LOGIN“เจ้ากล้าวางยาข้าเลยหรือ หญิงชั่วช้า”
“อึก...” เฟยเถาเจ็บที่ลำคอจนต้องนิ่วหน้าไปด้วยความเจ็บปวด
มือเรียวเล็ก เริ่มทุบตี ดึงมือหนาที่กุมลำคอของนางอยู่ออก แต่เรี่ยวแรงของคนเพิ่งจะฟื้นสติจะมีเหลือได้อย่างไร ไม่ว่าจะพยายามเท่าใด คนที่ทำร้ายนางอยู่ก็ดูเหมือนจะไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ
“จะ ฆ่าฉันหรือไง” นางพยายามพูดให้เสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้
“หึ ข้าจะสังหารเจ้าให้ตายเสีย ให้สมกับที่เจ้าคิดวางแผนชั่วกับข้าเช่นนี้”
“ปะ ปล่อย ก่อน ฉันไปทำอะไร โอ๊ยยยย” ความเจ็บปวดกระแสหนึ่งวิ่งไหลผ่านเข้าสู่สมองของเฟยเถาอย่างรวดเร็ว
ความเจ็บปวดทำให้สติของนางเกือบจะเลือนรางอีกครั้ง แต่มือหนาของคนที่คร่อมทับอยู่บนร่างของนาง ดึงสติของนางกลับมาได้อีกครั้ง
ความทรงจำที่ไหลเวียนมากมายมันไม่ใช่ของนาง เฟยเถาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่นางเห็นเป็นความทรงจำของผู้ใด แต่สตรีผู้นั้นมีใบหน้าเหมือนนาง
สวรรค์!!! เมื่อเสียงหวานของสตรีที่เฟยเถาเห็นในภาพความทรงจำ ดันเรียกบุรุษรูปงามที่นางมาพบเขาที่บ้านดินมุงหลังคา สภาพซอมซ่อว่า จางเจียวเหอ เรือนในหมู่บ้านล้วนแต่เป็นเช่นเรือนจางเจียวเหอ หากเฟยเถานางกลับไปเห็นเรือนของนาง คงได้เป็นลมแน่
เฟยเถาที่เห็นภาพทั้งหมดอย่างชัดเจน นางคิดว่าตนเองตายไปแล้ว แต่เหตุใดวิญญาณถึงหลุดเข้ามาในร่างของฟางเฟยเถาได้เล่า ดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้น มองบุรุษที่กำลังบีบคอนางให้ชัดเจน
“กรี๊ดดดดดด” เฟยเถากรีดร้องออกมา แม้เสียงจะไม่ได้ดังมาก และเรี่ยวแรงที่นางดิ้นรนทั้งหมดก็ทำให้มือของจางเจียวเหอหลุดออกจากลำคอของนางได้
นางกระโดดลงจากเตียงนอนไม้ไผ่ ก่อนจะหาหนทางหนีออกไปจากห้องนอนของจางเจียวเหอให้ได้
เฟยเถาประมวลผลอย่างรวดเร็ว นางเข้ามาอยู่ในร่างของฟางเฟยเถา ตอนที่เพิ่งจะวางยากำหนัดใส่จางเจียวเหอ หากนางหนีไปตอนนี้ได้ เรื่องทั้งหมดคงไม่เป็นไปตามนิยาย นางก็ไม่ต้องเป็นอนุของเจียวเหอ และคงไม่ต้องมีจุดจบที่น่าสงสารเช่นในนิยาย
“เจ้านึกกลัวขึ้นมาแล้วหรือ” เจียวเหอกระชากร่างของเฟยเถาโยนกลับขึ้นไปบนเตียง
“คุณ...เอ่อ...ท่าน...ท่านตั้งสติก่อน ที่ผ่านมาเป็นความเข้าใจผิด” นางถอยไปอยู่ด้านในสุดของเตียง พร้อมมองหาหนทางที่จะหนีออกไป
“เข้าใจผิด เข้าใจผิดเช่นใด เจ้าวางยาข้า...” สติของเจียวเหอเริ่มจะเลือนราง
เขาเห็นร่างของเฟยเถาจากแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามา แววตาที่หวาดกลัวของนาง ริมฝีปากที่อวบอิ่มสั่นระริก เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยจนแทบจะเห็นเรือนร่างทุกส่วนของนางแล้ว มันเย้ายวนจนเขาเกือบจะควบคุมสติเอาไว้ไม่ได้ อย่างไรก็ไม่อาจให้นางได้สมใจ
“มะ ไม่ใช่ คงใช่ ข้าคงวางยา แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว”
เฟยเถาเห็นสายตาของเจียวเหอ นางก็ก้มมองเรือนร่างของนางทันที “ว้ายยย” ฟางเฟยเถานังโง่ จะถอดเสื้อผ้าของตัวเองทำไม เฟยเถาได้แต่มองหาเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งเอาไว้
นางเอื้อมมือไปหยิบมาจะสวมใส่ แต่ก็ถูกเจียวเหอกระชากโยนทิ้งไปอีกทาง
“เอามาให้ข้า” นางลุกขึ้นเพื่อไปหยิบเสื้อผ้า
แต่ถูกมือหนาคว้าเอวเอาไว้ ก่อนจะโยนกลับขึ้นไปบนเตียง
“เจ็บ...ดะ เดี๋ยว คุณ...ท่าน ท่านไปแช่น้ำเย็น มันน่าจะช่วยได้” เฟยเถายกมือขึ้นห้าม เมื่อเจียวเหอพุ่งตัวขึ้นมาบนเตียง
“หึ ตอนเจ้าใช้ยากับข้า เจ้าไม่คิดเล่าว่าผลเสียจะเป็นเช่นใด ยาที่เจ้าซื้อมา หากไม่ร่วมรัก ข้าก็มีเพียงหนทางตายเท่านั้น”
“ห๊า!!! ขั้นนั้นเลยหรือ ละ ลอง ทำตามที่ข้าบอกก่อนดีหรือไม่”
“เจ้า...ก็คือยาคลายกำหนัดของข้า”
“ไม่!!!”
เฟยเถากรีดร้องออกมาสุดเสียง แต่ก็ถูกเจียวเหอใช้มือหนาของเขาปิดปากของนางเอาไว้เสียก่อน มืออีกข้างของเขากระชากตู้โตว (ชุดชั้นใน) ของนางออกอย่างไม่ไยดี
เสื้อผ้าของเจียวเหอเองก็ถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว ลำทวนที่แข็งเป็นหินของเขาสอดเข้ามาในช่องทางรักของเฟยเถาโดยที่นางไม่ได้เตรียมตัว
“เจ็บ!!! ขอร้อง หยุดเถิด” นางเจ็บจนน้ำตาไหลออกมา เสียงอ้อนวอนของเฟยเถาไม่เข้าหูของเขาสักนิด
สติของเจียวเหอถูกฤทธิ์ของยากำหนัดเขาครอบงำ ไม่ว่านางจะดิ้นรนหรือร่ำไห้เพียงใด เขาก็ล้วนแต่ไม่ใส่ใจ เอวหนากระแทกเข้าออกอย่างไร้ความปรานี
มือหนาปล่อยให้ปากของเฟยเถาเป็นอิสระ เขาเริ่มบีบเคล้นปทุมถันคู่งามของนาง ราวกับจะกระชากให้มันหลุดออกมาติดมือของเขา
“อื้มมมม...ข้ารังเกียจเจ้านัก หญิงชั่ว” ปากของเขาตำหนินางไปด้วย แต่เอวของเขาไม่ลดความเร็วลงเลย
“ยะ หยุดได้แล้ว ข้าไม่ไหวแล้ว” เฟยเถาดันตัวของเขาออก นางรับรู้ได้ถึงของเหลวที่พุ่งเข้าสู่ช่องทางรักของนาง
“ข้าจะปล่อยเจ้าก็ต่อเมื่อฤทธิ์ของยาหมดลง”
เจียวเหอ จับขาเรียวยาวของเฟยเถาขึ้นพาดบ่า ก่อนจะเริ่มบทรักที่ร้อนแรงกับนางอีกครั้ง เฟยเถาได้แต่ส่งเสียงสะอื้นไห้ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ความเจ็บปวดออกมา
กว่าที่เจียวเหอจะสงบลง เฟยเถานางก็หมดสติไปเสียแล้ว ภายในห้องมีแต่กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นน้ำรักพวยพุ่งออกมา เจียวเหอเมื่อสิ้นฤทธิ์ของยากำหนัด ก็ล้มตัวลงนอนหมดแรงอยู่ด้านข้างของเฟยเถา
เขาปรายตามองเรือนร่างที่นอนขดตัวอย่างน่าสงสารของนางเพียงชั่วอึดใจ ก่อนจะหลับตาลงโดยไม่คิดจะสนใจว่านางบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด
เฟยเถาที่หมดสติไป นางสะดุ้งตื่นมาเพราะความหนาวเย็นของอากาศยามค่ำคืน ตอนนี้สายตาของนางชินกับความมืดภายในห้องแล้ว
“ซี๊ดดด” เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อยร่างกายของเฟยเถาก็เจ็บปวดไปทั้งตัว
ความรู้สึกตนนี้ไม่ต่างจากตอนที่นางถูกรถบรรทุกชนเลยสักนิด นางหันไปมองเจียวเหอที่นอนอยู่ไม่ห่าง ก็เห็นว่าเขาหลับสนิท ทั้งยังใจร้ายห่มผ้าทั้งหมดเพียงคนเดียวอีกด้วย
เฟยเถาค่อยๆ ลากเท้าที่หนักอึ้งของนางลงมาจากเตียงให้เบาที่สุด และหยิบเสื้อผ้าที่ถูกโยนทิ้งไปอยู่มุมห้องขึ้นมาสวมใส่
ชุดโบราณที่หน้าหลายชั้น ทำให้กว่าที่นางจะแต่งตัวเสร็จก็ใช่เวลาไปเกือบหนึ่งก้านธูป (ประมาณ30นาที) อีกทั้งนางยังไม่เคยสวมใส่ชุดเช่นนี้มาก่อน และร่างกายที่บอบช้ำยังมิอาจจะเสร็จได้เร็ว
ทุกการกระทำของเฟยเถาอยู่ในสายตาของเจียวเหอทั้งหมด ในตอนแรกเขาคิดว่านางจะรอให้ชาวบ้านมาเห็นในตอนเช้าเพื่อให้เขารับผิดชอบเสียอีก เจียวเหอทำใจกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว ยามที่คิดจะส่งลำทวนเข้าไปในร่างกายของนาง
แต่ดูเหมือนว่านางไม่ต้องการเช่นนั้น เมื่อเฟยเถาแต่งตัวเสร็จก็ไม่ได้กลับมาล้มตัวลงนอนเช่นเดิม นางค่อยๆ เปิดประตูห้องแล้วเดินลากเท้าจากไปอย่างเงียบๆ
เฟยเถาอาศัยความทรงจำเดิมของเจ้าของร่าง แบกร่างที่บอบช้ำจนแทบจะเดินไม่ไหวกลับมาที่เรือนท้ายหมู่บ้านของฟางเฟยเถา
มีเพียงแสงจันทร์ ช่วยส่องทางให้นางเดินได้โดยที่ไม่สะดุดก้อนหินล้มเสียก่อน กว่าจะเดินมาถึงเรือนได้ ช่วงล่างของนางก็ระบมอย่างหนัก ไหนจะน้ำรักที่ไหลออกมาเต็มต้นขา อย่างไรเฟยเถานางก็ต้องล้างตัวก่อนที่จะนอน
จะให้นางจุดไฟเพื่อต้มน้ำก็คงไม่ไหว เฟยเถาจึงได้แต่ใช้น้ำที่เย็นจัดในห้องน้ำรีบล้างคราบสกปรกออก พอกลับเข้ามาอยู่ในห้อง นางก็มุดตัวเข้าผ้าห่มอย่างรวดเร็ว
“สวรรค์ ท่านให้ฉันตายจากอุบัติเหตุยังจะดีกว่า” นางนอนมองเพดานห้องที่เก่า จนไม่รู้ว่าวันใดมันจะถล่มลงมา น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เพียงครู่เดียวเฟยเถาก็หลับไปด้วยร่างกายที่เหนื่อยอ่อน
วาจาของเจียวเหอที่ต่อว่านางต่อหน้าบัณฑิต และชาวบ้านที่หน้าสำนักศึกษา สร้างความอับอายให้เฟยเถา จนนางไม่กล้าเข้าเมืองอีกเลย ฟางเฟยเถายังจำสายตาของบัณฑิตและชาวบ้านที่มองนางอย่างดูแคลนได้ดีทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้นางจะแค้นใจทุกครั้ง จึงได้วางแผนการชั่วช้าเรื่องยากำหนัดกับเจียวเหอ ในเมื่อรังเกียจนางมากนัก ก็ตกเป็นของนางไปเลยก็แล้วกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด วิญญาณของฟางเฟยเถาจึงได้ออกจากร่างในวันที่แผนการของนางจะสำเร็จด้วยเฟยเถาลืมเรื่องความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมไปเสียสนิท นางต้องการที่จะเข้าเมืองเพื่อขายโสมเพียงอย่างเดียว เลยไม่สนใจสายตาของหูเจี้ยนที่มองมาทางนางอย่างกังวล“ไปเถิด หากช้าจะไม่ทันเกวียนวัวรอบเช้า” นางดันตัวหูเจี้ยนให้ออกเดิน“ได้”พอมาถึงเกวียนวัวหน้าหมู่บ้าน เฟยเถานางไม่ยอมให้หูเจี้ยนจ่ายค่าเกวียนให้นาง“ข้ามีเงิน” นางเขย่าถุงเงินตรงหน้าหูเจี้ยนด้วยรอยยิ้มสดใส เพราะอีกไม่นานในถุงเงินใบน้อยของนางจะต้องมีเงินอยู่เต็มถุงแน่นอน แม้ตอนนี้ในจะมีเพียงแค่พอจ่ายค่าเกวียนได้ก็ตาม“แม่นางฟาง เจ้าตัดใจจากอาเหอได้แล้วหรือ” สตรีใบหน้าอวบอิ่มมองนางอย่างเยาะเย้ย“อืม...ข้าต้องบอกท่าน
เฟยเถาเดินออกมาเกือบจะพ้นทางแยกที่นางแยกไปหาของป่าอีกฟากหนึ่งแล้ว แต่กระต่ายป่าก็ไม่คิดที่จะกลับเข้าไปในป่าเช่นเดิม“อืม...จะไปกับข้าหรือ” พอเห็นมันพยักหน้านางก็อุ้มกระต่ายมาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเดินลงเขาไปด้วยกันชาวบ้านที่เห็นเฟยเถาเดินออกมา พร้อมกับกระต่ายในมือ ก็มองมาทางนางด้วยความอิจฉา"เจ้าจับมันได้อย่างไร" หนึ่งในนั้นเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ“ก็อุ้มมันขึ้นมาอย่างไรเล่า” ก็นางทำเช่นนั้นจริงๆดูเหมือนไม่มีชาวบ้านคนใดที่จะเชื่อในคำพูดของเฟยเถา กระต่ายป่าว่องไวเพียงใด ผู้ใดไม่รู้กันบ้างเล่า มันจะยอมให้นางอุ้มขึ้นมาง่ายๆ เช่นนั้นหรือ แต่ดูเหมือนว่ากระต่ายในมือของเฟยเถาก็ไม่คิดที่จะหนีไปจริงๆเรื่องที่เฟยเถาได้กระต่ายป่ากลับเรือน ถูกเล่าลือไปทั่วหมู่บ้าน เฟยเถาปล่อยให้กระต่ายวิ่งเล่นอยู่ในเรือนของนาง นางเข้าไปทำอาหารอยู่ในห้องครัว กระต่ายน้อยยังกระโดดวิ่งตามนางอย่างน่าเอ็นดู หากมีใครมาเห็นเขาคงไม่อยากจะเชื่อสายตา“เถาเถา เถาเถา เจ้าอยู่เรือนหรือไม่” เสียงของหูเจี้ยนทำให้เฟยเถาวางมือที่ทำอาหารอยู่ออกไปเปิดประตูให้เขา“พี่เจี้ยนมาที่เรือนข้าตอนนี้มีอันใดหรือไม่” ที่มือของเขาไม่มีของมาด้วย
กว่าจะรู้สึกตัวก็ถูกนางผลักออกมาจากเรือน และปิดประตูใส่หน้าเขาเสียแล้ว เป็นจริงเช่นที่เฟยเถานางว่า นางไม่ปรากฏตัวให้เขาเห็นอีกเลยนับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องวันนี้เขามาที่เรือนของสหายเพื่อยืมตำรา แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นนางส่งยิ้มหวานให้หูเจี้ยนอยู่ ก่อนหน้านี้นางยังนอนร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา นางไม่คิดจะเรียกร้องให้เขามาสู่ขอ แต่กลับมาส่งยิ้มหวานให้บุรุษอื่น โทสะเจียวเหอพลุ่งพล่านขึ้นจนต้องเดินมาต่อว่านางเฟยเถา กลับเข้าเรือนอย่างหัวเสีย นางไม่มีทางยอมให้ตนเองต้องมีชีวิตตามเนื้อเรื่องในนิยายแน่ ยิ่งแน่ใจเพิ่มเมื่อนางเอ่ยนามของนางเอกของเรื่องขึ้นมา ตอนนี้พวกเขาก็คงจะติดต่อกันเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้พระเอกไปได้กับนางเอก นางจะขอใช้ชีวิตในภพใหม่ให้ดี ร่ำรวยเมื่อใดค่อยหาสามีก็ยังได้เจียวเหอกลับมาถึงเรือนอย่างหงุดหงิด เขาไม่เชื่อในคำพูดของเฟยเถาที่นางไม่ได้สืบเรื่องของเขากับจินเซียน เจียวเหอจึงได้เผาจดหมายที่จินเซียนส่งมาให้เขาทิ้งเสีย ด้วยกลัวว่าเฟยเถาจะนำเรื่องนี้ไปพูดให้ชื่อเสียงของจินเซียนเสียหายได้เฟยเถาหลบอยู่แต่ภายในเรือนต่ออีกสองวัน เมื่อร่างกายของนางไร้ร่องรอยที่เจียวเหอได้ทิ้งเอ
ไหนจะร่างกายที่บอบช้ำอย่างหนัก และนางก็ดื้อรั้นใช้น้ำเย็นล้างตัว ไม่นานร่างกายของเฟยเถาก็มีไข้ขึ้นสูง นางนอนเพ้อเรียกหาคุณพ่อ คุณแม่ ลุงชุนอยู่ตลอดทั้งคืนจนฟ้าสว่างแม้ฟ้าด้านนอกจะสว่างแล้ว แต่เฟยเถาก็ยังคงไร้สติ นางนอนไข้ขึ้นสูงอยู่ถึงสองวันเต็มๆ โดยที่ไม่ได้ออกไปจากเรือนของนางเลยเจียวเหอหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้ว เขาก็มองไปรอบห้องที่เละเทะ ทั้งยังมีแต่คราบเลือดพรหมจรรย์และน้ำรักของเขาเต็มที่นอนไปหมด“หึ ข้าจะดูว่าเจ้าจะเสแสร้งได้กี่วัน” เจียวเหอรู้ดีว่าเฟยเถาไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆ เช่นที่นางแสดงออกมารอแต่เพียงว่าเมื่อใดที่นางจะมาโวยวายที่เรือนก็เท่านั้น ต่อให้เขายอมรับนาง แต่ไม่มีทางที่เขาจะแตะต้องนางเช่นเมื่อคืนนี้อีกแน่นอนเจียวเหอรีบจัดเก็บห้องนอนแล้วไปล้างตัว เพื่อเดินทางไปสำนักศึกษา ตัวเขาเองก็เป็นเด็กกำพร้าเช่นเดียวกับเฟยเถา ครอบครัวทั้งหมดล้วนแต่เสียชีวิตไปจากโรคระบาดใหญ่เมื่อหลายปีก่อนแต่เขายังดีกว่าเฟยเถาตรงที่ บิดามารดาทิ้งเงินเอาไว้ให้ใช้จ่ายไม่น้อย ทั้งยังมีที่นาที่ปล่อยเช่าอีกหลายสิบหมู่ ทำให้เขาไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอง ความมุ่งมั่นทั้งหมดจึงทุ่มไปกับเรื่องการเรียนวัน
“เจ้ากล้าวางยาข้าเลยหรือ หญิงชั่วช้า”“อึก...” เฟยเถาเจ็บที่ลำคอจนต้องนิ่วหน้าไปด้วยความเจ็บปวดมือเรียวเล็ก เริ่มทุบตี ดึงมือหนาที่กุมลำคอของนางอยู่ออก แต่เรี่ยวแรงของคนเพิ่งจะฟื้นสติจะมีเหลือได้อย่างไร ไม่ว่าจะพยายามเท่าใด คนที่ทำร้ายนางอยู่ก็ดูเหมือนจะไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ“จะ ฆ่าฉันหรือไง” นางพยายามพูดให้เสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้“หึ ข้าจะสังหารเจ้าให้ตายเสีย ให้สมกับที่เจ้าคิดวางแผนชั่วกับข้าเช่นนี้”“ปะ ปล่อย ก่อน ฉันไปทำอะไร โอ๊ยยยย” ความเจ็บปวดกระแสหนึ่งวิ่งไหลผ่านเข้าสู่สมองของเฟยเถาอย่างรวดเร็วความเจ็บปวดทำให้สติของนางเกือบจะเลือนรางอีกครั้ง แต่มือหนาของคนที่คร่อมทับอยู่บนร่างของนาง ดึงสติของนางกลับมาได้อีกครั้งความทรงจำที่ไหลเวียนมากมายมันไม่ใช่ของนาง เฟยเถาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่นางเห็นเป็นความทรงจำของผู้ใด แต่สตรีผู้นั้นมีใบหน้าเหมือนนางสวรรค์!!! เมื่อเสียงหวานของสตรีที่เฟยเถาเห็นในภาพความทรงจำ ดันเรียกบุรุษรูปงามที่นางมาพบเขาที่บ้านดินมุงหลังคา สภาพซอมซ่อว่า จางเจียวเหอ เรือนในหมู่บ้านล้วนแต่เป็นเช่นเรือนจางเจียวเหอ หากเฟยเถานางกลับไปเห็นเรือนของนาง คงได้เป็นลมแน่เฟยเถา
ยามค่ำคืนในเมืองปักกิ่ง รถหรูสีดำวิ่งฝ่าสายฝนที่ตกลงมาพรำๆ มุ่งหน้าไปที่โรงหมักสุรานอกเมือง“นายหญิง อีกหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางถึง คุณพักสักหน่อยเถิดครับ” ลุงชุน คนขับรถของเฟยเถาเอ่ยขึ้นมาอย่างเป็นห่วง“ค่ะ”แต่เฟยเถาไม่ได้หลับพักเอาแรงเช่นที่นางรับปาก ดวงตาคู่งามมองออกไปด้านนอกรถแล้วถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก เธอเพิ่งจะเดินทางกลับมาจากโรงงานถึงบ้านได้ไม่ถึงชั่วโมง ทางโรงงานก็โทรมาพบปัญหาให้เธอต้องรีบเข้าไปแก้ไขหากเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ก็คงไม่ต้องให้เธอออกหน้า แต่นี่...พนักงานดันส่งสินค้าของลูกค้าสลับกัน“จะตกให้แรงกว่านี้ก็ไม่ได้” เสียงหวานบ่นพึมพำเบาๆฝนที่ตกลงมาเบาๆ ทำให้เธอนึกรำคาญใจนัก ตอนที่คุณพ่อ คุณแม่จากไปเมื่อห้าปีก่อน ก็เป็นวันที่ฝนตกลงมาเช่นนี้ จะไม่ให้เฟยเถาหัวเสียได้อย่างไรมือขาวลูบหนังสือนิยายที่อยู่ด้านข้างของเหม่อลอย สายตายังทอดมองสายฝนและไฟท้ายของรถที่จอดติดกันยาวเป็นหางว่าวใจอยากจะรีบไปจัดการปัญหาที่โรงหมักสุราให้เสร็จเรียบร้อยใจแทบขาด แต่การจราจรมันช่างไม่อำนวยเสียเหลือเกิน เสียงบีบแตรอย่างเร่งรีบ ไม่ทำให้รถด้านหน้าขยับได้เร็วเลยสักนิดยังดีที่เฟยเถา หยิบนิยายติ







