คนคลั่งรัก

ขอเริ่มแนะนำตัวก่อนนะ ฉันซินด์ เรียนนิเทศศาสตร์ ปี 4 มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังใจกลางกรุงเทพมหานคร ฉันเป็นลูกสาวคนเดียว ครอบครัวทำธุรกิจส่วนตัวซึ่งมีแบรนด์เสื้อผ้าทั้งในไทยและต่างประเทศ

ฉันมีเพื่อนสาวที่สนิทอยู่ 3 คน คือ แจง พิ้งค์ และจีจี้ที่ร่างเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง ตอนนี้พวกเราเลิกเรียนกันแล้วแต่ยังคงนั่งเล่นกันอยู่ใต้ตึกคณะแห่งนี้

"เออ กูว่าก็ดีนะ อีซินด์มึงจะได้ไม่ต้องไปจมปลักบ่อโคลนกับผู้ชายเฮงซวยแบบมันไง"

"เปรียบเทียบสะกูเหมือนควายเลย" ฉันมองพวกมันตาขวางที่เปรียบเทียบฉันเหมือนเป็นสัตว์

"ไม่ผิดหรอก ถ้ามึงยังมามัวเศร้า มัวแต่คิดถึงมัน มึงก็เป็นควายนั่นแหละค่ะ"

"อีสัสพอก่อน ด่าจนกูพรุนหมดทั้งตัวแล้ว งั้นคืนนี้กูไปปาร์ตี้กับพวกมึงด้วยก็ได้ คอยดูนะกูจะแต่งตัวให้แซ่บ แดกให้เมาเพื่อลืมผู้ชายเฮงซวยอย่างมันเลย" ฉันบอกอย่างมุ่งมั่น

"เออก็ดีค่ะ งั้นคืนนี้เจอกันที่เดิม 3 ทุ่มนะจ๊ะ ใครเลทใครเทกูตามจิกตบแน่ค่ะ" จีจี้พูดแล้วชี้หน้าทุกคน

"เออค่ะ แยกย้ายได้!" ฉันขับรถออกจากมหาวิทยาลัยมุ่งหน้ากลับคอนโดตัวเอง ช่วงบ่ายๆ แบบนี้รถบนท้องถนนยังไม่ค่อยติดมากเท่าไหร่ ขับรถไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงคอนโดแล้วด้วย

ตอนนี้บ่ายอยู่ฉันเลยเข้าไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนจะล้มตัวลงนอนพักผ่อนเอาแรงไว้เที่ยวคืนนี้ แม่จะเอาให้เมายับจนกลับคอนโดของตัวเองไม่ถูกเลย

ตื่นมาอีกทีท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้วฉันเลยลุกขึ้นไปอาบน้ำอีกรอบก่อนจะมานั่งแต่งหน้า ชุดที่เลือกไปก็เป็นเดรสสายเดี่ยวรัดรูปสีดำสั้นแหวกหน้าขาโชว์ขาเรียวสวย แน่นอนว่าเลือกรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วเพื่อเพิ่มความออร่าให้ตัวเองไปอีก ดัดลอนปลายผมเล็กน้อยให้ดูเซ็กซี่ขึ้น เรียบร้อย ปาร์ตี้สำหรับความโสดพร้อมแล้ว!

ฉันขับรถมาถึงร้านตอนสามทุ่มพอดี ไลน์ถามพวกมันก็รู้ว่านั่งกันอยู่ชั้นล่าง ชั้นล่างของที่นี่นั้นเป็นโซนสำหรับเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกได้

"สาบานว่ามึงเพิ่งโดนบอกเลิก แต่งแซ่บมากค่ะ" พอฉันถึงโต๊ะปุ๊บอีจีจี้ก็แขวะฉันเลยทันที

"แหม ว่าแต่กูนะอีดอก ดูตัวเองด้วยจ้า"

"พอๆ เลิกกัดกันค่ะ วันนี้แด่ความโสดของอีซินด์ค่ะ ไม่เมาไม่เลิก หมดแก้ว!!"

"เฮ!"

ยกแก้วดื่มผ่านไปสักพักสมองก็เริ่มมึนเบลอเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายโยกย้ายไปตามเสียงเพลงที่มีจังหวะแดนซ์

"วู้ววว! สุดเหวี่ยงค่าา" พิ้งค์ตะโกนแข่งกับเสียงดนตรี โดยที่มันแทบจะเลื้อยไปกองอยู่บนพื้น

"มึงงง กูปายเข้าห้องน้ำก่อนนาาา" ฉันบอกพวกมันเพราะเริ่มปวดฉี่ขึ้นมาจากการยกแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มไปหลายแก้ว

"กูปายเพื่อนนนน" อีแจงทำท่าจะก้าวเข้ามาหาฉันแต่เพราะขาอ่อนเกินไป จึงทำให้มันเกือบล้มหน้าทิ่มโดยมีจีจี้คอยหิ้วปีกไว้อยู่

"อีแจง ขามึงอ่อนปวกเปียกแบบนี้มึงอยู่นี่แหละ อีซินด์มึงรีบไปรีบมาเลย กูเฝ้ามันเอง"

จีจี้เป็นคนเดียวที่ยังพอมีสติอยู่มากกว่าเพื่อนทุกคน ฉันเลยทำมือบอกว่าโอเค ก่อนจะเดินปัดเป๋ตามทางมาเข้าห้องน้ำ ถึงจะเมาแต่ตาฉันก็พอมองเห็นนะเว้ย ถึงมันจะมองเห็นลางๆ ก็เถอะนะ

ไม่รู้ว่าเดินสวนทางกับใครบ้างไม่รู้ไม่สนใจ สองเท้าพยายามพาร่างตัวเองเพื่อเข้าห้องน้ำแต่มือกลับถูกดึงให้หันหลังจนชนกับแผงอกของคนที่สูงกว่า

"อื้อ ครายยย จะเข้าห้องน้ำ" ฉันพยายามแกะมือตัวเองออกจากคนที่ตัวสูงกว่า ใครก็ไม่รู้ไม่รู้จักโว้ย อย่ามารุ่มร่ามกันได้ไหม

"ไปกับฉันหน่อย" แค่ฟังเสียงก็ยังหล่อเลย ฉันเลยเพ่งมองหน้า ไม่รู้เว้ยมองเห็นแค่ลางๆ

"ไปหนายยย เข้าห้องน้ำหยอ?"

"อือ"

"เค้ งั้นพาไปหน่อย" พอพูดจบร่างฉันก็ถูกอุ้มพาเดินไปไหนไม่รู้ รู้แค่ว่าตอนนี้อยากนอนมาก รู้สึกว่าตัวเองถูกพามานั่งอยู่ในรถ

"ซี๊ด... นี่เธออย่าเพิ่งหลับดิวะ!"

"อื้อ ง่วง อุ๊บ..." แล้วจู่ๆ ริมฝีปากก็ถูกจู่โจมด้วยจูบจากคนแปลกหน้า มันเป็นจูบที่ดุดันและร้อนแรงมาก

"อื้อ..." ฉันส่งเสียงออกไปประท้วงเมื่อรู้สึกถึงแอร์เย็นที่ตกกระทบกับขาอ่อนจนขนลุกซู่ไปทั่วร่างกาย

"รอก่อนเถอะ ฉันขอขับรถก่อน" เขาผละออกจากฉันก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ และออกรถออกจากผับไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงคอนโดที่ไหนสักทีร่างของฉันก็ถูกอุ้มวางบนเตียงนุ่มที่กว้างมาก ตามด้วยเขาทาบเข้ามาบดจูบอีกครั้ง เดิมทีจากที่เคยปวดฉี่จนตอนนี้หายปวดเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพราะถูกมอมเมาด้วยรสจูบ

"เป็นของฉันนะ" เมื่อคนตรงหน้าหยุดจูบและกระซิบอยู่ข้างหูชวนขนหัวลุก

"อ๊ะ ฉันเจ็บนะ!" ฉันฟาดแขนไปที่คนตรงหน้าเมื่อรู้สึกถึงแรงขบเม้มบริเวณซอกคอทั้งสองข้าง

"ดะ เดี๋ยว!"

"เธอต้องช่วยฉัน"

"อื้อ..."

ริมฝีปากถูกประกบจูบอีกครั้ง ร่างกายอ่อนระทวยเมื่อโดนลูบไล้ทั่วเรือนร่าง หน้าอกถูกคนตรงหน้าบีบเค้นอย่างเบามือ แน่นอนว่าชุดเดรสมันสามารถถกขึ้นมาอยู่บนเอวได้เหมือนตอนนี้ที่เขากำลังทำอยู่

"อ๊ะ"

ฉันสะดุ้งเมื่อจุดสงวนถูกนิ้วมือร้อนลูบขึ้นลงผ่านแพนตี้ตัวจิ๋ว มันทำให้ร่างกายฉันรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาเหมือนกับที่เคยเรียนเพศศึกษามา ใช่ค่ะ ฉันเกิดอารมณ์ทางเพศกับผู้ชายที่เพิ่งเจอเพียงไม่ถึงชั่วโมง และเขาเป็นใครฉันก็มองเห็นไม่ชัด

แพนตี้ตัวจิ๋วถูกเขารูดทิ้งออกไปไหนไม่รู้ แต่อยู่ภายในห้องนี่แหละ ฉันพยามเพ่งมองภาพตรงหน้าก็เห็นลางๆ ว่า เขากำลังสวมถุงยางอนามัย ความใหญ่ของท่อนเอ็นตรงหน้ามันทำให้ฉันหุบขาอัตโนมัติเพราะความกลัว ใหญ่ขนาดนั้นมันเข้ามาได้ยังไง

"ถ้าเธอให้ความร่วมมือ มันจะไม่เจ็บ"

เขาพยายามพูดเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยน ซึ่งฉันใจอ่อนค่ะ อีซินด์มึงเมาแล้วมึงจะแรดไม่ได้ นี่มึงเพิ่งถูกแฟนทิ้งเพราะมึงไม่ยอมให้มันเอานะ แน่มึงกำลังจะให้ผู้ชายคนอื่นเอา!

"อ๊ะ เจ็บๆ" ฉันนิ่วหน้าเพราะความเจ็บเมื่อท่อนเอ็นพยายามจะเข้ามา

"อย่าเกร็ง" เขาพูดก่อนจะโน้มตัวเข้ามาประจูบอีกครั้ง คราวนี้มันเป็นจูบที่นุ่มนวลอ่อนหวาน ทำให้ฉันเคลิ้มจนลืมความเจ็บไปชั่วขณะ

"อื้อ..."

เจ็บ... บอกได้คำเดียวว่าเจ็บจนน้ำตาเล็ดเลย เวอร์จิ้นที่อุตส่าห์จะเก็บไว้ตอนแต่งงาน กับถูกคนแปลกหน้ามาเอาไปแถมตัวฉันเองก็ยังสมยอมอีก ให้ตายเถอะไอ้ร่างกายไม่รักดี

"ผ่อนคลาย อย่าเกร็ง" เขาพูดก่อนจะเริ่มขยับสะโพกอย่างเนิบนาบเพราะกลัวฉันจะเจ็บ ไม่นานความเจ็บถูกแทนที่ด้วยความเสียว เมื่อเขาได้ยินเสียงครางอันน่าอายของฉัน เขาเลยเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น

ตั่บ! ตั่บ!

"อ๊ะ อื้อ" ร่างกายรู้สึกเสียวขั้นสุด นี่สินะที่เขาบอกว่าจะถึงจุดสุดยอดตามที่ได้เรียนมา

"จะเสร็จแล้วเหรอ อ่า..."

"อื้อ... ไม่ไหว แล้ว!" ฉันบอกก่อนร่างกายจะกระตุกเกร็งสองสามทีทั้งที่คนคุมเกมส์นี้ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดกระแทกเข้ามา

"รอก่อน ใกล้แล้ว อ่า... ตอดแน่นฉิบหาย"

จังหวะรักได้ถูกบรรเลงอย่างร้อนแรง ไม่นานฉันก็เสร็จไปอีกรอบพร้อมกันกับเขา เขาถอดแก่นกายออกก่อนจะรูดถุงยางอนามัยโยนทิ้งถังขยะข้างเตียง

"ต่อนะ" เขาพูดก่อนจะสวมถุงยางชิ้นใหม่ก่อนจะเริ่มบรรเลงบทรักใหม่อีกครั้ง

ไม่รู้ว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่ แต่ฉันง่วงมากและระบมไปทั้งตัว สุดท้ายก็ทนไม่ไหวหลับไปเลย พรุ่งนี้ค่อยคุยกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็แล้วกัน

"หึ นอนซะ พรุ่งนี้มีเรื่องต้องคุยกัน" รู้สึกถึงแรงสวมกอดจากทางด้านหลัง ไม่รู้ละเว้ยจะนอนกอดก็กอดไป แต่ฉันจะนอน คืนนี้โดนสูบแรงออกไปหมดเลย