แชร์

บทที่3

ผู้เขียน: ชุนกวงห่าว
สังเกตเห็นถึงสาายตาของเธอ เสินหลีรีบยกมือปิดกำไลทองที่ข้อมือ ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ ร่างกายย่อท่าทีพยายามหลบไปชิดเหลียงหยวนโจ

เหลียงหยวนโจดึงเธอมายืนหลังตัวเอง จ้องมองสืออวี๋ด้วยท่าทีที่สูงส่ง “คุณจ้องเสินหลีทำไม?”

ขอบตาของสืออวี๋แดงเล็กน้อย “เหลียงหยวนโจว ทำไมคุณถึงให้กำไลทองแบบเดียวกันกับเสินหลี? คุณเคยบอกแล้วว่านั่นเป็นของฉันคนเดียว”

“เสินหลีเคยเห็นคุณใส่ บอกว่าชอบมาก ผมก็คงเอาของคุณไปส่งให้เธอไม่ได้สินะ? อีกอย่างมันก็แค่กำไลอันเดียว คุณกลายเป็นคนใจแคบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

ระหว่างคิ้วของเหลียงหยวนโจเต็มไปด้วยความเหลือทน เหมือนกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยไร้สาระเรื่องหนึ่ง

ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ “แต่อดีตตอนคุณให้ฉัน เคยบอกว่า……”

ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเหลียงหยวนโจขมวดคิ้วขัดจังหวะ “สืออวี๋ อยู่กับอดีตตลอด มันมีความหมายนักเหรอ? คุณเองก็บอกแล้วนี่นะว่ามันคืออดีต”

เขาไม่ชอบที่สุดก็คือสืออวี๋ชอบพูดถึงเรื่องอดีต เพราะมันจะทำให้เขานึกถึงความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ และช่วงเวลาที่มืดมนในตอนนั้นของตนเอง

สืออวี๋เป็นคนที่อยู่ข้างเขาในตอนนั้น รู้ทุกความลำบากและความพังทลายของเขา ดังนั้นหลังจากประสบความสำเร็จ เขาจึงไม่อยากย้อนกลับไปจำวันเวลาที่ยากลำบากนั้น และเริ่มรำคาญสืออวี๋

สืออวี๋มองดูเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้า ราวกับแก้วที่ใกล้จะแตก

“ดังนั้น คำสัญญาที่คุณให้ไว้ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป สามารถทำลายได้อย่างง่ายดายเลยใช่ไหม?”

เหลียงหยวนโจมองดูเธอด้วยสายตาที่เย็นชา “ผมสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ ดังนั้นคุณจะแต่ง ผมก็ยอมแล้ว คุณยังจะเอาอะไรอีก?”

“สืออวี๋ สิ่งเดียวที่ผมต้องขอโทษคุณคือ ไม่รักคุณแล้ว แต่ว่าแม้แต่ผมจะรักใครก็ตัดสินใจเองไม่ได้แล้วเหรอ?”

สืออวี๋กะพริบตา น้ำตาไหลลงมา

ที่แท้เมื่อผู้ชายเปลี่ยนใจแล้ว คำสัญญาที่เคยให้ไว้ก็จะกลายเป็นปราสาทที่ใช้ทรายสร้างขึ้นมา พอลมพัดมาก็ล้มสลายหมด

ไม่รักก็คือไม่รักแล้ว เขาทำได้ แต่เธอล่ะ? เธอจะทำอย่างไร?

จะบอกตัวเองให้ลืมช่วงเวลาที่รักกันในอดีตได้อย่างไร จะบอกตัวเองให้ยอมรับที่เขาเปลี่ยนใจไปได้อย่างไร แล้วจบอกให้ตัวเองยอมปล่อยเขาไปได้อย่างไร และปล่อยตัวเองไปด้วย……

เห็นสืออวี๋กัดริมฝีปากที่ซีด ไม่พูดอะไร เหลียงหยวนโจก็กอดเสินหลีแล้วจากไป ร่างเงาหายไปที่มุมอย่างรวดเร็ว

สืออวี๋กะพริบตาแสบขมอยู่สักครู่ ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นนาน ก่อนจะปรับอารมณ์แล้วหันตัวกลับเข้าไปยังห้องส่วนตัว

จนถึงดึกๆ งานเลี้ยงเพิ่งจบ

สืออวี๋ยืนอยู่หน้าร้าน เห็นเพื่อนร่วมงานคนสุดท้ายจากไป จึงขับรถกลับบ้าน

กลับมาถึงบ้าน เปิดประตูห้องมืดสนิท เหมือนที่คิดว่าเหลียงหยวนโจยังไม่กลับมา

ภาพที่เขาจูบเสินหลีบนอ่างล้างหน้าผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง หัวใจเจ็บจึ๊กขึ้นมาอีก

เธอหลับตา บังคับน้ำตาไว้ไม่ให้ไหล

เดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เปิดกล่องเครื่องประดับ หยิบกำไลทองรูปดอกทิวลิปออกมา

อดีตกำลังที่เห็นเมื่อไหร่ก็ทำให้รู้สึกใจหวาน ตอนนี้แค่มองก็ทำให้เจ็บปวดใจยิ่งนัก

ในเมื่อไม่ได้เป็นของเธอเพียงผู้เดียว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้อีก

กัดริมฝีปากอย่างขมขื่น สืออวี๋ก็ปล่อยมือ

กำไลหล่นจากมือร่วงลงถังขยะข้างล่าง ส่งเสียง ‘ติ๊ง’ หนึ่งครั้งพอดี เหมือนเติมเต็มความเจ็บปวดตอนที่เธอเห็นเสินหลีใส่กำไลนั้นจนหัวใจสะดุด

หลายวันต่อมา เหลียงหยวนโจวก็ไม่กลับ สืออวี๋ส่งข้อความเตือนเรื่องลองชุดแต่งงานในวันเสาร์ให้เขาทุกวัน เขาก็ไม่ตอบ

เช้าวันเสาร์ สืออวี๋ลุกอาบน้ำ แต่งหน้า ขณะกำลังแต่งหน้าได้รับข้อความจากเหลียงหยวนโจว

【ผมอยู่ที่ร้านชุดแต่งงาน】

มาถึงร้านชุดแต่งงาน เห็นเสินหลีที่อยู่ข้างๆและควงแขนเหลียงหยวนโจวไว้อย่างออดอ้อน สายตาของสืออวี๋ก็เย็นเฉียบทันที

“เหลียงหยวนโจว วันนี้เป็นวันลองชุดแต่งงานของเรา คุณพาเธอมาทำไม?”

เหลียงหยวนโจทำหน้านิ่ง เหมือนกันไม่รู้สึกว่ามันผิดตรงไหนเลย “ลองชุดเสร็จ ผมกับเธอจะไปคุยเรื่องงานร่วมมือ เรื่องเล็กๆแบบนี้ก็ต้องโวยวายด้วยเหรอ?”

“เรื่องเล็ก? ในสายตาคุณ มันเป็นแค่เรื่องเล็กเรื่องหนึ่งจริงเหรอ?”

วันลองชุดแต่งงานของพวกเขา แต่เขากลับพาชู้สาวของตัวเองมาทำให้เธออึดอัดใจ แล้ววันแต่งงาน เขาก็จะให้เสินหลีมาเข้าร่วมด้วยหรือ?

เสินหลีปล่อยแขนเหลียงหยวนโจว สีหน้าตื่นตื่นตระหนกเล็กน้อย “ประธานเหลียง ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ควรมา……ฉันกลับบริษัทก่อน……รอคุณลองชุดแต่งงานเสร็จแล้วฉันค่อย……”

“ไม่ต้อง”

เขาหันไปมองสืออวี๋ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอจะลองไหม? ผมยุ่งมาก ไม่ได้ว่างมาเสียเวลาตรงนี้กับคุณนะ”

สืออวี๋รู้จักเขาดี เมื่อเขาขมวดคิ้วแบบนี้ หมายถึงสุดทนแล้ว

ถ้าตอนนี้เธอบอกว่าไม่ลอง เขาก็จะหันหลังและเดินจากไปแน่นอน

ไม่ได้พูดอะไรอีก สืออวี๋หันหลังเดินเข้าร้านชุดแต่งงานโดยตรง

ก้าวเข้าร้านชุดแต่งงาน พนักงานยิ้มต้อนรับทันที

เมื่อเห็นเหลียงหยวนโจที่อยู่ด้านหลังสืออวี๋ และเสินหลีที่อยู่ข้างกายเหลียงหยวนโจ สายตาของเธอฉายแววไม่คาดคิด บนใบหน้ายังคงยิ้มแย้มเหมือนเดิม

“ประธานเหลียง คุณหนูสือ สวัสดีตอนเช้า ชุดแต่งงานที่สั่งทำมาถึงแล้วค่ะ ฉันพาคุณไปลองนะคะ”

สืออวี๋เคยเรียนออกแบบมาบ้าง ชุดแต่งงานนี้ใช้เวลาครึ่งปีออกแบบภายใต้คำแนะนำของนักออกแบบชื่อดังคนหนึ่งในประเทศ เธอทุ่มเทใจไปไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ตอนเห็นเสินหลี ทุกความหวังของเธอก็พังทลายหมดในชั่วพริบตา ตอนนี้เหลือเพียงทำหน้าที่ให้เสร็จ

เธอพยักหน้าอย่างเหนื่อยล้า “โอเค”

เดินตามพนักงานไปที่โซนลองชุด สืออวี๋เห็นชุดแต่งงานของเธอวางอยู่กลางห้อง

ชุดแต่งงานเป็นแบบเกาะอก ด้านบนปักดอกทิวลิปที่เธอชื่นชอบอย่างประณีตบนผ้าตาข่ายและลูกไม้ ด้วยเทคนิคปักแบบฝรั่งเศส ดูมีชีวิตชีวาราวกับดอกไม้กำลังเติบโตออกมาจากลูกไม้เลยทีเดียว

รอบเอวประดับด้วยไข่มุกเรียงเป็นวงเล็กดุจดาวเต็มฟ้า ส่องประกายระยิบระยับใต้แสงไฟ กระโปรงด้านหน้าทำจากผ้าซาติน ส่วนด้านหลังเป็นซาตินผสมลูกไม้สามชั้นเป็นหางยาว เบาและพริ้ว สืออวี๋แทบละสายตาไม่ได้

“คุณหนูสือ ชุดนี้เพิ่งเอามาถึงเช้านี้ ลูกค้าหลายท่านเห็นแล้วก็อยากลองใส่ดู คุณใส่แล้วคงสวยมากเลยค่ะ”

เสินหลีก็เห็นชุดแต่งงานชุดนั้นในทันที ในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและอิจฉา “ใช่ สวยมากเลยนะ! ก่อนหน้านี้ฉันก็ได้ยินมาแล้วว่าชุดแต่งงานของคุณสือเธอเป็นคนออกแบบเอง คุณสือเก่งมากเลยค่ะ!ใช่ไหมคะ ประธานเหลียง?”

เสียงหวานเลี่ยนของเธอดังขึ้นข้างหู สืออวี๋รู้สึกราวกับกลืนแมลงวันเข้าไป น่าขยะแขยงจนแทบทนไม่ไหว

กำลังจะพูด ก็เห็นเหลียงหยวนโจวก้มลงมองเสินหลีด้วยสายตาอ่อนโยน เอามือลูบหัวเธอ

“คุณก็ไม่เลว ไม่งั้นก็คงไม่ได้เป็นเลขาของผม”

เสินหลีมองเขาด้วยความโกรธเล็กน้อย “คุณก็เอาแต่ล้อฉันอยู่ได้”

วินาทีนั้น สืออวี๋ก็ไม่อยากพูดอะไรอีกเลย

ยังจะพูดอะไรได้อีก?

ที่เสินหลีสามารถโผล่มาที่นี่เพื่อมาทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงได้ สุดท้ายแล้วก็เป็นเพราะเหลียงหยวนโจเป็นคนหนุนหลังให้ความมั่นใจเธอ

พนักงานข้างๆก็เจอสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ครั้งแรก พูดด้วยความระมัดระวัง “คุณหนูสือ……ชุดแต่งงาน ยังจะลองอยู่ไหมค่ะ?”

สืออวี๋หันกลับไป ตอบด้วยสีหน้าเฉยชา “ลอง”

พนักงานเอาชุดแต่งงานลงมาอย่างระมัดระวัง พาสืออวี๋เข้าไปในห้องลอง

เพราะด้านหลังชุดมีลูกไม้และสายรัดอยู่ ใส่ยาก ต้องใช้เวลานานกว่าสิบกว่านาที ถึงจะใส่เสร็จ

ซืออวี๋นั้นงดงามอยู่แล้ว ผิวขาวดุจหิมะ ใบหน้าละมุนงดงาม ดุจดอกบัวที่เบ่งบานเต็มที่ อ่อนช้อยน่าหลงใหล มิเช่นนั้นในอดีตเหลียงหยวนโจก็คงไม่ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบหรอก

เธอที่สวมชุดแต่งงาน ยิ่งทำให้คนไม่อาจละสายตาได้

พนักงานจัดกระโปรงให้เธอแล้วพลางพูดว่า "คุณหนูสือ ถ้าฉันไม่ใช่ผู้หญิง คงหลงใหลคุณไปแล้ว"

สืออวี๋ก้มหน้าลงแล้วฝืนยิ้ม "ขอบคุณค่ะ"

เมื่อเห็นว่าเธออารมณ์ไม่ดี พนักงานก็ถอนหายใจยาว และไม่กล้าพูดอะไรอีก

เมื่อม่านห้องลองชุดเปิดออก เหลียงหยวนโจก็กำลังตอบข้อความลูกค้าในไลน์อยู่ ส่วนเสินหลีก็ไม่รู้ไปไหนแล้ว

พนักงานข้างๆ เตือนเขา "ประธานเหลียง คุณหนูสือเปลี่ยนชุดแต่งงานเสร็จแล้วค่ะ"

เหลียงหยวนโจเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาเหลือบมองบนตัวของสืออวี๋อย่างเฉยชา

"ก็ธรรมดาดี"

เขารู้สึกว่ามันธรรมดาจริง เพราะตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับสืออวี๋อีกแล้ว ต่อให้เธอยืนเปลือยกายอยู่ตรงหน้า เขา เขาก็ไม่มีอารมณ์อะไรเลย

ในใจของสืออวี๋รู้สึกผิดหวัง ปีแรกที่พวกเขาคบกัน เคยคุยกันว่าตอนแต่งงานจะใส่ชุดแต่งงานแบบไหน

เหลียงหยวนโจบอกว่าเธอใส่อะไรก็สวยที่สุด ตอนเธอลองชุดแต่งงาน เขาคงน้ำตาไหลพรากด้วยความตื่นเต้นแน่ๆ เพราะในที่สุดเขาก็จะได้แต่งงานกับเธอ

มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆเรื่องหนึ่ง เขาคงลืมไปนานแล้วสินะ

เวลาแปดปี มันนานมากจริง นานจนสามารถทำให้คนคนหนึ่งเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นได้

มันยังนานจน พอที่จะลบใครบางคนออกไปจากใจอย่างช้าๆ

เมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อึดอัดระหว่างทั้งสอง พนักงานกำลังจะไกล่เกลี่ย แต่ทันใดนั้นม่านห้องลองชุดตรงข้ามก็เปิดออก เสินหลีที่สวมชุดแต่งงาน ยิ้มมุมปาก หันไปมองเหลียงหยวนโจอย่างสง่างามเป็นธรรมชาติ

"ประธานเหลียง คิดไม่ถึงว่าชุดแต่งงานที่คุณเลือกจะพอดีตัวขนาดนี้ เป็นยังไงบ้าง?"
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่85

    สีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้ม หันไปมองสืออวี๋กับซือเยี่ยนที่ยืนอยู่ไม่ไกลตอนนี้สืออวี๋กำลังเงยหน้าคุยกับซือเยี่ยน ดวงตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ไม่ได้มีท่าทางเย็นชาเหมือนตอนเขาเลยสักนิดเลย“ก็ได้ ฉันจะขอโทษเขา!”วันนี้เขาถูกซือเยี่ยนเล่นงาน ก็ถือว่าเขาซวยไปแต่ผู้ชายคนนี้จะแบกรับคำขอโทษของเขาไหวหรือไม่ มันก็คืออีกเรื่องหนึ่งแล้ว!เขาหันตัวรีบเดินไปหาสืออวี๋กับซือเยี่ยน จนมายืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน เขาจึงพูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “สืออวี๋ ผมขอโทษเขาได้”สืออวี๋มองเขาแวบหนึ่งก่อนพูดอย่างหมดความอดทน “รบกวนคุณรีบหน่อย ฉันยังมีธุระต่อ”ในใจของเหลียงหยวนโจวมีไฟโกรธลุกโชนขึ้นมา แต่ก็ถูกเขาพยายามกดมันไว้“คุณซือ เมื่อกี้เป็นผมที่วู่วามไป คุณโปรดให้อภัยผมด้วย”ซือเยี่ยนมองเขา ดวงตาแฝงแววเยาะเย้ยจาง ๆ“ประธานเหลียง ไม่เป็นไรหรอก ครั้งหน้าก็อย่าวู่วามแบบนี้อีกนะ”พูดจบ เขาหันมองสืออวี๋ “ตอนนี้ประธานเหลียงก็ขอโทษแล้ว เราก็ยอมรับการไกล่เกลี่ยจากตำรวจเถอะ”สืออวี๋พยักหน้า “โอเค”เห็นสืออวี๋ไม่แม้แต่จะเหลียวแลมองมาทางตัวเอง สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็เริ่มตึงเครียด เส้นเลือดที่ขมับเต้

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่84

    ต่อหน้าเขาแต่เธอกลับไปปกป้องผู้ชายอีกคนแทน?แถมยังเป็นผู้ชายเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก!“สืออวี๋ นี่คุณดูไม่ออกหรือว่ามันแกล้ง?!”ในดวงตาของสืออวี๋เต็มไปด้วยความเหลือทน “เขาแกล้งอะไร? ฉันเห็นแค่คุณทำร้ายเขาอย่างไม่มีเหตุผล ต่อยเขาจนได้รับบาดเจ็บ”“ถ้าเขาไม่พูดคำพูดเหล่านั้น ผมจะลงมือเหรอ?”สืออวี๋ขมวดคิ้ว “คุณทำก็ทำไปแล้ว ยังจะมาบอกว่าเขาพูดได้ไม่เข้าหู?”“ฉันไม่อยากพูดไร้สาระกับคุณ รีบขอโทษซะ!”ท่าทางที่เย็นชาและห่างเหินของเธอ ราวกับต้องการตัดขาดกับเขาโดยสิ้นเชิง ทำให้เหลียงหยวนโจวเสียสติไปในที่สุด“ให้ผมขอโทษเขา? คุณฝันไปเถอะ!”“ได้ ในเมื่อคุณไม่ยอมขอโทา งั้นฉันก็คงต้องแจ้งความ แต่ฉันต้องขอเตือนคุณก่อนว่า ตามมาตรา 43 ของกฎหมายว่าด้วยการลงโทษทางปกครองด้านความมั่นคงสาธารณะ การทำร้ายผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล อาจถูกควบคุมตัวไม่เกินห้าวัน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพัน”เหลียงหยวนโจวคิดไม่ถึงว่า สืออวี๋จะทำแบบนี้กับตัวเองเพราะผู้ชายอีกคนสายตาเขาเย็นชา เต็มไปด้วยความโกรธ“สืออวี๋ คุณแน่ใจเหรอว่าเพื่อคนที่ไม่สำคัญแบบนี้คนหนึ่ง ถึงขั้นเอาเรื่องไปถึงโรงพัก?”มือของสืออวี๋ค่อย ๆ กำแน่น เงยหน้ามองเ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่83

    สืออวี๋ตกใจกับเหลียงหยวนโจวที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เท้าลื่นเกือบล้มทันใดนั้น มือที่แข็งแรงข้างหนึ่งก็ยื่นมารองที่เอวของเธอไว้ ตามด้วยเสียงที่อ่อนโยนของซือเยี่ยน “เป็นอะไรไหม?”สืออวี๋ส่ายหน้า มองเขาด้วยความขอบคุณ “ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณนะ”ซือเยี่ยนถอนมือกลับอย่างสีหน้าเรียบเฉย “ไม่เป็นไร”เหลียงหยวนโจวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง ความโกรธในอกเหมือนไฟลุกโชน ยิ่งลุกก็ยิ่งเดือดเขายื่นมืออยากจะดึงสืออวี๋มาข้างๆ แต่ยังไม่ทันแตะตัวสืออวี๋ ก็ถูกซือเยี่ยนขวางไว้“คุณเหลียง คุณอย่าจับมือถือแขนสืออวี๋”มือของเหลียงหยวนโจวถูกผลักออก ความโกรธยิ่งพุ่งสูงเขไม่แม้แต่จะมองซือเยี่ยน สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธจ้องไปที่สืออวี๋เมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นสวีอวี่เจ๋อ ตอนนี้ก็เปลี่ยนผู้ชายอีกคน อีกไม่นาน เธอก็จะเปลี่ยนอีกคนแล้วใช่ไหม?เพื่อจะยั่วให้เขาโมโห เธอก็คิดหาทุกวิถีทางเลยจริงๆ!“มานี่!”ทั้งน้ำเสียงที่เย็นชา และกรามที่เกร็ง ล้วนบ่งบอกว่าตอนนี้เขากำลังโกรธจัดแต่สืออวี๋ในตอนนี้ไม่สนใจอีกแล้วพวกเขาเลิกกันแล้ว เขาจะดีใจหรือโกรธ ก็ไม่เกี่ยวกับเธออีก

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่82

    พอวางสายแล้ว สาตาของเสินหลีก็เปลี่ยนเป็นเย็นชารอสืออวี๋กลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ เธอไม่เชื่อว่าเหลียงหยวนโจวยังจะชอบสืออวี๋อีก!อีกด้านหนึ่ง หานเชี่ยนวางโทรศัพท์ลง แล้วหันมองช่างทำเล็บที่กำลังทำเล็บให้เธอ “ทำเร็วๆหน่อย เดี๋ยวฉันยังจะต้องไปพบคุณชายซ่ง ถ้าทำให้ฉันเสียเวลา ฉันจะไม่ปล่อยเธอแน่!”ช่างทำเล็บชินกับนิสัยชอบสั่งอย่างเย่อหยิ่งของหานเชี่ยนแล้ว จึงตอบอย่างนอบน้อม “ค่ะ คุณหนูหาน”หลังจากทำเล็บเสร็จ ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่าแล้วหานเชี่ยนมองเล็บใหม่อย่างพอใจ หยิบกระเป๋าแล้วขับรถตรงไปยังร้านอาหารที่นัดกับซ่งจื่อเฉียนไว้เมื่อพนักงานพาเธอไปยังห้องส่วนตัว ซ่งจื่อเฉียนก็รอเธออยู่แล้วเมื่อเห็นซ่งจื่อเฉียน บนใบหน้าของหานเชี่ยนก็เต็มไปด้วยความดีใจ เดินตรงไปหาเขาทันทีเห็นเธอนั่งลงที่ข้างๆตัวเอง ซ่งจื่อเฉียนก็ขมวดคิ้ว พูดเสียงเย็นชาว่า “คุณหนูหาน ผมไม่ชอบนั่งใกล้กับคนที่ไม่สนิทขนาดนี้ กรุณานั่งให้ห่างจากผมหน่อย”ร่างกายของหานเชี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ พยายามฝืนยิ้ม มองดูซ่งจื่อเฉียนแล้วพูดว่า “คุณชายซ่ง วันนี้คุณนัดฉันมา ไม่ใช่เพราะอยากให้สถานะกับฉันหรือ?”หลังจากคืนนั้น เธ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่81

    เขารู้สึกว่าสืออวี๋ไม่มีทางเลิกกับเขาจริงๆ และในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าพฤติกรรมช่วงนี้ของสืออวี๋มันไม่ปกติ ทำให้เขารู้สึกเหมือนจะสูญเสียเธอไปได้ทุกเมื่อยิ่งคิด สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็ยิ่งเคร่งเครียดตอนที่เสินหลีเคาะประตูเข้ามา ก็เห็นเหลียงหยวนโจวนั่งเหม่อมองเอกสารอยู่เธอกัดริมฝีปากล่าง สีหน้าซับซ้อน ตั้งแต่เหลียงหยวนโจวกับสืออวี๋เลิกกันแล้ว เธอก็เห็นเขาเหม่อลอยอยู่เป็นประจำช่วงนี้แม้เหลียงหยวนโจวจะยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อหน้าเพื่อนและคนในบริษัทโดยปริยาย แต่เสินหลีกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลย ตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกกังวลเพราะเธอพบว่า เหลียงหยวนโจวไม่ได้มีความกระตือรือร้นกับเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้วและทุกครั้งที่มีสืออวี๋อยู่ในเหตุการณ์ สายตาของเหลียงหยวนโจวก็จะมองไปที่สืออวี๋เสมอ ทำให้เธอทนไม่ได้สิ่งที่เธอต้องการคือ ในสายตาของเหลียงหยวนโจวมีเพียงเธอคนเดียว!“ประธานเหลียง นี่คือเอกสารที่ต้องเซ็นวันนี้ค่ะ”เหลียงหยวนโจวดึงสติกลับมา เงยหน้าขึ้นมองเธอ อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ทำไมคุณไม่เคาะประตูก่อนเข้ามา?”เสินหลีหน้าซีด “ประธานเหลียง ฉันเคาะแล้วค่ะ……อาจเป็นเพราะคุณเหม่อลอยอยู่ เล

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่80

    สืออวี๋หันไปมองเขา “คดีของหวังซันซันไม่ต้องตามต่อแล้วนะ อีกไม่กี่วันเธอจะมายกเลิกสัญญา”ซือห่าวอวี่ขมวดคิ้วแน่น แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “เธอจะเปลี่ยนทนาย? ทำไมล่ะ?”คดีของหวังซันซัน สืออวี๋ติดตามอย่างทุ่มเทเต็มที่ แถมการพิจารณาคดีรอบแรกก็จบไปแล้ว อีกไม่นานก็จะเข้าสู่รอบที่สอง ทำไมอยู่ดีๆอีกฝ่ายถึงเปลี่ยนทนาย?!“เธอหาทนายที่เก่งกว่าได้ ทนายคนนั้นเป็นมืออาชีพมาก เคยทำคดีหย่าร้างมาเยอะ”“ถึงทนายคนนั้นจะมืออาชีพแค่ไหน เธอก็ทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะ?มันเกินไปแล้ว พี่ไม่น่าจะยอมให้เธอเปลี่ยนทนายเลย!”พอนึกถึงช่วงที่ผ่านมานี้เพื่อคดีของหวังซันซันแล้วสืออวี่ลำบากแทบแย่ เรียกเมื่อไรก็ต้องไปทันที แต่อีกฝ่ายกลับมาเปลี่ยนทนายในจังหวะสำคัญแบบนี้ ในใจของซือห่าวอวี่ก็รู้สึกโกรธขึ้นอย่างอดไม่ได้“ถ้าไม่ยอม เธอก็คงไม่ให้ความร่วมมือ ยื้อคดีนี้ไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเหมือนกัน”อีกอย่าง เรื่องนี้ก็จะโทษหวังซันซันคนเดียวไม่ได้ทางเหลียงหยวนโจวต้องเสนออะไรบางอย่างที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ เธอถึงได้โทรมาเปลี่ยนทนายไม่ว่าอย่างไร เธอก็หวังให้คดีนี้ชนะเพราะตามนิสัยของเยว่เผิงแล้ว ถ้าแพ้ ต่อไปยังไม่รู้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status