Share

ตอนที่2 รักที่พังทะลาย2

Aвтор: ไห่ถาง
last update Последнее обновление: 2025-09-11 15:58:46

วิลล่าหรูนอกเมือง

         จวิ๋นมู่ จอดรถอยู่ถนนหน้าบ้าน เพราะเธอยังไม่อยากให้คนรัก เห็นน้องชายที่มาพร้อมเธอ หลีเสวียนเคยปรากฏตัวต่อสื่อหลายแห่ง ในฐานะบุตรชายคนเล็กสกุลหลี ส่วนเธอนั้นจะมีตัวแทนไปจัดการทุกอย่างแทน ชีวิตของเธอจึงเป็นเพียงเงาในจอ

         “พวกเธอรอฉันแปปนะ”

         หญิงสาวหันไปบอกเพื่อนกับน้องชาย ก่อนที่เธอจะลงจากรถไป จวิ๋นมู่มองไปที่รถของบอดี้การด์ของน้องชาย ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ กับความเป็นลูกคนเล็ก ที่ทุกคนต้องประคบประหงม หญิงสาวเดินเข้าไปในบ้าน ตั้งใจจะทำให้คนรักแปลกใจ และคืนนี้เธอคงต้องหาข้ออ้างกลับไปนอนบ้านสักคืน

         “แกก็รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะรุ่งโรจน์ จะยอมให้ผู้หญิงจนๆ นั่นมาเป็นตัวถ่วงเหรอ”

         นิ้วที่กำลังจะวางลงบนแป้นสแกน ชะงักค้างไปในทันที เมื่อคำพูดที่ดังออกมาให้ได้ยิน มันเหมือนกับสายฟ้าที่ฝ่าลงมากลางใจของเธอ แม่ของคนรักคิดกับเธอแบบนี้จริงๆ เหรอ แล้วทำไมต่อหน้าถึงเอ็นดูเธอนักล่ะ

         “ผม...ไม่เคยคิดที่จะเก็บ คนอย่างจวิ๋นมู่ไว้ให้รกตาหรอกครับ ตอนนี้ทั้งเงินและชื่อเสียงผมมีครบแล้ว จวิ๋นมู่ก็หมดประโยชน์ แต่ก่อนเพราะเธอรู้จักคนในกองถ่าย ผมต้องหม้เธอช่วยแนะนำ ตอนนี้ไม่มีเธอผมก็ไม่เดือดร้อนแล้ว”

         ติ๊ด!! เสียงปลดล็อกประตู ทำให้ทุกสายตาหันไปทันที จวิ่นมู่เดินเข้ามาหยุดอยู่ต่อหน้าของคนรักและครอบครัว หญิงสาวแสร้งทำเหมือนเมื่อครู่ เธอไม่ได้ยินอะไร ใบหน้าของเธอยังยิ้มแย้ม เหมือนกับปกติเช่นในทุกๆ วัน

         “ฉันมาเอาของค่ะ คืนนี้จะกลับไปนอนที่บ้านพ่อกับแม่”

         หญิงสาวข่มเสียงไม่ให้สั่น และกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างสุดความสามารถ มันจริงเหมือนที่พ่อแม่เธอพูดไม่มีผิด ถ้าวันไหนเขาปีนขึ้นที่สูงได้ เขาจะไม่เหลียวมองคนที่เป็นบันได นี่สินะ! ที่เสี่ยวถง อึกอักไม่อยากให้เธอเปิดเผยฐานะตัวเอง

         “หล่อนจะกลับไปนานแค่ไหนก็ได้นะ”

         แม่ของชายหนุ่มพูดขึ้น พร้อมแสดงสีหน้าใส่เธออย่างไม่ปิดบัง เหอะ! หรือความช่วยเหลือที่เธอขอให้พี่ชายช่วย มันมาถึงเขาแล้ว เขาถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ การลงทุนในหนังเรื่องใหม่ของเขา เป็นเงินจากสกุลหลี พี่ชายของเธอยอมออกหน้าช่วย เพราะเห็นแก่คำขอร้องของเธอ แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายเขาจะเขี่ยเธอทิ้ง หลังจากได้เป็นพระเอกในหนังฟอร์มยักษ์

         “ค่ะ”

         คำตอบรับสั้นๆ ของหญิงสาว ทำให้ชายหนุ่มเริ่มที่จะมองเธออย่างจริงจังอีกครั้ง นี่มันชัดเจนว่าเมื่อครู่ จวิ๋นมู่ได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว

         “ขอตัวนะคะ”

         หญิงสาวหันสบตากับคนรัก ไม่มีเคยความรักหวานชื่น ที่เคยเห็นในทุกๆ วัน เธอเป็นแค่สะพานที่เขาสละทิ้งแบบไม่เสียดายเลย

         “ผมคิดเราต้องคุยกันหน่อย”

         ชายหนุ่มคว้าข้อมือหญิงสาวเอาไว้ ก่อนจะใช้สายตากดดัน เพื่อให้เธอยอมอยู่ใต้อาณัติ

         “ฉันรีบค่ะ กลัวจะถึงบ้านดึก ขอตัวนะคะ”

         เป็นความห่างเหินที่ชัดเจนมาก ทั้งคำพูดและสายตา หญิงสาวใช้มืออีกข้าง มาดันมือของคนรักออก จากข้อมือของตัวเอง แล้วเดินเลยขึ้นบันไดไป เธอเสียใจมากนะ แต่เธอไม่ใช่คนต้องจมกับเรื่องไหนนานๆ เพราะครอบครัวของเธอเป็นนักธุรกิจ ไม่มีเวลาให้อิดออดกับเรื่องไหนนาน นี่เป็นสิ่งที่เธอเรียนรู้และถูกสอนมาตั้งแต่จำความได้

         “แกต้องรีบจัดการ อย่าปล่อยหล่อนเอาไว้ทำลายอนาคตแกนะ ซือเส่า”

         คุณนายซือ บอกลูกชายด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความวิตก เธอได้มีหน้าตาในสังคมชั้นสูงแล้ว เธอไม่อยากที่จะกลับไปอยู่ในสภาพอดอยากแบบเดิม

         ชายหนุ่มขบกรามแน่น เขากลัวที่สุดว่าจวิ๋นมู่ จะไม่ยอมจากไปง่ายๆ และถ้าเรื่องที่เขาอยู่กินกับเธอหลุดออกไป ชื่อเสียงเขาต้องย่อยยับแน่ อีกอย่างคนที่แนะนำเขาจนได้เข้าวงการ ก็คือจวิ๋นมู่ ถ้าเธอแค้นแล้วเลือกทำลายเขาล่ะ...

         “อือ...”

         ชายหนุ่มตอบรับในลำคอ ก่อนจะเดินตามหยิงสาวขึ้นไปชั้นสอง เรื่องนี้ถ้าตกลงกันไม่ได้ เขาก็ต้องแล้งน้ำใจกับเธอแล้ว

         ฮึกๆ แค่ประตูปิดลงหญิงสาวก็สะอื้นหนักๆ จวิ๋นมู่เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เพื่อที่จะเก็บทุกความทรงจำ ไปจากวิลล่าแห่งนี้ แก๊ก! เสียงประตูเปิดออก หญิงสาวก็ไม่ได้หันกลับไปมอง เธอทำเพียงเก็บของอย่างเงียบๆ

         “จวิ๋นมู่ เราคุยกันหน่อยดีไหม”

         ชายหนุ่มพูดขึ้น สายตาเย็นชามองแผ่นหลังที่ไหวน้อยๆ ของคนรัก เขามาอยู่จุดนี้แล้ว ก็ไม่อยากให้มันพังเพราะคนที่ไม่คู่ควร

         “ฉันเข้าใจค่ะ”

         หญิงสาวตอบกลับเสียงสั่น โดยที่มือของเธอก็ยังคงเก็บของต่อไป ไม่ได้หันกลับไปมองคนรัก ที่ยืนอยู่ด้านหลัง

         “ผมไปส่งนะ”

         “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองได้ ขอบคุณ”

         หญิงสาวปฏิเสธเขา ทั้งที่ใจนั้นเจ็บร้าวจนอยากที่จะหายไปจากตรงนี้

         “คุณกำลังทำให้ผมลำบากใจ”

         ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังของคนรัก ก่อนจะรวบกอดเอจากด้านหลัง ทว่าใบหน้าของเขา มันไม่มีแล้วความรัก มีแค่ความเหี้ยมเกรียมในสายตาเท่านั้น เช่นเดียวกับแรงที่เขารัดร่างเธอเอาไว้แน่น ในแบบที่ไม่ใช่คนรักกันทำ

         “ฉันจะไม่กลับมาอีกค่ะ ปล่อยฉันเถอะ”

         หญิงสาวเข้าใจดีในความหมายของเขา เธอพยายามที่จะดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดจอมปลอมของคนรัก แต่มันดูไม่ง่ายอย่างที่คิด

         “ที่รัก...ผมคิดว่าคุณรู้ใช่ไหม ว่าต้องทำยังไงต่อจากนี้”

         “ฉันรู้ค่ะ ปล่อยฉันได้แล้ว”

         แต่แรงที่รัดตัวเธอมันไม่ได้คลายลง และดูเหมือนจะหนักขึ้น สัญชาติญาณของสิ่งมีชีวิต ที่รับรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย เริ่มที่จะชัดขึ้นมาแล้วในความรู้สึกของหญิงสาว เธอสะบัดตัวแต่ไม่หลุด

         “ความลับ...ที่จะเก็บได้ดีที่สุด คุณรู้ใช่ไหมว่าแบบไหน” ชายหนุ่มก้มกระซิบข้างหูของหญิงสาว น้ำเสียงที่เนิบช้า ทว่ามันทำให้คนฟัง ตื่นตัวในทันที

         “ปล่อยฉันนะซือเส่า คุณคิดจะทำอะไร!”

         หญิงสาวเริ่มที่จะดิ้นรนมากขึ้น แต่ชายหนุ่มกลับไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้เธอ เพราะเขารู้ดีว่าหญิงสาวเก่งเรื่องการต่อสู้ เขาจะพลาดให้เธอไม่ได้ ฉึก! อ๊ะ! อึก! หญิงสาวยืนนิ่งค้างไปราวถูกสาป สีข้างของเธอ มีเหล็กแหมๆ แทงเข้าไป และเขาบิดข้อมือนั้น ทำให้สิ่งแปลกปลอมในร่างกาย มันหมุนวนเหมือนต้องการ คว้านเนื้อภายในของเธอให้แหลกละเอียด เขาต้องการฆ่าเธอ เพราะการอยู่แบบความลับของเธอกับเขา จะทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ เขาคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ...

Продолжить чтение
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่109 คำถามในใจ

    “เสวียนเอ๋อร์ เจ้าช่วยเผาเข็มให้ข้าเดี๋ยวนี้” แต่ก่อนที่หลินเสวียนจะพูดสิ่งใดต่อ คำสั่งของผู้เป็นอาจารย์ก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน เด็กหนุ่มไม่คิดรีรอ เขารีบวิ่งไปที่รถม้า นำเตาอุ่นชาออกมา แล้วจัดการนำเข็มเงินออกมา เผาไฟให้มันร้อน การฝังเข็มเช่นนี้ นั่นหมายความว่าร่างกายของพี่เถาเถา ได้รับพิษหรือเส้นลมปราณเกิดบาดเจ็บรุนแรง เกาจูมีสีหน้าเคร่งเครียด นักฆ่าพวกนี้มีฝีมือระดับสูง ทว่าเถาเถา ที่มีช่วงวันนั้นของสตรี ต้องใช้พลังไปมาก ทำให้เส้นลมปราณบาดเจ็บหนัก แต่ที่น่ากลัวคือถ้าทำให้นางตื่นขึ้นไม่ได้ในสองชั่วยาม นางอาจไม่มีดอกาสได้ตื่นขึ้นมาได้เลย นางได้รับบาดเจ็บภายในมาก่อนหน้า ซึ่งเรื่องนี้มิได้บอกแก่ผู้เป็นนาย สิ่งที่เขาทำได้คือปลุกนางให้ตื่นขึ้นมาให้ได้เท่านั้น “คุณหนู คนที่ส่งมามิใช่คนของท่านกั๋วกงขอรับ” ฉู่เฟยรีบเข้ามารายงาน เมื่อรู้ที่ไปที่มาของคนร้าย ซึ่งครั้งนี้นับว่าโชคดีนัก ที่จิ้งอ๋องอยู่ร่วมในคณะ แม้ยังไม่เผยตัวตนก็ตามที “ส่งสาสน์ให้ทางนั้น ส่งของขวัญไป ข้ามักตอบแทนน้ำใจของผู้อื่นเสมอ ถ้าเถาเถาเป็นอันใดไป ข้าจะมอบให้มากกว่านี้อีกหลายเท่า”

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่108 สายตาของเจ้า

    ทางด้านถนนหลัก ชายสวมหน้ากาก ยืนอยู่เหนือร่างของคนที่หมายเอาชีวิตเขา แววตาที่มองคนใต้ฝ่าเท้า ไร้ซึ่งความเห็นใจหรือเมตตาใด ๆ ทว่ามันล้วนเต็มไปด้วยความเย็นชา จนคนที่กำลังหายใจรวยริน ต้องพิจารณาสายตานั้นอีกครั้ง ไม่นะ! เป็นเขาไปได้อย่างไร ชายผู้ไม่ใส่ใจใคร กลับมายืนอยู่ตรงนี้เพื่อนาง... “ไยไม่ทำให้ได้อย่างปากเจ้าว่าเล่า เอาชีวิตข้า และหัวของนาง” น้ำเสียงที่เย็นเยียบ เอ่ยออกมาด้วยความเนิบช้า สำหรับเขาแล้วสวะเหล่านี้ มีค่าอันใดให้เขาต้องเสียเวลา หากไม่เพราะเขาอยู่ตรงนี้ ในฐานะขององครักษ์ มันไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด ที่ต้องลงมือด้วยตนเอง “ทะ...เอ่อ...” ถงเมิ่งชี อยากที่จะเรียกคนตรงหน้า ด้วยตัวตนจริงยิ่งนัก แต่เพราะเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยตัวตน จึงไม่อาจที่จะเอ่ยปากออกมาได้ “เจ้าอาการไม่น่าจะไหวนะ” ชายสวมหน้ากากเอ่ยกับองครักษ์หนุ่ม ด้วยสภาพของถงเมิ่งชี มันย่ำแย่ไม่น้อยเลย แต่ก็ต้องยอมรับใจนักสู้ขององครักษ์หนุ่ม ที่ไม่ว่าอย่างไร ก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี “เจ้าอยากตาย! ทำไมไม่บอกข้าแต่แรก ข้าจะได้ไม่เสียเวลาช่วยเจ้า”

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่107 เจ็บแค้นนัก

    “ทำไมหรือ หน้าข้ามีสิ่งใดเปื้อนหรือไม่”หญิงสาวยกมือขึ้น แตะที่ใบหน้าเบา ๆ ทว่าสายตาของนางนั้น มันคือความเย็นเยียบของพยัคฆ์ร้าย ที่กำลังจงใจเล่นกับเหยื่อ“จับนางกลับไปให้ท่านหัวหน้าซะ!”หนึ่งในสาวชายชุดดำ ที่ยังคงรอดชีวิต จากน้ำมือสาวใช้ ตะโกนสั่งเสียงเข้ม โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ สหายของตนเองกำลังตกที่นั่งลำบาก ฟึ่บ! และในพริบตา เพียงพัดในมือถูกสะบัดออกไป ลมหายใจของชายชุดดำ ก็พลันหยุดลง และภาพนั้นก็ชัดต่อสายตา ของคนที่ควบม้ากลับมา โดยมีเด็กหนุ่มนั่งอยู่ด้านหน้าโม่เชี่ยหาน แสร้งไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น คงเพราะแบบนี้ที่ท่านอ๋อง ไม่ยินดีจะยกเลิกการแต่งงาน เพราะพระชายาคือสิ่งล้ำค่า เกินกว่าที่ใคร ๆ จะทันคาดคิด ว่านางจะมีอีกด้านที่น่าหวั่นเกรง“พี่หญิงมิได้โหดร้ายนะขอรับ”หลินเสวียนรีบแก้ต่างให้คนเป็นพี่ เพราะสิ่งที่น่ากลัวกว่าอาวุธ ก็คงเป็นจิตใจของผู้คน เรื่องนี้ทั้งพ่อแม่บุญธรรม และท่านพี่ทั้งสอง มักจะบอกแก่เขาอยู่เสมอ เขากลัวว่าถ้าคนจวนอ๋องเห็นอีกด้านของนาง จะคิดทำร้ายนางเอาได้“ข้าน้อยได้เห็นสิ่งใดขอรับ”โม่เชี่ยหาน ตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไม่แปลกใจเลยที่พระชายาจะรักน้องชายมาก เพราะคุ

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่106 มิได้บอบบาง

    “พี่หญิง อย่าตามมาขอรับ” หลินเสวียน หันกลับไปเห็นพี่สาวพุ่งตามมาติด ๆ ความเป็นห่วงพุ่งขึ้นมาภายในใจ นางอาจถูกทำร้ายในจังหวะนี้ก็เป็นได้ เขามันช่างไรสามารถนัก แค่ขี่ม้ายังควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ แล้วเขาจะปกป้องผู้ใดได้ ไหนจะพี่สาวของเขา ที่กำลังวิ่งออกมาพบอันตราย เพราะตัวเขาเอง “ปิดตาม้าเอาไว้!” หลินมู่เสวี่ย ตะโกนไล่หลังน้องชายไปอย่างสุดเสียง เพื่อให้น้องชายหยุดม้าให้ได้ ก่อนที่มันจะพาเตลิดไปจนเกิดอันตราย หลินเสวียน ฉุกคิดขึ้นมาได้ถึงคำสอนของพี่ชาย ตอนที่พี่ใหญ่สอนเขาขี่ม้า เด็กหนุ่มตวัดชายเสื้อ ให้ปิดดวงตาของข้างของม้า โดยที่ตัวเขาแนบกายไปกับแผงคอของมัน พร้อมกับทำเสียงปลอบโยนมัน เพื่อให้มันสงบลง ทว่าทางด้านของหลินมู่เสวี่ย กลับต้องหยุดลงอย่างกะทันหัน เมื่อมีเงาร่างในชุดดำ กว่าห้าคน พุ่งมาขวางหน้าเอาไว้ หญิงสาวไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย ดวงตาของนางยังคงมองเลยไปยังน้องชาย ด้วยความห่วงใยเช่นเดิม สำหรับนางแล้วคนทั้งห้าก็เพียงฝุ่นผงเท่านั้น จะมากฝีมือแค่ไหน นางก็ไม่คดที่จะละเว้นแต่แรกอยู่แล้ว เห็นทีนางคงต้องเร่งเข้าเมืองหลวง เพื่อมอบของขวัญให้สกุลกั๋วกงเส

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่105 เขามาแล้ว

    “นางคือของข้า”ชายคนเดิมชี้ตรงไปที่ว่าที่พระชายาจิ้งอ๋อง ด้วยแววตาของนักล่า ที่พบเหยื่ออันโอชะ โดยที่เขาไม่รู้เลย ว่าคนที่กำลังจะกลายเป็นเหยื่อ คือตัวเขาเอง“กำแหง!”โม่เชี่ยหาน ตวาดเสียงกร้าว เมื่อเห็นสายตาของนักฆ่า ที่มองไปยังนายหญิงของเขา มันช่างเป็นแววตาของเดรัจฉานอย่างแท้จริง“ฮ่า ๆ ไม่คิดว่าวันนี้จะได้พบกันซึ่งหน้า กับยอดองครักษ์จวนจิ้งอ๋อง โม่เชี่ยหาน ชายผุ้เป็นดั่งแขนขาของลู่หย่งไท้”“สามหาว! เจ้ากล้าเอ่ยนามท่านอ๋องเยี่ยงนั้นได้อย่างไร”“ที่นี่มันเป็นบ้านป่าโม่เชี่ยหาน เจ้าจะมาเอากฎเกณฑ์ใดต่อการเอ่ยชื่อ และต่อให้เขามายืนอยู่ตรงนี้ ข้าก็จะยังคงเรียกเช่นเดิม”“เจ้า!”ทว่าก่อนที่โม่เชี่ยหานจะได้เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก ชายสวมหน้ากากครึ่งท่อน ได้เดินมาแตะที่ไหล่ของเขาเบา ๆ เพื่อให้สงบลงเสีย สายตาที่เต็มไปด้วยประกายสนุกสนาน มองไปยังคนพูด ก่อนเรียวปากจะคลี่ออกน้อย ๆ ซึ่งนั่นเป็นการกระตุ้นความไม่พอใจของชายชุดดำ แม้ใบหน้าครึ่งบนจะถูกปิดทับ แต่ก็ยังคงเห็นสายตา บวกรอยยิ้มเมื่อครู่นั่นอีก มันทำให้โทสะในกายพลุ่งพล่านยิ่งนัก“หึ ๆ เจ้าอยากได้หัวพระชายาหรือ แค่รอยยิ้มของข้า เจ้ายังมีโทสะ แล้วแบบนี

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่104 แขก

    “ข้าผิดตรงไหนกัน”เมื่อเห็นโทสะของอีกฝ่าย พุ่งพล่านจากคำพูดของเขา องครักษ์หนุ่มมีหรือจะปล่อยผ่าน เขายิ่งรู้สึกสนุก ที่จะได้กลั่นแกล้งอีกฝ่าย บางทีนี่อาจเป็นการแก้เบื่ออีกอย่างหนึ่งก็เป็นได้“ตรงที่เจ้าพูด และทุกตรง”เกาจูตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรเช่นเดิม และการโต้เถียงก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้งเกาจูเอง ลืมเลือนเรื่องที่ศิษย์รักออกไปขี่ม้ากลางแจ้ง ถงเมิ่งชีทำเพียงกลั้นขำเอาไว้อย่างสุดความสามารถ เขาไม่รู้หรอกว่าเหตุผลใดกันแน่ ที่อีกฝ่ายชิงชังเขา แม้แต่หายใจยังผิด แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ไม่เหงาอีกตอไปฮี่! ฮี่! จนกรทั้งได้ยินเสียงม้าตื่น นั่นจึงทำให้ทั้งคู่สงบคำ แล้วพุ่งตัวไปที่หน้าต่างรถม้า คนเจ็บก้ลืมความเจ็บ ด้วยสัญชาตญานของผู้ปกป้อง ภาพที่เห็นคือกลุ่มคนจำนวนมาก ที่โอบรอบคระเดินทางเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าหากนับตามจำนวนคนแล้ว ผู้มาเยือนมีจำนวนที่เหนือกว่า อีกมั้งร่างกายยังสมบูรณ์พร้อม ต่างจากพวกเขาที่มีคนเจ็บเสียเป็นส่วนใหญ่“เจ้าอยู่ที่นี่”เกาจูไม่ได้ต้องการฟังคำปฏิเสธ เพราะนี่คือคำสั่ง ก่อนที่เขาจะคว้าเอาแส้คู่ใจ พุ่งหายลงไปจากรถม้า องครักษ์หนุ่ม ควานหายาแก้ปวดมากินไปหล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status