LOGINบทที่ 4
แซคพาร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเทาเข้มปลดเนคไทออก คลายกระดุมบนสามเม็ดเพื่อต้องการให้ไม่ดูเป็นทางการมากเกินไปนัก เขาเปิดประตูร้านคาเฟ่ขนาดไม่ใหญ่แต่ก็ไม่ได้เล็กประมาณห้องสองคูหา ซึ่งมันทำให้เขาแปลกใจที่เปรมาสามารถหาร้านขนาดนี้ได้ท่ามกลางย่านธุรกิจกลางเมือง
เสียงพนักงานต้อนรับเอ่ยด้วยสำเนียงหวานใสชวนไพเราะ มีเสียงกระซิบกระซาบเบา ๆ เป็นภาษาไทยขณะที่เขาเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ารับอะไรดีคะ”
“ขอไอซ์อเมริกาโน่ไม่รับไซรับครับ”
“ได้ค่ะ รับเค้กทานเพิ่มด้วยไหมคะ”
แซคก้าวไปยังตู้แช่เค้กแบบกระจกโค้งด้านหน้าถัดไปที่เคาน์เตอร์ มองเค้กหลากหลายหน้าตาดูดีทีเดียว แล้วจึงสั่งช็อกโกแลตเค้กนมสดหนึ่งชิ้น
หลังจากชำระค่ากาแฟเรียบร้อยจึงไปนั่งรอตรงมุมห้องเป็นโซฟาทรงเตี้ยนุ่มสบาย มองดูไปรอบ ๆ ร้านตกแต่งแบบผู้หญิงแท้ ๆ ด้วยสีละมุนตาโทนชมพูและครีมเป็นหลัก
“ได้แล้วค่า”
พนักงานสาวหน้าตาหมดจดย่อกายลงนิดเพื่อวางแก้วกาแฟและจานเค้กบนโต๊ะเตี้ยด้านหน้าชายหนุ่มหล่อ เขายิ้มรับขอบคุณจนสาวน้อยหน้าแดงอายม้วนซอยเท้าถี่เข้าไปยังด้านหลังเคาน์เตอร์
แซคทำเพียงนั่งเอนกายกับพนักพิงโซฟา ขาทั้งสองข้างแยกออกจากกันเล็กน้อยทำให้กางเกงผ้าที่สวมอยู่ตึงแนบกล้ามเนื้อที่เขามั่นออกกำลังกาย
มีลูกค้าบางตาในช่วงบ่ายค่อนเย็นซึ่งเขาตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น แซครู้ว่าร้านของเปรมาจะปิดในเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมง เขานั่งรออีกประมาณสิบห้านาทีปล่อยเวลาพร้อมทั้งสำรวจไปทั่วร้านที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของหญิงสาว แล้วจึงเดินไปหาพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์
“รบกวนหน่อยครับ”
พนักงานคนเดิมซึ่งยังหน้าแดงยืนบิดผ้าเช็ดโต๊ะในมือไม่กล้าแม้จะเงยมองหน้าเขา
“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
แซคยิ้มกว้างอีกครั้งซึ่งเขาคิดว่าเป็นยิ้มปกติทั่วไป แต่ยิ่งทำให้พนักงานสาวอายหนักยิ่งกว่าเดิม
“รบกวนตามคุณเปรมา เออ คุณเลิฟให้หน่อยนะครับ”
ร่างสูงใหญ่เดินกลับไปที่โต๊ะโดยไม่ทันเห็นว่าพนักงานสาวตาโตรีบวิ่งเข้าไปหลังร้านจนกระทั่งปัดของตกพื้น
“พี่เลิฟคะ พี่เลิฟ”
เปรมากำลังแขวนผ้ากันเปื้อนหลังจากเก็บของทุกอย่างเรียบร้อยเตรียมปิดร้าน มองพนักงานหน้าร้านที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาทั้ง ๆ ที่ก็อยู่ใกล้แค่ประตูกัน
“มีอะไรเจ้าปุ๊ก แล้วนี่จะวิ่งทำไมเดี๋ยวล้ม ข้างในยังไม่ได้กวาดแป้งหกอยู่เต็มพื้น”
“มะ มีคนมาหาคะพี่เลิฟ หล่อมากกกกก เป็นฝรั่ง”
เปรมาถึงกับสะดุ้ง ฝรั่ง ไม่คิดว่าเขามาได้ตรงเวลาสามวันผ่านไปพอดี เธอหันไปหาน้องผู้ช่วยแผนกขนม ปลดหมวกคลุมผมออกจากศีรษะนำไปใส่ตะกร้ารอแม่บ้านมาเก็บไปซัก ก่อนเดินออกไปเธอมองประตูกระจกที่สะท้อนเงาของตัวเอง เอามือสางผมที่ยุ่งเหยิงลูบให้เป็นระเบียบเสียหน่อย
“เดี๋ยวช่วยเก็บกวาดให้สะอาดด้วยนะ”
เธอเดินออกมาจากห้องด้านในทางหลังเคาน์เตอร์ ชะโงกมองหาเห็นเพียงแต่ท่อนขาก่อนอันดับแรก ขาแกร่งใหญ่ยาวในกางเกงขายาวสีเทาเข้ม
เปรมาถอยร่างกลับจับเนื้อตัวอีกครั้งในแน่ใจว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยดี ก่อนก้าวออกไปจากหลังเคาน์เตอร์ด้วยชีพจรเต้นถี่
ใบหน้าแกร่งคมเข้มเงยขึ้นมองเธอทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบา เขาเห็นรองเท้าผ้าใบสีขาวเรียบง่าย แล้วกวาดสายตาไล่ขึ้นทีละนิดผ่านปลีน่องใต้กระโปรงทรงเอสีน้ำตาลอ่อนสั้นเลยเข่าเผยให้เห็นขาเพรียวสมส่วนไปยังสะโพกผายสู่เอวคอดกิ่ว
ชีพจรเขาเต้นแรงรัวเร็วเมื่อผ่านทรวงอกอวบอิ่มที่ดันนูนภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อบางจนมองเห็นสีชุดชั้นในลาง ๆ ไปยังลำคอระหงสู่ใบหน้าคมงามจนถึงดวงตาคมรีกำลังส่อแววกรุ่นโกรธ
ผมยาวสยายยุ่งเหยิงล้อมกรอบหน้าคม และให้ตายเถอะ ตัวจริงของพี่สาวว่าที่ภรรยาเจ้าลูกชายช่างร้อนฉ่าเกินกว่าที่กล้องถ่ายรูปจะจับอุณหภูมิได้
แซคกลืนน้ำลายลงคอก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งจนแม้แต่เขาเองยังแปลกใจ ผายมือไปยังเก้าอี้ด้านข้าง
“ผมแซค”
เปรมายืนกอดอกรอจนกระทั่งดวงตาสีเข้มดุจ้องตาเธอ แม้ใบหน้าเธอเห่อร้อนจากการกระทำของหนุ่มใหญ่ตรงหน้า แต่เธอยังคงข่มสติไว้ไม่ให้วีนแตกออกมา
กระแทกก้นงามลงบนเบาะใกล้กับเขายกขาขึ้นไขว้ห้างทันที มือเรียวยังกอดอกตัวเองไว้แน่นดั่งป้องกันตัวเองจากสายตาแทะโลม
“เร็วหน่อยนะคะ ร้านกำลังปิดแล้ว”
เธอมองมุมปากหนาที่หยักขึ้นเล็กน้อยก่อนเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ทำให้เธอถึงกับขนลุก
“เรื่องของลูกชายผม ผมอยากมาตกลงกับคุณให้รู้เรื่อง”
“ตกลง หมายถึงอะไรคะ ช่วยพูดให้กระจ่างด้วยค่ะ”
เขาเอนกายพิงพนักโซฟามือประสานตรงด้านหน้าระหว่างพิจารณาเม่นสาวที่พร้อมพุ่งเข็มบนตัวใส่เขาตลอดเวลา
“คุณดูอายุน้อยกว่าที่ผมคิด”
“หมายความว่ายังไงคะ และเลิกทำแบบสักที”
บทที่ 7เปรมาวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะด้านหน้าระหว่างรอ จากหางตาเห็นแซคเดินไปมุมห้องอีกด้านมีบาร์เครื่องดื่มเล็ก ๆ“นี่ค่ะใบเสนอราคา”เธอรีบยื่นเอกสารไปตรงหน้าเมื่อเขากลับมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามเธอหลังจากวางแก้วน้ำเปล่าแซครับแฟ้มเอกสารเปิดออกดูเล็กน้อยแล้วจึงวางลงตรงหน้า เขามองสาวร่างอิ่มที่วันนี้มวยผมอวดดวงหน้าคมเรียวและลำคอระหง สายตาหลุบลงกวาดไล้ไปยังเสื้อเชิ้ตที่ผลิพุ่งจากทรวงอกอวบ ก่อนจะเหลือบขึ้นปะทะสายตารีที่กำลังหรี่ลงเอาเรื่อง“เป็นยังไงคะ ไม่ทราบว่าคุณพอใจกับราคาหรือเปล่า”“ครับ คุณเสนอมายังไงทางบริษัทผมก็รับหมด”แซคเอนกายไปด้านหลังยกมือประสานประกบไว้ใต้คางยกขาไขว้ห้างระหว่างพิจารณาหญิงสาวด้านหน้า“อันที่จริงที่ผมให้คุณมาวันนี้เพราะมีข้อเสนอให้คุณเช่นกัน”เปรมาหยิบแฟ้มเอกสารกลับมาไว้กับตัว เธอเงยหน้าขึ้นมองแซค ท่วงท่านักธุรกิจที่กำลังพิจารณาประเมินสิ่งของทำเธอฉุนเฉียวเล็กน้อยหากแต่ข่มไว้“ค่ะ ถ้างั้นอันที่จริงคุณไม่ได้ต้องการขนมของร้านฉันใช่ไหมคะ”“ไม่ครับ ทางบริษัทต้องการอย่างยิ่ง ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับที่ผมจะพูด”เปรมาค่อยใจชื้นขึ้น อย่างน้อยเธอจะยังได้งานส่งขนมกับบริษัทยักษ์ใหญ่
บทที่ 6ความคิดกังวลยังวนเวียนแม้ผ่านมาแล้วหลายวัน พ่อของแซมไม่ยอมให้เด็กทั้งสองแต่งงานกัน แล้วเธอที่เป็นพี่สาวจะบอกน้องสาวที่เธอรักมากยังไงดีแม้มือยังเทส่วนผสมลงในเครื่องผสมสำหรับทำคุกกี้ แต่ใจยังวกวนหาทางออกไม่ได้ นึกภาพปาริมาที่ยังคงปกติดีไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเขาจะเพียงแค่ขู่ เสียงทุ้มยังก้องอยู่ในหัวสลัดออกไม่ได้เลยเธอพยายามเลิกสนใจเรื่องของแซค แล้วกลับมาทำงานต่อ เปรมาบีบแบทเทอร์[1]คุกกี้เนยสดลงบนถาดที่ปูรองด้วยแผ่นรองกระดาษสำหรับอบเค้ก มือบีบวนขดเป็นรูปขดหอยเป็นแถว ๆ เรียงเป็นระเบียบแล้วจึงวางเม็ดอัลมอนด์ตรงกลางเธอทำซ้ำวนไปอีกถาดอย่างต่อเนื่อง งานในร้านกาแฟกึ่งเบเกอรี่เป็นงานค่อนข้างหนักและมักทำให้เธอไม่มีเวลาหยุดพัก ยกเว้นช่วงหลังเลิกงานที่จริงเธอตั้งใจจะเพิ่มพนักงานอีกสักสองคนหลังร้านเพื่อมาช่วยงาน ถ้าเธอได้ลูกค้ารับขนมส่งเป็นประจำนั่นอาจจะพอทำได้“กริ๊ง กริ๊ง”เปรมาเหลือบตามองโทรศัพท์ ตายยากเสียจริง เธอวางถุงบีบคุกกี้ถอดถุงมือยางเพื่อปัดรับโทรศัพท์“สวัสดีค่ะ”“คุณรับสายช้า”ดวงตารีเหลือบตามองบนอย่างระอาใจ แค่เรื่องเล็กน้อยเขายังเอาแต่ใจเพียงนี้“ฉันกำลังทำงานอยู่ ค
บทที่ 5เปรมาจ้องเขาตรง ๆ เห็นสายตาคมเข้มยังกวาดไล้ไปบนร่างกายของเธอดั่งประเมินตีราคางานที่เขาประมูล และเธอไม่ชอบมันเลยสักนิด“ผมทำอะไรเลิฟ”“ก็คุณกำลังกวาดตาประเมินราคาฉันอยู่น่ะสิ แล้วชื่อนั้นมีไว้สำหรับคนที่สนิทเท่านั้น”แซคยิ้มกว้างจนเปรมาสะอึกสะดุดลมหายใจของตัวเอง เธอคิดว่าเขารู้ตัวดีเลยทีเดียวว่าถ้าเขาทำแบบนี้สาว ๆ ทั้งหลายจะพากันหลอมละลาย“แต่เรากำลังจะเกี่ยวดองเป็นญาติกัน นั่นยังไม่ถือว่าสนิทกันอีกหรือครับ และผมชอบดูของสวย ๆ งาม ๆ ซึ่งคุณเป็นหนึ่งในนั้น”บ้าจริง! เปรมาสะบัดหนีดวงตาคมเข้ม เธอรู้สึกว่าเขากำลังเปลื้องผ้าเธอออกทีละชิ้นอย่างช้า ๆ ด้วยสายตา และประเมินว่าเธอเหมาะสมกับครอบครัวของเขาหรือเปล่า“พูดสิ่งที่คุณคิดดีกว่าคุณฮิวส์”“สิ่งที่ผมคิดก็คือพวกเขายังเด็กเกินไป”“พวกเขาไม่เด็กแล้ว ปีหน้าพวกเขาก็อายุยี่สิบซึ่งบรรลุนิติภาวะ”“นั่นมันเรื่องของปีหน้า แต่ปีนี้พวกเขาเพิ่งสิบเก้าปีเท่านั้น”“แต่เด็กทั้งสองคนรักกัน และฉันคิดว่าเราควรสนับสนุน”“เลิฟ พวกเขายังเด็กเกินไป”แซคเสียงเข้มขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องของลูกชาย เขาเองไม่อยากให้แซมต้องหยุดชีวิตวัยรุ่นเพียงผู้หญิงคนเดียวตั้งแต่
บทที่ 4แซคพาร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเทาเข้มปลดเนคไทออก คลายกระดุมบนสามเม็ดเพื่อต้องการให้ไม่ดูเป็นทางการมากเกินไปนัก เขาเปิดประตูร้านคาเฟ่ขนาดไม่ใหญ่แต่ก็ไม่ได้เล็กประมาณห้องสองคูหา ซึ่งมันทำให้เขาแปลกใจที่เปรมาสามารถหาร้านขนาดนี้ได้ท่ามกลางย่านธุรกิจกลางเมืองเสียงพนักงานต้อนรับเอ่ยด้วยสำเนียงหวานใสชวนไพเราะ มีเสียงกระซิบกระซาบเบา ๆ เป็นภาษาไทยขณะที่เขาเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ารับอะไรดีคะ”“ขอไอซ์อเมริกาโน่ไม่รับไซรับครับ”“ได้ค่ะ รับเค้กทานเพิ่มด้วยไหมคะ”แซคก้าวไปยังตู้แช่เค้กแบบกระจกโค้งด้านหน้าถัดไปที่เคาน์เตอร์ มองเค้กหลากหลายหน้าตาดูดีทีเดียว แล้วจึงสั่งช็อกโกแลตเค้กนมสดหนึ่งชิ้นหลังจากชำระค่ากาแฟเรียบร้อยจึงไปนั่งรอตรงมุมห้องเป็นโซฟาทรงเตี้ยนุ่มสบาย มองดูไปรอบ ๆ ร้านตกแต่งแบบผู้หญิงแท้ ๆ ด้วยสีละมุนตาโทนชมพูและครีมเป็นหลัก“ได้แล้วค่า”พนักงานสาวหน้าตาหมดจดย่อกายลงนิดเพื่อวางแก้วกาแฟและจานเค้กบนโต๊ะเตี้ยด้านหน้าชายหนุ่มหล่อ เขายิ้มรับขอบคุณจนสาวน้อยหน้าแดงอายม้วนซอยเท้าถี่เข้าไปยังด้านหลังเคาน์เตอร์แซคทำเพียงนั่งเอนกายกับพนักพิงโซฟา ขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน
บทที่ 3“ตุบ”เปรมาโยนกุญแจรถลงบนตู้เก็บของทางเข้าคอนโดมิเนียมที่เธอซื้อไว้สำหรับพักอาศัยกับน้องสาวสองคนความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานและกล้ามเนื้อตึงเครียดทำให้เธอต้องการแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำเสียหน่อยเปรมาเดินเข้าไปยังห้องน้ำแล้วเปิดน้ำอุ่นลงอ่างอาบน้ำขนาดไม่ใหญ่มากนักในคอนโดมิเนียมราคาปานกลาง พาร่างอวบอิ่มกลับเข้าไปยังห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเปรมาหยุดลงที่กระจกบานยาวในห้องแต่งตัว ดวงหน้าอาจดูสวยคมแต่ผมหยักศกเป็นลอนทำให้ใบหน้ากลับหวาน เธอยืดร่างเปลือยเปล่าเขย่งปลายเท้ามองกระจก เอวเธออาจเล็กหากแต่หน้าอกและสะโพกผายทำให้เธอดูอ้วนท้วม เธอบิดกายหันข้างก่อนถอนหายใจเฮ้อ รู้สึกเหมือนจะน้ำหนักขึ้น ฉันกำลังจะกลายเป็นสาวขึ้นคานอายุยี่สิบหกที่มีหุ่นเหมือนคุณป้าเธอหยิบผ้าเช็ดตัวและโทรศัพท์เข้าห้องน้ำ หย่อนร่างลงในน้ำที่เพิ่งเริ่มเติมได้แค่ค่อนล่างของอ่าง“ป่านนี้เจ้าหนูสองคนเป็นยังไงบ้างนะ”เปรมาสงสารน้องสาว ปาริมาค่อนข้างหัวอ่อนและเรียบร้อย เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ดูท่าทางแล้วคงดุใช่เล่น ไม่รู้ว่าน้องของเธอรับมือไหวหรือเปล่า“กริ๊ง กริ๊ง”ร่างอวบอิ่มสะดุ้งด้วยที่ว่ากำลังคิดเพลิน มองหน้าจอโท
บทที่ 2เปรมาเปลี่ยนท่าจากเท้าแขนเป็นเอนตัวพิงพนัก ดวงตาคมรีนิ่งใช้ความคิด“พี่เลิฟอยากเห็นพ่อของแซมไหมคะ นี่ไงคะ พ่อแซมชื่อแซค รูปนี้เพจเพิ่งลงเมื่อสองวันก่อน พ่อของแซมไปงานเลี้ยงธุรกิจในโรงแรม ดารา คนดังไปกันเยอะเลยค่ะ”คิ้วโก่งสวยบนหน้าหวานยกขึ้น เธอชะโงกตัวไปยังกลางโต๊ะเพื่อมองหน้าจอโทรศัพท์ที่น้องสาวเปิดภาพพ่อของแซมให้ดูในภาพเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งอายุราวปลายสามสิบหรืออาจต้นสี่สิบ สวมสูทราคาแพงพอดีตัวรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าแกร่งคมด้วยคิ้วเข้มดกหนาได้รูป จมูกโด่งสูงแต่ปลายงุ้มลงเล็กน้อย นัยน์ตาดำคมกริบดุดัน ผมสีเข้มดำสนิท ทุกสิ่งทุกอย่างบนร่างกายชายคนนี้ช่างผิดแผกแตกต่างไปจากลูกชายของเขาโดยสิ้นเชิงเปรมาเงยหน้าขึ้นมองแซมด้วยใบหน้าฉงน จนแม้แต่แซมเองยังเข้าใจยิ้มแห้ง ๆ ออกมา“ผมเหมือนแม่น่ะครับพี่เลิฟ”เปรมาพยักหน้าแล้วก้มมองรูปภาพในโทรศัพท์อีกครั้ง นอกจากรูปร่างสูงใหญ่แล้ว เธอยังเห็นความสง่างามและหยิ่งทะนงอยู่ในท่ายืนตรงมือล้วงกระเป๋าหนึ่งข้าง มองกล้องดั่งชายผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูงและครอบครองโลกใบนี้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างของเขาโอบเอวนางแบบชื่อดังไว้แนบกาย“ลิฟ กลับไปคอนโดอา







