Share

ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ
ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ
Author: กะปอมพ่นไฟ

บทนำ

last update Last Updated: 2025-10-28 12:39:36

 บทนำ

"เอาล่ะเด็ก ๆ วันนี้ก็ทำให้เต็มที่เลยนะ ครูเป็นกำลังใจให้ ถ้าการแข่งครั้งนี้คว้าที่ 1 มาได้ ครูจะพาไปเลี้ยงไอศกรีมเลย"

"เย้! ครูดาวใจดีที่สุดเลยครับ"

เด็กชายกลุ่มใหญ่ในชุดกีฬาสีเสื้อสีแดงโห่ร้องเสียงดังก้องด้วยความยินดี วันนี้คือการแข่งขันฟุตบอลในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4- 6 ซึ่งการแข่งรอบนี้คือการแข่งรอบชิงชนะเลิศ โดยมีครูดาวผู้เป็นนักศึกษาครูฝึกสอนปีสุดท้ายเป็นผู้ฝึกซ้อมพวกเขาด้วยตนเอง ครูดาวคือคุณครูพละแสนสวยขวัญใจของนักเรียน

"ไป ๆ ทำให้เต็มที่เลยนะ"

ครูดาวปรบมือให้สัญญาณเด็ก ๆ วิ่งเข้าสู่สนาม พวกเด็ก ๆ ต่างหันมาโบกมือยิ้มร่า ก่อนจะรีบวิ่งลงไปยังสนามด้วยหัวใจอันตื่นเต้น

การแข่งขันล่วงเข้าสู่นาทีสุดท้ายแล้วซึ่งเด็ก ๆ ต่างทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี ตอนนี้ผลคะแนนอยู่ที่ 1-1 ในช่วงสุดท้ายของเกมกัปตันทีมของสีแดงกำลังเลี้ยงบอลเพื่อยิงเข้าประตูของฝ่ายตรงข้าม ครูดาวลุ้นระทึกด้วยความตื่นเต้น เธอยืนอยู่ข้างสนามท่ามกลางแสงแดดอันเจิดจ้าอย่างไม่นึกร้อน

ทว่าในตอนที่ลูกบอลพุ่งตรงเข้าประตูของทีมสีเหลืองนั้น ครูดาวกลับรู้สึกว่าร่างของเธอผิดปกติ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง ในตอนนั้นสติของเธอพลันดับมืดลง เธอไม่รับรู้สิ่งใดอีกเลย...

รัชศกปีที่ 17 แคว้นฉิน

ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวของคิมหันตฤดู กลับมีสตรีร่างบอบบางถูกกลุ่มคนจับกดน้ำในอ่างอย่างโหดเหี้ยม นางดิ้นเร่าไปมาด้วยความทุกข์ทรมาน พยายามจะขึ้นมาหายใจทว่ากลุ่มคนพวกนี้กลับไม่ยินยอม พวกนางยังคงจับหัวของนางกดลงไปในน้ำอย่างไม่ปรานี โดยมีน้ำเสียงเล็กหวานคอยสั่งการอยู่ไม่ห่าง

"พี่หญิงใหญ่ควรต้องรู้ฐานะของตนเองนะเจ้าคะ ไม่ว่าข้าสั่งให้ทำสิ่งใดก็ต้องทำ หากไม่ทำก็ต้องถูกลงโทษเช่นนี้"

'เจียงซูฉี' หญิงสาวในวัย 17 เหยียดยิ้มกว้างด้วยความรื่นเริงใจ การได้เห็นพี่สาวต่างมารดาทรมานเช่นนี้ ช่างเป็นความสุขที่น่าอภิรมย์ยิ่งนัก

"อื้อ ๆ"

ผู้ที่ถูกเรียกว่าพี่หญิงใหญ่พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเงยหน้าขึ้นมาหายใจ แต่เพราะร่างของนางถูกจับตรึงโดยสาวใช้ที่ตัวใหญ่กว่า ทำให้นางมิอาจหลีกหนีจากความทรมานนี้ได้เลย ชีวิตของนางในฐานะคุณหนูใหญ่ของจวนตระกูลเจียงช่างต่ำต้อยเสียยิ่งกว่าบ่าวไพร่เสียอีก หากแม้นว่านางตายเสียแต่ตอนนี้ก็คงจะดีสินะ

นางไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว...

"คุณหนูรองเจ้าคะ คุณหนูใหญ่แน่นิ่งไปแล้วเจ้าค่ะ"

สาวใช้ที่ทำหน้าที่กดหน้าของคุณหนูใหญ่เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจกลัว แม้ว่าพวกนางจะทำตามคำสั่งของคุณหนูรองก็ตาม แต่หากคุณหนูใหญ่เป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ พวกนางคงมิพ้นโทษตายเป็นแน่

“เช่นนั้นก็เอาตัวพี่หญิงใหญ่ไปที่เรือนของนางซะสิ”

นางตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องของตน ราวกับว่าความเป็นความตายของพี่สาวผู้นี้จะเป็นอย่างไร นางก็หาได้สนใจไม่

“เจ้าค่ะคุณหนูรอง”

สาวใช้สองคนรีบประคองร่างที่หมดสติของคุณหนูใหญ่กลับไปที่เรือนท้ายจวนทันที ก่อนพวกนางจะไปยังเข้ามาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณหนูใหญ่เสียก่อน ทว่าก็ไม่มีใครคิดจะเข้ามาดูแลคุณหนูใหญ่ หรือตามท่านหมอมาดูอาการเลย ด้วยหากพวกนางทำเกินคำสั่ง คงมิพ้นถูกขายออกไปอย่างแน่นอน

“อ่า... ปวดหัวชะมัดเลย อื้อ”

เปลือกตาค่อย ๆ เผยอขึ้นเมื่อต้องแสงของพระอาทิตย์ เผยให้เห็นดวงตากลมโตที่เป็นประกายระยิบระยับ แม้ว่าใบหน้าหวานจะขาวซีดไปเสียหน่อย แต่มิอาจปิดบังความงดงามของเจ้าของร่างนี้ได้เลย

เส้นผมสีดำขลับที่ยาวถึงกลางหลังยุ่งเหยิงเล็กน้อย นางปัดเส้นผมที่เกลี่ยแก้มขาวเนียนไปทางด้านหลัง คิ้วเล็กเรียวที่พาดเหนือดวงตาคู่กลมที่มีขนตางอนยาวเป็นแพหนากะพริบปริบ ๆ เพื่อให้คุ้นกับภาพตรงหน้า จมูกโด่งที่เชิดขึ้นน้อย ๆ ย่นลงด้วยกลิ่นเหม็นอับชื้น ริมฝีปากเล็กสีแดงระเรื่ออ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงกับภาพตรงหน้านี้

“นะ นี่มันที่ไหนกันล่ะเนี่ย ไม่ใช่บ้านและก็ไม่ใช่โรงพยาบาล แต่ว่า... มะ เหมือนกับห้องนอนสมัยจีนโบราณเลย อึก! ปวดหัวชะมัด”

น้ำเสียงแว่วหวานพูดกับตนเองด้วยความฉงน นางกวาดสายตามองข้าวของในห้องด้วยความตกตะลึง แม้ในห้องนี้จะไม่ได้ตกแต่งด้วยเครื่องเงินเครื่องทองอย่างหรูหรา ทว่ากลับดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

ไม่ผิดแน่! นี่คือห้องนอนตามแบบฉบับของยุคสมัยจีนโบราณมิมีผิดเพี้ยน แล้วทำไม? ข้าถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้เล่า

“โอ๊ยยย!”

สติที่คืนกลับมาดับวูบลงอีกครั้ง พร้อมกับความทรงจำของเจ้าขอร่างเดิมที่ได้หวนคืนเข้าสู่เจ้าของร่างนี้...

หลายวันผ่านไป

วิญญาณสาวของครูดาว ได้เข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูใหญ่แห่งจวนเสนาบดีกรมยุติธรรมหลายวันแล้ว หลังจากที่สติแตกเพราะตัวเองเข้ามาอยู่ในนิยายที่อ่านจบแล้ว กว่าจะทำใจได้ว่าตัวเองอาศัยอยู่ในร่างนี้ ก็ทำเอานางเกือบเป็นบ้าไปเลย

ใครจะคิดว่าตัวเองจะได้มาเข้าร่าง ‘เจียงเม่ย’ นางเอกนิยายเรื่อง ‘บุปผาคู่บัลลังก์’ กันเล่า ทั้งชีวิตของนางเอกก็แสนจะน่าบัดซบเหลือเกิน

มารดาที่เป็นฮูหยินรองก็เสียตั้งแต่นางอายุเพียง 5 ปี บิดาจากที่เคยรักใคร่ก็ไม่สนใจไยดี ฮูหยินใหญ่ก็รังเกียจเดียดฉันท์ น้องสาวน้องชายต่างมารดาก็คอยหาเรื่องกลั่นแกล้ง อีกทั้งบ่าวไพร่ก็หาได้ยำเกรงไม่ พอได้เจอพระเอกก็ต้องพบเจอกับเรื่องอันตราย

เฮ้อ... จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบราบรื่นไม่ได้เลยหรือ

เจียงเม่ยคร่ำครวญในใจกับตนเองอย่างปลงตก ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมานางก็ไม่เคยได้อยู่ในเรือนอย่างสงบเลย

“คุณหนูใหญ่ ฮูหยินใหญ่เรียกให้ไปพบที่เรือนใหญ่เจ้าค่ะ ท่านจะมาอ้างว่าไม่สบาย ปวดหัว มีไข้ไม่ได้แล้วนะเจ้าคะ หาไม่ท่านคงได้ถูกลงโทษหนักกว่าคราวที่แล้วอีกแน่”

รั่วจูผู้เป็นสาวใช้ประจำตัวของคุณหนูรอง ข่มขู่ผู้ที่นางไม่เคยมองว่าเป็นเจ้านายเลยสักครั้งด้วยความถือดี ด้วยตนเองอาศัยว่ามีฮูหยินใหญ่และคุณหนูรองคอยหนุนหลัง

ผลัวะ!

ประตูถูกผลักออกพร้อมกับเงาร่างอันแสนบอบบางของเจียงเม่ย สายตาของนางตวัดมองสาวใช้ที่กำแหงผู้นี้ด้วยสายตาวาววับ

“ข้ารู้แล้ว” น้ำเสียงหวานพลันเย็นเหยียบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สร้างความขนลุกซู่ให้กับรั่วจูอย่างไม่คาดคิด

“ชะ เช่นนั้นก็รีบไปเถิดเจ้าค่ะ”

รั่วจูเอ่ยตอบอย่างตะกุกตะกัก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่นางรู้สึกหวาดกลัวคุณหนูใหญ่ผู้นี้เลย

“หึ! ไว้ข้าจะกลับมาคิดบัญชีกับเจ้าที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ”

เจียงเม่ยเดินผ่านโดยพูดกับรั่วจูด้วยน้ำเสียงเย็นเหยียบ แววตาของนางมองอีกฝ่ายด้วยสายตาแข็งกร้าว ก่อนจะเดินตรงไปยังเรือนใหญ่ อันเป็นสถานที่พำนักของฮูหยินใหญ่ ผู้เป็นนายหญิงของจวนตระกูลเจียงแห่งนี้!

เจียงเม่ยในชุดสีชมพูอ่อนที่ขาวซีดเสียจนคิดว่าเป็นสีขาว นางก้าวเดินอย่างมั่นคงสู่สนามรบของตนเอง บัดนี้นางเอกที่แสนอ่อนแอที่ถูกคนในจวนแห่งนี้รังแกจะไม่มีอีกแล้ว แต่จะมีเพียงสตรีที่แสนร้ายกาจที่พร้อมจะเอาคืนทุกผู้คนเอง

“คารวะฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ”

‘หลี่หลินถง’ ฮูหยินใหญ่ผู้มีอำนาจสูงสุดในเรือนหลังกวาดตามองเจียงเม่ยด้วยสายตาวาววับ นับวันเจียงเม่ยจะยิ่งเผยความงามมากขึ้น นางมิผิดจากนังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ผู้เป็นมารดาเลย

“ลุกขึ้นเถิด ข้าได้ยินจากฉีเอ๋อร์ว่าเจ้าไม่ยอมปักผ้าหรือ เพราะเจ้าดื้อดึงเช่นนี้อย่างไรเล่า ฉีเอ๋อร์จึงได้หยอกล้อเจ้าเล่น ข้าหวังว่าเจ้าคงจะไม่ถือสาน้องรองของเจ้าใช่หรือไม่” แววตาที่คล้ายกับอสรพิษร้ายจับจ้องเจียงเม่ยไม่วางตา

“ข้ามิกล้าถือสาน้องรองหรอกเจ้าค่ะ พี่น้องจะหยอกล้อกันเช่นนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา หาใช่เรื่องใหญ่ไม่ ข้าเองก็อยากจะเล่นกับน้องรองเช่นนั้นเหมือนกัน”

‘ครั้งหน้าข้าจะลองกดหัวน้องรองบ้างก็แล้วกัน’ เจียงเม่ยคิดในใจอย่างเจ้าเล่ห์

หลี่หลินถงไม่ได้สนใจประโยคหลังที่สื่อความนัยของเจียงเม่ย แต่นางกลับพยักหน้าให้รั่วจูนำผ้าหลายพับยื่นให้กับเจียงเม่ย

“นับว่าเจ้ายังรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนนี่คือพัดที่ทำจากกระดาษเนื้อดีที่เจ้าจะต้องนำไปวาดให้เสร็จภายในสามวัน หากเสร็จไม่ทันเจ้าจะต้องอดข้าวสามวัน เข้าใจแล้วใช่หรือไม่” หลี่หลินถงข่มขู่เสียงเข้ม

“น้อมรับคำสั่งฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ”

เจียงเม่ยรับพัดทั้งสามอันมาถือไว้ในมือ คอยดูละกันว่านางจะทำสิ่งใดกับพัดพวกนี้กัน!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ   บทที่ 3 เรื่องเหลวไหล

    บทที่ 3เรื่องเหลวไหลหลังจากพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบจนอาหารที่สั่งไว้มาวางบนโต๊ะ เหอต้าเจิงก็ยังคงทานอาหารเย็นร่วมกับหลานสาว ทั้งสองพูดคุยกันอย่างถูกคอยิ่งนัก ด้วยเจียงเม่ยมีพรสวรรค์ด้านการค้ามิน้อยเลย เมื่อเขาลองหยั่งเชิงนางก็สามารถเสนอความคิดเห็นได้อย่างชาญฉลาด นี่สิถึงจะเหมือนกับสายเลือดของคนตระกูลเหอ "วันนี้ข้าสนุกมากเลยเจ้าค่ะ แต่คงต้องรีบกลับจวนแล้ว ไว้คราวหน้าข้าจะหาทางไปคารวะท่านตาและท่านยายนะเจ้าคะ ส่วนเรื่องนั้น..." ประโยคท้ายนางมีความลังเลไม่แน่ใจ"เจ้าวางใจได้ ข้าจะทำตามที่เจ้าขออย่างไม่มีตกหล่นเลยล่ะ""ขอบคุณท่านลุงมากเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะ""อืม... ไว้พบกันใหม่ วันนี้ข้าเองก็สนุกมากเหมือนกัน"เหอต้าเจิงยกมือขึ้นลูบเรือนผมสีดำขลับของเจียงเม่ยด้วยความเอ็นดู การได้พบหลานสาวอีกครั้งถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุด หากว่าเขานำเรื่องนี้ไปเรียนท่านพ่อกับท่านแม่ พวกท่านทั้งสองคงจะดีใจยิ่งนักจวนชินอ๋องภายในห้องหนังสือของจวนชินอ๋อง บุรุษผู้เป็นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ผู้มีดวงตาคมกริบดั่งกระบี่ คิ้วเรียวยาวพาดเหนือดวงตาคู่คม จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบที่ใ

  • ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ   บทที่ 2 คำเตือนจากหลานสาว

    บทที่ 2คำเตือนจากหลานสาวเจียงเม่ยเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมซึ่งเป็นกิจการของตระกูลเหอ ตระกูลฝั่งมารดาของนางนั่นเอง ในนิยายคนตระกูลเหอล้วนดีกับนางทุกคน โดยเฉพาะท่านตากับท่านยายที่รักใคร่หลานสาวที่ต้องสูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเด็ก ทว่าเพราะถูกฮูหยินใหญ่ข่มขู่และหวาดกลัวตระกูลหลี่ ทำให้ไม่กล้าแพร่งพรายความทุกข์ระทมที่อยู่ในจวนตระกูลเจียงเลย กว่าตระกูลเหอจะล่วงรู้ชะตาชีวิตอันน่าสงสารของเจียงเม่ยก็เป็นช่วงท้ายเรื่องแล้ว "เชิญขอรับ มิทราบว่าต้องการเป็นห้องรับรองส่วนตัวหรือไม่ขอรับ"ผู้ดูแลร้านรีบเข้ามาต้อนรับเจียงเม่ยด้วยท่าทางนอบน้อม "ช่วยไปเรียนท่านลุงว่าข้าเจียงเม่ยต้องการพบหน้าท่านลุงสักครา"หลงจู๊พลันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคุณหนูใหญ่เจียง ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นสตรีร้ายกาจ ชอบรังแกบ่าวไพร่ในเรือน และเป็นสตรีที่เกียจคร้านการเล่าเรียน แม้แต่สำนักศึกษาก็ยังไม่ไป น้อยคนนักที่จะเคยได้พบนาง"ขออภัยขอรับ ข้าน้อยต้องไปเรียนนายท่านเสียก่อน มิรู้ว่านายท่านจะว่างมาพบคุณหนูใหญ่เจียงหรือไม่นะขอรับ" สายตาที่หลงจู๊ใช้มองเจียงเม่ยมีความกังขา ไม่รู้ว่าการมาของเจียงเม่ยนั้

  • ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ   บทที่ 1 ไสหัวไป

    บทที่ 1ไสหัวไปหลังจากกลับมาที่เรือนของตน เจียงเม่ยก็หยิบพัดทั้งสามขึ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด พบว่าพัดทั้งสามล้วนเป็นพัดที่ทำจากกระดาษเนื้อดีอันขึ้นชื่อของเมืองหลวงทั้งสิ้น นางพยายามขุดคุ้ยความทรงจำของนางเอก จึงได้พบว่าเจียงซูฉีต้องการนำพัดพวกนี้ไปอวดในงานเลี้ยงน้ำชาชมดอกโบตั๋น โดยงานเลี้ยงนี้จัดขึ้นที่จวนท่านเสนาบดีกรมคลัง ซึ่งนางไม่ได้รับอนุญาตให้ไปด้วย'อืม... ไม่เคยวาดภาพซะด้วยสิ จะทำยังไงต่อดีล่ะเนี่ย'เจียงเม่ยหยิบพู่กันขึ้นมาแตะแต้มสีที่สาวใช้จัดเตรียมไว้ให้ ทว่าทันทีที่นางจับพู่กัน จู่ ๆ มือของนางก็ตวัดวาดลวดลายบนพัดอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก็บังเกิดภาพวาดดอกโบตั๋นสีแดงที่งดงามจับใจ เจียงเม่ยวางพู่กันในมือลงด้วยความตกตะลึง ก่อนจะผุดยิ้มกว้างด้วยความยินดี'อ่า... สวรรค์ไม่ได้ใจร้ายเกินไปสินะ ยังให้สกิลนางเอกติดตัวมาด้วย หึ ๆ อย่างนี้ก็ยิ่งน่าสนุกน่ะสิ'เจียงเม่ยเหยียดยิ้มกว้างด้วยความยินดี นางจัดการวาดภาพดอกโบตั๋นบนพัดนั้นจนแล้วเสร็จ หยิบผลงานของตนเองขึ้นมาดูด้วยความถูกใจ แม้จะไม่มีความรู้เรื่องการวาดภาพ แต่ฝีพู่กันและการลงสีของนางถือว่าลายเส้นมั่นคง รูปวาดมีมิติราวกับมีชีวิตอย่า

  • ข้าไม่ขอรับบทเป็นนางเอกที่อ่อนแอ   บทนำ

    บทนำ"เอาล่ะเด็ก ๆ วันนี้ก็ทำให้เต็มที่เลยนะ ครูเป็นกำลังใจให้ ถ้าการแข่งครั้งนี้คว้าที่ 1 มาได้ ครูจะพาไปเลี้ยงไอศกรีมเลย""เย้! ครูดาวใจดีที่สุดเลยครับ"เด็กชายกลุ่มใหญ่ในชุดกีฬาสีเสื้อสีแดงโห่ร้องเสียงดังก้องด้วยความยินดี วันนี้คือการแข่งขันฟุตบอลในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4- 6 ซึ่งการแข่งรอบนี้คือการแข่งรอบชิงชนะเลิศ โดยมีครูดาวผู้เป็นนักศึกษาครูฝึกสอนปีสุดท้ายเป็นผู้ฝึกซ้อมพวกเขาด้วยตนเอง ครูดาวคือคุณครูพละแสนสวยขวัญใจของนักเรียน"ไป ๆ ทำให้เต็มที่เลยนะ"ครูดาวปรบมือให้สัญญาณเด็ก ๆ วิ่งเข้าสู่สนาม พวกเด็ก ๆ ต่างหันมาโบกมือยิ้มร่า ก่อนจะรีบวิ่งลงไปยังสนามด้วยหัวใจอันตื่นเต้นการแข่งขันล่วงเข้าสู่นาทีสุดท้ายแล้วซึ่งเด็ก ๆ ต่างทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี ตอนนี้ผลคะแนนอยู่ที่ 1-1 ในช่วงสุดท้ายของเกมกัปตันทีมของสีแดงกำลังเลี้ยงบอลเพื่อยิงเข้าประตูของฝ่ายตรงข้าม ครูดาวลุ้นระทึกด้วยความตื่นเต้น เธอยืนอยู่ข้างสนามท่ามกลางแสงแดดอันเจิดจ้าอย่างไม่นึกร้อนทว่าในตอนที่ลูกบอลพุ่งตรงเข้าประตูของทีมสีเหลืองนั้น ครูดาวกลับรู้สึกว่าร่างของเธอผิดปกติ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง ในตอน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status