Home / โรแมนติก / คลั่งรักเมียสวมรอย / ตอนที่ 5 เป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเอง

Share

ตอนที่ 5 เป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเอง

last update Huling Na-update: 2025-08-06 13:52:16

 

สองวันต่อมามินตราก็พบว่าชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอไม่ได้ไปสอนเด็กประถมที่โรงเรียน ไม่ได้ไปตลาดเดินนัด  ไม่ได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายกับป้าจันทร์และลุงชิดอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้เธอถูกพามายังคฤหาสน์หรูใจกลางกรุงเทพฯ และถูกฝึกให้เป็นมันตราอย่างเข้มข้น

ถึงแม้คุณสันติจะบอกว่าหน้าตาของเธอและมันตราเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออกแต่มันก็ยังมีความต่างอยู่บ้าง

“บุคลิกของมันตราเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง มีเสน่ห์ ชอบเข้าสังคมและค่อนข้างเจ้าชู้” เสียงของครูฝึกสาวใหญ่ผู้มีใบหน้าดุและแววตาเฉียบคมเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังฉายภาพมันตราในอิริยาบถต่างๆ บนจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ในห้องที่ดูเหมือนห้องประชุมส่วนตัว

“นั่นมันต่างกับฉันมาก” มินตรามองภาพผู้หญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งหน้าแต่งตัวต่างจากเธออย่างชัดเจน

“เธอชอบแต่งตัวทันสมัย สวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ไม่ชอบสีพาสเทลอ่อนๆ เหมือนที่คุณใส่”

มินตรานั่งฟังอย่างตั้งใจ จดจำรายละเอียดทุกอย่างที่ครูฝึกบอก แม้ในใจจะรู้สึกอึดอัดกับบุคลิกที่ต้องสวมรอย มันตราดูเป็นผู้หญิงที่ตรงกันข้ามกับเธอคนละขั้ว

“คุณต้องฝึกการเดิน การพูด การมอง ไม่ใช่หลบสายตาแบบนี้ มันตราไม่เคยหลบสายตาใคร เธอเชิดหน้าเสมอ และชอบสบตาคู่สนทนาตรงๆ” ครูฝึกตำหนิเมื่อเห็นมินตราก้มหน้าหลบสายตา

มินตราพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างหนัก จากสาวน้อยผู้อ่อนโยนเรียบง่าย กลายเป็นหญิงสาวที่ต้องแสดงออกถึงความมั่นใจและเชิดหยิ่ง

เธอต้องเรียนรู้เรื่องราวชีวิตของมันตราทั้งหมด ตั้งแต่การศึกษา ความชอบส่วนตัว รสนิยมด้านอาหาร เพลง ภาพยนตร์ ไปจนถึงความสัมพันธ์กับคนรอบข้างและที่สำคัญที่สุดคือว่าที่เจ้าบ่าวอย่างกวินภพ

เธอต้องสวมเสื้อผ้าที่ไม่คุ้นเคย ทั้งเดรสรัดรูป กระโปรงสั้น รองเท้าส้นสูง ชุดเซ็กซี่ จนบางครั้งทำให้เธอรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง

แต่เมื่อเห็นครูฝึกมองด้วยสายตาดุๆ เธอก็ต้องยอมจำใจสวมใส่

“มันตราดื่มไวน์แดง ไม่ดื่มน้ำผลไม้ เธอชอบค็อกเทลรสจัด ไม่ใช่หวานๆ แบบนี้” ครูฝึกสอนในมื้อค่ำที่จัดจำลองขึ้นราวกับเป็นงานเลี้ยงสังคม

มินตราพยายามกลืนไวน์แดงรสฝาดลงคอ แม้จะรู้สึกขมปร่าและไม่ชอบรสชาติ แต่ก็ต้องพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

ช่วงเวลาของการฝึกฝนผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่มินตราก็ทุ่มเทเต็มที่ เธอรู้ดีว่าอนาคตของป้าจันทร์และลุงชิดขึ้นอยู่กับเธอ หากเธอทำไม่สำเร็จทุกอย่างจะจบลง และครอบครัวบุญธรรมของเธออาจต้องเดือดร้อนไปตลอด

วันหนึ่งในขณะที่มินตรากำลังฝึกการเดินอยู่ในห้องโถงกว้างใหญ่ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง

“เป็นยังไงบ้างหนูมิน เรียนรู้ไปถึงไหนแล้ว”  เสียงอ่อนโยนที่คุ้นเคยถามขึ้น

“ก็พอได้ค่ะคุณลุง”

“หนูต้องเรียกลุงว่าพ่อให้ชินปาก และแทนตัวเองว่ามิ้นต์นะ”

“ค่ะ คุณพ่อ” หญิงสาวปรับสีหน้าให้ดูมั่นใจขึ้นเล็กน้อยตามที่ครูฝึกสอนมา

“ดูเหมือนหนูจะปรับตัวได้ดีขึ้น” สันติเอ่ยขึ้นขณะที่เดินวนรอบตัวมินตรา สายตาของเขากวาดมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“จริงเหรอคะ” เธอดีใจที่เขาบอกเพราะเบื่อกับการฝึกแล้ว

“แต่ก็ยังขาดบางอย่าง”

มินตรายืนนิ่ง เธอกลัวว่าตัวเองจะทำผิดพลาดอะไรไปแต่ก็คิดว่าทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว

“ขาดอะไรคะ”

“เสน่ห์น่ะ หนูต้องมีเสน่ห์กว่านี้ สายตาที่มองต้องไม่ใสซื่อ”

“แล้วหนูต้องทำยังไงล่ะ” เธอรู้สึกว่ากำลังล้มเหลวและไม่รู้จะทำอย่างไรให้ตัวเองมีเสน่ห์แบบที่เขาพูด

“เดี๋ยวฉันจัดการเองค่ะ” ครูที่ยืนอยู่รีบบอก

“ผมฝากครูด้วยนะ เหลือไม่กี่วันก็จะถึงงานแต่งแล้วต้องเต็มที่กันหน่อย”

“ไม่มีปัญหาค่ะ” คุณครูรับปากอย่างหนักแน่น

หนึ่งสัปดาห์ต่อมามินตราก็ถูกพาไปลองชุดแต่งงานซึ่งก่อนหน้านี้มันตราสั่งตัดไว้แล้ว วันนี้เธอก็แค่มาลองว่ามันพอดีตัวของเธอไหม หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เจอกับกวินภพเป็นครั้งแรกแต่ก่อนหน้านั้นเอก็ดูรูปเขามามากพอแล้ว โชคดีว่าเขากับมันตราไม่ได้สนิทกันมากเท่าไหร่

ชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ถูกออกแบบมาอย่างงดงามและตัดเย็บอย่างประณีต กระโปรงติดคริสตัลระยิบระยับ มินตราสวมใส่มันแล้วกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ชุดของเธอ ชุดที่ควรจะบ่งบอกถึงความรักและความสุข กลับกลายเป็นชุดที่ต้องสวมบทบาท เป็นเพียงเครื่องมือในการแสดงละครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ

ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมเข้ามาดูแลเธออย่างพิถีพิถัน ใบหน้าของมินตราถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ดวงตาคู่โตถูกกรีดอายไลเนอร์ให้คมเข้ม ริมฝีปากถูกระบายด้วยลิปสติกสีสด ผมยาวสลวยถูกจัดแต่งทรงให้ดูทันสมัยและหรูหรา เมื่อมองตัวเองในกระจก มินตราแทบไม่เชื่อสายตานี่ไม่ใช่เธอนี่คือมันตราผู้หญิงที่เธอต้องสวมรอยเป็น

ในขณะที่ช่างทำผมกำลังจัดแต่งทรงผมให้เธออยู่นั้น เสียงประตูห้องก็เปิดออก กวินภพเดินเข้ามาในชุดสูทสีดำสนิทที่ตัดเย็บอย่างดีเยี่ยม ทำให้ร่างสูงใหญ่ของเขายิ่งดูสง่างามและน่าเกรงขามขึ้นไปอีก เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ากระจก มองมาที่ภาพสะท้อนของมินตราในชุดเจ้าสาว

มินตรามองตอบเขาผ่านกระจก ในแววตาของกวินภพ เธอไม่เห็นความยินดี ไม่เห็นความรักมีเพียงความนิ่งเฉยและความจริงจัง

แต่เป็นตัวเธอเองที่ใจเต้นแรงเพราะเขาเป็นผู้ชายที่จัดว่าหน้าตาดี รูปร่างดีแบบที่เธอชอบเลยทีเดียว

“เป็นไงบ้างคะคุณภพ ว่าที่เจ้าสาวของคุณสวยไหม” เจ้าของร้านถาม

“สวยครับ” กวินภพเอ่ยสั้นๆ เขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้ดูเธอสวยหวานกว่าที่เขาเคยเจอ ชายหนุ่มคิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะชุดที่เธอสวมอยู่ก็ได้

“ขอบคุณค่ะ” มินตราตอบเสียงเบา

“ชุดพอดีไหมคะ ต้องแก้ที่ไหนหรือเปล่า”

“ไม่แล้วค่ะ มิ้นต์ว่ามันพอดีแล้ว”

“ของคุณภพล่ะคะ” เจ้าของร้านหันมาถามว่าที่เจ้าบ่าว

“ของผมก็พอดีครับ”

“คุณภพจะรับชุดไปเลยไหมคะ วันมันมะรืนก็จะถึงวันงานแล้ว”

“วันนี้ผมต้องไปธุระต่อ ถ้ายังไงเอาไปส่งที่บ้านก็แล้วกันนะครับ ของคุณล่ะ” เขาหันมาถามมินตรา

“ไปส่งที่บ้านก็ได้ค่ะ”

ทั้งสองคนกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดก่อนจะแยกย้ายกันกลับเพราะกวินภพมีงานต่อส่วนเธอนั้นกลับพร้อมกับคุณสันติอาสาขับรถมาส่งเธอลองชุดแต่งงานด้วยตนเอง

หัวใจของมินตราหนักอึ้งเพราะอีกเพียงสองวันก็จะถึงวันที่เธอจะต้องก้าวเข้าสู่พิธีสมรสกับชายที่เธอเคยเจอแค่ครั้งเดียวและคุยกันแทบจะนับคำได้

หญิงสาวจะต้องเริ่มต้นชีวิตคู่ภายใต้ชื่อมันตราและไม่รู้ว่าชีวิตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรจะมีอะไรรอเธออยู่บ้าง แต่เธอรู้เพียงว่าเธอต้องทำงานให้สำเร็จ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 35 ตอนจบ

    แม้จะเหนื่อยแค่ไหนแต่หน้าที่ก็ต้องมาก่อน เช้านี้มินตราก็ตื่นนอนแต่เช้ามาช่วยป้ากัลยาทำอาหารระหว่างที่กวินภพวิ่งออกกำลังกายรอบๆ บ้านเมื่อเตรียมอาหารเสร็จเธอก็ขึ้นไปอาบน้ำ ขณะนั่งแต่งหน้ากวินภพก็อาบน้ำแต่วตัวเสร็จพอดี เขาเดินถือเนกไทมาให้มินตราผูกเหมือนกับทุกวัน มินตราชอบหน้าที่นี่มากเพราะหญิงสาวเคยดูละครตอนตัวเองยังเป็นเด็กแล้วเห็นฉากที่นางเอกผูกเนกไทให้พระเอกก่อนไปทำงาน พอเข้ามหาวิทยาลัยเธอเลยให้เพื่อนผู้ชายช่วยสอนและจำวิธีผูกมาจนถึงทุกวันนี้“เป็นอะไรหรือเปล่าครับมิน” กวินภพถามเมื่อเห็นว่าจู่ๆ ภรรยาก็นิ่งไปขณะกำลังผูกเนกไทให้“มินกำลังนึกถึงตัวเองตอนเด็กค่ะ”“มีอะไรเหรอครับ”“ก็มินเคยดูละครแล้วเห็นนางเอกในละครผูกเนกไทให้พระเอกก่อนที่พระเอกจะไปทำงาน มินก็เลยฝันว่าโตขึ้นมินอยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง”“ตอนนี้มินก็เป็นแบบนั้นแล้วนะ หน้าที่ผูกเทกไทที่พี่ยกให้มินทำให้คนเดียวเลยนะครับ แล้วมินไปฝึกทำมาจากไหน”“มินให้เพื่อนผู้ชายที่มหาวิทยาลัยสอนจากนั้นก็จำวิธีการผูกมาเรื่อยๆ ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้ทำเหมือนในละครจริงๆ เหมือนเป็นการเติมเต็มความฝันค่ะ ถึงจะเป็นความฝันเล็กๆ แต่มันก็ทำให้มินมีความส

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 34 อย่าทรมานกันเลย nc

    มินตรากรีดเสียงร้องลั่นห้องร่างกายหญิงสาวสั่นสะท้าน เมื่อกวินภพส่งเธอแตะขอบสวรรค์ น้ำหวานจากกุหลาบดอกสวนล้นทะลักจนชุ่มไปทั่วปลายลิ้น ชายหนุ่มกวินภพไม่พลาดที่จะดูดกิน รสชาติหอมหวานจากภรรยาสาว มันทำให้เขาหลงใหลเธอมากขึ้น กินเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ กินแล้วก็อยากจะกินอยู่แบบนั้นเมื่อส่งคนรักไปพบกับความสุขแล้ว เขาก็ดึงให้เธอมาอยู่ริมขอบโต๊ะ กดจูบลงไปอย่างเร่าร้อนเติมเชื้อไฟให้โหมกระหน่ำ ริมฝีปากลากมายังอกอิ่มดูดกินเม็ดเชอร์รี่เข้าปากร้อน มือใหญ่ท่อนเอ็นกดนวดบนเกสรสวาทเป็นจังหวะเบาๆ“อื้อ...พี่ภพขา รักมินนะคะ อย่าทรมานกันเลยนะคะ”หญิงสาวเสียวซ่านและต้องการแท่งร้อนของเขาเข้ามาเติมเต็มจนต้องร้องขออย่างน่าอาย“ใจเย็นนะเมียจ๋า”กวินภพลากไล้ปลายแท่งร้อนขึ้นลงกลางกลีบกุหลาบจนมันชุ่มไปด้วยน้ำหวานที่เธอยังคงผลิตออกมาอย่างไม่ขาดสาย ก่อนจะ​สอด​ท่อนเอ็นร้อนเข้าไปในช่องทางรักที่คับแน่นทีละนิดเข้าไปเพียงนิดร่องสวาทก็ตอดรัดแรงกวินภพไม่อาจจะรอช้าได้เขาดันแท่งร้อนเข้าไปทีเดียวจนลึกสุด มินตราสะดุ้งสุดตัว“อ๊ะ!.....”สองมือจิกบนท่อนแขนของสามีไว้แน่น ชายหนุ่มนิ่งค้างเพราะอยากเธอได้ผ่อนคลาย แต่ดูเหมือนเขาจะคิด

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 33 ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทน nc

    “ทนอะไรคะ” มินตราถามสามีแต่แล้วใบหน้าเธอก็แดงซ่านขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกถึงความแข็งร้อนที่บดเบียดอยู่บริเวณท้องน้อย“คืนนี้พี่อยากเปลี่ยนบรรยากาศได้ไหมที่รัก” เขากระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบพร่า เธอรู้ว่าเวลานี้กวินภพอยู่ในอารมณ์ไหน เสียงแบบนี้ลมหายใจไม่สม่ำเสมอกันแบบนี้หญิงสาวนึกออกเพียงอย่างเดียวว่าสิ่งที่เขาต้องการมันคืออะไร“แต่นี่ห้องทำงาน คงไม่เหมาะนะคะถ้าใครรู้พี่ภพจะเสียชื่อเสียงเอานะคะ” มินตรารีบห้ามเมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ของกวินภพน่าจะห้ามได้ยาก แต่เธอก็ต้องเตือนสติ“ถ้ากลับตอนนี้พี่อาจจะทนไม่ไหวแล้วมีอะไรกับมินในรถและตรงที่รถของเราจอดอยู่มีกล้องด้วยนะ พี่ให้มินเลือกว่าเราจะมีความสุขกันตรงนี้หรือที่รถดีล่ะ” กวินภพทั้งอ้อนทั้งขู่ด้วยเสียงแหบพร่าความต้องการมันทำให้เขาไม่สนใจว่าตอนนี้จะอยู่ที่ไหน“อย่า​ใจร้อนสิคะพี่ภพ”“ทำไม​ล่ะ​ครับ หรือมินไม่ต้องการพี่” กวินภพพูดออกไปแบบนั้นและก็หวังว่าเธอจะไม่ปฏิเสธ“มินกลัวคนอื่นมาเจอ”“จะมีใครกันล่ะครับที่รัก นะมินนะ”“พี่ภพ​ล็อก​ประตูแล้วใช่ไหมคะ” มินตราเสียงถามเบาหวิวเพราะความเขินอาย“ล็อก​แล้ว​ครับ​มิน ให้พี่นะครับ”เขา​กระซิบ​แหบ​พร่า​ที่​ใบ​ห

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 32 อีกครั้งกับคนเดิม

    หลังจากที่การเซ็นสัญญาร่วมทุนโครงการโรงแรมฉบับใหม่เสร็จสิ้นลงด้วยดีและปัญหาเรื่องคุณสันติกับมันตราคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น กวินภพก็รู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับมินตราจะต้องบอกกับผู้ใหญ่ของเธอให้รับรู้“มินครับ” กวินภพเรียกมินตราที่กำลังอ่านทำอาหารเย็นอยู่ในครัวเพราะป้ากัลยาไม่สบายและไปนอนโรงพยาบาลโดยมีเหมียวเด็กรับใช้ไปเฝ้า“กลับมาแล้วเหรอคะพี่ภพ” เธอยิ้มให้อย่างอ่อนโยน“พี่มีเรื่องดีๆ จะบอกมินด้วยนะ” กวินภพเดินเข้าไปหาเธอ โอบกอดเอวบางไว้จากด้านหลัง“เรื่องอะไรคะ” มินตราหันมาถามพร้อมกับยิ้มหวาน“พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะไปขอมินกับป้าจันทร์และลุงชิด”“จริงเหรอคะ” มินตราทั้งตกใจและดีใจเพราะคิดว่ากวินภพลืมเรื่องนี้ไปแล้วเพราะช่วงนี้ชายหนุ่มยุ่งกับงานมากๆ“แล้วพี่ภพจะอธิบายกับป้ากับลุงยังไงคะ” มินตราถามด้วยความกังวลเธอไม่อยากให้ญาติผู้ใหญ่ต้องเป็นห่วงหรือคิดมาก“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น พี่เตรียมคำพูดไว้แล้ว เราจะบอกว่ามินมาทำงานแทนมันตราและได้เจอกับพี่จากนั้นเราก็ได้ทำความรู้จักและรักกันในที่สุด”มินตราพยักหน้า เธอรู้ว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ทำให้ป้ากับลุงต้องกังวลใจ

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 31 ครั้งแรก

    หลังจากจัดการเรื่องการซื้อที่ดินจากคุณสันติได้สำเร็จ กวินภพก็รู้สึกโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แต่ยังมีเรื่องสำคัญอีกอย่างที่เขาต้องจัดการนั่นคือการเผชิญหน้าระหว่างมินตราและมันตราสองพี่น้องฝาแฝดที่พลัดพรากกันไปนานแสนนานที่ชายหนุ่มต้องนัดให้สองพี่น้องมาเจอกันเพราะอยากให้มินตราอยู่ด้วยความสบายใจว่าจากนี้ชีวิตที่สวมรอยเป็นมันตราของเธอนั้นได้จบลงแล้วจริงๆวันนี้กวินภพนัดหมายให้มันตรามาพบที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมือง เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่มีบรรยากาศอบอุ่นและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพูดคุยเรื่องสำคัญ เขาโทรศัพท์ไปบอกมินตราให้เตรียมตัวมาด้วย โดยไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากนัก เพียงแค่บอกว่าอยากให้เธอมาเจอใครบางคนเมื่อถึงเวลากวินภพกับมินตราก็เดินทางมาถึงคาเฟ่ มินตราสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง หันหลังให้พวกเขา รูปร่างคล้ายกับเธอจนน่าตกใจ หญิงสาวพอจะรู้แล้วว่าคนที่กวินภพพาเธอออกมาเจอคือใครกวินภพเดินนำเข้าไปและเมื่อผู้หญิงคนนั้นหันหน้ามา มินตราก็ถึงกับยืนนิ่งราวกับถูกสาป ภาพตรงหน้าคือผู้หญิงที่เหมือนเธอราวกับแกะ ทุกรายละเอียดบนใบหน้าเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว เว้นแต่แววตาที่ดูเฉี่ยวค

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 30 หงายไพ่

    หลังจากกลับจากปราณบุรีได้ไม่กี่วัน กวินภพก็เรียกประชุมผู้ร่วมทุนโครงการโรงแรมทุกคน รวมถึงคุณสันติด้วย การประชุมจัดขึ้นที่ห้องประชุมใหญ่ของบริษัท บรรยากาศในห้องค่อนข้างตึงเครียด เพราะครั้งนี้นอกจากจะมีเจ้าสัวประเสริฐคนที่จะร่วมทุนด้วยแล้วยังมีผู้สนใจในโครงการนี้อีกสองคนจากยุโรปคือ มิสเตอร์จอห์นและมิสเตอร์เดวิด นั่งอยู่ร่วมกับคุณธีระกวินภพและผู้ร่วมทุนรายย่อยอื่นๆ ส่วนคุณสันตินั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสีหน้าเคร่งขรึมกวินภพเริ่มต้นการประชุมด้วยการกล่าวถึงภาพรวมของโครงการก่อนจะส่งไม้ต่อให้กับมิสเตอร์จอห์น“เรียนท่านผู้บริหารทุกท่านครับ หลังจากที่ผมและมิสเตอร์เดวิดได้ศึกษาข้อมูลโครงการอย่างละเอียด รวมถึงประวัติของหุ้นส่วนทุกท่าน เรามีความกังวลบางประการเกี่ยวกับข้อเสนอของคุณสันติที่ต้องการใช้ที่ดินมาร่วมทุนโดยไม่จ่ายเงินสดครับ” มิสเตอร์จอห์นกล่าวด้วยสำเนียงอังกฤษที่ชัดเจนคุณสันติขมวดคิ้วเขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจตั้งแต่คำพูดแรกของมิสเตอร์จอห์น“เรามองว่าการนำที่ดินมาร่วมทุนโดยไม่มีการตีมูลค่าที่ชัดเจน หรือแปลงเป็นเงินสดเข้ามา จะสร้างปัญหาในระยะยาว หากเกิดความขัดแย้งในอนาคต เราจึงขอเสนอให้คุณสันติขายท

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status