แชร์

บทที่9

ผู้เขียน: ชุนกวงห่าว
เพราะความโกรธ หน้าอกของเซี่ยงชินเฟินขึ้นลงไม่หยุด สายตาที่มองเหลียงหยวนโจวก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง

หน้าของเหลียงหยวนโจวมีรอยแดงของฝ่ามือ มองดูเซี่ยงชินเฟินแล้วพูดว่า “แม่พูดถูก ดังนั้นผมถึงรู้สึกโชคดีที่ไม่ได้เจอเธอในตอนที่ผมยังจนอยู่ เธอไม่ต้องลำบากกับผม”

ทันทีที่คำพูดนั้นออกมา มือของสืออวี๋ก็กำแน่นทันที ความเจ็บปวดราวคลื่นซัดจากหัวใจไปทั่วร่างกาย

ทุกคำพูดที่เขาเคยพูดทำร้ายเธอมาก่อนนี้ ไม่สามารถเทียบกับความร้ายแรงของคำพูดนี้ได้เลย

เขาสงสารเสินหลี กลับเสินหลีต้องลำบากกับเขา

แล้วหลายปีที่เธอทนลำบากอยู่กับเขามันคืออะไร?

สืออวี๋เอ๋ยสืออวี๋ ผู้ชายคนนี้ทำร้ายเธออย่างไม่ใยดีแบบนี้ เธอยังไม่ยอมตื่นหรือไง?

เซี่ยงชินเฟินหันมองสืออวี๋ เห็นเธอหน้าซีด สายตาเปล่งประกายความเป็นห่วง

“สืออวี๋ เขาพูดเพราะโกรธเอง หนูอย่าใส่ใจไปเลยนะ ป้าเซี่ยงช่วยหนูสั่งสอนเขา……”

“ป้าเซี่ยง”

สืออวี๋หันมองเธอ พยายามทำหน้าเรียบเฉยแล้วพูดว่า “ป้าเซี่ยงไม่ต้องช่วยเขาอธิบายหรอกค่ะ หนูรู้ว่าที่เขาพูดนั้นคือความในใจ ตลอดมาหนูอยากเป็นลูกสะใภ้ของป้าเซี่ยงมาก แต่ตอนนี้คงไม่มีโอกาสนี้แล้ว เรื่องงานแต่ง……ยกเลิกเถอะค่ะ”

“หนูอิ่มแล้ว ขอบคุณสำหรับมื้อค่ำวันนี้ค่ะ”

เธอลุกขึ้น หยิบกระเป๋าแล้วหันหลังเดินจากไป โดยไม่มองเหลียงหยวนโจวอีก

เซี่ยงชินเฟินมองเหลียงหยวนโจวด้วยสายตาโกรธจัด “แกยังไม่รีบไปตามอีก?!แม่เตือนแกไว้นะ แม่ยอมรับแค่สืออวี๋ลูกสะใภ้คนนี้ ถ้าแกตามเธอกลับมาไม่ได้ ต่อไปก็อย่ามายอมรับฉันเป็นแม่อีก!”

ทันทีที่ประตูปิด สืออวี๋ได้ยินเสียงของเหลียงหยวนโจวดังมาจากด้านหลัง

“แม่ ผมไม่รักเธอแล้ว ทำไมแม่ต้องบังคับให้ผมแต่งงานกับเธอ? ถึงเราจะแต่งงาน ผมก็จะไม่ตัดความสัมพันธ์กับเสินหลีแน่นอน”

“อีกอย่าง ผมกับเสินหลีอยู่ด้วยกันมาสามปีแล้ว เธอก็ไม่ยอมปล่อยมือ พยายามทุกวิถีทางเพื่ออยากจะแต่งให้กับผม แม่คิดว่าเธออยากยกเลิกงานแต่งจริงเหรอ?”

“คำพูดเมื่อกี้ ก็แค่ขู่แม่เท่านั้นเอง แม่ไว้ใจเถอะ เธอนะเป็นเหมือนแผ่นแปะหนึบๆ ดึงยังก็ไม่ออก!”

เสียงของเขาเต็มไปด้วยเหยียดหยามและความเยาะเย้ย เหมือนมั่นใจจริงแล้วว่า เธอไม่มีวันจากเขาไปจริง

จึงทำให้เขากล้าทำร้ายเธอโดยไม่ปรานีแบบนี้

สืออวี๋กะพริบตาที่แสบร้อน แล้วเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับ

ครั้งนี้ ตัดสินใจที่จะปล่อยวางเขาแล้วจริงๆ

ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยบาดแผลนี้ เธอเคยพยายามหวนคืน ตอนนี้ตัดสินใจที่จะจากลา ก็ไม่มีอะไรน่าเสียดายแล้ว

บรรยากาศในห้องอาหารยังเต็มไปด้วยความตึงเครียด

เซี่ยงชินเฟินชี้เหลียงหยวนโจว โกรธจนตัวสั่น “ที่แกพูดนี่มันยังใช่ภาษาคนอยู่ไหม?! ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะสืออวี๋ แกจะมีวันนี้ได้เหรอ?”

“แกเหยียบย่ำความจริงใจของสืออวี๋แบบนี้ ถ้าวันหนึ่งเธอตัดสินใจจะไปจากแกจริงละก็ แกมาเสียใจทีหลังก็ไม่ทันแล้ว!”

สีหน้าของเหลียงหยวนโจวเย็นชา “ถ้าเธอยอมจากไปจริง งั้นผมก็จะขอบคุณที่เธอยอมปล่อยผมไป และผมมาถึงวันนี้ได้ก็เพราะความพยายามของตัวผมเอง ต่อให้ไม่มีเธอ ผมก็จะประสบความสำเร็จได้เหมือนเดิม”

สืออวี๋เคยอยู่เคียงข้างเขาในวันที่ล้มเหลวที่สุดจริง แต่เมื่อเขาประสบความสำเร็จ เขาก็ไม่เคยปฎิบัติต่อเธอไม่ดี

ของขวัญที่ส่งให้เธอแต่ละชิ้น ล้วนมีมูลค่าห้าแสนหรือห้าล้านทุกชิ้นไม่ใช่หรือ?

ด้วยตัวเธอเอง เธอมีกำลังที่จะซื้อของหรูหราพวกนี้ได้ด้วยเหรอ?

เหลียงหยวนโจวคิดว่า เขาไม่ได้ติดค้างอะไรสืออวี๋

“โอเค! ตอนนี้แกมันปีกกล้าขาแข็ง[1]แล้ว เป็นถึงเจ้าของบริษัทใหญ่แล้ว คำพูดของฉันก็ไม่อยากฟังแล้ว ในเมื่อแบบนี้ แกก็ไม่ต้องยอมรับฉันเป็นแม่อีกแล้ว!”

เห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของแม่เหลียง เหลียงหยวนโจวก็ลุกขึ้น “แม่ ตอนนี้แม่โกรธอยู่ ผมไม่อยากเถียงกับแม่ รอแม่สงบลงแล้ว ผมค่อยมาดูแม่”

“วันนี้ถ้าแกออกจากประตูนี้ไป ฉันจะไม่ยอมรับแกเป็นลูกอีก!”

เหลียงหยวนโจวหยุดก้าว เงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เปิดประตูออกไป

หลังออกจากบ้านแม่เหลียง เหลียงหยวนโจวก็ไปหาเสินหลีโดยตรง

ทันทีที่เปิดประตู เสินหลีก็รู้สึกอึ้ง พุ่งเข้าไปกอดเขาโดยตรง “ประธานเหลียง คุณมาได้ยังไงคะ?”

เหลียงหยวนโจวรับเธอไว้ กอดเอวแล้วจูบ

หลังจากจูบเสร็จ เขาก็บีบเอวเธอพร้อมพูดว่า “คิดถึงคุณ เลยมาหา”

เสินหลีหน้าแดง ยกมือทำทีจะตีเขา แต่ทันใดนั้นก็เห็นรอยแดงบนหน้าเขา สีหน้าก็เปลี่ยนไป รีบถอยออกจากอ้อมกอดเขา

“ประธานเหลียง ใครตบหน้าคุณคะ? คุณหนูสือเหรอคะ?”

ขณะที่พูด สายตาเรียวของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา ในดวงตาก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วง

เหลียงหยวนโจวส่ายหน้า “ไม่ใช่”

เสินหลียื่นมือจะจับหน้าเขา แต่ก็กลัวจะทำเขาเจ็บ

“เจ็บไหม?ฉันทายาให้คุณนะคะ”

เธอหันหลังจะไปเอากล่องยา แต่ถูกเขาดึงเข้าอ้อมกอด

“ไม่ต้องทายา คุณจูบหน่อยก็หายแล้ว”

“คุณนี่มันน่าเกลียดจริงๆเลย!”

ท่าทางน่ารักของเธอทำให้เหลียงหยวนโจวใจสั่นอีกครั้ง อุ้มเธอไปที่โซฟาโดยตรง ไม่นานในห้องนั่งเล่นก็มีเสียงที่ชวนคนหน้าแดงและใจเต้นแรงดังขึ้น

……

เย็นวันถัดมา สืออวี๋ออกจากสำนักงานกฎหมาย ก็เห็นเซี่ยงชินเฟินยืนอยู่ไม่ไกล

เธอใส่เสื้อไม่เยอะ ถูกลมหนาวพัดจนหน้าซีด

เมื่อเห็นสืออวี๋ เธอยิ้มแล้วรีบเดินเข้ามาหา

“สืออวี๋ ป้าอยากคุยกับหนูหน่อย”

เซี่ยงชินเฟินดีกับเธอมาตลอด เห็นหน้าที่หนาวจนซีดขาวของอีกฝ่าย สืออวี๋ก็อดใจอ่อนไม่ได้ จึงพูดว่า “ข้าวๆนี้มีร้านกาแฟ เข้าไปนั่งกันเถอะค่ะ”

เห็นเธอไม่ได้ปฏิเสธ เซี่ยงชินเฟินก็โล่งใจ รีบพูดว่า “อ๋อ โอเค”

ทั้งสองเข้าไปนั่งริมหน้าต่างในร้านกาแฟ สืออวี๋สั่งกาแฟกับนมร้อนอย่างละแก้ว แล้วเอานมร้อนให้เซี่ยงชินเฟิน

“ป้าเซี่ยง ดื่มของอุ่นๆสักหน่อย”

“โอเค”

เซี่ยงชินเฟินยกนมดื่ม สีหน้าไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย

สืออวี๋รู้ถึงเจตนาที่เธอมา คืออยากให้ตัวเองให้อภัยเหลียงหยวนโจว

แต่เธอกับเหลียงหยวนโจวเดินมาถึงทางตันแล้วจริง ๆ และไม่คิดจะหวนกลับ จึงไม่ได้พูดอะไร แค่ก้มดื่มกาแฟในแก้ว

เห็นท่าทางที่เด็กดีของเธอ เซี่ยงชินเฟินก็รู้สึกเจ็บปวดใจและรู้สึกผิด “สืออวี๋ วัตถุประสงค์ที่ป้าเซี่ยงมาวันนี้ หนูก็น่าจะรู้ดีแล้ว”

สืออวี๋พยักหน้า “ป้าเซี่ยง ป้าเซี่ยงไม่ต้องพูดค่ะ หนูกับเขาไม่มีวาสนากันกัน หนูก็ไม่อยากฝืน”

เมื่อเห็นสีหน้าสงบนิ่งของเธอ เซี่ยงชินเฟินก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย จึงรีบคว้ามือเธอไว้

"หนูกับหยวนโจวคบกันมานานขนาดนี้แล้ว ความทุ่มเทของหนูป้าเองก็เห็นมาตลอด ป้าเองก็ปฏิบัติกับหนูเหมือนลูกสาวป้ามาโดยตลอด ถือว่าเห็นแก่หน้าป้านะ ให้โอกาสหยวนโจวอีกครั้ง ได้ไหม?"

สืออวี๋พูดอย่างช่วยไม่ได้ "คุณป้าคะ แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นนั้นไม่หวาน"

ตอนนี้เธอกับเหลียงหยวนโจว ต่างก็ไม่อยากแต่งงาน บังคับให้มารวมกันก็กลายเป็นคู่รักที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง

เซี่ยงชินเฟินส่ายหัว "หยวนโจวเขาแค่สับสนชั่วคราว รอเขาได้สติ คงเข้าใจแน่นอนว่าหนูต่างหากคือคนที่เหมาะสมกับเขาที่สุด"

"สืออวี๋ ก่อนหน้านนี้ป้าเคยช่วยชีวิตหนูไว้ครั้งหนึ่ง เห็นแก่ที่ป้าเคยช่วยชีวิตหนู หนูให้โอกาสหยวนโจวครั้งสุดท้ายนะ ครั้งสุดท้ายจริงๆ ส่วนเลขาคนนั้นของเขา ป้าจะให้เขาจัดการให้เสร็จก่อนที่พวกหนูจะแต่งงาน"

เซี่ยงชินเฟินไม่เคยคาดคิดเลยว่า วันหนึ่งตัวเองจะต้องใช้หนี้บุญคุณที่ช่วยชีวิตไว้มาบับบังคับสืออวี๋ให้โอกาสเหลียงหยวนโจวครั้งสุดท้าย

เธอรู้ว่าการกระทำของเธอนั้นค่อนข้างต่ำทราม แต่เธอไม่อยากให้เหลียงหยวนโจวพลาดผู้หญิงดีๆแบบสืออวี๋ไปจริง

สืออวี๋ก้มหน้าลง สี่ปีที่แล้ว เซี่ยงชินเฟินเคยช่วยชีวิตเธอไว้จริง

ตอนนั้นเธอเพิ่งเข้าทำงานที่สำนักงานกฎหมาย และทำโอทีจนถึงเที่ยงคืนทุกวัน วันหนึ่งตอนเลิกงาน ด้วยสีหน้าท่าทางที่เหม่อลอย เธอมองไฟจราจรผิด เดินไปอย่างเบลอๆ โดยไม่ทันเห็นรถบรรทุกคันใหญ่ที่พุ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว

ในจังหวะสำคัญนั้น เซี่ยงชินเฟินที่มาส่งซุปให้เธอนั้นได้ดึงเธอกลับมา

ทั้งสองล้มลงกับพื้น และรถบรรทุกก็พุ่งผ่านพวกเธอไป

เพื่อช่วยเธอ เซี่ยงชินเฟินล้มและกระดูกหัก ต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งเดือน

หลังจากเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ไม่ยอมให้สืออวี๋ไปทำงานคนเดียวอีก จึงให้เหลียงหยวนโจวไปรับไปส่งทุกวัน

ก่อนที่เสินหลีจะปรากฏตัว เหลียงหยวนโจวก็รับ-ส่งเธอทุกวันจริง

ครั้งแรกที่เหลียงหยวนโจวผิดนัดไม่มารับเธอ เป็นวันที่ฝนตก เขาบอกว่าต้องประชุมที่บริษัทมาไม่ได้ ให้เธอเรียกรถกลับเอง

หลังจากนั้นเธอจึงค่อยรู้ว่า วันนั้นเสินหลีขาพลิกโดยไม่ตั้งใจ เขาไม่อยากให้เสินหลีนั่งรถเมล์ จึงโกหกเธอ

เมื่อมีครั้งแรก ก็จะมีครั้งต่อๆไป

รอยร้าวระหว่างพวกเขา ก็เหมือนก้อนหิมะที่กลิ้งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นร่องลึกที่ข้ามไม่ได้ เธออยู่ฝั่งนี้ เหลียงหยวนโจวอยู่ฝั่งนั้น

พวกเขา ต่างก็ไปคนละทางมาตั้งนานแล้ว

สืออวี๋ดึงความคิดกลับมา มองดูเซี่ยงชินเฟินที่กำลังจ้องมองตัวเองด้วยความคาดหวัง “คุณป้าคะ ถึงหนูจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง ก็ไม่มีประโยชน์ เราถูกกำหนดให้ต้องแยกทางกันอยู่แล้ว”

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[1]ปีกกล้าขาแข็ง หมายถึง พึ่งตัวเองได้ เป็นคำที่ผู้ใหญ่มักกล่าวต่อว่าผู้น้อยในทำนองประชดประชัน

[2]แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน หมายถึง การบังคับฝืนใจคนอื่นให้ทำอะไรที่เขาไม่อยากจะทำ ย่อมไม่เกิดผลดี
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่85

    สีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้ม หันไปมองสืออวี๋กับซือเยี่ยนที่ยืนอยู่ไม่ไกลตอนนี้สืออวี๋กำลังเงยหน้าคุยกับซือเยี่ยน ดวงตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ไม่ได้มีท่าทางเย็นชาเหมือนตอนเขาเลยสักนิดเลย“ก็ได้ ฉันจะขอโทษเขา!”วันนี้เขาถูกซือเยี่ยนเล่นงาน ก็ถือว่าเขาซวยไปแต่ผู้ชายคนนี้จะแบกรับคำขอโทษของเขาไหวหรือไม่ มันก็คืออีกเรื่องหนึ่งแล้ว!เขาหันตัวรีบเดินไปหาสืออวี๋กับซือเยี่ยน จนมายืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน เขาจึงพูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “สืออวี๋ ผมขอโทษเขาได้”สืออวี๋มองเขาแวบหนึ่งก่อนพูดอย่างหมดความอดทน “รบกวนคุณรีบหน่อย ฉันยังมีธุระต่อ”ในใจของเหลียงหยวนโจวมีไฟโกรธลุกโชนขึ้นมา แต่ก็ถูกเขาพยายามกดมันไว้“คุณซือ เมื่อกี้เป็นผมที่วู่วามไป คุณโปรดให้อภัยผมด้วย”ซือเยี่ยนมองเขา ดวงตาแฝงแววเยาะเย้ยจาง ๆ“ประธานเหลียง ไม่เป็นไรหรอก ครั้งหน้าก็อย่าวู่วามแบบนี้อีกนะ”พูดจบ เขาหันมองสืออวี๋ “ตอนนี้ประธานเหลียงก็ขอโทษแล้ว เราก็ยอมรับการไกล่เกลี่ยจากตำรวจเถอะ”สืออวี๋พยักหน้า “โอเค”เห็นสืออวี๋ไม่แม้แต่จะเหลียวแลมองมาทางตัวเอง สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็เริ่มตึงเครียด เส้นเลือดที่ขมับเต้

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่84

    ต่อหน้าเขาแต่เธอกลับไปปกป้องผู้ชายอีกคนแทน?แถมยังเป็นผู้ชายเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก!“สืออวี๋ นี่คุณดูไม่ออกหรือว่ามันแกล้ง?!”ในดวงตาของสืออวี๋เต็มไปด้วยความเหลือทน “เขาแกล้งอะไร? ฉันเห็นแค่คุณทำร้ายเขาอย่างไม่มีเหตุผล ต่อยเขาจนได้รับบาดเจ็บ”“ถ้าเขาไม่พูดคำพูดเหล่านั้น ผมจะลงมือเหรอ?”สืออวี๋ขมวดคิ้ว “คุณทำก็ทำไปแล้ว ยังจะมาบอกว่าเขาพูดได้ไม่เข้าหู?”“ฉันไม่อยากพูดไร้สาระกับคุณ รีบขอโทษซะ!”ท่าทางที่เย็นชาและห่างเหินของเธอ ราวกับต้องการตัดขาดกับเขาโดยสิ้นเชิง ทำให้เหลียงหยวนโจวเสียสติไปในที่สุด“ให้ผมขอโทษเขา? คุณฝันไปเถอะ!”“ได้ ในเมื่อคุณไม่ยอมขอโทา งั้นฉันก็คงต้องแจ้งความ แต่ฉันต้องขอเตือนคุณก่อนว่า ตามมาตรา 43 ของกฎหมายว่าด้วยการลงโทษทางปกครองด้านความมั่นคงสาธารณะ การทำร้ายผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล อาจถูกควบคุมตัวไม่เกินห้าวัน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพัน”เหลียงหยวนโจวคิดไม่ถึงว่า สืออวี๋จะทำแบบนี้กับตัวเองเพราะผู้ชายอีกคนสายตาเขาเย็นชา เต็มไปด้วยความโกรธ“สืออวี๋ คุณแน่ใจเหรอว่าเพื่อคนที่ไม่สำคัญแบบนี้คนหนึ่ง ถึงขั้นเอาเรื่องไปถึงโรงพัก?”มือของสืออวี๋ค่อย ๆ กำแน่น เงยหน้ามองเ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่83

    สืออวี๋ตกใจกับเหลียงหยวนโจวที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เท้าลื่นเกือบล้มทันใดนั้น มือที่แข็งแรงข้างหนึ่งก็ยื่นมารองที่เอวของเธอไว้ ตามด้วยเสียงที่อ่อนโยนของซือเยี่ยน “เป็นอะไรไหม?”สืออวี๋ส่ายหน้า มองเขาด้วยความขอบคุณ “ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณนะ”ซือเยี่ยนถอนมือกลับอย่างสีหน้าเรียบเฉย “ไม่เป็นไร”เหลียงหยวนโจวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง ความโกรธในอกเหมือนไฟลุกโชน ยิ่งลุกก็ยิ่งเดือดเขายื่นมืออยากจะดึงสืออวี๋มาข้างๆ แต่ยังไม่ทันแตะตัวสืออวี๋ ก็ถูกซือเยี่ยนขวางไว้“คุณเหลียง คุณอย่าจับมือถือแขนสืออวี๋”มือของเหลียงหยวนโจวถูกผลักออก ความโกรธยิ่งพุ่งสูงเขไม่แม้แต่จะมองซือเยี่ยน สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธจ้องไปที่สืออวี๋เมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นสวีอวี่เจ๋อ ตอนนี้ก็เปลี่ยนผู้ชายอีกคน อีกไม่นาน เธอก็จะเปลี่ยนอีกคนแล้วใช่ไหม?เพื่อจะยั่วให้เขาโมโห เธอก็คิดหาทุกวิถีทางเลยจริงๆ!“มานี่!”ทั้งน้ำเสียงที่เย็นชา และกรามที่เกร็ง ล้วนบ่งบอกว่าตอนนี้เขากำลังโกรธจัดแต่สืออวี๋ในตอนนี้ไม่สนใจอีกแล้วพวกเขาเลิกกันแล้ว เขาจะดีใจหรือโกรธ ก็ไม่เกี่ยวกับเธออีก

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่82

    พอวางสายแล้ว สาตาของเสินหลีก็เปลี่ยนเป็นเย็นชารอสืออวี๋กลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ เธอไม่เชื่อว่าเหลียงหยวนโจวยังจะชอบสืออวี๋อีก!อีกด้านหนึ่ง หานเชี่ยนวางโทรศัพท์ลง แล้วหันมองช่างทำเล็บที่กำลังทำเล็บให้เธอ “ทำเร็วๆหน่อย เดี๋ยวฉันยังจะต้องไปพบคุณชายซ่ง ถ้าทำให้ฉันเสียเวลา ฉันจะไม่ปล่อยเธอแน่!”ช่างทำเล็บชินกับนิสัยชอบสั่งอย่างเย่อหยิ่งของหานเชี่ยนแล้ว จึงตอบอย่างนอบน้อม “ค่ะ คุณหนูหาน”หลังจากทำเล็บเสร็จ ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่าแล้วหานเชี่ยนมองเล็บใหม่อย่างพอใจ หยิบกระเป๋าแล้วขับรถตรงไปยังร้านอาหารที่นัดกับซ่งจื่อเฉียนไว้เมื่อพนักงานพาเธอไปยังห้องส่วนตัว ซ่งจื่อเฉียนก็รอเธออยู่แล้วเมื่อเห็นซ่งจื่อเฉียน บนใบหน้าของหานเชี่ยนก็เต็มไปด้วยความดีใจ เดินตรงไปหาเขาทันทีเห็นเธอนั่งลงที่ข้างๆตัวเอง ซ่งจื่อเฉียนก็ขมวดคิ้ว พูดเสียงเย็นชาว่า “คุณหนูหาน ผมไม่ชอบนั่งใกล้กับคนที่ไม่สนิทขนาดนี้ กรุณานั่งให้ห่างจากผมหน่อย”ร่างกายของหานเชี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ พยายามฝืนยิ้ม มองดูซ่งจื่อเฉียนแล้วพูดว่า “คุณชายซ่ง วันนี้คุณนัดฉันมา ไม่ใช่เพราะอยากให้สถานะกับฉันหรือ?”หลังจากคืนนั้น เธ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่81

    เขารู้สึกว่าสืออวี๋ไม่มีทางเลิกกับเขาจริงๆ และในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าพฤติกรรมช่วงนี้ของสืออวี๋มันไม่ปกติ ทำให้เขารู้สึกเหมือนจะสูญเสียเธอไปได้ทุกเมื่อยิ่งคิด สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็ยิ่งเคร่งเครียดตอนที่เสินหลีเคาะประตูเข้ามา ก็เห็นเหลียงหยวนโจวนั่งเหม่อมองเอกสารอยู่เธอกัดริมฝีปากล่าง สีหน้าซับซ้อน ตั้งแต่เหลียงหยวนโจวกับสืออวี๋เลิกกันแล้ว เธอก็เห็นเขาเหม่อลอยอยู่เป็นประจำช่วงนี้แม้เหลียงหยวนโจวจะยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อหน้าเพื่อนและคนในบริษัทโดยปริยาย แต่เสินหลีกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลย ตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกกังวลเพราะเธอพบว่า เหลียงหยวนโจวไม่ได้มีความกระตือรือร้นกับเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้วและทุกครั้งที่มีสืออวี๋อยู่ในเหตุการณ์ สายตาของเหลียงหยวนโจวก็จะมองไปที่สืออวี๋เสมอ ทำให้เธอทนไม่ได้สิ่งที่เธอต้องการคือ ในสายตาของเหลียงหยวนโจวมีเพียงเธอคนเดียว!“ประธานเหลียง นี่คือเอกสารที่ต้องเซ็นวันนี้ค่ะ”เหลียงหยวนโจวดึงสติกลับมา เงยหน้าขึ้นมองเธอ อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ทำไมคุณไม่เคาะประตูก่อนเข้ามา?”เสินหลีหน้าซีด “ประธานเหลียง ฉันเคาะแล้วค่ะ……อาจเป็นเพราะคุณเหม่อลอยอยู่ เล

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่80

    สืออวี๋หันไปมองเขา “คดีของหวังซันซันไม่ต้องตามต่อแล้วนะ อีกไม่กี่วันเธอจะมายกเลิกสัญญา”ซือห่าวอวี่ขมวดคิ้วแน่น แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “เธอจะเปลี่ยนทนาย? ทำไมล่ะ?”คดีของหวังซันซัน สืออวี๋ติดตามอย่างทุ่มเทเต็มที่ แถมการพิจารณาคดีรอบแรกก็จบไปแล้ว อีกไม่นานก็จะเข้าสู่รอบที่สอง ทำไมอยู่ดีๆอีกฝ่ายถึงเปลี่ยนทนาย?!“เธอหาทนายที่เก่งกว่าได้ ทนายคนนั้นเป็นมืออาชีพมาก เคยทำคดีหย่าร้างมาเยอะ”“ถึงทนายคนนั้นจะมืออาชีพแค่ไหน เธอก็ทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะ?มันเกินไปแล้ว พี่ไม่น่าจะยอมให้เธอเปลี่ยนทนายเลย!”พอนึกถึงช่วงที่ผ่านมานี้เพื่อคดีของหวังซันซันแล้วสืออวี่ลำบากแทบแย่ เรียกเมื่อไรก็ต้องไปทันที แต่อีกฝ่ายกลับมาเปลี่ยนทนายในจังหวะสำคัญแบบนี้ ในใจของซือห่าวอวี่ก็รู้สึกโกรธขึ้นอย่างอดไม่ได้“ถ้าไม่ยอม เธอก็คงไม่ให้ความร่วมมือ ยื้อคดีนี้ไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเหมือนกัน”อีกอย่าง เรื่องนี้ก็จะโทษหวังซันซันคนเดียวไม่ได้ทางเหลียงหยวนโจวต้องเสนออะไรบางอย่างที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ เธอถึงได้โทรมาเปลี่ยนทนายไม่ว่าอย่างไร เธอก็หวังให้คดีนี้ชนะเพราะตามนิสัยของเยว่เผิงแล้ว ถ้าแพ้ ต่อไปยังไม่รู้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status