เสียงบรรเลงบทเพลง Classic จากวง orchestra ชื่อดังระดับโลกกำลังประสานเสียงจากเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดขับกล่อมออกมาในบทเพลง 'Four Season'
บทเพลงที่มีท่วงทำนองไพเราะที่ฟังกี่ครั้งก็ยังคงตราตรึงหัวใจคนฟัง เหล่าบรรดาคนดังของประเทศอเมริกา ทั้งนายแบบนางแบบชื่อดัง ทั้งเหล่าคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงบรรดาไฮโซทั้งหลาย ต่างพร้อมใจกันมารวมตัว ณ Hall ขนาดใหญ่ที่จุคนได้นับหมื่น และหนึ่งในบรรดาคนดังเหล่านั้น ก็รวมถึงศาสตราจารย์ดอกเตอร์นายแพทย์เจคอป บดินพิทักษ์ นายแพทย์ชื่อดังที่พึ่งได้รับการยกย่องจากองกรค์แพทยสภาของอเมริกาให้เป็นนายแพทย์ผู้มากความสามารถซึ่งเป็นแกนนำหลักสำคัญในการพัฒนาวงการแพทย์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพราะในช่วง 15 ปีนับตั้งแต่ที่เขากลับมาดูแลกิจการต่อจากผู้เป็นบิดา เขาก็ค่อยๆขยายสาขาไปจนครอบคลุมทั่วทุกรัฐในอเมริกา ทำให้ชื่อเสียงของเขากลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในฉายา
'อาชาแห่งวงการแพทย์'
ทั้งๆที่ได้รับเกียรติจากท่านคณะรัฐมนตรีกลาโหมโดยตรงสำหรับตั๋วที่นั่งชั้นลอยระดับวีไอพี แต่แขกคนสำคัญคนดังกล่าวกลับไม่ได้นั่งอยู่ในที่ที่ถูกจัดไว้ให้
หลังม่านพลิ้วไหวบนชั้นลอยระดับวีไอพี ปรากฏร่างของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังพลอดรักนัวเนียกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ขัดกับบทเพลงแสนหวานที่กำลังขับกล่อมอยู่ในขณะนี้
“อื้ออ แฮ่ก แฮ่ก อ๊าาา พี่เจค” สาวสวยในชุดราตรีหรูหราถูกดันตัวให้ยืนพิงไปกับผนังชั้นลอย เธอกำลังแหงนหน้าขึ้นมองโคมไฟระย้าบนเพดานเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเบื้องล่างที่กำลังถูกลิ้นช่ำชองของคนรักบุกรุกเข้ามาภายในร่างกาย
เจคอปกำลังง่วนอยู่กับการดูดดื่มน้ำผึ้งหวานจากร่องสวาทของเมียรัก การได้ทำกิจกรรมรักนอกสถานที่ในขณะที่มีบทเพลงบรรเลงขับกล่อมช่างเป็นของขวัญที่ดีเยี่ยมสำหรับวันครบรอบแต่งงาน 15 ปีของพวกเขา ชายหนุ่มในวัย 50 ต้นๆ ไม่ได้ดูอ่อนกำลังวังชาลงเลยแม้แต่น้อย เขายังคงฟิตปั๋ง หมั่นเติมความรักกับภรรยาสาวสวยในวัย 37 ปีแทบจะทุกวันและทุกช่วงโอกาสพิเศษอย่างเช่นวันนี้
“อื้ม เสียวไหมที่รัก” เสียงสั่นไหวในอารมณ์พูดแข่งกับเสียงดนตรีแสนหวาน แต่ทว่ากลับหวานไม่ได้ครึ่งหนึ่งของผู้หญิงตรงหน้า แทนคำตอบ มือเล็กที่ขยุ้มอยู่บนศีรษะออกแรงกดใบหน้าให้ก้มลงไปจัดการภารกิจต่อให้เสร็จ ร่างสูงอดยิ้มให้กับความหื่นเล็กๆของภรรยาไม่ได้
ลิ้นหนาบรรจงแหวกกลีบกุหลาบอวบเข้าไปหาเม็ดเกสรดอกไม้ที่บวมเป่ง ใช้เวลาเพียงไม่นานปลายลิ้นก็พบกับสิ่งที่ตามหา ไม่รอช้า เขารีบบดบี้ระรัวจนร่างบางดิ้นเร้าด้วยความเสียวกระสัน
“เบาหน่อยที่รัก เดี๋ยวมีคนเห็น” ที่ต้องปรามภรรยาสาวก็เพราะพื้นที่ในการทำกิจกรรมหวาดเสียวครั้งนี้มันแคบมากเหลือเกิน บนนี้มีพื้นที่พอให้แค่คนยืนได้สองคน หากขยับตัวมากไปกว่านี้ ผ้าม่านสีแดงเลือดหมูที่ใช้เป็นที่กำบังคงจะปิดกิจกรรมลับนี้ไม่มิดแน่
“ซี๊ดด ก็ใครใช้ให้พี่มาทำตรงนี้ละคะ เดีย อู๊ยย เดียจะไม่ไหวแล้ว”
นาเดียขบเม้มกลีบปากเข้าหากันจนเกิดห้อเลือดเมื่อลิ้นคล่องแคล้วของสามีกำลังจะพาเธอไปแตะขอบสวรรค์ เจคอปลอบยิ้มด้วยความพอใจที่สามารถทำให้ภรรยามีความสุขได้ เขารีบสอดลิ้นเข้าไปในร่องรักที่มีน้ำหวานหยาดเยิ้มก่อนจะดูดดื่มเหมือนกระหายน้ำนักหนา
“อืมม ตอดกระทั่งลิ้นพี่เชียว” อดแซวภรรยาจอมหื่นไม่ได้ เมื่อรู้สึกว่านาเดียใกล้จะเสร็จสมเต็มที เขาก็รีบลุกขึ้นพร้อมกับปลดเข็มขัดราคาแพงเพื่อปลดปล่อยท่อนลำที่กำลังประท้วงอย่างบ้าคลั่งอยู่ในกางเกง
เจคอปดันร่างนาเดียให้โผล่ช่วงหน้าออกไปจากม่านเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เขาได้สอดใส่ได้สะดวก โชคดีที่ชุดราตรีสีเงินวับวาวของเจ้าหล่อนเป็นชุดกระโปรงที่แหวกช่วงล่างขึ้นมาจนเกือบถึงแก้มก้น ทำให้เขาทำอะไรได้สะดวกสมความตั้งใจ นาเดียต้องแกล้งตีสีหน้าให้เรียบเฉยที่สุดในขณะที่หัวใจกำลังเต้นระรัวบีบตัวรุนแรงเพราะรู้สึกถึงแท่งร้อนที่คุ้นเคยกำลังถูไถไปมาอยู่ตรงง่ามขา เจคอปจงใจจับท่อนเอ็นที่แข็งตัวเต็มที่ถูไถลากวนตั้งแต่ขาอ่อนขึ้นไปจนถึงรูทวารที่ไร้สิ่งห่อหุ้ม
เขาจงใจสั่งให้ภรรยา 'เปลือยท่อนล่าง' ตั้งแต่ออกมาจากบ้าน และเขายังเป็นคนเลือกชุดนี้ให้เธอเองกับมือ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี แม่กวางน้อยอย่างเธอก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับพ่อเสือร้อยเล่ห์อย่างเขาเสมอ
“อ๊ะ”
ร่างบางหลุดเสียงครางออกมาอย่างลืมตัวเมื่อคนข้างหลังจงใจฟาดท่อนเนื้อลงบนก้นงอนงามอย่างแรง
“ทำหน้านิ่งๆ อย่ามีพิรุทธ์ล่ะ”
เสียงแหบพร่ากระซิบจากทางด้านหลัง ก่อนจะค่อยๆจับแท่งร้อนแทรกตัวเข้าหาร่องรักชุ่มฉ่ำ ส่วนหัวบานใหญ่ทะลวงเข้าไปได้อย่างง่ายดายเพราะรูสวาทที่ผ่านการใช้งานมาบ่อยครั้ง แต่มันก็ยังคงฟิตเปี๊ยะในความรู้สึกของเขาเสมอ
ขอบผ้าม่านถูกมือเล็กขย้ำจนยับยู่เพื่อระบายความเสียวซ่านจากการถูกจู่โจมทั้งๆที่อยู่ในที่แจ้ง โชคดีที่ตอนนี้วงดนตรีบนเวทีเบื้องหน้ากำลังบรรเลงบทเพลงที่แสนดุเดือดอย่างเพลง
'In The Hall of The Mountain King'
ทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่วาทยกรชื่อดังที่กำลังยกไม้ยกมือควบคุมจังหวะดนตรีให้โหมกระหน่ำท่วงทำนองขึ้น
สูงขึ้น สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ช่างสอดคล้องกับบทเพลงรักที่ถูกบรรเลงโดยพวกเขาทั้งสองคนยิ่งนัก สะโพกสอบรีบเร่งสวนกระแทกเข้าใส่เนื้อนวลตามจังหวะดนตรีที่ได้ยิน มือหนาเผลอล้วงเข้าไปด้านหน้าเข้าหาร่องสวาทเพื่อบดบี้เม็ดติ่งเสียว เขาลืมตัวว่าตอนนี้นาเดียกำลังยืนหลาอยู่นอกผ้าม่าน
“ซี๊ดด พี่เจค เอามือออกไป อ๊าา อ๊ะ อื้ออ” ร่างบางเผลอร้องออกมาอย่างสุดกลั้นเพราะถูกร่างสูงกระแทกสะโพกเข้าใส่ไม่ยั้ง ซ้ำยังใช้นิ้วช่วยจู่โจมจุดศูนย์รวมเส้นประสาทความรู้สึกร่วมด้วย
บทเพลงกำลังบรรเลงมาจนถึงท่อนใกล้จบซึ่งเร่งโหมจังหวะความดุเดือดยิ่งขึ้นไปอีก บัดนี้ผู้ชมทั้งหลายต่างพร้อมใจกันยืนขึ้นเพราะจังหวะดนตรีสุดเร้าใจ ทั่วทั้งฮอล์ต่างอยู่ในความสงบนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวใดใดทั้งสิ้น ทุกสายตาจับจ้องไปยังปลายไม้ที่ตวัดกวัดแกร่งพร้อมกับเสียงทรงพลังของดนตรี classic จะมีก็แต่นาเดียและเจคอปที่กำลังเพ่งสมาธิอยู่ที่จุดเชื่อมประสานที่กำลังเสียดสีกันในจังหวะเร้าร้อนไม่แพ้บทเพลงเลย
“อ๊ะเดีย พี่ไม่ไหวแล้ว อึกกก ซี๊ดด อ๊ะ!!!!!”
ท่อนเอ็นเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำเชื้อขาวขุ่นเข้าใส่เต็มร่องรัก บทเพลงรักที่แสนเร้าร้อนจบลงพร้อมกับเสียงสุดท้ายของไวโอลินที่เป็นตัวเอกของงานเพื่อจบการแสดงของค่ำคืนนี้ เสียงปรบมือพร้อมเพรียงกันของผู้ชมนับหมื่นดังกลบเสียงครวญครางของทั้งคู่สนิท เจคอปรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะออกมาร่วมผสมโรงปรบมือให้เกียรติแก่นักดนตรีชื่อดังระดับโลก
'คนร้ายกาจ'
นาเดียแอบคิดในใจในขณะปรายตามองสามีสุดหล่อที่ออกมายืนปรบมืออยู่เคียงข้างเธอ
“ทีหลังไม่เอาแบบนี้แล้วนะคะ โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่มีใครเห็น” น้ำเสียงเง้างอนในความหื่นของสามี นาเดียว่าพลางหยิบแก้วขึ้นมากดน้ำจากก๊อกในครัวขึ้นดื่ม อดงอนสามีตัวดีไม่ได้ ทั้งๆที่อายุกันจนปูนนี้แล้ว แต่เจคอปก็ยังไม่ลดความหื่นลงแม้แต่น้อย มิหน่ำซ้ำเธอยังคิดว่าเขาดูจะหื่นกว่าแต่ก่อนเสียอีก
ร่างสูงเดินเข้ามาหยุดยืนด้านหลังของภรรยาคนสวย ไม่ได้สะทกสะท้านกับคำว่ากล่าวแต่อย่างใด เขามองเรือนร่างอวบอัดในชุดซีทรูแนบเนื้อนวล ทำให้เห็นสัดส่วนโค้งเว้าอย่างชัดเจน ยามที่เธอเอื้อมมือไปปิดก็อกน้ำ ทำให้รอยแหวกของชุดอ้าออกจนเห็นเรียวขางามขึ้นไปจนถึงจุดวาบหวิววับแวมล่อตาล่อใจเขาเหลือเกิน
มือหนาลูบไล้ไปบนสะโพกกลมกลึงก่อนจะออกแรงดึงให้เข้ามาประชิดตัว นาเดียหวีดร้องแผ่วเบาเพราะไม่อยากให้เสียงดังจนปลุกจีนา ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขาที่หลับใหลอยู่บนห้องนอน
“อย่าค่ะพี่เจค ตรงนี้ไม่ได้”
ร่างบางห้ามปรามสามีจอมหื่นที่เริ่มบดเบียดท่อนเนื้อแข็งขึงไปมากับสะโพกเธอ มือไม้เขาเริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไล้ไปจนทั่วเรือนร่าง ก่อนจะหยุดอยู่ที่เต้านมอวบใหญ่ของร่างบาง ในช่วงตั้งครรภ์ สัดส่วนของหญิงสาวขยายตัวขึ้นมามากพอสมควร แต่หลังคลอดลูกสาวคนสวยแล้ว รูปร่างสัดส่วนอื่นๆก็กลับมาเป็นปกติ ยกเว้นก็แต่หน้าอกและสะโพกของเธอ ที่ยังคงอวบใหญ่ไม่ยอมลดลงเลย และนั่นเองที่เป็นสาเหตุให้สามีสูงวัยของเธอดูจะเกิดอารมณ์ทางเพศบ่อยครั้งเหลือเกิน
“ตรงนี้แหละ พี่อดใจไม่ไหวแล้ว”
สิ้นเสี้ยง ร่างบางก็ถูกปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว เขาอุ้มเธอขึ้นไปนอนบนเคาน์เตอร์ไม้เนื้อดีที่ตั้งอยู่กลางบ้าน ก่อนตัวเขาจะรีบขึ้นมาทาบทับบนร่างภรรยาคนสวย
“ขึ้นห้องก่อนไหมคะ เดียกลัวลูกจะตื่นมาเห็น”
นาเดียพยายามโน้มน้าวก่อนที่อารมณ์จะตะเลิดจนหลงคล้อยตามเขา แต่ดูเหมือนนิสัยเอาแต่ใจของสามีจะแก้ไม่หายเสียที
“ดึกแล้ว ลูกหลับสนิทไปแล้วล่ะ ซี๊ดดด ทำไมเซ็กซี่ขนาดนี้หืมเมียพี่ ทนไม่ไหวแล้ว ขอพี่กินหน่อยนะคนดี”
ในที่สุด นาเดียก็ตกหลุมพลางของคนเจ้าเล่ห์อีกครั้ง บทรักแสนเร้าร้อนถูกบรรเลงขึ้นโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่าทุกท่วงท่า ทุกการกระทำ อยู่ในสายตากลมโตของเด็กสาวที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น
'จีนา' เด็กหญิงวัย 15 ปี กำลังยืนมองพ่อแม่ของเธอพลอดรักกันอย่างดูดดื่มบนโต๊ะกลางบ้าน แม้ภายในบ้านจะมืดสนิท แต่เธอก็พอจะดูออกว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกันอยู่
'ภาพ' ที่พ่อกำลังขย่มอยู่บนตัวแม่ ทำให้ร่างกายของสาววัยแรกแย้มเห่อร้อนขึ้นไปทั่วทั้งตัว หญิงสาวรู้สึกถึงความเปียกชื้นจากตรงกลางหว่างขาจนซึมเปียกกางเกงใน จีนาแอบยืนหลบอยู่ตรงมุมของบันไดบ้านอย่างเงียบเชียบเพราะกลัวจะไปขัดจังหวะความสุขของคนทั้งคู่ เธอกำลังตัดสินใจจะกลับขึ้นไปบนห้อง แต่ก็ต้องชะงักเหมือนรู้สึกถึงมือของใครบางคนเอื้อมมาปิดปากจากทางด้านหลัง
“ชู่วว เดี๋ยวคุณลุงกับคุณน้าได้ยิน”
คนที่อยู่ด้านหลังของเธอคือ 'แดเนียล' ลูกชายของน้ามินตราและคุณอาณรุทธ์ เขาคือชายผู้มีศักดิ์เป็นน้องชายของเธอนั่นเอง การที่ถูกมือของผู้ชายสัมผัสร่างกายในอารมณ์แบบนี้ มันช่างกระตุ้นให้หัวใจดวงน้อยบีบตัวแรงจนผิดปกติ แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอถูกเนื้อต้องตัวกันก็ตาม “เราไปเล่นกันบ้างเถอะจีนา” แดเนียลกระซิบข้างใบหูของร่างเล็กในขณะที่ฝ่ามืออีกข้างก็เริ่มลูบไล้ไปมาบนขาอ่อนที่โผล่พ้นกางเกงนอนขาสั้นของเธอ
จีนารู้ความหมายของคำว่า 'เล่น' ที่เด็กหนุ่มพูดเป็นอย่างดี เมื่อรับรู้ถึงความยินยอมจากการพยักหน้าระรัวของหญิงสาว มือเล็กก็คลายออกจากริมฝีปากก่อนจะเปลี่ยนมาจับมือเธอพากันเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอน
แม้การ 'เล่น' ของทั้งคู่จะไม่ได้ลึกซึ้งจนถึงขั้นที่พ่อแม่ของเธอทำให้เห็นบ่อยๆ แต่เธอก็พอจะรู้ว่ามันสร้างความรู้สึกวาบหวามให้ร่างกายมากแค่ไหน
ประตูห้องนอนถูกปิดลงอย่างแผ่วเบา และการ 'เล่น' บนเตียงนอนของเด็กทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น...
เสียงบรรเลงบทเพลง Classic จากวง orchestra ชื่อดังระดับโลกกำลังประสานเสียงจากเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดขับกล่อมออกมาในบทเพลง 'Four Season'บทเพลงที่มีท่วงทำนองไพเราะที่ฟังกี่ครั้งก็ยังคงตราตรึงหัวใจคนฟัง เหล่าบรรดาคนดังของประเทศอเมริกา ทั้งนายแบบนางแบบชื่อดัง ทั้งเหล่าคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงบรรดาไฮโซทั้งหลาย ต่างพร้อมใจกันมารวมตัว ณ Hall ขนาดใหญ่ที่จุคนได้นับหมื่น และหนึ่งในบรรดาคนดังเหล่านั้น ก็รวมถึงศาสตราจารย์ดอกเตอร์นายแพทย์เจคอป บดินพิทักษ์ นายแพทย์ชื่อดังที่พึ่งได้รับการยกย่องจากองกรค์แพทยสภาของอเมริกาให้เป็นนายแพทย์ผู้มากความสามารถซึ่งเป็นแกนนำหลักสำคัญในการพัฒนาวงการแพทย์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพราะในช่วง 15 ปีนับตั้งแต่ที่เขากลับมาดูแลกิจการต่อจากผู้เป็นบิดา เขาก็ค่อยๆขยายสาขาไปจนครอบคลุมทั่วทุกรัฐในอเมริกา ทำให้ชื่อเสียงของเขากลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในฉายา'อาชาแห่งวงการแพทย์'ทั้งๆที่ได้รับเกียรติจากท่านคณะรัฐมนตรีกลาโหมโดยตรงสำหรับตั๋วที่นั่งชั้นลอยระดับวีไอพี แต่แขกคนสำคัญคนดังกล่าวกลับไม่ได้นั่งอยู่ในที่ที่ถูกจัดไว้ให้หลังม่านพลิ้วไหวบนชั้นลอยระดับวีไอพี ปรากฏร่างของชายหญิง
ตอนพิเศษเล็กๆเจคอปผละออกจากร่างบาง “แต่งตัวสิ”เขาลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับเดินไปหยิบเสื้อผ้าตัวใหม่ที่ดูเป็นทางการออกมาจากตู้เสื้อผ้า“จะไปไหนเหรอคะ” นาเดียเอ่ยถามด้วยความสงสัย มองแผ่นหลังที่กำลังยัดแขนลงไปในเสื้อเชิ้ต“กลับบ้านเดียไง” เขาพูดโดยไม่ได้หันมามองหน้าคนตัวเล็ก จึงไม่เห็นว่าร่างบางมีสีหน้าอึ้งกับคำพูดของเขาแค่ไหน แต่เขาก็พอจะเดาได้ จึงหันกลับมาทั้งที่ยังติดกระดุมไม่เสร็จ “ไปขอลูกสาวจากท่านทั้งสองไง” รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าคนสูงวัยเขาไม่มีเวลามากพอจะจัดพิธีรีตองอะไรมากมาย เพราะอีกไม่นานก็ต้องกลับอเมริกาแล้ว เขาอดใจรอที่จะบอกข่าวดีให้กับพ่อแม่ที่รออยู่ทางโน้นแทบไม่ไหว อายุจนปูนนี้แล้ว พึ่งจะรู้สึกอยากเลี้ยงลูก“ตอนนี้พี่อายุ 37 คงต้องรีบมีน้องอีกคนไวไวแล้วล่ะ เดี๋ยวแก่เกินจะเดินตามลูกไม่ทัน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าร่างสูง แต่คนตัวเล็กกลับมีสีหน้าแดงก่ำกับคำพูดชวนทะลึ่ง“บะ บ้าเหรอคะ” นาเดียยิ้มจนแก้มแทบปริ ก่อนร่างกายจะถูกโอบอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้น เจคอปถูไถใบหน้ากับหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะประทับจูบอย่างแผ่วเบา “ขอให้เป็นลูกสาวทีเถอะ”เจคอปค่อยๆวางคนตัวเล็กลงบนพื้นอย่างท
ย้อนกลับไปเมื่อราวสองเดือนก่อนหน้านี้…เจคอปรับสายจากทางไกล เป็นหมายเลขที่โทรมาจากอเมริกา“ครับป๊า”“ป๊ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเจค ตอนนี้โรงพยาบาลที่อเมริกากำลังเกิดปัญหาอย่างหนัก ป๊าอยากให้ตาเจมส์หรือเจค เราคนใดคนหนึ่งกลับมาดูแลกิจการที่นี่ แต่ใจป๊าอยากให้ตาเจมส์เป็นคนกลับมา เพราะที่นี่ไม่ได้มีสาขามากมายเหมือนที่ประเทศไทย เจ้าคนเสเพลอย่างตาเจมส์คงจะจัดการได้ไม่เหนือบ่ากว่าแรง” เรื่องสำคัญจากปากคนเป็นพ่อทำให้ผมต้องชะงักฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินอยู่ อดนึกถึงน้องชายไม่ได้ จริงอย่างที่พ่อเขาว่า ที่ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่อยู่ใต้อาณัติของครอบครัวเขาอยู่ทั่วเกือบทุกจังหวัด ทำให้ปัญหาและภาระงานที่ต้องรับผิดชอบมีมากมายกว่าที่โน้นมากโข แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า...“แล้วเรื่องงานหมั้นระหว่างหนูมินกับตาเจมส์ไปถึงไหนแล้ว ป๊าอยากให้หมั้นเช้าแล้วก็แต่งเย็นไปเลยทีเดียว ตอนตาเจมส์กลับมาจะได้พาหนูมินกลับมาด้วย ซินดี้เขาคิดถึงหนูมินน่าดู” ในที่สุดคำถามที่ผมกลัวคนเป็นพ่อจะถามก็หลุดออกมาจนได้ ทั้งๆที่งานหมั้นระหว่างตาเจมส์กับยัยมินควรจะเสร็จลุล่วงเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว แต่เพราะปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้ยังคา
“อ๊ะ พะ... พี่เจค” ไม่ทันที่ร่างบางจะทันได้เอ่ยความใน ปากหนาก็ชิงประกบจาบจ้วงเอาทุกคำที่คิดว่าร่างบางจะเอ่ยคำปฏิเสธออกมา นาเดียเบิกตามองเขาด้วยความตื่นตะลึง เขาหมายความว่าอะไร เขารู้แล้วเหรอว่าเธอท้อง แต่เขาจะรู้ได้ยังไง“อื้มมม อ่ะ...พะ... อื้มมม” ครั้นจะส่งเสียงอะไรก็ตามที่คิดอยากจะพูด เจคอปจะคอยส่งลิ้นเข้าหาเพื่อห้ามปรามเธอเสียทุกครั้งไป จนร่างบางหมดความพยายามที่จะเอ่ยถามข้อสงสัย ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขสมที่เขาปรนเปรอให้ มือเล็กที่เคยดันอยู่ตรงแผงอกเปลี่ยนไปโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้ ท่าทางเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธเรื่องลูกของเขาทำให้นาเดียเกิดความหวังเล็กๆขึ้นในใจเจคอปหลับตาแน่นก่อนจะคำรามออกมาเบาๆเมื่อได้ปลดปล่อยน้ำเชื้อพันธุ์ดีเข้าสู่ร่างกายคนตัวเล็กสมดังตั้งใจ เขาแช่ร่างกายค้างไว้ในตัวเธอ หวังให้ลูกๆนับพันล้านตัววิ่งเข้าไปหาไข่ใบเล็กๆเพียงใบเดียวที่อยู่ในร่างกาย เขาตั้งใจจะผูกมัดเธอด้วยวิธีที่เห็นแก่ตัว โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาได้ทำสำเร็จไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ตั้งใจแล้ว“ถ้ามีเจคอปน้อยอยู่ในท้องเธอ เธอก็จะหนีพี่ไปไหนไม่ได้อีก” เขากระซิบความในใจแสนชั่วร้ายข้างใบหูคนตัวเล็ก และนั่นทำให้เธ
เปลือกตาปิดสนิทค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นแววตาที่สะท้อนแต่เพียงความเจ็บปวด เขายังไม่ได้หลับ เขาแค่รอดูว่ายัยตัวเล็กกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่เขารู้ตัวตั้งแต่ตอนที่เปิดตู้เสื้อผ้าแล้ว มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเสื้อผ้าของนาเดียหายไป เขาเหลือบมองไปยังโต๊ะก็พบว่าข้าวของต่างๆของเธอหายไปด้วย เธอกำลังคิดจะไปจากเขาบางทีการที่ต้องทนอยู่กับผู้ชายอารมณ์ร้อนอย่างเขามันคงทำให้เธอมีแต่ความทุกข์ บางทีสิ่งที่เขาพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตลอดมันคงยังไม่ดีพอสำหรับเธอ บางทีความรักของเขามันคงไม่มีค่าพอจะเหนี่ยวรั้งเธอไว้บางที... เขาคงต้องปล่อยเธอไปเสียทีหัวใจดวงน้อยบีบรัดรุนแรงจนเกิดอาการเจ็บปวดรวดร้าว ภาพที่สะท้อนอยู่ในดวงตาพร่าเบลอเพราะเจ้าของดวงตามองมันผ่านม่านน้ำตาท้วมท้น นาเดียกวาดตามองไปรอบๆ คอนโดขนาดใหญ่ที่สร้างความทรงจำให้กับเธอมากมายทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคราบน้ำตา...หญิงสาวค่อยๆปิดเปลือกตาลง คล้ายจะเป็นการตัดใจจากผู้ชายอีกคนที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ในห้อง มือเล็กเอื้อมไปจับลูกบิดประตูก่อนจะคาทิ้งไว้อย่างนั้นประตูบานเดียวกันนี้ที่เธอเคยเปิดมันออกเพื่อพาตัวเองออกไปจากห้องที่ไม่เคยอยากจะทนอยู่แม้
กิจวัตรยามเช้าระหว่างนาเดียกับเจคอปยังคงดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน เพียงแค่ไม่มีการสนทนาระหว่างทั้งคู่ไม่มีการเดินจับมือลงมาจากคอนโดไม่มีการจูบลาก่อนจะแยกกันไปทำงานไม่มีการส่งข้อความหาตลอดทั้งวันและไม่มีเธอหลงเหลืออยู่ในสายตาของเขาอีกแล้วก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของเจคอปดังขึ้น “เข้ามา”คำอนุญาตจากเจ้าของห้องทำให้คนที่อยู่ด้านนอกเปิดประตูเข้าไปด้านใน เจมส์มาร์มองพี่ชายของตัวเองกำลังง่วนอยู่กับเอกสารกองโต เจคอปยังอยู่ในสภาพเดิมเหมือนที่เขาแวะมาเมื่อตอนเช้าก่อนเข้าผ่าตัดไม่มีผิด และสภาพของผู้หญิงอีกคนที่เขาเห็นเมื่อสักครู่ ใบหน้าหมองเศร้าไม่ต่างกันเลย นี่คงจะยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันอีกสินะ“มีธุระอะไร” น้ำเสียงเย็นชาแบบที่อีกฝ่ายมักจะใช้เวลามีเรื่องทุกข์ใจหรืออยากซ่อนความรู้สึก มีหรือที่คนเป็นน้องอย่างเขาจะดูไม่ออก“เมื่อวานพี่คุยกับนาเดียรึยังครับ” เจมส์มาร์เอ่ยถามโดยไม่เกรงใจ เขานั่งลงโดยไม่รอให้คนตรงหน้าอนุญาต อยู่กับเจคอปมาร่วม 30 ปี พึ่งจะเคยเห็นพี่ชายมีความรัก แล้วน้องชายอย่างเขาจะยอมให้มันพังทลายลงเพียงเพราะความเย็นชาของคนตรงหน้าได้อย่างไร“ไม่มีอะไรต