LOGINเจ้าของร่างสูงยืนพิงหน้าต่างมองดูคนหมดสภาพที่นอนอยู่บนเตียง หลังจากถูกราดน้ำเรียกสติอยู่พักใหญ่กว่าจะหมดฤทธิ์ถึงได้หลับไป ปล่อยให้เคนจัดการเปลี่ยนผ้าให้ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่เลยสักนิด
ความต้องการของคนที่กินยาปลุกเซ็กซ์เข้าไปคือการที่มีความต้องการทางเพศ ซึ่งเคนไม่ได้อยากมีอะไรกับคนที่ขาดสติ วิธีที่พอจะช่วยได้ที่คิดออกก็มีเท่านี้
ระหว่างทางกว่าจะมาถึงห้องพักของพลับจีน เจ้าตัวพยายามที่จะปีนป่ายเข้าหาเคนอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถือว่าเก่งมากที่พยายามฝืนตัวเองได้ แม้ว่าจะต้องกัดแขนตัวเองจนเลือดซิบก็ตาม
“เจอตัวยังครับคุณแซน”
[ค่ะคุณเคน เป็นลูกค้าใหม่เพิ่งมาครั้งแรกค่ะ]
“ไม่ว่าจะลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ ผมไม่สนใจ กฎของร้านเป็นยังไงคุณแซนรู้ใช่ไหมครับ”
[รู้ค่ะ แล้วเรื่องที่พนักงานของเราไปฟาดหัวเขาล่ะครับ]
“ผมไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เพราะพนักงานเราไม่ผิดที่ปกป้องตัวเอง”
“ค่ะ เดี๋ยวที่เหลือแซนจะจัดการให้เรียบร้อยค่ะ”
“ฝากด้วยครับ”
เคนกดวางสายจากผู้จัดการร้าน ทอดมองพลับจีนพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ถึงไม่อยากข้องเกี่ยวด้วยแต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดีเพราะยังไงเสียพลับจีนก็ถือว่าเป็นพนักงานในร้านของเขาเหมือนกัน
ที่ร้านไม่ได้มีกฎห้ามพนักงานหากจะไปต่อกับลูกค้า แต่นั่นต้องมาจากความเต็มใจ ไม่ใช่การวางยาแบบนี้ การที่พลับจีนใช้ขวดตีหัวอีกฝ่ายก็ถือว่าสมควรแล้ว นั่นเป็นการป้องกันตัวไม่ใช่การตั้งใจทำร้ายร่างกาย
สุดท้ายแล้วสี่เดือนที่ผ่านมาก็เหมือนไม่มีความหมาย เมื่อเขายังต้องกลับมาข้องเกี่ยวกับเด็กคนนี้อีกครั้ง และลางสังหรก็บอกกับเขาว่าจะมีอีกเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ครั้งนี้
เคนเดินเข้าไปดึงผ้าห่ม ห่มให้พลับจีนก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ไม่ลืมที่จะล็อกกลอนจากด้านในให้เสร็จสรรพ ก่อนจะกลับไปที่รถและขับออกไปทันที
...
พลับจีนตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย เขายังสับสนมึนงงอยู่กับตัวเองครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกได้ว่าเมื่อคืนเพิ่งเจออะไรมา และยังจำได้อีกว่าคนที่ช่วยเขาไว้คือใคร ไม่รู้ว่าทำไมเคนถึงอยู่ที่นั่น และทำไมทุกครั้งที่เจอกันเขาถึงอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้อยู่ร่ำไป
นิ้วเรียวนวดคลึงขมับเบา ๆ ไอ้ยาที่เขาพูดถึงกันพลับจีนไม่คิดว่ามันจะทำให้คนคนหนึ่งเป็นได้ถึงขนาดนี้ เมื่อคืนหากเขาพลาดทำเรื่องน่าอายแบบนั้นลงไปกับเคนอีกเป็นครั้งที่สองคงเกิดปัญหาตามมาจริง ๆ ก็ได้ แบบนั้นเคนคงคิดว่าเขาตั้งใจให้ท่าหรือเปล่า
“อือ!!”
เจ้าของร่างร้องอื้ออึงด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะพยุงร่างตัวเองเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา โชคดีที่วันนี้เขาไม่ต้องไปทำงานที่ร้านเบเกอรี่ แต่ก็ยังมีสอนพิเศษให้เด็ก ๆ ยังไงเสียก็เลื่อนนัดไม่ได้เด็ดขาด
พลับจีนใช้เวลาจัดการตัวเองไม่ถึงชั่วโมงก็รีบออกมาที่สวนสาธารณะที่เดิม ยังดีที่ไม่ได้มาสาย เด็ก ๆ ที่นัดไว้ก็ยังไม่มีใครมาถึง
ทว่าก่อนออกมาพลับจีนหยิบกระดาษโน้ตที่เคนเขียนทิ้งไว้เอาติดมือมาด้วย เป็นเบอร์โทรของอีกฝ่าย ซึ่งเขาไม่เคยมีช่องทางติดต่อเคนมาก่อน
ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งพลับจีนก็ตัดสินใจกดโทรไป ยังไงเขาก็ควรจะขอบคุณที่ช่วยไว้ ไม่งั้นเคนคงไม่ทิ้งเบอร์เอาไว้ให้
ถือสายรอจนตัดไปถึงสามครั้งก็ยังไม่มีวี่แววว่าอีกคนจะรับสาย พลับจีนจึงเลิกพยายามติดต่อไป ถ้าเห็นคงจะโทรกลับมาเอง.. นั่นแหละมั้ง
.
.
Rrrrr....
ระหว่างที่กำลังสอนเด็กก็มีสายโทรเข้ามา พลับจีนจึงปล่อยให้ทุกคนทำกันเองไปก่อน ปลีกตัวออกมารับสายจากเบอร์ที่เขาเพิ่งพยายามโทรไปก่อนหน้านี้
“สวัสดีครับ”
[ใครครับ]
“เอ่อ.. พลับเองครับ ไม่ทราบว่าใช่คุณเคนไหมครับ”
[อืม มีอะไร]
“พลับเห็นเบอร์ที่คุณเขียนทิ้งไว้ให้ในห้อง คือ.. พลับจะโทรมาขอบคุณน่ะครับ”
[แค่นี้]
“ครับ? แค่นี้ครับ”
[ฉันช่วยเธอแล้ว ยังต้องมาจัดการเรื่องที่เธอทำไว้กับลูกค้าในร้านฉันเมื่อคืนอีก แค่ขอบคุณคิดว่าพอหรือไง]
คิ้วสวยขมวดมุ่นติดกันไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายพูดเรื่องลูกค้าที่ร้าน เรื่องที่ช่วยเขาก็ขอบคุณแล้วไง ส่วนเรื่องที่ก่อไว้เมื่อคืนนี้มันเกี่ยวกับคุณเคนยังไง
“หมายความว่ายังไงครับ”
[อยู่ไหน]
“ครับ?”
[ไม่มีหูหรือไง ทำไมชอบให้พูดซ้ำ]
“อยู่สวนสาธารณะครับ”
[ที่ไหนล่ะ ต้องให้ถามละเอียดเลยหรือไง]
“แล้วคุณเคนจะอยากรู้ไปทำไมล่ะครับ”
[อยากขอบคุณเรื่องที่ฉันช่วยไว้ก็บอก ๆ มาเถอะ]
ไอ้ที่อยากขอบคุณก็ควรขอบคุณอยู่หรอก แต่นี่จะอะไรนักหนา แค่คำขอบคุณไม่พอหรือยังไง จะมาเอาอะไรจากเขา ค่าน้ำมันรถที่พาเขามาส่งที่ห้องหรือไง
สุดท้ายความเงียบจากปลายสายก็กดดันจนต้องบอกที่ตัวเองอยู่ตอนนี้ไป เขาละเบื่อจริง ๆ ไอ้ผู้ชายผีบ้าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายคนนี้ เดาใจยากจริง ๆ ไม่รู้จะเอาอะไรยังไงกับเขากันแน่
หลังจากวางสายไป ใช้เวลาเพียงสามสิบนาทีเคนก็มาถึงที่พลับจีนอยู่ ทว่าไม่ได้ลงมาจากรถ ทอดมองร่างสมส่วนคุ้นตาที่กำลังตั้งใจสอนเด็ก ๆ อยู่เงียบ ๆ หลายต่อหลังครั้งที่เคนถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมากับสิ่งที่ตัวเองทำ แต่กลับตอบไม่ได้สักที
พลันอีกฝ่ายหันมาสบตากันเพียงครู่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะหันไปคุยกับเด็ก ๆ ด้วยรอยยิ้ม รอส่งทุกคนกลับไปจนหมดถึงได้เดินมาที่รถของเคน
“คุณเคนมาหาพลับถึงที่นี่มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“มาเอาคำขอบคุณ”
“พลับก็ขอบคุณไปแล้วนี่ครับ”
“ไม่พอ”
“ฮะ?” แบบนี้ก็ได้เหรอวะ!?
“ขึ้นรถ”
“ไปไหนครับ”
“ทำไมถึงถามมากจังวะ” คิ้วเข้มขมวดติดกัน เอ่ยเสียงเข้มคล้ายคนรำคาญ
ทำไมถึงชอบบังคับกันอยู่เรื่อย แล้วทำไมเขาถึงต้องยอมทำตามทุกครั้งก็ไม่รู้ แต่ไปด้วยก็ดี เขาเองก็มีเรื่องสงสัยอยากจะถามอยู่เหมือนกัน
พลับจีนเดินถอนหายใจเสียงดังอ้อมมาอีกฝั่ง เปิดประตูรถขึ้นมานั่งข้างคนขับ ใบหน้าบึ้งตึงไม่ได้ทำให้เคนรู้สึกละอายใจที่บังคับให้อีกฝ่ายทำตามแต่อย่างใด
“สรุปจะพาพลับไปไหนครับ?”
“…”
อมหมาไว้ในปากอีกแล้วเหรอ! คำถามเขามันยากถึงขนาดตอบไม่ได้หรือไงกัน ไอ้คุณเคนนี่ทำให้เขาหัวเสียได้ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันจริง ๆ
ถ้าไม่ติดว่ามีบุญคุณที่ช่วยเขาไว้นะ พ่อจะง้างปากให้ฉีกเลย!!
หลังจากเงียบไปพักใหญ่ รถจอดติดไฟแดงพลับจีนจึงเอ่ยถามสิ่งที่สงสัยตอนที่คุยสายกันก่อนหน้านี้
“คุณเคนครับ”
“...”
“ตอนที่คุยสายกัน ที่คุณเคนบอกว่าต้องจัดการเรื่องที่พลับทำกับลูกค้าหมายความว่ายังไงครับ ทำไมคุณเคนถึงต้องมาจัดการอะไรให้พลับ”
“เธอทำงานที่นั้นมานานหรือยัง”
“เกือบปีแล้วครับ”
“ทำงานโดยที่ไม่รู้เลยหรือไงว่าใครเป็นเจ้าของร้าน”
นั่นสิ ที่ผ่านมามีอะไรเขาติดต่อผ่านผู้จัดการทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานจนถึงตอนนี้ ไม่เคยสนใจเลยว่าเจ้าของร้านคือใคร แต่ละวันนึกแค่ว่าไปทำงานเลยไม่ได้ใฝ่ที่จะรู้อะไรมากมายนักนอกจากหน้าที่ของตัวเอง
เดี๋ยวนะ..
“อย่าบอกนะครับว่าคุณเคนคือเจ้าของร้าน”
“ถ้าไม่ใช่แล้วฉันจะไปจัดการเรื่องเมื่อคืนให้เสียเวลาชีวิตฉันทำไม”
ที่ผ่านมาเคนรู้เรื่องเขาอยู่ผ่านเดียวเลยสินะ มีแต่เขาที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าของร้านที่ตัวเองทำงานอยู่ด้วยซ้ำ
แบบนี้เรื่องที่เขาไม่อยากให้น่านน้ำรู้เคนจะบอกไปหรือยัง?
“คะ คุณเคนได้บอกน่านเรื่องที่พลับทำงานที่นั่นไหมครับ” เขาไม่อยากให้น่านน้ำรู้ว่าตัวเองทำงานกลางคืน เพราะหากรู้เข้าคงได้ห้ามไม่ให้ไปทำแน่ ๆ และถ้ารู้อีกว่าเขามีความจำเป็นต้องใช้เงิน น่านน้ำก็คงจะเอาเงินที่ตัวเองมีมาช่วยเหลือเขาอย่างเช่นเมื่อก่อน หรือไม่ก็คงขอให้เฮียคินทร์ช่วยรับเขาเข้าทำงานที่บริษัท
เป็นอย่างนั้นคงไม่ดีเท่าไร หากต้องรบกวนน่านน้ำมากเกินไป ที่ผ่านมาช่วงที่เรียนอยู่เวลาเขามีเงินใช้ไม่พอก็ได้น่านน้ำที่คอยหยิบยื่นมาให้ แค่นั้นก็เกรงใจจะแย่ เรื่องส่วนตัวที่คิดว่าตัวเองรับผิดชอบได้เขาก็ไม่อยากเอาไปทำให้เพื่อนต้องหนักอกรกใจไปด้วย
“คุณเคนอย่าบอกน่านเรื่องที่พลับทำงานที่นั่นได้ไหมครับ”
“แล้วฉันจะได้อะไร”
“...” แค่ไม่พูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองต้องเอาอะไรมาแลกด้วยหรือไง “คุณเคนอยากได้อะไรครับ”
“ทุกอย่างหรือเปล่า”
“ถ้าคุณเคนรับปากว่าจะไม่บอกน่าน”
“ฉันไม่บอกก็ได้ แต่แลกกับที่เธอต้องทำตามที่ฉันบอก.. ทุกอย่าง”
“มันไม่มากไปหน่อยหรือครับ”
“หรืออยากให้น่านรู้ล่ะว่าเธอทำงานอะไร”
“...”
แค่เรื่องราวชีวิตของเขาที่น่านน้ำรู้ก็น่าเวทนาพอแล้ว ถ้ารู้ว่าเขาทำงานอะไรน่านน้ำจะรังเกียจเขาไปเลยหรือเปล่า หรือจะทิ้งเขาไปเหมือนคนอื่น ๆ ไหมน่ะ
“ว่าไง ฉันไม่มีเวลารอเธอคิดนานหรอกนะ”
“ก็ได้ครับ ขอแค่อย่าบอกน่าน”
เขาไม่อยากเสียเพื่อนคนเดียวในชีวิตไป... เพราะงั้นแค่ยอมทำตามที่เคนบอกก็คงไม่เหนื่อยบ่ากว่าแรงเท่าไรหรอกมั้ง.. ใช่ไหม?
“ดี”
เอ่ยออกมาสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งทว่าสีหน้ากลับแฝงไปด้วยความพอใจ ถ้าไม่ใช่เพราะอยากปิดบังน่านน้ำเขาคงไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ ถ้ารู้ว่าร้านนั้นเป็นร้านของเคนก็คงไม่เข้าทำงานตั้งแต่แรก
“สรุปคุณเคนจะพาพลับไปไหนครับ”
... เงียบกริบ
เมื่อกี้ยังพูดได้อยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงไม่พูดอีกแล้วล่ะ จะเอายังไงผู้ชายคนนี้ดีวะเนี่ย!
“พลับก็ขอบคุณไปแล้วนี่ครับ”
“ไม่พอ”
tbc.
คุยกับนักเขียน
คือ... รู้ตัวได้ยังว่าคนที่วอแวเขาคือใคร กันเอ่ยที่ไปวุ่นวายกับเขา ปัดโธ่บักเคนน้อยยยยย รู้ตัวได้ยังลูก น้องก็อยู่ของน้อง หนูนั่นแหละที่เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับน้องเขาน่ะ
ภายในรถเงียบสนิทไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน จนกระทั่งรถเลี้ยวมาจอดหน้าร้านขายของชำที่พลับจีนเองก็เคยมาอยู่หลายครั้ง“ลงสิ”พลับจีนหันมองเจ้าของรถด้วยความสงสัย ทว่าไม่ทันได้ถามอะไรอีกฝ่ายก็ลงจากรถไปเสียแล้ว ดวงตากลมกลอกมองบนพลางเป่าลมออกจากปากจนผมหน้าม้าเสียทรงร่างสมส่วนเดินตามหลังคนอายุมากกว่าเข้ามาในร้านขายของชำ หันไปยิ้มทักทายเจ้าของร้านเล็กน้อย“ช่วยเลือกซื้อของที่เด็ก ๆ ชอบหน่อย”“เด็กที่ไหนครับ”“บ้านเด็กกำพร้าที่เธอเคยไป”พลับจีนไม่เข้าใจเคนจริง ๆ ว่าเป็นคนแบบไหนกันแน่ ครั้งก่อนบอกไม่ชอบเด็ก ทว่าครั้งนี้กลับพาเขามาช่วยเลือกซื้อของให้เด็ก ๆ น่ะเหรอแต่ถึงสงสัยยังไงพลับจีนก็ไม่อยากถามอะไรให้มากนัก เดินไปหยิบตะกร้าใบใหญ่มาใบหนึ่ง เลือกซื้อพวกขนมและของใช้ที่คิดว่าจำเป็น จำพวกของเดิมๆ ที่เคยซื้อเหมือนทุกครั้งเวลาไปที่นั่น เคนเดินตามหลังมาเงียบ ๆ ไม่พูดไม่ขัด ไม่ว่าพลับจีนจะเลือกซื้ออะไร แม้ว่าของบางชิ้นจะราคาแพงก็ตาม“แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนะครับ”“มีเด็กเยอะไม่ใช่หรือไง แค่นี้จะพออะไร”“แต่นี้ก็หลายบาทแล้วนะครับ” คนที่มีงบน้อยอย่างพลับจีนแม้ว่าจะอยากช่วยเหลือคนอื่น แต่
เจ้าของร่างสูงยืนพิงหน้าต่างมองดูคนหมดสภาพที่นอนอยู่บนเตียง หลังจากถูกราดน้ำเรียกสติอยู่พักใหญ่กว่าจะหมดฤทธิ์ถึงได้หลับไป ปล่อยให้เคนจัดการเปลี่ยนผ้าให้ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่เลยสักนิดความต้องการของคนที่กินยาปลุกเซ็กซ์เข้าไปคือการที่มีความต้องการทางเพศ ซึ่งเคนไม่ได้อยากมีอะไรกับคนที่ขาดสติ วิธีที่พอจะช่วยได้ที่คิดออกก็มีเท่านี้ระหว่างทางกว่าจะมาถึงห้องพักของพลับจีน เจ้าตัวพยายามที่จะปีนป่ายเข้าหาเคนอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถือว่าเก่งมากที่พยายามฝืนตัวเองได้ แม้ว่าจะต้องกัดแขนตัวเองจนเลือดซิบก็ตาม“เจอตัวยังครับคุณแซน”[ค่ะคุณเคน เป็นลูกค้าใหม่เพิ่งมาครั้งแรกค่ะ]“ไม่ว่าจะลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ ผมไม่สนใจ กฎของร้านเป็นยังไงคุณแซนรู้ใช่ไหมครับ”[รู้ค่ะ แล้วเรื่องที่พนักงานของเราไปฟาดหัวเขาล่ะครับ]“ผมไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เพราะพนักงานเราไม่ผิดที่ปกป้องตัวเอง”“ค่ะ เดี๋ยวที่เหลือแซนจะจัดการให้เรียบร้อยค่ะ”“ฝากด้วยครับ”เคนกดวางสายจากผู้จัดการร้าน ทอดมองพลับจีนพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ถึงไม่อยากข้องเกี่ยวด้วยแต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดีเพราะยังไงเสียพลับจีนก็ถือว่าเป็นพนักงานในร้านของเขาเห
หลังจากผ่านพ้นความอึดอัดบนโต๊ะอาหารมาได้ กลับต้องมากระอักกระอ่วนต่อในรถ เพราะน่านน้ำเป็นห่วงเขาจนจับยัดใส่รถคุณเคนให้พามาส่งที่บ้าน ประจวบเหมาะกับเวลาช่วงทุ่มครึ่งแบบนี้ท้องถนนเต็มไปด้วยรถ ติดไฟแดงยาวเหยียดกว่าจะได้ขยับเขยื้อนพลับจีนถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก ครั้นจะลงจากรถตอนนี้ก็ทำไม่ได้ ยังดีหน่อยที่ในรถยังมีคีนนั่งมาด้วยอีกคน“เฮียส่งคีนข้างหน้านี้ก็ได้ครับ เพื่อนคีนอยู่แถวนี้คีนจะไปหาเพื่อนก่อน”เวร!!! หรือเขาควรลงตรงนี้ด้วยเลยดีไหมวะ?รถยนต์ขับมาจอดเทียบริมฟุตพาทปล่อยให้เคนได้ลงตามที่ต้องการ พลับจีนกำลังชั่งใจอยู่หลายนาทีก่อนจะพูดออกไปไม่เต็มเสียงเท่าไรนัก“พลับขอลงตรงนี้ด้วย---”“ปิดประตู”พูดไม่ทันจบเจ้าของรถก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน น้ำเสียงเรียบนิ่งแฝงไปด้วยคำสั่งอยู่กลาย ๆ ทำให้พลับจีนต้องกระเถิบมานั่งที่เดิมพร้อมกับปิดประตูคนตัวเล็กหน้างอง้ำขึ้นเล็กน้อย ไม่พอใจที่ตัวเองเชื่อฟังคำสั่งของเคน ทั้งที่ควรทำตามที่ต้องการ ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรต้องนั่งอยู่ต่อเลยสักนิดเจ้าของรถเอื้อมมือไปหยิบของในเก๊ะเก็บของ ก่อนจะโยนมาไว้บนตักพลับจีน คำสั่งถูกเอ่ยออกจากปากเคนอีกครั้ง พลันดวงตากลมสบเข้า
สารนิโคตินถูกสูบเข้าไปเต็มปอดก่อนจะพ่นควันในปากออกมายาวเป็นสายให้มันค่อย ๆ จางหายไปในอากาศทิ้งไว้เพียงกลิ่นเฉพาะตัวที่คนสูบคุ้นเคยเป็นอย่างดีดวงตาคมเรียบนิ่งยากจะคาดเดา เลื่อนสายตาจากทิวทัศน์นอกหน้าต่างมามองคนบนเตียง ร่างกายขาวเนียนบอบบางซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม คงจะเหนื่อยจากกิจกรรมที่ทำด้วยกันเมื่อคืนนี้ถึงได้นอนหลับไม่รู้สึกตัวแม้ว่าตอนนี้จะหกโมงเช้าแล้วก็ตามความจริงวันนี้น่าจะเป็นวันที่อีกฝ่ายต้องไปทำงาน แต่ดูท่าแล้วคงจะไม่ไหว เคนเองก็ไม่อยากปลุก เอาแต่คิดทบทวนเรื่องเมื่อคืน พอทุกอย่างจบลงไปแล้วเขาถึงเพิ่งมานึกได้ว่าไม่ควรทำตั้งแต่แรก หากยับยั้งความต้องการสักนิดก็คงไม่เกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อคืนขึ้นเคนไม่รู้ว่าพลับจีนจะยอมรับข้อเสนอหรือเปล่า ไม่รู้ว่าจะยอมง่าย ๆ เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ไหม เพราะเขาไม่อยากมีความสัมพันธ์กับใครทั้งนั้น ต่อให้พลับจีนจะเป็นคนที่รู้จักกันมาก่อน และอาจจะผิดใจกันได้ในภายหลัง ซึ่งเขาไมได้สนใจอยู่แล้ว ขอเพียงแค่ไม่มายุ่งวุ่นวายให้เขาต้องปวดหัวภายหลังก็พอบุหรี่ม้วนที่สามถูกโยนทิ้งออกไปหน้าต่าง ร่างสูงโปร่งเดินมาหยิบเสื้อยืดของตัวเองที่กองอยู่บนโซฟามาสวมใส่ กำลังชั่
“เจ็บไหม” คนตัวเล็กเอ่ยถามเสียงเบา“ฉันจะทำเบา ๆ”คำถามนี้ของพลับจีนพอจะเป็นคำตอบได้หรือเปล่าว่าไม่ปฏิเสธ ไม่รู้เป็นเพราะบรรยากาศมันพาไปหรือว่าความต้องการอยากรู้อยากลองของพลับจีนเองที่ทำให้ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับเกิดมายี่สิบหกปีพลับจีนไม่เคยผ่านมือชายใด หรือนัวเนียกับสาวคนไหนมาก่อน นี่จะเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเขา และไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เอาเถอะมาถึงขนาดนี้แล้ว ลองสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร ให้ได้รู้ว่ามันเป็นยังไง เพราะยังไงหลังผ่านคืนนี้ไปเคนก็คงทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเขาก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน หลังจากนี้เราคงไม่มีเรื่องบังเอิญเจอกันบ่อยเหมือนช่วงนี้“แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าฉันไม่จูบ”“ครับ”“แน่ใจใช่ไหมว่าให้ฉันทำจริง ๆ ปฏิเสธตอนนี้ก็ยังไม่สาย เพราะถ้าเริ่มแล้วฉันจะไม่หยุดกลางคัน ต่อให้เธอขอร้องอ้อนวอนยังไงก็ตาม”“พะ พลับแน่ใจ พลับอยากลอง”นับว่าเป็นคนกล้าได้กล้าเสียพอสมควร เคนไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะกล้าทำเรื่องอย่างว่ากับตน ตอนแรกก็แค่จะขอดูเฉย ๆ ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ไม่คิดว่าพลับจีนจะตอบตกลงง่าย ๆ แบบนี้ที่ผ่านมาเคนไม่ใช่คนติดเซ็กซ์ไม่ได้มีอะไรกับ
เป็นครั้งแรกที่พลับจีนพาคนอื่นเข้าห้องตัวเอง เพราะแม้แต่น่านน้ำก็ไม่เคยมา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอาศัยอยู่ที่นี่เสียงฝนด้านนอกตกกระทบบนหลังคาเสียงดังชัดเจน แม้จะกั้นฝ้าแต่ไม่ได้ช่วยทำให้เสียงภายนอกเบาลงพลับจีนวางกล่องปฐมพยาบาลบนโซฟาข้าง ๆ ตัวเอง ใช้สำลีชุบน้ำเกลือค่อย ๆ ล้างแผลบนท่อนแขนแกร่ง ความเงียบภายในห้องทำให้พลับจีนรู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก รอยแผลขนาดยาวกับเลือดสีแดงสดทำพลับจีนกระอักกระอ่วน ทว่ายังฝืนตัวเองทำแผลต่อไป เพราะเขาบอกให้อีกคนไปโรงพยาบาลก็ไม่ยอมไป เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา สุดท้ายก็ต้องลากกลับมาที่ห้องตัวเอง อย่างน้อยก็ควรทำความสะอาดสักหน่อยดีกว่าปล่อยทิ้งไว้อย่างนี้อีกอย่างแผลบนแขนนี่ก็เกิดจากการช่วยเขาเมื่อก่อนหน้านี้ หากเคนไม่เข้ามาช่วยเขาจากพวกคนเมา ไม่เอาตัวเข้ามาขวางตอนพวกมันกำลังจะใช้มีดแทงเขาแผลที่แขนนี่ก็คงไม่เกิดขึ้น“เจ็บไหมครับ” หลังจากเงียบมานาน พลับจีนก็เป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาก่อน “พลับไม่เคยทำแผลให้ใครมาก่อน ไม่รู้ว่ามือหนักไปหรือเปล่า”“...”เคนยังคงเงียบไม่ปริปากพูดอะไรออกมา พลับจีนเองก็เป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียว อีกทั้งไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองกัน เอาแต่ก้มหน้าก้ม







