 LOGIN
LOGINร่างบางเดินตามหาพี่ชาย ทันทีที่เก็บกระเป๋าสัมภาระของตัวเอง เดินไปหาทั่วแผนกก็ยังไม่เจอไม่รู้ว่าหายตัวไปไหน
"ไปไหนของเขานะ" ฉันเดินออกมาจากแผนกฝากครรภ์แล้ว พอมองหาพี่ชายตัวเองก็ไม่พบโทรศัพท์ก็ทิ้งไว้มันหน้านัก พ่อคนรวยพ่อจอมงก 'สกาย ใบหม่อนขอโทษ ใบหม่อนอยากขอบคุณช่วงเวลาดี ๆ ที่เรามีด้วยกันแล้วก็ขอโทษที่เผลอพูดบอกเลิกไปวันนั้นใบหม่อนไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะ' 'เราจบกันไปตั้งนานแล้วไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องมาขอโทษเราหรอก ใช้ชีวิตของตัวเอง ให้ดีนะ' ฉันที่เดินตามหาพี่ชายตัวเองก็เผอิญได้ยินเสียงคุยกันครั้งแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคนชื่อเหมือนกันก็มีตั้งเยอะแยะ จนได้ยินเสียงพี่ชายของฉันพูดขึ้นมานั่นแหละ นี่พี่เราไปแอบมีแฟนตอนไหนเนี่ย อย่าให้รู้นะว่าแอบปิดบังแม่จะฟ้องคุณยายให้หมดเลย "พี่คะ หนูเข้ามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า" ฉันเดินเข้าไปหาพี่ชายตัวเองทันทีเมื่อเห็นร่างของสองคนคุยกันอยู่แล้วยังเข้าไปถามอย่างคนไม่รู้อีโนอีเน กลายเป็นคนอินโนเซ้นท์ไปชั่วขณะ ใครใช้ให้พี่หน้าแกล้งล่ะ "เปล่าไม่ได้มาขัดจังหวะอะไร แค่บังเอิญคุยกันถูกคอเฉย ๆ นะเสร็จแล้วหรอไปกันเถอะ" สกายหันไปบอกกับน้องสาวทันทีพร้อมกับมองปฏิกิริยาของคนที่เคยเป็นแฟนเก่า กัน "เสร็จแล้วค่ะรอรับยาก็กลับบ้านได้แล้ว" สกาวยินรับก่อนจะมองไปที่ผู้หญิงที่คุยกับพี่ชายตัวเองพร้อมกับสีหน้าค่าตาสงสัย "เอ่อคือ พี่ชื่ออะไรเหรอคะ" ฉันที่มองพี่ชายสลับกับผู้หญิงคนนี้ก็ถามขึ้นมาทันที ความจริงก็อยากทำความรู้จักกับพี่สะใภ้ในอนาคต อยู่หรอกแต่ดูจากกิริยาท่าทางของพี่ชายตัวเองแล้วไม่น่าจะใช่แล้วล่ะ "เอ่อ..อะ..อ่อพี่ชื่อใบหม่อนค่ะ" คนที่กำลังได้สติกลับมาปลวกเอ่ยชื่อกับฉันมองดูก็รู้ว่า คงจะคิดหนักน่าดูเผลอๆอาจจะคิดว่าฉันกับพี่สกายเป็นคนรักกัน "ชื่อสกาวฟ้านะคะ เรียกกาว ก็ได้ค่ะ" เธอยิ้มรับบอกกับผู้หญิงคนนั้นทันทีก่อนจะหันไปส่งสายตาดุพี่ชายตัวเอง "พี่สกายเรามีเรื่องต้องคุยกันนะคะ" สกาวบอกกับพี่ชายเธอออกไปแบบนั้นยิ่งทำให้คนที่อยู่ด้วยและฟังบทสนทนายิ่งเข้าใจผิดไปกันใหญ่ "เรื่องอะไรพูดมาได้เลย" สกายไม่ได้สนใจหรือใส่ใจอะไรมากนัก ที่น้องสาวจะคุยด้วย "ไปคุยกันที่รถ รอหนูไปรับยาก่อนแล้วกัน งั้นพี่สองคนคุยกันไปก่อนเลยนะคะหนูขอตัวก่อนค่ะ" ฉันยิ้มให้ทั้งสองคนก่อนจะหันหลังเดินจากมา . "แฟนให้สกายเหรอ" ใบหม่อน ทักถามเพื่อนด้วยความสงสัยและค้างคาวในใจ ตั้งแต่ช่วงที่คบกันมาเธอไม่เคยรู้เรื่องของครอบครัวของสกายเลยสักครั้งรวมทั้งญาติพี่น้องด้วย "เลิกกันไปแล้วไม่จำเป็นต้องรู้หรอก" สกายเองก็ไม่ยอมบอกอะไรได้แต่มองวิวทิวทัศน์ของโรงพยาบาลแห่งนี้ "อืม จริงสินะเราเลิกกันไปแล้วนี่ ความจริงถึงไม่เลิกไปหม่อนก็ไม่มีสิทธิ์รับรู้เรื่องของสกายอยู่ดี" หญิงสาวตัดพ้อออกมาด้วยความน้อยใจ "เห้อ~ ช่างเถอะมีเรื่องจะคุยแค่นี้ใช่ไหมงั้นเราขอตัวก่อนละกัน" สกายมองอดีตแฟนสาวแต่เขากลับเก็บซ่อนดวงตาที่สื่อถึงความเจ็บปวดและทรมานเอาไว้ในใจไม่ต่างจากเธอ "โชคดีนะสกาย ขอให้ความรักครั้งใหม่ของนายราบรื่น ขอให้นายเจอผู้หญิงที่ดีและไม่งี่เง่าแบบเรา ขอบคุณและขอโทษด้วยที่เข้าไปเป็นความไม่สบายใจในชีวิตนายตั้งหลายปี" ใบหม่อนเองก็ยอมรับความจริงทั้งเจ็บและทรมาน แต่เธอทนได้ทนได้แน่นอนรับไหวอยู่แล้ว . หน้าห้องยา "เอ้ามีอะไรหรือเปล่าคะคุณหมอ" ฉันมองคุณหมอที่เป็นเจ้าของไข้ตัวเองเดินมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน "มีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อยคงไม่ว่าอะไรหรอกใช่ไหม" ทักษ์เดินเข้ามาหาเธอทันที หลังจากที่ตรวจคนไข้เสร็จแล้วแล้วก็ถึงเวลาพักของเขา โชคดีมากที่ออกมาก็เห็นเธอนั่งรอรับยาอยู่หน้าห้องยาของโรงพยาบาล และยังไม่ได้ไปไหนไกล "มีอะไรจะคุยก็พูดมาได้เลยนะคะคุณหมอ ตอนนี้ยังไม่ถึงคิวที่จะรับยาดูจากสภาพแล้วคงจะอีกหลายคิวเลยค่ะ" ฉันบอกคุณหมอแล้วมองห้องยาที่มีผู้คนรอคิวมากมายซึ่งคิสฉันอยู่คิวที่ร้อยกว่า แล้วตอนนี้ก็อยู่แค่คิวที่ หกสิบ กว่า ๆ เอง นั่นแสดงว่าก็คงอีกนานกว่าจะถึงคิวตัวเอง "รอรับยาเสร็จก่อนแล้วค่อยคุยก็ได้หรือเอาไลน์มาละกัน" หมอทักษ์ พูดจบก็ยื่นโทรศัพท์ให้เธอพิมพ์ ID ไลน์ ของตัวเธอเอง "เอ๊~ ทำไมต้องแอดไลน์คะคุณหมอ" ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย "ก็ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณก็ต้องแอดไลน์สิ กว่าคุณจะรับยาก็รอไปอีกตั้งนาน" ทักษ์รีบอธิบายทันทีที่เห็นเธอมีข้อสงสัยในตัวเขา "อ่อ~ โอเคค่ะ โอเคค่ะ เข้าใจแล้ว" สกาวพยักหน้าตอบรับแล้วหยิบโทรศัพท์ในเมืองของคุณหมอขึ้นมาพิมพ์ ID ไลน์ ของตัวเองเข้าไปในเครื่องของคุณหมอ "เสร็จแล้วค่ะ ไลน์นี้นะคะ" สกาวยื่นโทรศัพท์ส่งคืนคุณหมอทันทีหลังจากที่เพิ่ม ID และ add ไลน์ของตัวเองเสร็จ "OK ครับ งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกัน" ทักษ์รับโทรศัพท์กลับคืนก่อนจะขอปลีกตัวไปพักผ่อนตามอัธยาศัยของเขา เพราะเขาได้ ไลน์เธอมาแล้ว และคนที่ให้ ID ไลน์ไปก็ได้แต่นั่งพยักหน้า แล้วมองตามหลังของคุณหมอออกไปด้วยความมึนงงและสงสัย "คุณหมอนี่ก็อีกคนอะไรของเขา" พึมพำกับตัวเองทันทีหลังจากนั้นก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ตัวเองเพื่อรอรับยาต่อโดยไม่ได้สนใจรอบข้าง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง เวลาผ่านไปเพียงไม่นานเสียงไลน์เธอก็เด้งขึ้นพร้อมกับข้อความแสดงบนหน้าจอมือถือ คุณเป็นเพื่อนทักษ์ ทักษ์ครับ: สวัสดีครับ ทักษ์ครับ: ความจริงผมอยากคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว ทักษ์ครับ: เอาไว้วันหยุดผมค่อยนัดคุยเรื่องสำคัญแล้วกันนะครับ เพียงได้เห็นข้อความที่เขาทักมาก็ทำให้สกาวรู้สึกใจเต้นแรงและสับสนอยู่ไม่น้อย ไม่รู้ว่าตื่นเต้นหรือเพราะกลัวอะไรกันแน่ ความจริงเธอก็ไม่อยากจะรู้สึกแบบนี้เลยสักนิด แต่คนใจดีสู้เสืออย่างเธอมีหรือจะกลัวความรู้สึกวุ่นวายสับสนเหล่านี้
"โซนนี้รถไม่ค่อยเยอะเลยนะครับ" หมอทักษ์จ้องมองท้องถนนแกนกายยังสวนกระแทกไม่พัก ทำให้ร่องสาวรัดแน่นขึ้น "อยู่คฤหาสน์หลัง ยะ..ใหญ่ขนาดนี้คงไม่มีใครการขับผ่านหรอกคะ" สกาวจ้องมองไปทางตันที่เป็นถนนหลังคฤหาสน์ซึ่งมันตรงกับหน้าต่างห้องของเธอ "เสียวไหม น้ำใกล้หมดตัวหนูหรือยัง" หมอทักษ์ด้มลงมองน้ำลักของหญิงสาวที่ไหลออกมาจะร่องสวาทไม่ได้พัก "อ่ะ สะ..เสียวค่ะกาวไม่ไหวแล้ว ฮะ..เฮียพอเถอะนะคะ" น้ำเสียงหวานร้องขอเหมือนเช่นอดีตที่เรียก หมอทักษ์ว่า 'เฮีย' ทำให้คนที่ใกล้จะปลดปล่อยหยุดกระแทก แล้วจับใบหน้าเธอเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม เพื่อเป็นการให้รางวัลเธอ "ไปนอนโก่งสะโพกให้เฮียบนเตียงดีกว่านะครับ" หมอทักษ์รีบพาหญิงสาวมานอนลงบนเตียงยกสะโพกเธอขึ้นมา เสียบท่อนรักลงในร่องสาวจนมิด ปึก ๆ ปึก ๆ ตับ ๆ ตับ ๆ "อ๊า จุกค่ะ หนูจุกอ่าส~" เสียงหวานร้องครางออกมาตามจังหวะการกดกระแทกเข้าออกจะสุดทาง "เฮียชอบให้หนูเรียกว่า เฮียนะครับ ถ้าหนูฟังเฮียเคลียร์กับเฮียตั้งแต่แรกคงไม่ต้องมาโกงสะโพกครางจนเสียงแหบแบบมีตั้งแต่แรกแล้วครับ" หมอทักษ์ สวนแดนกายใส่ร่องสาวจนสุดลำรัก "อ๊าเสียว สะ..เสีย
เช้าวันใหม่ ท้องฟ้าสีครึ้มตั้งเขาเหมือนว่าฝนกำลังจะตกลงมา หมอทักษ์และสกาวช่วยกันเก็บของเพื่อเตรียมกลับบ้านในช่วงเช้าตรู่ของวัน "ซีเฟียตื่นได้แล้วลูกกลับบ้านกัน" สกาวเดินเข้ามาปลุกลูกสาวหลังจากที่เปลี่ยนชุดและเก็บของเสร็จ "ให้นอนไปก่อนก็ได้เดี๋ยวพี่อุ้มลงไปเอง หนูถือกระเป๋าใบนี้ก็พอ" หมอทักษ์ยื่นกระเป๋าใบเล็กให้หญิงสาว ก่อนจะมองหน้าซีเฟียที่กำลังสะลึมสะลือเหมือนจะตื่นมาแต่ก็ยังคงหลับต่อในช่วงเช้าของวันใหม่ "ค่ะ ขอบคุณนะคะ" สกาวรับกระเป๋าของหมอทักษ์มาถือไว้ ก่อนจะเดินตามเขาออกไปจากห้องพักห้องสโมสร "จะกลับบ้านเลยหรือจะแวะกินข้าวกันก่อนครับ" หมอทักษ์ทำหน้าที่ขับรถถามสกาวที่ขึ้นมานั่งคาดเบลเตรียมกลับบ้านโดยมีหมอทักษ์อาสาไปส่ง "กลับบ้านเลยค่ะ ไปกินข้าวที่บ้านก็ได้ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลยคงไม่มีร้านไหนเปิดเช้าขนาดนี้" สกาวตอบกลับพร้อมกับหลับตาลงด้วยเพราะยังคงมีอาการอ่อนเพลียอยู่ "ครับ ตามใจหนูเลย" หมอทักษ์ขับรถบนท้องถนนอย่างระมัดระวังเพราะในรถไม่ได้มีแค่เขาและสกาว ยังมีเด็กสาวซีเฟียด้วย .คฤหาสน์ "เอาขึ้นมานอนบนห้องค่ะหมอทักษ์" สกาวเดินนำคนที่กำ
"ที่นี้ที่ไหนคะพี่หมอ" สกาวลองมองสำรวจรอบห้องที่ไม่คุ้นเคยอีกครั้งจึงรีบถามขึ้นมาเพราะตกใจและแปลกสถานที่ "ห้องพักในสโมสร ก็หนูจมน้ำว่ายน้ำไม่แข็งทำไมไปลงสระน้ำลึกละครับ พี่เป็นห่วงนะรู้ไหม เราสองคนยังไม่ได้เคลียร์กันหนูอย่าเอาแต่หลีกเลี่ยงปัญหาสิครับ ซีเฟียก็เป็นห่วงหนูจนร้องไห้ พึ่งจะหลับไปนี้เอง" เมื่อเห็นว่าหญิงสาวฟื้นแล้วหมอทักษ์จึงบอกเธอด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงพร้อมกับมองลูกสาวตัวน้อยที่นอนซบอยู่บนอก "โถ่ลูก" สกาวเอามือลูบศีรษะลูกสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของหมอทักษ์เบา ๆ "พักผ่อนอีกสักหน่อยเถอะ พึ่งตื่นหนูโอเคหรือเปล่ามีวิงเวียนหัวไหม หิวหรือยังครับ" หมอทักษ์จ้องพฤติกรรมและการกระทำแสนอ่อนโยนของเธอไม่วางตา และถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง เหมือนว่าทั้งเขาและเธอจะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย"กาวยังไม่หิวค่ะพี่หมอเหนื่อยหรือยังอยากพักผ่อนบ้างไหมเอาซีเฟียมานอนบนเตียงกับกาวก็ได้นะคะ" สกาวตอบและมองลูกสาวของเธอที่นอนซบอยู่บนอกของคุณหมอด้วยความเกรงใจที่เขาต้องคอยเฝ้าเธอทั้งยังดูแลลูกสาวตัวน้อยของเธออีกด้วย "ไม่เป็นไรนอนไปเถอะเดียวซีเฟียพี่ดูแลให้เองครับ" หมอทักษ์จ้องมองร่า
จนเวลาล่วงผ่านไปเกือนยี่สิบนาที ร่างบางของสกาวก็ขึ้นมาพร้อมกับหมอหนุ่ม "เอาขึ้นมาตรงนี้ ตอนนี้น่าจะขาดอากาศหายใจ ผมต้องทำ CPR ด่วน" หมอทักษ์บอกกับสกายอย่างร้อนรน ความเป็นมืออาชีพเลยสั่นเล็กน้อยแต่เขาจะไม่ยอมเสียเธอไปอีกครั้งแน่ ๆ "ได้ครับ หมอช่วยน้องผมด้วยนะ" สกายเริ่มเป็นกังวลเมื่อเห็นน้องสาวขึ้นมาจะน้ำลึกด้วยร่างกายที่อ่อนแอ "ทางสโมสรมีหน่วยแพทย์ฉุกเฉิกไหมครับ เรียกให้ผมที" หมอทักษ์รีบถามอย่างร้อนรน มือกดลงรัหว่างอกของหญิงสาว เพื่อกระตุ้นหัวใจ "มีครับ ๆ ผมจะรีบไปกดเรียกให้เดี๋ยวนี้เลย" สกายรีบวิ่งไปกดปุ่มเรียกทีมแพทย์ฉุกเฉินที่เจ้าของสโมสรให้สแตนบายอยู่ทุกชั้น ต้องเรียกว่าขอบคุณความรอบครอบของคนก่อตั้งสโมสร "ฟื้นสิกาว เรายังไม่ได้เคลียร์กันเลยนะ" หมอทักษ์ ฝาดลมผ่านริมฝีปากเล็กเข้าไปเพื่อให้เธอมีออกซิเจนในร่างกาย มือก็วนมากระกระตุ้นหัวใจ เขาทำซ้ำ ๆ อย่างนี้เกือนสามนาที "แค่ก ๆ แค่ก" สกาวสำลักน้ำออกมาก่อนที่สติจะดับวูบไป ทีมแพทย์รีบเข้ามารับเอาตัวหญิงสาว ซึ่งหมอทักษ์ก็ตามไปด้วย "พวกคุณช่วยเตรียมออกซิเจนให้ผมด้วย" หมอทักษฺ์ รีบบอกกลับเหล่าแพทย์ฉุกเฉิ
"ที่สโมสรมีร้านขายชุดว่ายน้ำค่ะคุณลุงหมอมาเล่นลิงชิงบอลกับพวกเรานะคะ" ซีเฟียพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "เดี๋ยวกาวพาไปซื้อค่ะถ้าจะลงไปเล่นกับเด็ก ๆ" สกาวมองอย่างเป็นห่วงทั้งความรู้สึกของคุณหมอและความรู้สึกของลูกแฝดของเธอ "ได้ครับเดี๋ยวลุงเล่นด้วยแต่ตอนนี้ลุงต้องไปซื้อชุดว่ายน้ำก่อน" หมอทักษ์บอกทั้งเด็กสาวก่อนจะยิ้มละพยักหน้าให้เด็กชายที่ชูนิ้วโป้งยกขึ้นมาให้เขาทั้งสองข้าง "ยอดเยี่ยมมากเลยครับคุณลุงหมอ" เฟียสชื่นชมอย่างดีใจที่ในที่สุดเขาก็หาคนเข้าทีมได้ "กาวไปเป็นเพื่อนค่ะ" สกาวรีบเดินตามออกมาอย่างเป็นห่วง 'เธอห่วงเขามากเกินไปแล้ว' แปดปีที่ห่างหายแต่ทุกสัมผัสและความทรงจำยังคงวนเวียนอยู่ในจิตใจและหัวสมอง"คุณหมอมาทางนี้เลยค่ะ ความจริงคุณหมอปฏิเสธเด็ก ๆ ไปก็ได้นะคะ" สกาวพูดออกมาอย่างรู้สึกหนักใจ "ไม่เป็นไรครับ ผมก็อยากเล่นน้ำกับเด็ก ๆ แล้วอีกอย่างนาน ๆ ที่จะได้แสดงความสามารถของตัวเอง" หมอทักษ์มองยิ้ม ๆ ก่อนจะจับมือเธอเดินเข้าไปในร้านขายชุดกีฬาว่ายน้ำ ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงหมอทักษ์ก็ถือถุงชุดกีฬาว่ายน้ำออกมา "เด็ก ๆ คงรอนานแล้ว ไปกันเถอะเดี๋ยวพี่ไป
ทั้งสองคนเดินเข้ามาตรงโซนอาหารของสโมสร "คุณหมอแลกคูปองก่อนนะคะที่นี้เขาไม่รับเงินสดค่ะ" สกาวพาคุณหมอหนุ่มเดินมาตรงเคาน์เตอร์แลกตูปอง ก่อนที่ทั้งสองต่างก็มองหาร้านอาหารที่ตัวเองอยากกิน "พี่หมออยากกินอะไรคะ เดี๋ยวกาวไปสั่งให้ไปนั่งจ้องโต๊ะรอก่อนได้เลย" สกาวหันกลับมาถามคนที่เดินตามหลังเธอมาหลังจากแลกคูปองเสร็จ "พี่เอาข้าวผัดโบราณนะครับ" หมอทักษ์ยืนมองร้านอาหารที่อยู่ตรงหน้า พอสั่งเสร็จเขาก็มองหาโต๊ะที่นั่งสำหรับสองคน "เดียวพี่ไปซื้อน้ำให้แล้วกันนะ" หมอทักษ์พูดขึ้นมาพร้อมกับรับคูปองที่สกาวยื่นมาให้โดยไม่ถามสักคำว่าเธอจะกินน้ำอะไร เมื่อทั้งสองคนได้ในสิ่งที่ต้องการสกาวยกถาดอาหารมาวางไว้บนโต๊ะมองน้ำเปล่าสองขวดที่ว่าอยู่ก่อน "ได้แล้วเหรอไวจังเลย หมดหรือยังให้พี่ไปช่วยยกมาให้ดีกว่านะ" เมื่อหมอทักษ์เห็นอย่างนั้นก็เตรียมที่จะลุกไปช่วยเธอ "ไม่มีแล้วค่ะ กาวสั่งเป็นอาหารจานเดียวมาเลยไม่เยอะร้านก็มีถาดใส่อาหารมาให้" สกาวยกจานข้าวผัดสองจานวางลงบนโต๊ะก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้สำหรับตัวเอง "ครับงั้นเดี๋ยวพี่เป็นคนเอาไปเก็บเองโอเคไหม" หมอทักษ์รีบเสนอตัวเองเขามาเพื่








