Share

บทที่2

Author: ชุนกวงห่าว
เหลียงหยวนโจวหัวเราะอย่างได้ใจ “คราวหน้าผมจะระวังกว่านี้ เดี๋ยวไปซื้อยาให้คุณ”

เสียงของผู้ชายค่อยๆ จางหายไป สืออวี๋ก้มมองลิปสติกที่หักครึ่งในมือ ใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์

ทิ้งลิปสติกที่หักลงในถังขยะ สืออวี๋เปิดชั้นที่สองของกล่องเครื่องประดับ แต่พบว่ามีเพียงไม่กี่ชิ้น

ก่อนหน้านี้ในนั้นเต็มไปด้วยเครื่องประดับที่เหลียงหยวนโจวส่งให้ ไม่ต่ำกว่าร้อยชิ้น ตั้งแต่เหลียงหยวนโจวนอกใจ หลังจากผิดหวังต่อเขาหนึ่งครั้ง เธอก็จะเอาทิ้งหนึ่งชิ้น

ช่วงแรกทิ้งช้ามาก แต่หลังๆกลับทิ้งเร็วขึ้น ตอนนี้ก็เกือบหมดแล้ว

เหมือนกับความรักที่เธอมีต่อเหลียงหยวนโจว จากที่เคยเต็มล้นเหมือนคลื่นทะเล มาจนถึงตอนนี้ที่หมดกำลังใจและสิ้นหวัง ดูเหมือนกำลังจะจางหายไปจนหมดสิ้นแล้ว

สืออวี๋หยิบสร้อยคอทองเส้นเล็กขึ้นมา นี่คือของขวัญวันครบรอบสามปีที่เหลียงหยวนโจวส่งให้

จี้สร้อยเป็นรูปอุ้งเท้าแมว ตอนนั้นสืออวี๋อยากเลี้ยงแมวตัวหนึ่งมาก มักดูคลิปแมวจากบนออนไลน์

ตอนได้รับสร้อยนี้ เธอตื่นเต้นมาก หมุนเล่นจี้รูปแมวไม่หยุด

ทั้งคู่เคยวางแผนว่าจบการศึกษาแล้วจะเช่าบ้านด้วยกันและรับแมวตัวหนึ่งมาเลี้ยง แม้แต่ชื่อก็ตั้งเสร็จแล้ว เรียกว่า“โจวโจว”

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เลี้ยง เหลียงหยวนโจวเริ่มเอาแต่ทำธุรกิจ หลังธุรกิจสำเร็จก็ยิ่งยุ่งจนไม่มีเวลาให้เธอเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจะนึกถึงเรื่องเลี้ยงแมว

คิดย้อนกลับไป ตั้งแต่ตอนนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เริ่มมีปัญหาแล้ว

เธอมั่นใจเกินไป คิดว่าเหลียงหยวนโจวจะไม่เปลี่ยนใจ

สืออวี๋เก็บความรู้สึกปั่นป่วนไว้ ก้มหน้าทิ้งสร้อยทองลงในถังขยะ ปิดกล่องเครื่องประดับช้าๆ

ตอนนี้ในกล่องเหลือเพียงเครื่องประดับห้าชิ้น

เธอสวมเสื้อโค้ท หยิบกระเป๋าแล้วออกจากบ้าน

มาถึงสำนักงานกฎหมาย เพื่อนร่วมงานก็เข้ามาแสดงความยินดีที่เธอชนะคดีอีกครั้ง

“ทนายสือ ยินดีด้วยค่ะ!”

“ทนายสือ นี่คงเป็นคดีที่หกของเดือนนี้แล้วสินะ สมกับที่ได้รับฉายา ‘จอมทัพผู้ชนะทุกคดี’ ในสำนักงานกฎหมายเลยจริงๆ”

“คำที่ว่า ‘ล้มเหลวเรื่องความรัก แต่ประสบความสำเร็จในเรื่องงานนี่มันใช้ได้จริงๆเลย คุณดูสิตอนนี้การงานของทนายสือรุ่งเรืองขนาดไหน”

ทันใดนั้น เพื่อนร่วมงานอีกคนรีบดึงแขนให้สัญญาณเธอ เดิมทีอากาศที่สนุกสนานก็เงียบลงทันที ทุกคนมองหน้ากัน ไม่กล้ามองสืออวี๋

ทุกคนในสำนักงานกฎหมายล้วนรู้เรื่องที่เธอกับเหลียงหยวนโจวกำลังจะแต่งงานกัน บางคนที่ข่าวสารดียังรู้ด้วยว่าเหลียงหยวนโจวแอบสนิทกับเลขานุการของเขา แต่ไม่เคยพูดเรื่องนี้ต่อหน้าสืออวี๋

คนที่พูดก็เพิ่งรู้ตัวว่าพูดพล่าม จึงรีบขอโทษ “ทนายสือ ขอโทษนะคะ ฉันพูดไปมั่ว คุณอย่าใส่ใจไปเลยนะคะ……”

สีหน้าของสืออวี๋ซีดขาวเล็กน้อย มือที่ถือแฟ้มเอกสารกำแน่นขึ้น ฝืนยิ้มออกมา “ไม่เป็นไร คืนนี้ฉันเลี้ยงทุกคนกินข้าวที่ร้านอาหารเทียนเซียงเก๋อ หาเวลาว่างให้ได้นะ!”

ทุกคนรับปาก และหยอกล้อเพื่อคลายบรรยากาศกันเล็กน้อย เรื่องนี้ก็ผ่านไป

สืออวี๋กลับมาที่โต๊ะทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์ จัดเรียงเอกสารคดีและเริ่มเขียนสรุปคดี

แต่เขียนไปสองชั่วโมง กลับได้แค่ไม่กี่บรรทัด ความคิดล่องลอยไปไกลแล้ว

ตอนเย็น สืออวี๋เดินเข้าร้านอาหารเทียนเซียงเก๋อกับเพื่อนร่วมงานสิบกว่าคน

ริมหน้าต่างมีสองเงาที่คุ้นเคย ตอนสืออวี๋หันไปมอง ก็สบกับตาที่เย็นชาของเหลียงหยวนโจวพอดี

เธอหายใจสะดุด วินาทีต่อมาอีกฝ่ายก็ละสายตา ป้อนของหวานให้เสินหลีกินต่ออย่างไม่สนใจคนรอบข้าง

แม้ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานของเธอ เขาก็ไม่ให้เกียรติเธอสักนิดเลย

มีเพื่อนร่วมงานที่สนิทกับสืออวี๋อยู่แล้วหน้าเคร่งเครียด รีบก้าวไปข้าวหน้าเพื่อทวงความเป็นธรรมให้สืออวี๋

สืออวี๋ดึงมือเธอไว้ พูด้วยเสียงเรียบเฉย “ฉันไม่เป็นไร ไปที่ห้องส่วนตัวเถอะ”

บนใบหน้าของเพื่อนร่วมงานเต็มไปด้วยความโกรธ หันกลับมากำลังจะพูด แต่ก็ชะงันไปเมื่อเห็นสีหน้าที่ฝืนยิ้มของสืออวี๋

สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร ปล่อยให้สืออวี๋ดึงเธอไปที่ห้องส่วนตัว

เรื่องความรัก ก็เหมือนการดื่มน้ำ ร้อน-เย็นก็มีแต่ผู้ดื่มเท่านั้นที่รู้ ในเมื่อสืออวี๋อยากรักษาภาพลักษณ์ของความสงบ พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น

หลังจากสั่งอาหารเสร็จ สืออวี๋ก็ลุกไปห้องน้ำ

ทันทีที่ปิดประตู ได้ยินเสียงได้ยินเสียงเพื่อนร่วมงานกำลังพูดคุยกันอยู่ข้างใน

“เมื่อกี้ฉันเห็นไม่ผิดใช่ไหม? แฟนทนายสือป้อนผู้หญิงคนอื่นกินของหวานต่อหน้าทนายสือ ผู้ชายเลวชั่วชัดๆ!”

“ฉันก็เห็นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าผู้ชายเลวๆแบบนี้ ทนายสือชอบเขาตรงไหน?เธอสวยขนาดนี้ เลิกกับเขาแล้วก็หาใหม่ได้ทันทีเลยนี่นะ?”

“เอ๊ย บอกได้ว่าต่างคนต่างยอมกันเอง ปกติทนายสือทำคดีเฉียบขาดชัดเจนขนาดนั้น แต่เรื่องความรักกลับงงงวยแบบนี้……”

สืออวี๋ไม่ได้ฟังต่อ แต่ก็พอเดาได้คร่าวๆ

อันที่จิรงพวกเขาพูดถูก แต่ทุกครั้งที่นึกได้ว่าชีวิตในอนาคตจะไม่มีเหลียงหยวนโจวอีกต่อไป หัวใจก็เจ็บปวดจนเธอรับไม่ไหว

นานเข้าไป เธอเองก็ชินแล้ว

ชินกับความเย็นชา ชินกับกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงอื่นบนตัวเขา และชินกับการที่แผลค่อยๆ หาย

เมื่อเดินมาที่ประตูห้องน้ำ เธอก็หยุดฝีเท้าในทันที คนทั้งคนราวกับถูกตอกตะปูไว้อยู่กับที่ จนขยับไม่ได้

ในไม่ไกลนั้น ภาพตรงหน้าทิ่มแทงตาเธออย่างแรง

เสินหลีนั่งอยู่บนอ่างล้างหน้า เหลียงหยวนโจวกอดเอวเธอไว้อย่าแน่น หันหลังให้สืออวี๋ จูบกันอย่างไม่แคร์ใคร

เมื่อก่อนต่อให้เขาจะทำมั่วยังไง ก็ไม่เคยจู๋จี๋กับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเธออย่างนี้

แต่ตอนนี้ เขากลับทำแบบนี้

มองดูแผ่นหลังของเหลียงหยวนโจว สืออวี๋รู้สึกเหมือนอกถูกเจาะ มีลมหนาวพัดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

เหลียงหยวนโจว ทำไมคุณถึงได้ใจร้ายขนาดนี้?

เพราะหมกมุ่นเกินไป เหลียงหยวนโจวไม่แม้แต่จะสั่งเกตเห็นสืออวี๋ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนั้น

แต่ว่าต่อให้สังเกตเห็น สำหรับเขาแล้วมันก็ไม่ได้ให้เจ็บปวดหรือสะเทือนใจอะไร

เพราะเธอจะเสียใจหรือไม่นั้น เขาไม่สนใจนานแล้ว

กระจกสะท้อนภาพทั้งสองคนกอดกัน และสะท้อนใบหน้าที่ซีดเผือด และเศร้าโศกของสืออวี๋

เหมือนตัวตลกคนหนึ่ง

เสินหลีเป็นคนเห็นสืออวี๋ก่อน รีบดันเหลียงหยวนโจวออก “ประธานเหลียง……คุณหนูสือ……”

แก้มของเธอแดงระเรื่อ ดวงตาสีอัลมอนด์ส่องประกายความตื่นตกใจ น้ำใสวิบวับ ริมฝีปากสีแดงฉ่ำที่เขาเคยจูบแดงระเรื่อเหมือนผลไม้หวานที่เพิ่งสุกเต็มที่ ดึงดูดให้คนอยากลิ้มลอง

“ไม่ต้องสนเธอ”

“ประธานเหลียง……อื้อ……” คำพูดที่เหลือถูกเหลียงหยวนโจวกลืนหาย

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เหลียงหยวนโจวถึงค่อยปล่อยเสินหลี อุ้มเธอลงจากอ่างล้างหน้า จัดกระโปรงให้ เธอแล้วเธอพาออกไป

ตอนเดินผ่านสืออวี๋ เขาเลิกคิ้วเยาะ “ยังดูไม่หนำใจอีกเหรอ? คืนนี้ให้ผมพาเสินหลีกลับไป ให้คุณได้ดูอย่างหนำใจหน่อยไหม?”

สืออวี๋หันหน้ามองเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย หาความอ่อนโยนในอดีตไม่ได้เลยแม้แต่นิด

“เหลียงหยวนโจว ลับหลังคุณกับเธอจะทำอะไรกันก็ได้ แต่……อย่าพามาให้ฉันเห็นได้ไหม? ถือว่าฉันขอร้องละ……”

เธอไม่รู้ว่าตัวเองยังจะทนได้อีกนานแค่ไหน

อนาคตที่เคยสัญญากัน ตอนนี้ดูเหมือนมีแต่เธอคนเดียวที่ยังฝันว่ามันจะเป็นจริง

เหลียงหยวนโจวยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ จับคางของเสินหลีแล้วจูบบนปากของเธออีกครั้ง

“แค่นี้ก็ทนไม่ไหวเหรอ? ทนไม่ไหว คุณก็สามารถยกเลิกการหมั้นหรือเลิกกันได้เสมอ”

สืออวี๋ก้มหน้า กำลังจะพูด แต่สายตาก็หยุดชะงักทันที

บนข้อมือของเสินหลีสวมกำไลทองรูปดอกทิวลิปไว้อันหนึ่ง ไม่ว่าจะดีไซน์หรือการทำ ก็เหมือนกับที่เหลียงหยวนโจวเคยออกแบบสั่งทำให้เธอเป๊ะเลย!
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 221

    เมื่อเห็นเขายิ้มมุมปาก ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเรื่องงานของตัวเองเลยสักนิด สืออวี๋ก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจเขาคงแกล้งทำเป็นสบาย ๆ ก็เพราะไม่อยากให้เธอโทษตัวเองสินะเธอสูดหายใจเข้าลึก แกล้งทำเป็นประหลาดใจแล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันก็นึกไม่ถึงเหมือนกันค่ะ ดูท่าต่อไปคุณก็จะเป็นหมอซือที่ค่าตัวหลายสิบล้านแล้วสินะคะ”“อืม เพราะงั้นคุณไม่ต้องห่วงผมหรอก หมอที่ค่าตัวหลายสิบล้านแบบนี้ โรงพยาบาลไหนบ้างจะไม่แย่งกันเอา”สืออวี๋พยักหน้า “พูดถูก โรงพยาบาลไหนได้ตัวคุณไปก็ถือว่ากำไรมหาศาลแล้ว”พอดีกับที่ลิฟต์มาถึง ทั้งสองจึงเดินเข้าไปด้วยกันเมื่อออกจากลิฟต์ ทั้งสองก็แยกย้ายกันตรงหน้าประตูพอกลับถึงบ้าน สืออวี๋ก็วางเสื้อผ้าที่ซื้อเมื่อตอนบ่ายไว้ตรงโถงทางเข้าบ้าน เปลี่ยนรองเท้า แล้วไปหยิบน้ำขวดหนึ่งจากตู้เย็น ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นเธอหยิบมือถือออกจากกระเป๋า ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรออกไปยังเบอร์ของเหลียงหยวนโจว“อาอวี๋... ผมนึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะยังติดต่อผมมา...”น้ำเสียงของเหลียงหยวนโจวเจือความดีใจและความรู้สึกแบบทำตัวไม่ถูก ราวกับย้อนกลับไปในช่วงที่เขากำลังจีบสืออวี๋ ที่

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 220

    “อืม ผู้ชายเฮงซวยแบบนั้น ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียดายจริง ๆ นั่นแหละ เราไปกันเถอะ”อีกด้านหนึ่ง หลังจากเหลียงหยวนโจวอุ้มเสินหลีไปส่งที่รถ เขาก็ยืนอยู่ข้างรถและพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า: “ผมยังมีธุระที่บริษัท เดี๋ยวให้คนขับรถส่งคุณไปโรงพยาบาล”พูดจบ ก็ทำท่าจะปิดประตูสีหน้าของเสินหลีเปลี่ยนไป เธอยื่นมือไปคว้าแขนเสื้อของเขาไว้ทันที “หยวนโจว คุณไม่ไปกับฉันเหรอคะ? ถ้าเผื่อลูกเป็นอะไรขึ้นมา…”เหลียงหยวนโจวพูดแทรกขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “ผมไม่ใช่หมอ อีกอย่าง ต่อไปนี้ถ้าคุณเจอสืออวี๋ก็หลีกเลี่ยงเธอซะ พยายามอย่าไปปรากฏตัวต่อหน้าเธอ”“ว่าไงนะคะ?”เสินหลีมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “คุณไม่แม้แต่จะถามสักคำว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ฉันถูกรังแกหรือเปล่า แต่กลับบอกให้ฉันเห็นสืออวี๋แล้วต้องเป็นฝ่ายหลีกเลี่ยง?”เรากำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้ว เขาไปเข้าข้างสืออวี๋ได้ยังไง!“จำเป็นต้องถามด้วยเหรอ ด้วยนิสัยของสืออวี๋ ถ้าคุณไม่ไปหาเรื่องเธอก่อน เธอก็ไม่แม้แต่จะชายตามองคุณด้วยซ้ำ”“งั้นคุณก็หมายความว่าทั้งหมดเป็นความผิดของฉันงั้นสิ”เหลียงหยวนโจวหมดความอดทน เขามองเธออย่างเย็นชา แววตาหนาวเยียบ“รู้ตัวก็ดีแล้ว ที่ผม

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 219

    “ดูภายนอกก็ดูดี ไม่นึกเลยว่าจะทำเรื่องน่าขยะแขยงแบบนี้ได้!”“เหอะ ๆ ของทั้งเนื้อทั้งตัวรวมกันก็เกือบสิบห้าล้านแล้วมั้ง ผู้ชายคนนั้นก็คงรวยน่าดู ไม่อย่างนั้นจะรีบพุ่งเข้าไปจับขนาดนั้นเหรอ?” …เสียงซุบซิบดูแคลนรอบข้าง ยิ่งทำให้เสินหลีรู้สึกรังเกียจชืออวี๋มากขึ้นไปอีก เห็น ๆ อยู่ว่าตัวเองคุมแฟนไม่อยู่ มีสิทธิ์อะไรมาโทษเธอด้วยล่ะ? ถ้าเป็นรักแท้จริง ๆ คบกันปีสองปีก็แต่งงานกันแล้ว นี่เหลียงหยวนโจวคบกับเธอมาห้าปีแล้วยังไม่แต่ง ก็ได้แต่พูดว่าเขาไม่เคยคิดจะแต่งงานกับสืออวี๋เลยต่างหาก เธอแค่ปรากฏตัวได้ถูกจังหวะก็เท่านั้น เธอไม่ได้ผิดอะไรเลยยิ่งคิด เสินหลีก็ยิ่งโมโหขณะที่เธอกำลังจะโต้เถียงสืออวี๋ จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดเกร็งที่ท้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน“อ๊า... ท้องของฉัน...”เธอรีบกุมท้อง ใบหน้าซีดเผือดจนแทบไร้สีเลือดผู้คนที่มุงดูอยู่รอบตัวเธอรีบถอยห่างทันที บนใบหน้าของทุกคนมีแต่ความดูถูกเหยียดหยามและรังเกียจ กลัวว่าเสินหลีจะแกล้งพาลใส่พวกเขาเมื่อเห็นว่าทุกคนมีแต่ท่าทีเย็นชา ไม่มีใครยอมช่วยเรียกรถพยาบาลให้ เสินหลีจึงทำได้เพียงทนความเจ็บปวดที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วกดโทรศัพท์หาเหลียง

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 218

    ปกติถ้าพวกเขาอยากได้อะไรที่เกินเงินค่าขนมของตัวเอง ก็จะไปทำงานพาร์ทไทม์หาเงินซื้อเอง สมัยเรียนมหาวิทยาลัย การแต่งตัวและการกินอยู่ของซ่งจื่ออินก็ไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ เลยมีน้อยคนมากที่จะรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของประธานสือกรุ๊ปแม้ว่าตอนนี้คุณพ่อของเธอจะไม่จำกัดเรื่องเงินแล้ว แต่เสื้อผ้าที่ซ่งจื่ออินใส่ในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นของที่ซื้อตามตลาดนัด“ได้”ซ่งจื่ออินลองเสื้อผ้าเสร็จ ก็เลือกซื้อชุดที่ค่อนข้างพอใจสองสามชุด พอรูดบัตรเสร็จก็ให้ทางร้านจัดส่งไปที่บ้านตระกูลซ่งโดยตรงทั้งสองคนกำลังจะเดินออกจากร้าน ร่างเพรียวบางร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาในร้านพอดีพอเห็นว่าเป็นเสินหลี สีหน้าของซ่งจื่ออินก็เคร่งขรึมลงทันทีสืออวี๋เองก็ประหลาดใจไปชั่วครู่ แต่พอนึกถึงเรื่องที่เหลียงหยวนโจวเคยบอกว่าจะแต่งงานกับเสินหลี ก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกต่อไปเสินหลีในวันนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ดูเรียบง่ายจืดชืด เธออยู่ในชุดแบรนด์หรูสั่งตัด ผมยาวดัดลอนอ่อน ๆ ในมือหิ้วถุงช้อปปิ้งแบรนด์ไฮเอนด์หลายใบ บนข้อมือสวมนาฬิกาประดับเพชรแวนคลีฟแอนด์อาร์เพลส์ เผยให้เห็นความหรูหราประณีตตั้งแต่หัวจรดเท้าซ่งจื่ออินแค่นเสียงเ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 217

    แต่ตอนนี้คือโอกาสที่จะได้อยู่กับสืออวี๋ และนี่อาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิตของเธอ เขาไม่มีทางปล่อยมันไปเด็ดขาดเขากระดกไวน์แดงในแก้วจนหมดรวดเดียว ก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องนอนไปชั่วพริบตาเดียวก็ถึงบ่ายของวันรุ่งขึ้น สืออวี๋เพิ่งตื่นจากงีบหลับกลางวัน ก็ได้รับโทรศัพท์จากซ่งจื่ออิน“อาอวี๋ ฉันถึงหน้าประตูหมู่บ้านแกแล้ว แต่ยามไม่ให้เข้า ฉันรออยู่ข้างนอกนะ”“โอเค รอฉันสิบนาทีนะ”สืออวี๋รีบล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบมือถือกับกระเป๋าแล้วจึงออกจากห้องไปพอเดินมาถึงหน้าหมู่บ้าน เธอก็เห็นซูเปอร์คาร์สีชมพูของซ่งจื่ออินจอดอยู่ไม่ไกลทันทีที่ขึ้นรถ ซ่งจื่ออินก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “เมื่อวานตอนที่ฉันเห็นโลเคชั่นหมู่บ้านที่แกส่งให้ ก็รู้สึกคุ้น ๆ อยู่เหมือนกัน เพิ่งจะนึกออกว่า ตอนที่โครงการนี้สร้าง บริษัทของพี่ชายฉันก็เคยมีดีลด้วยนะ รู้สึกว่าทางผู้พัฒนาโครงการจะแถมบ้านให้เขาสองหลังเลยล่ะ”สืออวี๋ฉายแววประหลาดใจ “บังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ”“ก่อนที่บริษัทซ่งซื่อจะเปลี่ยนสายธุรกิจ หลัก ๆ ก็ทำอสังหาริมทรัพย์นี่แหละ เคยร่วมมือกับผู้พัฒนาในเมืองเซินตั้งหลายเจ้า เดี๋ยวคืนนี้กลับไปฉันจะถามเขาดูว่าห้อ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 216

    “ดูท่าว่า นายคงอยากกลับเมืองหลวงแล้วสินะ”ซือห่าวอวี่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “คุณอาเล็กครับ ถ้าผมกลับไปเมืองหลวง ผมก็จะไปกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนคุณปู่คุณย่าทุกวัน ทีนี้พอพูดมากเข้า เกิดผมเผลอหลุดปากพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป คุณอาเล็กก็น่าจะเข้าใจผมใช่ไหมครับ?”“ดูเหมือนว่าไม่กี่ปีที่ฉันไม่อยู่บ้าน นายจะเก่งกาจขึ้นเยอะเลยนะ รู้จักข่มขู่คนเป็นแล้วด้วย”สายตาของซือเยี่ยนเย็นชา ทั่วทั้งร่างมีไอความเย็นแผ่ซ่านถ้าเป็นปกติ ซือห่าวอวี่คงกลัวจนตัวสั่นไปแล้วทว่าตอนนี้ทั้งสองคนคือศัตรูหัวใจ เขาจะแสดงความขลาดกลัวออกมาแม้แต่น้อยไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นแล้วจะเอาอะไรไปสู้กับซือเยี่ยนได้ซือห่าวอวี่จ้องมองซือเยี่ยนตรง ๆ มุมปากประดับรอยยิ้ม “คุณอาเล็กครับ ทั้งหมดนี้ก็เพราะคุณอาสอนมาดี”หว่างคิ้วของซือเยี่ยนเต็มไปด้วยความเย็นชา “ถ้างั้นวันนี้ฉันจะสอนนายอีกเรื่องที่มันไม่มีความหวังน่ะ รีบตัดใจซะแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นคนที่จะเจ็บปวดทีหลังก็คือนายเอง”“คุณอาเล็กครับ ในสายตาคุณอา ผมอาจจะไม่มีหวัง แต่ในสายตาผม คุณอาต่างหากคือคนที่ไม่มีหวัง”ด้วยความที่ท่านย่าซือกับท่านผู้เฒ่าซือให้ความสำคัญกับซือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status