"เค กินข้าวเสร็จแล้วขับรถไปส่งม่านฟ้าที่บ้านด้วยนะ" โซเฟียย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นคนทั้งคู่กำลังเดินผ่านห้องนั่งเล่นพอดี
"ไม่เป็นไรค่ะคุณน้า ม่านขับรถมา เดี๋ยวม่านวนมาส่งเคที่นี่เอง"
"ได้ไงกัน ให้เจ้าเคไปส่งนั่นแหละ"
"เอ้าแม่! แล้วผมจะกลับบ้านยังไง" ลูกชายร่างสูงมุ่ยหน้ากลอกสายตา รับรู้ถึงแผนการของมารดาได้ทันที
"แล้วแกจะปล่อยหนูม่านขับรถกลับคนเดียวได้ไง แกเป็นผู้ชาย ขากลับก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านได้"
"นี่ผมใช่ลูกแม่ไหมเนี่ย" คาเตอร์บ่นอุบออกมาเบา ๆ ทำให้เธอต้องช่วยรับหน้าพูดแทน เพื่อให้หญิงสูงวัยกว่ายอมปล่อยพวกเธอออกไปกินข้าวเสียที
"เอาแบบนี้ไหมคะ ถ้ากลับกันไม่ดึกมากเดี๋ยวม่านขับกลับเอง แต่ถ้าดึกค่อยให้เคไปส่งหนู"
"เอางั้นก็ได้จ้ะ...เข้าใจไหมเค ถ้าดึกลูกต้องไปส่งหนูม่านนะ"
"เฮ้ออออ~ ครับ ๆ ปล่อยผมไปสักทีเถอะ"
ไม่อยู่รอฟังมารดาบ่นอะไรต่อ ชายหนุ่มก็ใช้ท่อนแขนกำยำโอบรอบคอเพื่อนสนิทแล้วลากคอเธอออกมาจากบ้านทันที
"เบื่อว่ะ แม่กูพูดเยอะฉิบ รอบหน้าไม่ต้องโผล่มาบ้านกูแล้วนะ นัดเจอข้างนอกเลย" ร่างสูงระบายลมหายใจ เหนื่อยหน่ายเหลือเกินเวลาที่ม่านฟ้ามาบ้าน เพราะเขาก็มักจะถูกมารดายัดเยียดให้ทำนู่นทำนี่เพื่อดูแลเธอแบบเกินเหตุ
"เออ ๆ ก็โทรหามึงแล้วไม่ตื่นอะ"
"กว่าบอลจะจบก็ตีสี่แล้ว มึงนั่นแหละ แหกตาตื่นมาทำไมแต่เช้า"
"ก็ทีมมึงแพ้อะ กูมาทวงข้าวผิดตรงไหน"
เมื่อคืนเขากับม่านฟ้าถือสายนั่งดูบอลด้วยกัน จึงเกิดการพนันท้าทายเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่ผลสุดท้ายทีมในดวงใจจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เจ็บใจไม่พอยังต้องเสียเงินเลี้ยงข้าวเพื่อนสาวอีก
เธอล้วงกุญแจรถยุโรปสีขาวคันหรูของตัวเองส่งให้คาเตอร์ทำหน้าที่คนขับตามปกติ ปัดท่อนแขนหนาออกจากบ่าแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแทน
ห้างหรูใจกลางเมือง
"จะกินร้านไหน" ชายหนุ่มถามขึ้นขณะทั้งคู่เดินเคียงข้างกัน สายตาคมมองซ้ายมองขวาดูสินค้าแบรนด์เนมผ่านตู้โชว์ด้วยความสนใจ
สาว ๆ หลายคนที่เดินจับกลุ่มผ่านไปมา ต่างพยายามส่งสายตา ยกยิ้มให้หนุ่มหล่อหน้าใสท่าทางเชื้อเชิญ ไม่เกรงใจหญิงสาวแต่งตัวแปลก ๆ ที่มาด้วยกันแม้แต่น้อย แต่ม่านฟ้าก็เลือกที่จะไม่สนใจเหมือนทุกครั้ง
"อยากกินชาบู มีร้านเปิดใหม่ อยู่ชั้นบน"
"อีกแล้ว กูเพิ่งสระผมมา ร้านอื่นดิ๊ ไม่อยากหัวเหม็น"
"ทีมกากไม่มีสิทธิ์บ่น" เธอตัดจบเมื่อคาเตอร์ทำท่าจะงอแง พร้อมพ่นลมหายใจออกมากับความเวอร์ของเพื่อน เพราะขนาดตนเองเป็นผู้หญิงแท้ ๆ ยังสำอางไม่ได้ครึ่งของเขาเลย
เมื่อเดินขึ้นมาจนถึงชั้นเป้าหมายคนที่ไม่ได้อยากกินชาบูแต่แรกก็ต้องยิ่งหน้าบึ้ง เมื่อเห็นจำนวนคนที่ต่อคิวอยู่หน้าร้าน
"ไม่ได้แดกอะวันนี้ ไม่เปลี่ยนร้านจริงดิ"
"อยากกินอะ" ม่านฟ้าหน้าจ๋อยมองแถวยาวเหยียดตาละห้อย แม้จะหิวจนตาลายแต่ตนดูรีวิวรอตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว จึงไม่อยากเปลี่ยนร้าน
"เออ ๆ ตามใจ ไปจองคิวไป เดี๋ยวเดินเล่นรอก็ได้"
"เย่~ ขอบคุณค่า"
ริมฝีปากกระจับสีแดงระเรื่อคลี่ยิ้มกว้าง ดวงตาสดใสเป็นประกายทำให้ชายหนุ่มหลายคนที่นั่งรอหน้าร้านแอบสะกิดกันให้หันมามองเธอ ผิดกับคาเตอร์ที่ดูเมินเฉยเหลือเกินกับท่าทางน่ารักนี้ แต่กลับใช้ท่อนแขนพาดบ่าเล็กแสดงความสนิทสนมแทน
พวกเธอรับคิวแล้วไปเดินเล่นรออยู่นาน เมื่อใกล้ถึงเวลาม่านฟ้าก็ขอแยกไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อกลับมาถึงหน้าร้านอีกครั้งก็พบว่าคิวของตัวเองผ่านไปแล้ว และก็ไม่พบชายหนุ่มอยู่แถวนั้นจึงคิดว่าเขาคงรับคิวแทนแล้ว
เท้าเล็ก ๆ เดินตรงเข้าไปแจ้งกับพนักงานแล้วจึงเดินเข้าหาชายหนุ่มด้านใน
"เอ้า! ไม่แยกหม้อวะ" เธอบ่นอุบออกมาเมื่อเห็นบนโต๊ะมีหม้อน้ำซุปอยู่เพียงหม้อเดียว
"กิน ๆ ด้วยกันนี่แหละ"
"แต่กูไม่กินเนื้อไง" ม่านฟ้าว่าพร้อมทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม
เนื่องจากทั้งคู่สนิทสนมกันมานาน จึงรู้ถึงนิสัยความชอบไม่ชอบกันเป็นอย่างดี และปกติคาเตอร์ก็จะกินแต่เนื้อวัว ส่วนเธอเน้นไปที่หมูและปลาเป็นหลัก ที่ผ่านมาจึงมักจะสั่งแยกกันตลอด
"ก็ไม่ได้จะกินเนื้อไงวันนี้ ของที่มึงชอบกูสั่งมาให้แล้ว"
"หูยยยย น่ารักว่ะ...สั่งน้ำให้ยัง"
"น้ำพั้นซ์เหมือนเดิม" ชายหนุ่มกอดอกเอนพิงพนักที่นั่งตัวเองตอบกลับอย่างรู้ใจ ทำให้ม่านฟ้ายิ้มกว้าง
หากถามว่าใครคือคนที่รู้จักเธอดีที่สุด เธอจะตอบอย่างไม่ต้องคิดเลยว่าคือคาเตอร์ เขารู้จักเธอดียิ่งกว่าพ่อแม่หรือแม้กระทั่งตัวเองเธอด้วยซ้ำ
ทั้งคู่เริ่มมาสนิทสนมกันก็ตอนอยู่ชั้นประถมสอง แต่ความจริงเธอรู้จักเขาตั้งแต่สมัยอนุบาล ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรืออะไรกันแน่ที่ทำให้เธอต้องอยู่ห้องเดียวกับคาเตอร์หลายรอบมาก แม้จะมีการคละห้องทุกปี
ตอนประถมทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันถึงสี่รอบ ขึ้นมัธยมก็ดันมาเรียนที่เดียวกันอีก อยู่ด้วยกันอีกห้ารอบ และยังต้องวนมาเจอกันในมหาลัยอีกสี่ปีติด เพราะทั้งคู่เลือกมหาวิทยาลัยและคณะเดียวกัน
จึงกลายเป็นเพื่อนสนิทซี้ปึกกันโดยปริยาย แม้ต่างคนจะมีเพื่อนคนละกลุ่มกัน แต่ทุกคนก็ทราบกันดีถึงความสนิทสนมของทั้งคู่
คาเตอร์ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปหม้อชาบู โพสต์ลงในไอจีส่วนตัวอัปเดตชีวิตความเคลื่อนไหว โดยไม่ลืมตั้งแคปชันยั่ว ๆ อ่อยสาวตามสไตล์ แถมยังถ่ายติดข้อมือบาง ๆ ของสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามไปด้วย
K.Carter พาหมูมาเลี้ยงข้าว @Marn_Fah
Prerany : อิจฉา~ พรีก็อยากให้พี่เลี้ยงข้าวบ้างจัง
anggie : ถ่ายหน้าหล่อ ๆ ลงบ้างน้า จี้คิดถึง
Look_tan : คนนี้เพื่อนจริงเหรอคะ เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยมากเลย T^T
myme.mind : พายเรือคู่นี้มาหลายปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะคบกันคะ
หลังจากลงรูปเพียงไม่นาน ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ต่างก็เข้ามาถล่มคอมเมนต์เสียเจ้าตัวต้องกดออกจากแอปพลิเคชัน ซึ่งม่านฟ้าก็เหลือบดูโทรศัพท์ของตัวเองที่ขึ้นแจ้งเตือนเล็กน้อย แล้วก็ขมวดคิ้วมองกลับเคือง ๆ
"แอบถ่ายรูปกูอีกแล้วเหรอ"
"ทำไม กูถ่ายไม่ได้งั้นดิ" เขาเลิกคิ้วแสยะยิ้มร้ายก่อกวนอารมณ์ ทำหญิงสาวกลอกสายตาระอา
"หวังว่าจะไม่ใช่รูปทุเรศ ๆ นะ"
"ก็ไม่แย่กว่าปกติเท่าไรหรอกน่า"
"ไอ้เค!" เธอแว้ดกลับเสียงเข้ม ปากกระจับบูดบึ้งดูน่ามันเขี้ยวมากกว่าจะน่ากลัว คาเตอร์แอบอยากเอื้อมมือไปหยิกแก้มเนียนใสให้ช้ำจริง ๆ
"ติดแค่มือโว้ย โวยวายเยอะจริง"
"ชิ ให้มันจริง มึงอะชอบแกล้งกูตลอด ทำกูหลอนไปหมดแล้ว"
ม่านฟ้าพ่นลมออกจมูกแล้วหันกลับมาสนใจหม้อเดือด ปุด ๆ ตรงหน้าอีกครั้ง
"เออ ไอ้วิคเตอร์จะหมั้นแล้วนะ อีกสามอาทิตย์" คาเตอร์เอ่ยขึ้นมาขณะหญิงสาวกำลังคีบเนื้อปลาใส่หม้อ
"เฮ้ย! ถามจริง พี่เขายอมเหรอ เห็นมึงเล่าให้ฟังตลอดว่าพี่วิคเตอร์ค้านหัวชนฝา"
"หึ มึงก็รู้จักแม่กูดี มีอะไรที่อยากได้แล้วจะไม่ได้บ้าง คนเป็นลูกก็ได้แต่ก้มหน้าทำตาม"
จะเรียกว่านินทามารดาก็ได้ แต่นิสัยชอบบงการของคนเป็นแม่ก็ทำเขาเหนื่อยใจไม่น้อย ก่อนจะตวัดสายตามามองทางเพื่อนสนิทด้วยสายตาแปลก ๆ
"รู้ใช่ไหมว่าแม่กูเล็งมึงอยู่"
"เออ ก็พอรู้"
"เฮ้ออออ~ ช่วงนี้ไม่ต้องโผล่ไปบ้านกูเชียว อย่าไปทำให้แม่กูมีหวัง งั้นกูกับมึงได้แต่งกันเป็นรายต่อไปแน่"
"โอ๊ยขนลุก! ไม่ได้ไหม รู้สึกเหมือนผิดผียังไงไม่รู้" เธอเบ้หน้า แค่คิดภาพว่าต้องถูกจับแต่งงานกับเพื่อนสนิทก็ทำขนในกายเธอลุกวาบ
"เออไง เราแม่งเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แก้ผ้าอาบน้ำกันมากี่รอบ ความสนิทมันเกินกว่าจะมาคบกันได้แล้ว ไม่เข้าใจทำไมผู้ใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องนี้สักที" คาเตอร์บ่นอุบ เพราะทุกครั้งที่กลับบ้านเรื่องของม่านฟ้าก็จะเป็นประเด็นให้เขาอึดอัดเสมอ
ซึ่งของเธอก็ไม่ต่างกัน ถูกจันเจ้าผู้เป็นมารดาคาดคั้นตลอด ยิ่งทั้งคู่สนิทกันมาก ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจึงต่างคาดหวังว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ได้มากกว่านี้ และทั้งสองครอบครัวก็ยังจะได้รับผลประโยชน์ทางธุรกิจอีกหากได้ดองกันจริง ๆ
"งั้นมึงควรเลิกลอยไปลอยมาเป็นผีไม่มีศาล แล้วหาแฟนจริง ๆ คบสักที"
"ไม่เอาอะ"
"นี่ไง! เพราะแบบนี้แม่พวกเราถึงไม่ปล่อยวาง" ตะเกียบในมือบางชี้ตรงไปที่หน้าเพื่อนสนิท เพราะเขาก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สองครอบครัวมีหวัง
"ของงี้บังคับกันได้เหรอวะ"
"แล้วพวกสาว ๆ เป็นล้านในสต็อกของมึงนี่ จะเก็บไว้ทำไม ถ้าไม่ชอบจนอยากคบจริงจัง"
"ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่กูก็แค่เอาเล่น ๆ อะ พอเจอคนถูกใจจะเริ่มคุยกันจริง ๆ ก็งี่เง่า วุ่นวาย อยากให้ทำนู่นทำนี่ให้ แค่ถูกแม่บังคับมาตลอดชีวิตก็พอแล้ว ไม่อยากโดนเมียบังคับอีก"
"เอดส์แดกแน่มึงอะ สำส่อนมัวไม่เลือก" ม่านฟ้าพ่นลมหายใจออกมากับพฤติกรรมเจ้าชู้ของเพื่อนสนิท
"โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าถุงยางนะ เผื่อสาวซิงแบบมึงจะไม่รู้จัก"
มุมปากหนากระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมชะโงกหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายเพื่อล้อเลียน
"งั้นมึงหาแฟนให้กูสักคนดิ เผื่อบ้านเราทั้งคู่จะได้เลิกจับคู่สักที"
"ใครมันจะไปเอามึ้ง!" คาเตอร์หัวเราะร่าเสียงดัง พร้อมไล่สายตามองการแต่งตัวแปลกประหลาดของเพื่อนสนิทอย่างดูแคลน "หัดแต่งตัวดี ๆ ให้เป็นก่อนเถอะมึงอะ"
"ปากเสียว่ะ กูมองตัวเองในกระจกก็รู้สึกว่าหน้าตากูไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่ทำไมไม่มีผู้ชายมาจีบสักคน"
ร่างเล็กพ่นลมหายใจออกมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากมีแฟน แต่ก็นึกสาเหตุที่ทำให้ไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้ามาจีบไม่ออก แม้ต้นเหตุของปัญหาจะนั่งหัวโด่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ตาม
"สวยคนเดียวในโลกจินตนาการอะสิ ออกจากบ้านไม่คิดจะเขียนคิ้ว ทาปาก แต่งตัวให้เป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้าง"
แม้ม่านฟ้าจะเรียกได้ว่าเป็นสาวสวยหน้าตาดีมากคนหนึ่ง แต่เมื่อยืนเทียบกับผู้หญิงอื่นที่ทั้งผ่านมีดหมอและเครื่องสำอางก็ทำให้เธอดูจืดชืดและไม่น่าค้นหาเลยสำหรับหนุ่มเพลย์บอยที่เจอผู้หญิงสวยมาหลายร้อยคน
"แม่งผู้ชายมันไม่มีตา"
"หึ ๆ ...เอ้าไม่ร้อง แดกผักเยอะ ๆ จะได้ฉลาดบ้าง" ชายหนุ่มกระตุกยิ้มพร้อมคีบผักในหม้อใส่จานให้คนตัวเล็กท่าทางเอาใจ แต่เหมือนการตบหัวแล้วลูบหลังมากกว่า
"กูก็ไม่ได้โง่ปะ!"
"แต่มึงมันบื้อ! อย่างมึงอะไม่ต้องมีหรอกแฟน มึน ๆ อึน ๆ แบบนี้ จะไปตามพวกผู้ชายเจ้าเล่ห์ทันที่ไหน"
"เศร้า สรุปกูจะจบมหาลัยโดยไม่มีแฟนสักคนเนี่ยนะ กูเคยเป็นดาวคณะนะโว้ย"
"มันจับฉลากเอา เลิกมั่นหน้าได้ละ ถ้าแข่งกันจริง ๆ คิดว่าผู้หญิงหน้าตาแบบมึงจะได้ตำแหน่งหรือไง"
คาเตอร์ยังไม่หยุดพูดจาตัดกำลังใจและความมั่นใจเพื่อนสนิทที่มีอยู่น้อยนิดให้หมดไป ทำให้ม่านฟ้าห่อเหี่ยวจิตใจเหลือเกิน ร่างเล็กงุ้มไหล่ท่าทางปลงตก คีบผักต้มเข้าปากอย่างเซ็ง ๆ ในขณะที่ชายหนุ่มอีกคนอารมณ์ดีเกินกว่าเหตุ
หลายเดือนผ่านไปร่วงเลยจนเข้าสู่เทอมที่สองของชั้นปี 4 ม่านฟ้าก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกฝึกงานแทนการทำโครงงานจบ เพื่อที่จะได้ใช้โอกาสนี้ศึกษางานในบริษัทของครอบครัวร่างเล็กสวมเสื้อนักศึกษาคลุมทับด้วยเสื้อช็อปวิศวะสีกรมท่าขนาดพอดีตัว ท่อนล่างสวมเป็นกางเกงยีนขายาวดูเรียบร้อย เพื่อความกระฉับกระเฉงคล่องแคล่ว มีป้ายชื่อห้อยคอไม่ต่างจากเด็กฝึกงานคนอื่นเธอก้มหน้าอยู่หน้าโต๊ะทำงานสีเทาเข้ม ไม่กล้าเงยหน้าสบมองชายหนุ่มเจ้าของห้องทำงานใหญ่ มือทั้งสองข้างบีบกุมเอาไว้ด้านหน้า ฟังคำสั่งเงียบ ๆ แม้จะเริ่มมีความมั่นใจและกล้าแสดงออกในหลายสิ่งมากขึ้น แต่ความกลัวเกรงต่อพี่ชายต่างมารดาก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย"ฉันแจ้งคุณปวีณาหัวหน้าฝ่ายบุคคลให้ช่วยใส่นามสกุลปลอมให้แล้ว เขาจะเป็นคนพาเธอไปแนะนำกับทีมวิศวะ" ร่างสูงสวมสูทผูกไทเป็นทางการ ท่าทางเคร่งขรึมทำน้องสาวหนาว ๆ ร้อน ๆ ทุกที เขาเอนพิงเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่เอ่ยเสียงเรียบกำชับน้องสาวต่างมารดา"...""จำไว้ว่าระหว่างฝึกงานอย่าให้ใครรู้ฐานะที่แท้จริง ฉันไม่อยากให้เธอมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น""ค่ะ ทราบแล้วค่ะ""แล้วก็คอยทำรายงานส่งฉันทุกอาทิตย์ด้วย ใครมันอู้ ทำงานชุ่ยเขี
หลายสัปดาห์ต่อมาคฤหาสน์ครอบครัวคาเตอร์เรือนร่างสูงโปร่งสง่างามราวกับนางพญาก้าวลงจากรถยุโรปคันหรู โดยมีคนขับรถวัยกลางคนเปิดประตูรอไว้ให้ ส้นสูงเกือบสี่นิ้วไม่ได้ทำให้ซวนเซแต่อย่างใด เสียงรองเท้ากระทบพื้นหินอ่อนอย่างดีดังก้องไปทั่วโถงทางเดินขณะเจ้าบ้านก้าวฉับ ๆ ขึ้นชั้นสองราวกับนางแบบเดินบนรันเวย์วงแขนข้างหนึ่งคล้องกระเป๋าใบหรูราคาหลักล้าน มืออีกข้างหอบไอแพด เธอสวมสูทสีขาวคู่กับกางเกงขายาวเอวสูงให้ลุคนักธุรกิจสาวท่าทางมาดมั่น ใบหน้าสวยจัดออกลูกครึ่ง ราศีผู้ดีจับทุกระเบียบนิ้วดูเคร่งขรึมจริงจัง แม้จะล่วงเลยเข้าสู่วัยเลขห้าแล้ว แต่กาลเวลาก็ไม่อาจลดเลือนความงดงามของเธอได้โซเฟียผลักประตูเข้ามาในห้องทำงาน จัดแจงวางข้าวของลงบนโต๊ะ ร่างสมส่วนทิ้งตัวลงยังเก้าอี้ทำงานหนังแท้อย่างดี เอนกายผ่อนคลายอยู่ในห้องส่วนตัวตามลำพัง มือเรียวบางเอื้อมรินเครื่องดื่มสีอำพันใส่แก้วใบเตี้ย โคลงมันเล็กน้อยขณะหลับตาปลดปล่อยความเครียดจากงานที่เผชิญมาทั้งวันความสงบถูกทำลายลงเมื่อมีเสียงรบกวนแว่วเข้ามาในโสตประสาท เธอกระดกเครื่องดื่มในมือและวางแก้วเปล่าลงกับโต๊ะไม้ตัวใหญ่ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันพลางชะโงกหน้ามองลอด
วันจันทร์มหาวิทยาลัย Uม่านฟ้าแอบประหม่าเล็กน้อยจนถึงมากที่สุด เนื่องจากได้รับความสนใจจากนักศึกษาร่วมคณะหันมาจับจ้องเธอเป็นตาเดียว นอกจากประเด็นการเปิดตัวคบหากับเพื่อนสนิทตัวเองแล้ว วันนี้ร่างเย้ายวนยังปรับเปลี่ยนการแต่งตัวใหม่ สวมชุดนักศึกษาเข้ารูปขึ้นคู่กับกระโปรงทรงเอเหนือเข่าที่ชายหนุ่มช่วยเลือกให้ใหม่เพื่อไม่ให้ดูสั้นเกินไป ใบหน้าสวยแต่งแต้มเครื่องสำอาง ทำให้ดูมีเสน่ห์เย้ายวนชวนมองราวกับเป็นคนละคนแถมเจ้าของประเด็นดังก็ยังเดินโอบเอวเคียงข้างย้ำชัดถึงสถานะที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่"เดินหลังตรง ๆ สิ เลิกห่อไหล่ได้แล้ว" คาเตอร์ช่วยเตือน เพราะเวลาม่านฟ้าประหม่าจะแสดงอาการล่ก ๆ เช่นนี้ประจำ"คนมองเยอะจัง ไม่ชินอะ""วันแรกก็แบบนี้แหละ เธอได้คบคนหล่อก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอ"ม่านฟ้าเบะปากหมั่นไส้ที่แฟนหนุ่มหาเรื่องวนกลับมาชมตัวเองได้หน้าตาเฉย แต่คำพูดและท่าทางขี้เล่นของเขาก็ช่วยให้ม่านฟ้าลืมเลือนสายตาสงสัยใคร่รู้รอบข้างไปได้ชั่วคราว"มาซะทีนะนังตัวดี ไปโดนไอ้พ่อล่อลวงแบบไหนถึงหลวมตัวตอบตกลงคบมันได้" เชียร์คู่กัดตลอดกาลของคาเตอร์จิกแขวะขึ้นมาเมื่อทั้งคู่เดินมาใกล้โต๊ะประจำ"กูคนดีแล้วเ
เช้าวันต่อมาร่างเล็กบิดกายขับไล่อาการเกียจคร้านพร้อมพลิกร่างหันไปอีกฝั่ง ถูไถไปหน้าสวยเข้าหาหมอนนุ่ม ช่วงเอวบางคอดมีท่อนแขนกำยำวางพาดเอาไว้ มือน้อยยกขึ้นขยี้ตาก่อนจะค่อย ๆ กวาดมองรอบห้องที่ยังคงมืดสนิทจากผ้าม่านหนาที่ปิดกั้นแสงภายนอกได้เป็นอย่างดี คงมีเพียงใต้ม่านสีเข้มเท่านั้นที่มีแสงสว่างเล็ดลอดทำให้พอจะรู้ว่าตอนนี้เช้าแล้วร่างเย้ายวนเปลือยเปล่าเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์มือถือข้างกายที่ถูกชาร์จแบตทิ้งเอาไว้เรียบร้อยเพื่อดูเวลา คาดว่าเมื่อคืนคาเตอร์คงจะช่วยเสียบไว้ให้ เห็นว่าเพิ่งเจ็ดโมงกว่าเท่านั้น ทำให้หญิงสาวล้มตัวลงนอนที่เดิม ขยับกายเข้าหารับไออุ่นจากเรือนร่างกำยำของหนุ่มด้านหลัง มือก็หยิบโทรศัพท์สี่เหลี่ยมขึ้นมาเปิดดูนู่นนี่ไล่ไปเรื่อยสายตาพร่าเลือนที่ยังมีคราบขี้ตาติดอยู่เพ่งพิจารณาแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันอินสตาแกรมที่วันนี้ดูจะเยอะกว่าปกติ ไม่รอช้ามือน้อยก็กดเข้าไปส่องดูด้วยความสงสัยคิ้วบางขมวดเข้าหากันเรื่อย ๆ ก่อนจะตาเบิกกว้างแตกตื่นตกใจเมื่อเห็นรูปที่แฟนหนุ่มลงเมื่อคืน พร้อมแคปชันหวานเปิดตัวอย่างไม่อายใคร ที่หนักกว่านั้นรูปภาพมันยังดูล่อแหลมชวนคิดลึก และหนุ่มหน้าหนาก็จงใจแท็กช
ทันทีที่คาเตอร์ลากม่านฟ้ากลับวิลล่าส่วนตัวก็เป็นเวลาของพวกเขาแล้วแก๊ปเป็นคนแรกที่เหมือนจะอดทนรอต่อไปไม่ไหว ช้อนร่างปิ่นสาวน่ารักตัวเล็กผิวสีแทนนวลเนียนขึ้นในอ้อมอกในท่าเจ้าสาว ก้าวฉับ ๆ ตรงเข้าที่พัก สาวน้อยหัวเราะร่านัยน์ตาหยาดเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และเพลิงพิศวาสที่กำลังแผดเผาเธอทีละน้อยครามก็กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้ต้าร์ด้วยสายตารู้ทันกัน จูงประคองพลอยหญิงสาวอีกคนตามหลังเพื่อนหน้าเข้มไปติด ๆห้องนอนใหญ่ตั้งอยู่ที่ชั้นสองของวิลล่า ทั้งกลุ่มเลือกใช้มันเป็นสถานที่สำหรับบทสวาทแสนเร่าร้อนในค่ำคืนนี้ห้องพักกว้างขวางมีเตียงขนาดหกฟุตตั้งเด่นอยู่กลางห้องนอนหันหน้าออกระเบียง สามารถมองวิวทิวทัศน์ท้องทะเลสีหมึกได้ชัดเจน ด้านขวาของเตียงมีโซฟาตัวยาวสีเทาตั้งเอาไว้สำหรับนั่งเล่น แต่พวกเขาไม่ได้ใช้มันด้วยจุดประสงค์นั้นอีกฟากของห้องเป็นโซนห้องน้ำ อ่างจากุชชีใหญ่วางอยู่ไม่ไกลไร้ซึ่งประตูขวางกั้น สามารถมองวิวด้านนอกผ่านกระจกได้เช่นกัน และคนในห้องก็สามารถเห็นทุกการกระทำหากมีใครอาบน้ำอยู่ นี่ช่างเหมาะกับกิจกามแสนพิเรนทร์ของกลุ่มหนุ่มโสดเหลือเกินแก๊ปไม่รอช้าโยนสาวตัวเล็กลงกับที่นอนเตียงสปริงนุ่มเด
"อ๊ายยยย~"คนตัวเล็กเชิดหน้าหวีดร้องดังลั่นเมื่อลำกายใหญ่กระแทกสวนขึ้นมารุนแรง ชายหนุ่มแยกขากว้างสอบรัวสะโพกขึ้นมาเป็นระวิง ทุกการกระทำหนักแน่น ดุดันจนใจเธอสั่นสะท้าน กระเด้งโยกไหวไปตามแรง จนต้องกอดก่ายร่างใหญ่โตเอาไว้เตรียมพร้อมรับมือกับแรงกระสันของแฟนหนุ่มยังไม่ทันซึมซับกับความเสียดเสียวครั้งก่อนเสร็จ บทรักแสนร้อนแรงระลอกใหม่ก็จู่โจมน้ำใสกระแซะเปรอะเปื้อนหน้าขาตามความดิบเถื่อนที่ประเดประดังเข้ามา ร่างน้อยโยกคลอนไปตามแรงอัดด้านล่าง ท่านี้ทำให้เม็ดทับทิมไวความรู้สึกถูไถไปกับกลุ่มเส้นขนหนา ยิ่งทำท้องน้อยวูบหวามร้อนรุ่มเกินจะรับไหวปึก ปึก ปึก"ระ...เร็วไป...ซี้ดดดด...ทั้งแสบทั้งเสียวเลยเคขา~""อ่าาาาส์ ครางดัง ๆ อีกสิครับที่รัก ชอบจังเวลาเธอพูดคะขา"กล้ามเนื้อทุกมัดบีบรัดขึ้นมาเป็นก้อน เอ็นตามลำคอปูดนูนยิ่งทำให้ชายหนุ่มดูเซ็กซี่ร้อนแรงขึ้นอีกเท่าตัวใบหน้าทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่กี่เซ็นต์ ทุกครั้งที่แท่นเอ็นร้อนโจนจ้วงทะยานเข้ามาในกายเธอหนัก ๆ ปลายจมูกก็จะเสียดสีสัมผัสกันเบา ๆ สองหนุ่มสาวหอบกระเส่าระบายความรู้สึกมากมายที่ไหลทะลักนัยน์ตาสีอ่อนจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเสียดเสียวทรมานของแฟนสา
ร่างเล็กซวนเซเล็กเดินพยายามก้าวขายาว ๆ ให้ตามหนุ่มด้านข้างทัน แต่เมื่อกลับมาถึงห้องพักเธอก็ทอดกายลงกับเตียงกว้างอย่างหมดสภาพ ใบหน้าและเนื้อตัวแดงก่ำน่าขยำไปทุกส่วนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์คาเตอร์จัดการรูดม่านปิดบดบังทิวทัศน์ท้องทะเลยามค่ำคืน คลานเข่าขึ้นมานัวเนียกับคนรักบ้าง"นี่~ ถามหน่อยสิ" หญิงสาวใช้มือยันแผงอกคาเตอร์ไว้ก่อน ความอยากรู้ทำให้เธอตัดสินใจถามเรื่องที่ค้างคาในจิตใจออกไป"ครับ? อยากรู้อะไรเหรอ""เคเคยทำแบบนั้นไหม?""หมายถึงอะไร" ใบหน้าหล่อเหลาดูมึนงงในคำถามเล็กน้อย"แบบที่พวกครามทำ หลายคนแบบนั้นอ่า" ถามเองก็อายเอง มีแอบหึงหวงอยู่บ้างเหมือนกัน ก็พยายามทำใจคิดเสียว่ามันคือเรื่องสมัยก่อน แต่อยากรู้จากปากชายหนุ่มเองมากกว่า"สวิงอะนะ บ้า ไม่เคย!""ทำไมอะ...พวกเพื่อนเคยังทำเลย ไม่แปลกหรอกที่เธอจะพลาด...หรือกลัวม่านรับไม่ได้"เธอหน้าบึ้งคาดคั้นเอาคำตอบเมื่อเสือร้ายยังคงปากแข็งร่างสูงโอบกระชับกายเธอแนบอก จุมพิตเบา ๆ ลงบนหน้าผากเนียนใส รับรู้ถึงความขุ่นเคืองในใจสาวได้ไม่ยาก และเริ่มอธิบายต่อเสียงนุ่ม"เคไม่ได้ชอบแบบนั้น...ยอมรับว่าตอนก่อนสาวเยอะจริง แต่ก็ไม่ได้ไปจอยกับมัน...อย่างมากก็แ
"เธอจะใส่ชุดนี้จริงเหรอ""มันไม่สวยหรือว่ายังไง?""มันก็สวย...แต่แอบหวงว่ะ ไม่เปลี่ยนจริงดิ" คาเตอร์นั่งอยู่ปลายเตียง ขมวดคิ้วไล่มองการแต่งตัวของแฟนสาวอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ถามย้ำอีกครั้ง"พี่อันบอกว่าอย่าให้ใครมาบงการบังคับ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น"ม่านฟ้ากอดอกเถียงกลับไม่ยอมแพ้ ในเมื่อตั้งใจแล้วว่าจะเริ่มเปลี่ยนตนเองแล้ว ครั้งนี้จะไม่ยอมให้อาการขาดความมั่นใจหรือคำพูดของคาเตอร์มาพังมันเด็ดขาด แถมได้คนเทสดีอย่างอันดามันมาช่วยเลือกเสื้อผ้าให้ ทำให้เธอคลายความกังวลเรื่องการแมตช์ชุดไม่เข้ากันไปได้"โอเคครับ เคยอมแล้ว" ร่างสูงยกมือขึ้นยอมแพ้ หยัดกายขึ้นมาจากเตียงก้าวตรงไปโอบเอวบางของหญิงสาวไว้อย่างหวงแหน "เคจะพยายามเปิดใจให้มากขึ้นนะ แล้วจะคอยซัปพอร์ตม่านเองไม่ต้องห่วง"มุมปากเธอกลั้นรอยยิ้ม เอนศีรษะซบพิงแผงอกของเขาเอาไว้ท่าทางอ้อน ๆ คำพูดจาน่ารักเอาใจทำให้เธอสบายใจมากขึ้น"ขอบคุณนะ""ม่านสวยมากเลย ไหน ๆ ก็มั่นใจในตัวเองขึ้นแล้วก็เลิกเดินห่อไหล่ด้วยรู้ไหม""อื้อออ จะพยายาม"คาเตอร์บรรจงจุมพิตบนหน้าผากมนเบา ๆ สูดหายใจเข้าออกหลายครั้งเพื่อข่มความหึงหวงที่มากเกิน
เลือดไหลเวียนไปกองอยู่บริเวณศีรษะที่ห้อยต่องแต่งบนบ่ากว้าง กว่าร่างสูงจะยอมวางเธอลงยืนดี ๆ ใบหน้าสวยก็แดงก่ำ มึนตื้อแผ่นหลังบางเอนพิงกระเบื้องเย็นเฉียบของห้องน้ำ ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกมาต่อร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มก็พุ่งเข้าจู่โจมซะแล้วกลีบปากหนาประกบแนบชิด บดจูบอย่างเร่าร้อนรุนแรงตามเพลิงปรารถนาที่พุ่งสูง เรียวลิ้นสากลากเลียไปตามริมฝีปากแดงระเรื่อ ขบเม้มหยอกล้อเร่งเร้าให้เธอตอบสนอง พร้อมใช้มือช้อนใบหน้าหวานให้รับจูบนั้นโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง"อื้ออออ~"ม่านฟ้าหลับตาพริ้ม เผยอเปิดปากส่งเรียวลิ้นเล็กกระหวัดเกี่ยวดุนดันอีกฝ่ายเป็นการเอาคืน รสเค็มของน้ำทะเลไม่อาจทำให้ทั้งคู่ผละห่างออกจากกัน รุกไล้ไล่ต้อนอย่างไม่มีใครยอมใครท่อนแขนเรียวคล้องรอบลำคอคนตัวสูง ขณะเขาบดเบียดร่างกายเย็นฉ่ำเข้าหา พลางเอื้อมไปบิดวาล์วน้ำ ปล่อยให้น้ำสะอาดอุ่นสบายจากฝักบัวด้านบนไหลผ่านลมหายใจร้อนเริ่มถี่กระชั้น เสื้อเชิ้ตตัวบางที่ไม่อาจปกปิดเรือนร่างไว้ได้อีกต่อไปร่วงไปกองบนพื้นห้องน้ำ ตามมาด้วยกางเกงยีนที่หนักอึ้งจากการอุ้มน้ำเค็มไว้ร่างเล็กยืนสั่นระริก อาการวาบหวามเสียดเสียวแผ่ซ่านไปตามช่องท้องวนลงมาถึงเนินสาว ม