Share

บทที่ 20 ความทรงจำสีจาง

last update Last Updated: 2025-12-20 11:22:17

            เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง                                           

“คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที                                                       

“คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ”                                                            

“มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้                                                                                 

เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง                                                                                 

“มิรากลับบ้านได้แล้วลูก” หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ                                               

“คุณแม่ขา... มิราขอสร้างปราสาทเจ้าหญิงเสร็จก่อนได้ไหมคะ”      

“ไม่ได้! แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามไว้ใจคนแปลกหน้า” น้ำเสียงและสีหน้าของเขมมิกาแสดงออกถึงความหมางเมิน ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่โต้ตอบกลับไป เพราะเขากลัวมิราจะเสียใจ                          

“คุณลุงไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อย คุณลุงคือเพื่อนใหม่ของมิราค่ะ” คราวนี้หนูน้อยรีบชี้แจงออกไปทันที ก่อนจะลุกไปนั่งที่ตักศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศอย่างกับคนคุ้นเคย แน่นอนว่าสายเลือดนั้นย่อมตัดกันไม่ขาด                                                                             

มิรารู้จักประเมินสถานการณ์ถึงขนาดใช้สรรพนามเรียกเขาว่าลุงเหมือนเดิม เพราะกลัวมารดาจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนศาสตราจารย์ปรเมศแอบยกยิ้มมุมปาก หลังจากเห็นความเฉลียวฉลาดของหนูน้อย     “คุณเป็นผู้ใหญ่ก็ควรตักเตือนเด็ก มันไม่เหมาะเลยสักนิดหากคุณยังคงคิดที่จะเข้าใกล้ชิดมิรา”                       

“เด็กยังไงก็เป็นเด็กวันยังค่ำ ผ้าขาวผืนนี้ยังก็ต้องได้รับสีสันเข้าไปตกแต่ง แน่นอนมันจะสวยงามแค่ไหนย่อมขึ้นอยู่กับเจ้าของผลงาน คุณอยากให้มิรามีชีวิตแบบไหนเหรอเขมมิกา” ประโยคที่เขาพูดออกมานั้น ไม่ได้ทำให้เขมมิกาคล้อยตามเลยสักนิด ยังไงหญิงสาวก็ยังคงคิดว่าเขาไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อของมิราด้วยซ้ำ 

“ลูกของฉันเกี่ยวอะไรกับคุณ! ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!” คราวนี้เขมมิกาได้ตวาดน้ำเสียงออกมาอย่างกับคนกำลังเสียสติ จนมิรามองมารดาด้วยแววตาหวาดกลัว                                                               

“มิราไม่ต้องกลัวนะ แม่เขาแค่โมโหให้พ่อเท่านั้น หนูนั่งเล่นกับเจ้าคาโก้ไปก่อนนะ พ่อขอคุยธุระสำคัญกับแม่สักครู่นะครับ”                                

“ได้ค่ะ” ดูเหมือนมิรากำลังสับสน เมื่อเห็นท่าทีของมารดาที่ดูเปลี่ยนไปไม่อ่อนโยนเหมือนเดิม อีกทั้งคุณลุงที่เป็นเพื่อนบ้านของเธอ เขายังคงพูดย้ำคำว่าพ่อ ประหนึ่งจงใจให้หนูน้อยได้ทราบถึงสถานะแท้จริงระหว่างสายเลือด                                                                        

“คุณตามผมมา”                                                                        

“ไม่! ปล่อยฉันนะ!”                                                                   

“อย่าดื้อสิเห็นไหมว่ามิรากำลังมองเราอยู่ อยากให้ลูกเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันเหรอ”           

เขาพูดพลางคว้าข้อมือของเธอให้เดินตามเข้าไปด้านใน ซึ่งเขมมิกาจำใจต้องยอมให้เขาลากออกไป เพราะไม่อยากให้ลูกสาวเห็นภาพที่เธอต้องมาทะเลาะกับศาสตราจารย์ปรเมศ                                 

“ผมรู้ว่าผมผิด ให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่ของพ่อและสามีที่ดีได้ไหมเขม” ศาสตราจารย์หนุ่มไม่อ้อมค้อม พออยู่กันสองต่อสองเขารีบแสดงเจตจำนงทันที                                                             

“อะไรทำให้คุณมั่นใจว่าฉันจะให้อภัย ที่สำคัญมิราไม่ใช่ลูกของคุณ” เขมมิกาเชิดหน้าพูดออกมาอย่างไม่แยแสต่อความรู้สึกของอีกฝ่าย เธอเจ็บจนชาไปทั้งใจในวันที่เขาสั่งให้ทำร้ายลูกในไส้ของตัวเอง           

“ผมรู้นะว่าคุณกำลังโกหก มิราเป็นลูกของผม”                             

“มิราเป็นลูกของคุณมาลิค”                                                         

“เขม!” เขาเรียกชื่อเธออกมาด้วยน้ำเสียงเข้ม ทว่าหญิงสาวกลับทำเป็นไม่ได้ยิน                   

“เรื่องระหว่างเรามันจบไปแล้ว ฉันไม่คิดที่จะรื้อฟื้น”                                  

“ความรักที่ผมมีให้กับคุณ ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปสักกี่ปีก็ยังคงเหมือนเดิม ขอให้ผมได้ชดเชยในสิ่งที่เคยทำผิดพลาด ให้โอกาสผมสักครั้งได้ไหมเขม”                                                                                

“ตอนนี้ฉันไม่ต้องการคุณแล้ว ระหว่างทางที่ฉันเดินมาเพียงลำพังความทรงจำดี ๆ ที่เราเคยมีให้กัน มันได้หล่นหายไปจนไม่เหลืออะไรให้ฉันต้องจดแล้วค่ะ คุณอย่าพยายามอีกเลย”

เขมมิกาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ใบหน้าและแววตาของเธอแฝงไปด้วยความเย็นชา มันว่างเปล่าเสียจนศาสตราจารย์หนุ่มไม่คาดเดาได้ เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรกับเขาแล้ว                                                                                   

“ผมคือศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ตำแหน่งนี้ผมไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะเขมมิกา” เขาพูดพลางจ้องหน้าเธอ ซึ่งเป็นจังหวะที่คนทั้งสองได้สบตากันพอดี ทำให้หญิงสาวรีบหลบสายตาคมเธอมักจะแพ้ให้กับแววตาคู่นี้เสมอ                                                                           

ปลายนิ้วของศาสตราจารย์หนุ่มเชยปลายคางหญิงสาวให้หันมาทางเขา ทว่าเธอกลับปัดมือเขาออกอย่างไร้เยื่อใย ความเจ็บปวดที่อยู่กลางใจวันเวลาไม่อาจเยียวยารอยแผลที่เกิดจากรักร้าวได้                  

“ถ้าคุณอ่านใจฉันออกจริง ๆ แล้วล่ะก็... คุณคงรู้ว่าฉันกำลังก่นด่าคุณสารพัด จนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าได้อีกแล้ว”                             

“เขมมิกาคุณหนีผมไม่พ้นหรอก”                                                             

“ใครบอกว่าฉันจะหนี” ดวงตาของเขมมิกาแฝงไปด้วยร่องรอยของความแข็งกระด้าง ประหนึ่งกำลังท้าทายอำนาจอดีตสามี                             

“ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้คุณยอมรับผมในฐานะสามีและพ่อของลูกให้ได้”                                   

“ฉันเองก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองกับลูกรอดพ้นจากปีศาจร้ายอย่างคุณ! ฉันขอสั่งห้ามคุณเข้าใกล้มิราอีกเด็ดขาด!” เขมมิกาพูดทิ้งท้ายประโยคเหน็บแนมเอาไว้ ก่อนจะเดินออกไปจูงมือลูกสาวกลับบ้านตัวเอง ปล่อยให้ศาสตราจารย์หนุ่มมองตามหลังด้วยสายตาละห้อย                                  

ไวน์ราคาแพงถูกเปิดดื่มจนเกือบหมดขวด เขาไม่คิดว่าเขมมิกาจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เธอดูเข้มแข็งและใจเด็ดกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก ไม่ว่ายังไงศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศก็ไม่มีวันถอดใจ เขาจะหาทางทำให้เขมมิกากลับมาเป็นภรรยาให้ได้                                                       

“เป็นไงบ้างครับบอส” นทีรีบบึ่งรถมาหาเขาทันที หลังจากได้ส่งข้อมูลของเขมมิกาและมิรารวมทั้งมาลิค ให้กับศาสตราจารย์หนุ่มไปจนครบแล้ว                                                                              

“เธอไม่ยอมให้ฉันเข้าใกล้มิราอีก”                                                           

“ผมก็จนปัญญาจะช่วยแล้วครับบอส ถ้าไปต่อไม่ได้ก็อย่าฝืน เพราะสุดท้ายแล้วคนที่เจ็บที่สุดคือคุณหนูมิรา”                                          

“แต่นั่นลูกกับเมียฉันนะนที ฉันรู้ดีว่าต้องทำยังไง เพราะสองคนนี้มีความสำคัญกับชีวิตของฉันมาก รอให้เธอใจเย็นลงก่อนเดี๋ยวฉันจะลองพูดกับเธออีกที”                                                                      

“ชีวิตของคุณเขมมิกาผ่านเรื่องราวร้าย ๆ มามาก เธอคงเจ็บปวดกับคนใกล้ตัว จนหวาดกลัวไม่กล้ากลับไปอยู่ในจุดนั้นอีกแล้ว”             

“ถ้าหากวันเวลาไม่สามารถเยียวยาจิตใจของเธอได้ ฉันนี่แหละจะเป็นยาใจรักษาแผลเป็นที่เคยทำไว้ให้เธอหายดี”                                            

“หึ! เมาแล้วเพ้อเก่งเหมือนกันนะบอสเนี่ย”                                              

“ใครบอกฉันเมาขวดนี้แค่ชิม”                                                     

“คร้าบบบ...” นทีลากเสียงด้วยความหมั่นไส้ ที่เห็นผู้ชายอย่างปรเมศกลับใจ ทำของหายแล้วอยากได้คืน แต่มันคงยากเพราะสิ่งของที่เขาทำหลุดมือไปนั้น กำลังพยศอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดราวาศอกให้กับเขาด้วยซ้ำ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 23 มัดมือชก

    ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 22 พ่อบุญธรรม21/2

    เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 21 พ่อบุญธรรม

    ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 20 ความทรงจำสีจาง

    เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 19 พ่อ

    หลังจากการวางยาเขมมิกาไม่สำเร็จ ทำให้รองอธิการฐานินโกรธมาก เขาไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยอาจารย์สุชาติ ปล่อยลอยแพเขาไปกับโชคชะตาแสนโหดร้าย “ท่านจะไม่ช่วยเขาจริง ๆ เหรอครับ” มือขวาของชายสูงวัยเอ่ยขึ้น หลังจากรู้ว่าอาจารย์สุชาติกำลังจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ “มันทำงานไม่สำเร็จก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่เหรอ” “แต่เขายังมีภรรยากับลูกชายเพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือนนะครับท่าน” “พูดแบบนี้หรือว่าแกอยากเป็นคนถูกส่งออกนอกประเทศเสียเอง” “ปะ... เปล่าครับท่าน” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธออกไปทันควัน เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจโดนหางเลขไปด้วย“คุณพ่อขา... วันนี้ญาไปหาศาตราจารย์ปรเมศ แต่ก็ไม่เจอถามแม่บ้านก็ไม่ได้คำตอบ ญาโทรหาเขาจนสายจะไหม้เขากลับไม่รับสาย สรุปแล้วเขาเห็นญาเป็นตัวอะไรคะคุณพ่อ” ญานินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นบิดา พลางบีบน้ำตาร้องไห้ออกมา เมื่อผู้ชายที่หมายปองไม่ยอมแม้แต่จะกดรับสายหล่อน “เขาคงยุ่งอยู่น่ะ”

  • ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก 18++   บทที่ 18 ท่านประธาน      

    ณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง “เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน” “อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ” “ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status