LOGIN๕
เป็นชาวสวนที่เก็บเหรียญด้วยการปลูก ปลูก ปลูก
เหมยจิงยืนตะลึงเมื่อเข้ามาในมิติเพาะปลูกแล้วเห็นว่าพื้นที่ 1 หมู่ของนางยังเป็นพื้นที่รกร้าง นอกจากต้นไม้แล้วก็ยังมีบ่อน้ำขังกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ
เคราะห์ดีที่ข้างทางยังมีอุปกรณ์ถางหญ้าตัดต้นไม้ให้อยู่บ้าง มิเช่นนั้นนางได้จ่ายค่าอุปกรณ์อีกแน่
“หกร้อยหกสิบกว่าตารางเมตรก็ไม่ใช่น้อย ๆ กว่าจะถางหญ้าหมดนี่ ข้าได้มือพองก่อนแน่”
เหมยจิงเดินสำรวจพื้นที่ซึ่งนอกจากจะมีเพียงที่ดินแล้วก็มีเพียงแผ่นฟ้า มีแสงสว่างส่องลงมา แต่ไม่ได้ร้อนเช่นพระอาทิตย์ในโลกที่นางจากมา
“ปลูกต้นไม้ดอกไม้ได้วันละ 30 เหรียญ แต่ไม่ได้บอกว่าต้องปลูกมากเท่าไร เช่นนั้นก็ค่อย ๆ ปลูกค่อย ๆ ถางหญ้าเอาแล้วกัน”
ว่าแล้วเหมยจิงก็ลงมือถางหญ้า กำหนดพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สามแปลงเพราะจะปลูกดอกทานตะวัน กุหลาบสีแดง ชมพูและดอกฉูจู๋ร์สีขาว[1]ทั้งหมดสี่แปลง
ใช้เวลาราวครึ่งชั่วยามนางถึงสามารถถางหญ้าออกแล้วขุดดินทำเป็นแปลงสี่เหลี่ยมทั้งหมดสี่แปลง ระยะห่างต่อแปลงตามเท้าของนางเพื่อให้สามารถเดินรดน้ำได้
“เฮ้อ~พรวนดินเสร็จแล้ว ดีนะที่เราเคยดูการปลูกผักจากในอินเตอร์เน็ตมาก่อน ไม่อย่างนั้นไม่รอดแน่”
เหมยจิงนั่งแหมะลงพื้นไม่สนว่าพื้นดินตรงนี้จะเปื้อนหรือไม่ ระหว่างนั่งพักท้องก็เริ่มหิว แต่อดเอาไว้เพราะยังไม่อยากจ่ายค่าอาหารในตอนนี้
“หรือเราต้องปลูกผลไม้ด้วยอย่างผิงกั๋วจะได้ไม่ต้องเปลืองค่าอาหารเช้ากับอาหารเย็น กินแต่อาหารกลางวันพอจะได้มีแรงทำงาน มีมันหวานด้วยก็ดี จะได้เป็นการลดน้ำหนักไปในตัว ช่วงนี้เครียดกินดึกไม่ออกกำลังกายน้ำหนักขึ้นแล้ว กลับไปได้คราวนี้ทุกคนต้องตะลึงที่เห็นข้าผอมลงแน่…ซื้อเมล็ดพันธุ์เลยดีกว่า!”
เหมยจิงคิดเร็วทำเร็ว แปะมือไว้กลางอากาศก็ขึ้นกงล้ออักขระ นางพิมพ์ข้อความในช่องค้นหาแล้วหาพรรณไม้ทุกชนิดที่คิดจะปลูกแล้วใส่จำนวนเข้าไป
พรึบ!
เมล็ดพันธ์ุที่นางอยากได้ปรากฏอยู่ตรงหน้า พร้อมกับเสียงหักเงินในระบบ มีเลขอารบิกตัวโต ๆ อยู่ตรงหน้า
-120
“ซี๊ด~ติดลบสั้น ๆ แค่เห็นก็สั่นหัวใจได้แล้ว สรุปตอนนี้ข้าเป็นหนี้ระบบอยู่ที่ 195 เหรียญ หากอยากกลับบ้านให้ได้ต้องหาให้ได้ 1,195 เหรียญ ฟังดูไม่เยอะแต่ถ้าเทียบกับรายได้และค่าใช้จ่ายในแต่ละวันแล้วอยู่ไม่ต่ำกว่าครึ่งเดือนแน่ ดีค่าห้องไม่แพงมาก ถ้าปลูกดอกไม้ปลูกผักทุกวันก็จะได้อย่างน้อย 30 เหรียญแล้ว”
เมื่อในหัวเกิดหมอกหนาที่จะเป็นอุปสรรรคขึ้น
เหมยจิงก็ส่ายหน้าไล่หมอกนั้นออกไป เริ่มลงมือปลูกดอกไม้ลงในแปลงทั้งสี่ที่พรวนดินเอาไว้แล้วหว่านเมล็ดลงไป ไปตักน้ำจากแอ่งน้อยแอ่งใหญ่ใส่ในบัวรดน้ำแล้วนำมาพรมลงดินพอประมาณไม่ให้ดินแฉะจนเกินไป
นางทำแบบนี้ทั้งสี่แปลง เสร็จแล้วก็วางบัวรดน้ำลงพื้นอย่างไม่ไยดี ยกมือขึ้นพนมกล่าวคำอธิษฐานที่ไม่คิดจะทำในใจเพราะกลัวใครไม่ได้ยิน
“เหมยจิงขออธิษฐานเจ้าแห่งมิตินี้ขอให้ต้นไม้ที่ข้าปลูกโตวันโตคืน ให้ผลผลิตมากมายช่วยทำกำไรในการค้าให้ข้าด้วยเถิด” พนมมือเหนือศีรษะแล้วพูดกับแปลงทั้งสี่ในคำพูดคล้าย ๆ กัน
“เอาละ! ต่อไปก็ปลูกผิงกั๋วและมันหวาน”
ผิงกั๋วนั้นเหมยจิงเลือกเป็นต้นที่พร้อมปลูกลงดินแล้ว เช่นเดียวกับมันหวานที่มาเป็นหัว เอาทั้งสองลงดินฝังไว้พื้นที่ตรงหญ้าไม่สูงนัก รดน้ำให้ดินชุ่มก็จัดการถางหญ้าบริเวณที่นางเพิ่งลงผิงกั๋วและมันหวานไป
“เฮ้อ~ขอตายตอนนี้เลยได้ไหม!”
ถางหญ้าเสร็จแล้วเหมยจิงก็นอนราบกับพืิ้นโดยไม่กลัวศีรษะจะเปื้อนดิน ยามนี้นางเหนื่อยสายตัวแทบขาด
เริ่มอยากตายอีกครั้งแล้ว!
“ขอหลับตรงนี้เลยได้ไหม หวังว่าที่นี่จะไม่มีงูนะ”
เหมยจิงหลับตา หายใจเข้าออกสม่ำเสมอก่อนที่จะรู้สึกวิญญาณถูกดูดเข้าไปในห้วงนิทรา
“เหมยจิง!”
แต่แล้วก็ต้องสะดุ้ง ดวงตาลืมขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียกของสาวสวยผู้ช่วยของนาง
“สาวสวย มาเรียกอะไรตอนนี้ ให้นอนสักตื่นก่อนไม่ได้หรือ ข้าเหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้ว”
“เหมยจิงอย่าเพิ่งนอน สร้างที่อาบน้ำก่อน ในห้องไม่มีที่อาบน้ำ เหมยจิงต้องสร้างที่อาบน้ำที่นี่”
“สร้างให้หน่อยได้หรือไม่ ห้องนอนด้วย ข้าจะกินนอนอยู่ท่ามกลางสวนนี่แหละ แต่ว่าไม่มียุงใช่ไหม”
สาวสวยของเหมยจิงรีบตอบคำถามพร้อมบอกข้อจำกัดของตัวเอง
“ที่นี่ไม่มีสัตว์ เว้นแต่เหมยจิงจะซื้อมา”
“อย่างถ้าอยากได้ผีเสื้อมาตอมดอกไม้ ข้าก็ต้องใช้เหรียญซื้อเช่นนั้นหรือ”
“ใช่! สาวสวยสามารถสร้างแหล่งน้ำให้เหมยจิงได้ แต่อุปกรณ์อาบน้ำ เหมยจิงต้องซื้อเข้ามาเอง ที่นอน เตียง ตั่ง ผ้าห่มเองก็เช่นกัน”
ซื้ออีกแล้ว เป็นโลกที่ขี้งกที่สุด ตอนอยู่ภพปัจจุบันใครเขาจะซื้อผีเสื้อกัน โลกนี้ข้าต้องซื้อแม้กระทั่งผีเสื้อหรือ
“อยากให้อยู่นาน ๆ ใช่หรือไม่โลกนี้…ได้! จะซื้อนั่นซื้อนี่มาไว้ให้หมดเลย”
เหมยจิงทาบมือกลางอากาศปรากฏเป็นวงล้ออักขระ นางเลือกสินค้าใส่ตะกร้าเอาไว้มากมาย แต่สุดท้ายตอนที่จะกดจ่ายเงินก็เกิดความยับยั้งชั่งใจ
กลายเป็นว่าเลือกซื้อของที่จำเป็นอย่างเช่นตั่งไม้และหมอนสำหรับเอาไว้ใช้นอน ส่วนผ้าห่มและผ้าปูที่นอนนั้น…
“เอาไว้ก่อนแล้วกัน ขายของได้เมื่อไรค่อยซื้อ”
“เหมยจิงเก่งมาก คราวนี้สาวสวยจะสร้างแหล่งอาบน้ำให้เหมยจิงแล้ว อยากได้เป็นน้ำร้อนหรือน้ำเย็น”
“ต่อไปเรียกข้าว่าจิงจิงก็ได้จะได้ดูสนิทสนมกัน”
“จิงจิงอยากได้น้ำร้อนหรือน้ำเย็น หากเป็นน้ำเย็นสาวสวยจะสร้างลำธารให้ แต่หากเป็นน้ำร้อน สาวสวยจะสร้างบ่อน้ำร้อนให้”
เหมยจิงชั่งใจคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตอนที่ไม่ได้ถางหญ้านางไม่ร้อน แต่หลังจากถางหญ้าเหงื่อออกแล้วอยากอาบน้ำเย็น สองความคิดตีกันในหัวจนต้องทำเสียงอ้อนสาวสวย
“ข้าขอทั้งสองได้หรือไม่ มิต้องใหญ่มากก็ได้ อย่างไรข้าก็ใช้ที่นี่เพียงคนเดียว”
“ได้เลยจิงจิง”
เหมยจิงปรบมือ เฝ้ารอกับการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่มิติ ดวงตาเป็นประกายทันทีเมื่อเห็นเค้าโครงของน้ำตกที่กำลังเกิดขึ้นในมิติของนาง
ซ่า~
เสียงน้ำตกกระทบลงจากที่สูงฟังแล้วเสนาะหูยิ่งนัก แต่แล้วนางก็ตื่นเต้นอีกครั้งเมื่อบ่อน้ำพุร้อนผุดขึ้นบนพื้นดินห่างจากน้ำตกไม่มาก
“จิงจิงอยากได้ดอกเหมยหรือไม่ หากอยากได้สาวสวยจะเปลี่ยนต้นไม้เหล่านี้ให้เป็นดอกเหมยแทน อยู่ที่ว่าจิงจิงอยากจะโค่นทิ้งในภายหลังหรือไม่”
“เอา ๆ”
สิ้นคำเหมยจิง จากต้นไม้มากมายมีใบสีเขียว เหลืองก็เปลี่ยนเป็นต้นเหมยที่กำลังบานสะพรั่ง จากมิติที่เป็นท้องไร่กลายเป็นป่าเหมยโดยสมบูรณ์แบบ
“สวยมาก!”
“จิงจิงชอบ สาวสวยก็ดีใจ”
เหมยจิงมีเรี่ยวแรงกลับมาเต็มเปี่ยม มิใช่เพราะความสวยอย่างเดียวเท่านั้น แต่เพราะดีใจที่ต่อไปนี้จะโค่นต้นไม้ออกเท่าที่จำเป็น
นางวิ่งอย่างร่าเริงไปตามพื้นที่มิติของตัวเอง ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มสดใสที่ไม่ได้มีเช่นนี้มานานเกือบสองปีเพราะปัญหารุมเร้าและงานที่เคร่งเครียด
“ป่าท้อสิบลี้ไม่เกินจริง…ไม่สิ! ของข้ามีเพียงลี้กว่า หรือข้าจะซื้อชุดแบบไป๋เฉียนดีจะได้ดูเหมือนซ่างเสินมากขึ้น[2]ต่อไปก็อาจหมักสุราเอาไว้เพื่อจะได้ขายหรือไม่ก็ดื่มเอง ไม่เมาไม่เลิกดื่ม”
แค่คิดเหมยจิงก็มีความสุขแล้ว นางวิ่งไปสำรวจน้ำตกขนาดย่อม แต่ก็ดูกว้างใหญ่เพราะนางเป็นคนเดียวที่อยู่ที่นี่ ร่างบางก้าวเท้าลงน้ำตกวัดระดับความลึกของน้ำและระดับอุณหภูมิ
“อยู่ตรงช่วงอก ความลึกกำลังพอดี ส่วนอุณหภูมินั้นเหมือนจะเย็นไปหน่อย”
“จิงจิงให้สาวสวยเพิ่มแสงแดดให้หรือไม่”
แสงแดดหรือ แล้วจะมีผลต่อพืชของข้าหรือไม่…แต่ว่าถ้าแดดออกน้อย พืชก็ไม่มีอาหารไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้…เช่นนั้นเพิ่มหน่อยก็แล้วกัน
“ได้! แต่อย่าแรงเกินไปเล่า ข้ากลัวดอกไม้ที่ข้าปลูกจะตายเสียก่อน”
“จิงจิงวางใจ มิติแห่งนี้ดีนัก เพียงสามวันพืชผักที่จิงจิงปลูกก็ออกดอกออกผลแล้ว ที่สำคัญของที่อยู่ในมิติจะไม่เน่า ดังนั้นหากผลไม้ออกผล แต่จิงจิงยังไม่ทันเก็บมาก็จะไม่เน่าเสียหาย ยังคงอยู่บนต้นได้ตราบที่เรามีพันธะสัญญาระหว่างกัน”
หรือก็คือตราบใดที่ข้ายังเช่าห้องอยู่นั่นเอง
“ดี! เช่นนั้นขอแสงแดดให้ข้าหน่อยสาวสวย อาบน้ำเสร็จแล้วจะได้ซักผ้า ใส่ชุดเดิมซ้ำไปแบบนี้แหละ”
[1]ดอกฉูจู๋ร์ หมายถึง ดอกเดซี่
[2]ไป๋เฉียน คือ ตัวละครหลักในเรื่อง สามชาติสามภพป่าท้อสิบลี้ ซีรีส์จีนโบราณที่ได้รับความนิยมทั้งในจีนและต่างประเทศ ในเรื่องไป๋เฉียนเป็นเทพชั้นสูง(ซ่างเสิน)ชุดที่ใส่เหมือนผ้ามุ้ง ดูพลิ้วไสวเวลาเดินเหิน
๖เรียกเกอเกอก็คือการตอบตกลงแล้วเหมยจิงและเฉินอวี้เหวินต่อให้วันนี้จะทำงานหนักมาทั้งวันและเหนื่อยมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครคิดจะกลับไปนอนที่บ้านแล้วข่มตาหลับพร้อมกับฝันดีเหมยจิงไม่อยากให้นี่เป็นเพียงความฝัน เธอชวนเฉินอวี้เหวินมาที่ห้องเธอแล้วสั่งเค้กปอนด์ใหญ่สองปอนด์เดินถือคนละถุงขึ้นลิฟต์มาห้องชั้น 23ติ๊ง!เมื่อลิฟต์เปิดออก เหมยจิงก็เดินนำชายหนุ่มมาที่ห้องของตัวเอง คนชวนไม่เกร็งแต่คนถูกชวนกลับรู้สึกว่าการเข้ามาในห้องของหญิงสาวในตอนนี้อันตรายยิ่งนัก“จิงจิงอยู่คนเดียวเหรอ”“ใช่! เข้ามาเลย ห้องแคบหน่อยนะ แอบแม่ซื้อที่นี่ไว้นะ…นี่! สลิปเปอร์”รองเท้าแตะรูปปลาสีชมพูน่ารัก แต่ชายหนุ่มไม่เขินที่จะได้ใส่รองเท้าแบบเดียวกับเหมยจิง ต่างกันตรงที่ของเขาเป็นสีชมพู ของเธอเป็นสีน้ำตาลแม้แต่เค้กที่สั่งมาของเหมยจิงก็ยังเป็นช็อกโกเลต ของเฉินอวี้เหวินเป็นนมสดสตรอเบอร์รี่“กว้างขวางใช้ได้เลย ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นแยกในตัวแบบนี้ แต่จิงจิงเพิ่งเข้ามาอยู่ใช่ไหม ของยังมีไม่เยอะเท่าไร”“ใช่ ไม่ได้ขนมาจากบ้านแม่มากเท่าไร อยากดูทีวีไหม รีโมตอยู่นี่เปิดได้เลย”เฉินอวี้เหวินเริ่มเกร็งน้อยลงเมื่อรู้ว่าที่น
๕ที่เคยรับปากไปทำได้แล้วนะตึ๊ง!เหมยจิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อได้รับข้อความ มุมปากผุดเป็นรอยยิ้มเมื่อเห็นชื่อกล่องสนทนา นิ้วเลื่อนไปเปิดข้อความดูก็เห็นว่าเป็นภาพบทละครเหมยจิงบอกเขาสู้ ๆ ในใจแต่ไม่ได้ตอบแชทกลับไป จนกระทั่งข้อความแชทเด้งขึ้นอีกครั้ง เธอจึงเปิดอ่านก็เห็นว่าเป็นเฉินอวี้เหวินคนเดิม เพิ่มเติมคือถ่ายรูปตัวเองส่งมาให้ด้วย สีหน้าที่ดูออดอ้อนของเขาทำให้เธอเผลอนึกถึงเฉินเหวินเหวินตอนที่เขาแสดงสีหน้าออดอ้อนเธอสุดท้ายก็พิมพ์ข้อความตอบเขาไปว่า…‘สู้ค่ะ’ตึ๊ง!ตึ๊ง!และเพียงเธอตอบกลับไปเท่านั้นก็ได้รับข้อความถึงสองครั้งติดกัน‘เหนื่อยไหม’‘ง่วงหรือเปล่า’เธอเริ่มคิดแล้วว่าวันนี้เปิดกล้องวันแรกจริงหรือไม่ ทำไมถึงมีเด็กดื้อเล่นโทรศัพท์ไม่อ่านบท“หรือเพราะผ่านซีรีส์เรื่องยาวมาแล้ว มินิซีรีส์เลยสบาย บทเท่านี้ไม่ทำให้เขาเครียด”เหมยจิงพยายามหาเหตุผลให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อคิดว่าตนจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรก็วางโทรศัพท์เอาไว้ ลืมไปว่าข้อความที่เขาส่งมาเป็นคำถาม อีกทั้งหลังจากนั้นเธอไม่ได้รับข้อความจากเขาอีก…ทำงานเพลินจึงลืมเรื่องนี้ไปสนิท!ทางด้านเฉินอวี้เหวิน…“หรือเธอจะยุ่งจนไม่มีเวลาตอบ
๔คนแปลกหน้าที่หัวใจบอกรู้สึกดีพิธีการเปิดกล้องเสร็จสิ้นแล้ว ยามนี้นักแสดงทุกคนมายืนหลังโปสเตอร์โปรโมตมินิซีรีส์เรื่อง ‘บอสจัดหนัก’ โดย ที่นักแสดงทุกคนถือหงเปาที่หน้าซองจ่าชื่อเรื่องเอาไว้ ตะโกนพร้อมกันตอนถ่ายรูปรวมว่า“บอสจัดหนักฤกษ์งามยามดีเปิดกล้อง…เฮ!”เหมยจิงที่ไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมงานยืนอยู่หลังตากล้อง อย่างเงียบ ๆ โดยที่ด้านข้างเธอมีหลูอิงเสี่ยวและเหลียงเจ๋อฮั่นยืนอยู่ด้วยแต่เขายืนอยู่ได้ไม่นานก็ถูกผู้กำกับดึงไปถ่ายรูปพร้อมให้ช่วยกันจับผ้าแดงที่ปิดกล้องใหญ่ที่ถ่ายทำเอาไว้เปิดออกพร้อมกันก็เป็นการเปิดกล้องอย่างเป็นทางการ ผลไม้ที่เซ่นไหว้แจกจ่ายให้ทุกคนโดยถ้วนหน้า“จิงจิงเอาแอปเปิ้ลไหม เจี่ยเจียไปเอาให้”แอปเปิ้ล! ผลไม้ที่เหมยจิงไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องตั้งแต่ที่กลับมาจากเมืองลอยฟ้าเพราะเธอไม่ตอบทำเพียงจับจ้องไปยังแอปเปิ้ลเท่านั้น หลูอิงเสี่ยวจึงคิดว่าเธออยากได้ รีบวิ่งไปขอจากทีมงานมาให้ลูกน้องสาว รู้ตัวอีกทีมือของเธอก็มีแอปเปิ้ลลูกใหญ่อยู่ในมือ!น้ำตาร่วงเผาะเมื่อคิดว่าตอนนี้เฉินเหวินเหวินกำลังใช้ชีวิตอยู่ในมิติสวนของเธออย่างไร หรือเขาจะยังอยู่ที่เมืองลอยฟ้าหรือไม่ หรือว่าจะกลับไ
๓ความรักความแค้นเลือกอันใด เฉินเหวินเหวินนั่งมองบึงตรงหน้า สถานที่ที่ดูดกลืนร่างของเหมยจิงลงไปใต้ล่างเขาอยากกระโดดน้ำลงไปดู หากใต้ล่างนั้นเป็นทางเชื่อมระหว่างยุค 2025 กับเมืองลอยฟ้าแห่งนี้ เหมยจิงจะรอเขาอยู่ที่นั่นหรือไม่! “คุณชายเฉินกำลังคิดอันใดอยู่” เขาหันไปมองหลิวปู้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คอยคุมตัวเขาไม่ให้กระโดดลงบึงตามเหมยจิงไป “กำลังคิดอยู่ว่าจะกระโดดตามนางลงไป” หมับ! แขนทั้งสองข้างของเฉินเหวินเหวินถูกคว้าหมับทันที เฉินเหวินเหวินแม้จะรำคาญ แต่ส่วนลึกก็อบอุ่นหัวใจที่ยังมีคนคอยห่วงใยเขาแทนเหมยจิง “อย่าคิดจะทำเป็นอันขาด บึงนี้ไม่ใช่ทางของคุณชาย หากอยากตามนางไปช่องทางที่ถูกต้องมีอยู่ แต่อยู่ที่ว่าคุณชายอยากเลือกเส้นทางนี้หรือไม่” คำพูดของชิงจ้านทำให้เฉินเหวินเหวินนิ่งไป นั่นสินะ! ก่อนหน้านี้เจ้าบอกนางว่าขอเวลาคิดก่อน ไม่รู้ว่าเวลาที่นั่นกับที่นี่คลาดเคลื่อนเพียงใด หากข้าไม่รีบตัดสินใจต้องเสียใจในภายหลังแน่ แต่ว่าเขาจะเลือกอันใดระหว่างกลับภพเดิมเพื่อไปล้างแค้น กับ ยอมทิ้งความแค
๒ตามหานักแสดงเซ็นสัญญาเกาเข่าสอบต้นมิถุนายนและประกาศผลปลายเดือนมิถุนายน ใกล้สอบเกาเข่าโรงเรียนมัธยมปลายจะปล่อยเด็กนักเรียนเกาซาน[1]กลับบ้านช่วงสี่ทุ่ม เหมยจิงจะไปดักเจอพวกเขาให้ไม่ไกลจากโรงเรียกนัก แต่ก็ไม่ให้ใกล้จนทำให้พวกเขาถูกอาจารย์และเพื่อนนักเรียนเพ่งเล็ง“เจี่ยเจีย!”เหมยจิงส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มทั้งสองที่จอดจักรยานทันทีเมื่อเห็นเธอโบกมือให้ทั้งคู่จอดรถจักรยานไว้เรียบถนนก่อนที่จะเดินเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าตื่นเต้น“สวัสดี! ผู้มีพระคุณ”“เจี่ยเจียยังไม่ได้ไปเยือนแม่น้ำลืมเลือน ดียิ่ง!”เหมยจิงหลุดหัวเราะ จากคำพูดของเขารู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายก็ติดซีรีส์ไม่เบา ซึ่งเจ้าของคำพูดนี้จะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่หลิวปู้คนที่ชอบพูดอะไรติดสำบัดสำนวน!“เจี่ยเจีย! เราอยากโทร.หาเจี่ยเจียตามนามบัตรที่ให้ไว้มาก แต่ก็ไม่กล้าโทร.ไปเพราะกลัวจะได้รับฟังข่าวร้าย เห็นเจี่ยเจียตัวไม่ซีดเซียว ยังมีลมหายใจแล้วยืนอยู่ตรงหน้าพวกเราดีใจมากเลยครับ”ชิงจ้านก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจไม่แพ้กัน ภายนอกเขาดูเป็นหนุ่มพูดน้อย แต่การได้สัมผัสเขาสองชาติภพทำให้เธอรู้ว่านี่เป็นเพียงเปลือกเท่านั้น“วันนั้นยังไม่ได้ขอบคุณกันดี ๆ
๑เมื่อเจ้านายเพิ่มหน้าที่ให้หัวหน้าแผนกเหมยจิงกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ก้มหน้าก้มตาทำงานใช้หนี้ที่เกิดจากการตามล้างตามเช็ดให้น้องชาย ไม่มีเวลาท้อ ไม่มีเวลาให้เสียใจ มีแต่ต้องเดินหน้าต่อไปเท่านั้นย้อนกลับไปวันที่เธอกลับมายังยุค 2025 สิ่งแรกที่เธอทำหลังจากที่เดินกลับจากสะพานไน่เหอคือย้ายของออกจากบ้านมารดามาอยู่คอนโดไม่กี่ตารางวาที่แอบซื้อเอาไว้ตอนที่ได้เงินก้อนมาจากขายลิขสิทธิ์นิยายเพื่อสร้างซีรีส์ถามว่ายังคงช่วยส่งเสียดูแลแม่หรือไม่…แน่นอนว่าต้องมีจุนเจือให้ แต่จะไม่มากเท่าเมื่อก่อนเพราะเธอก็มีหนี้สิ้นที่ต้องแบกรับ!ณ บริษัทเอเจนซี่หลงฮั่วกรุ๊ปที่เหมยจิงนั่งในตำแหน่งหัวหน้าการตลาดในขณะที่เธอกำลังนั่งทำงานอยู่ห้องที่กั้นแยกจากคนในแผนกนั้น ซีโอโอ[1]หญิงวัยกลางคนก็เดินดุ่ม ๆ เข้ามาหาเธอที่ห้องทำงาน มือเคาะประตูกระจกที่เปิดเอาไว้สองครั้งอย่างคนมีมารยาท“จิงจิง”ดวงตากรีดอายไลเนอร์คมเฉี่ยวที่จ้องเพียงหน้าจอคอมพิวเตอร์เงยขึ้นมองเจ้าของเสียง ลุกขึ้นยืนต้อนรับในทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเจ้านายโดยตรงของเธอ“อิงเจี่ย”“นั่ง ๆ”เหมยจิงนั่งลงเก้าอี้ ดวงตาสำรวจสีหน้าท่าทางของหลูอิงเสี่ยวที่ฉายควา







