องเที่ยวไปเลย แต่ดูเหมือนว่าจางจื่อหาน จะเอ็นดู หนูน้อยวัย 5 ขวบตนอยากจะเล่นด้วยจึงขอท่านแม่กับท่านพ่อจางจื่อหาน " ท่านแม่ท่านพ่อน้องสาวอายุน้อยมากห่างกับข้าแค่ 2 ปี ข้าถูกชะตากับนางเหลือเกิน " แววตาใส่เสื้อบริสุทธิ์กำลังบอกท่านแม่ว่าตนนั้นอยากเป็นเพื่อนกับหนูน้อย
ยุครุ่งเรือง ณ . ตลาดกลางเมืองแม่ค้า " วันนี้ลดราคาพิเศษ หมดแล้วหมดเลย รีบ ๆ แร่เข้ามาจ้า " เสียงแม่ค้าเรียกลูกค้าแข่งกันดังไปทั่วตลาด เอ่ยเพียงครั้งเดียว ลูกค้าก็เหมาไปหมดแล้วขายดีเทน้ำเทท่า ในทุกวัน ๆ เพราะตั้งแต่เปิดพันธมิตรการค้า ผู้คนที่อาศัยอยู่แดนไกล อยากมาท่องเที่ยวที่ราชวงศ์เจ้า ไม่ว่าจะเดินไปที่ใดมีแต่ชาวเมืองอื่นที่เข้ามาเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านเหล้าดอง ร้านเสื้อผ้า ผลไม้ หรืออื่น ๆ หนิงหลงนั้นได้สร้างสถานที่ท่องเทียวขึ้นมาด้วยกัน 7 แห่ง 1 หมู่บ้านแห่งความสุข 2 บรรไดภูเขาขอพร1999 ขั้น 3 ไร่ภูเขาดอกโบตั๋น 4 ตลาดอาหารติดแม่น้ำสายใหญ่ 5 เสื้อผ้าอาภรณ์ หลากหลายชนิด 6 ที่พักวิวสวยบนเขาห้าลี้ ที่มีเมฆปกคลุมและหนาแน่นที่สุด 7 แม่น้ำสีใส่ในหุบเขา ส่วนด้านการค้าเพชร ที่ถูกสั่งทำขึ้นมาเอง นั้นก็มีลูกค้าจากต่างเมืองแวะเวียนเข้ามาที่นี่ ตลอดเวลา เพราะลูกมั่นใจในการออกแบบของหนิงหลง และมีแค่ที่ราชวงศ์เจ้าแค่ที่เดียวด้านการค้าขายผลไม้ส่งออกก็เป็นที่นิยมไม่น้อยในต่างแดน ราชวงศ์ซางเป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่ในใต้หล้า เพราะผลไม้แต่ละชนิด เป็นผลไม้ที่ในยุคจีนโบราณนั้นไ
ปลดปล่อยยามเช้าที่แสนวุ่นวายของหล่าทาสนักโทษทั้งหลาย ต้องทำงานหนักสองเท่าตัว เพื่อลดโทษ บางคนมีเมียมีลูกที่รออยู่ ด้วยความหวังจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พระชาชองค์การ จากวังหลวงขันที : สารจากพระชายา ทรงให้ข้านำพระราชโองการฉบับนี้มาแจ้งให้เหล่าทาสทุกคนได้รับรู้กันถ้วนหน้านับตั้งแต่นี้ต่อไปจะเปลี่ยนวิธีการลดโทษจากเดิม ให้เหล่าทาสทุกคนนัั้น เป็นคนงานเหมืองแร่ จะมีเงินเดือนให้ครึ่งหนึ่งในระหว่าง ที่ยังไม่พ้นโทษ แต่เมื่อใดพ้นโทษแล้ว พวกเจ้าจะได้เงินเดือนเต็มจำนวน จบราชองค์การผู้คุม " น้อมรับพระราชองค์การขอรับ " ทาส " ทรงเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนัก พระชายาทรงเมตตาและห่วงใยประชาชน ทุกหย่อมหญ้า " เหล่าทาสทั้งหลายมองขึ้นไปอย่างบนท้องฟ้าที่กำลังส่องแสงสว่างในยามเช้า มันเหมือนกับว่าชีวิตใหม่ของพวกเขากำลังจะเริ่มต้นอีกครั้งและเริ่มต้นไปในทางที่ดีขึ้น นึกถึงหน้าภรรยาและลูก ๆ ที่บ้าน ในใจก็บอกว่าอีกไม่นาน ก็จะได้เจอครอบครัวแล้ว(ป้ายประกาศ วันนี้ )ประกาศ : ภรรยาสามารถฟ้องหย่าสามีได้ หากโดนทำร้านร่างกายและจิตใจ พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นตามที่ผู้ถูกกระทำนั้นต้องการ กฏหมายมีผลนับตั้งแต่ว
คนร้าย " เรื่องที่ท่านสั่งให้กระหม่อมทำสำเร็จแล้วขอรับ " หว่านๆ ดีมากรับเงินถุงก้อนนี้ไปแล้วหนีไปไกลๆซะ'" คนร้าย " ขอรับ " หว่าน ๆ " ป่านนี้นางคงแท้งลูกจนสลบไปแล้วส่วนองค์ชายคงโดนพิษกู่จนรุ่มร้อนกระสับกระส่าย มีแต่ข้าเท่านั้นที่สามารถจะแก้พิษได้ ฮ่า ๆ " หว่าน ๆ จึงออกจากวังด้วยความมั่นใจที่ในคืนนี้จะต้องตกเป็นภรรยาของจื่อหานอีกคน หว่าน " แปลกทหารเฝ้ายามหายไปไหนหมด " ด้วยความสงสัยจึงมองดูรอบๆตำหนักเพื่อความแน่ใจ นางจึงมั่นใจว่าวันนี้ไม่มีทหารเฝ้าอยู่หน้า ตำหนัก แต่นางพลาดท่าเสียแล้วนี่คือแผนทั้งนั้น หว่าน ๆ " กลอนประตูไม่ได้ล็อคสวรรค์ช่างอยู่ข้างเสียจริง " หัวไหล่นวลผ่องไม่มีผ้าคลุมปิดอยู่เสื้อผ้าที่น้อยชิ้น เพื่อยั่วยวนสามีคนอื่นจึงไม่อายที่จะทำเช่นนี้ หว่านๆ " องค์ชาย หลับแล้วหรือเจ้าค่ะ" บนเตียงที่ไม่มีไฟสาดส่องมีแต่แสงจันทราในยามค่ำคืนสว่างให้เห็นลางๆ มือน้อย ๆ ลูบที่