LOGINณ ห้องอาหารสุดหรู
เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่
พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว
“คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด
“พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
“สวัสดีค่ะท่านประจักษ์ คุณทับทิม” เนเน่กล่าวทักทายสองพ่อลูกออกมาด้วยประโยคห่างเหิน
“เนเน่!” สองพ่อลูกอุทานออกมาด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะเจอกับเนเน่ที่นี่
“แกโผล่หัวมาแล้วเหรอ” คำทักทายแรกของพ่อบุญธรรม ช่างทำให้เธอเสียดายเวลา ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับครอบครัวของเขามาหลายปี ซึ่งหญิงสาวใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนั้นเยี่ยงทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ แต่กลับถูกทับทิมกลั่นแกล้งสารพัด
“ดิฉันมาในฐานะผู้ช่วยนักออกแบบ ไม่คิดเลยว่าลูกค้าจะเป็นท่านประจักษ์กับลูกสาวคนสวย”
“ถ้าหากต้องทำงานร่วมกับคนอย่างแก ฉันขอเลือกยกเลิกออเดอร์ทั้งหมดดีกว่า” เนเน่ไม่คิดว่าชายสูงวัยจะเกลียดเธอเข้าไส้ถึงเพียงนี้ ก็แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ว่าทับทิมจะใส่ร้ายป้ายสีเธอยังไง พ่อแม่บุญธรรมก็เลือกที่จะเข้าข้างสายเลือดของเขาอยู่ดี
“ท่านควรแยกแยะอย่าเอาเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมาปนกันสิค่ะ”
“นี่เธอหาว่าฉันเป็นคนไม่มีเหตุผลเหรอ“
“สวัสดีครับท่านประจักษ์คุณทับทิม ผมมาลิคยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” พอเดินเข้ามาถึงมาลิครีบกล่าวคำทักทายออกไปทันที ก่อนที่เขาจะเลื่อนเก้าอี้ให้กับเนเน่ ทำเอาทับทิมไม่พอใจหญิงสาวอยู่เนือง ๆ
“คุณมาลิคใจดีกับพนักงานจังเลยนะคะ”
“ก็ไม่เสมอไปหรอกนะครับ”
“แต่เมื่อกี้คุณเลื่อนเก้าอี้ให้กับผู้ช่วยนักออกแบบด้วย ไม่รู้ว่าเธอใช้มารยาอะไรประจบประแจง ก็อย่างว่านะคะผู้หญิงที่มาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าย่อมมีปม ก็เลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อนยกระดับตัวเองขึ้นมา”
“มันจะมากไปแล้วนะคะคุณทับทิม”
“ฉันพูดจี้ใจดำเธอรึไง ถึงได้แสดงสีหน้าไม่พอใจขนาดนั้น” หล่อนตั้งใจแสดงท่าทีไม่ชอบหน้าเนเน่ออกมาอย่างชัดเจน เพราะหวังอยากให้มาลิคไล่ผู้ช่วยนักออกแบบไปให้พ้นทาง
“เรามาคุยเรื่องงานกันไม่ใช่เหรอครับ” มาลิคกำมือแน่น เขาเตรียมลุกขึ้นหลายครั้ง ทว่าเนเน่ได้ใช้สายตาปรามเขาเอาไว้ เพราะเธออยากเห็นสองพ่อลูกพ่ายแพ้บ้าง
“ใช่ครับคุณมาลิค แต่ผมขอเปลี่ยนผู้ช่วยนักออกแบบนะครับ”
“คงไม่ได้หรอกครับ โปรเจ็กต์นี้คุณเนเน่ทำเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ”
“ไม่ใช่ไปแอบคัดลอกผลงานของใครมาขายให้เราหรอกนะคะ”
“บริษัทของผมไม่เคยทำแบบนั้น ที่สำคัญผู้บริหารและพนักงานของเราล้วนมีจรรยาบรรณทุกคน พูดแบบนี้เห็นทีเราคงทำธุรกิจร่วมกันไม่ได้หรอกนะครับ”
“คุณมาลิค! ฟังผมอธิบายก่อนครับ”
“ขอโทษนะครับ ผมมีธุระสำคัญคงอยู่ทานข้าวด้วยไม่ได้”
หมับ! เขาคว้าข้อมือเล็กมากุมเอาไว้ ก่อนจะลากหญิงสาวออกไปให้พ้นจากคนใจร้าย ทำเอาเนเน่ต้องรีบสับเท้าก้าวออกไปให้ไว
“คุณพ่อ! เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมคุณมาลิคถึงได้สนใจยัยนั่นเป็นพิเศษ”
“พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่บรรจุภัณฑ์ของเราจะไปหามาจากไหนได้ทันเวลา” คราวนี้ชายสูงวัยถึงกับกุมขมับหลังจากถูกมาลิคปฏิเสธ
“ทับทิมจะทำให้นังนั่นรู้จักกับหายนะ พ่อไม่ต้องห่วงนะคะ”
สองพ่อลูกยังคงเชื่อมั่นในตัวเอง ทั้งที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ถ้าหากเนเน่ไม่เห็นว่านายประจักษ์มีบุญคุณกับเธออยู่บ้าง ป่านนี้หญิงสาวคงให้สามีของเธอจัดการ ทำให้บริษัทของเขาล้มละลายไปแล้ว
“เป็นอะไรไปทำไมทำหน้าแบบนั้น... หืม” เมื่อขับรถออกมาได้สักพัก มาลิคเริ่มเอ่ยถามภรรยาของเขาออกมาด้วยความห่วงใย
“จอดค่ะจอด!”
“มีอะไรหรือเปล่า” มาลิคถึงกับแสดงสีหน้าตกอกตกใจ เมื่ออยู่ ๆ เนเน่ก็พูดออกมาด้วยท่าทีตื่นเต้น
“ข้าวต้มร้านนี้อร่อยมาก สมัยเรียนฉันมักจะมากินบ่อย ๆ”
“เหรอครับ”
“ข้าวต้มริมทางคุณทานได้ไหมคะ”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ”
“คุณมาลิคค่ะ” หญิงสาวไม่ยอมลงไปจากรถ เธอยังคงคาใจเรื่องลูกค้าคนสำคัญอย่างนายประจักษ์
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ... ไม่มีค่ะ”
“แน่ใจนะครับ”
“ค่ะ” เนเน่รีบเดินลงไปจากรถ แล้วสั่งข้าวต้มมาสองชาม เธอมองหน้ามาลิคด้วยความสงสัย ตั้งแต่แต่งงานกันมาหลายปี เขาไม่เคยทำให้เธอเสียใจเลยสักครั้งทั้งที่ชายหนุ่มนั้นเพอร์เฟกต์ไปเสียทุกอย่าง ในแต่ละวันเขาเจอผู้หญิงมากหน้าหลายตา ทั้งสวยและรวยจนเธอเทียบไม่ติด
“ทำไมมองผมแบบนั้นล่ะ”
“เปล่าค่ะไม่มีอะไร” เธอยิ้มแหย ๆ ออกมา จนมาลิคสัมผัสได้ถึงพิรุธ
“เราแต่งงานเป็นสามีภรรยากันมาก็หลายปี คุณคิดเหรอว่าผมมองไม่ออก เนเน่ผมรักคุณนะ”
“บอกรักในร้านข้าวต้มริมทางเนี่ยนะ โรแมนติกไปอีกแบบขอบคุณนะคะ”
“คุณกำลังประชดผมอยู่หรือเปล่าครับ”
“ฉันพูดความจริงค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้...”
“กินข้าวต้มไปเลยค่ะ” หญิงสาวรีบพูดตัดบท ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว เมื่อเขาพูดในสิ่งที่กำลังทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง มาลิคแอบยกยิ้มมุมปากให้กับความน่ารักของเธอ ไม่ว่ายังไงเขาก็รักเนเน่เหมือนเดิม
ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได
เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ
ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง
หลังจากการวางยาเขมมิกาไม่สำเร็จ ทำให้รองอธิการฐานินโกรธมาก เขาไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยอาจารย์สุชาติ ปล่อยลอยแพเขาไปกับโชคชะตาแสนโหดร้าย “ท่านจะไม่ช่วยเขาจริง ๆ เหรอครับ” มือขวาของชายสูงวัยเอ่ยขึ้น หลังจากรู้ว่าอาจารย์สุชาติกำลังจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ “มันทำงานไม่สำเร็จก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่เหรอ” “แต่เขายังมีภรรยากับลูกชายเพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือนนะครับท่าน” “พูดแบบนี้หรือว่าแกอยากเป็นคนถูกส่งออกนอกประเทศเสียเอง” “ปะ... เปล่าครับท่าน” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธออกไปทันควัน เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจโดนหางเลขไปด้วย“คุณพ่อขา... วันนี้ญาไปหาศาตราจารย์ปรเมศ แต่ก็ไม่เจอถามแม่บ้านก็ไม่ได้คำตอบ ญาโทรหาเขาจนสายจะไหม้เขากลับไม่รับสาย สรุปแล้วเขาเห็นญาเป็นตัวอะไรคะคุณพ่อ” ญานินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นบิดา พลางบีบน้ำตาร้องไห้ออกมา เมื่อผู้ชายที่หมายปองไม่ยอมแม้แต่จะกดรับสายหล่อน “เขาคงยุ่งอยู่น่ะ”
ณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง “เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน” “อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ” “ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตร







