Share

บทที่ 2 คำเตือนจากหลานสาว

last update Последнее обновление: 2025-10-28 12:39:48

บทที่ 2

คำเตือนจากหลานสาว

เจียงเม่ยเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมซึ่งเป็นกิจการของตระกูลเหอ ตระกูลฝั่งมารดาของนางนั่นเอง ในนิยายคนตระกูลเหอล้วนดีกับนางทุกคน โดยเฉพาะท่านตากับท่านยายที่รักใคร่หลานสาวที่ต้องสูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเด็ก ทว่าเพราะถูกฮูหยินใหญ่ข่มขู่และหวาดกลัวตระกูลหลี่ ทำให้ไม่กล้าแพร่งพรายความทุกข์ระทมที่อยู่ในจวนตระกูลเจียงเลย กว่าตระกูลเหอจะล่วงรู้ชะตาชีวิตอันน่าสงสารของเจียงเม่ยก็เป็นช่วงท้ายเรื่องแล้ว 

"เชิญขอรับ มิทราบว่าต้องการเป็นห้องรับรองส่วนตัวหรือไม่ขอรับ"

ผู้ดูแลร้านรีบเข้ามาต้อนรับเจียงเม่ยด้วยท่าทางนอบน้อม 

"ช่วยไปเรียนท่านลุงว่าข้าเจียงเม่ยต้องการพบหน้าท่านลุงสักครา"

หลงจู๊พลันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคุณหนูใหญ่เจียง ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นสตรีร้ายกาจ ชอบรังแกบ่าวไพร่ในเรือน และเป็นสตรีที่เกียจคร้านการเล่าเรียน แม้แต่สำนักศึกษาก็ยังไม่ไป น้อยคนนักที่จะเคยได้พบนาง

"ขออภัยขอรับ ข้าน้อยต้องไปเรียนนายท่านเสียก่อน มิรู้ว่านายท่านจะว่างมาพบคุณหนูใหญ่เจียงหรือไม่นะขอรับ" 

สายตาที่หลงจู๊ใช้มองเจียงเม่ยมีความกังขา ไม่รู้ว่าการมาของเจียงเม่ยนั้นเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันแน่

"ข้าจะรอที่ห้องรับรอง หากท่านลุงไม่ว่างข้าก็จะนั่งทานอาหารที่นี่"

"ขะ เข้าใจแล้วขอรับ เช่นนั้นเชิญคุณหนูด้านนี้เลยขอรับ"

หลงจู๊รีบนำทางเจียงเม่ยไปยังห้องรับรองชั้นสอง จากนั้นรีบปลีกตัวไปเรียนให้นายท่านใหญ่ทราบทันที 

เจียงเม่ยนั่งจิบชารอไม่นานนัก ประตูของห้องรับรองพลันเปิดออกกว้าง พร้อมการปรากฏกายของบุรุษวัยกลางคนที่นางเรียกขานว่าท่านลุง ใบหน้าที่เริ่มมีริ้วรอยพลันคลี่ยิ้มอย่างอบอุ่นใจดี ร่างกายที่สูงใหญ่ทว่ามีพุงยื่นออกมาทรุดตัวนั่งลงตรงข้ามเจียงเม่ย ดวงตากลมโตที่แจ่มใสกวาดตามองหลานสาวที่ไม่ได้พบกันมานานถึงหนึ่งปีกว่าอย่างสำรวจ

"ข้าไม่คิดว่าเม่ยเอ๋อร์จะมาพบลุงเช่นข้าที่นี่ เหตุใดเจ้าถึงไม่ไปเยี่ยมท่านตากับท่านยายเลยเล่า หรือเป็นเพราะร่างกายของเจ้ายังไม่หายดีนัก"

'เหอต้าเจิง' นายท่านใหญ่ผู้ควบคุมกิจการของตระกูลเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน แม้น้ำเสียงจะมีความเอื้อเอ็นดูในตัวหลานสาว แต่เพราะนางหายหน้าไปนานจึงทำให้เขาอดจะรู้สึกคลางแคลงใจไม่ได้ และเพราะที่ผ่านมาล้วนมีแต่ข่าวลือที่ไม่ดีกับนาง กอปรกับการที่นางหายหน้าหายตาไปเลย จึงทำให้เขารู้สึกไม่ดีต่อหลานสาว ด้วยคิดว่านางที่เกิดในตระกูลขุนนางใหญ่ พยายามปลีกตัวห่างจากคนตระกูลเหอเพราะเป็นเพียงตระกูลของคหบดี

"ข้า... ข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ ที่ข้าแอบมาพบท่านลุงเวลานี้ก็ถือว่าเสี่ยงมากแล้วเจ้าค่ะ"

เจียงเม่ยลอบหยิกแขนของตนเพื่อให้น้ำตาไหลออกมา นางพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้ตนเองดูน่าสงสารที่สุด ต้องขอบคุณที่เจ้าของร่างนี้มีใบหน้าเรียบร้อยอ่อนหวาน เวลาที่ขมวดคิ้วน้อย ๆ พลางเบะปากและสะอื้นจึงทำให้ดูน่าสงสารจับใจ

เหอต้าเจิงได้ยินเช่นนั้นพลันขมวดคิ้วมุ่น เขารีบไต่ถามหลานสาวเป็นการใหญ่

"เกิดอะไรขึ้น เหตุใดเจ้าถึงบอกว่าไปไม่ได้เล่า"

ดวงตาคู่สวยกะพริบหนึ่งคราพลันปรากฏหยาดน้ำตาสีใสไหลลงมาทันที "ฮะ ฮูหยินใหญ่ไม่ยอมให้ข้ามาพบคนตระกูลเหอเจ้าค่ะ หากข้าขัดคำสั่งพวกเขาจะลงโทษข้า ด้วยเหตุนี้ข้าจึงมิอาจไปเยี่ยมเยือนท่านตาท่านยายที่จวนตระกูลเหอเจ้าค่ะ" 

ปัง!!

"สตรีแซ่หลี่น่ะหรือที่สั่งห้ามเจ้า ช่างน่าตายนัก! ถือสิทธิ์อะไรมาห้ามมิให้เจ้ามาคารวะผู้อาวุโสของตระกูลฝั่งมารดากัน" 

เหอต้าเจิงขบกรามแน่นอย่างเหลืออด ภายในใจที่เคยคลางแคลงหลานสาวพลันอ่อนยวบลงในบัดดล ไม่มีแล้วความกังขาในตัวหลานสาว มีแต่ความสงสารและโกรธเคืองหลี่หลินถง และตัวเขาเองที่ไม่นึกสงสัยสิ่งใดเลย

"ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเจ้าค่ะ คราแรกข้าจึงต่อต้านและไปบอกท่านพ่อ ทะ ทว่า... ท่านพ่อบอกว่าท่านแม่สิ้นใจไปแล้ว คนตระกูลเหอก็เป็นเพียงตระกูลพ่อค้า พวกเราตระกูลเจียงมิสมควรไปข้องแวะด้วย เพราะจะถือว่าลดตัวไปข้องเกี่ยวกับพวกพ่อค้าที่หามีเกียรติอันใดไม่เจ้าค่ะ" 

เจียงเม่ยยังคงใส่ไฟไม่หยุด แม้ว่าความจริงพวกเขาจะไม่ได้พูดรุนแรงถึงขั้นนี้ ทว่าการกระทำที่สั่งห้ามนางไปเยือนจวนตระกูลเหอนั้นล้วนเป็นความจริง 

หลี่หลินถงเป่าหูบิดาของนางว่าคนตระกูลเหอหยาบคายไร้การศึกษา เกรงว่านางจะติดนิสัยเช่นนั้นจึงไม่ให้นางไปเยือนตระกูลเหออีก ส่วนจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลี่หลินถงคือต้องการมิให้เจียงเม่ยมีคนหนุนหลังนั่นเอง 

"ดี! ดีเหลือเกินเจ้าคนแซ่เจียง ถือสิทธิ์ว่าตนเองมีหน้าที่การงานใหญ่โตจึงได้ดูหมิ่นพวกข้าถึงเพียงนี้ คงลืมไปแล้วกระมังว่าเงินที่ใช้สอยในการสอบจอหงวนครั้งนั้นนั้นได้มาจากผู้ใด"

"ท่านลุง ยะ อย่าโกรธไปเลยนะเจ้าคะ ที่ข้ามาที่นี่เพราะยังมีเรื่องสำคัญอยากจะมาเตือนท่านลุงเจ้าค่ะ"

เหอต้าเจิงที่โกรธจนหน้าแดงก่ำหันกลับมามองหลานสาวทันที ดวงหน้าหวานที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตากัดริมฝีปากแน่น ดวงตาของนางที่เคยหม่นแสงพลันฉายแววจริงจังขึ้นมา

"เรื่องอันใดหรือ"

"ข้าได้ยินมาว่าแป้งทาหน้าขาวจากพวกชาวทะเลที่ท่านลุงตั้งใจจะลงทุนนั้นมีสารตะกั่วเจ้าค่ะ หากเหล่าสตรีใช้ไปนาน ๆ จะเกิดอาการเบื่ออาหาร ท้องไส้ปั่นป่วน มึนงง มือเท้าชา หรือตาบอด และอาจถึงขั้นเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยเจ้าค่ะ"

ในนิยายกล่าวว่าตระกูลเหอขาดทุน และเสียชื่อเสียงเรื่องแป้งทาหน้าขาวนี้เป็นอย่างมาก กว่าจะฟื้นตัวและเรียกความไว้วางใจกลับคืนมาได้ก็ตอนที่เจียงเม่ยได้กลายเป็นฮองเฮาไปแล้ว ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกสิบปีข้างหน้า

"เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไรเม่ยเอ๋อร์" เหอต้าเจิงขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย

"ข้าเคยอ่านหนังสือที่ได้มาจากพวกชาวทะเลเจ้าค่ะ ในนั้นบอกถึงกรรมวิธีการผลิตแป้งทาหน้าขาวที่ผสมสารตะกั่วลงไปด้วย แม้ว่าจะได้เนื้อแป้งที่ขาวเนียนละเอียด ทว่าก็ต้องแลกมาด้วยความตายเลยนะเจ้าคะ หากท่านลุงไม่เชื่อลองพิสูจน์โดยนำแป้งทาหน้าขาวไปละลายในน้ำแล้วรดน้ำต้นไม้ดูสิเจ้าคะ ถ้าต้นไม้ไม่โต ใบเหี่ยวเฉาลงแสดงว่าแป้งทาหน้าขาวนี้มีสารตะกั่วจริง ๆ เจ้าค่ะ"

เหอต้าเจิงได้ยินเช่นนั้นพลันร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมาในบัดดล หากนี่เป็นความจริงตามที่เจียงเม่ยเอ่ยออกมา ก็แสดงว่าเขากำลังจะทำให้ตระกูลพบกับความเสียหายแล้ว 

"ที่เจ้าพูดมาเป็นเรื่องจริงหรือ"

"ข้าไม่กล้าโป้ปดท่านลุงหรอกเจ้าค่ะ ที่ข้าเสี่ยงถูกจับได้แล้วมาเตือนท่านลุงเช่นนี้ก็เพราะเป็นห่วงตระกูลเหอ แค่ข้าไม่ไปคารวะท่านตาท่านยายก็นับว่าอกตัญญูมากพอแล้วเจ้าค่ะ" เจียงเม่ยช้อนตามองเหอต้าเจิงด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

"ข้าจะลองทำตามที่เจ้าบอก หากนี่เป็นความจริงนับว่าเจ้าถือเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลเหอ ตัวข้ารู้สึกละอายต่อใจนักที่เคยคิดไม่ดีต่อเจ้า"

เจียงเม่ยได้ยินเช่นนั้นพลันคลี่ยิ้มเบาบาง นางลุกขึ้นยืนแล้วคารวะเหอต้าเจิงอย่างเต็มพิธีการ 

"ข้าอกตัญญูทำได้เพียงช่วยเหลือท่านลุงเล็กน้อยเท่านั้น ที่มาวันนี้เพราะมิอาจทนกักเก็บความอยุติธรรมที่ท่านพ่อและฮูหยินใหญ่กระทำต่อตนเองและคนตระกูลเหอได้ ข้าหวังว่าตระกูลเหอจะเป็นไม้ใหญ่ให้ข้าได้พึ่งพิงนะเจ้าคะ"

เหอต้าเจิงหัวเราะดังลั่นด้วยความถูกใจ ไม่พบกันแค่หนึ่งปีกว่าหลานสาวของเขารู้ความมากนัก ทั้งยังใจกล้ามิน้อยเลย

"ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเหอต้าเจิงคนนี้จะเป็นคนหนุนหลังให้เจ้าเอง! แม้ว่าข้าจะมิใช่ขุนนางใหญ่ ทว่าตระกูลเหอของเราก็มีเงินมีทองมากมายนัก ไม่ว่าเจ้าปรารถนาสิ่งใด ตระกูลเหอของเราย่อมต้องช่วยทำให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริงอย่างแน่นอน"

เจียงเม่ยได้ยินเช่นนั้นพลันรู้สึกตื้นตันใจนัก นางแค่ช่วยเขาเล็กน้อยแต่กลับได้รับประโยชน์กลับมามากมายนัก ไม่เสียแรงที่นางเริ่มเข้าหาท่านลุงก่อน เพราะท่านลุงคือผู้กุมสายบังเหียนของการค้าตระกูลเหอทั้งหมด ในภายหน้าจะต้องสร้างประโยชน์ให้กับนางอย่างมากมาย

"ขอบคุณท่านลุงเจ้าค่ะ"

Продолжить чтение
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ   ตอนพิเศษ 5 ภรรยาข้าใครกล้าแตะ

    ตอนพิเศษ 5ภรรยาข้าใครกล้าแตะเพิ่งผ่านพ้นไปแค่วันเดียว สองฝาแฝดแห่งจวนชินอ๋องก็ได้สร้างวีรกรรมมากมายนัก ทำให้คนในวังหลวงหัวหมุนกันไปตาม ๆ เลย ทว่ากลับมีคนผู้หนึ่งที่กำลังรู้สึกขอบคุณกับการมาเยือนของเด็กน้อย ความสัมพันธ์ที่มีเพียงผลประโยชน์ร่วมกันของสองสามีภรรยาคู่นี้ ในที่สุดก็ได้พัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นไปอีกขั้น หลังจากโจวไป๋จวี๋กลับตำหนักบูรพา นางก็พบว่าหรงป๋อไฉ่ได้รอนางอยู่ก่อนแล้ว และจากนั้นทั้งสองก็ได้เปิดใจและใช้ค่ำคืนร่วมกันอย่างเร่าร้อนทะเลสาบชงชิงหรงหมิงฮ่าวพาเจียงเม่ยมาเที่ยวชมทะเลสาบชงชิงแห่งแดนทักษิณ แม้จะต้องใช้เวลาเดินทางถึงสิบวัน ทว่าเมื่อได้มาถึงแล้วกลับรู้สึกว่าดียิ่งนัก ทะเลสาบชงชิงล้อมรอบไปด้วยต้นเหมยฮวาที่ออกดอกบานสะพรั่งไปทั่ว ทะเลสาบมีน้ำใสแวววาวที่ใสกระจ่างดั่งกับส่องกระจก เห็นตัวปลาน้อยใหญ่ที่แหวกว่ายไปมา บรรยากาศโดยรอบก็สดชื่นบริสุทธิ์ยิ่งนัก สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งแคว้นฉิน"ชอบหรือไม่"หรงหมิงฮ่าวสวมกอดภรรยาจากทางด้านหลัง ปลายคางสากวางลงบนบ่าเล็กของนาง จมูกโด่งคมสันพลันสัมผัสกับแก้มขาวเนียนละเอียด"ไม่คิดเลยว่าจะมีทะเลสาบที่สวยงามมากถึง

  • ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ   ตอนพิเศษ 4 เพื่อนเล่นของเจ้าก้อนแป้งน้อย

    ตอนพิเศษ 4เพื่อนเล่นของเจ้าก้อนแป้งน้อยฮองเฮาตามไปสนทนากับฮ่องเต้ยังห้องหนังสือ พระนางนั่งบนเก้าอี้ที่ปูด้วยพรมชั้นดูเพื่อรอฟังว่าพระสวามีมีสิ่งใดจะตรัสกับพระนาง "ชินอ๋องพาพระชายาออกท่องเที่ยวประมาณหนึ่งเดือน เช่นนั้นข้าจะขอฝากฝังให้ฮองเฮาช่วยดูแลเด็กน้อยทั้งสองได้หรือไม่ แม้ว่าเสด็จแม่จะทรงรับปากชินอ๋องไปแล้ว แต่หากมีฮองเฮาเข้ามาช่วยแบ่งเบาก็ถือว่าดียิ่ง""ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้เอง ฝ่าบาททรงวางพระทัยหม่อมฉันจะดูแลท่านหญิงน้อยและท่านชายน้อยเป็นอย่างดีเลยเพคะ และจะให้จวี๋เอ๋อร์มาช่วยด้วยอีกแรง มิแน่ว่าหากนางได้คลุกคลีกับเด็กน้อยทั้งสองแล้ว นางอาจจะมีข่าวดีในเร็ววันก็ได้นะเพคะ""เช่นนั้นก็ดี ข้าขอฝากฮองเฮาด้วยนะ""เพคะ"ไป๋อิงฮวาแย้มยิ้มหวาน หลังจากพระนางพูดคุยกับฝ่าบาทจบแล้วจึงได้กลับไปหาหรงจินหยางและหรงจินเยว่ "กรี๊ดด! ท่านชายนี่ไม่ได้นะเพคะ อย่า ๆ เพคะ""ท่านหญิงอย่าทรงวิ่งไปทางนู้นเพคะ"ฮองเฮาที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าพลันหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงโวยวาย พระนางทรงหยุดยืนอยู่กับที่ก่อนจะเห็นร่างเล็กป้อมวิ่งมาทางพระนาง ผมแกละทั้งสองข้างที่มีผมอยู่น้อยนิดพลิ้วไหวอย่างน่าเอ็นดูเสียจริ

  • ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ   ตอนพิเศษ 3 ซุกซนเหลือเกิน

    ตอนพิเศษ 3ซุกซนเหลือเกินวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วนัก นับตั้งแต่เจ้าก้อนแป้งน้อยทั้งสองถือกำเนิด พวกเขาก็อายุได้ 1 ขวบปีแล้ว และวันนี้เองที่เจียงเม่ยกับหรงหมิงฮ่าวจะต้องจากลูก ๆ ไปไกล"ท่านพี่... เราจะไปกันจริง ๆ หรือเพคะ" เจียงเม่ยที่ไม่เคยห่างลูกไปไหนพลันน้ำตาเอ่อคลออย่างใจหาย หรงหมิงฮ่าวที่มีหัวใจหนักแน่นดั่งหินผาจำต้องเอ่ยเสียงเคร่งขรึมกับภรรยาของตน"ใช่แล้ว น้องหญิงไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก เสด็จแม่จะต้องทรงดูแลอาหยางกับเยว่เอ๋อร์เป็นอย่างดีแน่นอน" "แต่หม่อมฉันก็ยังเป็นห่วงทั้งสองอยู่ดีนะเพคะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเราต้องห่างพวกเขามากถึงเพียงนี้" น้ำเสียงของเจียงเม่ยเจือไปด้วยความกังวล"วางใจเถิด... ลูก ๆ ของเราอยู่ที่วังหลวงจะต้องปลอดภัยและสนุกมากเป็นแน่ แทนที่น้องหญิงจะกังวลเรื่องพวกเขา มิสู้เป็นกังวลผู้คนในวังหลวงไม่ดีกว่าหรือ" หรงหมิงฮ่าวพลันหลุดหัวเราะเมื่อนึกถึงวีรกรรมของเจ้าก้อนแป้งน้อย พวกเขาเพิ่งจะอายุแค่เพียง 1 ขวบปี แต่กลับทำให้คนในจวนหัวหมุนกันไปตาม ๆ กันเลย แม้แต่มู่กงกงเองยังขอยอมแพ้กับความซุกซนของพวกเขา นับตั้งแต่เด็กทั้งสองเดินได้ผู้คนในจวนชินอ๋องก็ไม่มีวันได้สุ

  • ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ   ตอนพิเศษ 2 รสชาติเป็นเช่นไร

    ตอนพิเศษ 2รสชาติเป็นเช่นไรวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่นานเจียงเม่ยก็ได้ให้กำเนิดเจ้าก้อนแป้งน้อยออกมาถึงสองคน โดยคนแรกคือทารกเพศชายผู้มีร่างกายอ้วนท้วมสมบูรณ์ดี ส่วนคนที่สองคือทารกเพศหญิงที่ร้องไห้เสียงดังลั่นห้อง ทั้งสองมีใบหน้าละม้ายคล้ายบิดาและมารดาอย่างละนิดละหน่อย"เหนื่อยหรือไม่น้องหญิง" น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยดังออกมาจากปากของหรงหมิงฮ่าว เขามองดูภรรยารักที่เพิ่งผ่านพ้นการคลอดบุตรที่แสนยากลำบากด้วยความหนักอึ้งในหัวใจ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการคลอดลูกจะหนักหนาสำหรับสตรีมากถึงเพียงนี้"เจ็บแต่ก็มีความสุขมากเพคะ ท่านพี่ไม่ต้องคิดมากนะเพคะ ขอเพียงหม่อมฉันพักผ่อนเยอะ ๆ ทานของบำรุงมิให้ขาดร่างกายก็จะกลับมาแข็งแรงดังเดิมแล้วเพคะ" ใบหน้าที่ซีดเผือดคลี่ยิ้มหวานส่งมาให้ผู้เป็นพระสวามี แม้การคลอดเจ้าก้อนแป้งน้อยทั้งสองจะทุกข์ทรมานจนมิอาจจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ทว่าตัวนางกลับรู้สึกยินดีที่จะน้อมรับความเจ็บปวดนี้เอาไว้ทั้งหมดหรงหมิงฮ่าวได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งบังเกิดความรู้สึกรักใคร่ต่อภรรยายิ่งนัก นางช่างแสนดีเหลือเกิน ทั้งที่เขาได้ยินเสียงนางกรีดร้องอย่างทรมานถึงเพียงนั้น แต่น

  • ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ   ตอนพิเศษ 1 สุขสม

    ตอนพิเศษ 1สุขสมหลังจากทุกคนในจวนชินอ๋องรู้ข่าวการตั้งครรภ์ของเจียงเม่ย ทุกคนล้วนปลื้มปีติกับข่าวอันน่ายินดีนี้เป็นอย่างมาก มู่กงกงผู้ชราแล้วถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ ในที่สุดคนแก่เช่นเขาก็มีบุญวาสนาที่จะได้เลี้ยงดูท่านหญิงน้อยท่านชายน้อยแล้ว และแน่นอนว่าเมื่อฮ่องเต้และไทเฮาทรงทราบ ทั้งสองพระองค์ก็ได้ส่งของบำรุงร่างกายมายังจวนชินอ๋องมิได้ขาด ทั้งยังทรงเสด็จมาเยือนถึงจวนชินอ๋องด้วยสีพระพักตร์ของจ้าวจิงอี้เต็มไปด้วยความยินดี พระนางทรงลูบท้องที่ยังคงแบนราบของเจียงเม่ยอย่างอ่อนโยน "อาการของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง มีอาหารที่อยากทานหรือไม่""หม่อมฉันมีอาการอาเจียนบ้างเป็นบางครั้งเพคะ ส่วนมากก็จะง่วงนอนเสียมากกว่า ส่วนอาหารที่ชอบนั้น..." สายตาของเจียงเม่ยพลันหันไปสบตากับสามีโดยพลัน ด้วยไม่ว่าสิ่งใดที่นางอยากจะทาน เพียงเอ่ยปากร้องขอคำเดียวนางก็จะได้ทานในทันที เพราะพระสวามีของนางผู้นี้ได้ให้ลู่จงและลู่จิงไปหามาให้ในทันที โดยมีคำสั่งเด็ดขาดว่าจะต้องนำอาหารที่นางอยากจะทานมามอบให้ภายในเวลาไม่เกินหนึ่งเค่อ มิเช่นนั้นจะโดนทำโทษสถานหนัก เรื่องนี้สร้างความลำบากใจให้กับเจียงเม่ยเป็นอย่างมากฮ่

  • ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายหลายวันผ่านไปหลังจากสืบสวนคนทั้งหมดจึงได้ข้อสรุปว่า ซ่งหยางคือผู้บงการเรื่องทุกอย่าง เขากับใต้เท้าจั่วร่วมมือกันค้าเกลือเถื่อนตั้งแต่เมื่อ 15 ปีก่อน แต่เหอชิวเหยากลับล่วงรู้ความลับนั้น ซ่งหยางจึงให้นางเลือกว่าจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หรือเลือกจะเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป แต่เพราะความหวาดระแวงทำให้ซ่งหยางวางแผนสังหารนาง โดยใช้หลี่หลินถงเป็นเครื่องมือ ซึ่งเจียงลู่คือผู้รู้เห็นทุกการกระทำของภรรยาแต่ก็ทำเป็นเมินเฉย ภายหลังจากที่เหอชิวเหยาตาย ซ่งหยางกับใต้เท้าจั่วก็ได้หยุดการค้าเกลือเถื่อน ก่อนจะกลับมาค้าขายอีกครั้งเมื่อ 1 ปีก่อน ตลอดเวลาที่ผ่านมาสามารถหลบหูหลบตาจากทางการได้ อันเนื่องมาจากใต้เท้าจั่วได้ปล่อยเงินกู้กับเหล่าขุนนางทั้งหลาย ทำให้พวกเขาใช้จุดนี้ในการหลบเลี่ยงสายตาจากทางการ แต่หลังจากที่รู้ตัวว่าชินอ๋องสืบสาวเรื่องนี้จนพบหลักฐาน พวกเขาก็ได้ส่งจั่วเฉิงให้มายุแยงเจียงซูเหวินให้จ้างนักฆ่าไปสังหารเจียงเม่ย เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจในการหลบหนี แต่เพราะองค์รัชทายาทจึงสามารถจับกุมตัวพวกเขาเอาไว้ได้ทันในตอนที่กำลังหลบหนี ฮ่องเต้ที่ได้อ่านคำสารภาพผิดทั้งหมดจึงได้สั่งตัดสินโทษป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status