ตอนที่ 48 เปิดรหัสโบราณ

การปรากฏตัวของ 'หัตถ์เงาแห่งบูรพา' และผู้นำลึกลับจากตระกูล 'เงาจันทรา' ได้จุดชนวนความตื่นตัวครั้งใหม่ในโลกใต้ดิน ความสงบสุขที่ คีรินทร์ และ เกวลิน เพิ่งจะสัมผัสได้นั้นมลายหายไปในพริบตา คล้ายกับผืนน้ำที่ถูกก้อนหินโยนลงไปจนเกิดระลอกคลื่นไม่รู้จบ

ที่คฤหาสน์ของแก๊งวาเลนซิโอ บรรยากาศกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง แผนที่โลกถูกกางออกบนโต๊ะกลางห้อง แต่คราวนี้มีเส้นทางสีแดงและสัญลักษณ์รูปจันทราเสี้ยวปรากฏขึ้นอย่างน่าขนลุก

"พวกมันโจมตีอย่างรวดเร็วและเป็นระบบมากครับหัวหน้า" ริคาร์โด้ รายงาน ใบหน้าของเขาซีดเผือดจากการอดนอนหลายคืน "ดูเหมือนว่าพวกมันจะรู้จักโครงสร้างเครือข่ายของเราดีกว่าที่เราคิด"

คีรินทร์พยักหน้า เขานึกถึงรอยสักรูปจันทราเสี้ยวที่ข้อมือของนักรบในชุดดำ และคำพูดของหญิงสาวผู้นำ 'หัตถ์เงาแห่งบูรพา' ที่เอ่ยถึง 'สมบัติโบราณ' และ 'คัมภีร์ลับ'

"เกวลิน...เธอค้นคว้าเรื่องตระกูล 'เงาจันทรา' ได้ถึงไหนแล้ว?" คีรินทร์หันไปถามภรรยาของเขาที่กำลังจดจ่ออยู่กับเอกสารเก่าๆ และแผนผังครอบครัวที่ซับซ้อน

เกวลินเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ดวงตาของเธอกลับฉายแววมุ่งมั่น "ฉันพบความเชื่อมโยงที่น่าตกใจค่ะคีร์...ดูเหมือนว่าตระกูล 'เงาจันทรา' ไม่ได้แค่เป็นพันธมิตรกับตระกูลของเราและตระกูลฟาบิโอในอดีต แต่พวกเขายังเป็น 'ผู้พิทักษ์' ของ 'คัมภีร์ลับ' ที่ว่าด้วยค่ะ"

"ผู้พิทักษ์?" ริคาร์โด้ขมวดคิ้ว

"ใช่ค่ะ" เกวลินพยักหน้า "บันทึกโบราณระบุว่า 'คัมภีร์ลับ' เป็นสิ่งที่มอบอำนาจมหาศาลให้กับผู้ครอบครอง แต่มันก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงในการรักษาสมดุลของโลกใต้ดิน และตระกูล 'เงาจันทรา' คือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ปกป้องมัน"

"แล้วทำไมพวกเขาถึงโจมตีเราล่ะ?" คีรินทร์ถาม "ถ้าพวกเขาคือผู้พิทักษ์"

เกวลินถอนหายใจ "จากบันทึกเก่าๆ ของอาคาเมอร์และข้อมูลที่ฉันหาเจอ...เมื่อหลายร้อยปีก่อน เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้นระหว่างสามตระกูล นั่นคือวาเลนซิโอ ฟาบิโอ และเงาจันทรา สาเหตุเกิดจากการที่ตระกูลฟาบิโอในยุคนั้น...พยายามที่จะครอบครอง 'คัมภีร์ลับ' เพียงผู้เดียวเพื่อหวังจะครอบครองอำนาจทั้งหมด"

คีรินทร์และริคาร์โด้ต่างก็ตกตะลึงกับข้อมูลที่ได้ยิน

"เรื่องราวนี้คล้ายกับสิ่งที่มาคัส ฟาบิโอ ทำเลยนะคะ" เกวลินกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ "เหมือนความผิดพลาดในอดีตกำลังหวนคืนมา"

"แล้ว 'คัมภีร์ลับ' ตอนนี้อยู่ที่ไหน?" คีรินทร์ถาม

"ไม่มีใครรู้ค่ะคีร์" เกวลินตอบ "บันทึกระบุเพียงว่า 'คัมภีร์' ถูกซ่อนไว้ในสถานที่ลึกลับ และมีเพียงผู้สืบทอดที่แท้จริงของสามตระกูลเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงได้"

คีรินทร์ตระหนักว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแย่งชิงอำนาจ แต่เป็นการต่อสู้เพื่อปกป้องความสมดุลที่ถูกคุกคาม และเพื่อไขปริศนาของอดีตที่ผูกมัดพวกเขาไว้

"เราต้องล่อพวกมันออกมา" คีรินทร์กล่าวด้วยแววตาแน่วแน่ "พวกมันต้องการ 'คัมภีร์ลับ' และเราจะใช้สิ่งนี้เป็นเหยื่อล่อ"

แผนของคีรินทร์คือการปล่อยข่าวลือเรื่องการค้นพบ 'เบาะแส' ของ 'คัมภีร์ลับ' ในสถานที่ที่ห่างไกลและอันตรายที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ 'ถ้ำเงาพิพากษา' ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเป็นที่ซ่อนของอารยธรรมโบราณและเต็มไปด้วยกับดักอันตราย

"เราจะใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการสร้างร่องรอยปลอมๆ เพื่อให้พวกมันเชื่อว่าเรากำลังเข้าใกล้ 'คัมภีร์ลับ' มากขึ้น" ริคาร์โด้อธิบายแผนการ "และเมื่อพวกมันบุกเข้ามา...เราก็จะจับตัวผู้นำของมันให้ได้"

เกวลินเสนอความคิดเพิ่มเติม "บางที...เราอาจจะต้องพึ่งพาอลิซาก็ได้นะคะ คีร์"

คีรินทร์มองเกวลินด้วยความประหลาดใจ "เธอหมายความว่ายังไง?"

"อลิซาเคยถูกบงการด้วยความแค้น" เกวลินอธิบาย "แต่ตอนนี้เธอได้รับการปลดปล่อยแล้ว เธออาจจะเข้าใจความรู้สึกของผู้นำ 'หัตถ์เงาแห่งบูรพา' ที่ถูกครอบงำด้วยอดีต และอาจจะช่วยให้เราสื่อสารกับพวกเขาได้ค่ะ"

คีรินทร์พยักหน้า เขารู้สึกทึ่งในความคิดของเกวลิน การที่จะหยุดยั้งสงครามครั้งนี้ พวกเขาอาจจะต้องใช้ความเห็นอกเห็นใจมากกว่าใช้กำลัง

ในขณะที่คีรินทร์และริคาร์โด้กำลังเตรียมแผนการลับ 'หัตถ์เงาแห่งบูรพา' ก็เริ่มเคลื่อนไหวตามแผน พวกเขาได้รับข่าวลือเรื่อง 'คัมภีร์ลับ' และเริ่มส่งนักรบที่เก่งกาจที่สุดเข้าไปใน 'ถ้ำเงาพิพากษา'

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ คีรินทร์ได้ส่งสายลับที่ภักดีที่สุดของเขาแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มของ 'หัตถ์เงาแห่งบูรพา' ตั้งแต่แรก สายลับคนนั้นคือ เซฟาโร่ อดีตมือสังหารเงาที่เคยทำงานให้กับดานิเอล เอ็นโซ และได้รับการช่วยเหลือจากคีรินทร์ในอดีต

เซฟาโร่ส่งรายงานลับถึงคีรินทร์อย่างต่อเนื่อง เขาเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างภายในของ 'หัตถ์เงาแห่งบูรพา' และแผนการที่ซับซ้อนของพวกเขา

"หัวหน้าครับ...ผู้นำของ 'หัตถ์เงาแห่งบูรพา' มีนามว่า 'ลูนา' ครับ" เซฟาโร่รายงานผ่านการติดต่อลับ "เธอเป็นผู้สืบทอดสายตรงของตระกูล 'เงาจันทรา' และถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กเพื่อทวงคืน 'คัมภีร์ลับ' และล้างแค้นให้กับบรรพบุรุษของเธอ"

สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ เซฟาโร่รายงานว่าลูนาไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่เธอมี 'ที่ปรึกษา' ที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังเสมอ และที่ปรึกษาคนนั้น...คือชายชราผู้หนึ่งที่สวมหน้ากากปริศนา ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าใครอย่างชัดเจน และมีอำนาจเหนือลูนาเสียอีก

"ที่ปรึกษาคนนั้นน่ากลัวมากครับหัวหน้า" เซฟาโร่กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "เขาดูเหมือนจะไม่ใช่คนธรรมดา...และเขามีพลังอำนาจที่น่ากลัวกว่ามาคัส ฟาบิโอ เสียอีก"

เมื่อแผนการของคีรินทร์เริ่มขึ้น พวกเขาก็เข้าสู่ 'ถ้ำเงาพิพากษา' ถ้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยความมืดมิดและกับดักโบราณที่ถูกติดตั้งมานานหลายศตวรรษ การเดินทางเข้าไปนั้นอันตรายถึงชีวิต

ระหว่างทาง คีรินทร์และลูกน้องต้องเผชิญหน้ากับนักรบ 'หัตถ์เงาแห่งบูรพา' ที่เก่งกาจ พวกมันต่อสู้ด้วยศิลปะการต่อสู้ที่แปลกตา ผสมผสานกับเทคนิคการพรางตัวที่ทำให้พวกมันแทบจะหายไปในความมืด

คีรินทร์ต่อสู้ด้วยความระมัดระวัง เขาต้องการที่จะจับตัวผู้นำของพวกมันให้ได้ ไม่ใช่แค่การทำลาย

ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงห้องโถงขนาดใหญ่ใจกลางถ้ำ ที่นั่น ลูนา ยืนรอพวกเขาอยู่ พร้อมกับนักรบที่เหลือของเธอ และชายชราผู้สวมหน้ากากปริศนาที่ยืนอยู่ข้างๆ ลูนา

ลูนาถอดผ้าคลุมศีรษะออก เผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงามแต่เต็มไปด้วยความเย็นชา ดวงตาของเธอคมกริบและแฝงไว้ด้วยความแค้น

"ในที่สุดเราก็ได้พบกัน คีรินทร์ วาเลนซิโอ" ลูนากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่แฝงด้วยความอำมหิต "แกคือผู้ที่ยืนขวางทางของการแก้แค้นที่ฉันรอคอยมานาน"

คีรินทร์มองไปที่ชายชราผู้สวมหน้ากาก เขาไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ แต่สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวชายคนนั้น

"เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อสู้" คีรินทร์กล่าว "เรามาที่นี่เพื่อทำความเข้าใจ และเพื่อหยุดความแค้นที่ไม่รู้จบนี้"

ลูนาหัวเราะอย่างเยาะเย้ย "ไม่มีการทำความเข้าใจ! มีแต่การแก้แค้น! แกไม่รู้หรอกว่าบรรพบุรุษของฉันต้องทนทุกข์ทรมานมาแค่ไหนเพราะตระกูลของแก!"

เกวลินก้าวออกมาข้างหน้า "อลิซาเองก็เคยคิดแบบนั้น...แต่เธอรู้ความจริงแล้วว่าเธอถูกหลอกใช้"

"หุบปาก!" ลูนากรีดร้อง "แกไม่มีสิทธิ์มาพูดถึงความเจ็บปวดของฉัน!"

ทันใดนั้นเอง ชายชราผู้สวมหน้ากากก็ก้าวออกมาข้างหน้าอย่างช้าๆ เขายกมือขึ้น และจู่ๆ ก็มีพลังงานบางอย่างแผ่ออกมาจากตัวเขา พลังงานนั้นรุนแรงและมืดมิด จนทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนถูกกดดันลง

"ถึงเวลาที่ความลับทั้งหมดจะถูกเปิดเผย" ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและน่าสะพรึงกลัว "ถึงเวลาที่โลกจะได้รู้...ความจริงเกี่ยวกับ 'คัมภีร์แห่งความมืด'"

คำว่า 'คัมภีร์แห่งความมืด' ทำให้คีรินทร์และเกวลินเบิกตากว้าง 'คัมภีร์ลับ' ที่พวกเขาเคยเข้าใจ ไม่ได้เป็นเพียงคัมภีร์ธรรมดา แต่มันมีชื่อที่น่ากลัวยิ่งกว่า

ชายชราผู้สวมหน้ากากค่อยๆ ถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นเต็มไปหมด และดวงตาที่เต็มไปด้วยความแค้นอันไม่มีที่สิ้นสุด

"ข้าคือ เคียวโกะ ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของตระกูล 'เงาจันทรา' และข้าจะทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกแกพรากไปจากข้า!"

การเปิดเผยตัวตนของผู้นำที่แท้จริงของ 'หัตถ์เงาแห่งบูรพา' และการเปลี่ยนแปลงชื่อของ 'คัมภีร์ลับ' ทำให้เรื่องราวซับซ้อนยิ่งกว่าที่เคย เคียวโกะ คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความแค้นทั้งหมด และเขามีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าการแค่แก้แค้นตระกูล แต่เป็นการครอบครอง 'คัมภีร์แห่งความมืด' ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้

สงครามครั้งสุดท้ายที่แท้จริง...กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว.