LOGINเรื่องรักที่เพิ่มระดับขึ้นตั้งแต่เด็กจนเติบโต ผู้อ่านต้องมีเหรียญไว้สำหรับเสี่ยงทายด้วย เพราะหัวก้อยของคุณจะกำหนดทิศทางของตัวละคร
View More"กิ๊ง! , ก่อง! , กาง! , ก่อง! / กิ่ง! , กอง! , ก๊าง! , ก่อง!"
เป็นเสียงล้อเลียนออดเลิกเรียนที่ดังขึ้นจากกล่องเสียงของมิน
.
ในชุดนักเรียนคอซองเธอเดินนำหน้าเพื่อนสนิทของเธอ มายังประตูหน้าโรงเรียนด้วยความแคล่วคล่องราวกับปิดตาเดินได้ ขึ้นชื่อว่าเด็กก็มักจะเป็นกันแบบนี้ เลิกเรียนทีไรไม่ใช่การดีใจที่ได้กลับบ้านหรอก หากแต่เป็นการได้หาความสุขจากการกินขนมหน้าโรงเรียน เพื่อเป็นดั่งรางวัลในการตรากตรำตำราหลวงมาทั้งวันซะมากกว่า และแม้ว่าตอนนี้ทั้ง มิน และ อาย จะขึ้น ม.3 จนมีอายุครบ 15 ปีกันหมดแล้ว แต่พวกเธอก็ยังมีพฤติกรรมไม่ต่างจากเด็กอนุบาลอยู่
.
"เฮ้! อย่าเดินเร็วนักสิมินรออายด้วย! ขาเค้าสั้นอ่ะวิ่งตามเธอไม่ทันหรอกนะ!"
"รอด้วย ๆ , ขอออกไปซื้อขนมด้วยคน! , แฮ่ก! ๆ ๆ"
.
เด็กสาวสองคนยืนกอดกระเป๋ารอลุงนักการมาเปิดประตูด้วยใจจดจ่อ ชั่วเสี้ยวพริบตาที่ประตูเหล็กหมุนล้อติ้ว ความสุขจากผนังกระเพาะก็เริ่มปฎิบัติการทวงคืนสารอาหารทันที ลูกชิ้นทอดมาก่อนเลยหนึ่งเซต น้ำปั่นนมชมพูตามมาอีกสอง ยำลูกชิ้นเจี้ยวหมา ขนมโตเกียวแป้งนุ่ม โอ้โหบอกได้คำเดียวเลยว่าเหมือนไม่ได้มาเรียน แต่มาบำเพ็ญเพียรทุกรกิริยาแทนพระพุทธองค์มากกว่า ไม่รู้ไปตายอดตายอยากมาจากไหน
.
มิน กับ อาย มีบ้านอยู่ในละแวกเดียวกัน แม้จะไม่ได้อยู่ติดชนิดรั้วชนกันแต่ก็นับว่าไม่ใช่เรื่องยากหากจะไปมาหาสู่ พวกเธอสนิทกันแบบทั้งชั่วโคตร! บ้านของมินเป็นครอบครัวข้าราชการ สวนทางกับครอบครัวอายที่เน้นไปทางทำธุรกิจ เพราะฉะนั้นเวลาในการมารับส่งลูกหลานจึงไม่ค่อยแน่นอนนัก หลายครั้งหลายคราวเหมือนกันที่คุณแม่ของมินจะต้องรับอายซ้อนมอเตอร์ไซต์กลับบ้านมาด้วย
.
แต่ทำไมวันนี้ถึงดูแปลก ๆ 45 นาทีผ่านไปแล้ว ขนมก็นั่งกินกันจนแทบจะหมดคุณแม่ก็ยังไม่มา! ยุคนั้นสมัยนั้นเด็กนักเรียน ม.ต้น ไม่มีใครพกโทรศัพท์หรอก ทั้งสองจึงได้แต่นั่งรอแล้วก็รอระหว่างรอก็นั่งเมาส์เรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย ซึ่งก็ไม่แคล้วการนินทาผู้ชายตามสไตล์สาว ๆ เขานั่นแหละ
.
"นี่อาย! ฉันว่าการที่แม่มารับช้าก็ดีเหมือนกันนะ ม้าหินตรงนี้วิวดีชะมัด!"
"นู่น ๆ , ดูดิ! , ดู..! "
มินเหล่ไปทางขวาโดยใช้เพียงหางตาชำเลือง ปรากฏว่าด้านหลังดันเป็นสนามฟุตบอลที่มีผู้ชายวิ่งรวมตัวกันเป็นโขลง
.
"บ้า! ไม่เอามิน! เธอพูดอะไรของเธอ~! , ใครจะไปกล้ามอง!"
.
"เอ้าก็ไหนบอกชอบคนตัวสูง ผมสั้น ๆ ตาคม ๆ ถ้าเธอไม่พูดพี่เขาก็ไม่รู้หรอกนะยัยบ๊อง!"
.
"ไม่รู้ก็ไม่ต้องรู้ดิ! กินหนมเหอะไม่เอา! ไม่พูดเรื่องนี้~!"
.
แทงไม้เสียบลูกชิ้นทะลุถุง! น้ำจิ้มไหลเยิ้มเปรอะโต๊ะมาหินเต็มไปหมด นี่แหละคือคาแร็คเตอร์ของอาย นอกจากชื่อเธอจะแปลว่าลูกตาที่เล็กหยีเป็นเส้นตรงทุกครั้งเวลาที่เขินแล้ว อายยังหมายถึง "อับอาย" เพราะพฤติกรรมสุดโก๊ะของเธอจะโพร่งออกมาทุกทีเวลาเจอคนที่ชอบ มินเห็นเข้าทีไรก็อดขำไม่ได้ทุกที
.
"นี่ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ ผู้ชายน่ะบางคนเขาก็เป็นสุภาพบุรุษ พี่เขาอาจจะไม่ใช่พวกหน้าม่อที่เข้าหาผู้หญิงก่อนก็ได้"
"เพราะงั้นเธอก็ต้องทำอะไรเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้เขารู้ด้วย.."
.
"โห.. มินก็ทำเป็นพูดไป! อย่าทำมาเป็นสอนเหอะ อายก็ไม่เห็นมินจะมีแฟนสักคน!"
"แค่คนคุยยังไม่เห็นมีเลย! อีประโยคเมื่อกี้ไปจำมาจากไหนยอมรับมาซะเถอะ!"
อายทำหน้างอนใส่ แก้มเธอบวมตุ่ยน่ารักน่าชัง
.
"เหอะ ๆ ยอมก็ได้ พอดีอ่านเจอในแม็กกาซีนน่ะ แต่ฉันว่ามันก็น่าจะเวิร์คอยู่นะหรือเราอาจต้องลองพิสูจน์ดู..?"
.
"พิสูจน์อะไร!? , เฮ๊ย! มีนไอ้บ้าอย่าเชียว!"
.
โดยไมสนหน้าอินทร์หน้าพรหมจู่ ๆ เด็กสาวในชุดคอซองก็ยืนขึ้นพรวดพราดบนม้าหินอ่อน แม้จะโดนเพื่อนอีกคนขอร้องจนแทบกราบ แต่ก็ช้าเกินไปเสียแล้ว! เพราะเพียงแค่เสี้ยววินาทีลูกฟุตบอลเจ้ากรรมก็ได้ลอยโด่งพ้นขอบสนามหญ้าพุ่งตรงมายังม้าหินแห่งนี้แบบเต็ม ๆ ใครเตะมาไม่ใช่ประเด็น แต่ถ้าไม่หลบคือจะตรงเข้ากลางหน้าผากอายแบบเน้น ๆ โดยไม่มีอะไรกั้น!
.
ก้าวแรกไม่เป็นไรก้าวต่อไปกระโดดขึ้นไปยืนบนโต๊ะ ไม่ได้มีแค่อายแต่เป็นทุกสายตาของผู้ชายในสนามที่ล้วนจดจ้องต่อสิ่งนี้ เรียวขางามชูขึ้นสุดเหยียด รองเท้านักเรียนหญิง POPTEEN ใส่แล้วปิ๊งเห็นแล้วป๊อบแวววับต้องแสงแดด มินดูดบอลโด่งลูกนี้ลงด้วยหลังเท้าอย่างเหนือชั้น เธอเดาะมันขึ้นมาให้ลอยโด่งอยู่ 2 - 3 ที ก่อนจะทำการซันโวหวดตูมเดียว! ส่งบอลลูกนี้ลอยย้อนกลับไปให้พวกผู้ชาย เดชะบุญแบบโคตรเว่อร์เพราะลอยไม่ลอยเปล่าดันกระเด้งเข้าประตูฝั่งตรงข้ามไปอีกด้วย!
.
เรียกเสียงเป่าปากปรบมือจากพวกพี่ ๆ ตามมาเป็นพรวน มินแม่งโคตรเท่ห์! วงขาเธอช่างสวยงาม ในชุดนักเรียนคอซองจะมีผู้หญิงที่ทำแบบนี้ได้สักกี่คน แต่ก็อีกนั่นแหละเพราะถ้ามินไม่ทำคนที่รับกรรมก็จะกลายเป็นอาย เรียกได้ว่างานนี้มินรับจบ เธอปกป้องหน้าผากเพื่อนสนิทไว้ได้ แล้วก็ได้โชว์ให้เห็นอีกว่าการจะให้ผู้ชายเข้าหา ผู้หญิงเราก็ต้องมีอะไรแบบนี้ไว้บ้าง ข้อมูลในนิตยสารจึงถือว่าเป็นอะไรที่เวิร์คอยู่!
.
"ไม่จริงอ่ะมิน! อายไม่เห็นด้วย!"
.
"อ่าว! คนเขาอุตส่าห์ช่วยเธอนี่ช่างไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ! ขอบคุณสักคำก็ไม่มี!"
มินกระโดดลงจากโต๊ะโครม กระโปรงกระพือฟึมมม!
.
นิ้วชี้เล็ก ๆ ของอายก็เลยได้โอกาส เธอชี้แบบจิ้ม ๆ ไปที่ตัวกระโปรงประหนึ่งต้องการจะเตือนสติเพื่อนว่า ไอ้ที่ผู้ชายเขาโห่ฮากันน่ะไม่ใช่เพราะเธอเก่งแต่เป็นเพราะเขาเห็นกางเกงในเธอหมดแล้วต่างหาก! กระโปรงบานขนาดนั้น วาดขากว้างอย่างกับฝาโอ่ง เผิน ๆ จะเห็นถึงอายิโน๊ะโมโต๊ะ!
.
บิดตัวเขินอยู่เล็กน้อยยิ้มแก้เกล้อไปอีกนิดหน่อย ปล่อยให้พวกผู้ชายเล่นบอลกันต่อไป มินถึงหันมากระซิบกระซาบกับอายด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา
.
"ชู่ววว.. เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลไปหรอกอาย เพราะว่าฉันใส่กางเกงขาสั้นซับในไว้แล้ว"
"นี่ไง! ฉันเปิดให้เธอดูเดี๋ยวนี้เลยยังได้! ผ่ามพ้ามมม!!!"
.
"พรึบ!!!"
กระพือทีกลิ่นนี่มาเต็ม อายลืมตัวกรี๊ดจนเสียงหลงพลันรีบยกมือขึ้นปิดหน้า แต่ไม่ทัน!
.
"เอ๋! กางเกงมวย?"
"พ.. พะ.. ย.. ยัค.. ค.. พยัคคำรณ!"
"นี่เธอใส่กางเกงมวยมาโรงเรียนเนี่ยะนะ!!!"
.
"ก็เออสิ! ไม่งั้นฉันจะได้แชมป์โดดหนังยางในทุกพักเที่ยงหรอ?"
"เธอไม่เห็นหรือไงว่าด้วยสิ่งนี้จะทำให้ฉันเหยียดขาได้สุดเหยียด ความยืดหยุ่นตัวฉันจะสูง"
"แล้วก็เพราะมันเชียวนะ หน้าผากเหม่ง ๆ ของเธอถึงไม่โดนบอลอัด ฮ่า ๆ ๆ ๆ !"
.
"โอ่ย! ฉันไม่รู้จะพูดยังไงกับเธอแล้วยัยมิน"
"เก็บโต๊ะเก็บขยะซะ ฉันจะกลับบ้าวแล่ว ไม่คุยด้วยแล่ว ไม่ลงไม่รอคุณแม่แล้วด้วย"
.
"เอ้าถ้าไม่รอแม่ฉันมารับ แล้วเธอจะกลับยังไง ฉันไม่เดินกับเธอหรอกนะกลัวโดนข่มขืน"
.
"โอ่ย! ใส่กางเกงมวยยกขาเตะบอลได้สูงขนาดนั้นไม่มีใครเขามีอารมณ์กับเธอได้หรอก"
"ตามฉันมานี่! วันนี้ฉันเอาจักรยานมา ฉันจะปั่นไปส่งเธอที่บ้านเอง ตอบแทนที่เธอช่วยฉันไงพอใจยัง?!"
อายพูดเสียงแข็งใส่ ดูก็รู้ว่าเธอประชด มันเหมือนกับการพูดกันทีเล่นทีจริงซึ่งสองคนนี้ก็เป็นแบบนี้กันออกจะบ่อย ไม่มีใครโกรธใครลมตดผ่านไปปุ๋งเดียวเดี๋ยวก็หาย
.
ราว 10 นาทีผ่านไปพวกเธอก็มาถึงลานจอดจักรยาน รถคันอื่นหายเกลี้ยงไปหมดแล้วเหลือแต่รถจักรยานสีชมพูพิงค์ของอายจอดเหงา ๆ อยู่คันเดียว เธอเดินเข้าไปเข็นมันออกมาและแน่นอนว่ามินไม่เคยเห็นมันมาก่อน สาวเจ้าจึงถามขึ้นในสิ่งที่สะดุดตาเธอสุด ๆ
.
"เดี๋ยวนะอาย! เมื่อกี้เธอบอกเธอจะเป็นคนปั่นแล้วให้ฉันซ้อนใช่ไหม?"
.
"ใช่จ่ะ! (^-^)"
.
"แล้วฉันจะซ้อนได้ไงในเมื่อมันไม่มีเบาะ!!!"
.
"แหะ ๆ ก็นั่นสินะ ( ํ 3 ํ)/ "
.
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร อายเตรียมสิ่งใดไว้เอาคืน โปรดติดตามได้ในตอนต่อไปจ้า
เช้าวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าใสกระจ่าง เมฆฟูนุ่มสวย บรรยากาศแลดูเป็นใจให้ต้นรักเบ่งบาน และถ้าจะมีใครสักคนอกหักในวันดี ๆ เช่นนี้ คนผู้นั้นก็คงจะโชคร้ายที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอนว่ามินจะไม่มีทางให้มันเกิดขึ้น เวลา 8 นาฬิกา นักเรียนทุกคนยืนเข้าแถวหน้าเสาธง คนที่ยืนอยู่หน้ามินคืออาย แล้วก็เหมือนจะยังคงงอนตุ๊บป่องไม่พูดไม่จากับเธอ."นี่ ๆ อาย.. อาย.. อาย.. ฮัลโหล.."มินพยายามสะกิดแขนแกมกระซิบ."ไม่พูดด้วย.."."นี่คือแกโกรธฉันอยู่หรอ? โกรธจริงดิ?"."ไม่พูดด้วย..".เอานิ้วจิ้มเอวไปอีกสองสามที แต่ดูทรงแล้วอายเหมือนจะโกรธจริง ท่ามกลางนักเรียนหลายร้อยของโรงเรียนประจำจังหวัด ที่นี่มีระบบการยืนเข้าแถวแบ่งเป็นระดับชั้นอย่างชัดเจน โดยไล่ไปเป็นกลุ่ม ๆ ตั้งแต่ ม. 1 - ม. 6 กล่าวคือ ม.
ทุกข์ของเด็กม.ต้น นอกเหนือจากเรื่องหัวใจรัก ๆ ใคร่ ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการทำการบ้านนี่แหละ หลังจากสองสาวเพื้อนซี้แยกย้ายกันไป เวลาแห่งการทำการบ้านก่อนนอนก็มาถึง บนห้องนอนส่วนตัวสีครีมของมิน ฝาผนังที่แปะโปสเตอร์ไอดอลเกาหลีสับหว่างกับเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่น แม้พวกเขาจะให้กำลังใจเธอผ่านทางแววตาและรอยยิ้ม แต่นั่นก็ไม่อาจเยียวยาปัญหาที่เด็กสาวประสบพบเจอในตอนนี้ได้."ซวยแล้ว! นี่มันกระเป๋าอายนี่นา! ไปเผลอสลับกันตั้งแต่เมื่อไหร่?""แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะถ้าเป็นงั้นก็แสดงว่ากระเป๋าของเราก็ต้องอยู่ที่อายสิ..""ถ้าเราทำการบ้านให้อาย ยัยนั่นก็ต้องทำให้เรา ก็ถือว่าเจ๊า ๆ กันไปล่ะเน๊อะ (^.^)"."แคว๊ก!!!"เสียงรูดซิบกระเป๋าเป้ออก.ด้วยความสัตย์จริงว่าในยุคสมัยนั้น โรงเรียนมักจะมีกฎว่าห้ามนักเรียนใช้ก
ที่พักเท้าด้านหลังถูกถีบลงก่อนเลยเป็นอันดับแรก เสียงดัง "แกร๊ง!" อันใสแจ๋วของมัน บ่งบอกได้ถึงความสดซิงของจักรยานสีชมพูพิงค์คันนี้ได้ดีที่สุด อายกวักมือเรียกให้เพื่อนสาวขึ้นมายืนบนที่เหยียบ พลางคว้าเอามือเรียวทั้งสองข้างของเพื่อนมาวางบนบ่าตัวเอง ภาพที่ออกมาจึงดูดีทีเดียว มันได้อารมณ์เหมือนเด็ก ๆ ในแก๊งค์แฟนฉัน หากแต่นี่คือ อาย กับ มิน เป็นเด็กผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย."เอานะมิน.. อายจะปั่นล่ะนะ!"."ไหวเหรอเธอ.. อย่างน้อยเธอควรจะเอาเป้บนหลังมาไว้ที่ฉันนะ"มินถามด้วยความเป็นห่วง."เอาน่า.. อายมีประสบการณ์ ตลอด 3 วันมานี้อายไม่ล้มเลยสักครั้ง""เพราะงั้นถึงมั่นใจปั่นจักรยานมาโรงเรียนเองไง.. อิ ๆ (^-^)"."เหอะ ๆ นี่ฉันต้องมั่นใจกับคำพูดแค่นี้ของเธอจริง ๆ ดิ (T ^ T)"ขาสั่นเป็นเจ้าเข้า มือที่เกาะไหล่ไว้ก็เปียกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อ."ถ้างั้นก็ไปกันเล๊ย! สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนน! , ฮึบ!""เฮือกกก~!""อ่ะ! , เฮือกกก~!""อ๊าาากกก~! "."แก๊ง! , แก๊ง! , ครืด! , แก๊ง! , แก๊ง! "เสียงโซ่ครูดกับฟันเฟืองดังสนั่น ฟังจากเสียงเหมือนจะแรงมากแต่ความจริงคือช้ายิ่งกว่าตัวสล็อตเมาสารระเหย.ดีแค่ไหนแล้วที่
"กิ๊ง! , ก่อง! , กาง! , ก่อง! / กิ่ง! , กอง! , ก๊าง! , ก่อง!"เป็นเสียงล้อเลียนออดเลิกเรียนที่ดังขึ้นจากกล่องเสียงของมิน.ในชุดนักเรียนคอซองเธอเดินนำหน้าเพื่อนสนิทของเธอ มายังประตูหน้าโรงเรียนด้วยความแคล่วคล่องราวกับปิดตาเดินได้ ขึ้นชื่อว่าเด็กก็มักจะเป็นกันแบบนี้ เลิกเรียนทีไรไม่ใช่การดีใจที่ได้กลับบ้านหรอก หากแต่เป็นการได้หาความสุขจากการกินขนมหน้าโรงเรียน เพื่อเป็นดั่งรางวัลในการตรากตรำตำราหลวงมาทั้งวันซะมากกว่า และแม้ว่าตอนนี้ทั้ง มิน และ อาย จะขึ้น ม.3 จนมีอายุครบ 15 ปีกันหมดแล้ว แต่พวกเธอก็ยังมีพฤติกรรมไม่ต่างจากเด็กอนุบาลอยู่."เฮ้! อย่าเดินเร็วนักสิมินรออายด้วย! ขาเค้าสั้นอ่ะวิ่งตามเธอไม่ทันหรอกนะ!""รอด้วย ๆ , ขอออกไปซื้อขนมด้วยคน! , แฮ่ก! ๆ ๆ".เด็กสาวสองคนยืนกอดกระเป๋ารอลุงนักการมาเปิดประตูด้วยใจจดจ่อ ชั่วเสี้ยวพริบตาที่ประตูเหล็กหมุนล้อติ้ว ความสุขจากผนังกระเพาะก็เริ่มปฎิบัติการทวงคืนสารอาหารทันที ลูกชิ้นทอดมาก่อนเลยหนึ่งเซต น้ำปั่นนมชมพูตามมาอีกสอง ยำลูกชิ้นเจี้ยวหมา ขนมโตเกียวแป้งนุ่ม โอ้โหบอกได้คำเดียวเลยว่าเหมือนไม่ได้มาเรียน แต่มาบำเพ็ญเพียรทุกรกิริยาแทนพระพุทธองค์ม
![ผมไม่ได้ยั่ว เสี่ยต่างหากที่ห้ามใจไม่ได้[Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






![ผมก็แค่พี่เลี้ยงเด็ก ที่ดันได้พ่อเค้าเป็นสามี [PWP]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



