Share

บทที่ ๔ สมบัติที่หลงลืม

last update Last Updated: 2025-11-04 21:31:56

หลังจากกอดปลอบกันจนหยางเสวี่ยอิงคลายความตื้นตันใจลงแล้ว บรรยากาศภายในเรือนก็พลันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

หยางเสวี่ยอิงและหลานจิงที่ร่างกายกลับมาแข็งแรงกระปรี้กระเปร่าราวกับคนละคน ช่วยกันทำความสะอาดปัดกวาดเรือนที่รกร้างอย่างขะมักเขม้น เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเป็นครั้งคราว เป็นเสียงที่ไม่ได้ยินในเรือนแห่งนี้มานานนับสิบปี

หยางจิ้งอวี่มองภาพนั้นด้วยสายตาที่อ่อนโยนลงเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งทำเป็นอ่อนเพลียแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงเพื่อพักผ่อน แต่ในความเป็นจริง นางต้องการเวลาและสมาธิเพื่อทำความรู้จักกับผู้ช่วยคนใหม่ของนางให้มากขึ้น

‘เจ้านั่น... ระบบ... ถึงเวลาที่ข้าต้องทำความเข้าใจเจ้าอย่างจริงจังเสียที’

นางหลับตาลง รวบรวมสมาธิเพ่งไปยังห้วงความคิด และทันใดนั้นเอง ม่านแสงโปร่งใสคล้ายหน้าต่างบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในจิตของนาง มันคือหน้าต่างระบบที่นางเคยเห็นเพียงแวบเดียว

คราวนี้นางมีเวลาสำรวจมันอย่างละเอียด บนหน้าต่างนั้นมีหมวดหมู่ต่างๆ แบ่งไว้อย่างชัดเจน

[หมวดทักษะ] [หมวดความรู้] [หมวดวัตถุ]

ด้วยความสงสัยจิ้งอวี่จึงลองเพ่งสมาธิไปที่หมวดทักษะก่อน รายการมากมายก็ปรากฏขึ้นมาเป็นแถวยาวเหยียด

[วิชาตัวเบาขั้นต้น]

[ทักษะการใช้พิษเบื้องต้น]

[ทักษะการปลอมตัว]

[ทักษะการแพทย์แผนจีน]

[ทักษะการประเมินราคา]

และอื่นๆ อีกนับร้อยรายการ . . .

หัวใจของจิ้งอวี่เต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ทักษะเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่นางต้องการอย่างยิ่งในตอนนี้ หากมีมันติดตัว การจะเอาชีวิตรอดและแก้แค้นก็ไม่ต่างอะไรกับเสือติดปีก เลยทีเดียว

นางระงับความตื่นเต้นไว้แล้วลองเปิดดูหมวดความรู้ต่อ คราวนี้สิ่งที่ปรากฏขึ้นทำให้นางตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม

[สูตรการหลอมเหล็กกล้าชั้นเลิศ]

[แบบแปลนเครื่องทุ่นแรง - กังหันน้ำและกังหันลม]

[ตำราพิชัยสงครามซุนวูฉบับสมบูรณ์พร้อมคำอธิบาย]

[ความรู้ด้านการเกษตรกรรมยุคใหม่ - การปรับปรุงพันธุ์พืช]

ความรู้เหล่านี้ล้วนล้ำหน้าเกินกว่ายุคสมัยนี้ไปหลายร้อยปี หากนำไปใช้ประโยชน์ มันสามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของแคว้นได้ทั้งแคว้น!

ในที่สุดนี้ นางเปิดดูหมวดวัตถุอย่างระมัดระวัง รายการที่ปรากฏขึ้นมีตั้งแต่ของที่นางพอจะเข้าใจได้ เช่น ยาฟื้นฟูพลังระดับกลาง ยาเม็ดหอมเร้นกาย มีดบินไร้เงา ไปจนถึงของที่ทำให้นางต้องขมวดคิ้วด้วยความงุนงง

ปืนเก็บเสียงรุ่นทดลอง? ทั้งระเบิดควันประสิทธิภาพสูง?

สิ่งเหล่านี้คืออะไรกันแน่ ดูจากชื่อแล้วคล้ายกับอาวุธในชาติก่อนของนาง แต่มันมาอยู่ในที่เช่นนี้ได้อย่างไร ระบบนี้มีที่มาที่ไปเช่นใดกันแน่?

ขณะที่กำลังประหลาดใจอยู่นั้นเอง นางก็สังเกตเห็นตัวอักษรเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ รายการของรางวัลทุกชิ้น

ราคา แต่ราคาที่ว่ากลับไม่ใช่เงินทองหรือของมีค่าใดๆ ทั้งสิ้น

นางลองเพ่งจิตไปที่วิชาตัวเบาขั้นต้น ข้อความก็ปรากฏขึ้น

[วิชาตัวเบาขั้นต้น - แลกเปลี่ยนด้วยค่าคำชม 10 คะแนน(คำชมที่ต้องการ - ระบบช่างมีประโยชน์ยิ่งนัก)]

เมื่ออ่านจนครบ นางจึงลองกดดูของที่สูงขึ้นไปอีกขั้น นั่นก็คือทักษะการใช้พิษเบื้องต้น

[ทักษะการใช้พิษเบื้องต้น - แลกเปลี่ยนด้วยค่าคำชม 50 คะแนน(คำชมที่ต้องการ - ระบบคือผู้รอบรู้ที่สุดในใต้หล้า)]

ครั้นเมื่อนางลองกดดูปืนเก็บเสียงรุ่นทดลอง. . .

[ปืนเก็บเสียงรุ่นทดลอง - แลกเปลี่ยนด้วยค่าคำชม 1,000,000 คะแนน(คำชมที่ต้องการ - ท่านคือมหาเทพเจ้าระบบผู้สร้างสรรค์จักรวาล และเป็นหนึ่งเดียวในดวงใจข้า!)]

“...”

นางก็พลันเข้าใจในทันที ค่าคำชมคือสกุลเงินเดียวที่ใช้ได้กับระบบนี้ และดูเหมือนว่ายิ่งของรางวัลล้ำค่าเท่าไหร่ คำชมที่ต้องใช้ก็ยิ่งต้องเลิศเลอและไร้ยางอายมากขึ้นเท่านั้น

‘น่ารำคาญ แต่นับว่ายุติธรรมดี’

จิตใจของนักฆ่าสาวเริ่มคำนวณอย่างรวดเร็ว นี่คือระบบการแลกเปลี่ยนที่ชัดเจน รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ในเมื่อนางรู้เงื่อนไขแล้ว การจะหลอกล่อเอารางวัลจากระบบบ้ายอตัวนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร

ขณะที่นางกำลังวางแผนบริหารจัดการคำชมอยู่นั้น หน้าต่างระบบก็พลันสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่มาสคอตตัวหนึ่งจะปรากฏขึ้นตรงหน้าของนาง

ก้อนกลมๆ สีขาวนวล นุ่มฟูราวกับปุยเมฆ มีดวงตาสีดำขลับสองดวงแปะอยู่ข้างบน ดูไปดูมาก็คล้ายกับขนมถังหยวนที่ยังไม่ได้ต้ม มันเอียงคอมองนาง ก่อนที่ดวงตาจะหยีลงเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เป็นการแสดงออกถึงรอยยิ้มอย่างชัดเจน

[โฮสต์! ในที่สุดท่านก็เข้ามาสำรวจร้านค้าของข้าเสียที! ตื่นตาตื่นใจใช่หรือไม่ล่ะ! ของรางวัลของข้ายอดเยี่ยมที่สุดเลยใช่ไหม!]

น้ำเสียงร่าเริงนั้นดังมาจากเจ้าก้อนกลมนี่เอง ซึ่งจิ้งอวี่เพียงจ้องมองมันนิ่งๆ ไม่ได้ตอบอะไร

เจ้าก้อนกลมดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ มันลอยเข้ามาใกล้ๆ อย่างเป็นมิตร [ในฐานะที่เราร่วมมือกันเป็นครั้งแรก ข้าคิดว่าเราควรจะทำความรู้จักกันให้มากขึ้น ข้าคือมาสคอตประจำตัวของท่าน ชื่อเป่าเปา ที่แปลว่าของล้ำค่ายังไงล่ะ!]

“...”

[โฮสต์ หนทางแก้แค้นของเรายังอีกยาวไกลนัก] เจ้าเป่าเปากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย [เพื่อการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ร่วมกัน มาสร้างสัมพันธ์อันดีด้วยการชมข้าทุกวันกันเถอะนะ!]

หยางจิ้งอวี่ได้แต่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง นางค่อยๆ กรอกตาขึ้นฟ้าอย่างเหนื่อยใจ

นี่มันไม่ใช่ผู้ช่วย...

แต่เป็นภาระทางอารมณ์ชัดๆ!

หลายวันผ่านไปอย่างสงบสุขผิดปกติ

นับตั้งแต่วันที่ร่างกายฟื้นฟู หยางเสวี่ยอิงและหลานจิงก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกนางช่วยกันทำความสะอาดเรือนจนดูน่าอยู่ขึ้นมาบ้าง

ส่วนหยางจิ้งอวี่นั้นยังคงเล่นละครเป็นคุณหนูสามผู้มีสติปัญญาฟื้นฟูขึ้นเพียงเล็กน้อยได้อย่างแนบเนียน นางมักจะนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเป็นเวลานาน พูดจาตอบคำถามด้วยประโยคสั้นๆ ง่ายๆ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้ท่าทีที่เซื่องซึมนั้น สมองของนางกำลังวางแผนการที่ซับซ้อนอย่างไม่หยุดหย่อน

‘ยาของระบบช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ก็จริง แต่ไม่อาจทำให้อิ่มท้องได้’ หยางจิ้งอวี่ครุ่นคิดในใจ ‘ทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากเงินทุน’

. . .

ราตรีนั้นเงียบสงัด มีเพียงเสียงจิ้งหรีดที่กรีดร้องระงมมาจากพงหญ้านอกเรือน หยางเสวี่ยอิงกำลังนั่งปะชุนเสื้อผ้าเก่าๆ ของน้องสาวอยู่ใต้แสงตะเกียงริบหรี่ ส่วนหลานจิงก็กำลังจัดเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายให้เข้าที่

ทันใดนั้นเอง ร่างของหยางจิ้งอวี่ที่นอนหลับอยู่บนเตียงก็ค่อยๆ ขยับลุกขึ้นนั่งช้าๆ เปลือกตาของนางยังคงปิดสนิท ท่วงท่าดูแข็งทื่อและแปลกประหลาด

“อาอวี่?” หยางเสวี่ยอิงเอ่ยเรียกเบาๆ ด้วยความประหลาดใจ “เจ้าตื่นแล้วหรือ? หิวน้ำหรือไม่?”

แต่จิ้งอวี่กลับไม่ตอบ นางลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆ ราวกับหุ่นกระบอกที่ถูกชักใย ดวงตาของนางเปิดขึ้นเพียงครึ่งหนึ่ง ดูเลื่อนลอยและไร้จุดหมาย

“คุณหนูสาม!” หลานจิงตกใจจนเผลอทำไม้กวาดหลุดจากมือ “ท่าน... ท่านจะไปที่ใดเจ้าคะ?!”

หยางเสวี่ยอิงรีบปราดเข้าไปประคองน้องสาวด้วยความเป็นห่วง “อาอวี่! เจ้าเป็นอะไรไป! ตื่นสิ!”

แต่ร่างของจิ้งอวี่กลับเดินต่อไปอย่างแน่วแน่ นางปัดมือของพี่สาวออกอย่างไม่ตั้งใจ พึมพำด้วยเสียงที่แผ่วเบาและละเมอราวกับคนในฝัน

“ท่านแม่... ท่านแม่...”

คำพูดนั้นทำให้หัวใจของหยางเสวี่ยอิงกระตุกวูบ ความกังวลแปรเปลี่ยนเป็นความสงสารจับใจ หรือว่าน้องสาวของนางจะละเมอเพราะความคิดถึงท่านแม่?

จิ้งอวี่เดินตรงไปยังมุมห้องที่มีหีบไม้การบูรเก่าคร่ำคร่าใบหนึ่งตั้งอยู่ มันคือหีบสินเดิมของมารดาที่แทบไม่มีของมีค่าใดๆ หลงเหลืออยู่แล้ว นางย่อกายลง เปิดฝาหีบที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดออกมา แล้วเริ่มรื้อค้นเสื้อผ้าเก่าๆ ที่อยู่ข้างในอย่างสะเปะสะปะ

“อาอวี่ เจ้าหาอะไรอยู่?” เสวี่ยอิงถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พลางลูบหลังน้องสาวเบาๆ

จิ้งอวี่ไม่ตอบ นางยังคงรื้อค้นต่อไปราวกับถูกบางสิ่งบางอย่างนำทาง ในที่สุด นางก็ออกแรงผลักหีบไม้ทั้งใบให้ขยับไปด้านข้างเล็กน้อยด้วยท่าทีทุลักทุเล

กึก

เสียงบางอย่างดังขึ้นจากพื้นไม้ใต้หีบ หลานจิงที่ถือตะเกียงตามเข้ามาใกล้ๆ ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าแผ่นไม้กระดานแผ่นหนึ่งใต้ตำแหน่งที่หีบเคยตั้งอยู่นั้น มันเผยอขึ้นมาเล็กน้อย

อนึ่งเคล็ดวิชามืดใต้ตะเกียง โดยแท้ สถานที่ที่เห็นอยู่ทุกวัน กลับเป็นที่ที่ถูกมองข้ามมากที่สุด ไม่มีใครเคยคิดจะขยับหีบใบใหญ่นี้มาตลอดหลายปี

จังหวะนั้นเอง ร่างของจิ้งอวี่ก็พลันชะงักงันไป นางค่อยๆ กะพริบตาปริบๆ ราวกับเพิ่งตื่นจากภวังค์ นางมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน ก่อนจะหันมามองพี่สาว

“เจี่ยเจีย... ข้า... ข้ามาทำอะไรที่นี่หรือเจ้าคะ?”

การแสดงอันสมบูรณ์แบบของนางทำให้หยางเสวี่ยอิงเชื่อสนิทใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการละเมอเท่านั้น

“ไม่เป็นไรแล้ว” นางปลอบ “เจ้าคงจะฝันถึงท่านแม่น่ะ”

แต่แล้วสายตาของนางก็พลันเหลือบไปเห็นแผ่นไม้ที่เผยอขึ้นนั้น ความอยากรู้อยากเห็นเข้าแทนที่ความกังวลในทันที

“หลานจิง ช่วยข้าแงะแผ่นไม้นี่ขึ้นมาที”

หลานจิงรีบวางตะเกียงลงแล้วใช้กิ่งไม้เล็กๆ สอดเข้าไปในร่องก่อนจะออกแรงงัดเพียงเล็กน้อย แผ่นไม้ก็เปิดออกอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นโพรงสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่อยู่ข้างใต้ และในโพรงนั้นมีกล่องไม้ขนาดย่อมใบหนึ่งวางซ่อนอยู่

หัวใจของหยางเสวี่ยอิงเต้นระรัว นางค่อยๆ ยื่นมือที่สั่นเทาลงไปหยิบกล่องไม้นั้นขึ้นมา มันเป็นกล่องไม้จันทน์หอมที่เรียบง่ายแต่ประณีต เมื่อเปิดฝาออก กลิ่นหอมจางๆ ของดอกม่อลี่ซึ่งเป็นกลิ่นกายประจำตัวของมารดาก็ลอยขึ้นมาแตะจมูก

น้ำตาของนางรื้นขึ้นมาในทันทีเมื่อเห็นของต่างหน้าของมารดาผู้ล่วงลับ

ภายในกล่องบุด้วยผ้าไหมสีอ่อนอย่างดี มีของอยู่เพียงไม่กี่ชิ้น กำไลหยกขาวคู่หนึ่ง ตั๋วเงินจำนวนไม่มากนัก และปิ่นปักผมหยกขาวสลักอันหนึ่งที่งดงามที่สุดเท่าที่นางเคยเห็น

หลานจิงมองตาค้าง “นี่มัน... ทรัพย์สมบัติที่ฮูหยินเอกซ่อนเอาไว้หรือเจ้าคะ?!”

หยางเสวี่ยอิงไม่ได้ยินคำพูดของนางด้วยซ้ำ นางหยิบปิ่นปักผมหยกชิ้นนั้นขึ้นมาอย่างทะนุถนอม ความทรงจำในวัยเด็กพลันย้อนกลับมาชัดเจน

“นี่คือของขวัญที่ท่านพ่อมอบให้ท่านแม่ ข้าจำได้”

ขณะที่พี่สาวกำลังจมอยู่ในห้วงแห่งความหลัง หยางจิ้งอวี่กลับจ้องมองของในกล่องด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๕๑ เปิดโปงการทุจริต – ๒

    ณ สำนักตรวจการแผ่นดินสถานที่แห่งนี้นับเป็นดาบอาญาสิทธิ์ขององค์ฮ่องเต้ เป็นฝันร้ายของเหล่าขุนนางกังฉินทั่วทั้งแผ่นดิน บรรยากาศภายในนั้นเคร่งขรึมและน่าเกรงขามอยู่เสมอ ทุกย่างก้าว ทุกสายตา ล้วนเต็มไปด้วยความเที่ยงตรงและไร้ซึ่งการประนีประนอมและผู้ที่กุมอำนาจสูงสุดของสถานที่แห่งนี้ก็คือ หลวงจางอี้บุรุษชราวัยหกสิบปลายผู้ได้รับสมญานามว่าจางหน้าเหล็ก เขาคือขุนนางตงฉินผู้ยึดมั่นในหลักการที่ว่า โอรสสวรรค์กระทำผิด ก็ต้องรับโทษทัณฑ์เช่นเดียวกับสามัญชน มาตลอดชีวิต เขาเกลียดชังการทุจริตคอร์รัปชันยิ่งกว่าอสรพิษร้าย และอุทิศทั้งชีวิตเพื่อถอนรากถอนโคนเหล่า หนอนบ่อนไส้ของแผ่นดิน ให้สิ้นซากเช้าวันนั้น ขณะที่หลวงจางอี้กำลังจะเริ่มตรวจสอบฎีการ้องเรียนกองโตที่อยู่บนโต๊ะทำงานของเขา สายตาของเขาก็พลันไปสะดุดเข้ากับวัตถุชิ้นหนึ่งที่แปลกปลอมมันคือกล่องไม้สีดำสนิทที่ไม่มีลวดลายใดๆ วางเด่นเป็นสง่าอยู่กลางโต๊ะ“ใครเป็นผู้นำสิ่งนี้เข้ามา!” เขาตวาดถามเสียงกร้าวองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องรีบวิ่งเข้ามาคุกเข่าลงด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด “ขะ ข้าน้อยไม่ทร

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๕๑ เปิดโปงการทุจริต – ๑

    คลื่นลมจากการล่มสลายของตระกูลหลี่และการปราบปรามกบฏของอัครเสนาบดีมู่ได้ค่อยๆ สงบลง แต่สำหรับจวนหยางกั๋วกงแล้ว พายุที่แท้จริงยังมาไม่ถึงสภาพของสกุลหยางในยามนี้เปรียบเสมือน สุนัขที่ตกน้ำ ช่างน่าสมเพชและอ่อนแออย่างที่สุดการที่อนุหลี่ผู้กุมอำนาจในเรือนหลังถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรม ได้สร้างความสั่นคลอนอย่างรุนแรงต่อเสถียรภาพภายในจวน ชื่อเสียงที่เคยตกต่ำอยู่แล้ว บัดนี้กลับเหม็นเน่ายิ่งกว่าซากศพ กิจการค้าต่างๆ เริ่มซบเซา ไม่มีตระกูลใดอยากจะคบค้าสมาคมหรือเกี่ยวดองด้วยอีก หยางกั๋วกงผู้เคยหยิ่งผยอง กลับกลายเป็นตัวตลกในราชสำนัก เขาเอาแต่เก็บตัวดื่มสุราและระบายอารมณ์ใส่เหล่าบ่าวไพร่ ส่วนฮูหยินผู้เฒ่าก็ล้มป่วยด้วยความเจ็บใจจนลุกจากเตียงไม่ขึ้นจวนสกุลหยางที่เคยยิ่งใหญ่ ยามนี้ไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ใหญ่ที่รากแก้วถูกตัดขาด แม้จะยังยืนต้นอยู่ได้ แต่ก็รอวันที่จะโค่นล้มลงมาเท่านั้น ณ จวนผิงหลางฝู่“นายหญิง สกุลหยางในยามนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเสือที่ไร้เขี้ยวเล็บแล้วขอรับ” อาหมิงรายงานสถานการณ์ล่าสุดให้หยางจิ้งอวี่ฟัง “กิจการของพวกเขากำลังจะล้มละลายในไม่

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๕๐ หนี้บุญคุณ – ๒

    เพลิงพิโรธขององค์ฮ่องเต้เมื่อถูกลูบคมนั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าพายุอัสนีบาต คำสั่งถูกส่งออกไปในคืนนั้น และปฏิบัติการก็เริ่มต้นขึ้นในยามรุ่งสาง กองกำลังองครักษ์หลวงที่นำโดยแม่ทัพใหญ่เคลื่อนพลด้วยความเร็วประดุจสายฟ้าและสายลม พวกเขาบุกเข้าจู่โจมค่ายทหารร้างนอกเมืองอย่างรวดเร็ว ปลดอาวุธกองกำลังลับของอัครเสนาบดีมู่ได้โดยไม่มีการนองเลือดแม้แต่หยดเดียว ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ทหารหลวงอีกกลุ่มก็ได้บุกเข้าตรวจค้นจวนของอัครเสนาบดีมู่และตำหนักขององค์รัชทายาทรองเจิ้งเฟิงหยาง และในเช้าวันรุ่งขึ้น ราชโองการฉบับหนึ่งก็ได้ถูกประกาศขึ้นกลางท้องพระโรง สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแผ่นดิน อัครเสนาบดีมู่จิ้งเทียนและพรรคพวก มีความผิดฐานซ่องสุมกำลังคน วางแผนก่อการกบฏ ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตเก้าชั่วโคตร! องค์รัชทายาทรองเจิ้งเฟิงหยาง แม้จะไม่มีหลักฐานว่ารู้เห็นกับแผนการกบฏโดยตรง แต่ก็มีความผิดฐานร่วมมือใส่ร้ายองค์รัชทายาท ให้ปลดออกจากฐานันดรศักดิ์ ลดขั้นลงเป็นสามัญชน และให้คุมขังไว้ที่ศาลบรรพชนหลวงตลอดชีวิต และองค์รัชทายาทเจิ้งเฟิงเยวี่ยได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้บริสุทธิ์โดยสมบูรณ์ ฮ่องเต้ทรงประท

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๕๐ หนี้บุญคุณ – ๑

    ทันทีที่ทักษะวิเคราะห์จุดอ่อนศัตรูถูกเปิดใช้งาน โลกในความคิดของหยางจิ้งอวี่ก็พลันเปลี่ยนไป ข้อมูลจากม้วนสาส์นนับร้อยที่กองอยู่บนโต๊ะ ลอยขึ้นมาในเบื้องหน้าของนาง ก่อตัวขึ้นเป็นแผนผังอันซับซ้อน ทุกเส้นสาย ทุกจุดเชื่อมโยง ถูกแสดงออกมาอย่างชัดเจน [ติ๊ง! กำลังวิเคราะห์ข้อมูล... ตรวจสอบความขัดแย้ง] เสียงของระบบดังขึ้นอย่างเป็นกลาง [ตรวจพบความขัดแย้งในบัญชีรายจ่าย บันทึกระบุว่ามีการสั่งซื้อหยกโบราณและอัญมณีล้ำค่าจากร้านว่านเป่าเก๋อ ในวันที่สิบห้าเดือนที่แล้ว แต่สายข่าวของเราที่ฝังตัวอยู่ในร้านนั้นยืนยันว่า ตลอดเดือนที่ผ่านมา ร้านว่านเป่าเก๋อไม่มีการทำธุรกรรมใหญ่ใดๆ เกิดขึ้นเลย] ‘เจอตัวแล้ว!’ จิ้งอวี่ลืมตาขึ้นทันที แววตาของนางคมกริบ นี่คือเส้นด้ายเส้นแรกที่หลุดลุ่ยออกมาจากอาภรณ์ที่ดูเหมือนจะถักทอไว้อย่างสมบูรณ์แบบ หลักฐานที่พวกมันสร้างขึ้น มีจุดที่เป็นเรื่องโกหก! “อาหมิง!” นางเรียกเสียงเฉียบขาด “ขอรับนายหญิง!” “ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดของกรมคลังที่เกี่ยวข้องกับเงินบรรเทาทุกข์อีกครั้ง!” นางสั่งการอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องสนใจบัญชีที่คุณชายรองนำไปถวายฮ่องเต้ แต่ให้ตามรอยเงินและเสบ

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๔๙ คำร้องยามวิกาล – ๒

    หยางจิ้งอวี่ไม่ได้กลับไปยังจวนผิงหลางฝู่ในทันที เพราะโรงเตี๊ยมเยว่หลันแห่งนี้ ได้แปรสภาพกลายเป็นศูนย์บัญชาการชั่วคราวของนางไปแล้วบรรยากาศที่เคยสงบสุขและเยือกเย็น กลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดและเร่งรีบราวกับอยู่ในค่ายทหารก่อนออกศึก สายลับของหน่วยเย่ถิงเก๋อในชุดสามัญชนต่างวิ่งวุ่นเข้าออกห้องบัญชาการ นำม้วนสาส์นลับเข้ามาส่งและรับคำสั่งใหม่ออกไปอย่างไม่ขาดสาย อาหมิงยืนอยู่ข้างกายนาง ทำหน้าที่เป็นเสมือนแม่ทัพรอง คอยประสานงานและคัดกรองข้อมูลเบื้องต้นนางคือแม่ทัพ และนี่คือกองทัพเงาของนาง!“องค์รัชทายาทถูกใส่ร้าย” จิ้งอวี่กล่าวขึ้นกับเหล่าหัวหน้าหน่วยที่มาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียง ใบหน้าของนางเรียบเฉย แต่ดวงตากลับคมกล้าราวกับใบมีด “เบื้องหลังคืออัครเสนาบดีมู่และองค์รัชทายาทรองเจิ้งเฟิงหยาง พวกมันกำลังคิดจะโค่นล้มองค์รัชทายาท”นางหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบจับขั้วหัวใจ “การกระทำของพวกมันไม่ใช่แค่การชิงอำนาจในราชสำนัก แต่คือการท้าทายหอกระจายข่าวถูเป่าโหลวของเราโดยตรง!”นางกำลังผูกชะตากรรมขององค์รัชทายาทเข้ากับศักดิ์ศรีขององค์กร เป็นการปลุกใจที่ได้ผลที่สุดแววตาของทุก

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๔๙ คำร้องยามวิกาล – ๑

    ข่าวการถูกกักบริเวณขององค์รัชทายาทได้แพร่สะพัดไปทั่วราชสำนัก แต่กลับถูกปิดกั้นอย่างแน่นหนาไม่ให้เล็ดลอดออกมาสู่โลกภายนอก เมืองหลวงยังคงดูสงบสุข แต่เบื้องหลังกำแพงวังหลวงนั้น คลื่นลมแห่งการชิงอำนาจกำลังโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งณ โรงเตี๊ยมเยว่หลันที่นี่ไม่ใช่โรงเตี๊ยมเยว่หลันที่โอ่อ่าและเป็นที่รู้จักทั่วไป แต่เป็นเพียงโรงน้ำชาเล็กๆ ที่ตั้งอยู่อย่างสงบเสงี่ยมในตรอกที่เงียบที่สุด มันคือหนึ่งในฐานลับสุดยอดของหอกระจายข่าวถูเป่าโหลว สถานที่สำหรับภารกิจที่สำคัญที่สุดเท่านั้นในห้องส่วนตัวชั้นบนสุด หยางจิ้งอวี่ในนามของเซวี่ยนหยิง กำลังนั่งพิจารณารายงานความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อาหมิงเพิ่งนำมาส่งให้ นางขมวดคิ้วเล็กน้อย นางรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง การเคลื่อนไหวของขั้วอำนาจองค์รัชทายาทรองและอัครเสนาบดีมู่ในช่วงสองวันที่ผ่านมานั้น มันช่างเงียบสงบจนน่าประหลาดทันใดนั้นเอง! ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออกอย่างแรง!“นายหญิง!” สายลับผู้หนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามารายงาน “มี... มีคนบาดเจ็บพยายามจะขอพบท่าน! เขาอ้างว่าถูกส่งมาจาก...”ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ร่างของบุรุษผู้หนึ่งในอาภรณ์สีเข้มที่ขาดวิ่นและเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status