로그인ตอนที่ 4 เชื่อมความสัมพันธ์ให้รักกันมากกว่าเดิม
เมื่อเจ้าหรูทำความเข้าใจเกี่ยวกับโลกนี้แล้ว
เธอก็เริ่มวางแผนในสิ่งที่จะทำต่อจากนี้ การได้เงินจากสามีนั้นถือว่าเป็นเรื่องดี แต่การที่รอเงินจากผู้ชายเพียงฝ่ายเดียวถือว่าไม่ดีแน่นอน ต้องหารายได้เพื่อเลี้ยงตัวเองให้ได้ ลำพังเพียงตัวเธอนั้นไม่เท่าไหร่ แต่ห่วงอนาคตของลูกสาวตัวน้อยมากกว่าเจ้าหรูเข้าห้องนอนเพื่อหยิบสมุดบันทึกออกมาจดรายละเอียดต่าง ๆ ที่เธอจะต้องทำ เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะทำสิ่งไหนก่อน ต้องวางแผนดี ๆ หากอยากเป็นอิสระและเป็นผู้ที่ได้เปรียบ เธอต้องรอบคอบให้มาก ๆ
แต่เหนือสิ่งอื่นใด เธอต้องนึกถึงความรู้สึกของลูกเป็นหลัก ก่อนหน้านี้ที่เจ้าหรูยังไม่ลงมือทำอะไร เพราะบางอย่างเจ้าหรูยังไม่แน่ใจ กลัวกระทบความรู้สึกของลูก และแน่นอนตอนนี้ก็เช่นกัน หากมันกระทบต่อความรู้สึกของลูกสาว เธอก็จะยังไม่ลงมือ
เจ้าหรูสอนให้ลูกใช้ชีวิตโดยที่ไม่ต้องมีพ่อ เพราะปกติจะอยู่กันสองคนอยู่แล้ว ลูกสาวของเธอจึงไม่สนิทกับคนเป็นพ่อเท่าไหร่นัก
"แม่จ๋า ตื่นแล้ว" อิงอิงยิ้มหวานส่งให้แม่ที่กำลังนั่งเขียนอะไรอยู่ข้าง ๆ
"หิวหรือยัง ขอดูก่อนว่าตัวร้อนไหม รู้สึกยังไงบ้าง" เจ้าหรูยกมือวางบนหน้าผากของลูก เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของร่างกาย
"ยังไม่หิวจ้ะ แม่กำลังเขียนเลขหนึ่ง" อิงอิงใช้นิ้วเล็ก ๆ ชี้ไปที่ตัวหนังสือที่แม่เขียน เธอจำได้!!
"เก่งมาก! ความจำดีสุด ๆ " เจ้าหรูส่งยิ้มกว้างให้ลูกสาวพร้อมทั้งเอ่ยปากชม
เพราะเธอต้องอยู่แต่บ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจึงสอนหนังสือลูกสาวทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แค่พอที่จะอ่านออกเขียนได้เท่านั้นเอง แต่เจ้าหรูก็ซื้อสมุดหนังสือเพื่อเอามาสอนลูกด้วยตัวเอง
เจ้าหรูภาคภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเธอจะอยู่โลกไหนก็ยังมีความคิดไม่งอมืองอเท้า ยังดิ้นรนและมีความคิดเป็นของตัวเอง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่คิดที่จะหย่าขาดจากสามี เธอคิดแล้ว เธอวางแผนไว้แล้วด้วย แต่ติดตรงที่ว่าเธอห่วงความรู้สึกของลูก เพราะคนในยุคสมัยนี้ชอบเอาเรื่องนี้มาล้อเป็นเรื่องสนุกปาก
หากครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งขาดคนเป็นพ่อหรือแม่ไป คนเป็นลูกจะถูกเพื่อนล้อเลียน ไม่ใช่แค่เพื่อน บางทีผู้ใหญ่เองนั่นแหละที่จะเอามาว่ากระทบกระเทียบ เจ้าหรูไม่ต้องการให้ลูกเจอเรื่องแบบนั้น เธอจึงยังใจเย็นสอนลูกให้เข้มแข็ง สอนลูกให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง หากเธอมั่นใจว่าลูกสามารถผ่านตรงนี้ไปได้ เธอถึงจะหย่าขาดจากสามี
"แม่จ๋าบอกว่าเราต้องเก่ง เราต้องดูแลกันและกัน" อิงอิงจำได้ดี พวกเธอทั้งสองคนจะต้องช่วยเหลือกัน และต้องดูแลกันเอง เพราะเธอไม่มีคนมาดูแล ไม่มีพ่อมาดูแล
"ใช่แล้วจ้ะ ถึงจะเหลือแค่เราสองคน เราก็ต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง" หลังพูดจบประโยคก็ก้มลงไปหอมแก้มลูกสาวที่น่ารักของเธอทันที
มันไม่ใช่เรื่องผิดที่เจ้าหรูจะสอนลูกแบบนี้ เพราะคนเป็นพ่อไม่ได้สนใจลูกแม้แต่น้อย เขาให้เงินในแต่ละเดือนก็จริง แต่เขาไม่ได้สนใจความรู้สึกลูกแม้แต่นิดเดียว กว่าที่ลูกเธอจะเข้มแข็งเหมือนตอนนี้ ลูกของเธอก็ถามหาคนเป็นพ่อไม่ต่างจากเด็กคนอื่น ในเมื่อเขาไม่สนใจเอง ก็อย่ามาเรียกร้องทีหลังก็แล้วกัน
ยังดีที่ลูกสาวของเธอมีหน้าตาเหมือนเธอมากกว่า ไม่เหมือนพ่อเลยสักนิด ลูกสาวถอดแบบเธอมาทั้งหมด จึงทำให้ตากับยายและลุงรักหลานสาวคนนี้มาก มาเยี่ยมพวกเธออยู่บ่อย ๆ ซึ่งแตกต่างจากครอบครัวของสามีที่ไม่เคยมาเลยสักครั้ง จะมีแต่สามีนั่นแหละที่แวะมาหาบ้าง
"อิงอิงเก่ง!! เพราะอิงอิงเป็นลูกแม่จ๋า เราเก่งเหมือนกัน" อิงอิงส่งยิ้มหวานให้แม่ พร้อมกับชูมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ บ่งบอกว่าตัวเองเก่งจริง ๆ
"ถูกต้องที่สุด!! ต่อไปนี้ลูกกับแม่จะออกกำลังกายกันทั้งเช้าและเย็น" เจ้าหรูบอกถึงสิ่งที่ตัวเองจะทำกับลูกสาวตัวน้อย
"ทำแบบไหนเหรอจ๊ะ" สาวน้อยวัยห้าขวบกว่า ๆ ที่กำลังอยากรู้อยากลอง เพราะสิ่งที่แม่พาทำแต่ละอย่างมันสนุกมาก
"ปกติเราวิ่งเล่นกันอยู่เป็นประจำใช่ไหม ต่อไปนี้จะเป็นการฝึกเหมือนทหาร เพื่อที่เราจะสามารถเอาตัวรอดได้เวลามีคนมารังแก" ถึงแม้ว่าลูกสาวจะยังเล็ก แต่ถ้ามีความรู้ในด้านนี้ไว้บ้าง ค่อย ๆ ฝึกไปเรื่อย ๆ ลูกเธอจะเก่งขึ้นมาเอง แต่ตอนนี้เธอจะเป็นคนปกป้องลูกเอง จนกว่าลูกของเธอจะสามารถปกป้องตัวเองได้
"ได้เลย! อิงอิงพร้อม! " อิงอิงชูมือสองข้างขึ้นบนอากาศ พร้อมทั้งกระโดดขึ้น บ่งบอกว่าเธอพร้อมมาก
"แต่ก่อนอื่น ลูกต้องบอกแม่ว่าทำไมถึงไปที่ลำธารคนเดียว" เธออยากรู้สาเหตุ ต้องถามให้รู้เรื่องเสียก่อนจะได้สอนถูก เพราะทุกครั้งลูกจะไม่เดินไปที่บริเวณนั้นคนเดียว
อิงอิงเลยเล่าให้แม่ฟังว่า ตอนที่เธอเล่นอยู่หน้าบ้าน และแม่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว พี่สาวคนสวยมาบอกให้เธอไปหาพ่อที่ลำธาร เธอก็เลยตามไป
เจ้าหรูได้ฟังก็ถึงกับหัวร้อนขึ้นมาในทันที ช่างกล้า!! มาหลอกลูกสาวเธอถึงในบ้านเลยทีเดียว ครั้งนี้คงต้องเล่นงานให้หนัก แต่ก็คงจัดการแบบเปิดเผยไม่ได้ เธอจะลองเปลี่ยนวิธีการเอาคืน เพราะการเอาคืนแบบซึ่ง ๆ หน้า เธอจะเสียเปรียบตลอด แต่รับรองว่างานนี้ได้รู้กันทั้งหมู่บ้านอย่างแน่นอน
เจ้าหรูเชื่อในสิ่งที่ลูกสาวบอก ถึงแม้ลูกสาวจะพูดวกไปวนมา แต่จับใจความได้ เพราะเธออยู่ด้วยกัน พูดคุยกันตลอดอยู่แล้ว และมันเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้ว เรื่องที่คนรักของสามีมาหลอกล่อลูกสาวของเธอออกไป แรก ๆ เธอก็บอกสามี บอกครอบครัวสามี แต่ทุกคนคิดว่าเธอโกหก หลัง ๆ เลยไม่บอกและค่อย ๆ สอนลูกด้วยตัวเอง แต่เพราะลูกสาวยังเด็กจึงจำในสิ่งที่เธอสอนได้บ้างไม่ได้บ้าง
"แม่ว่าเราไปหัดว่ายน้ำด้วยกันดีไหม ลูกจะได้ว่ายน้ำเป็น" เมื่อคิดทบทวนแล้วว่าสิ่งไหนจำเป็นจะต้องเรียนรู้ก่อน เธอก็ไม่รอช้าที่จะชวนลูกทำสิ่งนั้น ในเมื่อบ้านอยู่ใกล้แม่น้ำใกล้ลำธาร สิ่งแรกที่เธอจะต้องทำคือสอนให้ลูกว่ายน้ำและเอาตัวรอดให้ได้เสียก่อน เพราะเธอไม่สามารถเฝ้าลูกได้ตลอดเวลา
"ทำได้เหรอจ๊ะ" เธอก็อยากว่ายน้ำเหมือนกัน
"ได้! ต่อไปช่วงเช้าเราจะวิ่งออกกำลังกาย แล้วมาฝึกการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว ตอนเย็นเราจะไปหัดว่ายน้ำกันดีไหม" เจ้าหรูบอกถึงสิ่งที่จะทำ แม้บางอย่างลูกจะไม่รู้เรื่อง แต่เธอก็บอกเล่าให้ลูกฟัง
การสอนลูกของเจ้าหรูเหมือนสอนไปด้วย แนะนำพูดคุยไปด้วย เรียนรู้หลาย ๆ อย่างไปพร้อม ๆ กัน จึงทำให้ลูกสาวกล้าที่จะพูดกล้าแสดงความคิดเห็น
"แม่จ๋า... ว่ายน้ำเลยไหม" อิงอิงเขย่าตัวแม่เพราะเธออยากว่ายน้ำ
"ลูกต้องบอกอาการก่อน ตอนนี้มีอาการแบบไหนบ้าง ถ้าลูกตอบแล้วแม่คิดว่าเราสามารถไปหัดว่ายน้ำได้ เราค่อยไป แต่ถ้าแม่ดูแล้วว่ามันไม่ไหว ค่อยไปวันอื่นดีไหม" ถึงแม้จะดูแล้วว่าลูกสาวปกติดี แต่ก็ต้องสอบถามก่อนเพื่อความแน่ใจ
เมื่อสองแม่ลูกคุยกันรู้เรื่องแล้ว เจ้าหรูเลยตัดสินใจจะพาลูกสาวไปหัดว่ายน้ำในเย็นวันนี้ ช่วงเวลานี้เหมาะแก่การฝึกว่ายน้ำ เพราะอากาศไม่ได้หนาวเย็นมากนัก ดีที่ทั้งสองออกกำลังกายกันอยู่เป็นประจำ ถึงแม้การออกกำลังกายนั้นจะเป็นเพียงการวิ่งเล่น แต่ทั้งสองก็วิ่งในระยะทางที่ไกลและวิ่งแทบทุกวัน จึงทำให้ร่างกายของทั้งคู่ค่อนข้างแข็งแรงพอสมควร
"ทีหลังหากใครมาชวนไปไหน แม้เขาจะเอาใครมาอ้าง ลูกก็ห้ามไปเด็ดขาด มีอะไรต้องบอกแม่และถามแม่ก่อนเสมอ เข้าใจไหม" เมื่อคุยกันเข้าใจแล้ว เจ้าหรูก็ย้ำถึงเรื่องนี้อีกครั้ง เธอไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
"เข้าใจจ้ะ" อิงอิงรับปากอย่างแข็งขัน ต่อไปนี้เธอจะไม่เชื่อใครอีกแล้ว!!
ก่อนหน้านี้ที่ลูกตามไปเพราะลูกยังเล็ก ไม่ค่อยรู้เรื่อง ใครชวนไปไหนก็ไปหมด แต่ครั้งนี้เธอเน้นย้ำ และลูกสาวอายุห้าขวบจะหกขวบแล้ว โตขึ้นมากจากแต่ก่อน หากเธอเน้นย้ำเรื่องนี้บ่อย ๆ ลูกสาวจะต้องจำได้แน่นอน
เมื่อพอมีเวลา ลูกอยากไปหัดว่ายน้ำ ทั้งสองจึงพากันเปลี่ยนชุดแล้วจูงมือกันไปที่ลำธารที่อยู่ใกล้ ๆ บ้านทันที
เจ้าหรูค่อย ๆ สอนลูกว่ายน้ำ สอนไปด้วยพูดคุยไปด้วย บางครั้งก็พากันหัวเราะเสียงดัง ลูกสาวก็พูดเจื้อยแจ้ว คอยถามว่าตัวเองทำถูกไหม บางครั้งก็พากันเล่นน้ำ แกล้งกันบ้างจนพากันหัวเราะเสียงดังไปทั่วบริเวณ มีทั้งเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุย หากใครผ่านไปมาแล้วได้ยินก็ต้องหยุดฟังเป็นธรรมดา เพราะเป็นเสียงของคนสองคนที่กำลังเล่นกันอย่างมีความสุข
ทั้งสองไม่รู้เลยว่าภาพที่ทั้งสองกำลังเล่นน้ำกันนั้น มีคนมายืนมองอยู่ คนคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาจะแวะมาดูสองแม่ลูกอยู่เป็นประจำ แต่นี่คือครั้งแรกที่ได้เห็นทั้งสองคนพูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุขสนุกสนาน เพราะปกติแล้วทั้งสองจะค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยพูดคุย ถามคำตอบคำเพียงเท่านั้น
นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นว่าสองคนเล่นกันจนลืมสนใจสิ่งรอบข้าง หรือปกติสองแม่ลูกเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่เขาไม่เคยเห็นเท่านั้นเอง หากวันนี้เขาไม่ออกมาเร็วก็คงไม่เห็นแน่นอน เพราะทุกครั้งที่เขาออกมาจะเป็นเวลามืดค่ำแล้ว
เมื่อเห็นว่าทั้งสองอยู่ดีมีความสุข เขาก็ไม่อยากขัด จึงหันหลังเดินกลับออกจากบริเวณนั้นทันที...
ตอนที่ 10 สำรวจตลาดเจ้าหรูพาทั้งสองเด็กน้อยขึ้นเขาไปตัดต้นไผ่เพื่อนำมาทดลองใช้เครื่องผลิตกระดาษ ในรายละเอียดการใช้งานเครื่องระบุว่าสามารถใช้ต้นไม้อะไรก็ได้ แต่ก็ยังมีข้อแม้ว่าจะใช้ได้เพียงต้นไม้ชนิดนั้นเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นต้นไม้อย่างอื่นได้อีกเจ้าหรูตัดสินใจใช้ต้นไผ่ เพราะมันมีเยอะมากมาย และยังสามารถพบเจอได้ง่าย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีต้นไผ่เกิดขึ้นมากมาย บนภูเขา ตามท้องนา หรือในหมู่บ้านก็มีต้นไผ่อยู่ทั่วทุกที่ รับรองว่าเธอไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอนผลการทดลองใช้ต้นไผ่เพียงหนึ่งลำ สามารถผลิตกระดาษอย่างดีได้ถึง 100แผ่น แต่หากคุณภาพกระดาษลดลงมาก็จะได้จำนวนกระดาษเพิ่มขึ้นเป็น 200 แผ่น แต่ต้องอยู่กับขนาดของลำต้นที่ใช้ด้วยเช่นกันส่วนการใช้ต้นไผ่นั้น... สามารถใส่ลงได้ทั้งต้น ไม่ต้องเอาใบออก เพราะส่วนใบจะนำไปผลิตยางลบกับดินสอได้ด้วย
ตอนที่ 9ลู่ทางหาเงินตอนนี้เจ้าหรูอยู่ในโกดังขนาดใหญ่ โกดังแห่งนี้มีสิ่งของมากมาย สิ่งของเหล่านั้นมาจากโลกต่างๆที่ถิงถิงไปเยือน แล้วนำมาเก็บไว้ในสถานที่แห่งนี้พรวิเศษที่มาจากสร้อยไข่มุกยังไม่ปรากฏ ถิงถิงให้เธอมาหาสิ่งของต่าง ๆ จากโกดังแห่งนี้เผื่อมีสิ่งไหนสามารถเอาไปสร้างอาชีพได้จึงต้องพากันเดินสำรวจก่อนตัดสินใจถิงถิงบอกว่าโกดังแห่งนี้อยู่ในมิติของนายหญิง ต้องมีถิงถิงเป็นคนพาเข้าออก คนนอกไม่สามารถเข้าออกได้ แม้แต่นายท่านยังไม่สามารถเข้ามาได้เลย เจ้าหรูไม่รู้หรอกว่านายท่านคือใคร และไม่ได้ถามต่อด้วยเช่นกัน เล่าให้ฟังแค่ไหนก็ฟังแค่นั้นเอง"เวลาในนี้กับเวลาข้างนอกเท่ากันไหม" เพราะลูกนอนหลับอยู่ข้างนอก เธอจะได้คำนวณเวลาได้ถูก ไม่อยากให้ลูกตื่นมาแล้วไม่เจอใคร"ถิงถิงหยุดเวลาไว้เจ้าค่ะ เราออกไป
ตอนที่ 8ผู้มาเยือนสองแม่ลูกกลับมาอยู่บ้านตัวเองได้เกือบสามวันแล้วเรื่องที่เธอจะหย่ากับสามี เธอได้บอกพ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้แล้ว ทุกคนให้เธอเป็นคนตัดสินใจเอง พวกเขาจะคอยอยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจแบบไหนหรือยังไงซึ่งมันเป็นแบบนี้มาตลอด พ่อแม่ไม่เคยซ้ำเติม มีแต่คอยให้กำลังใจและพร้อมจะช่วยเหลือเสมอเจ้าหรูไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองเรียกเงินจากครอบครัวสามี เพราะเธอรอก่อนว่าทางสามีจะว่าอย่างไร จะตกลงไหม เธอไม่ได้ใจเย็น รอแบบไม่มีระยะเวลากำหนด แต่เธอมีกำหนดเวลาไว้แล้วต่างหากหากว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งดีกับลูกสาวของเธอบ้าง เธอจะไม่ทำถึงขนาดนี้ แต่ครอบครัวหลิวกลับไม่สนใจความรู้สึกของลูกสาวเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่สนใจไม่ว่า บางครั้งยังพูดจาไม่ดีใส่อิงอิงอีกด้วย"อิงอิง ลูกอยู่ไหน" เมื่อมอ
ตอนที่ 7ครอบครัวกู้"อิงอิง มาหายาย" หลินฟางเรียกหลานสาวทันทีที่มาถึง"ยายจ๋า... ตาจ๋า... สวัสดีจ้า" อิงอิงวิ่งก้นสายดุ๊กดิ๊กไปหายายกับตาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าเจ้าหรูหันไปมองพ่อกับแม่พร้อมกับยิ้มทักทาย พ่อกับแม่ยังแข็งแรงดีและยังเข้าใจเธอเป็นอย่างมากเหมือนเดิม เธอโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวนี้ เพราะพ่อกับแม่รับฟังเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ลูกจะทำผิดแค่ไหน พ่อกับแม่จะใจเย็นแล้วค่อย ๆ ตักเตือนและสอนให้ลูกเข้าใจแต่คนเราไม่ได้โชคดีทั้งหมด เธอมีครอบครัวพ่อแม่ พี่ชายพี่สะใภ้ที่ดี แต่เธอกลับมีสามีที่พยายามตีตัวออกหาก ครอบครัวสามีไม่ต้อนรับ เพราะเธอไม่ใช่คนที่พวกเขาเลือกไว้เท่านั้นเองอาจเพราะเคยผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายแล้ว จึงคิดว่าแค่เรื่องครอบครัวสามีและสามีไม่ต้องการนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอไปเส
ตอนที่ 6 แม่สอนลูกสาวผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วหลังจากที่เธอพูดคุยเรื่องหย่ากับสามีเขาหายไปตั้งแต่วันนั้นและยังไม่กลับมาไม่แน่ใจว่าคำตอบจะเป็นแบบไหน แต่เจ้าหรูไม่รีบร้อน เธอใจเย็นรอได้เสมอช่วงเวลานี้เธอก็สอนลูกไปด้วย สิ่งที่แม่สอนลูกสาว ส่วนมากเป็นสิ่งที่สอนให้เข้มแข็ง กล้าแสดงออก หากเราไม่ได้ทำอะไรผิดอย่าได้กลัว จงกล้าที่จะพูดเพื่อปกป้องตัวเอง อย่ารอให้คนอื่นมาช่วย ทั้งที่รู้ว่าบางอย่างลูกยังไม่เข้าใจ แต่เธอก็พูดและอธิบายให้ฟัง และเน้นย้ำหากไม่เข้าใจหรืออยากรู้อะไรให้ถามได้เลยช่วงนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแม่สอนลูกสาวเพียงอย่างเดียว แม่ต้องคอยถามเรื่องที่ลูกสาวบอกว่าหลิวเย่ไม่ใช่พ่อแล้วยังบอกว่าพ่อของเธอคือใครอีกคนหนึ่ง เจ้าหรูพยายามถามแต่ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดีเจ้าหรูเลยคิดว่าลูกสาวอาจสร้างพ่อในจินตนาการขึ้นมา เพราะตอนเด็ก ๆ
ตอนที่ 5 สามีที่น่ารังเกียจผ่านมาสามวันแล้วที่เจ้าหรูมาอยู่ที่โลกใบนี้ สามวันที่เฝ้ารอว่ามีสิ่งของอะไรติดตัวมาบ้าง แต่ทุกอย่างก็ยังเงียบไม่มีปฏิกิริยาตอบรับหรือผิดปกติอะไรเลย แต่เธอก็ยังใส่สร้อยไข่มุกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะจำที่ถิงถิงเคยบอกไว้ว่า... บางครั้งพรวิเศษอาจปรากฏช้า เธอเลยเฝ้ารอเวลาอย่างใจจดใจจ่อวันแรกที่เจ้าหรูพาลูกสาวไปหัดว่ายน้ำ เธอรู้ว่ามีคนมายืนดูเธอสองคนแม่ลูกเล่นน้ำ แต่ที่เธอทำตัวปกติเหมือนไม่รับรู้การมีอยู่ของเขา เพราะเขาไม่มีค่ามากพอที่จะทำให้เธอหยุดเล่นสนุกกับลูก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกสาวมีค่ามากกว่าการที่เธอจะหยุดทักทายเขาหากเดาไม่ผิด เธอคิดว่าคนรักของเขาคงไปบอกข่าวเกี่ยวกับเรื่องเธอและลูก เขาถึงออกมาดู แต่เมื่อมาเห็นแล้วว่าเธอกับลูกอยู่ดีมีความสุข เขาก็กลับไปทันที และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ไม่เห็นเขาออกมาที่นี่อีกเลยเจ้าหรูจะพาลูกสาววิ่งออกกำลังกายในทุกเช้า และต่อด้วยฝึกท่าทางต่าง ๆ ที่เธอเคยเรียนมา ศิลปะการป้องกันตัวทั้งหลายที่เคยเรียนมา เธอก็เอาออกมาฝึกกับลูกสาว ถึงแม้ลูกสาวจะยังเล็ก แต่หากฝึกไปเรื่อย ๆ มันต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ดีที่อิงอิงตัวน้อย







