Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-06-21 13:14:09

บนเนินผาสูงชันซึ่งทอดยาวจนสุดอาณาเขตพื้นที่คฤหาสน์ชาร์ลสตัน มองไกลออกไปสุดสายตา เห็นผืนน้ำสีครามและท้องฟ้ายามเย็นที่ถูกแสงสีทองอาบไล้ ตัดกับทุ่งหญ้าสูงซึ่งโบกสะบัดไปมาราวกับคลื่นสีเขียวสดยามลมทะเลโชยพัดเข้าสู่แผ่นดิน ประภาคารเก่าแก่ทาสีขาวนวลตั้งตระหง่านเป็นจุดดึงดูดสายตามองเห็นได้แต่ไกล

บันไดไม้ที่นำขึ้นไปยังกระโจมไฟด้านบนถูกปิดตายและเริ่มผุพังตามเวลา เบื้องหน้ามีชายวัยหกสิบสี่ปียืนจับมืออยู่กับหลานชายตัวน้อย ทอดสายตาออกไปยังเวิ้งทะเล จ้องมองภาพของเรือยอชต์ลำใหญ่กำลังแล่นห่างและเลือนหายไปในแสงของดวงอาทิตย์

“ถ้าผมโตเมื่อไหร่ ผมจะเป็นกัปตันเรือลำใหญ่ๆ แบบเรือลำนั้นให้ได้เลยฮะคุณปู่!” เด็กชายวัยเจ็ดขวบหันมายิ้มอย่างเริงร่า ในแววตาไร้เดียงสาคู่นั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและปรารถนา

“จะเอาอย่างนั้นจริงๆ เหรอ เจค็อบ... เป็นกัปตันเรือไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะลูก...” ชายสูงวัยก้มลงสบตาเด็กน้อย “ลูกผู้ชายน่ะ ถ้าตัดสินใจแล้วต้องไม่ล้มเลิกกลางคันนะ”

“ผมแน่ใจฮะ” เขาพยักหน้า ตอบชัดถ้อยชัดคำ

“ดีมาก... ปู่เชื่อว่าซักวันเราจะต้องเป็นกัปตันเรือที่เก่งที่สุดในอังกฤษแน่ๆ...” พูดพลางหัวเราะอารมณ์ดี พร้อมกับขยี้ปลายนิ้วลงบนเรือนผมหยักศกสีดำอย่างรักใคร่เอ็นดู

“แน่นอนฮะ คุณปู่จะต้องได้เห็นผมเป็นกัปตันที่เก่งที่สุดในโลกเลย!”

เคนเน็ธ ชาร์ลสตัน ย่อตัวลงนั่งบนปลายเท้า ดวงตาซึ่งขุ่นขาวไปตามวัยจ้องมองหลานชายสุดที่รักด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ว่าจะเป็นความเฉลียวฉลาด ช่างพาที หรือจิตใจที่เข้มแข็งทว่าแฝงไว้ด้วยความโอบอ้อมอารีของเจโคบี ล้วนเป็นสิ่งที่สืบทอดจากเขาอย่างครบถ้วน

เมื่อหวนคิดถึงอัลเบิร์ต มหาเศรษฐีเฒ่าก็ต้องถอนหายใจหนักๆ... ทำไมหนอ บุตรชายถึงไม่ได้รับอุปนิสัยใจคอไปจากเขาบ้าง...

แม้ที่ผ่านมาเคนเน็ธจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการมุ่งมั่นทำธุรกิจ แต่เขาก็มั่นใจว่าได้อบรมเลี้ยงดู ให้การศึกษาอัลเบิร์ตอย่างดีที่สุดแล้ว และมหาเศรษฐีเฒ่าก็ไม่เคยคาดหวังอะไรมากไปกว่าการที่ชายหนุ่มจะเติบโตเป็นสุภาพบุรุษที่ขยันขันแข็ง มีความรับผิดชอบ และเป็นคนที่มีคุณค่าของสังคม

หากในปีที่อัลเบิร์ตเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เอลิซา ผู้เป็นแม่ก็เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งผิวหนัง ทำให้เคนเน็ธที่กำลังเสียใจมาก ได้แต่โทษตัวเองว่าไม่เคยสังเกตเห็นอาการเจ็บป่วยของภรรยา จึงหันไปทุ่มเทกับงานมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ลืมความโศกเศร้า

ขณะนั้นอัลเบิร์ตเองก็เริ่มมีสังคมของตัวเองกับกลุ่มเพื่อนมหาวิทยาลัย ทำให้สองพ่อลูกต่างก็ห่างเหินกันไปจนแทบไม่เคยได้เห็นหน้า มีเพียงเงินสดที่ถูกโอนให้ใช้จ่ายในแต่ละเดือนเท่านั้นเป็นเครื่องยืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง ชายหนุ่มจึงได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างเต็มที่โดยที่เคนเน็ธไม่เคยรับรู้เลยว่าบุตรชายกลายเป็นคนเหลวแหลกแค่ไหน

ครั้งแรกที่ข่าวเสื่อมเสียของอัลเบิร์ตมาถึงหูก็คือคืนที่เขาถูกจับด้วยข้อหาเสพยาเสพติด มหาเศรษฐีเฒ่าโกรธจัด ถึงกับเอ่ยปากไล่ให้เขาออกจากบ้าน ชายหนุ่มก็ยอมอดทนทำตัวเรียบร้อยอยู่ได้พักใหญ่ ก่อนจะไปสร้างปัญหาหนี้สินกับบ่อนแข่งสุนัข[1] อีกครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นเงินไม่กี่หมื่นปอนด์ แต่นั่นก็ทำให้เคนเน็ธเริ่มเห็นอนาคตที่น่าเป็นห่วงของตระกูลชาร์ลสตัน

จนกระทั่งในปีสุดท้ายของชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัย เมื่ออัลเบิร์ตได้พบรักกับนักร้องในบาร์ข้างถนนและยืนยันว่าจะแต่งงานกับเธอให้ได้ จนสองพ่อลูกมีปากเสียงกันถึงขั้นที่มหาเศรษฐีเฒ่าแทบจะตัดบุตรชายออกจากกองมรดก

หากเพราะความรักที่มีต่อทายาทเพียงคนเดียวของเขา ท้ายที่สุดเคนเน็ธจึงยอมตามใจอีกฝ่าย โดยหวังไว้ลึกๆ ว่าการปล่อยให้บุตรชายมีภรรยาและรู้จักความรับผิดชอบต่อครอบครัวของตัวเอง อาจจะทำให้อัลเบิร์ตกลายเป็นผู้ใหญ่ พร้อมจะดูแลและสืบทอดทรัพย์สมบัติของตระกูลชาร์ลสตันได้อย่างที่เขามุ่งหวัง

แต่สิบปีที่ผ่านมา... ทุกอย่างก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าเคนเน็ธคิดผิด...

ทว่าในโชคร้ายนั้นก็ยังมีโชคดีแฝงอยู่ด้วย เพราะมันทำให้เขาได้หลานชายสุดที่รักมาหนึ่งคน... ตลอดระยะเวลาสี่ปีเต็มที่เขาเลี้ยงดู เจโคบี ชาร์ลสตัน มา เด็กน้อยเปรียบเสมือนแหล่งน้ำอันชื่นฉ่ำ ช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจที่เริ่มแห้งเหี่ยวของเขาให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และเคนเน็ธก็จะไม่ยอมปล่อยให้จิตใจที่บริสุทธิ์ของหลานชายต้องด่างพร้อยไปตามรอยเท้าของผู้เป็นพ่ออย่างเด็ดขาด

“พวกเขากำลังจะไปไหนกันเหรอฮะ คุณปู่” เจโคบีเอ่ยถามด้วยความไร้เดียงสา ดวงตาจ้องมองไปยังภาพเรือลำใหญ่ที่เส้นขอบฟ้า

“ออกผจญภัยตามหาลายแทงสมบัติใช่ไหมฮะ”

“ก็อาจจะเป็นไปได้...” เคนเน็ธตอบยิ้มๆ

“แล้วคุณปู่คิดว่าพวกเขาจะต้องสู้กับโจรสลัดบ้างไหมฮะ” เด็กชายนิ่วหน้านึกฉงน เขาเคยอ่านนิทานและดูภาพยนตร์หลายเรื่องเกี่ยวกับโจรสลัดในยุคโบราณ แม้จะรู้ว่าโจรสลัดคือบุคคลนอกกฎหมายที่มีวิถีชีวิตอยู่กับการฆ่าฟัน จี้ปล้น และอุปนิสัยของแต่ละคนล้วนดุดันเหี้ยมโหด แต่เด็กผู้ชายอย่างเจโคบีก็ยังอดที่จะจินตนาการไปถึงเรื่องราวตื่นเต้นเหล่านั้นไม่ได้

“ปู่ก็ไม่รู้หรอกนะ... คำว่าผจญภัยมันก็หมายถึงความเสี่ยงนี่นา ยิ่งเป็นการผจญภัยในมหาสมุทรด้วยแล้ว ถึงไม่เจอโจรสลัดก็ยังต้องเจอคลื่นยักษ์สูงเป็นสิบๆ เมตรกับพายุลูกใหญ่ๆ อยู่ดี... เราไม่กลัวเหรอ...”

“ผมไม่กลัวฮะ... กะ...กัปตันเรือไม่มีทางกลัวเรื่องพวกนี้หรอกฮะ...” เด็กชายไม่กล้าสบตา พวงแก้มกลายเป็นสีชมพูเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้พูดความจริง เพราะลำพังแค่ได้ยินเสียงฟ้าร้อง เขายังต้องวิ่งไปซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเป็นนานสองนาน

“ฮ่ะๆๆ หลานปู่เก่งจริงๆ” เคนเน็ธอ่านปฏิกิริยาของหลานชายสุดที่รักออก “แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะลูก เรือใหญ่ๆ ไม่จมง่ายๆ เพราะคลื่นลมหรือพายุหรอก... อีกอย่าง สมัยนี้ก็ไม่มีโจรสลัดเหลืออยู่อีกแล้วล่ะ...”

“ไม่มีโจรสลัดเหลืออยู่จริงๆ เหรอฮะ คุณปู่...” ช้อนสายตามองด้วยความผิดหวัง

“ถ้าหมายถึงโจรสลัดถือดาบสู้กันอย่างในหนังน่ะ เดี๋ยวนี้คงไม่มีแล้ว เจค็อบเอ๊ย... แต่ถ้าเป็นโจรที่ใช้ปืนกลปล้นเรือยอชต์ของพวกเศรษฐีก็ยังมีอยู่บ้าง เราไม่ค่อยได้เห็นข่าวพวกนี้กันนักหรอก...” เคนเน็ธจำใจตอบตามความจริง

เด็กชายฟังแล้วก็ถอนหายใจยาว นึกภาพกลุ่มชายฉกรรจ์หนวดเครารุงรัง สวมเสื้อเชิ้ตมอซอกับกางเกงหลวมๆ ยาวแค่เข่า บ้างโพกผ้าคาดศีรษะ บ้างคาดแผ่นหนังไขว้ปิดดวงตา ในมือถือดาบโค้ง เหน็บปืนโบราณเอาไว้ข้างเอว ขณะโหนเชือก โยนตัวลงไปบนเรือศัตรูเพื่อบุกโจมตี ภาพเหล่านี้มีแต่ในภาพยนตร์เท่านั้นจริงๆ หรือ...

[1] การแข่งวิ่งสุนัขเกรย์ฮาวนด์ (Grayhound Racing) เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับสองของอังกฤษ กีฬาประเภทนี้กำเนิดขึ้นที่สนามแข่ง Belle Vue ในเมืองแมนเชสเตอร์เมื่อ ปี ค.ศ.1926 และปัจจุบันเป็นกีฬาที่มีเงินหมุนเวียนกว่าสามพันล้านปอนด์ในแต่ละปี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 1 เมียเชลย   บทที่ 5

    นรินทร์นารถ ปิยบุตร ชาร์ลสตัน นึกถึงเมื่อแปดปีก่อน ในวันแรกที่เธอได้พบกับบิดาบุญธรรม ผู้ที่เธอไม่กล้าอาจเอื้อมแม้แต่จะเรียกเขาว่าพ่อเธอเป็นแค่เด็กสาวที่ติดตามนงนุช มารดาม่ายชาวไทยมาทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดในบริษัท ชาร์ลสตัน เทรดอิน คอร์ปอเรชั่น ของตระกูลชาร์ลสตัน... แม้จะเป็นแค่ลูกจ้างระดับล่างที่พูดภาษาอังกฤษแทบจะไม่ได้ แต่ความที่มารดาของเธอเป็นคนขยันขันแข็งและยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ เคนเน็ธจึงสะดุดตาและรู้สึกเมตตาเป็นพิเศษ...หลังจากทำงานอยู่ได้เพียงไม่กี่ปี มารดาของเธอก็โชคร้ายล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมและเสียชีวิตไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเคนเน็ธผู้อยู่ในฐานะเจ้านายใหญ่ได้รับข่าวจึงได้เดินทางไปร่วมพิธีฝังศพด้วย... เขาพอจะรู้มาจากปากพนักงานคนอื่นๆ ว่าแม่บ้านชาวไทยยังมีบุตรสาววัยสิบห้าปีที่กำลังไร้ที่พึ่งพิงอยู่อีกหนึ่งคน และเพียงแค่พบนรินทร์นารถครั้งแรก เคนเน็ธก็เกิดความรักใคร่เอ็นดูเธออย่างบอกไม่ถูก...เนื่องจากในเวลานั้นเขาก็กำลังผิดหวังกับความประพฤติของบุตรชายอยู่ เขาจึงเสนอความอุปการะด้านการศึกษาให้แก่เธอ หากเคนเน็ธก็ต้องประหลาดใจเมื่อเด็กสาวกลับปฏิเสธเขาอย่างสุภาพ และเลือกที่จะขอ

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 1 เมียเชลย   บทที่ 4

    “ลมแรงขึ้นทุกทีแล้ว ตากลมนานๆ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา ปู่ว่าเรากลับไปที่บ้านกันดีกว่า” เคนเน็ธพยายามชักจูงให้หลานชายลืมเรื่องที่เขาพูดไปเสีย“จริงด้วยสิฮะ ป่านนี้นีนาคงรอนานแล้วล่ะ” เจโคบีพูดพลางกระชับนิ้วมือเล็กๆ เข้ากับฝ่ามือหยาบย่นตามกาลเวลาของเคนเน็ธ ก่อนจะออกแรงดึงให้ร่างสูงใหญ่ที่นั่งยองๆ อยู่ลุกขึ้นยืน “คุณปู่ฮะ อาทิตย์หน้าคุณปู่ต้องกลับมาช่วยผมทาสีเจ้าซีเซอร์เพนต์นะฮะ”“มันคืออะไรกันเหรอ เจค็อบ” ชายสูงวัยถามด้วยความแปลกใจ“มันก็คือชื่อของเรือบังคับวิทยุที่คุณปู่ซื้อมาฝากผมเมื่อเช้านี้ยังไงล่ะฮะ ผมตั้งชื่อมันว่าเจ้างูทะเล” เด็กน้อยตอบฉะฉาน ขณะพยายามใช้สองมือจูงปู่ของเขาให้ก้าวตามไป“แล้วทำไมเราจะต้องไปทาสีมันด้วยล่ะ เรือที่ปู่ซื้อมาให้มันไม่สวยหรือไง หือ...”“ผมอยากให้มีรูปงูบนเรือด้วยนี่นา ไม่อย่างนั้นจะสมกับชื่อเจ้างูทะเลได้ยังไงกันล่ะฮะ” พูดจบก็กระโดดโลดเต้น วิ่งนำไปข้างหน้าเคนเน็ธส่ายหน้ายิ้มๆ กับความร่าเริงไร้เดียงสาของเจโคบี ก้าวเท้าตามเด็กน้อยไปด้วยความสบายใจ ชีวิตบั้นปลายในวัยหกสิบสี่ปี ถึงจะต้องผิดหวังกับลูก แต่อย่างน้อยเขาก็ยังมีหลานที่เฉลียวฉลาดน่ารักมาทดแทน เพียงเท่านี้

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 1 เมียเชลย   บทที่ 3

    บนเนินผาสูงชันซึ่งทอดยาวจนสุดอาณาเขตพื้นที่คฤหาสน์ชาร์ลสตัน มองไกลออกไปสุดสายตา เห็นผืนน้ำสีครามและท้องฟ้ายามเย็นที่ถูกแสงสีทองอาบไล้ ตัดกับทุ่งหญ้าสูงซึ่งโบกสะบัดไปมาราวกับคลื่นสีเขียวสดยามลมทะเลโชยพัดเข้าสู่แผ่นดิน ประภาคารเก่าแก่ทาสีขาวนวลตั้งตระหง่านเป็นจุดดึงดูดสายตามองเห็นได้แต่ไกลบันไดไม้ที่นำขึ้นไปยังกระโจมไฟด้านบนถูกปิดตายและเริ่มผุพังตามเวลา เบื้องหน้ามีชายวัยหกสิบสี่ปียืนจับมืออยู่กับหลานชายตัวน้อย ทอดสายตาออกไปยังเวิ้งทะเล จ้องมองภาพของเรือยอชต์ลำใหญ่กำลังแล่นห่างและเลือนหายไปในแสงของดวงอาทิตย์“ถ้าผมโตเมื่อไหร่ ผมจะเป็นกัปตันเรือลำใหญ่ๆ แบบเรือลำนั้นให้ได้เลยฮะคุณปู่!” เด็กชายวัยเจ็ดขวบหันมายิ้มอย่างเริงร่า ในแววตาไร้เดียงสาคู่นั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและปรารถนา“จะเอาอย่างนั้นจริงๆ เหรอ เจค็อบ... เป็นกัปตันเรือไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะลูก...” ชายสูงวัยก้มลงสบตาเด็กน้อย “ลูกผู้ชายน่ะ ถ้าตัดสินใจแล้วต้องไม่ล้มเลิกกลางคันนะ”“ผมแน่ใจฮะ” เขาพยักหน้า ตอบชัดถ้อยชัดคำ“ดีมาก... ปู่เชื่อว่าซักวันเราจะต้องเป็นกัปตันเรือที่เก่งที่สุดในอังกฤษแน่ๆ...” พูดพลางหัวเราะอารมณ์ดี พร้อมกับขยี

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 1 เมียเชลย   บทที่ 2

    ครั้งที่ อัลเบิร์ต ชาร์ลสตัน ยังเป็นนักศึกษาหนุ่มอายุเพียงยี่สิบเอ็ดปี เขาบังเอิญได้รู้จักและมีความสัมพันธ์กับโรส นักร้องสาวในบาร์ผู้มีอายุมากกว่าถึงสามปี และทันทีที่รู้ว่าเขาเป็นทายาทของมหาเศรษฐีผู้มีชื่อเสียงของลอนดอน เธอก็ตัดสินใจใช้เสน่ห์ เรือนร่าง และกลเม็ดเด็ดพรายทุกอย่างของผู้หญิง มัดใจชายหนุ่มอ่อนประสบการณ์อย่างเขาเอาไว้จนดิ้นไม่หลุด ด้วยหวังว่าเธอจะมีชีวิตบั้นปลายอันแสนสุขสบาย ได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับหรูหราไม่ต่างจากคนในวงสังคมชั้นสูงแต่ลางร้ายก็เริ่มปรากฏเสียตั้งแต่แรก เมื่อว่าที่พ่อสามีในขณะนั้นเกิดไม่เห็นดีเห็นชอบกับการแต่งงาน เพราะเห็นว่าบุตรชายของเขายังเด็กเกินไป ยังไม่เคยทำงานหรือแม้แต่รับผิดชอบชีวิตตัวเองเสียด้วยซ้ำกระนั้นเคนเน็ธก็ยังพยายามทำหน้าที่ของผู้เป็นพ่ออย่างดีที่สุด เขายกแมนชั่นขนาดใหญ่บนถนนพิกคาดิลลี ย่านใจกลางเมืองลอนดอนให้เป็นเรือนหอของทั้งคู่ มิหนำซ้ำยังมอบบัญชีเงินฝากจำนวนยี่สิบล้านปอนด์ให้เป็นทุนรอนติดตัวอีก ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้นักร้องจากบาร์ข้างถนนอย่างโรสได้มีโอกาสใช้ชีวิตเฉิดฉายเหมือนในวิมานที่เธอวาดไว้อยู่หลายปีแต่หลังจาก

  • คลื่นรักเชลยหัวใจ 1 เมียเชลย   บทที่ 1

    เพล้ง!!เสียงแจกันดอกไม้บนโต๊ะริมผนังถูกมือหญิงสาวชาวจีนกวาดกระเด็นลงไปกระทบพื้นจนแตกกระจายไม่มีชิ้นดี คิ้วของเธอขมวดแน่น ขณะที่ดวงตาชั้นเดียวตวัดมองไปยังชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียวที่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่อีกฟากของห้องด้วยแววตาเกรี้ยวกราด ริมฝีปากบางเฉียบถูกเม้มกัดจนแน่น ทำให้ใบหน้างดงามของเธอดูร้ายกาจราวกับคนละคน“ไม่รู้ล่ะ! ยังไงคราวนี้คุณก็ต้องเอาเงินไอ้แก่นั่นมาให้ได้!” หญิงสาวตวาดลั่น ยิ่งเห็นสามีชาวอังกฤษเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไม่ยอมพูดจาอะไร โรสก็ยิ่งเกิดโทสะ กระทืบรองเท้าส้นสูงลงบนดอกลิลีสองสามช่อที่ร่วงกระจายอยู่โดยไม่ใส่ใจว่าเศษแจกันอาจทิ่มตำพื้นรองเท้าของเธอจนทะลุได้ทำไมอัลเบิร์ตถึงไม่ได้เรื่องได้ราวขนาดนี้นะ... เสียแรงที่เป็นถึงลูกชายของมหาเศรษฐี กับอีแค่เงินแสนสองแสนปอนด์ เขาก็ยังไม่มีปัญญาหามาให้เธอได้... แล้วที่เธอยอมแต่งงานอยู่กินกับเขามาจนถึงป่านนี้มันเพื่ออะไรกัน... เพื่อเศษเงินที่พ่อผัวขี้เหนียวโยนมาให้ใช้เดือนละไม่กี่เพนนีอย่างนั้นน่ะหรือ...“ผมก็อ้อนวอนพ่อจนแทบจะกราบอยู่แล้วนะโรส แต่ในเมื่อท่านไม่ยอมให้ แล้วคุณจะให้ผมทำยังไงได้ล่ะ...” ผู้เป็นสามีตอบเสียงอ่อย ยืนคอตก ไหล่ห่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status