จ้าวถิงถิงนั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นโคมไฟลอยอยู่บนท้องฟ้าไกลๆ วิบวับราวหิ่งห้อยหันไปมองนัวนั่วที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกลก็ถอนหายใจ
" ไป"
" ไปไหนเจ้าคะ"
" เจ้าอยากไปเที่ยวงานไม่ใช่รึ"
" คุณหนูจะพาข้าไปหรือเจ้าคะ"
นัวนั่วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
" อืม ไปดูซิรถม้ายังมีอยู่หรือเปล่า"
" เจ้าค่ะคุณหนู"
ใช้เวลาสักพักก็มาถึงงาน
" ที่จริงข้าก็ไม่อยากจะมาสักเท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะ ข้าอยากให้คุณหนูมาเที่ยวพักผ่อนมากกว่า"
พูดไปก็มองนู่นมองนี่ สายตาเป็นประกายบ่งบอกว่าตื่นตาตื่นใจ
" คุณหนูตรงนั้นมีอะไรไม่รู้คนมุงกันเพียบเลย ไปดูกันเจ้าค่ะ"
นัวนั่วจูงมือจ้าวถิงถิง เบียดเสียดผู้คนไปดู
" ว้าวคุณหนู แสดงเชิดสิงโตลอดห่วงไฟเจ้าค่ะ"
จ้าวถิงถิงเหลือบมองนัวนั่วที่จ้องมองการแสดงอย่างตื่นเต้น ปรบมือส่งเสียงเชียร์ไม่หยุด นางส่ายหน้ายิ้มบางๆด้วยความเอ็นดูพอการแสดงจบลงผู้คนก็แยกย้าย ไม่คิดว่าคนเยอะขนาดนี้ยังได้เจอจ้าวฉู่หรัน นางจะเดินเลี่ยงไปทางอื่นแต่จ้าวฉู่หรันก็วิ่งเข้ามาหานางเสียก่อน
" พี่ถิงถิงไหนว่าไม่มาไง ดีใจจังที่ได้เจอท่าน"
นางมองเลยไปข้างหลัง เห็นหยางหานกับหวังจื่อเย่เดินตามมา
" ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าไม่มา ข้าก็เลย"
"ดียิ่งนัก เป็นทั้งองครักษ์และคู่หมั้นของข้าแต่กลับไปเดินตามคนอื่น นัวนั่วเราไปทางนั้นกันเถอะ"
" เจ้าค่ะคุณหนู"
นัวนั่วมองหวังจื่อเย่ด้วยสายตาไม่พอใจก่อนจะสะบัดหน้าเดินตามจ้าวถิงถิงไป
" พี่ถิงถิงเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ"
จ้าวฉู่หรันรีบเข้าไปขวางหน้า
"ข้ารู้ว่าท่านโกรธข้าเรื่องจี้หยกที่จื่อเย่ให้เลยพูดแบบนี้ ท่านอย่าน้อยใจไปเลย ท่านรักจื่อเย่มานานข้ารู้ดี ข้าไม่มีความคิดจะแย่งเขาไปจากท่านเลย ขอให้ท่านเชื่อข้าเถอะ ถ้าเป็นเพราะเรื่องจี้หยกทำให้ท่านต้องขุ่นข้องหมองใจ ข้าสามารถให้ท่านได้"
จ้าวฉู่หรันถอดจี้หยกยื่นให้จ้าวถิงถิง แม้หวังจื่อเย่จะไม่พอใจแต่ก็ข่มอารมณ์เอาไว้เขาอยากจะบอกว่าจี้หยกชิ้นนี้เขาให้จ้าวฉู่หรันไม่ใช่จ้าวถิงถิง จ้าวถิงถิงมองหน้าหวังจื่อเย่แล้วกระตุกยิ้มมุมปาก
" ไม่ต้องทำหน้าผิดหวังขนาดนั้น ข้าไม่เอาของของเจ้าหรอก ข้ารู้จี้หยกนี้เป็นของมารดาเจ้า และเจ้าก็สวมติดตัวไว้ตลอดไม่เคยถอด เพราะสำคัญมากถึงได้มอบให้กับคนสำคัญ แล้วข้าจะเอาไปได้ยังไง"
" ขอบคุณคุณหนูใหญ่ที่เข้าใจ จี้หยกนี้ข้าให้คุณหนูรองไปแล้วย่อมไม่ต้องการเอาคืน หากท่านต้องการจี้หยกแบบนี้ ข้าจะหามาใหม่อาจไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แต่จะหามาให้เหมือนกันให้มากที่สุด"
" ไม่จำเป็น ข้าก็เคยพูดไปแล้วว่าไม่ต้องการอะไรจากเจ้าทั้งนั้น"
นางจูงมือนัวนั่วเดินชนไหล่จ้าวฉู่หรันออกไป
" จื่อเย่รีบตามนางไปสิ"
หวังจื่อเย่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเร่งตามจ้าวถิงถิงไป แม้จะตามนางแต่ก็คอยหันไปมองจ้าวฉู่หรันที่เดินอยู่ข้างหลังบ่อยๆ
" คุณหนูขนมตรงนั้นน่ากินนะเจ้าคะ ท่าจะอร่อย คนต่อแถวซื้อกันเพียบเลย ท่านอยากกินไหมเจ้าคะข้าจะไปซื้อมาให้"
" อืมก็ดี เดินไปเดินมาชักหิวขึ้นมาละ"
" งั้นคุณหนูรอข้าแถวนี้นะเจ้าคะ"
" รู้แล้ว รีบไปเร็วเดี๋ยวแถวยาวกว่าเก่า"
" เจ้าค่ะเจ้าค่ะ"
พอนัวนั่วเดินออกไป ชายกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาพูดจาลวนลาม มองจ้าวถิงถิงด้วยสายตาแทะโลม นางถอยหลังหนีมองหาคนช่วยสายตาเห็นหวังจื่อเย่กำลังยืนยิ้ม มองจ้าวฉู่หรันที่เลือกซื้อเครื่องประดับอยู่
" จื่อเย่ จื่อเย่ ถอยออกไปนะ ข้าบอกให้ถอยไปไง จื่อเย่ช่วยข้าด้วย"
นางร้องเรียกเขา แต่เพราะระยะห่างไกลกันอีกทั้งคนเยอะเสียงดัง เขาถึงไม่ได้ยินเสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือจากนาง เขาไม่คิดจะหันมามองนางเลยสักนิด สายตาจ้องมองแต่จ้าวฉู่หรัน หากเขาหันมามองนางบ้าง ก็จะเห็นว่าตอนนี้นางกำลังถูกผ้าปิดปากและพาเดินหายไปอีกทาง
นัวนั่วซื้อขนมเสร็จก็ไม่เห็นจ้าวถิงถิง นางหันไปมองรอบๆตัวก็ไม่มี เห็นหวังจื่อเย่ยืนอยู่ไม่ไกลก็รีบเข้าไปหา
" จื่อเย่แล้วคุณหนูของข้าหล่ะ คุณหนูอยู่ไหน"
" นางก็ยืน"
หวังจื่อเย่ชี้ไปตรงที่จ้าวถิงถิงยืนอยู่ แต่ตอนนี้กลับไม่มีนาง
" ก็เมื่อกี้นางยังยืนอยู่ตรงนั้น "
" เมื่อกี้ของเจ้าหน่ะมันตอนไหน แล้วตอนนี้นางอยู่หรือไม่เล่า"
" ไม่ใช่ว่าเจ้าอยู่กับนางตลอดหรอกรึ"
" ข้าไปต่อแถวซื้อขนมให้นางอยู่ จื่อเย่เจ้าไม่รู้ไม่เห็นเลยใช่ไหม อ้อคงเพราะคุณหนูรองสินะ "
" ไม่เกี่ยวกับคุณหนูรอง เจ้าอย่าโทษนาง"
" ได้ งั้นข้าโทษเจ้า เจ้าเป็นองครักษ์ของคุณหนูใหญ่แล้วยังเป็นคู่หมั้นของนางอีก แต่กลับไม่อารักขานาง ปล่อยให้นางยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้คนมากมาย เป็นเพราะเจ้าทำให้คุณหนูต้องหายไป"
" เกิดอะไรขึ้น"
หยางหานเข้ามาถาม
" คุณหนูใหญ่หายตัวไป ช่วยข้าตามหานางที"
" ใจเย็นๆนะนัวนั่ว เจ้าหานางดีหรือยังนางอยู่แถวนี้แหละ คนเยอะเจ้าอาจจะตาลายก็ได้ "
นัวนั่วไม่สนใจคำพูดของจ้าวฉู่หรัน วิ่งตามหาจ้าวถิงถิงไปทั่ว ผ่านไปพักใหญ่ก็ไม่มีวี่แวว ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี หยางหานกับจ้าวฉู่หรันก็ช่วยกันตามหา
" หยานหานเจ้ารีบไปบอกนายท่าน ข้าจะไปแจ้งกองปราบ"
เงียบไม่มีเสียงตอบรับ นัวนั่วหันไปดูก็โกรธจนกัดฟันกรอด เห็นจ้าวฉู่หรันนั่งจิบน้ำชาอยู่ในร้าน มีหยางหานนั่งรินน้ำชาให้ ส่วนหวังจื่อเย่ไปต่อแถวซื้อลูกชิ้นย่างอยู่ร้านตรงข้าม นี่มันใช่เวลาไหม นางเดินเข้าไปต่อว่า
" คุณหนูใหญ่หายตัวไปไม่ช่วยกันตามหายังจะมีแก่ใจมานั่งจิบชา ดี ดีจริงๆ"
" ไม่ใช่ข้าไม่ตามหา แต่ข้าไม่ไหวจริงๆ คนเยอะอากาศร้อนข้ารู้สึกเวียนหัว เลยแวะดื่มชาพอได้มีแรง ขอข้าพักสักครู่เถอะ แล้วข้าจะไปช่วยตามหานางต่อ"
" ไม่ต้องหรอก ท่านสุขภาพอ่อนแออย่าฝืนเลย เรื่องตามหาคุณหนูใหญ่ให้ข้าจัดการเอง ท่านกินนี่ก่อนกำลังร้อนๆ"
หวังจื่อเย่ยื่นลูกชิ้นย่างให้จ้าวฉู่หรัน นัวนั่วแค่นหัวเราะทั้งน้ำตา ก่อนจะรีบวิ่งออกไปแจ้งกองปราบ จริงสิงานใหญ่แบบนี้ต้องมีคนของทางการมารักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว สายตามองไปเห็นทหารเดินอยู่จึงรีบไปขอความช่วยเหลือ
" หยางหานเจ้าพาคุณหนูรองกลับไปก่อนข้าจะไปตามหาคุณหนูใหญ่เอง"
" นี่เจ้าพวกเจ้าพาใครที่ไหนมา"
" ไม่รู้เหมือนกัน แต่นางงามมากใช่ไหมหล่ะ"
" นี่พวกเจ้าฉุดนางมารึ"
จงเป่าร้องถามอย่างตกใจ
" ก็ไม่เชิง มีคนฉุดนางอยู่ก่อนแล้ว พวกข้าก็เลยฉุดต่ออีกที เฮ้ย แล้วเจ้าจะมาทำเป็นคนดีอะไรห๊ะ ลืมไปแล้วรึว่าพวกเราเป็นโจร"
" ข้าไม่ลืมหรอกว่าเป็นโจรหน่ะ แต่ถึงเป็นโจรก็แค่ปล้นเอาทรัพย์สินเงินทอง ปล้นแต่พวกขุนนางกังฉินกับพวกคนรวยที่นิสัยไม่ดี ไม่เคยฉุดผู้หญิง นี่มันผิดจรรยาบรรณโจรของพวกเรา"
" ก็วันนี้วันเกิดพี่ใหญ่ มันก็ต้องมีของขวัญพิเศษให้เขาหน่อยสิ"
" ใช่ๆ รับรองว่าพี่ใหญ่ต้องชอบของขวัญจากพวกข้าแน่นอน"
" ฉุดผู้หญิงมาให้พี่ใหญ่เนี่ยนะ"
" ก็ใช่หน่ะสิ พี่ใหญ่ปีนี้ก็25แล้วยังไม่มีเมียนางนี่แหละเหมาะ ฮ่าฮ่า"
" เฮ้ย อย่ามัวเสียเวลาเลย รีบพานางเข้าไปป่านนี้ยาออกฤทธิ์แล้ว"
จงเป่ามองดูเพื่อนๆแบกหญิงสาวเข้าห้องฮ่าวหยูไป นึกถึงก่อนหน้าที่พวกเขากำลังกินดื่มฉลองวันเกิดให้ฮ่าวหยู เจ้าพวกนี้ก็เอาเหล้าไหหนึ่งมาขะยั้นขะยอบอกให้ฮ่าวหยูดื่มให้หมด ยังบอกว่าเป็นเหล้าสูตรพิเศษหรือว่าในเหล้านั้นจะมี จงเป่าอ้าปากตกใจ
เหอเจี้ยน ถังหมิง หวงซื่อ พากันเดินออกมา
" ไปเถอะพวกเรา ไปดื่มเหล้ากันต่อ ปล่อยให้พี่ใหญ่ขึ้นสวรรค์ไป "
ฮ่าวหยูมองหญิงสาวที่นั่งขดตัวอยู่มุมห้องไม่ร้องไห้ ไม่โวยวายไม่พูดจา เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เดินไปใกล้นางยื่นมือให้จ้าวถิงถิงปัดมือเขาออก" ไปให้พ้น"" เรื่องเมื่อคืน ข้าไม่ได้ต้องการให้มันเกิดขึ้น"นางจ้องหน้าเขาด้วยสายตาไม่พอใจ" ไม่ต้องการ แต่เอาข้าทั้งคืน เหอะ คำพูดกับการกระทำของเจ้ามันช่างสวนทางกันจริงๆ"" ข้า"ฮ่าวหยูพูดไม่ออก" ข้าก็ลืมไปว่าเจ้ามันเป็นโจร จะมีสัจจะในหมู่โจรได้ยังไง บอกว่าจะทำค่อยๆแต่เจ้าก็"นางไม่ได้พูดต่อ นึกถึงเมื่อคืนที่เขาร่วมรักกับนาง คนอะไรแรงดีไม่ดีตก กระแทกอยู่นั่นแหละ ทั้งใหญ่ทั้งยาวจนนางจุกไปหมด ฮ่าวหยูถึงกับหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา" ข้า ข้าขอโทษ เจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่"" ยังจะมีหน้ามาถามอีก"นางลุกขึ้นเผชิญหน้ากับเขา ก่อนจะดันตัวเขาออกเดินไปนั่งลงที่โต๊ะน้ำชารินชาดื่ม อืม ชุ่มคอหน่อย เมื่อคืนครางมากจนคอแห้งเจ็บคอไปหมด" เรื่องเมื่อคืนเป็นลูกน้องของข้าที่แอบใส่ยาปลุกกำหนัดในเหล้า ทำให้ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้ ข้าก็ไม่รู้ว่าพวกเขาไปจับตัวเจ้ามาให้ข้า"" อืม ช่างเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไป คิดซะว่าเราช่วยกันเปิดประสบการณ์"ฮ่าวหยูอ้าปากค้าง นี่นางเป็น
ฮ่าวหยูจ้องมองหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง แสงไฟจากตะเกียงสาดส่องมาเห็นใบหน้านวลเนียนผุดผ่อง งดงามจนไม่อาจละสายตา อดไม่ได้ที่จะใช้มือลูบไล้แก้มป่อง นิ้วโป้งสัมผัสปากจิ้มลิ้มที่นุ่มนิ่มน่าจูบ มองต่ำลงมาที่ทรวงอกอวบใหญ่ ไล่ต่ำลงไปที่กลางกาย เหตุใดถึงได้โหนกนูนเช่นนี้ เกิดมา25ปีไม่เคยร่วมรักกับหญิงใดมาก่อน แม้จะเคยเห็นหญิงงามมานักต่อนักแต่ไม่มีใครที่เขาอยากสัมผัสเท่าคนตรงหน้าจะด้วยฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด หรือเพราะความงามของนางเขาก็ไม่รู้แน่ ตอนนี้มือหยาบหนากำลังลูบไล้โหนกนูนของนางอยู่" อืมม อูมใหญ่ อยากเลียจัง"จ้าวถิงถิงรับรู้ถึงสัมผัสแปลกๆช่วงล่าง นางค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็ตกใจ นี่นางอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ แผล่บ แผล่บ แผล่บ ซู้ดดด"อืมหวาน หวานมาก ซู้ดดด"นางตกใจยิ่งกว่าเมื่อรู้ว่าตอนนี้นางเปลือยเปล่า ยังมีชายคนหนึ่งกำลังดูดเลียตรงนั้นของนางอยู่ เขาทั้งเลียทั้งดูด กลืนน้ำหวานจากรูของนางอย่างเอร็ดอร่อยกรี๊ดดดด นางกรีดร้องผลักไสเขาออก ฮ่าวหยูพลันได้สติ แต่ก็แค่แป๊บเดียวฤทธิ์ยาก็เข้าครอบงำอีก หญิงงามเปลือยกายอ้าซ่าอยู่ตรงหน้าใครจะอดใจไหว จ้าวถิงถิงลงจากเตียงคว้าผ้ามาปิดคลุม แต่ฮ่าวหยูกระโจนเข้
จ้าวถิงถิงนั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นโคมไฟลอยอยู่บนท้องฟ้าไกลๆ วิบวับราวหิ่งห้อยหันไปมองนัวนั่วที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกลก็ถอนหายใจ" ไป"" ไปไหนเจ้าคะ"" เจ้าอยากไปเที่ยวงานไม่ใช่รึ"" คุณหนูจะพาข้าไปหรือเจ้าคะ"นัวนั่วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น" อืม ไปดูซิรถม้ายังมีอยู่หรือเปล่า"" เจ้าค่ะคุณหนู"ใช้เวลาสักพักก็มาถึงงาน" ที่จริงข้าก็ไม่อยากจะมาสักเท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะ ข้าอยากให้คุณหนูมาเที่ยวพักผ่อนมากกว่า"พูดไปก็มองนู่นมองนี่ สายตาเป็นประกายบ่งบอกว่าตื่นตาตื่นใจ" คุณหนูตรงนั้นมีอะไรไม่รู้คนมุงกันเพียบเลย ไปดูกันเจ้าค่ะ"นัวนั่วจูงมือจ้าวถิงถิง เบียดเสียดผู้คนไปดู" ว้าวคุณหนู แสดงเชิดสิงโตลอดห่วงไฟเจ้าค่ะ"จ้าวถิงถิงเหลือบมองนัวนั่วที่จ้องมองการแสดงอย่างตื่นเต้น ปรบมือส่งเสียงเชียร์ไม่หยุด นางส่ายหน้ายิ้มบางๆด้วยความเอ็นดูพอการแสดงจบลงผู้คนก็แยกย้าย ไม่คิดว่าคนเยอะขนาดนี้ยังได้เจอจ้าวฉู่หรัน นางจะเดินเลี่ยงไปทางอื่นแต่จ้าวฉู่หรันก็วิ่งเข้ามาหานางเสียก่อน" พี่ถิงถิงไหนว่าไม่มาไง ดีใจจังที่ได้เจอท่าน"นางมองเลยไปข้างหลัง เห็นหยางหานกับหวังจื่อเย่เดินตามมา" ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าไม่มา ข้าก
" คุณหนูเจ้าขา วันนี้อากาศดีไปเดินเล่นไหมเจ้าคะ"" อืมก็ได้"เปิดประตูห้องออกมาก็เจอหวังจื่อเย่ยืนอยู่นางไม่สนใจเดินผ่านเขาไป เขาเดินมาขวางหน้ายื่นถุงผ้าให้ นางปรายตามองแว่บหนึ่งไม่พูดอะไรเดินเลี่ยงออกมา เขาก็ตามมาขวางหน้าอีก" ข้าให้ท่าน"" ข้าไม่ต้องการ"นางเดินหนีแต่เขาก็เดินตาม" แต่นี่เป็นของหมั้น ท่านอยากได้มาตลอดไม่ใช่รึ ข้าก็ไปหาซื้อมาให้ท่านแล้วนี่ไง"นางหยุดชะงัก หันหันกลับมามองเขา ก่อนจะหยิบถุงผ้าในมือเขามาเปิดดู เป็นกำไลหยกสีชมพู นางเก็บใส่ถุงส่งคืนให้เขา" สีชมพูเป็นสีที่ฉู่หรันชอบ ส่วนข้าเกลียดสีชมพูที่สุด เจ้าเอาไปให้นางเถอะ อีกอย่างเมื่อวานข้าก็พูดชัดเจนไปแล้วว่าข้าไม่อยากแต่งงานกับเจ้า ของสำคัญย่อมอยู่กับคนสำคัญ ในเมื่อฉู่หรันสำคัญกับเจ้านักก็ไปเอาใจนางเถอะ ไม่ต้องมายุ่งกับข้า"หวังจื่อเย่หยิบกำไลหยกสีชมพูออกมาดูแล้วมองตามจ้าวถิงถิง ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย เหตุใดนางถึงได้ยึดติดกับจี้หยกชิ้นนั้นของเขานัก จ้าวถิงถิงเดินเล่นสักพักก็ไปนั่งอยู่ศาลาริมน้ำ" คุณหนูหิวไหมเจ้าคะ ข้าไปเอาน้ำชากับขนมมาให้ดีไหม"" อืมก็ดีเหมือนกัน รีบไปรีบมานะ"" เจ้าค่ะ"นัวนั่วเดินออกไปหวังจื่อเย
" คุณหนูใหญ่ หากเป็นวันอื่นท่านมาช้าก็ไม่เป็นไร แต่วันนี้มีฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ด้วย ท่านไม่ควรให้ผู้ใหญ่ต้องรอนาน"จ้าวซูฉีพูดตำหนิ จ้าวถิงถิงนั่งลงจ้องหน้าจ้าวซูฉี" เป็นแค่ภรรยารอง มีสิทธิ์อะไรมาตำหนิข้า ท่านไม่ใช่แม่ของข้า ไม่ต้องสะเออะมาสั่งสอนข้า"จ้าวซูฉีข่มอารมณ์โกรธไว้ก้มหน้างุด แสร้งทำเป็นเศร้าแต่สองมือกำแน่น" พอแล้ว เจ้าก็ยังเหมือนเดิมสินะ ดื้อรั้นเอาแต่ใจไร้มารยาท ไม่เหมือนหรันเอ๋อของข้า น่ารักอ่อนหวานแสนดี "จ้าวซินหรูจ้องมองจ้าวถิงถิงด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มอ่อนโยนให้จ้าวฉู่หรัน" เอาหล่ะๆ กินข้าวกันเถอะ"จ้าวฟานพูดตัดบท" ท่านย่า ข้าจำได้ว่านี่เป็นของโปรดของท่าน"จ้าวฉู่หรันคีบเนื้อปลานึ่งซีอิ๊ว ใส่ชามข้าวจ้าวซินหรู" หรันเอ๋อของย่าน่ารักที่สุด ยังจำได้ว่าย่าชอบ"จ้าวถิงถิงมองทั้งสองแล้วเบะปากหมั่นไส้ก่อนจะคีบเนื้อไก่ผัดเผ็ดเข้าปาก" หรันเอ๋อปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว"" 16เจ้าค่ะ"" อืม16แล้ว สมควรมีคู่ครองได้แล้ว อาฟานได้มองหาใครไว้บ้างหรือยัง หรือมีตระกูลใดส่งแม่สื่อมาสู่ขอหรือไม่"หวังจื่อเย่มองหน้าจ้าวฉู่หรัน ทั้งสองสบตากัน จ้าวถิงถิงมองทั้งสองสลับไปมา หวังจ
เสียงเคาะประตู ทำให้หวังจื่อเย่ค่อยๆยันกายลุกขึ้นอย่างยากลำบากไปเปิดประตู เมื่อเห็นหน้าคนที่มา ก็ดีใจจนแทบเก็บอาการไม่อยู่" คุณหนูรอง"" ข้าได้ยินว่าเจ้าถูกท่านพ่อลงโทษโบย50ไม้ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"" ข้าไม่เป็นไรมาก ขอบคุณคุณหนูรองที่เป็นห่วง"" ข้าเอายามาให้ นี่เป็นยาอย่างดีจากหมอหลวงในวัง ท่านพ่อเคยแบ่งให้ข้าไว้ใช้ รับไปสิ "" ขอบคุณขอรับ"เขาเอื้อมมือไปหยิบขวดยาส่งยิ้มให้นาง จ้าวถิงถิงกำขวดยาแน่น ยืนนิ่งจ้องมองอยู่ไม่ไกล พอนางรู้ข่าวว่าหวังจื่อเย่ถูกลงโทษก็รีบเอายามาให้ แต่ไม่คิดว่าจะช้ากว่าจ้าวฉู่หรันไปก้าวเดียว" งั้นข้ากลับก่อนนะ"" ช้าก่อน"" มีอะไรเหรอ"หวังจื่อเย่ดึงหยกที่ห้อยเอวออกมา" ปิ่นปักผมที่ข้าให้ท่านถูกคุณหนูใหญ่ทำให้หักไปแล้ว ข้าจึงอยากให้สิ่งนี้กับท่านทดแทน"จ้าวฉู่หรันรับมาดู" หยกชิ้นนี้ข้าจำได้ว่าเจ้าพกติดตัวเอาไว้ตลอดนี่นา แสดงว่ามันคงสำคัญกับเจ้ามาก"" ใช่ มันเป็นของชิ้นเดียวที่ติดตัวข้ามาตลอด สำคัญกับข้ามาก เป็นของที่แม่ข้าให้ไว้ก่อนท่านจะจากไป"" ในเมื่อมันสำคัญขนาดนี้ งั้นข้ารับไว้ไม่ได้หรอก"" เพราะเป็นของสำคัญขิ้นเดียวที่ข้ามี ข้าจึงอยากมอบให้ท่าน"" แต่