Share

บทที่ 4 อยู่ด้วยกัน

Aвтор: sanvittayam
last update Последнее обновление: 2024-12-19 10:11:02

บทที่ 4

อยู่ด้วยกัน

“แล้วถ้าบอกว่าฉันเป็นสาวใช้ละคะ ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรใช่หรือไม่ ตอนมาที่นี่ฉันน่าจะมีทรัพย์สินติดตัวมาบ้าง อย่างน้อยเครื่องประดับก็ยังดี”

ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตนเอง เธอจึงเลือกที่จะเสนอความคิดเห็นออกมา แต่คำพูดของเธอนั้น ทำให้สามพ่อลูกส่ายหน้าหัวแทบหลุด และร้องออกมาอย่างตกใจพร้อมกันว่า

“ไม่ได้!!”

หยางเหมยจินไม่เข้าใจว่า ‘ไม่ได้’ นี่คือคำพูดไหนของเธอ

“เรื่องสาวใช้นั้นยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย แล้วคุณไม่ต้องคิดเรื่องนี้ด้วย บ้านเราไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคนในเมืองที่จะมีเงินมาจ้างสาวใช้ไว้ดูแล อีกอย่างพวกเราเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาทั้งนั้น เรื่องในบ้านต่าง ๆ ล้วนแต่ทำเอง ส่วนเรื่องเครื่องประดับไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะบางอย่างเป็นสิ่งของต้องห้ามของที่นี่” ชายหนุ่มรีบบอกกับเธอให้เข้าใจ

จากนั้นตงเหวินหมิงก็เลือกที่จะเล่าเรื่องราวของยุคนี้ให้หญิงสาวตรงหน้าฟังอย่างละเอียด โดยมีลูกทั้งสองคนคอยสลับเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เช่นกัน

เมื่อได้ฟังทุกอย่าง หยางเหมยจินก็พยักหน้าเข้าใจ ยุคสมัยนี้แตกต่างจากบ้านเกิดเมืองนอนของเธอไม่น้อย หรืออาจจะเรียกว่าแตกต่างแทบจะทุกอย่างก็ว่าได้

“เอาเป็นว่าคุณอาศัยอยู่ที่นี่ก่อนก็แล้วกัน ทน ๆ ไปก่อน หากหาเงินได้เราค่อยขยับขยาย คุณไหวหรือเปล่าที่ต้องทนอยู่แต่ในบ้าน” เมื่อเล่าเรื่องราวที่ควรจะรู้ให้กับหยางเหมยจินฟังแล้ว ตงเหวินหมิงจึงเอ่ยถามอีกครั้ง

นี่จึงทำให้หยางเหมยจินพยักหน้ารับยืนยันว่าเธอไม่มีปัญหาอะไร “ฉันยินดีค่ะ ขอแค่ได้อยู่ที่นี่และช่วยทุกคนทำงานแม้จะเล็กน้อย หรืออยู่แต่ในบ้านเพื่อไม่ให้ทุกคนเดือดร้อน ฉันก็ยินดี”

เวลานี้หากจะถามว่าเธออยากจะอยู่ที่นี่หรือไม่ เธอเองตอบไม่ได้เช่นกัน การที่ต้องมาพึ่งพาคนอื่นที่ไม่เคยแม้แต่จะรู้จักนั้นมันไม่ใช่เรื่องดีหรือเป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อเธอข้ามกาลเวลามาอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก ก็คงจะต้องทำใจและปรับตัวให้ได้เร็วที่สุด

“แต่ฉันมีเรื่องจะรบกวน คุณพอจะมีเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว พร้อมอุปกรณ์ตัดเย็บหรือไม่ ฉันรบกวนพวกคุณได้หรือไม่”

หยางเหมยจินพูดจบก็ก้มมองดูสภาพเสื้อผ้าของตัวเอง เพราะมีเพียงชุดนี้ชุดเดียวเท่านั้นที่ติดตัวมาและมันก็ไม่เข้ากับยุคสมัยนี้ แถมตอนนี้ยังเปียกไปทั้งตัว

“ผมพอจะมี แต่เป็นเสื้อผ้าเก่าของพี่สาวผมเองเวลานี้เธอไม่อยู่แล้ว ตอนย้ายมาที่นี่มีติดมาสองสามชุด หากไม่รังเกียจก็เอาไปใส่ก่อนเถอะ แล้วผมจะขึ้นเขาล่าสัตว์แล้วค่อยพาคุณไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ในเมือง แต่นั่นก็ต้องเป็นตอนที่ผมจัดการเรื่องเอกสารและเปิดเผยความเป็นอยู่ของคุณต่อคนอื่นเสียก่อน” ตงเหวินหมิงพูดขึ้นหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

จะว่าไปตอนที่เขาพาสองแฝดมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ตอนนั้นเพราะต้องหนีบางอย่าง และด้วยความเร่งรีบจึงหยิบเสื้อผ้าของพี่สาวมาสองสามชุด แต่เพราะไม่ได้ใช้เลยยังอยู่ในหีบ ไม่คิดว่าวันนี้จะต้องหยิบออกมาใช้

พอคิดถึงตรงนี้ ชายหนุ่มจึงหันมองเด็กแฝดทั้งสองคน พร้อมกับขอโทษในใจที่เอาเสื้อผ้าของพี่สาวมาให้คนอื่นใส่

“ขอบคุณมากค่ะ ฉันยินดี ขอแค่มีเสื้อผ้าใส่แทนชุดเดิมก็พอแล้ว แต่เสียดายนะที่ฉันไม่สามารถขึ้นเขาล่าสัตว์กับคุณได้ฉันเองพอจะมีความสามารถด้านการยิงธนูไม่น้อย ในอดีตเคยไปกับท่านพ่อ...” เมื่อคิดถึงตรงนี้ใบหน้าของเธอก็เศร้าหมองลงทันตา ทำให้สามคนพ่อลูกรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวคงคิดถึงครอบครัวที่จากมา

จากนั้นตงเหวินหมิงจึงเดินกลับเข้าห้องของตัวเอง เพื่อไปหยิบชุดออกมาให้หยางเหมยจิน และชายหนุ่มหายไปไม่นาน ก็ออกมารวมตัวกับทุกคนอีกครั้ง พร้อมกับยื่นเสื้อผ้าให้หญิงสาว

“นี่ครับเสื้อผ้า ผมหวังว่าคุณจะใส่ได้นะ”

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวรับมาด้วยความยินดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ คนที่พลัดหลงเข้ามาในยุคที่พัฒนาและไม่รู้จักใครสักคน หวังว่าชีวิตต่อจากนี้จะดีขึ้น อย่างน้อยก็ต้องหาทางช่วยเหลือบ้านตง บ้านที่มีบุญคุณกับตนเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้นเช่นกัน

เมื่อพูดคุยเรื่องนี้กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตงฟางลี่ก็พูดขึ้น

 “อย่างนั้นเราไปกันเถอะค่ะ วันนี้น้าเหมยไปนอนกับลี่ลี่ก็แล้วกันนะคะ” ตงฟางลี่พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว

“จ้ะ ขอบใจนะ” หยางเหมยจินได้นอนห้องของตงฟางลี่ เนื่องจากบ้านหลังนี้มีเพียงสองห้องเท่านั้น

“นอนไม่หลับหรือครับพ่อ” ตงจี้หยวนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าพ่อของตนนั้นยังไม่นอน

“แล้วทำไมลูกยังไม่นอนล่ะ” ชายหนุ่มไม่ตอบแต่เอ่ยถามลูกชายกลับไป

“ผมแค่เป็นห่วงน้อง ไม่รู้ว่านอนกับน้าเหมยเป็นอย่างไรบ้าง ว่าแต่พ่อเห็นน้าเหมยหล่นลงมาจากฟ้าจริง ๆ หรือครับ”

ตงจี้หยวนถามขึ้นอย่างสงสัย เรื่องนี้ยังคงติดใจในความคิดของเด็กน้อย มันจะมีจริง ๆ หรือที่มนุษย์เราหล่นลงมาจากฟ้า แล้วข้ามมิติเวลามาแบบน้าเหมย ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ

“เรื่องนี้มันเหนือธรรมชาติเกินไป พ่อเข้าใจที่ลูกจะระแวงและเป็นกังวลที่น้าเหมยนอนกับลี่ลี่ แต่เชื่อเถอะ เธอหล่นลงมาจากฟ้าจริง ๆ และพ่อเห็นกับตาตัวเอง ในเมื่อตัดสินใจช่วยแล้ว พ่อก็จะลองไว้ใจดู อีกอย่างบ้านเราเองก็ไม่ได้มีทรัพย์สินอะไร ที่สำคัญน้องสาวเราก็แสบไม่น้อย กลัวว่าคนที่ต้องกังวลจะเป็นเหมยจินน่ะสิ” ตงเหวินหมิงพูดยืนยันกับลูกชายอีกครั้ง

เรื่องที่เหมยจินนั้นจะทำอะไรลูกสาวเขา ตงเหวินหมิงแม้จะมีความกังวลแต่ไม่เท่ากับตงฟางลี่ว่าจะเล่นงานหยางเหมยจิน เพราะเมื่อไรที่มีสตรีเข้าใกล้เขา ตงฟางลี่ตัวแสบจะหาทางกลั่นแกล้งและเล่นงานอยู่เสมอ

“นั่นสิครับพ่อ ผมคงกังวลเกินไป จนลืมไปว่าลี่ลี่ของพวกเรานั้นเป็นอย่างไร เช่นนั้นผมนอนก่อนนะครับพ่อ” เมื่อคิดได้อย่างนั้น ตงจี้หยวนจึงขอตัวนอน เนื่องจากพรุ่งนี้เข้าจะต้องไปโรงเรียนแต่เช้านั่นเอง

“อืม ฝันดีนะลูก” ตงเหวินหมิงตอบกลับ ก่อนจะนอนเอามือข้างหนึ่งก่ายหน้าผาก คิดทบทวนเรื่องที่ตนเองช่วยหญิงสาวปริศนาอย่างหยางเหมยจินนั้นคือเรื่องที่สมควรจริงหรือไม่

เช้าวันต่อมา...

ตงเหวินหมิงตื่นแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่างดี เนื่องจากต้องตื่นมาทำอาหารเช้าให้ลูกทั้งสองกิน และให้ลูกทั้งสองห่อมื้อเที่ยงไปกินที่โรงเรียนด้วย

หลังจากลุกออกมาจากห้องแล้ว ปกติชายหนุ่มจะต้องเข้าไปหาลูกทั้งสองคน แต่ทว่าเมื่อคืนตงจี้หยวนนอนกับตนเอง และตงฟางลี่นั้นมีหญิงสาวอีกคนนอนด้วย จึงไม่เหมาะสมที่จะเข้าไปดูลูก เขาจึงเลี่ยงเดินมาเข้าครัวแทน

หยางเหมยจินก็ตื่นเช้าไม่ต่างกัน อาจจะเพราะต่างที่หรือเพราะคิดมากเรื่องที่ข้ามเวลามาในยุคนี้ เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยยังนอนหลับอยู่ จึงได้สวมเสื้อคลุมอีกชั้นเดินออกมาด้านนอก ตั้งใจจะช่วยงานบ้านเพื่อตอบแทนพระคุณของคนบ้านตง

เมื่อเดินมาถึงครัว กลับพบร่างของใครบางคนกำลังสาละวนอยู่หน้าเตาจึงได้เอ่ยถามขึ้นมา “ให้ข้า...เอ่อ ให้ฉันช่วยอะไรท่านดีหรือไหม งานพวกนี้เป็นของสตรี เป็นงานชั้นต่ำ ท่านเป็นบุรุษไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง”

ยุคสมัยที่เธอจากมานั้น งานพวกนี้เป็นงานชั้นต่ำ บุรุษไม่ว่าบ้านไหนก็แทบจะไม่แตะต้อง ดังนั้นเมื่อเห็นภาพของตงเหวินหมิงทำอาหาร จุดเตาเอง ทำให้หญิงสาวอย่างหยางเหมยจินแปลกใจไม่น้อย 

ตงเหวินหมิงหันกลับมามอง ทว่ามือยังคงทำอาหารต่อ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาบ้าง “ผมไม่รู้หรอกว่าบ้านเมืองของคุณใช้ชีวิตกันอย่างไร แต่ที่นี่ผมไม่มองว่าเป็นงานชั้นต่ำ หรือว่าเป็นเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่ทำได้ บ้านนี้อยู่กันเพียงสามคน หากผมไม่ทำ ลูกทั้งสองคนอดตาย และต่อให้บ้านนี้มีผู้หญิง ผมก็ยังคงทำเช่นเดิม คุณไปนั่งรอเถอะ อีกหน่อยก็เสร็จแล้ว ไม่รู้ว่าคุณจะกินได้หรือไม่ ดีหน่อยที่วันนี้มีเนื้อตากแห้งเหลืออยู่เลยได้เอามาทำอาหารมื้อนี้”

จะว่าไปเขาคงต้องหาเวลาเข้าป่าอีกครั้งแล้ว เนื่องจากเนื้อสัตว์ที่ตากแห้งหมดแล้ว

“ให้ฉันช่วยเถอะค่ะ อย่างน้อยก็ช่วยหยิบจับถ้วยชามก็ยังดี”

หยางเหมยจินไม่พูดเปล่า เธอยังคงเดินไปหยิบถ้วยชามมาจัดเรียงที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับถามว่าอะไรอยู่ตรงไหน

“อย่างนั้นคุณช่วยเช็ดกล่องข้าวทั้งสองกล่องนั้นด้วยเถอะ ผมจะได้ห่อข้าวให้ลูกทั้งสองคนไปกินที่โรงเรียน”

เมื่อห้ามไม่ได้และดูหญิงสาวจะรั้นไม่น้อย เขาเลยไหว้วานให้เธอเช็ดกล่องข้าวให้ลูกทั้งสองคน เพื่อเอาไปกินที่โรงเรียนเสียเลย

ทั้งสองช่วยกันจัดเตรียมอาหารเช้า โดยที่ตงเหวินหมิงคอยเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่หยางเหมยจินสอบถามให้ฟังจวบจนทุกอย่างเสร็จสิ้น จากนั้นทั้งสองจึงแยกไปปลุกสองแฝด เพื่ออาบน้ำเตรียมตัวมากินข้าวก่อนจะไปโรงเรียน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 4 คุณพ่อจอมหวง

    ตอนพิเศษ 4 คุณพ่อจอมหวงวันเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่สองพี่น้องฝาแฝดอย่างตงจี้หยวนและตงฟางลี่ก็เติบโตขึ้นและแม้ว่าทั้งสองคนจะรู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ทั้งสองคนก็ยังคงใช้แซ่ตงเหมือนเดิม ส่วนแซ่เดิมของพ่อแม่นั้นจะเอาไว้ให้ลูก ๆ ในอนาคตเป็นผู้สืบทอด ตอนนี้ทั้งสองคนใกล้จะเรียนจบระดับมหาวิทยาลัยแล้ว คนพี่นั้นเริ่มเข้ามาช่วยดูแลงานในบริษัทของพ่อ และสมบัติที่พ่อแม่ที่แท้จริงทิ้งไว้ให้ เลยไม่ค่อยมีเวลาตัวติดกับน้องสาวเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ก็เหมือนกัน ชายหนุ่มจะต้องเข้าไปดูงานที่บริษัท แต่น้องสาวขอไปดูหนังกับเพื่อน“พี่ใหญ่ วันนี้ฉันขอไปดูหนังได้ไหม” ตงฟางลี่เอ่ยขอพี่ชายอย่างออดอ้อน“พี่น่ะให้ไปได้ ว่าแต่เราโทรขออนุญาตพ่อหรือยัง แล้วจะดูหนังรอบไหนกัน นี่ก็เย็นมากแล้วนะ”ชายหนุ่มตอบกลับน้องสาวอย่างไม่คิดอะไร สำหรับตัวเขานั้นไม่เท่าไร แต่พ่อนี่สิคงไม่ยอมอนุญาตง่ายๆ แน่ เพราะพ่อเป็นคุณพ่อจอมหวงลูกสาวเสียเหลือเกิน ดูอย่างน้องสาวคนเล็กที่อายุแค่ไม่เท่าไรสิ พ่อยังแทบจะไม่ให้ผู้ชายอุ้มแล้ว ความหวงของพ่อที่มีต่อน้องสาวเกินขอบเขตจริง ๆ และนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงอาอี้ข่ายที่เป็นเหมือนกันราวกับถอดแบบกันมาเลยทีเ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 3 คุณพ่อลูกดก

    ตอนพิเศษ 3 คุณพ่อลูกดกหลังจากจบเรื่องตระกูลเกา ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติ ซึ่งเกาเทียนอี้และเกาซื่อหลินก็ไม่คิดจะกลับไปเหยียบตระกูลเกาอีกเลย และได้ข่าวว่าเกาเสี่ยวจิงถูกคนตระกูลหุ้ยบอกเลิกการหมั้นหมายและไม่คิดจะสานต่อความสัมพันธ์ส่วนสองแม่ลูกแม้จะอยู่ตระกูลเกาต่อ แต่สถานะของทั้งสองก็อยู่ยิ่งกว่าสาวใช้ สาเหตุที่ท่านนายพลไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ก็เพราะไม่ต้องการอับอายคนในสังคม และที่สำคัญเขาได้เอาผู้หญิงที่เลี้ยงไว้นอกบ้านเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์และยกเป็นนายหญิงคนใหม่ เลยทำให้เฟ่ยเจียแค้นใจอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับชะตากรรมที่ตนเองได้ก่อไว้พอเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตงเหวินหมิงคิดจะจัดงานเลี้ยงเปิดตัวเองและภรรยารวมถึงทุกคนให้สังคมได้รับรู้ แต่กลับถูกภรรยาห้ามไว้ เพราะเธอกำลังท้องเลยไม่อยากจัดงานเลี้ยงขึ้นมา โดยได้บอกกับสามีว่าค่อยจัดงานเปิดตัวตอนเธอคลอดลูกแล้วก็ยังไม่สายแต่เมื่อถึงเวลา หยางเหมยจินก็บ่ายเบี่ยงอีก เพราะเธออยากอยู่อย่างสงบกับลูกไม่อยากวุ่นวายกับใคร เพราะการเปิดตัวนั้นคงทำให้มีแต่คนเข้าหาเธอในฐานะนายหญิงตงจนเวลานี้เธอตั้งท้องครั้งที่สามแล้ว เพราะสองท้องที่ผ่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 2 ทวงคืนสินเดิมของแม่

    ตอนพิเศษ 2 ทวงคืนสินเดิมของแม่หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น สองแม่ลูกจากตระกูลเกาแทบจะนอนไม่หลับ เพราะกลัวว่าตงเหวินหมิงจะบุกมาพบกับท่านนายพลถึงตระกูลเกา แต่เมื่อเวลาผ่านมาเป็นสัปดาห์ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทำให้ทั้งสองคนกลับมาเชิดหน้าเหมือนเดิม“คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า เหมือนว่าสัปดาห์ก่อนคุณจะพูดอะไรเหรอ” นายพลเกาเอ่ยถามภรรยาหลังจากสะสางงานตนเองเสร็จแล้ว ตอนนั้นเขากำลังวุ่นกับงานอยู่ เลยไม่ได้ฟังอะไรเธอมากมายนัก“ไม่มีอะไรแล้วค่ะ เรื่องไม่สำคัญแล้วล่ะ คุณทำงานของคุณเถอะ จริงสิ ฉันลืมบอกคุณไปว่าต้นเดือนหน้าทางตระกูลหุ้ยจะเข้ามาพูดคุยเรื่องหมั้นหมายระหว่างลูกชายบ้านนั้นกับเสี่ยวจิงของเรานะคะ” เฟ่ยเจียตอบกลับไปอย่างอ่อนหวานและเปลี่ยนเรื่องไปพูดในเรื่องที่เธอมีความยินดีอย่างมากจะว่าไปเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเฟ่ยเจียไม่ใช่เรื่องของตระกูลตงจะเข้ามาที่นี่หรือไม่ แต่เป็นเรื่องการแต่งงานและหมั้นหมายของลูกสาวมากกว่าพอท่านนายพลเกาได้ยินเรื่องการแต่งงานของลูกสาวคนเล็ก ก็อดคิดถึงลูกสาวคนโตที่หายไปจากบ้านหลายปีแล้ว รวมถึงลูกชายที่ไปเป็นทหาร ซึ่งไม่รู้เวลานี้ทั้งสองเป็นอย่างไรบ้างเพราะขา

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 1 หาเรื่องใส่ตัว

    ตอนพิเศษ 1 หาเรื่องใส่ตัวหลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่ปักกิ่ง เกาซื่อหลินก็ยังคงช่วยงานของหยางเหมยจินเหมือนเดิมพร้อมกับดูแลพี่สาวบุญธรรมไปด้วย วันนี้ทั้งสองออกมาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเพียงลำพัง เพราะสองแฝดไปเรียนหนังสือ ตงเหวินหมิงกับตู้อี้ข่ายก็ไปทำงาน“นี่เสี่ยวหลิน ไม่ต้องคอยระมัดระวังขนาดนั้นก็ได้ พี่แค่ท้องนะไม่ใช่คนป่วยสักหน่อย” หยางเหมยจินพูดพึมพำออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เพราะตั้งแต่เธอตั้งท้อง ทุกคนก็แทบจะไม่ให้เธอทำอะไรเลย เธอแทบจะเป็นง่อยอยู่แล้ว“พี่เหมยจินก็พูดไป ถ้าเกิดพี่เดินไม่ระวังแล้วสะดุดล้มขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ ต่อให้มีคนของพี่เขยติดตามมาด้วย ใช่ว่าจะมีคนกล้าแตะต้องตัวพี่นะ หน้าที่นี้เป็นของฉัน อย่างไรฉันก็ต้องคอยดูไว้ก่อน” เกาซื่อหลินโต้แย้งกลับทันที เพราะเธอต้องระวังความปลอดภัยให้กับพี่สาวคนนี้ เลยทำให้ต้องดูเหมือนทำเกินจริงไปหน่อย แต่ป้องกันไว้ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ“เอาเถอะ แล้วแต่เธอก็แล้วกัน นั่นร้านขายขนมฝรั่งเปิดใหม่หรือเปล่า เราลองเข้าไปดูกันเถอะ” หยางเหมยจินคร้านจะเถียงกับอีกฝ่าย เมื่อเห็นร้านขนมเปิดใหม่จึงชวนอีกฝ่ายไปดู เนื่องจากขนมพวกนี้เธอกินแล้วติด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทส่งท้าย ครอบครัวที่ต้องการ

    บทส่งท้าย ครอบครัวที่ต้องการสามปีต่อมา... หลังจากวันนั้นวันที่ตงเหวินหมิงกลับมา นั่นจึงทำให้หยางเหมยจินคลายความกังวลและรู้สึกดีใจที่เขาปลอดภัย โดยที่ตงเหวินหมิงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังเธออย่างละเอียด แล้วยังบอกอีกว่าเวลานี้เขาล้างมลทินให้ตระกูลตงเรียบร้อยแล้ว รวมถึงตระกูลของพี่เขยด้วย ก่อนจะบอกความจริงกับเด็กน้อยทั้งสอง ซึ่งแม้ทั้งสองคนจะรับรู้ว่าตนเองนั้นไม่ใช่ลูกแต่เป็นหลาน แต่ทั้งสองก็ยังคงเรียกตงเหวินหมิงว่าพ่อ และเรียกหยางเหมยจินว่าแม่เหมือนเดิมส่วนเรื่องบ้าน ทั้งหมดได้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านที่รู้ความจริงว่าตงเหวินหมิงคือนายท่านหยางก็พากันตกใจ บางคนก็เสียดาย ที่ก่อนหน้านี้พวกตนน่าจะทำดีกับบ้านตงไว้ ส่วนซูหว่านแทบจะเสียสติ ที่ชายที่เธอหมายปองนั้นคือคนที่มีอิทธิพลของเมืองนี้ แถมยังร่ำรวยมากอีกด้วยแต่เพราะทางบ้านซูของเธอไม่อยากมีปัญหากับบ้านตงและรู้ว่าซูหว่านคงไม่จบเรื่องบ้านตง บ้านซูจึงตัดสินใจหาสามีที่อยู่ต่างเมืองให้เธอทันทีทำให้สามปีที่ผ่านมาไม่มีใครคอยมาวุ่นวายกับสองสามีภรรยามากนัก ทุกวันนี้ตงเหวินหมิงจึงรู้สึกสบายใจอย่างมาก“ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างที่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 52 จบสิ้นปัญหา

    บทที่ 52 จบสิ้นปัญหาหลายวันต่อมา...ในหมู่บ้านมีคนแปลกหน้าเข้ามาทำงานในคอมมูนไม่น้อยเลย แถมหัวหน้าคอมมูนยังให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างที่พักให้ นี่จึงทำให้ใครหลายคนพากันแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หัวหน้าคอมมูนบอกเองว่าทางการยังไม่ได้ส่งคนเข้ามา แต่ทำไมวันนี้กลายเป็นว่ามีคนมากมายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านล่ะ“พวกเราคิดว่ามันแปลกหรือไม่ ที่จู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านจำนวนไม่น้อยเลย” ชาวบ้านคนหนึ่งถามขึ้น“จะขี้สงสัยไปทำไมกัน คนมาทำงานจะคิดมากไปทำไม หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หัวหน้าหมู่บ้านคงบอกแล้วล่ะ” อีกคนตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจการพูดคุยของกลุ่มชาวบ้านแม้ว่าแปลกใจและสงสัยแต่ก็เลือกที่จะไม่ถาม เพราะรู้ดีว่าทุกคนมีหน้าที่การงานของตนเองซึ่งเรื่องนี้มีแค่หัวหน้าคอมมูนเท่านั้น ที่รู้ว่าเป็นคนของใครที่ถูกส่งเข้ามา เขาไม่คิดว่าคนเคยปลอมเป็นชาวบ้านมางานแต่งของตงเหวินหมิงกับหยางเหมยจินจะเป็นถึงนายท่านหลู่ นายท่านผู้ลึกลับแต่ทรงอิทธิพล และเขาก็ไม่คิดว่าท่านจะส่งคนมาบอกเรื่องที่จะให้ คนมาทำงานในคอมมูน โดยปลอมเป็นชาวบ้านที่มาทำงานในคอมมูนที่หมู่บ้านแห่งนี้เพื่อที่จะปกป้องใครบางคน ซึ่งต่อให้ช

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status