Home / รักโบราณ / ข้ามเวลามาสู้ชีวิต / รับท่านตาท่านยายมาอยู่ด้วย

Share

รับท่านตาท่านยายมาอยู่ด้วย

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-10-13 04:52:24

หลังอาหารมื้อกลางวันหลิวกังก็กลับมาพร้อมทั้งพาครอบครัวทาสหลวงที่ให้ไปรับทั้งสามกลับมาด้วย ทั้งสามครอบครัว มีคนทั้งหมด 25 คน แซ่เฉียน 9 คน แซ่อู๋ 8 คน แซ่หลัน 8 คน

ทั้งหมดรับรู้เรื่องราวของเหมยฮวาและทั้งหมดได้กลับมาอยู่กับผู้เฒ่าเซี่ยจากปากของหลิวกังแล้ว แต่เมื่อมาถึงก็ยังร่ำไห้ ด้วยความซึ้งใจที่สามารถผ่านเรื่องที่เลวร้ายไปได้

ท่านผู้เฒ่าเซี่ยให้พ่อบ้านเฉิงจัดที่พักพร้อมทั้งดูแลเรื่องเสื้อผ้า อาหารการกิน มู่หลินสอบถามความคิดเห็นของบ้านเซี่ยเรื่องเดินทางกลับหมู่บ้านชุนหง ด้วยจำนวนคนที่มาก ท่านตาเลยให้กลุ่มคนมาใหม่เดินทางกลับก่อนเพื่อไปเตรียมที่อยู่

“บุตรเขย คนเยอะเช่นนี้ พวกเจ้าจะดูแลอย่างไร เงินที่ข้ามีนั้นไม่พอดูแลทั้งหมดได้เลย เป็นข้าที่ผิดต่อทุกคน” ผู้เฒ่าเซี่ยโทษตนเองที่ทำให้คนของตนลำบากไปด้วย

“ท่านพ่อตาอย่าได้กล่าวโทษตนเองขอรับ หลินเออร์ได้วางแผนไว้แล้วจะเริ่มทำการค้า แต่การค้าของครอบครัวเรานั้นอาจจะต้องรบกวนท่านพ่อตาและท่านพี่ภรรยาด้วยขอรับ”

“เจ้าอย่าได้พูดเช่นนี้น้องเขย อย่างไรพวกเราก็ต้องพึ่งเจ้าเช่นกัน แล้วที่เจ้าต้องรบกวนนั้นคือสิ่งใด”

ท่านพ่อเจียวจิ้นเลยให้มู่หลินเป็นคนอธิบายถึงแผนการค้าที่วางไว้ มู่หลินจึงให้พ่อบ้านเฉิงเรียกหัวหน้าครอบครัวแต่ละตระกูลเข้ามาด้วยเพื่อที่จะแบ่งงานตามความรู้ของแต่ละคน โดยมีท่านหมออู๋เข้าร่วมรับฟังด้วย

"หลานคิดว่าด้วยจำนวนคนที่มากขึ้น ครอบครัวเราต้องทำการค้าหลายอย่าง การค้าบางอย่างของบ้านเราอาจจะส่งผลต่อการค้าของตระกูลใหญ่อีกหลายตระกูลรวมถึงตระกูลเว่ยด้วย"

เมื่อทุกคนได้ยินว่าการค้าที่ทำจะส่งผลกระทบต่อตระกูลเว่ยผู้ที่ถูกกระทำหลายคนตาเป็นประกายแสดงออกถึงความกระหายที่อยากจะแก้แค้น แต่ท่านยายดูจะกังวล เพราะกลัวอำนาจของตระกูลเว่ยจะนำภัยมาสู่ทุกคนอีกครั้ง เมื่อท่านยายจะแย้ง ท่านตาจึงห้ามก่อนให้ฟังหลานสาวบอกแผนการให้เสร็จ

"ตระกูลเว่ยร่ำรวยได้จากการทำเหลาสุรา โรงเตี๊ยม มีการค้าที่พวกเราจะเริ่มทำเลยสามอย่างเจ้าค่ะ หลานจะเปิดเหลาสุราแล้วยังต้องการทำเป็นหอขายข่าวด้วยเจ้าค่ะ อย่างที่สองหลานจะทำการค้าเกี่ยวกับกระดาษ กระดาษที่หลานจะทำมีความละเอียดมากกว่ากระดาษที่ขายอยู่ตอนนี้มากนัก อย่างที่สามร้านเปิดเหลาอาหารที่เหมาะกับทานในหน้าหนาวเรียกว่าหม้อไฟ เมื่อหมดหน้าหนาวก็จะเปลี่ยนเป็นเหลาอาหารทั่วไปแต่อาหารที่หลานจะขายแน่นอนว่าไม่มีเหลาอาหารไหนมีเจ้าค่ะ เมื่อหมดหน้าหนาวหลานจะทำน้ำแข็งออกมาขายเจ้าค่ะ และยังขอรบกวนท่านปู่อู๋ให้ออกหน้าขายยากับกองทัพด้วยเจ้าค่ะ ยาที่หลานจะขายให้กองทัพนั้นเป็นยาห้ามเลือดถ้าหากท่านปู่อู๋จะทดสอบก่อนหลานมีมาด้วยนะเจ้าค่ะ “

เมื่อหมออู๋ได้ยินเช่นนั้นก็รีบให้มู่หลินเอาออกมาให้ดู มู่หลินทำแสร้งเดินไปหยิบของในห้อง แล้วนำออกมาให้หมออู๋ เมื่อดมกลิ่นแล้วหมออู๋รู้ได้ทันทีว่ายาที่เห็นนั้นมีคุณภาพดีแน่นอน

เฉียนจง เป็นคนอาสา เขาหยิบมีดสั้นออกมากรีดที่มือ หมออู๋นำยาผงห้ามเลือดโรยลงไป แค่เพียงสองลมหายใจเลือดที่ไหลมากมายในช่วงแรกก็หยุดไหลทันที

“วิเศษ วิเศษ ยาห้ามเลือดนี้จะทำให้ทหารรอดจากความตายได้มากทีเดียว หลานสาวคนดี เจ้าทำออกมาได้มากเพียงใด" ตอนนี้มู่หลินกลายเป็นหลานสาวคนดีไปเสียแล้ว

"ตอนนี้ครอบครัวเรามีคนช่วยงานมากขึ้น หลานคิดว่าในหนึ่งเดือนหลานทำออกมาได้ 1,000-2,000 ตลับเจ้าค่ะ"

ความจริงมู่หลินสามารถผลิตได้มากกว่านี้แต่มู่หลินยังไม่อยากตัดช่องทางการค้าของตระกูลถังที่ส่งยาให้กองทัพอยู่ตอนนี้ แต่จะทำเป็นการแทรกซึมเข้าไปเมื่อตระกูลถังเริ่มรู้ตัวก็เสียการค้ากับกองทัพไปแล้ว เรื่องนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในเวลาอันใกล้นี้

“เช่นนั้น อีกสามวันเดินทางกลับหมู่บ้านชุนหงได้แล้ว เรื่องอื่นค่อยหารือกันตอนนี้พวกเจ้าแยกย้ายไปพักผ่อนเสียก่อน หลินเออร์คงเหนื่อยมากแล้ว" ท่านตาสั่งให้ทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อนทันทีเพราะส่งสารหลานสาวตัวน้อยที่เพิ่งอายุ12หนาว ก็รับปัญหามากมายถึงเพียงนี้แล้ว

ถึงท่านผู้เฒ่าเซี่ยจะภูมิใจที่หลานชายหลานสาวเก่งกาจ แต่ก็อดสงสารไม่ได้ที่ชีวิตในวัยเด็กต้องลำบากมากมายขนาดนี้ ยิ่งรับฟังเรื่องเก่าที่บุตรีกับหลานทั้งสามโดนนางจางซิงรังแก ใช้งานเยี่ยงบ่าวไพร่ก็อดที่จะโมโหจนอยากจะไปตัดคอเสียในตอนนี้ ถึงอยากจะดุด่าลูกเขยขนาดไหนแต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้เพราะสงสารบุตรีของตนเอง

ทางผู้เฒ่าเซี่ยให้ทางทาสหลวงทั้งสามครอบครัวเดินทางกลับไปหมู่บ้านชุนหงก่อน พร้อมทั้งพ่อบ้านเฉิงและบ่าวในบ้านเซี่ยด้วย จะเหลือแค่แม่นมเท่านั้นที่อยู่คอยแลฮูหยินผู้เฒ่าเซี่ย

หลังจากนั้นอีกสองวันขบวนของครอบครัวเซี่ย บ้านหวัง และหมออู๋ก็เดินทางกลับโยวโจว คนที่หน้าบานสุดเห็นจะเป็นหมออู๋ที่ได้โชคจากการมาครั้งนี้ด้วย

ระยะเวลายังคงเดินทางห้าวันเช่นตอนมา วันที่สามของหารเข้าพักโรงเตี๊ยม ข่าวเรื่องการประมูลของหอเฟยหลงก็เข้าหูของกลุ่มมู่หลิน เห็ดหลินจือแดงดอกใหญ่ จบการประมูลไปที่ 20,000 ตำลึงทอง เป็นราคาที่มู่หลินได้ยินแล้วแทบหยุดหายใจเพราะไม่คิดว่าจะได้ราคามากมายเพียงนี้

มู่หลินที่ได้ยินแล้วแทบหยุดหายใจ บุคคลบ้านหวังทั้งหมดตอนนี้วิญญาณหลุดลอยไปเรียบร้อยแล้ว พี่รองถึงกับตกเก้าอี้เลยทีเดียว คนบ้านเซี่ยยังไม่เข้าใจว่าทำไมคนบ้านหวังถึงได้สติหลุดแบบนี้

ร้อนถึงหมออู๋ต้องเล่าเรื่องที่หลานทั้งสามเจอเห็ดหลินจือแล้วมาขายให้โรงหมอของเขา ดอกใหญ่ที่สุดคือดอกที่ชาวบ้านกำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้นั่นเอง ยังเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หลานทั้งสามสอบถามเรื่องตระกูลเซี่ยจากเขาอีกด้วย

“ท่านปู่อู๋ข้ายังมีเหลืออีกนิดหน่อยนะเจ้าค่ะ” มู่หลินที่เย้าหมออู๋ หมออู๋พอฟังจบก็ให้โมโหหนวดกระดิก

“ตาเฒ่า หลานเจ้านั้นน่าตีนัก บอกข้าไม่มีแล้ว พอได้ยินราคาประมูลบอกเหลืออีกนิดหน่อย”

หมออู๋แสร้งทำเป็นโกรธมู่หลิน จนนางรับปากว่าจะนำยาชามาให้หมออู๋ลองใช้ หมออู๋ถึงได้หัวเราะร่วนที่หลอกหลานคนดีได้ของเพิ่ม

ท่านลุงใหญ่ ป้าสะใภ้ใหญ่ พี่ชายห่าวหราน พี่สาวฟางซินที่นั่งฟังเงียบๆ ยังตกใจกับโชคของมู่หลิน

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
บ่าว นํา บริการเครื่องปั่นไฟ
อัฟให้จบเลยได้ไหมค่ะจะได้เติมเงินอ่านทีเดว
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   ตอนจบ

    ห้าปีผ่านไปชายแดนประจิมเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ชาวเมืองแคว้นฉีเริ่มเข้ามาทำการค้ามากขึ้น ถึงกับมีตลาดชายแดนที่ทั้งสองแคว้นจะนำสินค้าของตนมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ชีวิตชาวบ้านจึงดีขึ้นมู่หลินได้หาพืชผักที่ทนต่อสภาพอากาศหนาวเข้ามาปลูก นางยังค้นพบภูเขาที่มีดินเค็ม เมื่อถวายฎีกาถึงฮ่องเต้ให้ทราบเรื่องแล้ว พระองค์ได้ช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงภูเขาผลิตเกลือออกมาจำหน่าย โดยหักภาษีเข้าคลังเพื่อพัฒนาพื้นที่เมืองอื่นต่อไปฮ่องเต้ฉู่เฟยหลางสละราชบัลลังก์ให้กับองค์รัชทายาทขึ้นปกครองตอนนี้เจ้าลูกเต่าทั้งสามติดตามบิดาเข้าไปฝึกวรยุทธ์ในค่ายทหาร เพราะไป๋เฟยหรงหมั่นไส้บุตรชายทั้งสามที่เกาะติดมู่หลินมากเกินไปไป๋หมิงยู่ ไป๋หรงซิ่ง ไป๋เฉินกง เวลาอยู่กับบิดาทั้งสามจะทำตัวนิ่งขึม เหมือนเช่นบิดา พอลับหลังบิดา ทหารที่เป็นพี่เลี้ยงทั้งหลายล้วนปวดหัวกันเป็นแทบ เด็กชายทั้งสามพี่ใหญ่วางแผน พี่รองดูต้นทาง น้องเล็กหลอกล่อ กลยุทธ์ที่ร่ำเรียนมาจากกงหยวนนั้นเรียกได้ว่าตอนนี้เก่งเกินอาจารย์เสียแล้วแม้แต่กงหยวนยังเจ้าเล่ห์ไม่ได้เท่าไป๋หรงซิ่งเลย หากหนีเรียนวันใดแล้วโดนจับได้ ไป๋เฉินกงจะทำหน้าที่เรียกร

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   บทส่งท้าย

    ใช้เวลาเดินทางครึ่งเดือนก็มาถึงแดนประจิม จวนท่านแม่ทัพนั้นไม่มีอะไรให้มู่หลินปรับปรุงแก้ไขนอกจากห้องน้ำ นางอยากจะเอาที่นอนออกมาใช้ใจจะขาด แต่ยังไม่ได้บอกกล่าวเรื่องมิติที่มีให้กับเฟยหรงได้รู้มู่หลินที่นอนไม่สบายตัวก็ขยับไปมาจนเฟยหรงรู้สึกตัว“น้องหญิง นอนไม่หลับหรือ” เฟยหรงดึงตัวมู่หลินมา กอด“ท่านพี่ข้าจะพาท่านไปที่แห่งหนึ่ง” พูดจบมู่หลินก็พาเฟยหรงเข้าไปในมิติของตน“ที่นี่คือที่ใด” เฟยหรงมองรอบๆ อย่างโง่งม ที่นี้สวยมากจริงๆ ลำธารที่น่าลงไปแช่ ภูเขาด้านหลังก็ดูอุดมสมบูรณ์ ไหนจะแปลงสมุนไพรหลากหลายชนิด พืชผักผลไม้เต็มไปหมด ทุ่งข้าวที่เหลืองอร่ามพร้อมเก็บเกี่ยว กระท่อมหลังน้อยที่อยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้“ที่นี่คือมิติของข้าเจ้าค่ะ” มู่หลินพาเฟยหรงเข้าไปในกระท่อม ด้านในเครื่องเรือนของใช้ไม่เหมือนที่เขาเคยเห็น นางจึงเล่าเรื่องทั้งหมดของนางตั้งแต่แรกให้ฟัง ก็เหมือนสิ่งที่นางเล่าให้ครอบครัวฟังเฟยหรงกอดมู่หลินยิ่งนึกถึงว่านางเกือบตายมาแล้วครั้งหนึ่งใจเขาก็ยิ่งปวด“หากเจ้าไม่อยากนำที่นอนออกไปด้านนอก เจ้าจะบอกพี่เรื่องนี้หรือไม่” เฟยหรงเอ่ยอย่างน้อยใจ มู่หลินจึงจูบไปที่มุมปากเพื่อเอาใจ“ย่อมต้อง

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   งานมงคล

    ไป๋เฟยหรงกลับมาเมืองหลวงครั้งนี้ตัวแทบจะติดกับมู่หลินเลยทีเดียว ยิ่งมู่หลินออกไปข้างนอกเฟยหรงแทบจะให้นางใส่ผ้าคลุมทั้งตัวไม่ใช่ว่าไม่มีสตรีเข้าหาเฟยหรงนะ มีมากเลยทีเดียว สาวใช้ที่มาใหม่ในจวนไป๋ที่คิดจะปีนเตียงเฟยหรง โดนเฟยหรงถีบออกมาจากห้องรักษาตัวอยู่ห้าวันกว่าจะลุกขึ้น เมื่อมีตัวอย่างให้เห็นใครจะกล้าเสี่ยงขุนนางที่ใจกล้าก็อยากจะยกบุตรสาวให้เป็นอนุ ตอนเช้ามาทหารเข้ามาจับกุมโดนขุดความผิดที่ตนก่อไว้ตั้งแต่เริ่มเป็นขุนนาง แม้จะเล็กน้อยไม่โดนตัดสินโทษหนักก็ย่อมต้องโดนลดขั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ขุนนางทั้งหลายเลยเลิกยุ่งกับแม่ทัพไป๋ไปโดยปริยาย“หลินเออร์ แม่ว่าเจ้าแต่งให้ท่านแม่ทัพเสียเลยเถิด ตอนนี้เจ้าก็ 17 หนาว แล้ว พ่อกับแม่มีพี่รองของเจ้าอยู่ด้วย เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง” เหมยฮวาเรียกมู่หลินมานั่งพูดคุย เพราะนางก็เห็นใจว่าที่ลูกเขยเช่นกัน“ข้าแล้วแต่ท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ” มู่หลินยอมตกลงเฟยหรงที่ได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะวิ่งไปป่าวประกาศให้คนทั้งเมืองหลวงได้รู้กันทั่ว เฟยหรงรีบเข้าวังหลวงไปขอฤกษ์มงคลที่เร็วที่สุด แล้วก็เร็วจริงๆ งานจะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้ามู่หลินขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างโมโห สั

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   แต่งเลยมิได้หรือ

    แล้วก็ถึงวันสอบเตี้ยนซื่อ หน้าพระที่นั่ง โดยวันสอบจะมีฮ่องเต้เป็นผู้คุมสอบและออกข้อสอบ ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดอันดับหนึ่งจะได้เป็น จอหงวน อันดับที่สอง ปั๋งเหยี่ยน อันดับที่สาม ทั่นฮวาครอบครัวหวังมาส่งเจียวโจวกับเจียวจ้านหน้าสนามสอบ“ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดพอ พ่อไม่คาดหวังว่าเจ้าทั้งสองจะติดสามอันดับ” เจียวจิ้นให้กำลังใจบุตรชาย“แต่ข้าคาดหวังว่าท่านพี่ทั้งสองจะได้จอหงวนเจ้าค่ะ”เจียวโจวดีดหน้าผากมู่หลิน เจียวจ้านตบอกให้น้องเล็กรอดูได้เลยเมื่อทั้งสองเดินเข้าสนามสอบแล้ว เจียวจิ้น เหมยฮวา มู่หลินจึงกลับไปรอที่จวนระหว่างรอผลสอบ ข่าวที่ส่งจากโยวโจวทำให้เฟยหรงถึงกับนั่งไม่ติด ต้องรีบควบม้าออกมาจากค่ายทหารนอกเมืองเพื่อขอความเห็นใจจากมู่หลินทันที่“หลินเออร์” เฟยหรงเอ่ยเสียงอ่อยเรียกมู่หลินมู่หลินเลิกคิ้วรอฟังว่าพ่อตัวดีจะพูดสิ่งใด"เยว่เออร์ตั้งครรภ์แล้ว""อืม" ใช่เรื่องนี้นางรู้แล้ว เพราะห่าวหรานส่งข่าวมาเช่นกัน"หลินเออร์ แต่งเลยมิได้หรือ" มู่หลินหรี่ตามองเฟยหรง"กลับค่ายไปเลย" นางกัดฟันพูดผลการสอบเตี้ยนซื่อ ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เจียวโจวได้เป็นปั๋งเหยี่ยน เจียวจ้านได้อันดับที่ห้า เด็กๆ

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   งานปักปิ่นมู่หลิน

    ท่านผู้เฒ่าเซี่ยมาถึงก็เมืองหลวงพักผ่อนเพียงหนึ่งวันก็พาคนทั้งตระกูลเดินทางเข้าสู่วังหลวง"ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี""ลุกขึ้น ไม่ต้องมากพิธี" ฮ่องเต้มองสหายต่างวัยด้วยความคิดถึง"เซี่ยหลี่เฉียงรับราชโองการ ตระกูลเซี่ยจงรักภักดีต่อราชวงศ์ มีความดีความชอบร่วมปราบกบฏองค์ชายใหญ่ในครั้งนี้ ฮ่องเต้ทรงพระราชทานตำแหน่งกั๋วกง ขั้นหนึ่ง ประทานจวนหน่งหลัง เงินรางวัล 50,000 ตำลึงทอง ผ้าไหม 20 พับ เครื่องประดับ 5 หีบ จบราชโองการ " ขันทีประกาศราชโองการแม้ของรางวัลที่ได้จะไม่อาจเทียบเท่ากับของที่เคยโดนยึดไป แต่ตระกูลเซี่ยก็ไม่เสียดาย เพราะทรัพย์สินของตระกูลตอนนี้มีมากมายเทียบเท่าเงินในคลังหลวงได้ฮ่องเต้ยังคงต้องใช้เงินเยี่ยวยาชาวเมืองที่ได้รับผลกระทบจากการก่อกบฏขององค์ชายใหญ่ในครั้งนี้อีกมากตระกูลเซี่ยเข้าพักในจวนหลังใหม่ ท่านตาท่านยายยังบ่นกับมู่หลินเรื่องที่นอนนั้นนอนไม่สบายเท่าที่หมู่บ้านชุนหง ห้องน้ำก็ไม่สะดวกสบาย หลานสาวแสนดีจึงเอาใจด้วยการเอาที่นอนของใช้ออกมาให้ทุกคน ท่านตาท่านยายเลยได้ยิ้มหน้าบานครอบครัวหวังเจียวจิ้นนั้นแยกตัวไปอยู่จวนที่ห่าวหรานซื้อไว้ หากให้นั

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   บทลงโทษของกบฏ

    เซี่ยซีห่าวนำทัพพร้อมพวกกบฏเดินทางถึงเมืองหลวงหลังจากที่ไป๋เฟยหรงถึงเกือบสิบวันฮ่องเต้สังประหารขุนนางฝ่ายกบฏทั้งหมด ขุนนางคนใดที่โทษไม่หนักก็เนรเทศออกไปใช้แรงงานที่ชายแดน ส่วนองค์ชายใหญ่นั้นทดพิษบาดแผลไม่ไหวชิงตายไปเสียก่อนวันตัดสินโทษเพียงแค่สองวัน หวงกุ้ยเฟย เสนาบดีเว่ย เว่ยซูเหิง โดนตัดสินให้แล่เนื้อเถือหนังจนกว่าจะสิ้นใจตายส่วนคนในจวนตระกูลเว่ยและตำหนักขององค์ชายใหญ่ที่ตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็โดนเนรเทศสั่งห้ามทั้งหมดกลับเข้าเมืองหลวงและหมดสิทธิ์เข้าสอบขุนนางตลอดชีวิตเว่ยซูเม่ยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏครั้งนี้ แต่นางมีความผิดที่ส่งนักฆ่าไปลอบสังหารมู่หลินหลายครั้ง จึงโดนตัดสินให้ประหารชีวิตด้วย ถึงแม้มู่หลินจะเสียดายที่นางไม่ได้เป็นคนจัดการเอง แต่ก็ไม่ได้ติดใจเพราะโทษตายที่นางได้รับนั้นสมควรแล้วขุนนางกว่าครึ่งในท้องพระโรงที่โดยตัดสินโทษครั้งนี้ แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้ทรงร้อนใจเท่าใด เพียงแต่ตั้งขุนนางตงฉินเข้ามาแทนในตำแหน่งสำคัญที่หายไป ส่วนในตำแหน่งอื่นนั้น ทรงรอการสอบหน้าพระที่นั่งในอีกหกเดือนที่จะถึงนี้ คงเติมเต็มท้องพระโรงได้ครบทุกตำแหน่งเวลาที่ครอบครัวบ้านหวังรอก็มาถ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status