หน้าหลัก / แฟนตาซี / ข้ามมิติมารวย / ตอนที่ 2 ข้ามมิติมาเป็นสาวมัธยมปลาย

แชร์

ตอนที่ 2 ข้ามมิติมาเป็นสาวมัธยมปลาย

ผู้เขียน: ลัยลา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-23 12:08:04

เมื่อใกล้ถึงปากทางออก แสงที่ส่องเข้ามาก็ดูเหมือนว่าจะสว่างมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าจนเธอมองไม่เห็นอะไรเลย ก่อนจะรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างราวกับเธอเป็นแผ่นโลหะที่กำลังถูกแม่เหล็กขนาดยักษ์ดึงดูดเข้าไปที่ใดที่หนึ่ง

ผ่านไปชั่วครู่ก็มีภาพความทรงจำของเด็กสาวผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาให้เห็นฉายเป็นภาพอยู่ในสมอง ประทับอยู่ในความทรงจำ เป็นเรื่องของเด็กสาวอายุ 17 ปีนามว่าซูหนิงเฉิน รูปร่างหน้าตาชื่อสกุลคล้ายคลึงกลับเธอทุกอย่างเพียงแต่เป็นเธอในช่วงวัยรุ่นเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปีสุดท้ายที่โรงเรียนแถบชานเมืองเจิ้นโจว

ครอบครัวของหนิงเฉินที่นี่อยู่ร่วมกันกับปู่ย่ามีนามว่าซูเมิ่งจื่อกับซูไห่เม่ย เธอมีลุงคนหนึ่งนามว่าซูอี้ไห่กับภรรยาหรือป้าสะใภ้ของหนิงเฉินนามว่าซูเจียหลินพวกเขามีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคนอายุ 18 ปีนามว่าซูจินม่าย ลุงของเธอทำงานเป็นผู้จัดการห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมือง ป้าสะใภ้เป็นแม่บ้าน จินม่ายกำลังเรียนในมหาลัยเจิ้นโจวชั้นปีที่ 1 ครอบครัวของลุงจึงไปเช่าบ้านอยู่ร่วมกันในเมือง

ส่วนครอบครัวเธออยู่กับปู่ย่าที่นอกเมืองแห่งนี้โดยมีพ่อของเธอนามว่าซูอี้เฉิน แม่ของเธอนามว่าซูเย่าหลิน เธอมีพี่ชาย 1 คนนามว่าซูห่าวหมิง อายุ 20 ปีเรียนอยู่มหาลัยเจิ้นโจวชั้นปีที่ 3 พักอยู่ในหอพักของมหาลัย ส่วนน้องชายอายุ 15 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายโรงเรียนเดียวกันกับเธอ

ครอบครัวของเธอมีอาชีพเกษตรกรรมปลูกผัก ผลไม้ เลี้ยงสัตว์โดยพ่อกับปู่เป็นหัวแรงใหญ่ในการทำงาน ย่าเป็นแม่บ้านเต็มตัว ส่วนแม่ของเธอเป็นแม่บ้านช่วยทำเกษตร รับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้า ตัวเธอถ้ามีเวลาเหลือจากการเรียนก็จะช่วยครอบครัวทำงานทุกอย่างเช่นเดียวกับน้องชาย

ฐานะทางบ้านของครอบครัวเธอโดยรวมแล้วไม่ได้ร่ำรวยอะไรนักแต่ก็ไม่ถึงกับลำบากยากแค้น มีที่ดินทำกินสืบต่อมาจากบรรพบุรุษไม่น้อยเลย ครอบครัวของลุงเธอนับว่ามีฐานะดีกว่า เนื่องจากลุงเธอมีโอกาสได้เข้าทำงานในห้างสรรพสินค้าใหญ่ทั้งที่เรียนจบเพียงชั้นมัธยมปลาย ไต่เต้าจนได้เป็นผู้จัดการห้างสรรพสินค้า ผิดกับพ่อของเธอที่คอยช่วยปู่ทำการเกษตรอยู่ที่ชานเมืองนี้

พอหนิงเฉินได้รับรู้เรื่องของตัวเองในยุคนี้โดยรวมแล้วก็นับว่าพอใจในระดับหนึ่ง ครอบครัวเธอไม่นับว่าเลวร้ายอะไร หากไม่ติดเรื่องที่ว่าปู่กับย่าไม่สนับสนุนให้เธอเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยเพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงจับแต่งงานไปซะก็จบเรื่อง ส่วนพ่อกับแม่ของเธออยากสนับสนุนแต่ก็ขาดกำลังทรัพย์ เพราะต้องเตรียมเงินให้น้องชายของเธอได้เรียนสูงๆด้วย ทำให้หนิงเฉินต้องหาทางขวนขวายทุกอย่างด้วยตนเองเพื่อที่จะเข้าเรียนต่อมหาลัยที่นี่ให้ได้

ส่วนเรื่องที่เธอเข้ามาเป็นหนิงเฉินในยามนี้ได้ยังไงนั้นก็เนื่องด้วยหนิงเฉินเกิดอุบัติเหตุตกลงไปในธารน้ำขณะเดินทางกลับจากโรงเรียนมาที่บ้านของเธอ แล้วก็มานอนเกยฝั่งอยู่ไม่ไกลจากสวนที่ดินบ้านของเธอเท่าไรนัก ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมหนิงเฉินจึงฟื้นขึ้นมาด้วยสภาพร่างกายที่บอบช้ำเปียกปอนไปหมดทั้งตัวแบบนี้

‘เฮ้อ หนิงเฉินเธอเป็นคนซุ่มซ่ามสินะ แต่เอาเถอะต่อไปนี้ฉันจะใช้ชีวิตแทนเธอให้ดีเลยทีเดียว’ หนิงเฉินคนใหม่คิด พร้อมกับมองกำไลข้อมือวิเศษที่ติดตัวมาด้วยเพียงสิ่งเดียว ก่อนจะกดปุ่มกลไกที่พลอยสีเขียว หายาแก้ปวด แก้อักเสบ ฟกช้ำขึ้นมากินและทาตรงบริเวณที่บาดเจ็บ เพียงไม่นานนักอาการบอบช้ำเจ็บปวดของเธอก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

หนิงเฉินจึงรีบลุกขึ้นและสำรวจโดยรอบก่อนจะใช้งานพลอยสีแดงนำถุงกำมะหยี่ขนาดพอดีกับกำไลเพื่อเอามาใส่เก็บเอาไว้ไม่ให้ผู้ใดเห็น เพราะครอบครัวของหนิงเฉินคงไม่คิดว่าเธอมีปัญญาซื้อหากำไลที่ดูดีมีราคาเช่นนี้มาใส่แน่

จากนั้นหนิงเฉินก็เดินทางมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของเธอซึ่งเป็นตัวเรือนแยกออกมาไม่ห่างจากบ้านหลังใหญ่ที่ปู่กับย่าของเธออาศัยอยู่มากนัก

เมื่อกลับมาถึงก็เห็นแม่ของเธอกำลังนั่งตัดเย็บเสื้อผ้าที่รับจ้างตัดให้คนในหมู่บ้านซินหยางอยู่

“สวัสดีค่ะแม่ หนูกลับมาแล้วค่ะ” หนิงเฉินเอ่ยทักทายผู้เป็นมารดาด้วยรอยยิ้ม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอซึ่งเป็นเด็กกำพร้าได้เรียกแม่ของตนเองเช่นนี้ นับว่าไม่เลวเลยเพราะยามนี้เธอเป็นเด็กสาวที่มีครอบครัวใหญ่พอดู แม้นจะไม่ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้แร้นแค้นอะไรนัก

‘ส่วนเรื่องของความมั่งคั่งร่ำรวยนั้นยกให้เป็นหน้าที่ของเธอเถอะ เธอจะเป็นผู้ไขว่คว้ามาให้ทุกคนเอง’ หนิงเฉินคิดอย่างหมายมาด

“เฉินเอ๋อกลับมาแล้วเหรอลูก ทำไมเสื้อผ้าผมเผ้าถึงเป็นแบบนั้นล่ะ ไปตกน้ำที่ไหนมางั้นหรือ” เย่าหลินถามบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นบุตรสาวกลับบ้านมาด้วยสภาพมอมแมม เสื้อผ้าเปียกชื้นไปหมด

“ไม่ต้องห่วงค่ะแม่ หนูแค่แวะไปเดินเล่นริมธารน้ำแล้วซุ่มซ่ามลื่นไถลตกลงไปเปียกเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ งั้น..เดี๋ยวหนูรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะจะได้มาช่วยแม่ทำงานไง” หนิงเฉินกล่าว ก่อนจะรีบขึ้นห้องของตัวเองไป ไม่ทันให้เย่าหลินได้ซักถามอะไรต่อ

เมื่อขึ้นมาบนห้องของหนิงเฉินซึ่งเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กมีพื้นที่สำหรับเตียงนอนเดี่ยวเตียงหนึ่ง โต๊ะหนังสือมีตะเกียงตั้งไว้พร้อมสมุดหนังสือ อุปกรณ์เครื่องเขียนจำนวนหนึ่ง มีที่ให้วางตู้ใส่เสื้อผ้า ชั้นไม้วางของและตู้ขนาดย่อมไว้เก็บข้าวของอีกตู้หนึ่ง เพียงเท่านั้น

‘ยังดีที่ห้องนี้มีหน้าต่างเปิดให้มองออกไปเห็นทิวทัศน์ด้านนอกด้วย แม้นจะเล็กแต่ก็อบอุ่นสบาย ส่วนห้องน้ำต้องใช้รวมกันด้านบนห้องหนึ่ง หนิงเฉินมองสำรวจคร่าวๆก่อนจะรีบอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปช่วยแม่ของเธอทำงานตามที่ตั้งใจไว้

เมื่อลงมาถึงแม่ของเธอก็เข้าครัวไปเตรียมอาหารแล้ว หนิงเฉินจึงตามเข้าไปช่วยในครัวด้วยอีกแรง

“แม่คะ วันนี้ทำอะไรทานบ้างหรือคะ” หนิงเฉินเข้ามาถามเย่าหลินที่กำลังง่วนอยู่กับการทำปลาสดๆที่ซื้อมาจากตลาดเมื่อเช้านี้

“แม่จะทำหมูสามชั้นตุ๋นผักกาดดอง ปลานึ่งขิง ซุปเต้าหู้ มะเขือเทศผัดไข่ เสร็จแล้วลูกช่วยแบ่งหมูสามชั้นตุ๋นผักกาดดองนี่ไปให้คุณปู่กับคุ้นย่าด้วยนะ” เย่าหลินตอบบุตรสาว

“ได้ค่ะ งั้นหนูช่วยทำจะได้เสร็จไวๆ” หนิงเฉินอาสา ก่อนหน้านี้เธอซึ่งเป็นเด็กกำพร้าทำงานมาสารพัดรูปแบบแล้ว ส่วนเรื่องอาหารเธอก็มักจะทำกินเองเพื่อความประหยัดและอร่อยถูกใจ จึงนับว่ามีฝีมือของเธอในการปรุงอาหารนับว่าดีไม่น้อยเลยล่ะ

หลังจากเตรียมกับข้าวเสร็จ น้องชายของเธอห่าวเยว่ก็กลับมาถึงพอดี ตามด้วยพ่อของเธอซูอี้เฉิน

“พี่หนิงเฉินวันนี้กลับมาไม่รอเลยนะ” ห่าวเยว่เอ่ยกับพี่สาวเพราะพวกเขาเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน

“ก็ฉันหมดคาบเรียนแล้วนี่ เลยรีบกลับมาช่วยงานแม่ไง” หนิงเฉินตอบ

“อืมก็ได้เข้าใจแล้วละ งั้นผมขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” ห่าวเยว่กล่าวก่อนจะรีบขึ้นไปด้านบน

“พ่อคะ นี่น้ำค่ะ” หนิงเฉินกล่าวก่อนจะรินน้ำไปให้พ่อของเธอซึ่งกลับเข้ามาเหนื่อยๆ

“ขอบใจลูก” อี้เฉินกล่าวขอบคุณ หนิงเฉินยิ้มรับ จากนั้นจึงขอตัวนำหมูสามชั้นตุ๋นผักดองไปให้ที่บ้านใหญ่ของปู่ย่า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนที่ 5 กลับมาสำรวจที่บ้านต่อ

    หนิงเฉินเดินเข้ามาดูสองปู่หลานช่วยกันซ่อมเล้าไก่ก่อนจะเอ่ยปากทักทายพวกเขา“คุณปู่ เสี่ยวเยว่ซ่อมเล้าไก่ใกล้เสร็จหรือยังคะ”“อ้อ..เฉินเอ๋อกลับมาแล้วเหรอ เราซ่อมเล้าไก่กันใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ หนูมาก็ดีแล้ว ปู่มีธุระสำคัญจะคุยด้วยพอดี” คุณปู่ซูเอ่ยกับหลานสาว“ธุระสำคัญงั้นเหรอคะ เรื่องอะไรกันคะคุณปู่”“เดี๋ยวทำงานนี้เสร็จแล้วค่อยคุยก็แล้วกันนะ” คุณปู่ซูยังไม่ยอมบอกธุระที่ว่าสำคัญนั้น“ได้ค่ะ งั้นหนูกลับไปช่วยคุณแม่ทำของว่างมาให้ทุกคนทานก่อน แล้วถ้าคุณปู่เสร็จงานทางนี้ให้เสี่ยวเยว่ไปตามหนูก็แล้วกันนะคะ”“เอางั้นก็ได้” คุณปู่ซูรับคำ ส่วนห่าวเยว่ก็พยักหน้าให้พี่สาวเป็นการตอบรับ หนิงเฉินจึงบอกคุณย่าซูนิดหนึ่งว่าจะไปทำของว่างมาให้จากนั้นก็เดินกลับไปที่บ้านเมื่อมาถึงหนิงเฉินก็อาสาเข้าครัวก่อนจะลงมือทำของว่างเป็นบัวลอยไส้งาดำน้ำขิงง่ายๆให้กับทุกคน หลังจากทำของว่างเสร็จห่าวเยว่ก็กลับมาที่บ้านพอดี หนิงเฉินจึงยกของว่างมาให้พ่อกับแม่จากนั้นก็นำส่วนของตนเองและปู่ย่าไปให้ที่บ้านอีกหลัง“เสี่ยวเยว่เดี๋ยวนายไปตักของว่างเอาเองในครัวนะ พี่จะเอาของว่างไปให้ปู่กับย่า แม่กับพ่อคะหนูไปทานของว่างที่บ้านนู้นเลย

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนที่ 4 สำรวจตลาดมืด

    หลังจากคุณลุงคนที่เป็นลูกค้าร้านขายของป่าได้ฟังตำแหน่งที่ตั้งของตลาดมืดจากพ่อค้าของป่าแล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางทันที โดยมีหนิงเฉินแอบลอบตามไปห่างๆเส้นทางไปยังตลาดมืดค่อนข้างจะวกวนไม่น้อย หากไม่ใช่คนในพื้นที่หรือแม้นแต่คนในพื้นที่เองก็เกรงว่าจะหลงทางได้ถ้าไม่เคยไปมาก่อน และคุณลุงคนนั้นก็พาเธอเดินวนไปเวียนมาจนสับสน แต่สุดท้ายก็มาถึงจุดหมายปลายทางจนได้สภาพของตลาดมืดดูดีกว่าที่เธอคิดเอาไว้ ได้ยินว่ายุคสมัยนี้รัฐบาลไม่ค่อยจะเข้มงวดกับการค้าขายในตลาดมืดมากนักจึงมีผู้คนคึกคักมากมายไปหมดหนิงเฉินเดินสำรวจร้านค้าต่างๆที่มีสินค้าดีคุณภาพสูงเยอะแยะมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน มีตั้งแต่พืชผักผลไม้ สมุนไพร เครื่องเทศ ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับของตกแต่ง อาหารสด อาหารแห้ง อาหารแปรรูป ไปจนกระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายประเภท แม้นแต่รถจักรยานก็มีขายที่นี่ นับว่าเป็นตลาดที่มีสินค้าครบครันจริงๆ ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดด้วยคูปอง เพียงมีเงินสดก็สามารถจับจ่ายซื้อขายกันได้แล้วหนิงเฉินเตรียมสมุดและปากกามาจดรายละเอียดที่สำคัญต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าที่ซื้อขายกันในตลาดมืด

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนที่ 3 มุ่งหน้าทำตามความฝัน

    หนิงเฉินเดินเข้ามาในบ้านของปู่กับย่าในมือถือชามใส่หมูสามชั้นตุ๋นผักดองชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่พอสมควรสองชิ้นเอาไว้ส่งกลิ่นโชยหอมน่ากินเธอเดินดูไปรอบๆบ้านแต่ยังไม่เห็นใครที่นั่น หากแต่เดินไปได้สักพักเธอก็ได้กลิ่นหอมอบอวลของกับข้าวลอยมาจากในครัว หนิงเฉินไม่รีรอเดินตามกลิ่นหอมๆนั้นไปทันที“คุณปู่คุณย่าอยู่ที่นี่เองเหรอค่ะ” หนิงเฉินส่งเสียงทักทายสองผู้เฒ่าที่กำลังช่วยกันหุงหาอาหาร“อ้อ..เฉินเอ๋อนั่นเอง ว่าอย่างไรเล่า” คุณปู่ซูเอ่ยทักทายและออกปากถามหลานสาว“คุณแม่ให้หนูเอาหมูสามชั้นตุ๋นผักดองมาให้ค่ะ” หนิงเฉินตอบก่อนจะเดินไปทางคุณย่าซู“อืม หน้าตาน่ากิน กลิ่นก็หอมสมกับเป็นฝีมือเย่าหลิน ต้องอร่อยแน่ๆ” คุณย่าซูเอ่ยกับหลานสาว“ใช่ค่ะ อาหารฝีมือคุณแม่อร่อยทุกอย่าง ความจริงคุณปู่คุณย่าเองก็ไม่น่าต้องลำบากทำอาหารทานเองเลยนะคะ ไปทานด้วยกันกับพวกเราก็ได้นี่คะ” หนิงเฉินเอ่ย เนื่องจากคุณปู่คุณย่าของเธอไม่ได้เรียกรวมทานอาหารด้วยกันทุกมื้อ เพียงแต่นัดแนะทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันสัปดาห์ล่ะครั้ง ส่วนทางด้านครอบครัวของคุณลุงก็จะกลับมาเยี่ยมบ้านอย่างน้อยเดือนละครั้งและทานอาหารร่วมกันทุกคนส่วนห่าวหมิงพี่ช

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนที่ 2 ข้ามมิติมาเป็นสาวมัธยมปลาย

    เมื่อใกล้ถึงปากทางออก แสงที่ส่องเข้ามาก็ดูเหมือนว่าจะสว่างมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าจนเธอมองไม่เห็นอะไรเลย ก่อนจะรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างราวกับเธอเป็นแผ่นโลหะที่กำลังถูกแม่เหล็กขนาดยักษ์ดึงดูดเข้าไปที่ใดที่หนึ่งผ่านไปชั่วครู่ก็มีภาพความทรงจำของเด็กสาวผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาให้เห็นฉายเป็นภาพอยู่ในสมอง ประทับอยู่ในความทรงจำ เป็นเรื่องของเด็กสาวอายุ 17 ปีนามว่าซูหนิงเฉิน รูปร่างหน้าตาชื่อสกุลคล้ายคลึงกลับเธอทุกอย่างเพียงแต่เป็นเธอในช่วงวัยรุ่นเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปีสุดท้ายที่โรงเรียนแถบชานเมืองเจิ้นโจวครอบครัวของหนิงเฉินที่นี่อยู่ร่วมกันกับปู่ย่ามีนามว่าซูเมิ่งจื่อกับซูไห่เม่ย เธอมีลุงคนหนึ่งนามว่าซูอี้ไห่กับภรรยาหรือป้าสะใภ้ของหนิงเฉินนามว่าซูเจียหลินพวกเขามีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคนอายุ 18 ปีนามว่าซูจินม่าย ลุงของเธอทำงานเป็นผู้จัดการห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมือง ป้าสะใภ้เป็นแม่บ้าน จินม่ายกำลังเรียนในมหาลัยเจิ้นโจวชั้นปีที่ 1 ครอบครัวของลุงจึงไปเช่าบ้านอยู่ร่วมกันในเมืองส่วนครอบครัวเธออยู่กับปู่ย่าที่นอกเมืองแห่งนี้โดยมีพ่อของเธอนามว่าซูอี้เฉิน แม่ของเธอนามว่าซูเย่าหลิน เธอมีพี่ชาย 1

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนที่ 1 การเดินทางข้ามมิติเวลา

    ณ.ห้องปฏิบัติการข้ามเวลาปี ค.ศ. 2050 ซูหนิงเฉินบัณฑิตจบใหม่ในสาขาวิชาภาคการเกษตรได้เตรียมตัวพร้อมที่จะเป็นหนูทดลองให้กับการปฏิการข้ามมิติเวลาไปยังโลกยุคอดีตหนิงเฉินซึ่งเป็นเด็กกำพร้าถูกทอดทิ้งมาตั้งแต่เด็ก มีความมุ่งมั่นตั้งใจว่าจะเอาความรู้ความสามารถของเธอไปสร้างความร่ำรวยให้กับตนเองในยุคอดีต เนื่องจากโลกปัจจุบันเต็มไปด้วยเทคโนโลยี หุ่นยนต์ เอไอ ผู้ช่วยมากมายที่ทำให้ทุกคนมุ่งเน้นไปทางด้านการเรียนเรื่องวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ กลศาสตร์ การเขียนโปรแกรม สร้างหุ่นยนต์ มีเพียงเธอซึ่งเลือกวิชาการเกษตรที่มีกลุ่มคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่เลือกเรียนสาขาวิชานี้ตั้งแต่ที่หนิงเฉินรู้เรื่องโครงการข้ามมิติเวลาของบริษัทเอสแอลอี บริษัทพัฒนาวิทยาการล้ำสมัยในด้านการผลิตหุ่นยนต์ เดินทางผ่านห้วงอวกาศ และมีโครงการใหม่เกี่ยวกับการข้ามมิติเวลา เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจเข้ามาเป็นอาสาสมัครโดยมีเงื่อนไขว่าทางบริษัทต้องส่งเสียเธอเรียนจนจบในระดับปริญญาเอก ส่วนเรื่องคุณสมบัติและการสัมภาษณ์นั้นกว่าเธอจะผ่านมาได้ก็ไม่ง่ายนัก เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยมาขอสมัครเพื่อแย่งสิทธิ์เหล่านี้ เพราะแม้นการข้ามมิติจะเสี่ยงแต่ก็คุ้มค่าและเป็

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status