LOGIN‘โฆษณาแชมพูสระผม’
‘รับเชิญละครกำลังที่กำลังออนแอร์’ ‘รับบทนางร้ายที่บทโดดเด่นไม่แพ้นางเอก’ ทุกอย่างที่กล่าวมาถูกยกเลิกจนหมดสิ้น แองจี้ให้เหตุผลเดียวคือเธออาจกำลังมีปัญหากับทางผู้ใหญ่ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้ว นางแบบสาวมองว่านั่นไม่ใช่ปัญหา คำพูดของใครบางคนที่เคยทิ้งท้ายเอาไว้ว่ายังไงซะเธอก็จะติดต่อกลับไปหาเขา นั่นต่างหากล่ะที่เธอคิดว่ามันเป็นสาเหตุของทุกเรื่อง แล้วเขาเป็นใคร ใหญ่มาจากไหน มีสิทธิ์บงการทุกอย่างได้ขนาดนี้ มันไม่ปกติเลยสักนิด ไม่ปกติเลย! เพนท์เฮาส์หรูริมแม่น้ำ มาเฟียหนุ่มยกขวดน้ำหอมราคาแพงมาฉีดเข้าบริเวณลำคอตามด้วยข้อมือหนาสลับกันทั้งสองข้าง จนน้ำหอมส่งกลิ่นฟุ้งเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเอง อลันสลัดลุคที่ทุกคนคุ้นตา จากที่ใส่เชิ้ตตลอด เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีดำแบรนด์นอกกับกางเกงผ้าขายาวสีเดียวกันตัดกับผิวขาวละเอียด ขายาวก้าวออกมานั่งรอบริเวณโซฟาติดระเบียงเพื่อมองทิวทัศน์ด้านนอก นิ้วยาวเหยียดเคาะลงบนต้นขาของตัวเองอย่างใจเย็นขณะรอเวลา “นายหญิงมาถึงแล้วนะครับ” แซมเข้ามารายงานผู้เป็นนาย ที่กล้าใช้สรรพนามนี้เพราะเห็นความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างชัด ที่แสดงออกว่าสนใจ ที่แสดงออกว่าอยากได้ มันก็ชัดเจนพอแล้ว “ว่าไงนะ” คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากัน มาเฟียหนุ่มสบตากับลูกน้องคนสนิทตาเป็นประกาย “อ๋อ ผมจะบอกว่าคุณข้าวฟ่างมาถึงแล้วครับ” อลันสบตากับลูกน้องคนสนิท ยิ่งสนิทก็ยิ่งกวนตีน กล้าหยอก กล้าเล่น แต่ครั้งนี้จะปล่อยผ่าน ถือว่ามันพูดถูกใจ “ปล่อยเขาเข้ามา และห้ามคนรบกวน” “รับทราบครับเฮียลัน” แซมยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกไป จากนั้นเชิญผู้หญิงของเจ้านายเข้ามาในห้องนี้แทน “…เฮียลันเชิญคุณข้าวฟ่างด้านในครับ” นางแบบสาวที่ยืนรอและเผลอสำรวจอะไรหลายๆ อย่างดึงสายตากลับมามองที่คู่สนทนาตามเดิม “ทำไมที่นี่ถึงมีคนดูแลเยอะขนาดนี้” “อ้อ นั่นผู้ติดตามครับ” “ผู้ติดตามงั้นเหรอ แล้วทำไมถึงต้องมีผู้ติดตามเยอะขนาดนี้ เจ้านายคุณเขาเป็นใครกันแน่ เขาทำอะไรที่มันผิดกฎหมายหรือเปล่า” “ผมว่าคุณถามเฮียเองดีกว่านะครับ เชิญครับ เฮียรออยู่ด้านใน” นางแบบสาวกัดปากตัวเองเบาๆ ตั้งแต่ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ ผู้ชายคนนี้รอรับเธอตั้งแต่อยู่ด้านล่าง พอมาถึงด้านบนหน้าห้องก็ยังมีคนเฝ้าอยู่อีก ทำไมเขาต้องทำตัวซับซ้อนแบบนี้ด้วย เขาเป็นใครกันแน่ ข้าวฟ่างเดินเข้ามาในโซนด้านในถัดออกมาจากห้องนอนที่เธอเคยหลับนอน ตากลมหันไปสบตากับคนที่นั่งไขว้ห้างรอที่โซฟา ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงกลิ่นกายที่หอมสะอาดสะอ้าน เผลอจ้องมองใบหน้าหล่อเหลา พอเริ่มรู้ตัวว่าเธอมองเขานานเกินไปก็กดสายตาลงต่ำ มองลำคอขาวสะอาดสะอ้านของผู้ชายตรงหน้าแทน “คุณมาหาผมเร็วกว่าที่คิดนะครับ ผมให้เวลาคุณสามวัน แต่นี่เพิ่งจะวันที่สองเอง” “ฉันมีเรื่องที่ต้องถามคุณ” “มานั่งกับผมสิครับ แล้วเราค่อยคุยกัน” ขายาวที่ไขว้ห้างในตอนแรกตวัดกลับ ขยับขาออกจากกันเสมือนเรียกร้องให้เธอไปนั่งที่กลางหว่างขาของเขา และสายตาของเขาก็ช่างเอาแต่ใจ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมาคุยกับคุณแป๊บเดียวแล้วจะกลับ” “ผมอยากให้ฟ่างมานั่งกับผมก่อนครับ ผมรอ” สายตาคมดุจตาเหยี่ยวตวัดมองจนคนยืนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แน่นอนว่าวันนี้เธอไม่ได้ตั้งใจมาหาเรื่อง ไม่ได้ตั้งใจจะมาอวดดี แต่ตั้งใจจะมาตกลง และคุยกับเขาดีๆ ร่างแบบบางเดินนวยนาดเข้าไปใกล้ ให้นั่งกลางหว่างขาของเขาแบบนั้นมันอันตรายมากเกินไป เลยเลือกที่จะหย่อนสะโพกลงบนต้นขาของอีกฝ่ายแทน “ผมโอบฟ่างแบบนี้ได้ใช่ไหมครับ” ถามตรงๆ พร้อมกับตวัดท่อนแขนยาวโอบเอวคอดกิ่วเอาไว้หลวมๆ เราใกล้กันจนเห็นความเคลื่อนไหวของเสี้ยวใบหน้าคมคาย ยิ่งอยู่ใกล้เขามากเท่าไหร่ ยิ่งได้กลิ่นตัวหอมๆ สะอาดสะอ้าน บ่งบอกชัดเจนว่าเขาเป็นคนที่ดูแลตัวเองมาเป็นอย่างดี “ได้ค่ะ แต่วันนี้เราต้องคุยกันตรงๆ นะคะ คุยกันดีๆ” “ฟ่างแคร์งานพวกนั้นมากเลยเหรอครับ” คำถามที่หลุดออกมาจากริมฝีปากหนาเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าเขาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ “ถ้าคุณอยากได้เงินสามล้านคุณต้องไม่ทำแบบนี้นะคะ ฉันจำเป็นต้องทำงาน” “ผมบอกฟ่างแล้วว่าผมไม่ต้องการเงิน ผมแค่อยากได้ความมั่นใจว่าคุณจะไม่เอาลูกของผมติดท้องคุณไป” “เรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หลังจากที่แยกกัน ฉันกินยาแล้ว” “ผมก็บอกคุณไปแล้วว่ามันไม่สามารถคุมกำเนิดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าเปอร์เซ็นต์ที่อาจจะผิดพลาดมันจะน้อยหรือมากแค่ไหน ผมก็ไม่วางใจ ผมไม่ชอบอะไรที่มันไม่แน่นอน สิ่งเดียวที่ต้องการคือความชัดเจน” “คุณ! ฉันไม่ปล่อยให้ตัวเองท้องอยู่แล้ว” “แล้วถ้าสิ่งที่ฟ่างกลัวมันเกิดขึ้นล่ะ” “นี่คุณ! ช่วยพูดอะไรที่มันเข้าใจง่ายกว่านี้ได้ไหม” “ถ้าฟ่างอยากทำงาน ผมจะคืนงานให้ ฟ่างจะได้งานทุกงานที่ฟ่างรับไว้คืนไปทั้งหมด แลกกับการที่ฟ่างย้ายมาอยู่กับผม เริ่มวันนี้เลย” นางแบบสาวสูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ แบบนี้มันไม่ต่างจากการมัดมือชกเลย! “คุณกำลังบังคับฉัน!” “แทนตัวเองเวลาคุยกับผมด้วยชื่อของฟ่างได้ไหมครับ ผมว่ามันน่ารักกว่า” “นี่คุณ!” “ละครที่คุณรับไว้กำลังทาบทามนักแสดงคนใหม่ ผมทำให้งานของคุณไปอยู่ในมือของคนอื่นได้นะถ้าฟ่างดื้อกับผม” คนฟังกำหมัดแน่น ตอนสบตากันรู้เลยว่าเขาพูดจริง และจากที่ดูๆ มาเขาทำได้จริงๆ ด้วย “สามล้าน ถ้าฟ่างหาเงินมาให้คุณได้ คุณจะยอมจบใช่ไหม” “ตอนนี้ผมไม่ได้อยากได้เงินสามล้าน แต่ผมต้องการให้ฟ่างอยู่กับผมสามเดือน” “สามเดือนงั้นเหรอ แล้วคุณรู้ใช่ไหมว่าสามเดือนที่คุณต้องการ คุณต้องวางตัวยังไง” “ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นอะไรกันใช่ไหมครับ” น้ำเสียงของอลันยังคงสุภาพ ทว่าใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยจนไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย “ฟ่างต้องทำงาน ฟ่างไม่อยากเป็นข่าว เพราะฉะนั้นคนอื่นจะต้องไม่รู้เรื่องของเรา” “กลัวคนรู้ว่าฟ่างเป็นเมียผม?” “แค่สามเดือน คุณไม่จำเป็นต้องเรียกฟ่างว่าเมีย” “เมียก็คือเมีย จะกี่เดือนหรือกี่วันฟ่างก็เป็นเมียผมอยู่ดี”ภายในห้องตรวจที่อุณหภูมิเย็นจัด และไม่รู้ว่าความหนาวหรือว่าเขากำลังตื่นเต้นกันแน่ที่ทำให้หัวใจแกร่งเต้นแรงในตอนนี้ ไคเลอร์จับจ้องที่หน้าจอที่กำลังเคลื่อนไหว คุณหมอกำลังทำอัลตร้าซาวด์ กำลังดูการเคลื่อนไหว และการเจริญเติบโตของเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในครรภ์ ดูจังหวะการเต้นของหัวใจ หัวใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่เองมันก็เต้นตาม “ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อและคุณแม่ด้วยนะคะ คุณได้ลูกสาวค่ะ” สูตินรีแพทย์เอ่ยออกมาเมื่อรู้เพศที่แท้จริง สิ่งนั้นเรียกรอยยิ้มจากคนเป็นพ่อและแม่ได้ในทันทีเช่นกัน “ลูกสาวผมแข็งแรงดีใช่ไหมครับคุณหมอ” คุณพ่อที่ได้ลูกสาวรีบเอ่ยถาม ในขณะที่มืออีกข้างกุมมือเมียรักเอาไว้แน่น “แข็งแรงดีค่ะ น้ำหนักตัวของคุณแม่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ถือว่าคุณแม่บำรุงเจ้าตัวน้อยได้ดีทีเดียวเลยค่ะ” คนถูกชมยิ้มกว้าง เธอน่ะอยากจะบอกออกไปทันทีว่าที่ทุกอย่างมันดีแบบนี้มันไม่ได้เป็นเพราะเธอแค่คนเดียว แต่เป็นเพราะพ่อของลูกด้วยที่เขาคอยเอาใจใส่ ดูแลเรื่องอาหาร เขาหาข้อมูลทุกอย่างเพียงเพราะอยากดูแลเธอให้ดีที่สุด“ช่วงไตรมาสที่สองคุณแม่จะไม่มีอาการแพ้ท้องแล้ว หมอแนะนำให้อาหารแต่ละมื้อให้จัดเตรียมให้ครบห้าหมู่นะคะ ไม่
พลอยชมพูอมยิ้มออกมาอย่างชอบใจในตอนที่มองพ่อของลูกลงมือบีบนวดที่ขาของเธอ นิ้วยาวทั้งห้าวางขย้ำลงเบาๆ ไม่ทิ้งน้ำหนักมากจนเกินไปเพราะกลัวว่ามันจะทำให้เธอเจ็บแล้วผิวช้ำ นอกเหนือจากการระมัดระวังเรื่องการลงแรง ก็เห็นจะเป็นการอดทนต่อความรู้สึกของตัวเองที่มันกำลังทำให้เขารวนอยู่ในตอนนี้ บ่อยครั้งที่พ่อของลูกหายใจติดขัด และหลายครั้งที่เขาเลือกที่จะเบือนหน้าหนี ปล่อยให้มือสัมผัสอยู่แบบนั้น แต่สายตาไม่กล้าจับจ้อง ราวกลับกลัวว่าจะต้านทานความรู้สึกของตัวเองไม่ไหวยังไงยังงั้น“พี่เลอร์ ขยับขึ้นมาบีบด้านบนอีกหน่อยได้ไหมคะ มันปวดตรงต้นขามากเลยค่ะ” “ให้ขยับขึ้นด้านบนอีกเหรอ” “ใช่ค่ะ ขยับขึ้นมาเลย พลอยเมื่อยมาก” คนฟังลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก แต่ในเมื่อเธอออกคำสั่ง เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว แค่เธอบอกว่าเมื่อย เขาก็พร้อมที่จะนวด และบ่อยครั้งที่เผลอลูบแทนการนวด มันเป็นอะไรที่โคตรยากสำหรับเขาเลย “พี่เลอร์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงหายใจแรงแบบนั้นล่ะ” ไคเลอร์เลือกที่จะส่ายหน้าแทนคำตอบ “เหนื่อยไหมคะ อยากให้พลอยนวดให้พี่คืนไหม” เธอถามตาใส รู้อยู่เต็มอกว่าเธอกำลังเล่นใหญ่แกล้งเขา
ความสบายใจถาโถมเข้าใส่จนคนตัวเล็กระบายรอยยิ้มออกมาจนได้ พลอยชมพูกอดคอพ่อของลูกเอาไว้แน่น แค่ได้พูดออกมามันกลับทำให้เธอสบายใจมากกว่าที่คิด หากรู้แบบนี้เธอคงบอกเขาตั้งแต่แรก ไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องคิดมากอยู่แบบนั้นแน่นอน “พลอยไม่รู้ว่าตอนที่พี่เลอร์ไปทำงาน พี่จะเจอใครบ้าง” “หึงหวงพี่?” คนถามยิ้มมุมปาก เชื่อเถอะว่าเขาไม่ได้อึดอัดหรือลำบากใจแบบที่เธอกลัวแน่ เขารู้สึกดีมากต่างหากที่เธอรู้สึกแบบนี้ เพราะมันเป็นคำตอบว่าในหัวใจของเธอมันมีเขาจริงๆ “ก็ตอนนี้พลอยท้องอยู่ ทุกอย่างมันไม่ได้ดูดีเหมือนเดิมแล้ว” อาจจะเป็นรูปร่าง หรืออะไรหลายๆ อย่างที่มันเปลี่ยนแปลงไป เธอรู้ว่าผู้ชายทุกคนไม่ได้คิดแบบเดียวกัน และไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน แต่ก็อย่างที่เธอบอกความรู้สึกพวกนี้มันเกิดขึ้นมาเองเธอพยายามที่จะหลีกเลี่ยงแล้วแต่เธอทำไม่ได้ “วันที่พี่เสียใจที่สุด คือวันที่พี่ปล่อยให้พลอยหลุดมือ พี่เกือบสูญเสียผู้หญิงที่พี่รักไปพร้อมกับลูกแท้ๆ ของพี่ นั่นคือสิ่งที่ทำให้พี่เสียใจมากที่สุด และในเมื่อมันเป็นแบบนั้นพี่จะปล่อยให้ผู้หญิงที่พี่บอกว่ารักเสียใจเพราะการกระทำของพี่ได้ยังไง” “……”“ตอนนี้พลอยไม่ได้เป็นแค่เม
@คอนโดมิเนียมของไคเลอร์ คนที่แอบน้อยอกน้อยใจไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ตั้งแต่ตอนที่พ่อของลูกหายออกไปจากห้อง ทั้งที่พยายามบอกตัวเองและเตือนสติตัวเองอยู่ตลอดว่าเขาแค่ออกไปทำงาน แต่เธอกลับไม่สามารถข่มความคิดเอาไว้ได้เลย ร่างบอบบางดันตัวลุก ก่อนจะขยับตัวไปเปิดไฟบริเวณหัวเตียงจนภายในห้องนอนส่องสว่าง ใบหน้าที่ถูกกระทบด้วยแสงไฟขาวจัดกว่าเก่า ในขณะที่ในแววตาฉายความรู้สึกทุกอย่างออกมาอย่างชัดเจนเช่นกัน พลอยชมพูขยับตัวลงจากเตียงอย่างเชื่องช้า คว้าโทรศัพท์มือถือมาปลดล็อกเพื่อดูเวลาบนหน้าจอ ทุกอย่างยังคงว่างเปล่าไม่มีข้อความจากพ่อของลูกส่งมาถามไถ่กัน เขาอาจจะวุ่นวายและติดธุระอยู่กับเรื่องงาน หรือบางทีก็อาจจะมีอย่างอื่นที่น่าสนใจมากกว่าเธอ ความคิดมากกระตุ้นให้ธารน้ำตาให้ตีตื่นขึ้นมาจนได้ อยู่ดีๆ ก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง คล้ายกับมีบางสิ่งบางอย่างที่หายไปเพียงแค่ในตอนนี้มีเธออยู่ในห้องชุดหรูตามลำพัง เธออยากให้เวลามันเดินเร็วมากกว่านี้ อยากให้เขารีบกลับมา อยากเรียกร้องให้เขากลับก่อนเวลาด้วยซ้ำ แต่เธอกลับไม่กล้าพอ กลัวว่าหากเข้าไปก้าวก่ายมากเกินไปมันจะทำให้ทุกอย่างแย่ไปมากกว่าเดิม มือบางลวงตาวางโ
ดวงตากลมสวยกระพริบถี่ๆ ในยามที่มองพ่อของลูกแต่งตัวที่หน้ากระจก จังหวะที่ไคเลอร์ฉีดน้ำหอมลงบนร่างกายเป็นตอนที่พลอยชมพูหันไปมองเวลาบนนาฬิกาแขวนผนัง ตอนนี้มันสี่ทุ่มกว่า เป็นเวลาที่เราควรพักผ่อนด้วยกันบนเตียงเหมือนทุกๆ วัน แต่วันนี้พ่อของลูกกลับมีงานที่ต้องไปจัดการ “วันนี้จะกลับตอนกี่โมงคะ” ที่จริงเธอไม่ได้อยากตั้งคำถามนะ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมาหลังจากที่เราสองปรับความเข้าใจกัน ไคเลอร์ให้เวลาเธอมาโดยตลอด ทั้งดูแล เอาใจใส่ ให้เวลามากที่สุดเท่าที่เขาจะให้ได้ จากที่ตอนแรกคิดว่าเพียงพอและคงเข้าใจเขาได้ไม่ยากในเรื่องงานที่เขาทำ แต่ในจังหวะที่คนรักต้องออกไปทำงานจริงๆ เธอเองกลับมีความรู้สึกว่าที่ผ่านมามันยังไม่พอ เธอโลภมากกว่านั้น อยากได้เวลาจากเขามากกว่านั้น อยากรั้งตัวเขาให้อยู่กับเธอ อยู่ในสายตากันตลอดเวลา เขาออกไปทำงานแต่ละวัน จะเจอใครบ้าง และเขาจะเผลอถูกใจใครหรือเปล่า เธอรู้ว่าเรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นได้ง่ายมาก รู้ว่าต้องใช้ความเชื่อใจ เพราะเวลาแบบนี้เธอกลับห้ามความคิดที่มันรบกวนอยู่ในตอนนี้ไม่ได้“น่าจะกลับเช้าเลย พลอยนอนได้เลยนะ ไม่ต้องรอพี่” คนบอกพับแขนเสื้อเชิ้ตลวกๆ ทั้งที่เขาฉีดน้ำห
“ให้วินช่วยล้างไหมเฮีย” คาลวินเดินตามพี่ชายเข้ามาในห้องครัว และยังอดที่จะอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นคนตัวโตเริ่มปรับตัวเป็นทั้งสามีและพ่อที่ดี ต่อให้จะเป็นภาพที่แปลกตามากแค่ไหน แต่มันก็น่ารักมากอยู่ดี “ไม่ต้อง” “วินอาจจะล้างสะอาดกว่าเฮียก็ได้นะครับ” “มีธุระอะไรก็พูดมาเลย ไม่ต้องมาเซ้าซี้ กูรำคาญ หรืออยากให้คิดบัญชีที่มึงปั่นกูจนหัวหมุน” ไคเลอร์ปรายสายตามองคนที่กำลังคุยด้วย ที่จริงก็ปล่อยผ่านได้นั่นแหละ ไม่ได้ติดอะไรทั้งนั้น เพียงแค่พอเจอหน้ามันก็อดที่จะพูดไม่ได้แค่นั้นเอง“เฮียโกรธวินมากเหรอครับ”“แล้วสิ่งที่มึงทำกับกู กูควรรักมึงมากขึ้นงั้นเหรอ?”“แล้วถ้าวินบอกว่าขอโทษล่ะครับ” คำพูดของคาลวินส่งผลให้คนตัวโตกว่าชะงัก คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันทันที“มึงว่าไงนะ”“วินอยากขอโทษเฮียครับ ขอโทษทุกเรื่องเลย วินรู้นะว่าวินทำเกินไป ทั้งที่ควรเข้าข้างพี่ชายตัวเอง แต่วินกลับไม่ทำ” พูดไปยิ้มไป และถ้าให้พูดตามความรู้สึกจริงๆ หากย้อนเวลากลับไปได้ เขาก็ยังเลือกที่จะทำแบบนี้อยู่ดี “แล้วยังไงต่อ?”“วินมาขอโทษครับ ขอโทษที่ทำให้เฮียคิดมากหลายวัน”“แต่กูคิดมากเป็นเดือน”“อ้าวเหรอครับ หรือวินนับวันผิดนะ”“มึงกว







