หน้าหลัก / โรแมนติก / คำพิพากษาซาตาน / บทที่ 28 ความจริงเปิดเผย

แชร์

บทที่ 28 ความจริงเปิดเผย

ผู้เขียน: กมนีย์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-24 12:23:58

เจคอปมุ่งหน้าไปยังห้องผ่าตัดด้วยอารมณ์คุกรุ่น ใจอยากจะถึงตัวนาเดียให้เร็วที่สุด ในหัวเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ครางแครงใจในคำพูดของน้องชาย อารมณ์หึงหวงครอบงำความคิดจนมองไม่ออกว่าตนกำลังถูกน้องชายปั่นหัวอยู่ ฝีเท้ารีบเร่งจนเหมือนจะออกวิ่งอยู่แล้ว ฝ่ามือก็เร่งพิมพ์ข้อความส่งให้หญิงสาว ขณะนี้เป็นเวลาพักเที่ยง หล่อนเองก็คงจะพักอยู่เหมือนกัน

'ออกมาหาฉันที่บันไดหนีไฟชั้น 3 เดี๋ยวนี้' - เจคอป

'หนูกำลังทานข้าวอยู่ รอสัก 10 นาทีได้ไหมคะ' - นาเดีย

'เดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!' - เจคอป

นาเดียกำโทรศัพท์ในมือแน่น ก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนรักที่ยอมกลับมาคุยกัน ทั้งสองกำลังสนทนาเกี่ยวกับเรื่องงานประชุมที่พัทยาสุดสัปดาห์นี้ นาเดียเหงื่อแตกพลั่ก พยายามคิดหาวิธีโกหกเพื่อปลีกตัวออกไปหาชายอีกคนที่ไม่รู้ว่ามีเรื่องด่วนอะไรถึงเร่งรัดกันขนาดนี้

“อู๊ยยย แก ฉันปวดท้อง ขอไปเข้าห้องน้ำแปบนึงนะ” ใบหน้าเหยเกด้วยความปวดหน่วงเมื่อถูกข้าศึกโจมตีกระทันหัน ญาดาพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะปล่อยให้นาเดียรีบวิ่งหายไป

ระหว่างที่ยืนรอนาเดียด้วยหัวใจร้อนรุ่ม เสียงสนทนาของใครบางคนก็ดังขึ้นมาจากชั้นล่าง เขาพยายามเงี่ยหูฟัง หากมีใครอยู่แถวนี้ เขาก็คงจะคุยกับนาเดียได้ไม่สะดวกนัก

“เข้ามาในนี้ทำไมหืม?”

เป็นเสียงของผู้ชายที่เขาไม่ยักคุ้น คงมีใครเดินเข้ามาเพื่อหวังจะคุยกันอย่างที่เขากำลังคิดจะทำ เขาคงต้องเปลี่ยนสถานที่ใหม่ แต่ร่างใหญ่ก็ต้องชะงัก เมื่อเสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงของผู้หญิงที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี

“บอกมินมานะว่าพี่รุทธ์ไปหาคุณพ่อที่สนามบินทำไม แล้วมาโกหกมินว่าไปคุยกับลูกค้า”

เจคอปตกตะลึง ไม่คิดว่าฝ่ายหญิงจะเป็นมินตรา คู่หมั้นของน้องชายเขา เจคอปแทบจะกลั้นลมหายใจ

“พี่ตั้งใจไปคุยกับคุณท่านเรื่องของเรานั้นแหละ”

หัวใจคนฟังเต้นระส่ำกับบทสนทนาที่ได้ยินโดยบังเอิญ พลันร่างเล็กที่เขากำลังรออยู่ก็เปิดประตูเข้ามา เจคอปรีบดึงนาเดียเข้ามาปิดปาก หญิงสาวยืนนิ่ง พลอยกลั้นหายใจไปกับเขาด้วย

“แล้ว แล้วคุณพ่อว่ายังไงบ้าง แล้ว...”

จู่ๆเสียงของมินตราก็ขาดหายไป ด้วยความสงสัย เจคอปจึงชะโงกหน้าลงไปมองตามช่องว่างของบันได นาเดียชะโงกหน้าตามด้วยความใคร่รู้ ภาพเบื้องล่างทำเอาทั้งคู่แทบช็อค โดยเฉพาะเจคอป ชายหญิงเบื้องล่างกำลังแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าทั้งสองอยู่ในสถานะไหน นาเดียมองเห็นเพียงใบหน้าของฝ่ายชายเพราะฝ่ายหญิงยืนหันหลังให้ตน ก่อนศีรษะของคนอยากรู้อยากเห็นจะถูกดึงกลับเมื่อสองคนเบื้องล่างผละออกจากกัน

“เราเลิกกันเถอะมินตรา ยุติทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ จากนี้พี่จะทำเหมือนว่าทุกอย่างที่ผ่านมาเป็นแค่ความฝัน และต่อจากนี้พี่จะไม่รู้สึกอะไรกับมิน เกินกว่าเจ้านายกับลูกน้อง”

เสียงฝีเท้าหนักๆเดินจากไป นาเดียรอจนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาของหญิงสาวอีกคนเดินจากไปแล้ว จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ใครเหรอคะผ.อ. ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วยคะ แล้วนี่ มีธุระสำคัญอะไรถึงเรียกหนูออกมากระทันหันขนาดนี้” นาเดียมองร่างใหญ่ที่ยังคงนิ่งอึ้ง ในหัวของเจคอปกำลังทำงานอย่างหนักจนไม่ได้ยินคำถามของเธอ คำพูดที่นาเดียเคยบอกแล่นกลับเข้ามาในหัว

'พี่เจมส์เขาบอกว่าคุณมินตรา ว่าที่คู่หมั้นของเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่เธอบอกที่บ้านไม่ได้'

แววตาที่มองมาแข็งกร้าวอย่างที่ไม่ได้เห็นมานาน มันเป็นสายตาแบบเดียวกันกับที่เจคอปมองเธอที่ร้านกาแฟวันนั้น “บอกฉันทุกอย่างที่เธอรู้เกี่ยวกับเจมส์และมินตรา” น้ำเสียงเย็นเยือกของเขาทำให้คนตัวเล็กหวาดกลัว แม้เขาจะเคยลั่นวาจาว่าจะไม่ทำร้ายเธออีก แต่คนที่เคยทำร้ายเธอด้วยสายตาแบบนี้มาแล้ว จะให้เชื่อใจเขาเต็มร้อยย่อมเป็นไปไม่ได้ นาเดียกลืนน้ำลาย หรือว่าคู่รักที่เหมือนจะมีปากเสียงกันเมื่อครู่ คือคุณมินตรา คู่หมั้นของพี่เจมส์

“เล่ามาให้หมด!”

นาเดียสะดุ้งเฮือก ก่อนจะเปล่งวาจาออกมาอย่างยากลำบาก เธอเล่าสิ่งที่เธอรู้จากเจมส์จนหมดเปลือก รวมถึงเรื่องที่เขาขอร้องให้เธอแกล้งเล่นละครเป็นแฟนตบตาครอบครัวเขาด้วย

เจคอปยืนนิ่งสนิทราวกับรูปปั้น ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปาก สายตาแข็งกร้าวหายไปจากแววตาแล้ว เหลือเพียงสายตาที่เธอก็คาดเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ สู้ให้เขาดุด่าว่ากล่าวเธอ ยังจะรู้สึกดีกว่าการที่เขาเอาแต่นิ่งเงียบแบบนี้

“โกรธหนูเหรอคะ” นาเดียเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ทว่าร่างใหญ่กลับล่าถอยไปสองสามก้าว

หัวใจของนาเดียเย็นวาบ นึกไปถึงคำพูดที่เขาเคยพูดไว้

'เธอต้องอยู่กับฉันไปเรื่อยๆ จนกว่าฉันจะมั่นใจว่าเจมส์มาร์เลิกยุ่งกับเธอ แล้วกลับไปหาคู่หมั้นของเขา'

ในเมื่อตอนนี้เขารู้แล้วว่าระหว่างเธอกับพี่เจมส์ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย และเธอก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เจมส์ปฏิเสธงานหมั้น เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะรั้งเธอไว้กับตัวอีกแล้ว หรือว่าที่เขาเงียบไป เขาจะกำลังตัดสินใจเรื่องของเธอ

“ผ.อ.”

นาเดียเอ่ยเรียกด้วยเสียงสั่นเครือ คำพูดที่ว่าเธอคงต้องอยู่กับเขาไปเรื่อยๆยังคงดังก้อง แม้เธอจะไม่ได้หวังว่ามันจะนานแสนนานจนตลอดไป แต่เธอก็ไม่คิดว่ามันจะจบลงรวดเร็วขนาดนี้

“กลับไปทำงานเถอะ ฉันไปล่ะ”

เขาหันหลังเดินจากไปโดยไม่หันมาสนใจเธออีก นาเดียยืนนิ่งเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง ทั้งที่ควรจะรู้สึกโล่งใจ แต่ทำไมถึงเจ็บปวดขนาดนี้ หญิงสาวพึ่งจะรู้ตัว ว่าเธอเผลอหลงรักผู้ชายใจร้ายอย่างเจคอปไปหมดทั้งใจแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คำพิพากษาซาตาน   บทที่พิเศษ 2

    เสียงบรรเลงบทเพลง Classic จากวง orchestra ชื่อดังระดับโลกกำลังประสานเสียงจากเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดขับกล่อมออกมาในบทเพลง 'Four Season'บทเพลงที่มีท่วงทำนองไพเราะที่ฟังกี่ครั้งก็ยังคงตราตรึงหัวใจคนฟัง เหล่าบรรดาคนดังของประเทศอเมริกา ทั้งนายแบบนางแบบชื่อดัง ทั้งเหล่าคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงบรรดาไฮโซทั้งหลาย ต่างพร้อมใจกันมารวมตัว ณ Hall ขนาดใหญ่ที่จุคนได้นับหมื่น และหนึ่งในบรรดาคนดังเหล่านั้น ก็รวมถึงศาสตราจารย์ดอกเตอร์นายแพทย์เจคอป บดินพิทักษ์ นายแพทย์ชื่อดังที่พึ่งได้รับการยกย่องจากองกรค์แพทยสภาของอเมริกาให้เป็นนายแพทย์ผู้มากความสามารถซึ่งเป็นแกนนำหลักสำคัญในการพัฒนาวงการแพทย์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพราะในช่วง 15 ปีนับตั้งแต่ที่เขากลับมาดูแลกิจการต่อจากผู้เป็นบิดา เขาก็ค่อยๆขยายสาขาไปจนครอบคลุมทั่วทุกรัฐในอเมริกา ทำให้ชื่อเสียงของเขากลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในฉายา'อาชาแห่งวงการแพทย์'ทั้งๆที่ได้รับเกียรติจากท่านคณะรัฐมนตรีกลาโหมโดยตรงสำหรับตั๋วที่นั่งชั้นลอยระดับวีไอพี แต่แขกคนสำคัญคนดังกล่าวกลับไม่ได้นั่งอยู่ในที่ที่ถูกจัดไว้ให้หลังม่านพลิ้วไหวบนชั้นลอยระดับวีไอพี ปรากฏร่างของชายหญิง

  • คำพิพากษาซาตาน   บทพิเศษ

    ตอนพิเศษเล็กๆเจคอปผละออกจากร่างบาง “แต่งตัวสิ”เขาลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับเดินไปหยิบเสื้อผ้าตัวใหม่ที่ดูเป็นทางการออกมาจากตู้เสื้อผ้า“จะไปไหนเหรอคะ” นาเดียเอ่ยถามด้วยความสงสัย มองแผ่นหลังที่กำลังยัดแขนลงไปในเสื้อเชิ้ต“กลับบ้านเดียไง” เขาพูดโดยไม่ได้หันมามองหน้าคนตัวเล็ก จึงไม่เห็นว่าร่างบางมีสีหน้าอึ้งกับคำพูดของเขาแค่ไหน แต่เขาก็พอจะเดาได้ จึงหันกลับมาทั้งที่ยังติดกระดุมไม่เสร็จ “ไปขอลูกสาวจากท่านทั้งสองไง” รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าคนสูงวัยเขาไม่มีเวลามากพอจะจัดพิธีรีตองอะไรมากมาย เพราะอีกไม่นานก็ต้องกลับอเมริกาแล้ว เขาอดใจรอที่จะบอกข่าวดีให้กับพ่อแม่ที่รออยู่ทางโน้นแทบไม่ไหว อายุจนปูนนี้แล้ว พึ่งจะรู้สึกอยากเลี้ยงลูก“ตอนนี้พี่อายุ 37 คงต้องรีบมีน้องอีกคนไวไวแล้วล่ะ เดี๋ยวแก่เกินจะเดินตามลูกไม่ทัน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าร่างสูง แต่คนตัวเล็กกลับมีสีหน้าแดงก่ำกับคำพูดชวนทะลึ่ง“บะ บ้าเหรอคะ” นาเดียยิ้มจนแก้มแทบปริ ก่อนร่างกายจะถูกโอบอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้น เจคอปถูไถใบหน้ากับหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะประทับจูบอย่างแผ่วเบา “ขอให้เป็นลูกสาวทีเถอะ”เจคอปค่อยๆวางคนตัวเล็กลงบนพื้นอย่างท

  • คำพิพากษาซาตาน   บทที่ 71 พี่ตั้งใจ END

    ย้อนกลับไปเมื่อราวสองเดือนก่อนหน้านี้…เจคอปรับสายจากทางไกล เป็นหมายเลขที่โทรมาจากอเมริกา“ครับป๊า”“ป๊ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเจค ตอนนี้โรงพยาบาลที่อเมริกากำลังเกิดปัญหาอย่างหนัก ป๊าอยากให้ตาเจมส์หรือเจค เราคนใดคนหนึ่งกลับมาดูแลกิจการที่นี่ แต่ใจป๊าอยากให้ตาเจมส์เป็นคนกลับมา เพราะที่นี่ไม่ได้มีสาขามากมายเหมือนที่ประเทศไทย เจ้าคนเสเพลอย่างตาเจมส์คงจะจัดการได้ไม่เหนือบ่ากว่าแรง” เรื่องสำคัญจากปากคนเป็นพ่อทำให้ผมต้องชะงักฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินอยู่ อดนึกถึงน้องชายไม่ได้ จริงอย่างที่พ่อเขาว่า ที่ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่อยู่ใต้อาณัติของครอบครัวเขาอยู่ทั่วเกือบทุกจังหวัด ทำให้ปัญหาและภาระงานที่ต้องรับผิดชอบมีมากมายกว่าที่โน้นมากโข แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า...“แล้วเรื่องงานหมั้นระหว่างหนูมินกับตาเจมส์ไปถึงไหนแล้ว ป๊าอยากให้หมั้นเช้าแล้วก็แต่งเย็นไปเลยทีเดียว ตอนตาเจมส์กลับมาจะได้พาหนูมินกลับมาด้วย ซินดี้เขาคิดถึงหนูมินน่าดู” ในที่สุดคำถามที่ผมกลัวคนเป็นพ่อจะถามก็หลุดออกมาจนได้ ทั้งๆที่งานหมั้นระหว่างตาเจมส์กับยัยมินควรจะเสร็จลุล่วงเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว แต่เพราะปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้ยังคา

  • คำพิพากษาซาตาน   บทที่ 70 สิ่งเดียวที่จะเหนี่ยวรั้งเธอเอาไว้

    “อ๊ะ พะ... พี่เจค” ไม่ทันที่ร่างบางจะทันได้เอ่ยความใน ปากหนาก็ชิงประกบจาบจ้วงเอาทุกคำที่คิดว่าร่างบางจะเอ่ยคำปฏิเสธออกมา นาเดียเบิกตามองเขาด้วยความตื่นตะลึง เขาหมายความว่าอะไร เขารู้แล้วเหรอว่าเธอท้อง แต่เขาจะรู้ได้ยังไง“อื้มมม อ่ะ...พะ... อื้มมม” ครั้นจะส่งเสียงอะไรก็ตามที่คิดอยากจะพูด เจคอปจะคอยส่งลิ้นเข้าหาเพื่อห้ามปรามเธอเสียทุกครั้งไป จนร่างบางหมดความพยายามที่จะเอ่ยถามข้อสงสัย ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขสมที่เขาปรนเปรอให้ มือเล็กที่เคยดันอยู่ตรงแผงอกเปลี่ยนไปโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้ ท่าทางเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธเรื่องลูกของเขาทำให้นาเดียเกิดความหวังเล็กๆขึ้นในใจเจคอปหลับตาแน่นก่อนจะคำรามออกมาเบาๆเมื่อได้ปลดปล่อยน้ำเชื้อพันธุ์ดีเข้าสู่ร่างกายคนตัวเล็กสมดังตั้งใจ เขาแช่ร่างกายค้างไว้ในตัวเธอ หวังให้ลูกๆนับพันล้านตัววิ่งเข้าไปหาไข่ใบเล็กๆเพียงใบเดียวที่อยู่ในร่างกาย เขาตั้งใจจะผูกมัดเธอด้วยวิธีที่เห็นแก่ตัว โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาได้ทำสำเร็จไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ตั้งใจแล้ว“ถ้ามีเจคอปน้อยอยู่ในท้องเธอ เธอก็จะหนีพี่ไปไหนไม่ได้อีก” เขากระซิบความในใจแสนชั่วร้ายข้างใบหูคนตัวเล็ก และนั่นทำให้เธ

  • คำพิพากษาซาตาน   บทที่ 69 พี่ถามว่าเธอจะไปไหน! NC

    เปลือกตาปิดสนิทค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นแววตาที่สะท้อนแต่เพียงความเจ็บปวด เขายังไม่ได้หลับ เขาแค่รอดูว่ายัยตัวเล็กกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่เขารู้ตัวตั้งแต่ตอนที่เปิดตู้เสื้อผ้าแล้ว มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเสื้อผ้าของนาเดียหายไป เขาเหลือบมองไปยังโต๊ะก็พบว่าข้าวของต่างๆของเธอหายไปด้วย เธอกำลังคิดจะไปจากเขาบางทีการที่ต้องทนอยู่กับผู้ชายอารมณ์ร้อนอย่างเขามันคงทำให้เธอมีแต่ความทุกข์ บางทีสิ่งที่เขาพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตลอดมันคงยังไม่ดีพอสำหรับเธอ บางทีความรักของเขามันคงไม่มีค่าพอจะเหนี่ยวรั้งเธอไว้บางที... เขาคงต้องปล่อยเธอไปเสียทีหัวใจดวงน้อยบีบรัดรุนแรงจนเกิดอาการเจ็บปวดรวดร้าว ภาพที่สะท้อนอยู่ในดวงตาพร่าเบลอเพราะเจ้าของดวงตามองมันผ่านม่านน้ำตาท้วมท้น นาเดียกวาดตามองไปรอบๆ คอนโดขนาดใหญ่ที่สร้างความทรงจำให้กับเธอมากมายทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคราบน้ำตา...หญิงสาวค่อยๆปิดเปลือกตาลง คล้ายจะเป็นการตัดใจจากผู้ชายอีกคนที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ในห้อง มือเล็กเอื้อมไปจับลูกบิดประตูก่อนจะคาทิ้งไว้อย่างนั้นประตูบานเดียวกันนี้ที่เธอเคยเปิดมันออกเพื่อพาตัวเองออกไปจากห้องที่ไม่เคยอยากจะทนอยู่แม้

  • คำพิพากษาซาตาน   บทที่ 68 ลาก่อนนะคะพี่เจค...

    กิจวัตรยามเช้าระหว่างนาเดียกับเจคอปยังคงดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน เพียงแค่ไม่มีการสนทนาระหว่างทั้งคู่ไม่มีการเดินจับมือลงมาจากคอนโดไม่มีการจูบลาก่อนจะแยกกันไปทำงานไม่มีการส่งข้อความหาตลอดทั้งวันและไม่มีเธอหลงเหลืออยู่ในสายตาของเขาอีกแล้วก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของเจคอปดังขึ้น “เข้ามา”คำอนุญาตจากเจ้าของห้องทำให้คนที่อยู่ด้านนอกเปิดประตูเข้าไปด้านใน เจมส์มาร์มองพี่ชายของตัวเองกำลังง่วนอยู่กับเอกสารกองโต เจคอปยังอยู่ในสภาพเดิมเหมือนที่เขาแวะมาเมื่อตอนเช้าก่อนเข้าผ่าตัดไม่มีผิด และสภาพของผู้หญิงอีกคนที่เขาเห็นเมื่อสักครู่ ใบหน้าหมองเศร้าไม่ต่างกันเลย นี่คงจะยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันอีกสินะ“มีธุระอะไร” น้ำเสียงเย็นชาแบบที่อีกฝ่ายมักจะใช้เวลามีเรื่องทุกข์ใจหรืออยากซ่อนความรู้สึก มีหรือที่คนเป็นน้องอย่างเขาจะดูไม่ออก“เมื่อวานพี่คุยกับนาเดียรึยังครับ” เจมส์มาร์เอ่ยถามโดยไม่เกรงใจ เขานั่งลงโดยไม่รอให้คนตรงหน้าอนุญาต อยู่กับเจคอปมาร่วม 30 ปี พึ่งจะเคยเห็นพี่ชายมีความรัก แล้วน้องชายอย่างเขาจะยอมให้มันพังทลายลงเพียงเพราะความเย็นชาของคนตรงหน้าได้อย่างไร“ไม่มีอะไรต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status