Home / โรแมนติก / คำพิพากษาซาตาน / บทที่ 58 ลาก่อน... ญาดา 2

Share

บทที่ 58 ลาก่อน... ญาดา 2

last update Last Updated: 2025-08-24 13:00:16

นาเดียเดินออกไปหน้าเวทีท่ามกลางเสียงโห่ร้องที่ดังยิ่งกว่าตอนแรก เพราะแสงไฟสว่างจ้า ทำให้เธอมองไม่เห็นคนที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที แต่คนที่เธอเห็นชัดเจนในสายตามากที่สุดก็คือเจคอป เทพบุตรของเธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว เขาส่งยิ้มอบอุ่นพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้า นาเดียจับมือเขา มือยังไม่หายสั่น แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ข้างเขา หล่อนเองก็มองมาที่เธอเช่นเดียวกัน นาเดียตกตะลึง ญาดาเองก็อยู่ในชุดสีแดงแบบเดียวกันกับเธอเปี๊ยบ

“เชิญครับ” เจคอปดึงร่างสั่นเทาเข้ามาแนบชิดข้างกาย มือหนาเปลี่ยนมาโอบรอบเอวคอด เรียกเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังก้องจนนาเดียหน้าร้อนผ่าว

“ทำอะไรของพี่ค่ะเนี่ย” เธอหันไปกระซิบที่ข้างใบหู แต่กลับมีเพียงรอยยิ้มอ่อนโยนส่งมาแทนคำตอบ

ภาพหญิงสาวสองคนในชุดแบบเดียวกัน แต่ทว่าอีกคนกลับถูกแนะนำให้ฐานะคนพิเศษที่ได้ยืนเคียงคู่ กับอีกคนที่ต้องยืนโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางเวทีกับสายตานับร้อยคู่ มันคงรู้สึกอ้างว้างและอับอายน่าดู

“ผมต้องขอขอบคุณน้องญาดาจากใจจริง เพราะถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้ ผมคงไม่มีโอกาสได้รู้จักกับผู้หญิงดีๆอย่างนาเดีย...” ฝ่ามือของญาดากำเข้าหากันแน่น ใบหน้าซีดเซียวลงเรื่อยๆ “ผู้หญิงคนนี้ปลอมไลน์เป็นนาเดียเพื่อไปอ่อยน้องชายของผม... เจมส์มาร์”

คราวนี้เสียงซุบซิบดังลั่น ซึ่งนาเดียเองก็อดใจเต้นไม่ได้ เธอไม่รู้มาก่อนว่าเจคอปรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร แล้วเขารู้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ญาดาเหมือนกำลังจะร้องไห้ ตัวเธอสั่นไหว

“และนอกจากพฤติกรรมต่ำๆในครั้งนี้ เธอก็ยังทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลของผมได้”

“หู้ยยยยยย/ฮึ้มมมมมมมมมมมม”

เสียงร้องตกใจกับสีหน้าเหวอของทุกคนในฮอล์ทำให้นาเดียต้องเงยหน้าขึ้นมองตามสายตาของคนอื่น แล้วเธอก็แทบช็อคกับสิ่งที่ได้เห็น

ภาพญาดาเปลือยท่อนล่างกำลังมีเพศสัมพันธ์กับบาเทนเดอร์ในผับโชว์หลาอยู่บนโปรเจคเตอร์ หญิงสาวตกใจจนต้องยกมือขึ้นปิดปาก ภาพอนาจารระหว่างญาดากับบาเทนเดอร์ถูกเลื่อนไปเรื่อยๆ มีกระทั่งภาพแชทไลน์ที่ญาดาปลอมเป็นเธอไปคุยกับพี่เจมส์ เธอเหลือบมองไปทางญาดา อีกฝ่ายกำลังก้มหน้าตัวสั่นระริก หล่อนคงจะกำลังร้องไห้

นาเดียไม่อยากเชื่อ เพราะเธอไม่เคยเห็นญาดาร้องไห้มาก่อน

“ผมได้ส่งภาพเหล่านี้ให้กับทางสภาการพยาบาลพิจารณาบทลงโทษแล้ว และผมก็พึ่งได้รับจดหมายตอบกลับมาว่าทางสภาการพยาบาลคงจะยอมรับพฤติกรรมเสื่อมทรามแบบนี้ไม่ได้ จึงขอยกเลิกใบประกอบวิชาชีพของผู้หญิงคนนี้ตลอดชีพ และเพราะเหตุนี้ ผมจึงขอไล่เธอออกจากการเป็นพยาบาลของโรงพยาบาลเรา”

เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นอีกครั้ง ญาดาไม่อาจทนยืนอยู่ตรงนั้นได้ เธอหันหลังวิ่งลงไปจากเวที นาเดียทันได้เห็นแววตาอาฆาตเพียงเสี้ยววินาทีก่อนหล่อนจะวิ่งหนีไป

“ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบนะครับ หมดเรื่องแย่ๆสำหรับคืนนี้แล้ว จากนี้ก็ขอให้น้องๆสนุกกับปาร์ตี้อาหารค่ำกันให้เต็มที่ พร้อมกลับไปลุยงานกันหลังจากนี้”

นาเดียปล่อยให้เจคอปอยู่บนเวทีต่อตามลำพัง ส่วนเธอเลือกจะเดินตามหลังญาดาไป หล่อนไม่ได้วิ่งหนีไปไกลเกินกว่าด้านหลังของเวที เพราะทางออกมีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ยืนขวางทางอยู่ พอหล่อนได้ยินเสียงฝีเท้า หล่อนก็หันกลับมา

“อีนาเดีย อีชั่ว อีสัตว์! มึงเป็นคนเอาเรื่องที่กูแอบปลอมไลน์มึงไปฟ้องผ.อ.ใช่ไหม มึงกลัวว่ามึงจะแพ้ถึงขนาดใช้วิธีต่ำๆแบบนี้เลยเหรอ อีสารเลว” ญาดาชี้หน้าด่ากราดอดีตเพื่อน เธอไม่เคยอับอายขายขี้หน้าขนาดนี้มาก่อน ยิ่งได้เห็นสีหน้าไร้ความรู้สึกของนาเดีย อารมณ์ก็ยิ่งเดือด“มึงมันเหี้ยยิ่งกว่าสัตว์ กูอุตส่าคบมึงเป็นเพื่อน ทั้งที่คนอื่นเขาไม่อยากคบมึงด้วยซ้ำ มึงยังกล้าทำแบบนี้กับกู อีเนรคุณ! ขอกูตบล้างเลือดเลวๆของมึงหน่อยเถอะ” ญาดาพุ่งตัวเข้าหานาเดียหมายจะระบายความแค้น แต่ยังไม่ทันปะทะ มือของหล่อนก็ถูกหยุดไว้กลางอากาศ นาเดียเห็นสีหน้าของอดีตเพื่อนเขียวคล้ำลงเรื่อยๆ ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด มันทำให้เธอนึกถึงวันนั้น… วันที่เธอยอมรับโทษทัณฑ์แทนมัน ยอมรับความเจ็บปวดแทนมัน

         เจคอปออกแรงสะบัดเพียงนิด ร่างทั้งร่างของญาดาก็ถลาล้มลงกับพื้น หล่อนมองหน้าชายหนุ่มพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้ม “ฮื้อออ พี่เจค มันใส่ร้ายหนู หนูไม่ได้ทำจริงๆนะคะ” มันยังกล้าพูดโกหกอีก แกไม่รู้อะไรซะแล้ว พี่เจคเขาเกลียดคำโกหกที่สุด

เจคอปย่อตัวลง มองคนตรงหน้าด้วยสายตาราวกับจะฆ่าให้ตายจริงๆ มือหนาบีบเข้าที่ข้างแก้มจนญาดาลอยตัวขึ้นจากพื้น “เลิกตอแหลสักที มึงรู้ไหมว่านาเดียต้องทนรับกรรมแทนมึงมามากขนาดไหน!”

น้ำเสียงชวนขยาดจนนาเดียอดขนลุกไม่ได้ มันแทบจะเป็นเสียงเดียวกันกับวันที่เธอถูกเขาลงทัณฑ์ในรถวันนั้น เธอยังจำความเจ็บปวดได้ขึ้นใจ โชคดีแค่ไหนกันนะที่เธอเลือกจะพูดความจริงกับเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้เอ่ยชื่อของญาดาออกไปก็ตาม ยิ่งได้มาเห็นสิ่งที่มันใส่ร้ายเธอวันนี้ ก็ยิ่งตอกย้ำความโง่งมของตัวเองที่เลือกจะปกป้องคนอย่างมัน

“พี่เจค พอเถอะ” เธอทำใจกล้าเอื้อมไปแตะแขนเขาเบาๆ แม้จะหวาดกลัวอารมณ์ร้ายของเขา แต่เธอก็อดไม่ได้ เจคอปยอมปล่อยมือ

“เดีย ยังจะใจอ่อน...”

“เปล่าค่ะ! แต่หนูขอจัดการเองดีกว่า”

นาเดียจ้องใบหน้าของคนที่เคยรักยิ่งกว่าตัวเอง ซึ่งอีกฝ่ายก็จ้องตอบกลับมาเช่นกัน แต่คราวนี้สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“เดีย กูเป็นเพื่อ....”

ไม่ปล่อยให้คนตรงหน้าหลุดคำพูดนั้นออกมา เพี๊ยะ!!!!!!

นาเดียตบหน้าญาดาเต็มแรงจนหล่อนล้มลงไปนอนกับพื้น

“ไม่ต้องมาเรียกกูว่าเพื่อน มึงรู้ไหมว่าที่ผ่านมากูต้องเจออะไรมาบ้าง ที่ผ่านมากูยอมมึงมามากแค่ไหน กูทำเพราะกูรักมึง รักมึงยิ่งกว่ารักตัวเองไง!” นาเดียพูดทั้งน้ำตา ใครว่าเธอไม่เสียใจ เธอเสียใจมาก! เสียใจที่มันกลายมาเป็นแบบนี้ ถ้าเพียงมันจะเห็นเธอเป็นเพื่อนสักนิด ทุกอย่างคงไม่ต้องเลวร้ายขนาดนี้

เพี๊ยะ!!!! “นี่สำหรับที่มึงตั้งใจทำร้ายกูที่ชายหาด”

เพี๊ยะ!!!! “นี่สำหรับความรู้สึกที่กูต้องเสียใจให้กับมึง!!”

เลือดสดไหลออกมาจากมุมปาก

นั้นยิ่งทำให้เธอเจ็บ ร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดัง เจ็บทั้งฝ่ามือ เจ็บทั้งหัวใจ แต่ยิ่งเธอรักญาดามากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้เธอเกลียดมันมากขึ้นเท่านั้น มือบางตั้งท่าจะฟาดลงไปอีกครั้ง “พอแล้ว!”

เจคอปกระชากร่างสะอึกสะอื้นเข้าสู่อ้อมกอด “ไม่ร้องนะคนดี ไม่ร้องๆ เดียดีเกินไปที่จะทำแบบนี้ ไปรอพี่ที่ห้องนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”

เจคอปเช็ดน้ำตาให้คนในอ้อมกอด ก่อนจะมอบจูบหนักหน่วงบนหน้าผาก ผู้หญิงของเขาอ่อนโยนเกินไป

“ค่ะ พี่เจครีบมานะ หนูไม่อยากอยู่คนเดียว” เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

เธอหันไปมองญาดาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเลือกเมินสายตาแสดงความหวาดกลัวของมัน เธอรู้ดีที่สุดว่าผู้ชายอย่างเจคอปน่ากลัวแค่ไหน แต่มันก็สาสมแล้ว

“พี่เจค...” เป็นเสียงสั่นเครือของญาดา

         “กูทนฟังมึงเรียกกูยังงี้มานานแล้ว รู้ไหมว่ากูสะอิดสะเอียนแค่ไหน”

น้ำเสียงทุ้มต่ำจนเธอยังนึกกลัว นาเดียรีบสาวเท้าออกไปจากห้อง

“เดีย... ช่วยฉันด้วย เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”

เสียงนั้นทำให้เธอชะงักฝีเท้า คำว่า 'เพื่อน' มันทำให้เธอเจ็บเกินจะทนฟังได้ “ลาก่อนนะ... ญาดา”

Jacob’s talk

ผมรอจนกระทั่งแน่ใจว่านาเดียเดินออกไปไกลมากพอที่จะไม่ได้ยินเสียงอะไรจากห้องนี้อีก เธออ่อนโยนเกินไปที่จะต้องมารับรู้เรื่องเลวร้ายแบบนี้ และผมก็กลัว กลัวว่าเธออาจจะรับไม่ได้หากรู้ว่าคนอย่างผมสามารถทำอะไรได้บ้าง ผมกลัวจะเสียเธอไป

เสียงภายในห้องประชุมเงียบสงัด คนอื่นๆถูกย้ายไปยังห้องอาหารกันหมดแล้ว ภายในห้องแคบๆหลังเวที มีเพียงแค่ผม ญาดา แล้วก็ผู้ชายอีกสองคน ผมมองหน้าผู้หญิงชั้นต่ำที่นั่งกอบกุมแก้มบวมช้ำ ผมไม่รู้สึกสงสารมันสักนิด

เพราะมันคนเดียว! ทำให้ผมเคยทำร้ายนาเดีย

เพราะมันคนเดียว! ทำให้ผมต้องทะเลาะกับนาเดีย

ผมจ้องมันด้วยแววตาเหี้ยมโหดที่สุด จนมันคงทนอยู่ไม่ไหว ถึงได้คลานมาเกาะที่ขาผม

“ผ.อ. หนูขอโทษ หนูผิดไปแล้ว ฮื้อๆๆๆๆ”

ผมรู้สึกถึงความสั่นไหวผ่านปลายมือที่จับอยู่ตรงข้อเท้า

ผมไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น ผมจะให้โอกาสมัน เหมือนตอนที่ผมให้โอกาสนาเดียได้พูดความจริง “หึ! มึงรู้ไหมว่านาเดียเขารักมึงมากขนาดไหน ขนาดมันโดนกูข่มขืนมันยังไม่ปริปากเอ่ยชื่อมึงสักคำ”

ผมมองตามัน มองเข้าไปในดวงตาโสมมของมัน หากมันสำนึกสักนิด ผมอาจจะปล่อยมันไป “แม้แต่ตอนที่มึงขอให้มันช่วยแนะนำให้รู้จักกับกู ทั้งๆที่กูกับมันรักกันอยู่ ทั้งๆที่กูทำร้ายมันครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มันก็ยังยอมยกกูให้มึง มันต้องยอมเสียใจ ต้องยอมเสียสละ เพราะว่ามันรักมึงมากไง”

“.............”

“เพราะยังงี้กูถึงได้รักนาเดียไง เพราะคนอย่างมึงมันเทียบนาเดียไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ” ผมเห็นแววตาวูบไหวเล็กน้อย แค่เล็กน้อยจริงๆ

“แต่กูจะให้โอกาสมึง ให้มึงได้ลองปรนเปรอจนกูพอใจ ถ้ามึงทำได้ถึงใจกูแบบที่นาเดียทำ กูอาจจะปล่อยมึงไป”

คราวนี้มันตาลุกวาวขึ้นมาทันที

“จะ...จริงเหรอคะผ.อ..”

ร่างโสมมตะเกียดตะกายขึ้นมานั่งกอดขาผมไว้ ผมค่อยๆนั่งลง ลูบแก้มที่บวมช้ำของมัน

“แน่ใจนะ ว่าลีลามึงจะเด็ดกว่านาเดียจนทำให้กูติดใจได้”

ผมแสยะยิ้ม มันรีบพยักหน้าทันที

“หนูมั่นใจค่ะ หนูมั่นใจว่าจะทำให้ผ.อ.ลืมนาเดียได้”

หึหึ!

“ดี งั้นก็ถอดชุดออก”

มันมีสีหน้าลังเลเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองการ์ดสองคนที่ยังคงยืนดูเหตุการณ์อยู่ มันกลืนน้ำลายเพียงอึกเดียว ก่อนจะรูดซิปตรงสะโพกลง

ชุดเดรสถูกถอดออกจากตัวมัน เหลือเพียงบลาเซียกับกางเกงลูกไม้เข้าชุดกัน “ถอดออกให้หมด”

ผมสั่งโดยที่ยังนั่งมองทุกการกระทำของมัน ซึ่งมันก็ไม่รอช้า รีบปลดตะขอบลาและค่อยๆถอดกางเกงในออก ผมมองร่างกายเปลือยเปล่าของมัน ใช้มือลูบไปที่แก้มเบาๆ ก่อนจะเลื่อนลงมาที่ลำคอ

มันมีรูปร่างที่สวยใช้ได้ทีเดียว หน้าอกใหญ่ไม่น้อยไปกว่านาเดียเลย แม้ข้างนอกจะดูสวยงาม แต่ข้างใน... คงจะเน่าเฟะน่าดู

ผมโน้มหน้าเข้าไปใกล้ “ถ้าอยากนอนกับกู มึงก็ไปนอนกับผู้ชายมาให้ทั่วก่อนก็แล้วกัน”

ผมกดเสียงต่ำด้วยความขยะแขยง มือที่เคยจับอยู่ที่ลำคอออกแรงบีบจนมันหายใจไม่ออก แต่ผมไม่ฆ่ามันหรอก ผมรู้ว่าต้องบีบตรงไหนมันจะไม่ตาย แต่มันจะทรมานที่สุด “กูให้โอกาสมึงแล้วนะ ถ้ามึงเห็นแก่นาเดีย เห็นนาเดียเป็นเพื่อนสักนิด กูก็จะปล่อยมึงไป แต่นี่ มึงก็ยังกล้าหักหลังนาเดียได้อีก”

“โอ๊ยยยย แค่กๆๆๆ แค่กๆๆๆๆๆๆๆ”

“ฉันไปล่ะ อยากทำอะไรพวกมึงก็ทำตามสบาย ผู้หญิงมันร่านอยู่แล้ว ก็สนองความต้องการมันหน่อยแล้วกัน”

ผมพูดทิ้งท้ายแค่นั้น ก่อนจะรีบเดินออกมาเพื่อกลับไปหายัยตัวเล็ก ป่านนี้คงจะนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้วมั้ง ผมได้ยินเสียงบางอย่างแว่วมาจากบานประตู แต่คนอย่างผมไม่มีหัวใจให้ผู้หญิงหน้าไหนอยู่แล้ว

ไม่สิ... ผมเองก็มีหัวใจเหมือนกันนี่นะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คำพิพากษาซาตาน   บทที่พิเศษ 2

    เสียงบรรเลงบทเพลง Classic จากวง orchestra ชื่อดังระดับโลกกำลังประสานเสียงจากเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดขับกล่อมออกมาในบทเพลง 'Four Season'บทเพลงที่มีท่วงทำนองไพเราะที่ฟังกี่ครั้งก็ยังคงตราตรึงหัวใจคนฟัง เหล่าบรรดาคนดังของประเทศอเมริกา ทั้งนายแบบนางแบบชื่อดัง ทั้งเหล่าคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงบรรดาไฮโซทั้งหลาย ต่างพร้อมใจกันมารวมตัว ณ Hall ขนาดใหญ่ที่จุคนได้นับหมื่น และหนึ่งในบรรดาคนดังเหล่านั้น ก็รวมถึงศาสตราจารย์ดอกเตอร์นายแพทย์เจคอป บดินพิทักษ์ นายแพทย์ชื่อดังที่พึ่งได้รับการยกย่องจากองกรค์แพทยสภาของอเมริกาให้เป็นนายแพทย์ผู้มากความสามารถซึ่งเป็นแกนนำหลักสำคัญในการพัฒนาวงการแพทย์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพราะในช่วง 15 ปีนับตั้งแต่ที่เขากลับมาดูแลกิจการต่อจากผู้เป็นบิดา เขาก็ค่อยๆขยายสาขาไปจนครอบคลุมทั่วทุกรัฐในอเมริกา ทำให้ชื่อเสียงของเขากลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในฉายา'อาชาแห่งวงการแพทย์'ทั้งๆที่ได้รับเกียรติจากท่านคณะรัฐมนตรีกลาโหมโดยตรงสำหรับตั๋วที่นั่งชั้นลอยระดับวีไอพี แต่แขกคนสำคัญคนดังกล่าวกลับไม่ได้นั่งอยู่ในที่ที่ถูกจัดไว้ให้หลังม่านพลิ้วไหวบนชั้นลอยระดับวีไอพี ปรากฏร่างของชายหญิง

  • คำพิพากษาซาตาน   บทพิเศษ

    ตอนพิเศษเล็กๆเจคอปผละออกจากร่างบาง “แต่งตัวสิ”เขาลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับเดินไปหยิบเสื้อผ้าตัวใหม่ที่ดูเป็นทางการออกมาจากตู้เสื้อผ้า“จะไปไหนเหรอคะ” นาเดียเอ่ยถามด้วยความสงสัย มองแผ่นหลังที่กำลังยัดแขนลงไปในเสื้อเชิ้ต“กลับบ้านเดียไง” เขาพูดโดยไม่ได้หันมามองหน้าคนตัวเล็ก จึงไม่เห็นว่าร่างบางมีสีหน้าอึ้งกับคำพูดของเขาแค่ไหน แต่เขาก็พอจะเดาได้ จึงหันกลับมาทั้งที่ยังติดกระดุมไม่เสร็จ “ไปขอลูกสาวจากท่านทั้งสองไง” รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าคนสูงวัยเขาไม่มีเวลามากพอจะจัดพิธีรีตองอะไรมากมาย เพราะอีกไม่นานก็ต้องกลับอเมริกาแล้ว เขาอดใจรอที่จะบอกข่าวดีให้กับพ่อแม่ที่รออยู่ทางโน้นแทบไม่ไหว อายุจนปูนนี้แล้ว พึ่งจะรู้สึกอยากเลี้ยงลูก“ตอนนี้พี่อายุ 37 คงต้องรีบมีน้องอีกคนไวไวแล้วล่ะ เดี๋ยวแก่เกินจะเดินตามลูกไม่ทัน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าร่างสูง แต่คนตัวเล็กกลับมีสีหน้าแดงก่ำกับคำพูดชวนทะลึ่ง“บะ บ้าเหรอคะ” นาเดียยิ้มจนแก้มแทบปริ ก่อนร่างกายจะถูกโอบอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้น เจคอปถูไถใบหน้ากับหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะประทับจูบอย่างแผ่วเบา “ขอให้เป็นลูกสาวทีเถอะ”เจคอปค่อยๆวางคนตัวเล็กลงบนพื้นอย่างท

  • คำพิพากษาซาตาน   บทที่ 71 พี่ตั้งใจ END

    ย้อนกลับไปเมื่อราวสองเดือนก่อนหน้านี้…เจคอปรับสายจากทางไกล เป็นหมายเลขที่โทรมาจากอเมริกา“ครับป๊า”“ป๊ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเจค ตอนนี้โรงพยาบาลที่อเมริกากำลังเกิดปัญหาอย่างหนัก ป๊าอยากให้ตาเจมส์หรือเจค เราคนใดคนหนึ่งกลับมาดูแลกิจการที่นี่ แต่ใจป๊าอยากให้ตาเจมส์เป็นคนกลับมา เพราะที่นี่ไม่ได้มีสาขามากมายเหมือนที่ประเทศไทย เจ้าคนเสเพลอย่างตาเจมส์คงจะจัดการได้ไม่เหนือบ่ากว่าแรง” เรื่องสำคัญจากปากคนเป็นพ่อทำให้ผมต้องชะงักฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินอยู่ อดนึกถึงน้องชายไม่ได้ จริงอย่างที่พ่อเขาว่า ที่ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่อยู่ใต้อาณัติของครอบครัวเขาอยู่ทั่วเกือบทุกจังหวัด ทำให้ปัญหาและภาระงานที่ต้องรับผิดชอบมีมากมายกว่าที่โน้นมากโข แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า...“แล้วเรื่องงานหมั้นระหว่างหนูมินกับตาเจมส์ไปถึงไหนแล้ว ป๊าอยากให้หมั้นเช้าแล้วก็แต่งเย็นไปเลยทีเดียว ตอนตาเจมส์กลับมาจะได้พาหนูมินกลับมาด้วย ซินดี้เขาคิดถึงหนูมินน่าดู” ในที่สุดคำถามที่ผมกลัวคนเป็นพ่อจะถามก็หลุดออกมาจนได้ ทั้งๆที่งานหมั้นระหว่างตาเจมส์กับยัยมินควรจะเสร็จลุล่วงเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว แต่เพราะปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้ยังคา

  • คำพิพากษาซาตาน   บทที่ 70 สิ่งเดียวที่จะเหนี่ยวรั้งเธอเอาไว้

    “อ๊ะ พะ... พี่เจค” ไม่ทันที่ร่างบางจะทันได้เอ่ยความใน ปากหนาก็ชิงประกบจาบจ้วงเอาทุกคำที่คิดว่าร่างบางจะเอ่ยคำปฏิเสธออกมา นาเดียเบิกตามองเขาด้วยความตื่นตะลึง เขาหมายความว่าอะไร เขารู้แล้วเหรอว่าเธอท้อง แต่เขาจะรู้ได้ยังไง“อื้มมม อ่ะ...พะ... อื้มมม” ครั้นจะส่งเสียงอะไรก็ตามที่คิดอยากจะพูด เจคอปจะคอยส่งลิ้นเข้าหาเพื่อห้ามปรามเธอเสียทุกครั้งไป จนร่างบางหมดความพยายามที่จะเอ่ยถามข้อสงสัย ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขสมที่เขาปรนเปรอให้ มือเล็กที่เคยดันอยู่ตรงแผงอกเปลี่ยนไปโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้ ท่าทางเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธเรื่องลูกของเขาทำให้นาเดียเกิดความหวังเล็กๆขึ้นในใจเจคอปหลับตาแน่นก่อนจะคำรามออกมาเบาๆเมื่อได้ปลดปล่อยน้ำเชื้อพันธุ์ดีเข้าสู่ร่างกายคนตัวเล็กสมดังตั้งใจ เขาแช่ร่างกายค้างไว้ในตัวเธอ หวังให้ลูกๆนับพันล้านตัววิ่งเข้าไปหาไข่ใบเล็กๆเพียงใบเดียวที่อยู่ในร่างกาย เขาตั้งใจจะผูกมัดเธอด้วยวิธีที่เห็นแก่ตัว โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาได้ทำสำเร็จไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ตั้งใจแล้ว“ถ้ามีเจคอปน้อยอยู่ในท้องเธอ เธอก็จะหนีพี่ไปไหนไม่ได้อีก” เขากระซิบความในใจแสนชั่วร้ายข้างใบหูคนตัวเล็ก และนั่นทำให้เธ

  • คำพิพากษาซาตาน   บทที่ 69 พี่ถามว่าเธอจะไปไหน! NC

    เปลือกตาปิดสนิทค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นแววตาที่สะท้อนแต่เพียงความเจ็บปวด เขายังไม่ได้หลับ เขาแค่รอดูว่ายัยตัวเล็กกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่เขารู้ตัวตั้งแต่ตอนที่เปิดตู้เสื้อผ้าแล้ว มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเสื้อผ้าของนาเดียหายไป เขาเหลือบมองไปยังโต๊ะก็พบว่าข้าวของต่างๆของเธอหายไปด้วย เธอกำลังคิดจะไปจากเขาบางทีการที่ต้องทนอยู่กับผู้ชายอารมณ์ร้อนอย่างเขามันคงทำให้เธอมีแต่ความทุกข์ บางทีสิ่งที่เขาพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตลอดมันคงยังไม่ดีพอสำหรับเธอ บางทีความรักของเขามันคงไม่มีค่าพอจะเหนี่ยวรั้งเธอไว้บางที... เขาคงต้องปล่อยเธอไปเสียทีหัวใจดวงน้อยบีบรัดรุนแรงจนเกิดอาการเจ็บปวดรวดร้าว ภาพที่สะท้อนอยู่ในดวงตาพร่าเบลอเพราะเจ้าของดวงตามองมันผ่านม่านน้ำตาท้วมท้น นาเดียกวาดตามองไปรอบๆ คอนโดขนาดใหญ่ที่สร้างความทรงจำให้กับเธอมากมายทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคราบน้ำตา...หญิงสาวค่อยๆปิดเปลือกตาลง คล้ายจะเป็นการตัดใจจากผู้ชายอีกคนที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ในห้อง มือเล็กเอื้อมไปจับลูกบิดประตูก่อนจะคาทิ้งไว้อย่างนั้นประตูบานเดียวกันนี้ที่เธอเคยเปิดมันออกเพื่อพาตัวเองออกไปจากห้องที่ไม่เคยอยากจะทนอยู่แม้

  • คำพิพากษาซาตาน   บทที่ 68 ลาก่อนนะคะพี่เจค...

    กิจวัตรยามเช้าระหว่างนาเดียกับเจคอปยังคงดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน เพียงแค่ไม่มีการสนทนาระหว่างทั้งคู่ไม่มีการเดินจับมือลงมาจากคอนโดไม่มีการจูบลาก่อนจะแยกกันไปทำงานไม่มีการส่งข้อความหาตลอดทั้งวันและไม่มีเธอหลงเหลืออยู่ในสายตาของเขาอีกแล้วก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของเจคอปดังขึ้น “เข้ามา”คำอนุญาตจากเจ้าของห้องทำให้คนที่อยู่ด้านนอกเปิดประตูเข้าไปด้านใน เจมส์มาร์มองพี่ชายของตัวเองกำลังง่วนอยู่กับเอกสารกองโต เจคอปยังอยู่ในสภาพเดิมเหมือนที่เขาแวะมาเมื่อตอนเช้าก่อนเข้าผ่าตัดไม่มีผิด และสภาพของผู้หญิงอีกคนที่เขาเห็นเมื่อสักครู่ ใบหน้าหมองเศร้าไม่ต่างกันเลย นี่คงจะยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันอีกสินะ“มีธุระอะไร” น้ำเสียงเย็นชาแบบที่อีกฝ่ายมักจะใช้เวลามีเรื่องทุกข์ใจหรืออยากซ่อนความรู้สึก มีหรือที่คนเป็นน้องอย่างเขาจะดูไม่ออก“เมื่อวานพี่คุยกับนาเดียรึยังครับ” เจมส์มาร์เอ่ยถามโดยไม่เกรงใจ เขานั่งลงโดยไม่รอให้คนตรงหน้าอนุญาต อยู่กับเจคอปมาร่วม 30 ปี พึ่งจะเคยเห็นพี่ชายมีความรัก แล้วน้องชายอย่างเขาจะยอมให้มันพังทลายลงเพียงเพราะความเย็นชาของคนตรงหน้าได้อย่างไร“ไม่มีอะไรต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status