LOGIN
ยามค่ำคืนในเมืองปักกิ่ง รถหรูสีดำวิ่งฝ่าสายฝนที่ตกลงมาพรำๆ มุ่งหน้าไปที่โรงหมักสุรานอกเมือง
“นายหญิง อีกหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางถึง คุณพักสักหน่อยเถิดครับ” ลุงชุน คนขับรถของเฟยเถาเอ่ยขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
“ค่ะ”
แต่เฟยเถาไม่ได้หลับพักเอาแรงเช่นที่นางรับปาก ดวงตาคู่งามมองออกไปด้านนอกรถแล้วถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก เธอเพิ่งจะเดินทางกลับมาจากโรงงานถึงบ้านได้ไม่ถึงชั่วโมง ทางโรงงานก็โทรมาพบปัญหาให้เธอต้องรีบเข้าไปแก้ไข
หากเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ก็คงไม่ต้องให้เธอออกหน้า แต่นี่...พนักงานดันส่งสินค้าของลูกค้าสลับกัน
“จะตกให้แรงกว่านี้ก็ไม่ได้” เสียงหวานบ่นพึมพำเบาๆ
ฝนที่ตกลงมาเบาๆ ทำให้เธอนึกรำคาญใจนัก ตอนที่คุณพ่อ คุณแม่จากไปเมื่อห้าปีก่อน ก็เป็นวันที่ฝนตกลงมาเช่นนี้ จะไม่ให้เฟยเถาหัวเสียได้อย่างไร
มือขาวลูบหนังสือนิยายที่อยู่ด้านข้างของเหม่อลอย สายตายังทอดมองสายฝนและไฟท้ายของรถที่จอดติดกันยาวเป็นหางว่าว
ใจอยากจะรีบไปจัดการปัญหาที่โรงหมักสุราให้เสร็จเรียบร้อยใจแทบขาด แต่การจราจรมันช่างไม่อำนวยเสียเหลือเกิน เสียงบีบแตรอย่างเร่งรีบ ไม่ทำให้รถด้านหน้าขยับได้เร็วเลยสักนิด
ยังดีที่เฟยเถา หยิบนิยายติดมือมาอ่านแก้เบื่อด้วย เธออ่านค้างทิ้งเอาไว้ จึงคิดจะอ่านรวดเดียวให้จบระหว่างเดินทาง คิดว่าจะอ่านเพื่อลดความเบื่อหน่ายจากจราจรที่ติดขัด แต่เธอก็ต้องหัวเสียไปกับนางร้ายที่ชื่อเดียวกับเธอ วางแผนชั่ว ยั่วยวนพระเอก จางเจียวเหอ บัณฑิตรูปงามเพียงหนึ่งเดียวในหมู่บ้าน
เฟยเถาอ่านจนจบก็ได้แต่นึกเห็นใจ ความลุ่มหลงที่ฟางเฟยเถามีต่อจางเจียวเหอ แม้เขาจะยอมแต่งนางอย่างที่นางต้องการ หลังจากที่เขาได้เป็นขุนนางสมใจ แต่ดูเหมือนว่าจะยอมให้นางได้เป็นเพียงแค่อนุเท่านั้น
ความรักทั้งหมดของจางเจียวเหอ มอบให้กับคุณหนูสาม ถังจินเซียน บุตรีท่านเจ้าเมือง ในเมืองหูหนาน แคว้นต้าฉี ไม่มีที่ว่างใดให้ฟางเฟยเถาเข้าไปได้แม้เพียงเศษเสี้ยว
ความอิจฉาที่ฟางเฟยเถามี ทำให้นางวางแผนร้ายกาจทำร้ายถังจินเซียนอยู่ปล่อยครั้ง หนักสุดคงเป็นการวางแผนให้ถังจินเซียนแท้งบุตรของจางเจียวเหอ จนเมื่อความอดทนของ จางเจียวเหอหมดลง เขาจึงได้มอบความตายให้กับนาง
ฟางเฟยเถา ถูกสาวใช้ข้างกายของนางเอง วางยาพิษที่จางเจียวเหอมอบให้ แม้แต่ตอนที่นางนอนทรมานรอความตายอยู่บนเตียง ร้องเรียกหาจางเจียวเหอเพียงใด เขาก็ไม่มาหานาง
“ข้าผิดไปแล้ว เหตุใดท่านใจร้ายกับข้านัก อาเหอ...ข้าอยากพบท่าน” ดูความโง่ของนาง จะตายแล้วยังเรียกหาคนที่จะฆ่านางอีก
ต่อให้ฟางเฟยเถา ตายลงก็ไม่มีผู้ใดสนใจ หรือถามหา เมื่อนางไม่มีครอบครัวเหลืออยู่ อีกทั้งผู้คนก็ต่างพากันรังเกียจนิสัยไร้ยางอาย และร้ายกาจของนาง
ฟางเฟยเถา เธอเป็นสาวงามของหมู่บ้าน จะหาผู้ชายที่ดีกว่า จางเจียวเหอไม่ได้เลยเหรอ คนเขาไม่รัก ทำยังไงเขาก็ไม่รัก แต่อย่างว่า พระเอกก็ต้องคู่กับนางเอก เธอเป็นแค่ตัวละครที่นักเขียนสร้างขึ้นเพื่อให้นิยายมีสีสัน และให้คนอ่านเช่นฉันตามด่า
ระหว่างที่เฟยเถากำลังคิดถึงเรื่องราวในนิยาย ลุงชุนก็พูดขึ้นมาขัดจังหวะความคิดของเธอ
“ดูเหมือนด้านหน้าจะเกิดอุบัติเหตุครับนายหญิง”
“มีทางอื่นให้เลี่ยงไปได้ไหมลุงชุน หากไปช้ากว่านี้ผลกระทบจะยิ่งมีมากขึ้น”
“ผมจะลองหาหนทางดู”
ที่เฟยเถาต้องไปจัดการปัญหาด้วยตนเอง ผู้จัดการดันส่งสุราล็อตสำคัญไปให้คู่ค้าผิด หากลูกค้าที่รับของผิดไป ยอมคืนของให้เธอก็คงได้อาบน้ำเข้านอนแล้ว แต่เพราะทางลูกค้าไม่ยอมที่จะคืนของ ด้วยเห็นว่าเป็นสุราสูตรใหม่ ทางลูกค้าคนสำคัญเห็นว่าสูตรสุราของตนหลุดไปบริษัทคู่แข่งก็จะยกเลิกสัญญาการค้าทั้งหมด
กว่าที่เฟยเถาจะเจรจาได้คู่ค้าคนนี้มา เธอต้องวิ่งนำตัวอย่างสุราไปเสนอให้เขานานถึงห้าเดือน แต่ละครั้งก็มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงสูตรให้เป็นแบบเฉพาะสำหรับลูกค้าคนนี้เท่านั้น สูตรที่ส่งไปครั้งล่าสุด ทำให้เฟยเถาได้การค้าครั้งใหญ่มาครอบครองจนได้
ตอนนี้ผู้จัดการโรงงาน ทำได้เพียงรั้งตัว ตัวแทนของลูกค้าเอาไว้ เพื่อให้เฟยเถาไปแก้ไขสถานการณ์ หากรถยังติดต่อไป ไม่ต้องพูดถึงว่าจะเดินทางถึงเมื่อไหร่ แต่การค้าของเธอก็คงเสียหลายหนักแน่
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบภายในรถหรู ชื่อที่ขึ้นปรากฏในหน้าจอทำให้เฟยเถาอย่างจะกรีดร้องออกมา
“คนไม่อยู่แล้วใช่ไหม” น้ำเสียงของเฟยเถาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
“ขอโทษนายหญิงครับ ผมรั้งเอาไว้ไม่อยู่ คุณถังให้นายหญิงไปพบคุณหยวนในวันพรุ่งนี้ที่บริษัทครับ” เสียงปลายสายร้อนรนจนน่าเห็นใจ
“หื้มมมม” เฟยเถากัดฟันแน่น ก่อนจะตัดสายทิ้ง
คุณหยวน เป็นเจ้าของบริษัท จะคุยง่ายเหมือนตัวแทนได้ไง ต่อให้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดตั้งแต่ขบวนการจัดเตรียมส่งสุราทั้งสองแห่ง แต่เฟยเถาที่เป็นเจ้าของกิจการจำต้องน้อมรับความผิดทั้งหมดไว้เอง
“ลุงชุนเปลี่ยนไปบริษัทซันจินค่ะ” อย่างไรเฟยเถาก็ต้องเจรจาสุราล็อตนี้คืนมาให้ได้เสียก่อน พรุ่งนี้จะได้มีเรื่องแก้ตัวกับคุณหยวนได้
“ครับ”
ลุงชุนเปิดไฟเลี้ยวเพื่อขอทางกลับรถ รถคันที่กำลังพุ่งตรงหน้าหยุดให้อย่างมีน้ำใจ แต่เรื่องที่ไม่คาดถึงก็เกิดขึ้น เมื่อรถของเฟยเถาเกือบจะกลับรถได้พ้นคันแล้ว
รถบรรทุกที่วิ่งมาด้วยความเร็วเบรกไม่อยู่ น้ำฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายทำให้รถเกิดเสียหลักพุ่งเข้าชนรถของเฟยเถาในส่วนด้านข้างที่เธอนั่งพอดี
“กรี๊ดดดดดด”
“นายหญิง!!!”
เสียงกรีดร้องของเฟยเถา ทำให้ลุงชุนเสียสมาธิในการควบคุมรถ รถบรรทุกกระแทกเข้าส่วนท้ายของรถหรู จนหมุนอยู่กลางถนนไร้การควบคุม ก่อนจะพลิกคว่ำหงายท้องอยู่ข้างทาง
ร่างของเฟยเถากระแทกไปทั่วตัวรถ เธอไม่ได้คาดเข็มคัดนิรภัยเช่นที่ลุงชุนทำ อาการของเธอจึงสาหัสไม่น้อย กระดูกหักหลายแห่ง ทั้งยังมีเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก
พลเมืองดีหลายคนเข้ามาช่วยดึงร่างของทั้งสองออกมาอย่างทุลักทุเล ลุงชุนยังพอจะมีสติอยู่บ้าง มีเพียงหัวที่แตกจนเลือดไหลอาบลงมาที่ใบหน้า แต่เฟยเถาที่โดนชนเข้าอย่างแรง เธอเหลือเพียงลมหายใจรวยรินเท่านั้น
“นายหญิง นายหญิง” ลุงชุนคลานเข้ามาหาเฟยเถา
เด็กน้อยที่เขาดูแลมาตั้งแต่เล็ก หลังจากที่สูญเสียบิดามารดา ลุงชุนกับภรรยาก็ดูแลเฟยเถาราวกับเป็นบุตรของตน ปากก็ร้องเรียกเฟยเถา และหันไปขอร้องให้พลเมืองดีช่วยเรียกรถพยาบาลมาให้หน่อย
แทบจะเรียกได้ว่าลุงชุนคือมือขวาของเฟยเถาเลย ไม่ว่าเรื่องเล็กเช่นการใช้ชีวิต จนไปถึงเรื่องงานของเธอ ก็มักจะมีลุงชุนกับภรรยาของเขาคอยอยู่เคียงข้างมาตลอด
“...” เฟยเถาเจ็บปวดภายในจนไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้ เธอได้แต่มองลุงชุนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
ความรู้สึกเจ็บเจียดตายเธอก็เพิ่งจะเคยได้สัมผัส เฟยเถาเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ฝนดูเหมือนจะตกแรงขึ้นเล็กน้อย
“ตอนที่คุณพ่อ คุณแม่ ประสบอุบัติเหตุก็เจ็บเหมือนหนูใช่ไหมคะ” คำถามในใจที่เหมือนจะไม่ได้รับคำตอบ พร้อมสติของเฟยเถาที่ค่อยๆ เลือนรางลง
หนังสือนิยายที่ตกลงมาอยู่ข้างตัวเฟยเถา ถูกลมพัดไปหน้าที่เขียนถึงฟางเฟยเถาเอาไว้ ก่อนที่ตัวหนังสือด้านในจะถูกน้ำฝนชะล้างทำให้เลือนรางจางหายไป
เสียงรถพยาบาล เสียงลุงชุนร้องเรียก เพื่อให้เธอได้สติ เฟยเถาไม่รับรู้สิ่งใดอีกแล้ว ร่างของเธอถูกพาไปส่งที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว แต่เป็นเรื่องโชคร้าย อวัยวะภายในเสียหายอย่างมาก จนไม่อาจยื้อชีวิตของเธอกลับมาได้
วาจาของเจียวเหอที่ต่อว่านางต่อหน้าบัณฑิต และชาวบ้านที่หน้าสำนักศึกษา สร้างความอับอายให้เฟยเถา จนนางไม่กล้าเข้าเมืองอีกเลย ฟางเฟยเถายังจำสายตาของบัณฑิตและชาวบ้านที่มองนางอย่างดูแคลนได้ดีทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้นางจะแค้นใจทุกครั้ง จึงได้วางแผนการชั่วช้าเรื่องยากำหนัดกับเจียวเหอ ในเมื่อรังเกียจนางมากนัก ก็ตกเป็นของนางไปเลยก็แล้วกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด วิญญาณของฟางเฟยเถาจึงได้ออกจากร่างในวันที่แผนการของนางจะสำเร็จด้วยเฟยเถาลืมเรื่องความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมไปเสียสนิท นางต้องการที่จะเข้าเมืองเพื่อขายโสมเพียงอย่างเดียว เลยไม่สนใจสายตาของหูเจี้ยนที่มองมาทางนางอย่างกังวล“ไปเถิด หากช้าจะไม่ทันเกวียนวัวรอบเช้า” นางดันตัวหูเจี้ยนให้ออกเดิน“ได้”พอมาถึงเกวียนวัวหน้าหมู่บ้าน เฟยเถานางไม่ยอมให้หูเจี้ยนจ่ายค่าเกวียนให้นาง“ข้ามีเงิน” นางเขย่าถุงเงินตรงหน้าหูเจี้ยนด้วยรอยยิ้มสดใส เพราะอีกไม่นานในถุงเงินใบน้อยของนางจะต้องมีเงินอยู่เต็มถุงแน่นอน แม้ตอนนี้ในจะมีเพียงแค่พอจ่ายค่าเกวียนได้ก็ตาม“แม่นางฟาง เจ้าตัดใจจากอาเหอได้แล้วหรือ” สตรีใบหน้าอวบอิ่มมองนางอย่างเยาะเย้ย“อืม...ข้าต้องบอกท่าน
เฟยเถาเดินออกมาเกือบจะพ้นทางแยกที่นางแยกไปหาของป่าอีกฟากหนึ่งแล้ว แต่กระต่ายป่าก็ไม่คิดที่จะกลับเข้าไปในป่าเช่นเดิม“อืม...จะไปกับข้าหรือ” พอเห็นมันพยักหน้านางก็อุ้มกระต่ายมาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเดินลงเขาไปด้วยกันชาวบ้านที่เห็นเฟยเถาเดินออกมา พร้อมกับกระต่ายในมือ ก็มองมาทางนางด้วยความอิจฉา"เจ้าจับมันได้อย่างไร" หนึ่งในนั้นเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ“ก็อุ้มมันขึ้นมาอย่างไรเล่า” ก็นางทำเช่นนั้นจริงๆดูเหมือนไม่มีชาวบ้านคนใดที่จะเชื่อในคำพูดของเฟยเถา กระต่ายป่าว่องไวเพียงใด ผู้ใดไม่รู้กันบ้างเล่า มันจะยอมให้นางอุ้มขึ้นมาง่ายๆ เช่นนั้นหรือ แต่ดูเหมือนว่ากระต่ายในมือของเฟยเถาก็ไม่คิดที่จะหนีไปจริงๆเรื่องที่เฟยเถาได้กระต่ายป่ากลับเรือน ถูกเล่าลือไปทั่วหมู่บ้าน เฟยเถาปล่อยให้กระต่ายวิ่งเล่นอยู่ในเรือนของนาง นางเข้าไปทำอาหารอยู่ในห้องครัว กระต่ายน้อยยังกระโดดวิ่งตามนางอย่างน่าเอ็นดู หากมีใครมาเห็นเขาคงไม่อยากจะเชื่อสายตา“เถาเถา เถาเถา เจ้าอยู่เรือนหรือไม่” เสียงของหูเจี้ยนทำให้เฟยเถาวางมือที่ทำอาหารอยู่ออกไปเปิดประตูให้เขา“พี่เจี้ยนมาที่เรือนข้าตอนนี้มีอันใดหรือไม่” ที่มือของเขาไม่มีของมาด้วย
กว่าจะรู้สึกตัวก็ถูกนางผลักออกมาจากเรือน และปิดประตูใส่หน้าเขาเสียแล้ว เป็นจริงเช่นที่เฟยเถานางว่า นางไม่ปรากฏตัวให้เขาเห็นอีกเลยนับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องวันนี้เขามาที่เรือนของสหายเพื่อยืมตำรา แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นนางส่งยิ้มหวานให้หูเจี้ยนอยู่ ก่อนหน้านี้นางยังนอนร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา นางไม่คิดจะเรียกร้องให้เขามาสู่ขอ แต่กลับมาส่งยิ้มหวานให้บุรุษอื่น โทสะเจียวเหอพลุ่งพล่านขึ้นจนต้องเดินมาต่อว่านางเฟยเถา กลับเข้าเรือนอย่างหัวเสีย นางไม่มีทางยอมให้ตนเองต้องมีชีวิตตามเนื้อเรื่องในนิยายแน่ ยิ่งแน่ใจเพิ่มเมื่อนางเอ่ยนามของนางเอกของเรื่องขึ้นมา ตอนนี้พวกเขาก็คงจะติดต่อกันเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้พระเอกไปได้กับนางเอก นางจะขอใช้ชีวิตในภพใหม่ให้ดี ร่ำรวยเมื่อใดค่อยหาสามีก็ยังได้เจียวเหอกลับมาถึงเรือนอย่างหงุดหงิด เขาไม่เชื่อในคำพูดของเฟยเถาที่นางไม่ได้สืบเรื่องของเขากับจินเซียน เจียวเหอจึงได้เผาจดหมายที่จินเซียนส่งมาให้เขาทิ้งเสีย ด้วยกลัวว่าเฟยเถาจะนำเรื่องนี้ไปพูดให้ชื่อเสียงของจินเซียนเสียหายได้เฟยเถาหลบอยู่แต่ภายในเรือนต่ออีกสองวัน เมื่อร่างกายของนางไร้ร่องรอยที่เจียวเหอได้ทิ้งเอ
ไหนจะร่างกายที่บอบช้ำอย่างหนัก และนางก็ดื้อรั้นใช้น้ำเย็นล้างตัว ไม่นานร่างกายของเฟยเถาก็มีไข้ขึ้นสูง นางนอนเพ้อเรียกหาคุณพ่อ คุณแม่ ลุงชุนอยู่ตลอดทั้งคืนจนฟ้าสว่างแม้ฟ้าด้านนอกจะสว่างแล้ว แต่เฟยเถาก็ยังคงไร้สติ นางนอนไข้ขึ้นสูงอยู่ถึงสองวันเต็มๆ โดยที่ไม่ได้ออกไปจากเรือนของนางเลยเจียวเหอหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้ว เขาก็มองไปรอบห้องที่เละเทะ ทั้งยังมีแต่คราบเลือดพรหมจรรย์และน้ำรักของเขาเต็มที่นอนไปหมด“หึ ข้าจะดูว่าเจ้าจะเสแสร้งได้กี่วัน” เจียวเหอรู้ดีว่าเฟยเถาไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆ เช่นที่นางแสดงออกมารอแต่เพียงว่าเมื่อใดที่นางจะมาโวยวายที่เรือนก็เท่านั้น ต่อให้เขายอมรับนาง แต่ไม่มีทางที่เขาจะแตะต้องนางเช่นเมื่อคืนนี้อีกแน่นอนเจียวเหอรีบจัดเก็บห้องนอนแล้วไปล้างตัว เพื่อเดินทางไปสำนักศึกษา ตัวเขาเองก็เป็นเด็กกำพร้าเช่นเดียวกับเฟยเถา ครอบครัวทั้งหมดล้วนแต่เสียชีวิตไปจากโรคระบาดใหญ่เมื่อหลายปีก่อนแต่เขายังดีกว่าเฟยเถาตรงที่ บิดามารดาทิ้งเงินเอาไว้ให้ใช้จ่ายไม่น้อย ทั้งยังมีที่นาที่ปล่อยเช่าอีกหลายสิบหมู่ ทำให้เขาไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอง ความมุ่งมั่นทั้งหมดจึงทุ่มไปกับเรื่องการเรียนวัน
“เจ้ากล้าวางยาข้าเลยหรือ หญิงชั่วช้า”“อึก...” เฟยเถาเจ็บที่ลำคอจนต้องนิ่วหน้าไปด้วยความเจ็บปวดมือเรียวเล็ก เริ่มทุบตี ดึงมือหนาที่กุมลำคอของนางอยู่ออก แต่เรี่ยวแรงของคนเพิ่งจะฟื้นสติจะมีเหลือได้อย่างไร ไม่ว่าจะพยายามเท่าใด คนที่ทำร้ายนางอยู่ก็ดูเหมือนจะไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ“จะ ฆ่าฉันหรือไง” นางพยายามพูดให้เสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้“หึ ข้าจะสังหารเจ้าให้ตายเสีย ให้สมกับที่เจ้าคิดวางแผนชั่วกับข้าเช่นนี้”“ปะ ปล่อย ก่อน ฉันไปทำอะไร โอ๊ยยยย” ความเจ็บปวดกระแสหนึ่งวิ่งไหลผ่านเข้าสู่สมองของเฟยเถาอย่างรวดเร็วความเจ็บปวดทำให้สติของนางเกือบจะเลือนรางอีกครั้ง แต่มือหนาของคนที่คร่อมทับอยู่บนร่างของนาง ดึงสติของนางกลับมาได้อีกครั้งความทรงจำที่ไหลเวียนมากมายมันไม่ใช่ของนาง เฟยเถาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่นางเห็นเป็นความทรงจำของผู้ใด แต่สตรีผู้นั้นมีใบหน้าเหมือนนางสวรรค์!!! เมื่อเสียงหวานของสตรีที่เฟยเถาเห็นในภาพความทรงจำ ดันเรียกบุรุษรูปงามที่นางมาพบเขาที่บ้านดินมุงหลังคา สภาพซอมซ่อว่า จางเจียวเหอ เรือนในหมู่บ้านล้วนแต่เป็นเช่นเรือนจางเจียวเหอ หากเฟยเถานางกลับไปเห็นเรือนของนาง คงได้เป็นลมแน่เฟยเถา
ยามค่ำคืนในเมืองปักกิ่ง รถหรูสีดำวิ่งฝ่าสายฝนที่ตกลงมาพรำๆ มุ่งหน้าไปที่โรงหมักสุรานอกเมือง“นายหญิง อีกหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางถึง คุณพักสักหน่อยเถิดครับ” ลุงชุน คนขับรถของเฟยเถาเอ่ยขึ้นมาอย่างเป็นห่วง“ค่ะ”แต่เฟยเถาไม่ได้หลับพักเอาแรงเช่นที่นางรับปาก ดวงตาคู่งามมองออกไปด้านนอกรถแล้วถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก เธอเพิ่งจะเดินทางกลับมาจากโรงงานถึงบ้านได้ไม่ถึงชั่วโมง ทางโรงงานก็โทรมาพบปัญหาให้เธอต้องรีบเข้าไปแก้ไขหากเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ก็คงไม่ต้องให้เธอออกหน้า แต่นี่...พนักงานดันส่งสินค้าของลูกค้าสลับกัน“จะตกให้แรงกว่านี้ก็ไม่ได้” เสียงหวานบ่นพึมพำเบาๆฝนที่ตกลงมาเบาๆ ทำให้เธอนึกรำคาญใจนัก ตอนที่คุณพ่อ คุณแม่จากไปเมื่อห้าปีก่อน ก็เป็นวันที่ฝนตกลงมาเช่นนี้ จะไม่ให้เฟยเถาหัวเสียได้อย่างไรมือขาวลูบหนังสือนิยายที่อยู่ด้านข้างของเหม่อลอย สายตายังทอดมองสายฝนและไฟท้ายของรถที่จอดติดกันยาวเป็นหางว่าวใจอยากจะรีบไปจัดการปัญหาที่โรงหมักสุราให้เสร็จเรียบร้อยใจแทบขาด แต่การจราจรมันช่างไม่อำนวยเสียเหลือเกิน เสียงบีบแตรอย่างเร่งรีบ ไม่ทำให้รถด้านหน้าขยับได้เร็วเลยสักนิดยังดีที่เฟยเถา หยิบนิยายติ







