ตอนที่ 35 สงครามตัวหมาก

ความเงียบปกคลุมคฤหาสน์วาเลนซิโอมาหลายวันแล้ว มันเป็นความเงียบที่หนักอึ้งและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เกวลินยังคงขังตัวเองอยู่ในห้องนอน ไม่ยอมพบหน้าใคร แม้แต่คีรินทร์ ส่วนคีรินทร์เองก็จมดิ่งอยู่ในห้วงแห่งความผิดหวังและความโกรธ เขาเสียใจที่คนที่เขารักที่สุดไม่เชื่อใจเขา และโกรธแค้นอิซาเบลล่าที่กล้าเข้ามาทำลายความสุขของเขา

แต่ในโลกของมาเฟีย ไม่มีเวลาให้จมอยู่กับอารมณ์นานนัก คีรินทร์รู้ดีว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อดึงเกวลินกลับมา และเพื่อจัดการกับอิซาเบลล่าที่กล้าสวมบทบาทเป็นศัตรู

ในห้องทำงานที่มืดสลัว คีรินทร์นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังตัวใหญ่ ใบหน้าคมคายเคร่งขรึม ดวงตาคมกริบฉายแววอันตราย ริคาร์โด้ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทางที่สำรวม เขารู้ว่าหัวหน้ากำลังวางแผนครั้งใหญ่

"ริคาร์โด้" คีรินทร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก "ฉันต้องการให้แกหาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับอิซาเบลล่า คอนติ"

"ครับหัวหน้า" ริคาร์โด้ขานรับทันที

"ฉันต้องการรู้ทุกเส้นทางธุรกิจของมัน ทุกความเคลื่อนไหว ทุกจุดอ่อน" คีรินทร์กล่าวต่อ "และที่สำคัญที่สุด...คนที่อยู่เบื้องหลังมัน"

ริคาร์โด้ขมวดคิ้วเล็กน้อย "มีคนอยู่เบื้องหลังคุณคอนติด้วยเหรอครับ?"

"แน่นอน" คีรินทร์ยิ้มเหยียด "อิซาเบลล่าฉลาด แต่คนที่จะวางแผนปั่นหัวเกวลินได้ถึงขนาดนี้ ต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลและรู้จักเครือข่ายของเราเป็นอย่างดี...มันต้องมีใครบางคนคอยบงการอยู่"

คีรินทร์สงสัยว่าวินเซนต์ มอเร็ตติ อาจไม่ได้ทำงานคนเดียว หรืออาจจะมีกลุ่มอื่นที่เกี่ยวข้องกับการพยายามโค่นล้มเขามาตั้งแต่ต้น การที่อิซาเบลล่าปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาที่เขาและเกวลินกำลังมีปัญหากัน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

"ส่งคนของเราแทรกซึมเข้าไปในเครือข่ายของมัน" คีรินทร์สั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด "ฉันต้องการให้พวกแกเป็นเงาของอิซาเบลล่า ตามติดทุกฝีก้าว"

"ครับหัวหน้า"

ในขณะเดียวกัน เกวลินยังคงจมอยู่กับความเจ็บปวดและความเชื่อที่ว่าคีรินทร์ทรยศเธอ เธอปฏิเสธที่จะเจอหน้าเขา และหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับลูกน้องคนอื่นๆ ในแก๊ง เธอรู้สึกโดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้ง

อิซาเบลล่าเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เธอรู้ว่าคีรินทร์เป็นคนไม่ยอมคน และจะต้องตอบโต้กลับอย่างแน่นอน เธอเตรียมการป้องกันตัวเองและวางแผนที่จะช่วงชิงอำนาจของแก๊งวาเลนซิโอให้ได้เร็วที่สุด

"ฉันต้องการให้การขนส่งอาวุธล็อตใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น" อิซาเบลล่าสั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงเย็นชา "และฉันต้องการให้มันถึงมือลูกค้าโดยเร็วที่สุด"

การขนส่งอาวุธล็อตนี้เป็นกุญแจสำคัญในการขยายอิทธิพลของอิซาเบลล่า และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเธอในการก้าวเข้ามาในตลาดมืดของคีรินทร์

หมากรุกบนกระดานมืด

คีรินทร์ได้รับรายงานจากสายลับของเขาเกี่ยวกับแผนการขนส่งอาวุธของอิซาเบลล่า เขายิ้มอย่างเย็นชาเมื่อรู้ว่าอิซาเบลล่ากำลังเดินเข้าสู่กับดักที่เขาวางไว้

"ริคาร์โด้" คีรินทร์เอ่ยขึ้น "เตรียมคนของเราให้พร้อม เราจะไปต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญ"

"เราจะสกัดกั้นการขนส่งเหรอครับ?" ริคาร์โด้ถาม

"เปล่า" คีรินทร์ตอบด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว "เราจะปล่อยให้มันขนส่งไป...แต่เราจะเปลี่ยนเส้นทางให้มันไปเจอกับ 'แขก' ที่แท้จริงของเรา"

แผนการของคีรินทร์ซับซ้อนกว่าที่อิซาเบลล่าคิดไว้มาก เขาไม่เพียงแค่จะขัดขวางการขนส่ง แต่เขาต้องการจะใช้โอกาสนี้เปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังอิซาเบลล่า และทำลายความน่าเชื่อถือของเธอในโลกใต้ดิน

ในคืนนั้น ขบวนรถบรรทุกของอิซาเบลล่าเคลื่อนตัวออกไปอย่างเงียบเชียบ ท่ามกลางความมืดมิดของรัตติกาล อิซาเบลล่ามั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน

แต่แล้ว เมื่อขบวนรถบรรทุกมาถึงทางแยกแห่งหนึ่ง พวกมันก็ต้องหยุดชะงัก มีรถยนต์หลายคันปิดกั้นเส้นทางไว้

"เกิดอะไรขึ้น?" อิซาเบลล่าถามลูกน้องด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

"มีคนมาขวางทางครับนายหญิง" ลูกน้องรายงาน

อิซาเบลล่าขมวดคิ้ว เธอไม่ได้คาดคิดว่าคีรินทร์จะตอบโต้เร็วขนาดนี้

"จัดการพวกมัน!" เธอสั่ง

แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ลูกน้องของอิซาเบลล่าเริ่มล้มลงทีละคน พวกเขาไม่ได้ถูกโจมตีโดยแก๊งของคีรินทร์ แต่เป็นกลุ่มคนแปลกหน้าในชุดดำ

อิซาเบลล่ามองออกไปนอกรถด้วยความตกใจ เธอมองเห็นชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งที่คุ้นเคยกำลังยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนชุดดำ

"ลูคัส?!" อิซาเบลล่าอุทานด้วยความตกใจ

ลูคัส น้องชายของคีรินทร์ที่เคยทรยศเขา และถูกคีรินทร์จัดการไปแล้ว กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มที่น่าขนลุก

"เซอร์ไพรส์ใช่ไหม อิซาเบลล่า" ลูคัสกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแค้น "แกคิดว่าแกจะใช้ฉันได้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ?"

อิซาเบลล่าหน้าซีดเผือด เธอรู้ทันทีว่าเธอตกเป็นเหยื่อของแผนการที่ซับซ้อนกว่าที่เธอคิด ลูคัสที่เธอคิดว่าตายไปแล้ว กลับกลายเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง และกำลังใช้เธอเป็นหมากในเกมของเขา

เงาแค้นที่หวนคืน

ย้อนกลับไปในวันที่คีรินทร์เปิดโปงความจริงเกี่ยวกับการหักหลังของลูคัส คีรินทร์ไม่ได้สังหารลูคัสอย่างที่ทุกคนคิด เขาเพียงแค่จับตัวลูคัสไปขังไว้ในสถานที่ลับ และทรมานเขาเพื่อเค้นข้อมูลเกี่ยวกับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด

ลูคัสที่เต็มไปด้วยความแค้นและต้องการที่จะเอาคืนคีรินทร์ ได้ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับ "มังกรดำ" องค์กรลับที่อยู่เบื้องหลังวงการค้าอาวุธเถื่อนระดับโลก และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวินเซนต์ มอเร็ตติ ที่ปั่นหัวเกวลินในตอนแรก

ลูคัสและองค์กรมังกรดำ ได้ร่วมกันวางแผนที่จะทำลายคีรินทร์และแก๊งวาเลนซิโอ โดยใช้อิซาเบลล่าเป็นหมากตัวสำคัญในการแทรกซึมและสร้างความแตกแยกภายใน

การที่อิซาเบลล่าปรากฏตัวขึ้น การที่เธอพยายามสร้างความเข้าใจผิดระหว่างคีรินทร์และเกวลิน ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ซับซ้อนของลูคัส เพื่อที่จะทำให้คีรินทร์อ่อนแอลง และเมื่อคีรินทร์อ่อนแอลง ก็ถึงเวลาที่เขาจะลงมือเอง

จุดแตกหักของความรัก

ขณะที่การปะทะกันระหว่างลูกน้องของอิซาเบลล่าและกลุ่มของลูคัสกำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด คีรินทร์ก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเดินเข้าไปในที่เกิดเหตุอย่างไม่รีบร้อน สายตาคมกริบจ้องตรงไปยังลูคัสด้วยความโกรธแค้น

"ลูคัส" คีรินทร์เรียกชื่อน้องชายของเขาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก

ลูคัสหันมามองคีรินทร์ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย "พี่ชาย...ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"

"แกอยู่เบื้องหลังทั้งหมดงั้นเหรอ?" คีรินทร์ถามด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว

"แน่นอน" ลูคัสตอบ "ฉันจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของแก...เหมือนที่แกทำลายฉัน"

อิซาเบลล่ามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว เธอรู้ว่าเธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต เธอถูกลูคัสหลอกใช้ และตอนนี้เธอก็กลายเป็นตัวหมากที่กำลังจะถูกกำจัด

"คีรินทร์..." อิซาเบลล่าเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ฉันขอโทษ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ..."

คีรินทร์ไม่สนใจคำพูดของเธอ เขาจ้องมองลูคัสด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

"ฉันจะจบเรื่องนี้เดี๋ยวนี้ ลูคัส" คีรินทร์กล่าว

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างคีรินทร์และลูคัสเริ่มต้นขึ้น การปะทะกันเป็นไปอย่างรุนแรงและดุเดือด ทุกคนต่างก็มีเป้าหมายของตัวเอง

ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์วาเลนซิโอ เกวลินเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เธอได้ยินเสียงรถยนต์หลายคันเคลื่อนตัวออกไปอย่างเร่งรีบ และได้ยินเสียงปืนดังแว่วมาแต่ไกล

ความกังวลเริ่มกัดกินหัวใจของเธอ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็อดเป็นห่วงคีรินทร์ไม่ได้

ความรู้สึกผิดที่เธอไม่ยอมเชื่อใจเขา และคำพูดของอิซาเบลล่าที่ทำให้เธอเข้าใจผิดเริ่มกลับมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง เธอเริ่มสงสัยว่าสิ่งที่อิซาเบลล่าพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่

เกวลินตัดสินใจที่จะออกไปดูด้วยตัวเอง เธอแอบออกจากคฤหาสน์และขับรถตามเสียงปืนไป

เมื่อเธอมาถึงที่เกิดเหตุ ภาพที่เห็นทำให้เธอต้องตกตะลึง คีรินทร์กำลังต่อสู้กับลูคัสอย่างดุเดือด และมีศพของลูกน้องอิซาเบลล่านอนเกลื่อนกลาด

เกวลินมองอิซาเบลล่าที่กำลังหวาดกลัว ใบหน้าซีดเซียว เธอรู้ได้ทันทีว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของลูคัส และเธอถูกหลอกใช้มาตลอด

"คีร์...!" เกวลินตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด

คีรินทร์หันมามองเธอด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าเธอจะมาที่นี่

การปรากฏตัวของเกวลินทำให้คีรินทร์เสียสมาธิเพียงเสี้ยววินาที และนั่นก็เป็นโอกาสที่ลูคัสไม่ปล่อยให้หลุดมือ ลูคัสฉวยโอกาสแทงมีดเข้าที่ท้องของคีรินทร์

"คีร์!!!!" เกวลินกรีดร้องลั่น

คีรินทร์ทรุดตัวลงด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงฉานไหลซึมออกมาจากบาดแผล

ลูคัสยิ้มอย่างบ้าคลั่ง "ในที่สุด...แกก็แพ้ คีรินทร์!"

แต่แล้ว ริคาร์โด้ก็ยิงปืนใส่ลูคัสอย่างรวดเร็ว ลูคัสล้มลงแน่นิ่ง

เกวลินรีบวิ่งเข้าไปหาคีรินทร์ ทรุดตัวลงข้างๆ เขา ประคองร่างของเขาไว้ในอ้อมแขน

"คีร์! คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ!" เกวลินร้องไห้ น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่หยุดหย่อน "ฉันขอโทษ...ฉันขอโทษจริงๆ ที่ไม่เชื่อใจคุณ"

คีรินทร์ยิ้มอย่างอ่อนแรง เขาพยายามยกมือขึ้นลูบแก้มของเธอ

"ไม่เป็นไร...เกวลิน" เขาพึมพำเสียงแผ่ว "ฉันรักเธอ...เสมอ"

ดวงตาของคีรินทร์เริ่มปิดลง เกวลินกรีดร้องสุดเสียง เธอไม่ต้องการให้เขาจากไปอีกแล้ว

"คีร์! ไม่นะ! อย่าทิ้งฉันไป!"