LOGINในตอนที่เราคิดว่าเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มักมีเรื่องน่าปวดหัวโผล่มา ช่างเป็นสัจธรรมชีวิตที่ว่านอันอันเกลียดที่สุด เช่นเดียวกับตอนนี้...
“ขอโทษที่ต้องเรียกมาช่วยนะแม่หนูอันอัน ฉันไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริง ๆ ถ้ามีอะไรต้องใช้ต้องหาเธอบอกได้เลยนะ” หัวหน้าหมู่บ้านทั้งขอโทษและขอร้องเธอด้วยสีหน้าเป็นกังวล
เมื่อคืนนี้มีพายุลมแรงพัดผ่านหมู่บ้าน ทำให้สถานที่ที่ตกแต่งไว้ด้วยฝีมือของพวกหลินลี่จูยุ่งเหยิงกระจัดกระจายไปหมด เขาจึงมาหาเธอเพื่อขอร้องให้มาช่วยดูหน่อย จะเรียกหลินลี่จูกลับมาทำอีกครั้งก็ไม่ได้เพราะติดธุระเรื่องงานที่โรงเรียน
“เรื่องแค่นี้เองค่ะ สบายมาก ไม่ต้องเกรงใจนะคะ ยังไงเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของส่วนรวม”
หัวหน้าหมู่บ้านหลินขอบคุณอีกครั้งแล้วขอตัวไปทำงานในส่วนของตัวเอง เหลือว่านอันอันกับผู้หญิงในหมู่บ้านประมาณห้าคนที่ต้องช่วยกันจัดการพื้นที่
“เริ่มจากเก็บของที่เสียหายออกกันก่อนเถอะค่ะ”
ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ ภายใต้การสั่งงานที่มีประสิทธิภาพของว่านอันอัน ไม่นานสภาพศูนย์ฟื้นฟูวัฒนธรรมที่เรียบร้อยก็กลับมาอีกครั้ง
“ต่อไปเริ่มส่วนตกแต่งได้เลย พวกพี่สาวช่วยดูเรื่องธงตกแต่ง ส่วนของพวกท่านป้าฉันรบกวนหาดอกไม้มาให้หน่อยนะคะ จะเป็นดอกไม้ตามฤดูที่พบในหมู่บ้านเยอะ ๆ ก็ได้ค่ะ”
“เป็นดอกกล้วยไม้ได้หรือเปล่า ช่วงนี้ในป่าใกล้ ๆ กำลังออกช่อเลย แต่ไม่รู้ว่าตัดมาแล้วมันจะเหี่ยวไม่รอดถึงพรุ่งนี้หรือเปล่านี่สิ”
“ได้สิคะ ยิ่งสวยเลย แต่ตอนเก็บมาต้องรบกวนท่านป้าเก็บมาทั้งต้นติดรากมาด้วยนะคะ งั้นฝากทางนี้หากระถาง เปลือกสนกับถ่านไม้มาด้วยนะ อ้อ ๆ ขอลวดด้วยจ้ะ”
แยกย้ายกันไปครู่ใหญ่ ของทุกอย่างก็ครบครัน พวกเธอช่วยกันจัดโต๊ะใหม่ให้ออกมาเป็นระเบียบสวยงามกว่าเดิม ธงเล็กสีสันต่าง ๆ ถูกประดับประดาอย่างมีชีวิตชีวา และไม่ขาดสิ่งสำคัญอย่างธงชาติ ทุกอย่างดูดีขึ้นมาก
“โอ้โห แค่ปรับเปลี่ยนตามคำบอกของแม่นหูอันอันที่นี่ก็ดูสวยงามสบายตาไปเลยนะเนี่ย”
“ใช่ ๆ ดูดีกว่าของหลินลี่จูอีก”
“น่าจะให้เธอมาช่วยดูตั้งแต่แรก ป้าทำงานกับหล่อนมาทุกปีไม่เคยมีอะไรถูกใจ อารมณ์ร้ายขนาดนั้น มีเรื่องอะไรไม่ดีก็โยนมาให้พวกเราหมด”
“ฮ่า ๆ ขอบคุณที่ชื่นชมกันนะคะ ยังไงนี่ก็เป็นผลงานของทุกคนค่ะ”
“เอ๊ะ แล้วดอกไม้กับของพวกนี้ละให้เอามาทำไรเหรอ”
ใครคนหนึ่งชี้ไปยังกองดอกกล้วยไม้สวยงามหลากหลายสีและกระถางเล็ก รวมถึงวัสดุอีกสามสี่อย่าง
“เราจะมาตกแต่งด้วยขั้นตอนสุดท้ายกันค่ะ”
แล้วว่านอันอันก็เริ่มอธิบายถึงวิธีทำกล้วยไม้กระถางให้ทุกคนฟัง เริ่มจากการแยกต้นมาแล้วใส่ลงในกระถางที่รองด้วยถ่านหินและเปลือกสน ใช้หินสีอ่อนโรยด้านบนเพิ่มความสวยงาม แล้วยึดลำต้นของแต่ละก้านหากันด้วยลวด ทำให้ก้านสีเขียวของพวกมันชูตั้งตรงอวดช่อดอกสวยงามได้ พรมน้ำอีกหน่อยก็เป็นอันเสร็จ
“สวยมากฉันเพิ่งรู้ว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วย แม่หนูอันอันเก่งมากเลยนะเนี่ย” คุณป้าคนหนึ่งชมเปลาะ
“เดี๋ยวฉันกลับไปทำไว้ที่บ้านบ้างดีกว่า”
“ถ้าเลี้ยงไปพักใหญ่ก็อย่าลืมเปลี่ยนวัสดุรองกระถางกับใส่ปุ๋ยบำรุงบ่อย ๆ ด้วยนะคะ”
ว่านอันอันแนะนำด้วยความยินดี หลังจากเอาแต่ละกระถางวางตกแต่งไว้แล้ว ยังมีกล้วยไม้ป่าที่มีลักษณะเป็นพวกย้อยห้อยลงมาไม่สามารถใส่กระถางได้ เธอก็ไปหาวัสดุที่แขวนได้มา จับพวกมันขดพันแล้วแขวนตกแต่งตามที่สูง หลังไล่พรมน้ำทั้งหมดแล้วก็เป็นอันเสร็จงาน
บรรยากาศในโถงงานแห่งนี้ดูสดชื่นขึ้นมาก ยิ่งรวมกับโต๊ะเก้าอี้ไม้ยาวขัดเงาเคลือบสีเข้มสวยจากซานเหอมู่เย่ ยิ่งให้บรรยากาศสดชื่นผ่อนคลายราวเป็นป่าผืนหนึ่ง
วันรุ่งขึ้น งานใหญ่ที่หัวหน้าหมู่บ้านอย่างหลินเฉินรอคอยก็มาถึง เขาพาคณะกรรมการหมู่บ้านออกมารอต้อนรับด้วยกัน รถยนต์คันแล้วคันเล่าแล่นเข้ามายังลานกล้างหน้าศูนย์ฟื้นฟูวัฒนธรรมชุมชนหมู่บ้านทูวา
เฝินหลวน เป็นเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำการตรวจครั้งนี้ เขาลงรถมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ตามมาด้วยท่านผู้บัญชาการเจียง
“ที่นี่เหรอ ที่ท่านเจียงเล่าถึง”
“ใช่แล้ว หมู่บ้านทูวานี่แหละที่น่าสนใจ”
“ดูข้างนอกแล้วก็ตกแต่งสถานที่ได้แปลกตาไม่จืดชืดเหมือนทุกปีจริง ๆ นั่นแหละ”
“เรื่องโต๊ะที่ฉันเคยพูดถึงต่างหากที่น่าสนใจ ไป ๆ เรารีบเข้าไปกันเถอะ”
กลุ่มผู้ตรวจงานพากันทยอยเดินเข้าโถงประชุมไปพร้อมกัน ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาก็ได้กลิ่นหอมสดชื่นน่าประหลาดใจ ยิ่งได้เห็นการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ทั้งสบายตายิ่งเผยรอยยิ้มกว้าง
“หัวหน้าหมู่บ้านหลิน ปีนี้หมู่บ้านทูวาดูแตกต่างไปจริง ๆ นะ”
ชุดโต๊ะเก้าอี้ตัวยาวสีเข้มเมื่อถูกประดับด้วยกระถางดอกกล้วยไม้สีอ่อนช่างดูเข้ากันและโดดเด่นมีราคาขึ้นมาทันที
“โอ้ นี่สินะ โต๊ะที่ผู้บัญชาการเจียงเล่าให้ฟังอยู่ตั้งนาน”
“ใช่ ๆ แต่ว่ามันดูดีกว่าแบบที่ฉันเห็นวันแรกนะเนี่ย” เขาหันไปคุยกับหลินเฉินด้วยแววตาสงสัย
“ถ้าที่นั่นดีขนาดนั้น แล้วจะถ่อมาเสนอหน้าถึงที่นี่ทำไมล่ะคุณนายเย่”ว่านอันอันกอดอกก้าวมาเผชิญศัตรู ตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้าเช่นกัน“ว่านอันอัน !” อีกฝ่ายแผดเสียงเกรี้ยวกราดควบคุมอารมณ์ไม่ได้“ฉันรู้จักชื่อตัวเองดี ไม่ต้องเรียก ทางที่ดีมาทางไหนพวกเธอกลับไปทางนั้นเลยดีกว่า ฉันไม่รับแขก”เย่ฟางตงเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีจึงรั้งแขนว่านชิงชิงเอาไว้ข้างหลัง แล้วก้าวมาด้านหน้าเดินเข้าไปใกล้ว่านอันอันด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน พยายามคลี่คลายความตึงเครียด“ใจเย็น ๆ ก่อนอันอัน พี่กับชิงชิงแค่มาเยี่ยมเฉย ๆ เห็นพวกเธอหายไปเลย ไม่กลับบ้านสักครั้ง คุณพ่อเองก็เป็นห่วง ฝากพวกเรามาช่วยถามไถ่”ว่านอันอันย้ายสายตากลับไปมองใบหน้าแสนคุ้นเคยที่อ่อนเยาว์กว่าในความทรงจำ ครั้งก่อนที่พบหน้าเป็นวันแรกที่เธอเพิ่งย้อนอดีตกลับมา มีเรื่องวุ่นวายในหัวไปหมดเลยไม่ทันได้รู้สึกอะไร แต่คราวนี้สีหน้าจอมปลอมของเย่ฟางตงกลับขุดความทรงจำอันเลวร้ายในอดีตของเธอกลับขึ้นมาเสียได้‘อันอันกินนี่สิ ดีต่อผิวพรรณนะ’‘เธออยากได้กระเป๋านี่ไม่ใช่เหรอ พี
หลังจากอ้างว่าไม่ว่างมานาน ในที่สุดเย่ฟางตงก็พาว่านชิงชิงเดินทางมาไกลถึงหมู่บ้านทูวา แม้จะโดยสารมาด้วยรถยนต์นั่งสบายของสามีแต่ว่านชิงชิงก็บ่นไม่หยุดตลอดทาง ทำเอาเย่ฟางตงใกล้หมดความอดทนเต็มที“โอ๊ย ! เมื่อไหร่จะถึงเนี่ย ร้อนก็ร้อน ยังโคลงเคลงไปมาอีก !”เสียงแหลม ๆ นั้นเหวี่ยงวีนหงุดหงิดเต็มที่“เธอเป็นคนร้องจะมาเองไม่ใช่หรือไง ?”“อะไร นี่พี่เย่จะโทษฉันเหรอ”“เฮ้อ”เมื่อเจอประโยคชวนทะเลาะน่ารำคาญอันดับหนึ่งเย่ฟางตงก็ยอมแพ้ ขับรถไปเงียบ ๆ ยิ่งมองใบหน้าของว่านชิงชิงยิ่งอารมณ์ไม่ดี ยาเสพติดที่เขาแอบใส่ในชามน้ำแกงให้ภรรยากินเกือบทุกวัน ทำให้คุณหนูผู้งดงามผิวแห้งกร้านมาก ใต้ตายังคล้ำดำ ริมฝีปากแห้งผากถึงขนาดที่ทาลิปสติกสีสดปกปิดแล้วก็ยังไม่น่ามองถึงจะเสียดายใบหน้าเดิมของว่านชิงชิงอยู่บ้าง แต่เขาก็ต้องทำเพื่อให้เธออยู่ในกำมือ ถึงเวลาใช้งานจะได้ควบคุมง่าย ๆ หน่อยเดินทางกันอยู่อีกนานทั้งสองก็มาถึงหมู่บ้านทูวาในช่วงบ่ายสามโมง รถยนต์หรูของคนแปลกหน้าที่แล่นเข้ามาในหมู่บ้านทำให้ใครต่อใครชี้ชวนมองตาม“นั่นรถใครน่ะ ไม่เคยเห็นมาก่อน”
กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นเวลาก็ไหลไปจรดเย็น ร้านต้นไม้มาส่งของพอดี หลังถูกตกแต่งด้วยพืชใบเขียวร่มรื่นร้านฉาหยูเถียนก็ดูน่านั่งผ่อนคลายขึ้นมาทันที“อันอันครับ” เสียงทุ้มคุ้นของสามีทำให้ว่านอันอันหันไปมองด้วยรอยยิ้มกว้างซ่งหมิงมาพร้อมป้ายชื่อร้านสองป้าย พวกเขาช่วยกันแขวนแล้วคลุมผ้าสีแดงไว้ รอวันเปิดร้านอย่างเป็นทางการหลังเสร็จสิ้นภารกิจวันนี้สองร่างใหญ่เล็กก็เดินเคียงข้างกันชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำ“เฮ้อ ยุ่งสุด ๆ ไปเลยค่ะ” หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่แทบไม่ได้พักหายใจดี ๆ“เหนื่อยไหมครับ” ซ่งหมิงโอบไหล่บางเกลี่ยเส้นผมที่ยุ่งเหยิงอย่างอ่อนโยน“ไม่เหนื่อยค่ะ สนุกมาก รู้สึกว่าการตัดสินใจออกจากเมืองปักกิ่งมาเป็นเรื่องถูกต้องที่สุดเลยค่ะ” เธอเอ่ยความในใจพร้อมรอยยิ้มหวาน“จริงสิ อันอันรู้หรือยังครับ งานเทศกาลฤดูร้อนปีนี้เพราะถนนย่านการค้าหลักมีสะพานถล่ม ทางรัฐจึงย้ายที่จัดมาเป็นถนนเส้นนี้” ซ่งหมิงนึกได้ถึงข่าวน่าตื่นเต้นก็รีบบอกด้วยดวงตาเป็นประกาย“ประกาศแล้วเหรอคะ ?” ว่านอันอันตื่นเต้นตาม แม้จะรู้อยู่แล้ว
วันต่อมาว่านอันอันกับซ่งหมิงก็เริ่มงานแต่เช้า โดยงานแรกคือ... การให้อาหารเจ้าเสี่ยวฮวา แมวส้มตัวน้อยที่ตอนนี้กลายพันธุ์เป็นลูกหมูน้อยตัวกลมดิกไปแล้ว มันคลอเคลียเจ้าของอยู่นาน ร้องตามเหมียว ๆ ไม่หยุด จนว่านอันอันใจอ่อนพามันไปเดินเล่นที่โรงเย็บผ้าด้วยซ่งหมิงนั้นแยกไปโรงไม้เพื่อสั่งงานการสร้างโรงงานผลิตขนมหวานจากถั่วลิสงข้าง ๆ โรงงานตัดเย็บ ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ ที่หัวหน้าหมู่บ้านเสนอให้เอง เหล่าช่างไม้ที่ถนัดการก่อสร้างจึงรวมตัวกันแบกอุปกรณ์ข้าวของไปยังจุดก่อสร้างอย่างขยันขันแข็งสิ่งแรกที่ถูกสร้างคือเพิงเก็บถั่วลิสงขนาดใหญ่สามหลัง สำหรับถั่วลิสงที่จะเปิดรับซื้อวันนี้ งานก่อสร้างทั้งหมดเป็นไปอย่างรวดเร็วในขณะเดียวกันว่านอันอันก็กำลังอธิบายชุดคอลเล็กชันแรกที่จะเปิดตัวในวันงานเทศกาลนี้กับทุกคน เธอคิดค้นรูปแบบที่เหมาะสมกับหน้าร้อนมาโดยเฉพาะ ซึ่งว่านอันอันตั้งใจว่าห้องเสื้อเสียนฮวานี้จะกลายเป็นยี่ห้อหรูที่คุณหญิงคุณนายจับตามองจุดเด่นของยี่ห้อคือดอกไม้แสนพิเศษที่มีจำกัด เธอตั้งใจจะใช้ดอกไม้แต่ละฤดูเป็นลวดลายเฉพาะเพื่อสื่อความหมาย และลวดลายบนผ้าพิมพ
“แล้วฉันจะทำมาหากินอะไรต่อได้ ฮือออ”“ไม่มีที่ทำงานแล้ว ไม่มีงานแล้ว ไม่มีเงินแล้ว ฮืออ”“แล้วลูกสาวฉันที่ป่วยอยู่จะเอาเงินที่ไหนไปรักษา”“ถั่วที่กองอยู่ในลานบ้านฉันมีมากเป็นภูเขา แบบนี้ทุนที่ปลูกไปจะเป็นยังไง !”“จบแล้ว ! จบสิ้นแล้ว ! โฮ !”บรรยากาศสิ้นหวังหดหู่เศร้าใจปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน หลินเฉินเองก็พลอยรู้สึกแก่ขึ้นไปสิบปีด้วยเหมือนกัน ในหัวไร้ทางออกได้แต่เดินปลอบใจถามไถ่ความเป็นอยู่ไปทีละหลัง เสียงร้องไห้คร่ำครวญดังออกมาจนฟ้าแทบถล่ม บางคนจากความเศร้ากลายเป็นความโกรธ พากันหอบถั่วลิสงที่ปลูกมาไปเผาอยู่หน้าโรงงานตามขบวนประท้วงสุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่รัฐคุมตัวไป หัวหน้าหมู่บ้านที่ได้รับคำเตือนมาจึงรีบเรียกประชุมหมู่บ้านด่วน ว่านอันอันและซ่งหมิงเองก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน จึงได้ทราบเรื่องราวทั้งหมดหลังจากที่ทุกคนในหมู่บ้านมารวมตัวกัน ผู้คนในหมู่บ้านทูวาก็เพิ่งสังเกตว่าในหมู่บ้านมีสมาชิกใหม่ ๆ เพิ่มมาเยอะมาก จนแทบล้นศาลาประชุม ผู้นำหมู่บ้านหลิวเห็นทุกคนมาเกือบครบแล้วก็เริ่มพูดขึ้น“เรื่องโรงงานน้ำมันถั่วในครั้งนี้เป็นเหตุร้ายค
“นี่มันเรื่องอะไรกันคะ” หลินลี่จูงงไปหมดหญิงสาวที่แต่งตัวจัดเต็มก้าวถอยหลังพร้อมลูกสมุนอีกสองคนหลังถูกรังสีอำมหิตกดดันจากกลุ่มแม่บ้าน“ยังจะเสแสร้งอีก !”“หล่อนมาพูดอะไรไว้ล่ะ บอกว่าโรงงานเย็บผ้าเห็นชาวบ้านต่ำต้อย กดขี่ค่าแรง หวังจะใช้พวกเราเป็นแรงงานไม่จ่ายเงิน เหยียบคนอื่นให้สูงขึ้นไม่ใช่เหรอไง !”ได้ยินแบบนั้นหลินลี่จูก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ“พวกที่โรงงานตัดเย็บพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าได้เงินเดือนเดือนละตั้งสามสิบหยวน แถมยังมีสวัสดิการวันหยุดกับเงินพิเศษอีก ไม่ได้เป็นเหมือนที่หล่อนบอกเลยสักนิดเดียว !”“ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน พวกฉันคงจะได้งานที่นั่นกันแล้ว !”“ฉันเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ รู้อะไรมาก็พูดไปอย่างนั้นน่ะสิ พวกป้าตีความกันไปเองต่างหาก !”ท่าทางดื้อแพ่งยิ่งทำให้พวกนางโกรธจัด“เป็นเพราะคำพูดไม่มีที่มาที่ไปของหล่อนพวกฉันถึงได้กล้าไปทวงความยุติธรรมเปิดโปงโฉมหน้าคนที่โรงงานน่ะสิ ที่ไหนได้คนที่โดนเปิดโปงกลับเป็นแก !”“หน็อย พูดออกมาได้ ว่าคนเขาจะกดขี่ค่าแรง คนเขาดูถูกชาวบ้าน ถุย ! ผายลมชัด ๆ !”





![จะไม่ทนกับบทบาทนางร้าย [รีไรท์ตอนจบ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

