Home / โรแมนติก / คลั่งรักเมียสวมรอย / ตอนที่ 6 วิวาห์สวมรวย

Share

ตอนที่ 6 วิวาห์สวมรวย

last update Huling Na-update: 2025-08-06 13:52:38

 

มินตรานั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งในห้องพักที่คฤหาสน์หรูหราของคุณสันติที่ตอนนี้หญิงสาวฝึกเรียกจนติดปากว่าพ่อ

ใบหน้าสวยที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาตรงหน้า ไม่ใช่ตัวเธอเองอีกต่อไปแล้ว ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมเพิ่งจะจากไป หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจสอนการแปลงโฉมเธอให้เป็นมันตรา

ตอนนี้ใบหน้าของมินตราถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง เธอดูสวยหวานและมีเสน่ห์ รอยยิ้มที่เคยอ่อนหวานกลายเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสีเสน่ห์เย้ายวน

ช่วงเวลาที่ผ่านมาหญิงสาวเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมันตราอย่างหนักและเชื่อได้เลยว่าไม่มีใครรู้ความลับนี้ของเธอแน่นอน เธอสวมชุดเดรสสีรัดรูปของมันตรา เสื้อผ้าที่ไม่คุ้นเคยนี้ทำให้มินตราดูกลายเป็นคนละคนและนั่นคือสิ่งที่คุณสันติและครูฝึกต้องการ ทุกอย่างในตอนนี้มันดูสมบูรณ์แบบมาก

หญิงสาวเธอรู้ดีว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเพียงแค่ภายนอกแต่ภายในจิตใจของเธอยังคงเป็นมินตราครูสาวบ้านนอกผู้เรียบง่าย ที่ยังคง สึกอึดอัดกับบทบาทที่ตัวเองต้องแสดง

“เป็นยังไงบ้างล่ะวันนี้” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากหน้าประตู คุณสันติเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เขามองสำรวจมินตราตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยความพึงพอใจ

“เหมือนไหมคะพ่อ" มินตราเรียกคุณสันติตามที่ถูกฝึกมา พร้อมกับพยายามปรับสีหน้าให้ดูมั่นใจและมีเสน่ห์ตามแบบของมันตรา

“ดีมากหนูมิน ดูเหมือนหนูจะปรับตัวได้ดีขึ้นมากจริงๆ” คุณสันติกล่าวชมเชย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความพอใจ

“ขอบคุณค่ะ” มินตราตอบเสียงเรียบ เธอรู้สึกเหนื่อยล้ากับการแสดงบทบาทนี้มาตลอดหลายวันที่ผ่านมา

“พรุ่งนี้ก็ถึงวันแต่งงานแล้วนะ” คุณสันติเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความคาดหวัง

“มันเร็วมากเลยนะคะ”

“หนูรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำทุกอย่างให้เนียนที่สุด ห้ามมีข้อผิดพลาดเด็ดขาด”

“มิ้นต์จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ” มินตราตอบอย่างหนักแน่น เธอรู้ดีว่าเธอถ้าวันพรุ่งทุกอย่างมันผ่านไปได้ด้วยดีเงินก้อนแรกจะถูกโอนให้กับป้าจันทร์เพื่อไปใช้หนี้ร้านปุ๋ยในตลาด

“วันนี้ก็พักผ่อนให้เต็มที่และทำใจให้สบายนะ”

“พรุ่งนี้จะไม่มีใครจับได้ใช่ไหมคะ แขกคงมากันเยอะ”

“ยิ้มให้เยอะพูดให้น้อยถ้าใครถามก็บอกไปว่าเพราะตื่นเต้น ตกลงไหมล่ะ”

“ค่ะ แล้วงานนี้เพื่อนของมันตราจะมาด้วยไหม” เธอกลัวตรงนี้เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครพูดถึงเพื่อนสนิทของมันตราเลย

“ไม่หรอกมันตราไม่มีเพื่อนที่เมืองไทยเท่าไหร่ เธอไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็กน่ะ”

คำพูดของคุณสันติทำให้เธออดเปรียบเทียบตัวเองกับแฝดน้องไม่ได้ ครอบครัวนี้ร่ำรวยมากจึงได้เลี้ยงเธอราวกับเจ้าหญิง

“ลุงไปนะ” คุณสันติเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้มินตราอยู่ตามลำพังกับความคิดของตัวเอง

เธอเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่และมองออกไปเห็นแสงไฟ ในยามค่ำคืนความรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนที่เข้ามาอยู่ในเมืองที่ไม่คุ้นเคย

หญิงสาวหยิบรูปถ่ายที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทางออกมา รูปถ่ายของป้าจันทร์และลุงชิดที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขในวันที่เธอรับปริญญาเมื่อสามปีก่อน ภาพเหล่านั้นเป็นเหมือนพลังใจเดียวที่ทำให้เธอก้าวเดินต่อไปในเส้นทางที่ยากลำบากนี้ เธอสัญญาว่าจะไม่ทำให้ท่านทั้งสองต้องผิดหวัง

เช้าวันแต่งงานมินตราตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งกังวลสับสนและตื่นกลัว เมื่อคืนหญิงสาวนอนไม่หลับเลย ถ้าจะนับจริงๆ ก็หลับไปเพียงแค่สองชั่วโมงเท่านั้น

วันนี้คือวันแต่งงานของเธอแต่ไม่ใช่ในฐานะมินตราแต่เป็นในฐานะมันตราว่าที่เจ้าสาวของกวินภพมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพล

ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมมาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เธอ

มินตรานั่งนิ่งปล่อยให้พวกเขาทำงานกันอย่างเต็มที่ ขณะที่ตัว เธอพยายามสงบจิตใจและทบทวนสิ่งที่ครูฝึกได้สอนมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การพูด การใช้สายตาและบุคลิกของมันตรา รวมถึงแขกผู้ใหญ่ที่เธอได้ดูรูปและท่องมาจนจำขึ้นใจว่าใครเป็นใครหญิงสาวต้องจำไว้เสมอว่าวันนี้เธอคือมันตราสาวสวยนักเรียนนอกลูกสาวคนเดียวของคุณสันตินักธุรกิจใหญ่

คุณสันติเดินเข้ามาในห้องใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและคาดหวัง

“พร้อมนะหนูมินตรา” คุณสันติถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

"พร้อมค่ะคุณพ่อ" มินตราหันมาตอบด้วยรอยยิ้มหวาน เธอพยายามแสดงออกถึงความมั่นใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ขบวนรถหรูจำนวนหลายคันแล่นออกจากคฤหาสน์ มุ่งหน้าไปยังโบสถ์เล็กๆ ที่จัดงานแต่งงาน

บรรยากาศภายในรถเงียบสงบ มินตรานั่งนิ่งมองออกไปนอกกระจก เธอเห็นผู้คนมากมายที่กำลังสัญจรไปมาบนท้องถนน บางคนอาจจะกำลังมีความสุข บางคนอาจจะกำลังทุกข์ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับชะตากรรมอะไรอยู่

เมื่อรถมาถึงโบสถ์มินตราก้าวลงจากรถอย่างสง่างาม โดยมีคุณสันติประคองอยู่ข้างๆ แสงแดดยามสายกระทบลงมาที่ชุดเจ้าสาวที่ประดับด้วยคริสตัลทำให้เธอดูเปล่งประกายระยิบระยับ

แขกส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่และนักธุรกิจคนสำคัญที่มาร่วมแสดงความยินดี พวกเขามองมาที่เธอด้วยสายตาชื่นชม มินตราพยายามส่งยิ้มตอบกลับไปให้ทุกคนอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่ในใจของเธอท่องอยู่ตลอดว่ามันคือการแสดงและเธอคือนักแสดงที่เก่งที่สุดในงานนี้เลยก็ว่าได้

มินตราเดินไปตามทางเดินกลางโบสถ์ที่ปูพรมสีแดง ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย หญิงสาวพยายามเดินอย่างมั่นใจและเชิดหน้าตามที่ครูฝึกสอนมา เธอเห็นกวินภพยืนรออยู่ตรงแท่นพิธีในชุดสูทสีดำสนิทเขาดูสง่างามแต่ก็ยังดูเย็นชาอย่างเดิม

กวินภพจับจ้องไปที่เจ้าสาวตั้งแต่เริ่มเดินเข้ามา แววตาของชายหนุ่มยังคงนิ่งเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ไม่มีความยินดี ไม่มีความรักแต่ก็มีรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากเมื่อเห็นว่าวันนี้เจ้าสาวของเขานั้นสวยมากแค่ไหน

เขากับมันตราเจอกันแทบจะนับครั้งได้และทุกครั้งก็ไม่เคยได้จ้องหน้าเธอนานขนาดนี้มาก่อน แค่วันนี้เขามีเวลามองเธอนานมากระหว่างที่บิดาของเธอกำลังพาเธอเดินมาอย่างช้าๆ ความสวยของเจ้าสาวสะกดสายแต่แขกทุกคนที่อยู่ในงาน

เมื่อเธอเดินไปถึงแท่นพิธี คุณสันติก็ส่งมือของเธอให้กับกวินภพ ชายหนุ่มจับมือเธอไว้ เพียงแค่สัมผัสเบาๆ หัวใจของมินตราก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้

พิธีแต่งงานดำเนินไปอย่างเรียบง่าย บาทหลวงกล่าวคำอวยพรและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ มินตราและกวินภพกล่าวคำสาบาน เธอพยายามบังคับเสียงของตัวเองไม่ให้สั่นและสบตากับเขาอย่างมั่นคงตามที่ถูกฝึกมา

“คุณจะรับกวินภพเป็นสามี และจะรักซื่อสัตย์ปรนนิบัติทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ในยามป่วยไข้และสบาย จนกว่าชีวิตจะหาไม่หรือไม่” บาทหลวงถาม

“รับค่ะ” มินตราตอบด้วยความไม่มั่นใจแต่ก็พยายามจะยิ้มให้กับชายตรงหน้า เธอซ่อนความหวั่นไหมไว้ภายใต้รอยยิ้มหวานที่ส่งให้

“คุณจะรับมันตราเป็นภรรยาและจะรัก ซื่อสัตย์ปรนนิบัติทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ในยามป่วยไข้และสบาย จนกว่าชีวิตจะหาไม่หรือไม่” บาทหลวงถามกวินภพ

“รับครับ” กวินภพตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็แลกเปลี่ยนแหวนแต่งงานกัน แหวนเพชรเม็ดงามส่องประกายระยิบระยับบนนิ้วนางข้างซ้ายของมินตรา มันเป็นแหวนที่บ่งบอกถึงสถานะใหม่ของเธอ สถานะของภรรยาของมหาเศรษฐี สำหรับคนอื่นมันสัญลักษณ์ของความรักและการเริ่มต้นใหม่แต่สำหรับเธอแล้วมันคือพันธนาการที่เธอต้องแบกรับไว้

เมื่อพิธีจบลงแขกเหรื่อต่างปรบมือแสดงความยินดี มินตราและกวินภพถ่ายรูปคู่กับครอบครัวและแขกผู้ใหญ่ คุณสันติยิ้มอย่างพึงพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 35 ตอนจบ

    แม้จะเหนื่อยแค่ไหนแต่หน้าที่ก็ต้องมาก่อน เช้านี้มินตราก็ตื่นนอนแต่เช้ามาช่วยป้ากัลยาทำอาหารระหว่างที่กวินภพวิ่งออกกำลังกายรอบๆ บ้านเมื่อเตรียมอาหารเสร็จเธอก็ขึ้นไปอาบน้ำ ขณะนั่งแต่งหน้ากวินภพก็อาบน้ำแต่วตัวเสร็จพอดี เขาเดินถือเนกไทมาให้มินตราผูกเหมือนกับทุกวัน มินตราชอบหน้าที่นี่มากเพราะหญิงสาวเคยดูละครตอนตัวเองยังเป็นเด็กแล้วเห็นฉากที่นางเอกผูกเนกไทให้พระเอกก่อนไปทำงาน พอเข้ามหาวิทยาลัยเธอเลยให้เพื่อนผู้ชายช่วยสอนและจำวิธีผูกมาจนถึงทุกวันนี้“เป็นอะไรหรือเปล่าครับมิน” กวินภพถามเมื่อเห็นว่าจู่ๆ ภรรยาก็นิ่งไปขณะกำลังผูกเนกไทให้“มินกำลังนึกถึงตัวเองตอนเด็กค่ะ”“มีอะไรเหรอครับ”“ก็มินเคยดูละครแล้วเห็นนางเอกในละครผูกเนกไทให้พระเอกก่อนที่พระเอกจะไปทำงาน มินก็เลยฝันว่าโตขึ้นมินอยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง”“ตอนนี้มินก็เป็นแบบนั้นแล้วนะ หน้าที่ผูกเทกไทที่พี่ยกให้มินทำให้คนเดียวเลยนะครับ แล้วมินไปฝึกทำมาจากไหน”“มินให้เพื่อนผู้ชายที่มหาวิทยาลัยสอนจากนั้นก็จำวิธีการผูกมาเรื่อยๆ ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้ทำเหมือนในละครจริงๆ เหมือนเป็นการเติมเต็มความฝันค่ะ ถึงจะเป็นความฝันเล็กๆ แต่มันก็ทำให้มินมีความส

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 34 อย่าทรมานกันเลย nc

    มินตรากรีดเสียงร้องลั่นห้องร่างกายหญิงสาวสั่นสะท้าน เมื่อกวินภพส่งเธอแตะขอบสวรรค์ น้ำหวานจากกุหลาบดอกสวนล้นทะลักจนชุ่มไปทั่วปลายลิ้น ชายหนุ่มกวินภพไม่พลาดที่จะดูดกิน รสชาติหอมหวานจากภรรยาสาว มันทำให้เขาหลงใหลเธอมากขึ้น กินเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ กินแล้วก็อยากจะกินอยู่แบบนั้นเมื่อส่งคนรักไปพบกับความสุขแล้ว เขาก็ดึงให้เธอมาอยู่ริมขอบโต๊ะ กดจูบลงไปอย่างเร่าร้อนเติมเชื้อไฟให้โหมกระหน่ำ ริมฝีปากลากมายังอกอิ่มดูดกินเม็ดเชอร์รี่เข้าปากร้อน มือใหญ่ท่อนเอ็นกดนวดบนเกสรสวาทเป็นจังหวะเบาๆ“อื้อ...พี่ภพขา รักมินนะคะ อย่าทรมานกันเลยนะคะ”หญิงสาวเสียวซ่านและต้องการแท่งร้อนของเขาเข้ามาเติมเต็มจนต้องร้องขออย่างน่าอาย“ใจเย็นนะเมียจ๋า”กวินภพลากไล้ปลายแท่งร้อนขึ้นลงกลางกลีบกุหลาบจนมันชุ่มไปด้วยน้ำหวานที่เธอยังคงผลิตออกมาอย่างไม่ขาดสาย ก่อนจะ​สอด​ท่อนเอ็นร้อนเข้าไปในช่องทางรักที่คับแน่นทีละนิดเข้าไปเพียงนิดร่องสวาทก็ตอดรัดแรงกวินภพไม่อาจจะรอช้าได้เขาดันแท่งร้อนเข้าไปทีเดียวจนลึกสุด มินตราสะดุ้งสุดตัว“อ๊ะ!.....”สองมือจิกบนท่อนแขนของสามีไว้แน่น ชายหนุ่มนิ่งค้างเพราะอยากเธอได้ผ่อนคลาย แต่ดูเหมือนเขาจะคิด

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 33 ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทน nc

    “ทนอะไรคะ” มินตราถามสามีแต่แล้วใบหน้าเธอก็แดงซ่านขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกถึงความแข็งร้อนที่บดเบียดอยู่บริเวณท้องน้อย“คืนนี้พี่อยากเปลี่ยนบรรยากาศได้ไหมที่รัก” เขากระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบพร่า เธอรู้ว่าเวลานี้กวินภพอยู่ในอารมณ์ไหน เสียงแบบนี้ลมหายใจไม่สม่ำเสมอกันแบบนี้หญิงสาวนึกออกเพียงอย่างเดียวว่าสิ่งที่เขาต้องการมันคืออะไร“แต่นี่ห้องทำงาน คงไม่เหมาะนะคะถ้าใครรู้พี่ภพจะเสียชื่อเสียงเอานะคะ” มินตรารีบห้ามเมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ของกวินภพน่าจะห้ามได้ยาก แต่เธอก็ต้องเตือนสติ“ถ้ากลับตอนนี้พี่อาจจะทนไม่ไหวแล้วมีอะไรกับมินในรถและตรงที่รถของเราจอดอยู่มีกล้องด้วยนะ พี่ให้มินเลือกว่าเราจะมีความสุขกันตรงนี้หรือที่รถดีล่ะ” กวินภพทั้งอ้อนทั้งขู่ด้วยเสียงแหบพร่าความต้องการมันทำให้เขาไม่สนใจว่าตอนนี้จะอยู่ที่ไหน“อย่า​ใจร้อนสิคะพี่ภพ”“ทำไม​ล่ะ​ครับ หรือมินไม่ต้องการพี่” กวินภพพูดออกไปแบบนั้นและก็หวังว่าเธอจะไม่ปฏิเสธ“มินกลัวคนอื่นมาเจอ”“จะมีใครกันล่ะครับที่รัก นะมินนะ”“พี่ภพ​ล็อก​ประตูแล้วใช่ไหมคะ” มินตราเสียงถามเบาหวิวเพราะความเขินอาย“ล็อก​แล้ว​ครับ​มิน ให้พี่นะครับ”เขา​กระซิบ​แหบ​พร่า​ที่​ใบ​ห

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 32 อีกครั้งกับคนเดิม

    หลังจากที่การเซ็นสัญญาร่วมทุนโครงการโรงแรมฉบับใหม่เสร็จสิ้นลงด้วยดีและปัญหาเรื่องคุณสันติกับมันตราคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น กวินภพก็รู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับมินตราจะต้องบอกกับผู้ใหญ่ของเธอให้รับรู้“มินครับ” กวินภพเรียกมินตราที่กำลังอ่านทำอาหารเย็นอยู่ในครัวเพราะป้ากัลยาไม่สบายและไปนอนโรงพยาบาลโดยมีเหมียวเด็กรับใช้ไปเฝ้า“กลับมาแล้วเหรอคะพี่ภพ” เธอยิ้มให้อย่างอ่อนโยน“พี่มีเรื่องดีๆ จะบอกมินด้วยนะ” กวินภพเดินเข้าไปหาเธอ โอบกอดเอวบางไว้จากด้านหลัง“เรื่องอะไรคะ” มินตราหันมาถามพร้อมกับยิ้มหวาน“พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะไปขอมินกับป้าจันทร์และลุงชิด”“จริงเหรอคะ” มินตราทั้งตกใจและดีใจเพราะคิดว่ากวินภพลืมเรื่องนี้ไปแล้วเพราะช่วงนี้ชายหนุ่มยุ่งกับงานมากๆ“แล้วพี่ภพจะอธิบายกับป้ากับลุงยังไงคะ” มินตราถามด้วยความกังวลเธอไม่อยากให้ญาติผู้ใหญ่ต้องเป็นห่วงหรือคิดมาก“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น พี่เตรียมคำพูดไว้แล้ว เราจะบอกว่ามินมาทำงานแทนมันตราและได้เจอกับพี่จากนั้นเราก็ได้ทำความรู้จักและรักกันในที่สุด”มินตราพยักหน้า เธอรู้ว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ทำให้ป้ากับลุงต้องกังวลใจ

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 31 ครั้งแรก

    หลังจากจัดการเรื่องการซื้อที่ดินจากคุณสันติได้สำเร็จ กวินภพก็รู้สึกโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แต่ยังมีเรื่องสำคัญอีกอย่างที่เขาต้องจัดการนั่นคือการเผชิญหน้าระหว่างมินตราและมันตราสองพี่น้องฝาแฝดที่พลัดพรากกันไปนานแสนนานที่ชายหนุ่มต้องนัดให้สองพี่น้องมาเจอกันเพราะอยากให้มินตราอยู่ด้วยความสบายใจว่าจากนี้ชีวิตที่สวมรอยเป็นมันตราของเธอนั้นได้จบลงแล้วจริงๆวันนี้กวินภพนัดหมายให้มันตรามาพบที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมือง เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่มีบรรยากาศอบอุ่นและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพูดคุยเรื่องสำคัญ เขาโทรศัพท์ไปบอกมินตราให้เตรียมตัวมาด้วย โดยไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากนัก เพียงแค่บอกว่าอยากให้เธอมาเจอใครบางคนเมื่อถึงเวลากวินภพกับมินตราก็เดินทางมาถึงคาเฟ่ มินตราสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง หันหลังให้พวกเขา รูปร่างคล้ายกับเธอจนน่าตกใจ หญิงสาวพอจะรู้แล้วว่าคนที่กวินภพพาเธอออกมาเจอคือใครกวินภพเดินนำเข้าไปและเมื่อผู้หญิงคนนั้นหันหน้ามา มินตราก็ถึงกับยืนนิ่งราวกับถูกสาป ภาพตรงหน้าคือผู้หญิงที่เหมือนเธอราวกับแกะ ทุกรายละเอียดบนใบหน้าเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว เว้นแต่แววตาที่ดูเฉี่ยวค

  • คลั่งรักเมียสวมรอย   ตอนที่ 30 หงายไพ่

    หลังจากกลับจากปราณบุรีได้ไม่กี่วัน กวินภพก็เรียกประชุมผู้ร่วมทุนโครงการโรงแรมทุกคน รวมถึงคุณสันติด้วย การประชุมจัดขึ้นที่ห้องประชุมใหญ่ของบริษัท บรรยากาศในห้องค่อนข้างตึงเครียด เพราะครั้งนี้นอกจากจะมีเจ้าสัวประเสริฐคนที่จะร่วมทุนด้วยแล้วยังมีผู้สนใจในโครงการนี้อีกสองคนจากยุโรปคือ มิสเตอร์จอห์นและมิสเตอร์เดวิด นั่งอยู่ร่วมกับคุณธีระกวินภพและผู้ร่วมทุนรายย่อยอื่นๆ ส่วนคุณสันตินั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสีหน้าเคร่งขรึมกวินภพเริ่มต้นการประชุมด้วยการกล่าวถึงภาพรวมของโครงการก่อนจะส่งไม้ต่อให้กับมิสเตอร์จอห์น“เรียนท่านผู้บริหารทุกท่านครับ หลังจากที่ผมและมิสเตอร์เดวิดได้ศึกษาข้อมูลโครงการอย่างละเอียด รวมถึงประวัติของหุ้นส่วนทุกท่าน เรามีความกังวลบางประการเกี่ยวกับข้อเสนอของคุณสันติที่ต้องการใช้ที่ดินมาร่วมทุนโดยไม่จ่ายเงินสดครับ” มิสเตอร์จอห์นกล่าวด้วยสำเนียงอังกฤษที่ชัดเจนคุณสันติขมวดคิ้วเขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจตั้งแต่คำพูดแรกของมิสเตอร์จอห์น“เรามองว่าการนำที่ดินมาร่วมทุนโดยไม่มีการตีมูลค่าที่ชัดเจน หรือแปลงเป็นเงินสดเข้ามา จะสร้างปัญหาในระยะยาว หากเกิดความขัดแย้งในอนาคต เราจึงขอเสนอให้คุณสันติขายท

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status