แชร์

ตอนที่7 มือเดียวไหว

ผู้เขียน: Davide
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-18 23:03:00

ตอนที่7 มือเดียวไหว

“เกิดอะไรขึ้น” เสียงของโดเมนไม่ช่วยทำลายบรรยากาศตึงเครียดเลยสักนิด เด็กสาวยังยืนก้มหน้าสะอื้นไห้ไม่ยอมหยุด

“แล้วทำไมสภาพมึงถึงเป็นแบบนี้” โดเมนถามขึ้นอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ

“เลือดไหลย้อนกลับเข้าสายน้ำเกลือกูเลยดึงออก สภาพก็อย่างที่มึงเห็น”

“แล้วณิชาร้องไห้ทำไม มึงทำอะไรเธอ” โดเมนไม่ได้สนใจคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง แต่ให้ความสนใจเด็กสาวที่สะอื้นไห้อยู่ข้างเตียงมากกว่า

“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ซันเดย์ตอบกลับไปเสียงเรียบสีหน้าเอือมระอา

“ณิชาร้องไห้ทำไมครับ”

“ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจจะนอนทับแขนคุณซันเดย์เลยนะคะ”

“พี่รู้ครับ แต่คราวหลังณิชาต้องระวังมากกว่านี้ ถ้าเกิดว่าไอ้ซันเสียเลือดในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายได้ ไปล้างหน้าไปร้องไห้ตาแดงหมดแล้ว” โดเมนค่อย ๆ อธิบายให้เด็กสาวฟังอย่างใจเย็น ไม่ได้เอ่ยโทษหรือตำหนิอะไรเพราะรู้ว่าเด็กสาวไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นณิชาเดินเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย

“ทีกูบอกไม่เห็นจะฟัง มึงบอกแค่คำเดียวรีบทำตามอย่างไว สรุปเป็นคนของใครวะ” ซันเดย์สบถออกมาไม่พอใจนัก

“แล้วนี่มึงเจ็บแขนเหรอ ยังไม่ดีขึ้นหรือไง” โดเมนสังเกตเห็นว่าซันเดย์เอามือจับที่แขนหลายครั้งจึงเอ่ยถามขึ้น

“อือ..พอดีเด็กนั่นเขย่าแขนกูแรงไปหน่อย”

“ถ้างั้นอาจจะต้องเอกซเรย์ดูอีกรอบว่ากระดูกที่ร้าวได้รับผลกระทบอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวให้พยาบาลมาใส่สายน้ำเกลือให้ใหม่แล้วจะเข็นพาไปห้องเอกซเรย์ กูขอตัวไปอาบน้ำก่อน” โดเมนที่ตอนนี้อยู่ในชุดนอนขอตัวกลับห้องหลังจากที่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงกริ่งเรียกหลังจากได้นอนไปยังไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ

“อือ..ขอโทษที่ปลุกมึงตื่นแต่เช้า”

“ไม่เป็นไร มึงก็อย่าดุเธอมากนัก เด็กมันไม่ได้ตั้งใจแค่นี้ก็กลัวจนตัวสั่นแล้ว”

“กูยังไม่ได้ดุอะไรเลย”

“ก็ดี”

“ลุกไหวไหมคะ” ณิชาที่เดินกลับออกมาจากห้องน้ำพอดีเห็นซันเดย์กำลังพยุงตัวลุกขึ้นจึงปรี่รีบเข้าไปช่วยประคองชายหนุ่ม

“ฉันจะเข้าห้องน้ำ”

“ให้หนูเข้าไปช่วยไหมคะ” ณิชาอาสาเข้าไปช่วยเพราะความเป็นห่วงที่เธอเป็นต้นเหตุให้เขาได้รับบาดเจ็บเพิ่มจากครั้งก่อน โดยไม่ได้ไตร่ตรองคำพูดให้ดีก่อน

“แก่แดด” ใบหน้าคมหันไปตำหนิเด็กสาว

“อ้าว”

“ยังจะมาอ้าวอีก ที่นี่โรงพยาบาลยังจะมาหื่นไม่เลือกอีก”

“หนูเปล่านะคะ”

“เปล่าอะไร แล้วไอ้ที่จะตามฉันเข้าไปไม่ได้ตั้งใจที่จะทำจริง ๆ ว่างั้น”

“หนูแค่จะเข้าไปช่วยคุณเฉย ๆ ค่ะ” เด็กสาวยังยืนยันความตั้งใจของตัวเธอเสียงแข็ง

“เข้าไปช่วยฉันจับไอ้นั่นหรือไง มืออีกข้างฉันยังใช้งานได้ถึงตรงนั้นฉันจะใหญ่แต่ก็พอใช้มือเดียวจับไหว รออยู่ตรงนี้ยัยเด็กหื่น” นิ้วเรียวยาวจิ้มเข้าที่หน้าผากมน ซันเดย์ได้แต่ส่ายหัวให้กับความซื่อจนเกินเหตุในบางเรื่องของเด็กในการปกครอง

หลังจากนั้นพยาบาลก็เข้ามาใส่สายน้ำเกลือให้ชายหนุ่มใหม่และตามมาด้วยแม่บ้านเข็นอาหารเช้าเข้ามาเสิร์ฟสองที่ มีอาหารอ่อนสำหรับคนป่วยอย่างซันเดย์และอาหารเช้าประเภทเบรคฟัส ขนมปัง ไส้กรอกและไข่ข้นสำหรับณิชา

หลังจากทานอาหารเสร็จณิชาก็อาสาอยู่เป็นเพื่อนชายหนุ่มต่อเพราะเช้านี้เตมินยังมีงานด่วนที่ต้องไปจัดการต่อจึงไม่สามารถมาเฝ้าซันเดย์ได้ ณิชาจึงรับอาสาหน้าที่นี้แทน

“ไปเรียนยังไม่ถึงอาทิตย์ก็ขาดเรียนแล้ว อย่างนี้จะเรียนจบไหม” ซันเดย์พูดขึ้นลอย ๆ แต่เป้าหมายชัดเจนคือเด็กสาวที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟา

“หนูไม่ได้ขาดเรียนโดยไม่มีเหตุผลสักหน่อยค่ะ เพราะเหตุผลจำเป็นเลยต้องขาด” เสียงเล็กเถียงกลับขณะที่สายตายังจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์

“เหตุผลจำเป็นอะไร ขี้เกียจมากกว่าล่ะสิไม่ว่า”

“ก็ต้องเฝ้าคุณอยู่นี่ไงคะ คุณเงียบ ๆ ได้ไหมคะเสียงดังรบกวนหนู” เด็กสาวดุกลับเบา ๆ ทำให้คนโดนดุถึงกลับอยากรู้ว่าเธอกำลังตั้งใจดูอะไรอยู่ถึงกลับกล้าดุเขากลับแบบนี้

“เธอกล้าสั่งฉันให้หุบปากเลยเหรอณิชา”

“คุณอย่าเสียงดังสิคะ หนูบอกว่าหนูไม่ได้ยินคุณไม่เข้าใจหรือไงคะ” คราวนี้ณิชาเสียงดังขึ้นกว่าเดิมจนซันเดย์ถึงกลับลุกขึ้นนั่งจ้องหน้ามองเด็กสาว

“เธอกำลังทำอะไร ถึงต้องจริงจังขนาดนั้น เลิกเล่นโทรศัพท์แล้วเงยหน้ามาคุยกันให้รู้เรื่อง” ซันเดย์สั่งออกไปเสียงดังจ้องหน้าเด็กสาวเขม็ง

“หนูกำลังเรียนออนไลน์อยู่ อย่าพึ่งคุยตอนนี้ได้ไหมคะ เอาไว้ให้หนูเรียนเสร็จคลาสนี้ก่อน วิชานี้ยากมากหนูต้องตั้งใจเรียน” ซันเดย์ได้ยินดังนั้นถึงกับรีบดึงหน้ากลับ และแกล้งหยิบไอแพดขึ้นมาทำงานแก้เขิน

“แล้วไม่บอกตั้งแต่แรกว่ากำลังเรียนอยู่”

“หนูก็บอกคุณแล้วว่าอย่าเสียงดังรบกวนหนู หูฟังหนูมันไม่ค่อยดีไม่ค่อยได้ยิน”

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นในช่วงบ่ายแก่ ๆ ซันเดย์กำลังนั่งทำงานอยู่บนเตียง ส่วนณิชานั้นเผลอนอนหลับไปบนโซฟาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อนหลังจากทานอาหารว่างตอนบ่ายเสร็จ

“นี่ลูกไม่คิดจะบอกพ่อกับแม่เลยหรือไงว่าลูกแขนหักจนเข้าโรงพยาบาล” เสียงสไมล์ดุลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ชอบทำนิสัยไม่ต่างจากบิดา

“ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรครับ อีกอย่างแขนผมไม่ได้หักครับ แค่กระดูกร้าวเข้าเฝือกอาทิตย์สองอาทิตย์ก็หายแล้ว” ซันเดย์ตอบกลับผู้เป็นแม่ราวกับว่าอาการบาดเจ็บของเขาเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเหมือนยุงกัด

“ลูกต้องพิการแขนขาดขาขาดก่อนหรือไงถึงจะเป็นเรื่องใหญ่ ลูกเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อกับแม่ลูกก็รู้” สไมล์ยังตัดพ้อกับลูกชายไม่หยุด

“ครับผมรู้ ถ้าพ่อไม่ได้ไปทำผู้หญิงอื่นท้องผมก็คือลูกชายคนเดียวของ ธนาจักรทิพย์

ฉันไม่ได้สำส่อนเหมือนแก” เวย์พูดสวนลูกชายออกไปทันควัน

“แล้วเด็กที่นอนหลับอยู่นี่ใคร” สไมล์แหงะไปเห็นเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มนอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟา จึงหันไปถามลูกชายที่ทำหน้าระรื่นไม่แสดงอาการตกใจอะไรออกมา

“คนของผมครับ” คำตอบสั้น ๆ ไร้คำอธิบายอย่างเช่นเคย

“คนของลูก หมายถึงอะไร”

“คนของผมครับ แม่ไม่ต้องยุ่ง”

“เดี๋ยวนี้ลูกมีผู้หญิงเป็นของตัวเองแล้วเหรอ เห็นใช้ของสาธารณะอยู่ตั้งนาน” ผู้เป็นแม่เอ่ยถามด้วยถ้อยคำประชด

“แม่ก็พูดเกินไป กลับไปได้แล้วครับผมจะพักผ่อน” ซันเดย์เอ่ยปากไล่ผู้ให้กำเนิดแบบไม่เกรงใจ พร้อมกับตั้งท่าจะเอนหลังลงนอนตามที่บอก

“เด็กคนนี้หน้าตาน่ารัก ถึงจะดูเด็กไปหน่อย แต่รวม ๆ แม่ชอบนะ” สไมล์พูดขึ้นสีหน้ายิ้มแย้มหลังจากที่พินิจพิเคราะห์หน้าตาเด็กสาวที่นอนหลับอยู่

“คุณสไมล์ครับถ้าอยากมีลูกสาวมากผมแนะนำไปรับเด็กที่สถานสงเคราะห์มาเลี้ยงครับ อย่ามายุ่งกับคนของผม” เสียงเรียบนิ่งบอกกับคนเป็นแม่สีหน้าเอือมระอากับอาการชอบเด็กผู้หญิงของมารดา

“ชั่วคราวหรือรายปี” เวย์โพล่งคำถามขึ้นหลังจากที่ยืนฟังสองแม่ลูกต่อปากต่อคำกันอยู่นาน

“พ่อหมายถึงอะไรครับ”

“แกทำสัญญากับเด็กคนนี้แค่ชั่วคราวหรือนานกี่ปี” คำถามที่สองพ่อลูกรู้ทันกันตลอด เด็กน้อยที่พ่อเป็นคนเลี้ยงมาเองกับมือถึงวันนี้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่คนเป็นพ่อย่อมรู้จักนิสัยลูกตัวเองดี

“เรื่องส่วนตัวของผมครับ”

“อือ..คุณคะ คุยเสียงดังอีกแล้วนะคะ” ณิชางัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อมีเสียงดังรบกวนการนอนหลับของเธอ ฝ่ามือเล็กยกขึ้นใช้หลังมือขยี้ตาเพื่อปรับโฟกัสภาพตรงหน้า

“เอ่อ..สวัสดีค่ะ” เด็กสาวรีบลนลานลุกขึ้นและยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างมีมารยาท

“สวัสดีจ้ะ หนูชื่ออะไรคะ” สไมล์เอ่ยถามน้ำเสียงอบอุ่น

“ชื่อณิชาค่ะ”

“แม่ชื่อสไมล์นะคะ ส่วนนี่คุณพ่อชื่อเวย์ แม่กับพ่อเป็นผู้ให้กำเนิดคนที่นอนอยู่บนเตียงน่ะลูก” สไมล์แนะนำตัวเองและสามีให้เด็กสาวรู้จัก ณิชาได้แต่นั่งยิ้มมองหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองทำตัวไม่ถูก

“ผมง่วงแล้วเมื่อไหร่พ่อกับแม่จะกลับไปสักทีครับ คนป่วยต้องพักผ่อนมาก ๆ นะครับ” ซันเดย์เอ่ยปากไล่เป็นครั้งที่สอง เด็กสาวได้ยินถึงกับไม่พอใจที่ชายหนุ่มไล่พ่อแม่แบบนั้น

“คุณคะ พวกท่านอุตส่าห์เป็นห่วงถึงมาเยี่ยม คุณไล่พวกท่านกลับแบบนี้มันไม่ดีนะคะ” เสียงเล็กหันไปดุชายหนุ่มเสียงแข็งสีหน้าจริงจัง

“เธอยังเด็กจะไปรู้อะไร ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้า ดูสภาพสิดูได้ที่ไหน” ซันเดย์ไม่ฟังคำเด็กสาวแถมยังดุกลับเสียงแข็ง

“เด็กมันยังรู้ความกว่าแกเลยซันเดย์ คุณกลับกันเถอะ ลูกที่อาศัยท้องคุณมาเกิดมันไล่พวกเราแล้ว” เวย์พูดกับลูกชายน้ำเสียงปลงตก เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่ซันเดย์ยังเด็ก จนโตมาอายุจะสามสิบก็ยังไม่มีฝ่ายใดยอมอ่อนข้อให้กัน

“ขากลับอย่าลืมแวะรับเด็กสักคนกลับไปเลี้ยงด้วยนะครับ จะได้ไม่ต้องว่างมายุ่งเรื่องของผมอีก” ซันเดย์ยังไม่วายตะโกนตามหลังผู้ให้กำเนิดออกไป จนเด็กสาวที่ได้ยินถึงกับตีเข้าที่แขนข้างที่ไม่เข้าเฝือกจนเกิดเสียงดัง

เพี้ย!

“โอ๊ย! ณิชาเธอตีฉันทำไม นับวันยิ่งเอาใหญ่ขึ้นนะสงสัยฉันใจดีกับเธอไป”

“คุณพูดจาไม่น่ารักเลยนี่คะ โดนแค่นี้น้อยไปด้วยซ้ำ โตจนป่านนี้แล้วยังไม่รู้อีกเหรอคะว่าอะไรควรพูดกับพ่อแม่ อะไรไม่ควรพูด”

“สรุปฉันหรือเธอที่เป็นผู้ปกครอง”

“มันไม่เกี่ยวว่าใครจะเป็นผู้ปกครองใคร มันคนละเรื่องกันค่ะ คุณอย่ามาใช้อำนาจในทางมิชอบนะคะ” เด็กสาวว่ากลับเสียงแข็งสีหน้าจริงจัง

“ก่อนที่ไอ้เตมินมันจะเลือกเธอ มันรู้หรือเปล่าว่าเธอเป็นคนยังไง”

“รู้ครับ ณิชาเป็นเด็กที่มีความคิดโตเป็นผู้ใหญ่มาก รู้ว่าอะไรควรและอะไรที่ไม่ควร และวันนี้ณิชาก็แสดงให้ผมได้เห็นแล้วว่าผมมองเธอไม่ผิด” จังหวะเตมินเปิดประตูเข้ามาพอดี จึงตอบกลับคนเป็นนายออกไปทันควัน

“รู้จักกันไม่กี่วันก็ชื่นชมกันขนาดนี้ มาก็ดีแล้วใครเป็นคนเสนอหน้าไปบอกพ่อกับแม่ฉัน ว่าฉันนอนอยู่ที่โรงพยาบาล”

“ท่านโทรมาถามผมว่าคุณอยู่โรงพยาบาลจริงไหม ผมตอบว่าจริงแค่นั้นครับ ส่วนเรื่องที่ว่าใครเป็นคนบอกผมไม่ทราบครับ”

“แล้วทำไมแกไม่ตอบว่าฉันไปที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ที่ไม่ต้องบอกว่าฉันอยู่โรงพยาบาล”

“พ่อแม่ทุกคนย่อมเป็นห่วงลูกของตัวเองทั้งนั้น ถึงจะบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมากก็ขอให้มาเห็นกับตา นายควรจะเข้าใจเหตุผลข้อนี้นะครับ อาหารเย็นให้ผมตั้งโต๊ะเลยไหมครับ นายหิวหรือยัง”

“ตบหัวแล้วจะลูบหลังเหรอ ไอ้ห่า”

“สรุปนายยังไม่หิวใช่ไหมครับ งั้นผมขออนุญาตทานกับณิชาก่อนนะครับ นายหิวเมื่อไหร่ก็บอกผมนะครับผมจะได้ตั้งโต๊ะให้”

“สรุปฉันหรือณิชาที่เป็นคนจ่ายเงินเดือนแก”

“นายต้องการคำตอบจากผมไหมครับ หรือแค่ไม่มีอะไรจะพูดจึงถามผมเฉย ๆ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คลั่งรักเด็กเช่า   ตอนที่10 ทำหน้าที่

    ตอนที่10 ทำหน้าที่ได้ยินดังนั้นเด็กสาวรีบลนลานลุกจากเตียงนอนสาวเท้าเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่ชายหนุ่มสั่ง ความเย็นของสายน้ำจากฝักบัวไหลลงกระทบผิวกายไม่สามารถดับความกระวนกระวายในใจเธอได้เลย เมื่อต้องจินตนาการว่าต่อจากนี้ต้องเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง ภาพเคลื่อนไหวที่เธอเคยดูในคลิปวิดีโอสิบแปดบวก ฉายวนซ้ำอยู่ในหัว เสียงร้องครวญคราง สีหน้าที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดเวลาที่โดนสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปช่องทางรัก เธอนึกไม่ออกว่าเธอจะรับสิ่งพวกนั้นได้มากน้อยแค่ไหน“จะอาบถึงเที่ยงคืนเลยหรือไง” ณิชาตัวเย็นวาบรู้สึกชาไปทั้งตัวเมื่อชายหนุ่มที่เธอกำลังจินตนาการถึงเปิดประตูเข้ามา“คุณเข้ามาได้ไงคะ” ร่างกายเปลือยเปล่ายืนแข็งทื่อหันขวับใช้มือปิดส่วนบนส่วนล่างไว้ ถามชายหนุ่มเสียงสั่นขณะที่ยืนหันหลังให้“ก็เธอตั้งใจให้ฉันเข้ามาไม่ใช่เหรอ ก็เห็นไม่ล็อกประตู” คำตอบของซันเดย์ณิชาแทบอยากยกกำปั้นขึ้นทุบหัวตัวเองแรง ๆ ที่สะเพร่าลืมล็อกประตู“เปล่านะคะ หนูรีบเลยลืมล็อก” เด็กสาวรีบปฏิเสธออกไปทันควันเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะเข้าใจผิด“มาถูหลังให้ฉันด้วย” เสียงเรียบสั่งออกไปขณะที่มือเอื้อมไปเปิดก๊อกน้ำตรง

  • คลั่งรักเด็กเช่า   ตอนที่9 ผู้ปกครอง

    ตอนที่9 ผู้ปกครองณิชาเข้าเรียนชั่วโมงแรกหลังจากหยุดเรียนไปสองวันแต่ก็ตามเก็บงานส่งครบเท่าเพื่อนทุกงาน“วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ ณัฐณิชารอพบผมหลังเลิกคลาสก่อนนะครับ ที่เหลือไปได้ครับ” เสียงทุ้มของอาจารย์หนุ่มบอกกับนักศึกษาออกไปเมื่อหมดเวลา ณิชาที่กำลังเก็บของอยู่ถึงกับสะดุ้งเมื่อตัวเธอถูกเรียกให้อยู่ต่อ“อาจารย์มีอะไรเหรอคะ” ณิชาเดินเข้าไปหาอาจารย์หนุ่มพร้อมกับเพื่อนอีกสองคนสีหน้าเป็นกังวล“ผมขอคุยกับณัฐณิชาแค่สองคน นักศึกษาคนอื่นรบกวนออกไปรอข้างนอกก่อนครับ ผมไม่ทำอะไรเพื่อนพวกคุณแน่นอนครับ” กิตหันไปบอกกับมีญ่าและเจนด้า“นั่งลงก่อนสิ ไม่ต้องกลัว ผมมีเรื่องจะถามคุณนิดหน่อย” กิตผายมือให้เด็กสาวนั่งลงเก้าอี้ตรงข้าม“ค่ะ อาจารย์จะถามอะไรหนูเหรอคะ”“รู้จักซันเดย์ใช่ไหม” กิตยิงคำถามที่ต้องการถามทันทีไม่อ้อมค้อม“ไม่ต้องโกหกเพราะกลัวไอ้ซันมันดุ เมื่อเช้าผมเห็นคุณลงจากรถไอ้ซันตรงหน้าตึก” กิตใช้สรรพนามแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปเมื่อตอนนี้อยู่นอกเวลาเรียน และกำลังสนทนาเรื่องส่วนตัวอยู่“ค่ะ รู้จักค่ะ”“รู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว”“../..”“อ้อ..ผมลืมแนะนำตัว ผมชื่อกิตเป็นเพื่อนกับซันเดย์ ถ้าคุณไม่เชื่อผม

  • คลั่งรักเด็กเช่า   ตอนที่8 ติดใจ

    ตอนที่8 ติดใจเช้าวันต่อมาซันเดย์แจ้งความประสงค์กับโดเมนว่าเขาต้องการออกจากโรงพยาบาล แม้จะมีเสียงคัดค้านจากทุกคนรวมทั้งหมอเจ้าของไข้อย่างโดเมนเองก็ยังไม่อยากให้ออกไปตอนนี้“นอนดูอาการอีกสักคืนก่อน ถ้าไม่มีไข้พรุ่งนี้ค่อยกลับ” เสียงของโดเมนที่พยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อนรักอย่างใจเย็น“ไม่..ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว อยู่นี่ก็นอนเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร กลับไปพักที่บ้านก็ได้” ซันเดย์กลับออกมาจากห้องน้ำหลังจากเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า“คุณยังตัวรุม ๆ อยู่เลยนะคะ น่าจะเพราะแผลมันอักเสบหรือเปล่าที่เมื่อวานหนูเผลอเขย่าแขนคุณน่ะค่ะ” เสียงของเด็กสาวเดินตามหลังไปมาระหว่างที่ชายหนุ่มเดินไปหยิบจับโน่นนี่ ราวกับเป็นเงาตามตัว“เป็นผีหรือไงถึงมาเดินตามฉันอยู่ได้ ไปเก็บของก่อนที่ฉันจะปล่อยให้เธอกลับบ้านเอง อย่ามัวพูดมากน่ารำคาญอยู่แบบนี้” มือหนาที่กำลังเก็บเอกสารยัดใส่กระเป๋าหยุดชะงักแล้วหันหลังมาพูดกับเด็กสาว“ก็ได้ค่ะ” ณิชาจำต้องรีบเก็บของใช้ส่วนตัวของตัวเองตามคำสั่งของชายหนุ่ม“เฮ้อ! แม่งดื้อจริง ๆ” โดเมนถอนหายใจยาว ๆ เมื่อโดนเมินเฉยจากผู้ป่วย VIP จำต้องจรดปากกาเซนต์ชื่อลงในชาร์จคนไข้และกดสั่งยาในไอแพดที่พยาบาลส

  • คลั่งรักเด็กเช่า   ตอนที่7 มือเดียวไหว

    ตอนที่7 มือเดียวไหว“เกิดอะไรขึ้น” เสียงของโดเมนไม่ช่วยทำลายบรรยากาศตึงเครียดเลยสักนิด เด็กสาวยังยืนก้มหน้าสะอื้นไห้ไม่ยอมหยุด“แล้วทำไมสภาพมึงถึงเป็นแบบนี้” โดเมนถามขึ้นอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ“เลือดไหลย้อนกลับเข้าสายน้ำเกลือกูเลยดึงออก สภาพก็อย่างที่มึงเห็น”“แล้วณิชาร้องไห้ทำไม มึงทำอะไรเธอ” โดเมนไม่ได้สนใจคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง แต่ให้ความสนใจเด็กสาวที่สะอื้นไห้อยู่ข้างเตียงมากกว่า“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ซันเดย์ตอบกลับไปเสียงเรียบสีหน้าเอือมระอา“ณิชาร้องไห้ทำไมครับ”“ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจจะนอนทับแขนคุณซันเดย์เลยนะคะ”“พี่รู้ครับ แต่คราวหลังณิชาต้องระวังมากกว่านี้ ถ้าเกิดว่าไอ้ซันเสียเลือดในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายได้ ไปล้างหน้าไปร้องไห้ตาแดงหมดแล้ว” โดเมนค่อย ๆ อธิบายให้เด็กสาวฟังอย่างใจเย็น ไม่ได้เอ่ยโทษหรือตำหนิอะไรเพราะรู้ว่าเด็กสาวไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นณิชาเดินเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย“ทีกูบอกไม่เห็นจะฟัง มึงบอกแค่คำเดียวรีบทำตามอย่างไว สรุปเป็นคนของใครวะ” ซันเดย์สบถออกมาไม่พอใจนัก“แล้วนี่มึงเจ็บแขนเหรอ ยังไม่ดีขึ้นหรือไง” โดเมนสังเกตเห็นว่าซันเดย์เอามือจับที่แขนหล

  • คลั่งรักเด็กเช่า   ตอนที่6 รู้เท่าไม่ถึงการณ์

    ตอนที่6 รู้เท่าไม่ถึงการณ์ณิชารีบเช็ดตัวให้ชายหนุ่มด้วยความระมัดระวังเพราะบนตัวยังมีรอยฟกช้ำให้เห็นอยู่หลายจุด เมื่อเช็ดเสร็จก็เอาผ้าเช็ดตัวผืนใหม่มาพันรอบเอวก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ชายหนุ่มเปลี่ยน“พี่หมอโดเมนบอกว่าสักพักหมอจะมาเข้าเฝือกให้ค่ะ ระหว่างนี้คุณจะนอนพักก่อนก็ได้นะคะ” ณิชาที่ทำหน้าที่เป็นพยาบาลจำเป็นเอ่ยพูดขึ้น สะโพกกลมมนนั่งลงบนโซฟาข้างเตียงผู้ป่วยโชว์เรียวขาสวยเนื่องจากวันนี้เด็กสาวใส่กางเกงขาสั้น“ฉันโตแล้วไม่ต้องมีใครบอกว่าควรนอนตอนไหน แล้วอีกอย่างกางเกงที่มันยาวกว่านี้ไม่มีหรือไง เสื้อผ้ามีเต็มตู้ไม่เอามาใส่ชอบนักไอ้เศษผ้าพวกนี้” สายตาคมเข้มมองเด็กสาวสีหน้าไม่พอใจนักที่เด็กในการปกครองแต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยออกจากบ้าน ถ้าชุดที่เด็กสาวใส่ตอนนี้ใส่แค่อยู่บ้านเขาคงไม่ว่าอะไร แต่นี่ใส่ออกมาข้างนอกแถมนั่งแท็กซี่มาคนเดียวอีกต่างหาก คนสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจเมื่อมีสิ่งยั่วยวนมันต้องมีการเกิดอารมณ์ความต้องการเป็นธรรมดา“หนูรีบค่ะ พอพี่เตมินโทรบอกหนูก็รีบออกมาเลย” ณิชาพยายามอธิบายให้ชายหนุ่มฟังก๊อก ก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตครับ คุณหมอโดเมนแจ้งแล้วใช่ไหมครับว่าหมอซันต้องเ

  • คลั่งรักเด็กเช่า   ตอนที่5 ไร้เดียงสา

    ตอนที่5 ไร้เดียงสาทั้งสองต่างแยกย้ายออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง ณิชาเดินออกไปหน้าปากซอยเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปเรียน ส่วนซันเดย์ก็ขับรถไปทำงานตามปกติ“วันนี้ช่วงบ่ายนายจะออกไปตรวจไซซ์งานไหมครับ” เตมินเอ่ยถามเมื่อทั้งสองเดินออกจากห้องประชุมหลังจากประชุมความคืบหน้าของโครงการเสร็จ“ไป เตรียมแปลนที่ฝ่ายสถาปนิกแก้ไขไปด้วย”“ครับ”ซันเดย์เดินตรวจสอบความเรียบร้อยของโครงสร้างด้วยตัวเองทั้งที่มีวิศวกรรับผิดชอบโครงการนี้อยู่แล้ว แต่ชายหนุ่มก็มาตรวจความเรียบร้อยด้วยตัวเองทุกครั้ง“โซนโน้นช่างกำลังขึ้นโครงสร้างคุณซันเดย์อย่าเดินเข้าไปเลยครับมันอันตราย” วิศวกรหนุ่มเอ่ยเตือนซันเดย์ถึงพื้นที่ด้านในที่เป็นพื้นที่อันตราย“ฉันเข้าไปดูแป๊บเดียว ตรงนั้นสถาปนิกเปลี่ยนแปลนใหม่แก้ไขเรียบร้อยหมดทุกจุดหรือยัง”“เรียบร้อยครับ”“ฉันเข้าไปดูหน่อย” พูดจบเท้ายาวก็สาวเท้าเดินดุ่ม ๆ เข้าไปยังโซนพื้นที่ก่อสร้างที่ขึ้นป้ายเตือนชัดเจนว่าตรงนี้เป็นเขตก่อสร้างผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า“กำชับคนงานด้วยว่าอย่ามักง่ายหรือหละหลวมในการทำงาน เพราะบ้านคนไม่ได้อยู่แค่ห้าปีสิบปี บางคนใช้เงินเก็บทั้งชีวิตเพื่อซื้อบ้านสักหลังไว้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status