บทที่ 5 อดีต
5 ปีก่อน
[หาคนใจดีช่วยติวภาษาอังกฤษให้ หนูอยากเรียนต่อบริหารธุรกิจ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ ] ข้อความบนทวิตเตอร์ที่มีคนรีทวิตกว่าหนึ่งหมื่นครั้งในเวลาไม่ถึง 24ชั่วโมง
ข้อความนั้นขึ้นโชว์หน้าฟีดของกองทัพขณะกำลังเลื่อนดูอะไรเรื่อยเปื่อยในโซเชียล เด็กนักเรียน ม.ปลาย ทำหน้าตาอ้อนๆ ดวงตากลมโตคู่นั้นใครเห็นต่างก็หลงรัก กองทัพจึงไม่ลังเลที่จะติดต่อไปยังอีเมลที่เธอให้ไว้
ข้อความในอีเมล
สวัสดีครับ พี่เห็นน้องโพสต์หาคนช่วยติวภาษาอังกฤษให้ไม่ทราบว่าตอนนี้หาได้หรือยังครับ ถ้ายังติดต่อพี่กลับมานะครับ พี่ยินดีช่วยติวให้
หลังจากที่เลิกจากงานพิเศษรดาก็เปิดเช็กอีเมลทันที
“เย้!” รดาตะโกนขึ้นเสียงดังด้วยความดีใจ แค่วันเดียวเธอก็สามารถหาคนช่วยติวภาษาอังกฤษให้เธอได้แล้ว
“อย่างน้อยโลกใบนี้ก็ไม่ได้โหดร้ายกับเราเสมอไป ขอบคุณที่ยังใจดีกับหนูบ้าง” เด็กสาวผู้ที่หาเงินส่งตัวเองเรียนตั้งแต่มัธยมไม่เคยโทษโชคชะตาที่เธอเกิดมามีชีวิตที่ลำบากแบบนี้ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อดทนสู้กับทุกสิ่งและพยายามหาในสิ่งที่ตัวเองขาดด้วยตัวเอง
{สวัสดีค่ะ หนูชื่อไอรดานะคะ ขอบคุณพี่คนใจดีมากนะคะที่สละเวลามาสอนหนู หนูสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนค่ะ พี่คนใจดีอยู่แถวไหนคะหนูสามารถเจอพี่ได้ไหมคะ}
พี่อยู่ต่างประเทศครับ สามารถสอนน้องทางออนไลน์ได้เท่านั้น พี่ขอทำข้อตกลงระหว่างเราก่อนนะครับ ถ้าน้องโอเคพี่จะเริ่มสอนน้องวันพรุ่งนี้ครับ
ข้อตกลงที่1 พี่มีเวลาสอนเราแค่2สัปดาห์ เวลาที่เมืองไทยกับโปแลนด์ต่างกัน5ชั่วโมง เราอาจจะต้องเรียนดึกหน่อยเริ่มเรียน3ทุ่ม-5ทุ่ม
ข้อตกลงที่ 2 พี่จะไม่เปิดเผยหน้าให้เราเห็น แต่เราต้องเปิดกล้องตลอดเพราะพี่อยากดูรีแอคชันว่าสิ่งที่พี่สอนเราเข้าใจหรือเปล่า
หลังจากทำข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว วันถัดมารดาก็เริ่มเรียน สิ่งที่กองทัพสอนให้นั้นเป็นความรู้ที่ใช้ได้จริงและเข้าใจง่าย จากวันนั้นมารดาก็เรียกกองทัพว่าพี่ใจดีตลอดมา วันสุดท้ายระหว่างติวเตอร์กับนักเรียนคนพิเศษ
[พี่ใจดีคะ รดาขอของที่ระลึกอะไรสักอย่างจากพี่ใจดีได้ไหมคะ เวลาที่รดาท้อหรือเจอปัญหาอย่างน้อยก็ยังมีพี่ใจดีคอยอยู่ข้างๆ ให้รดาได้คิดถึง]
ปัจจุบัน
“เอก สืบประวัติเด็กคนนี้ให้ผมที” ประวัติโดยสังเขปของหญิงสาวบรรจุในซองสีน้ำตาลถูกส่งให้เลขาคนสนิท
“ครับคุณกองทัพ ผมจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดครับ” เลขาหนุ่มมากความสามารถเดินกลับออกไปทำงานที่ได้รับมอบหมายมาหมาดๆ
มหาวิทยาลัย RT
“ชะนีเป็นไงบ้างหายดีหรือยัง” เสียงเชอรี่ตะโกนดังมาแต่ไกลเมื่อเห็นรดานั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่โต๊ะม้าหินอ่อนบริเวณใต้ตึก
“โอเคแล้ว ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย”
“ไหนมาคุณหมอขอดูซิ แผลที่แขนหายดีหรือยัง” รอยขีดข่วนตามแขนขาเริ่มตกสะเก็ดและหลุดออกจนเกือบหมดแล้วเพราะยาที่ทาค่อนข้างดีมากทาแล้วแผลแห้งเร็ว
“ชะนี รอยแผลหายเกือบหมดแล้วนี่ ยาเขาดีจริงๆ ดีนะที่เพื่อนรักไม่เสียโฉมไม่งั้นฉันคงต้องขายตัวเอาเงินพาแกไปทำศัลยกรรมแน่เลย” เชอรี่เล่นละครบทเพื่อนรักตั้งแต่เช้า จนเพื่อนทุกคนต่างส่ายหัว
“ตอแหล” ทุกคนตะโกนขึ้นพร้อมกันเสียงดัง
“ทีหลังไม่ต้องชมฉันก็ได้ ฉันรู้ตัว” เชอรี่ในชุดกระโปรงทรงเอตัวสั้นเดินมากระแทกสะโพกนั่งลงข้างๆ รดา
“ไปเรียนกัน ขืนไปสายเดี๋ยวอาจารย์แม่องค์ลง” กิ่งแก้วพูดขึ้นเมื่อเหลือบดูนาฬิกาข้อมือเรือนหรูรุ่นลิมิเต็ด
ห้องเรียนภาควิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ
“รายงานที่อาจารย์สั่งให้ส่งภายในวันศุกร์หน้า วันศุกร์นี้อาจารย์จะให้เวลาพวกเธอช่วยกันหาข้อมูล รายงานเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายก่อนที่พวกเธอจะต้องไปฝึกงานเพราะฉะนั้นตั้งใจทำให้ดี” เมื่อพูดจบอาจารย์ประจำคลาสก็เดินออกจากห้องทันที
“International Business Management จะไปหาข้อมูลมาจากไหนให้ได้ละเอียดแบบนั้นวะ ที่บ้านไม่ได้มีธุรกิจเป็นของตัวเองนะโว้ย” เชอรี่ตะโกนขึ้นเสียงดังอย่างเหลืออดที่หัวข้อรายงานที่อาจารย์สั่งค่อนข้างยาก ขนาดงานที่สั่งปกติในคลาสว่ายากแล้ว เจอโจทย์ครั้งนี้เข้าไปแทบร้องไห้
“ใจเย็นน่าเชอรี่ ช่วยกันหาข้อมูลเดี๋ยวมันก็ได้เองแหละ รดามีหนังสือเล่มหนึ่งอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ดีทีเดียว” หนังสือเล่มหนาที่กองทัพให้มารดาพกติดตัวไปด้วยตลอดเวลา ถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าวางลงตรงหน้ากลุ่มเพื่อน
“ชะนี หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ที่ต่างประเทศนี่ เธอไปได้หนังสือเล่มนี้มาจากไหน” เพื่อนทุกคนต่างตกใจเมื่อรดาวางหนังสือที่เป็นบทความของนักธุรกิจชื่อดังลง
“ยืมคุณหมอมา เขายังบอกอีกนะว่าที่บ้านเขามีอีกหลายเล่มเพราะเขาได้มาตอนที่ไปเรียนต่อที่อเมริกา”
“ทำไมคุณหมอสุดหล่อถึงมีหนังสือเกี่ยวกับการบริหารพวกนี้ล่ะ คุณหมอเรียนหมอไม่ใช่เหรอ”
“เขาบอกว่าตอนที่เขาไปเรียนแพทย์เฉพาะทางต่อยอด (Fellow) เขาก็เรียน MBA ควบคู่ไปด้วย”
“กิ่งแก้ว มึงเสิร์ตหาประวัตินายแพทย์เธียรวิชญ์เดี๋ยวนี้” อิงเอยหันไปสั่งกิ่งแก้วที่เก่งคอมพิวเตอร์ที่สุดในกลุ่ม พร้อมตั้งหน้าตั้งตารอข้อมูลที่กำลังค้นหา
“ขอเวลา5นาที”
“ศาสตราจารย์นายแพทย์เธียรวิชญ์ เศรษฐบุตรกุญชร อายุ 26 ปี ส่วนสูง 190 เซนติเมตร การศึกษา จบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายด้วยการสอบเทียบระบบ General Educational Development (GED) ตอนอายุ 16 ปี และเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี Medical University of Lublin ที่ประเทศโปแลนด์ มีผลงานวิจัยโดดเด่นและได้ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี และได้ไปศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทางต่อยอด (Fellow) แพทย์อายุรกรรมด้านหัวใจที่ Harvard Medical School เป็นแพทย์ที่มีคะแนน USMLE สูงสุดอันดับหนึ่ง และขณะนั้นยังเรียนหลักสูตร MBA ควบคู่ไปด้วย หลังจากจบมาก็กลับมาดูแลโรงพยาบาลของตัวเองตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล KM” กิ่งแก้วอ่านประวัติของศาสตราจารย์นายแพทย์หนุ่มที่ปรากฏบนหน้าจอให้เพื่อนฟังเสียงสั่น
“ฮะ!! เป็นศาสตราจารย์ตั้งแต่อายุ26 แถวยังควบตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลอีก จบปริญญาโท MBA พร้อมกับจบ Fellow..กูยอม สมองทำด้วยอะไรทำไมถึงเก่งขนาดนี้ กูว่ากูเจอแล้วล่ะ”
“เจออะไร” ทุกคนถามขึ้นด้วยความงุนงง
“เจอพ่อของลูก”
“มึงไม่มีมดลูกอีเชอ” เหมือนเสียงตะโกนปลุกให้เชอรี่ตื่นจากฝันมาพบกับความจริง
“โอ้ยชะนีปากร้ายทั้งหลาย ชอบดับฝันกะเทย” เสียงแหลมแสบแก้วหูพูดขึ้นอย่างน้อยใจ ก่อนจะปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติ
“รดาวันนี้แกเข้าไปขอยืมหนังสือคุณหมอเพิ่มได้ไหม พรุ่งนี้เราจะได้ช่วยกันทำ” อิงเอยหันมาพูดกับรดาสีหน้าจริงจัง
“วันศุกร์ได้ไหมแก คุณหมอจะเข้าโรงพยาบาลเฉพาะวันจันทร์กับวันศุกร์แค่สองวันน่ะ” รดาเอ่ยบอกเพื่อนออกไป
“แหม๋ รู้ตารางงานกันด้วย มันยังไงคะคุณไอรดา ไหนบอกไม่เคยรู้จักกันมาก่อนไง” กิ่งแก้วเอ่ยแซวขึ้น รดาจากที่ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรก็เริ่มทำสีหน้าเลิ่กลั่กดูมีพิรุธ
“ไม่มีอะไร ก็แค่นัดกับคุณหมอจะเอาหนังสือไปคืน..แค่นั้น” รดาตอบออกไปแก้เขินเพราะบางครั้งก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองเหมือนกัน แต่ก็ต้องดึงสติตัวเองให้กลับมาอยู่โลกความเป็นจริงว่ามันไม่มีทางเป็นแบบนั้นได้แน่นอน
“จ๊ะ! ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ ช่วยรักษาทั้งที่มีหมออยู่เต็มโรงพยาบาล ให้พักห้องพัก VIP ดูแลติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญยอมโดดงานเพื่ออยู่เฝ้าทั้งวัน ไม่มีอะไรเนอะแกเนอะเพราะพึ่งรู้จักกัน” อิงเอยพูดขึ้นน้ำเสียงทะเล้น รดาที่นั่งอยู่ถึงกับทำตัวไม่ถูก หากนึกย้อนกลับไปสิ่งที่เพื่อนตนพูดนั้นก็ถูกต้องทั้งหมด
หลังจากเลิกเรียนในตอนเย็นรดาก็รีบกลับห้องทันทีเพราะวันนี้ไม่ได้ไปขับรถส่งอาหารอย่างเช่นทุกวันที่เคยทำ เพราะรถมอเตอร์ไซค์ก็ยังซ่อมไม่เสร็จและตัวเธอเองก็ยังไม่หายดี อีกไม่กี่เดือนก็ต้องไปฝึกงานคงไม่มีเวลากลับไปทำแบบนั้นอีก
หนังสือเล่มหนาถูกหยิบออกจากกระเป๋าสะพายหลังจากอาบน้ำเสร็จ ที่คั่นกระดาษสีชมพูถูกหยิบออกไปสอดไว้ด้านหลัง สายตาทั้งสองจ้องไปที่ตัวหนังสือภาษาอังกฤษไล่สายตาอ่านทุกตัวอักษร รดานั่งอ่านหนังสือจนดึกเพราะติดลมวางไม่ลง อยากอ่านให้จบราวกับอ่านนวนิยายที่ต้องอ่านให้จบเรื่องถึงจะวางหนังสือลงได้ เวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืนไฟหน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้นเตือนว่ามีคนส่งข้อความเข้ามา
[นอนได้แล้วรดา อย่ามัวแต่อ่านหนังสือจนดึก] เป็นข้อความจากกองทัพที่ส่งเข้ามาในแอปพลิเคชันไลน์
[คุณรู้ได้ไงคะว่าหนูยังไม่นอน]
[ถ้านอนแล้วใครล่ะกำลังตอบข้อความผมอยู่]
[ก็คุณส่งข้อความมารบกวนหนู หนูเลยตื่น]
[นอนขี้เซาขนาดนั้น แค่เสียงข้อความไม่ทำให้เธอตื่นได้หรอก]
[คุณรู้ได้ไงคะ ว่าหนูนอนขี้เซา]
[ก็ที่โรงพยาบาลผมปลุกคุณตั้งหลายรอบ ผมนึกว่าไม่หายใจแล้วซะอีก จนผมกำลังจะ..]
[กำลังจะอะไรคะ พูดมาให้จบสิ]
[นอนได้แล้วครับจะเที่ยงคืนแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน..ฝันดีครับ]
มือเรียวเล็กกำโทรศัพท์ในมือแน่น มืออีกข้างยกขึ้นทาบอกด้านซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจ หัวใจเต้นเร็วและแรงขึ้นแทบไม่เป็นจังหวะโดยไม่ทราบสาเหตุ ใบหน้าร้อนผ่าวลามไปถึงใบหู เสียงคุณหมอหนุ่มยังก้องอยู่ในหูพานให้นึกถึงคนใจดีเมื่อ 5 ปีก่อน เสียงทุ้มนุ่มดูอบอุ่นที่คอยสอนและให้กำลังใจเธอ แม้จะไม่เคยเห็นหน้าแต่เสียงนั้นยังคงอยู่ในใจเสมอคิดแล้วก็อดที่จะนึกถึงไม่ได้
หนังสือเล่มโปรดถูกวางลงตรงหัวเตียง โคมไฟหัวเตียงถูกปิดลงมีเพียงแสงไฟจากด้านนอกที่ส่องลอดม่านเข้ามา
{ใช่คุณหรือเปล่าคุณหมอ} ร่างบางนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้เพราะเสียงของคุณหมอยังก้องอยู่ในหัว รดาดีดตัวลุกขึ้นทันทีเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก
ลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือถูกเปิดออก กล่องไม้เก่าๆ สีน้ำตาลถูกหยิบขึ้นมาวางด้านบน ที่ล็อกถูกคลายออก ฝากล่องถูกเปิดขึ้น รูปถ่ายแผ่นเล็กถูกหยิบขึ้นมาจากกล่อง รูปผู้ชายใส่ชุดสีดำยืนหันหลังให้กล้องวิวด้านหลังเป็นตึกสูง
{สักวันเราคงได้มีโอกาสพบกันนะคะ คนใจดีของหนู}
บทที่6 นัดตรวจติดตามอาการเช้าวันศุกร์“สวัสดีค่ะ หนูมาตรวจตามนัดค่ะ” รดายื่นเอกสารใบนัดให้เจ้าหน้าที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์“เอ่อ..รบกวนคนไข้รอสักครู่นะคะ” เมื่อดูรายละเอียดในใบนัดเจ้าหน้าที่ก็ยกโทรศัพท์ต่อสายหาใครบางคนสักพัก ก่อนจะวางสายและหันมาบอกกับรดาที่ยืนรออยู่ด้วยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย“คุณหมอแจ้งว่าให้คนไข้ขึ้นไปพบคุณหมอที่ห้องทำงานได้เลยค่ะ ใช้ลิฟต์ฝั่งด้านซ้ายนะคะ”“ขอบคุณค่ะ” รดาทำหน้างงเล็กน้อยที่คุณหมอหนุ่มให้เธอขึ้นไปพบบนห้องทำงานทั้งที่ควรจะเป็นห้องตรวจคนไข้ชั้นล่าง แต่ก็กดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 20 ตามคำสั่งของชายหนุ่มติ๊ง เสียงประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อขึ้นมาถึงชั้นจุดหมายปลายทางก๊อก ก๊อก ก๊อกรดาเคาะประตูหน้าห้องสามครั้งตามมารยาท ยืนรอสักพักเจ้าของห้องก็เดินมาเปิดประตู“สวัสดีค่ะ” มือเรียวเล็กทั้งสองข้างยกขึ้นสวัสดีคุณหมอหนุ่มอย่างมีมารยาท“ทำไมมาแต่เช้า วันนี้ไม่มีเรียนหรือไง”“วันนี้อาจารย์ยกคลาสค่ะ”“เข้ามาด้านในสิ” รดาเดินตามชายหนุ่มเข้าไปในห้อง วันนี้แฟ้มเอกสารบนโต๊ะทำงานกองทัพมีไม่มากนักอาจจะเป็นเพราะเขาเคลียร์เสร็จไปเมื่อวันก่อนแล้ว ภายในห้องจึงดูเป็นระเบียบเรียบร้อยทุก
บทที่7 นัดตรวจติดตามอาการ#2ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายใบเล็กดังขึ้นเมื่อมีเสียงเรียกเข้า“ฮัลโหลครับ” กองทัพกดรับสายเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นเป็นเชอรี่เพื่อนของรดา“ฉันกดเบอร์ผิดเหรอ ก็เป็นเบอร์รดานี่”“ไม่ผิดหรอกครับ นี่โทรศัพท์ของรดา”“แล้วคุณเป็นใครคะ มารับโทรศัพท์เพื่อนหนูได้ยังไง”“ผมหมอเธียรวิชญ์ครับ”“แล้วตอนนี้รดาอยู่ที่ไหนคะ ทำไมคุณหมอถึงมารับโทรศัพท์แทนได้”“รดาหลับอยู่ครับ ไว้เธอตื่นแล้วผมจะให้โทรกลับนะครับ”“อ้อค่ะ ขอบคุณค่ะ” เชอรี่กดวางสายอย่างงงๆ พยายามไม่คิดอะไรมากเพราะเพื่อนตนไม่ได้เป็นเด็กใจแตกที่ไปนอนกับผู้ชายง่ายๆ แบบนี้“เป็นอะไรยัยเชอ ทำไมทำหน้าแบบนั้น แล้วนี่รดามันกลับมาหรือยัง”“ยังไม่กลับมา รดามันหลับอยู่”“มันยังไม่กลับมา แล้วมันจะหลับอยู่ได้ไง สรุปตอนนี้มันอยู่ไหน อยู่ที่โรงพยาบาลหรือหลับอยู่ที่ห้อง”“หลับ..อยู่ที่โรงพยาบาล”“อีเชอ กูถามว่ารดามันอยู่ที่โรงพยาบาลหรือหลับอยู่ที่ห้อง”“ก็บอกว่าตอนนี้มันหลับอยู่ที่โรงพยาบาล กูโทรหามันเมื่อกี้หมอเธียรวิชญ์เป็นคนรับสาย”“ฮะ!” ทุกคนร้องขึ้นด้วยความตกใจ“เออ..ตอนนี้รดาหลับอยู่ที่โรงพยาบาล” เชอ
บทที่8 งานสำคัญ“พรุ่งนี้มีแข่ง มึงจะไปสนามกี่โมง” น่านฟ้าเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่ทุกคนต่างนั่งเงียบกันสักพัก“เย็น เสร็จธุระเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น” กองทัพตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ“พรุ่งนี้วันหยุดมึง แล้วเสือกจะทำงานอะไรอีก”“งานสำคัญ”“มึงไม่คิดจะเข้าไปเตรียมรถก่อนแข่งบ้างหรือไง”“นั่นหน้าที่มึง กูมีหน้าที่ขับรถไม่ใช่เตรียมรถ”“ไอ้ดิน ไอ้นที มึงดูเพื่อนรักมึง” น่านฟ้าหันไปหาตัวช่วยแต่ถูกเพื่อนรักทั้งสองปฏิเสธอย่างไม่ไยดี“ของเดิมพันคือสนามแข่งมึงไม่ใช่ของกู งานนี้กูเป็นแค่คนดู” ดินปฏิเสธเสียงเรียบ“good audience (ผู้ชมที่ดี)” นทีไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระกองทัพนอกจากมันสมองระดับเทพแล้ว ฝีมือด้านความเร็วก็เช่นกัน การันตีด้วยถ้วยแชมป์เกือบทุกสนามของอเมริกาและยังเป็นเจ้าพ่อสนามเถื่อนที่เมืองไทย ของเดิมพันขั้นต่ำมูลค่าหลายสิบล้านที่มาพร้อมกับการแข่งขันที่ไร้กฎกติกา นั่นหมายถึงการแข่งขันที่มีความเสี่ยงสูงนอกจากจะเสี่ยงหมดตัวแล้วชีวิตยังเสี่ยงอันตรายจากการเล่นไม่ซื่อด้วย“กูกลับก่อน” ร่างสูงหุ่นนายแบบกระชากตัวลุกขึ้นและสาวเท้าเดินออกจากห้องทันทีท่ามกลางความงุนงงของกลุ่มเพื่อน“เฮ้..เฮ้ อะไรของมึงไอ้กอ
บทที่9 แกล้งหลังจากที่ใช้เวลาสัมภาษณ์กันนานเกือบสองชั่วโมงก็ถึงเวลาพักเบรกทานของว่าง ผลไม้และขนมที่เจ้าของห้องจัดเตรียมไว้ถูกยกออกวางเต็มโต๊ะ“ทานขนมแล้วค่อยมาดูอีกทีว่าได้ข้อมูลครบหรือยัง แล้วนี่เป็นหนังสือวารสารตีพิมพ์ที่ต่างประเทศลองเอาไปศึกษาดูเผื่อจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม” หนังสือบทสัมภาษณ์นักธุรกิจชื่อดังที่ตีพิมพ์ลงในวารสารต่างประเทศสามสี่เล่มถูกวางลงตรงหน้ารดา“ขอบคุณค่ะ”ระหว่างที่ทุกคนกำลังพักนั่งทานขนมกันอยู่นั้น รดารู้สึกปวดท้องจึงลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ เท้าเล็กเดินตรงไปยังห้องครัวที่ถัดจากห้องรับแขกไปอีกห้องเพราะคิดว่าห้องน้ำน่าจะอยู่แถวๆ นั้นแต่ก็ไม่เจอจึงเดินไปอีกห้องที่อยู่ถัดไปซึ่งเห็นประตูเปิดแง้มอยู่ไม่ได้ล็อก“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ” ศีรษะเล็กชนเข้ากับอกแกร่งขณะกำลังเปิดประตูเข้าไปด้านใน“มาทำอะไร”“คือหนูอยากเข้าห้องน้ำค่ะ แต่ไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน”“ไม่รู้ห้องน้ำอยู่ตรงไหน เลยเดินเข้าห้องผมงั้นเหรอ” กองทัพค่อยๆ ขยับเข้าหาเด็กสาวช้าๆ จนตอนนี้ทั้งสองยืนห่างกันไม่ถึง10 เซนติเมตร“หนูไม่รู้ว่าห้องนี้ห้องคุณ หนูเห็นประตูมันเปิดอ้าอยู่หนูเลยเดินเข้ามาดูเฉยๆ ค่ะ” รดารีบปฏิเสธ
บทที่ 10 หมอเถื่อนดินหันไปถามกองทัพที่นั่งหน้านิ่งไม่แสดงอาการอะไรให้ได้เห็น วันนี้ที่ทุกคนมาทานอาหารร้านนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นแผนที่ดินและนทีวางไว้ตั้งแต่แรก แต่การที่จะล่อเหยื่อที่มีระดับไอคิวสูงเกือบ 300 ให้ติดกับไม่ใช่เรื่องง่าย“วันก่อนพวกมึงก็มาทานไม่ใช่เหรอ จะถามกูเพื่ออะไร” กองทัพสวนกลับเสียงเรียบ ดินและนทีหน้าเปลี่ยนสีทันที“เมื่อวานน้องรดาก็มาทานที่นี่เหมือนกันเหรอครับ แล้วรู้จักร้านนี้ได้ยังไงมีใครแนะนำมาหรือเปล่าครับ” ดินยังไม่ละความพยายามภารกิจตามหาแฟนเพื่อน“เอ่อ..ใช่ค่ะ”“ดินวันก่อนน้องนาไม่ว่างเหรอ กูเห็นมึงมากับน้องก้อย” ยังไม่ทันที่รดาจะพูดจบกองทัพก็พูดแทรกขึ้นทันที“อาหารมาแล้ว รีบทานกันเถอะครับเดี๋ยวจะเย็นหมด” ดินรีบเฉไฉเปลี่ยนเรื่องทันที ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เคยเอาชนะหรือเล่นงานกองทัพได้เลยสักครั้ง มิหนำซ้ำยังโดนเล่นงานกลับแทบทุกครั้งไปอาหารถูกทยอยมาเสิร์ฟเรื่อยๆ ส่วนมากจะเป็นอาหารรสชาติกลางๆ เพราะทุกคนไม่ทานเผ็ดและอาหารรสจัด จนมาถึงจานสุดท้ายที่พนักงานกำลังขึ้นโต๊ะ“สั่งมาไม่กลัวน้องมันแสบท้องเหรอวะ” ดินเอ่ยถามน้ำเสียงกวนประสาท กองทัพเอาแต่น
บทที่ 11 อาจารย์พิเศษเช้าวันจันทร์ที่แสนจะวุ่นวาย รดาในชุดกระโปรงสั้นทรงเอเสื้อนักศึกษารัดรูปเพราะเมื่อวานไม่ได้กลับห้องนอนค้างห้องอิงเอย เช้านี้เลยต้องยืมชุดนักศึกษาอิงเอยใส่มาก่อนตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าดังถี่ตามจังหวะการวิ่งของทั้งสามที่กำลังเร่งรีบเพราะวันนี้ตื่นสาย และที่ซวยไปกว่านั้นคาบแรกวันนี้จะมีอาจารย์พิเศษมาบรรยายและอาจารย์ที่จะมาวันนี้เป็นถึงศาสตราจารย์คงจะเคี่ยวและดุน่าดูเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เสียงแจ้งเตือนไลน์กลุ่ม“ใครส่งข้อความอะไรมาแต่เช้าวะ ไม่ดูเวลาบ้างเลยว่าตอนนี้มันเป็นเวลานอน” อิงเอยตื่นมาด้วยความงัวเงียเมื่อเสียงข้อความดังรบกวนปลุกให้ตื่น“รดา อ่านให้หน่อยไลน์กลุ่มนังเชอมันคงส่งข้อความมาปลุกพวกเรา” รดาที่นอนอยู่ริมสุดบนเตียง มือเล็กขยี้ตาอย่างงัวเงียเอื้อมหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียง“อิงเอย กิ่งแก้ว ตื่นได้แล้ววันนี้เรามีฟังบรรยายพิเศษ” รดาร้องขึ้นน้ำเสียงร้อนรนเมื่ออ่านข้อความที่เชอรี่ส่งเข้ามาในกลุ่มร่างบางกระโดดลงจากเตียง คว้าผ้าเช็ดตัวสีขาววิ่งหายเข้าห้องน้ำไปและกลับออกมาในเวลาแค่10นาที “รดา ชุดนักศึกษาอยู่ในตู้แกเลือกเอา
บทที่ 12 แค่ทางผ่านตอนเย็นหลังเลิกเรียน “รดาแล้ววันนี้แกกลับบ้านยังไง ให้ฉันไปส่งไหม” เชอรี่ถามขึ้นเมื่อสี่สาวเดินออกจากห้องเรียนวิชาสุดท้ายในช่วงเย็น “นั่งรถเมล์แหละแต่ฉันกะว่าจะแวะเอาโทรศัพท์เข้าไปเช็กที่ศูนย์ก่อนแล้วค่อยกลับห้องน่ะ” “ถ้างั้นก็แยกย้าย ไว้เจอกันพรุ่งนี้ บายมึง”ห้างสรรพสินค้าชื่อดังห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองศูนย์รวมสินค้าแบรนด์ดัง คราคลั่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่กำลังเดินขวักไขว่สวนกันไปมา บ้างก็กำลังซื้อของ บ้างก็มาดูหนังรวมถึงทานข้าว ร้านค้าร้านอาหารเนืองแน่นไปด้วยผู้คน รดาขึ้นบันไดเลื่อนมายังบริเวณชั้น3 ของห้างซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งรวมสินค้าไอทีและโทรศัพท์มือถือ โซนฝั่งซ้ายของห้างคือจุดมุ่งหมายของรดาซึ่งเป็นที่ตั้งของช็อปและศูนย์บริการของโทรศัพท์ยี่ห้อดังเท้าเล็กเดินเลี้ยวเข้าไปทันทีเมื่อเห็นป้ายโลโก้เดียวกันกับที่ติดอยู่บนโทรศัพท์ของเธอ ภายในช็อปเต็มไปด้วยนักชอปปิ้งที่กำลังเลือกซื้อโทรศัพท์เพราะวันนี้เป็นวันแรกในการวางขายโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดในไทยที่พึ่งเปิดตัวที่ต่างประเทศเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว“พี่คะ ช่วยเช็กโทรศัพท์ให้หน่อยค่ะ อ
บทที่13 ฝึกงาน8โมงเช้า ณ มหาวิทยาลัย RT“รดา อาจารย์ศิระเรียกแกไปพบ” รดาที่พึ่งลงจากรถเดินเข้ามาหากลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะประจำใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าตึกคณะ“มีอะไรเหรอ แล้วอาจารย์เรียกฉันคนเดียว” รดาถามกลับอย่างสงสัยเพราะปกติถ้างานมีปัญหาอาจารย์จะเรียกเข้าพบทั้งกลุ่ม แต่วันนี้กลับเรียกเธอแค่เพียงคนเดียว“หล่อนคนเดียวค่ะชะนี และพวกฉันก็ไม่รู้ว่าอาจารย์เรียกแกไปพบเรื่องอะไร แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องด่วนอยู่นะเพราะอาจารย์เดินหน้าตื่นมาแต่เช้าเลย”“โอเค งั้นพวกแกรอฉันแป๊บหนึ่งนะฉันขอไปพบอาจารย์ก่อน” เท้าเรียวเล็กบนรองเท้าผ้าใบก้าวฉับ ฉับ ฉับ อย่างกระฉับกระเฉงมุ่งหน้าไปยังห้องพักอาจารย์ที่ปรึกษาก๊อก ก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตค่ะ” เมื่อมาถึงก็เคาะประตูห้องก่อนเอ่ยขออนุญาตอย่างมีมารยาท“สวัสดีค่ะอาจารย์”“มาแล้วเหรอ นั่งก่อนไอรดา” อาจารย์หนุ่มประจำสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาสาขานี้ด้วย“หนังสือตอบรับเรื่องการฝึกงานของเธอ ทางบริษัทพึ่งส่งเอกสารตอบรับกลับมาเมื่อเช้านี้เอง” ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกยื่นไปวางลงตรงหน้าเด็กสาวด้วยใบหน้า ปลื้มปริ่มและภูมิใจ“จริงเหรอคะอาจาร
ตอนที่34 งานแต่งงาน 5 เดือนผ่านไปหลังจากที่ญาดาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานนับเดือนก็ได้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน จนมาถึงวันนี้ร่างกายเริ่มดีขึ้นใกล้จะกลับมาเป็นปกติเกือบร้อยเปอร์เซ็นทางด้านผู้ใหญ่ของกองทัพก็รับรู้และยินดีที่ลูกชายคนเล็กของบ้านจะมีแฟน ที่สำคัญที่บ้านคุณหมอหนุ่มยังรู้ดีตั้งแต่ต้นว่าลูกชายตัวเองแอบหลงรักเด็กผู้หญิงที่อยู่เมืองไทย เพราะตลอดระยะเวลาที่ชายหนุ่มไปเรียนเมืองนอกกว่าสิบปีไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ชีวิตมีแต่เรียนกับสนามแข่งรถ และยังแอบพกรูปเด็กผู้หญิงผมเปียติดตัวตลอดเวลาถึงขนาดใส่กรอบเล็กๆ วางไว้ในห้องนอนการคบหาระหว่างทั้งสองคนอยู่ในการรับรู้และยินดีจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย แต่มีอีกหนึ่งคนที่จะดีใจมากเป็นพิเศษคงหนีไม้พ้น..ทัพบก ผู้ที่ใฝ่ฝันอยากมีน้องสาวเป็นของตัวเอง และหลงรักเด็กสาวตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกเมื่อตอนสั่งอาหารแล้วไรเดอร์สาวขับรถมอเตอร์ไซค์ฝ่าสายฝนที่ตกหนักเพื่อนำอาหารมาส่ง เด็กสาวที่เปียกปอนไปทั่วตัวแต่ก็ยังยิ้มร่า เด็กสาวที่มีรอยยิ้มสดใสให้ทุกครั้งที่เจอกัน เด็กสาวที่อยากได้มาเป็นน้องสาวที่น่ารัก อ้อนเก่ง“รดา อาทิตย์หน้าตารางงานพี่ว่างเราพาคุณแม่ท่าน
ตอนที่33 คำตอบจากแม่ยาย ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์รดาที่วางอยู่โต๊ะข้างหัวเตียงดังขึ้น“สวัสดีครับ” กองทัพหยิบมากดรับสายเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามานั้นคือพี่ชายของเด็กสาว“คุณหมอเหรอครับ”“ครับ ตอนนี้รดาหลับอยู่ครับ คุณธนามีธุระด่วนจะคุยกับรดาไหมครับ ผมจะปลุกเธอให้”“ไม่มีครับ แค่ผมกลับมาที่ห้องพักแล้วไม่เจออยู่ที่นี่เลยโทรหานะครับ”“รดาหลับอยู่ที่ห้องทำงานผมครับ ช่วงเย็นคุณป้าน่าจะย้ายขึ้นมาพักฟื้นที่ห้องนี้นะครับ”“ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ ผมไม่รบกวนแล้ว สวัสดีครับ”หลังจากที่วางสายเสร็จกองทัพก็ลุกเดินออกจากห้องไปและลงไปยังชั้นสามเป็นแผนกหัวใจและทรวงอก ห้อง ICU ที่อยู่ติดกับเคาน์เตอร์พยาบาลซึ่งมีคนไข้ชื่อญาดานอนรอดูอาการอยู่หลังการผ่าตัด“คนไข้เป็นอย่างไรบ้างครับ” กองทัพเดินเข้าไปในห้องพร้อมหยิบชาร์จที่เสียบอยู่ที่ปลายเตียงขึ้นมากวาดสายตาอ่าน“ความดันปกติ ชีพจรเต้นคงที่ คนไข้ฟื้นแล้วหลังจากออกจากห้องผ่าตัด ปฏิกิริยาทุกอย่างปกติและพึ่งหลับไปเมื่อสักครู่ค่ะ”“ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาดี ช่วงเย็นรายงานอาการให้ผมทราบอีกที ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงผมจะย้ายคนไข้ขึ้นไปพักฟื้นด้านบน” เหมือนยกภ
ตอนที่32 รางวัลคนเก่ง “รางวัลพี่ล่ะครับ” เมื่อทั้งสองกลับขึ้นมาบนห้องพักส่วนตัวยังไม่ทันที่ประตูปิดสนิทดีคุณหมอหนุ่มก็ทวงถามหารางวัลทันที“รางวัลอะไรของคุณ รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วค่ะมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์” มือเล็กออกแรงผลักตรงหลังให้เดินไปยังห้องน้ำเพราะตอนนี้เธอแทบจะทนดมกลิ่นแอลกอฮอล์ในตัวชายหนุ่มไม่ไหว"นวดไหล่ให้พี่หน่อย ผ่าตัดตั้งหลายชั่วโมง..เมื่อยมาก" ยังไม่ทันที่รดาจะหันหลังออกจากห้องน้ำก็เจอเสียงอ้อนของคุณหมอหนุ่ม“อาบเสร็จแล้วเดี๋ยวหนูนวดให้นะคะ” รดาไม่ได้ปฏิเสธเลยทีเดียวแต่เลือกที่จะยื่นข้อเสนอต่อรองหรือเรียกอีกอย่างว่าการเอาตัวรอด“ต้องแช่น้ำอุ่นแล้วนวดไปด้วยกล้ามเนื้อถึงจะผ่อนคลาย” หลักการทางกายภาพถูกงัดขึ้นมาต้อนเด็กสาวให้จนมุม“เดี๋ยวเสื้อผ้าหนูเปียก ไม่มีชุดใหม่เปลี่ยน”“พี่สั่งให้เอกซื้อมาให้หนูใหม่แล้วสิบชุด อยู่ในตู้” เกมโอเวอร์สุดท้ายรดาก็เป็นฝ่ายแพ้ เดินไปเปิดน้ำอุ่นและผสมสบู่ลงในอ่างกุชชี่ขณะที่กองทัพจัดการถอดเสื้อผ้าออกจนหมดและตอนนี้มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันรอบเอว“ว๊าย! คุณจะทำอะไรคะ” เชือกที่ผูกอยู่ที่เอวคอดถูกดึงออกโดยฝีมือของชายหนุ่มที่ตอนนี้ยืนซ้อน
ตอนที่31 หน้าห้องผ่าตัด“ขอโทษครับผมลืมเคาะประตู” ทั้งสองผละออกจากกันอัตโนมัติเหมือนเกิดแรงผลักของประจุไฟฟ้าขั้วบวกกับขั้วบวกหน้าห้องผ่าตัดเจ้าหน้าที่เข็นเตียงผู้ป่วยออกจากห้องพักหลังจากเตรียมความพร้อมก่อนทำการผ่าตัดมายังห้องผ่าตัดแผนกศัลยกรรม หญิงวัย 58 ปีนอนหน้าซีดปากซีดไร้เลือดฝาดอยู่บนเตียงสีหน้าเป็นกังวล“แม่คะ แม่ต้องสู้นะคะหนูกับพี่ธนาจะรอแม่อยู่ด้านนอก คุณหมอเก่งมากแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ” มือเรียวเล็กทั้งสองข้างยื่นไปกุมมือผู้เป็นมารดาด้านที่มีสายน้ำเกลือเสียบคาอยู่และอีกข้างก็มีเครื่องวัดออกซิเจนติดอยู่“จ๊ะลูก” ญาดาตอบกลับบุตรสาวเสียงแผ่วใบหน้าฝืนยิ้ม ยกมืออีกข้างมากุมมือบุตรสาวและบุตรชายออกแรงบีบเล็กน้อย“ผมกับน้องรอแม่อยู่ด้านนอกนะครับ” เสียงทุ้มอ่อนนุ่มสั่นเครือเล็กน้อยของชายหนุ่มคนที่ดูแลแม่มาตั้งแต่ผู้เป็นบิดาเสียไป ถึงข้างนอกจะดูเข้มแข็งแต่ข้างในก็แอบกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะรู้ถึงสุขภาพร่างกายของผู้เป็นมารดาอย่างดีว่าตอนนี้เข้าขั้นวิกฤตแค่ไหน“ธนาอย่าลืมที่สัญญากับแม่นะลูก” ก่อนเข้าไปด้านในยังไม่ลืมย้ำเตือนบุตรชายคนโตอีกรอบ“ครับแม่ แม่ก็อย่าลืมที่สัญญากับผมไว้นะครับ ว่าแม่
ตอนที่30 สู่ขอไม่เป็นทางการ“รดา พี่เอาหนังสือมาให้เผื่อหนูอยากอ่าน” กองทัพเปิดประตูเข้ามาได้จังหวะได้ยินตอนที่รดาคุยกับพี่ชายพอดี“ถามผมก็ได้ครับ ผมยินดีแสดงความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง” กองทัพเดินเข้าหยุดยืนขนาบข้างเด็กสาว ในมือยังถือหนังสือวารสารด้านธุรกิจของต่างประเทศที่รดาชอบอ่าน ซึ่งเล่มนี้เป็นเล่มใหม่ที่เขาฝากเพื่อนซื้อมาพึ่งส่งมาถึงเมื่อวันก่อน"ความจริงผมก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของพวกคุณหรอกนะครับ แต่ฐานะการใช้ชีวิตของพวกเรากับคุณมันต่างกันมาก” ธนาชี้แจงเหตุผลให้คุณหมอหนุ่มฟังอย่างนอบน้อมและมีเหตุผล“ผมเข้าใจครับ และก็ไม่แปลกใจที่คุณจะเป็นห่วงรดา เราไม่เคยเจอกันหรือรู้จักกันมาก่อน พอเจอกันครั้งแรกผมก็มาแนะนำตัวในฐานะคนรักของน้องสาวคุณ เป็นใครก็ตกใจครับ แต่ผมอยากจะบอกคุณว่าผมกับรดารู้จักกันตั้งแต่ห้าปีก่อนตอนที่ผมยังเรียนแพทย์อยู่ที่โปแลนด์ แค่ขาดการติดต่อกันไปช่วงที่ผมไปต่อfellowที่อเมริกา มาเจอกันอีกครั้งตอนที่รดาเกิดอุบัติเหตุเมื่อสี่เดือนก่อนและได้เรียนรู้กันอย่างจริงจังช่วงที่รดาไปฝึกงานที่บริษัท คุณอาจจะมองว่าระยะเวลามันสั้นแต่เชื่อเถอะครับว่าผมรักเธอจริงๆ ผมรีบทำหน้าที่ของ
ตอนที่29 พบแม่ยายในฐานะแฟนของลูกสาวช่วงสายของอีกวัน“รดาตื่นได้แล้วครับ สายแล้วนะ” กองทัพเดินมาหย่อนสะโพกข้างขอบเตียง เสียงทุ้มนุ่มก้มลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็กที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียง“อือ..หนูขออีกห้านาที” เสียงครางงึมงำในลำคอ ตาสองข้างยังปิดสนิท“หมดแรงขนาดลุกไม่ขึ้นเลยเหรอ หืม” หนวดเคราที่กำลังขึ้นเป็นตอสีดำเสียดสีกับลำคอใต้ซอกใบหูจนคนที่นอนหลับอยู่รู้สึกจักจี้จากการรบกวน“พี่หมอ หนูขออีกห้านาทีนะคะ” เสียงหวานเอ่ยอ้อนคว้ามือหนาที่วางพาดอยู่บนตัวเข้ามากอดแนบใบหน้า จนกองทัพทำตัวไม่ถูกจำต้องจำยอมตามคำขอและทำได้เพียงนั่งนิ่งๆ รอเวลา“หนูครับ วันนี้พี่จะพาหนูไปเยี่ยมคุณแม่ที่โรงพยาบาล ถ้าไม่ยอมตื่นคุณแม่ท่านจะรอนานเอานะครับ” สิ้นคำพูดรดาก็ดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันที“คุณจะพาหนูไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลจริงๆ เหรอคะ” ร่างบางโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างลืมตัว หน้าอกคัพB ใต้เสื้อนอนตัวเล็กเสียดสีกับอกแกร่งจนกองทัพสัมผัสถึงความนุ่มเด้งได้“ถ้ายังอยากไปเยี่ยมแม่ พี่แนะนำให้ปล่อยพี่ก่อนครับ ก่อนที่หนูจะต้องนอนหมดแรงอยู่บนเตียงจนออกไปไหนไม่ได้” เสียงกระท่อนกระแท่นเอ่ยบอกติดๆ ขัด ขณะที่จิตสำนึกกำล
ตอนที่28 มีสติแต่ควบคุมไม่ได้ ติ๊ง! เสียงสัญญาณลิฟต์ดังขึ้นเมื่อขึ้นมาถึงชั้นจุดหมาย ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก รดารีบเปิดประตูรถสาวเท้าเดินเข้าห้องทันทีเพราะวันนี้กองทัพเอารถขึ้นมาจอดด้านบนปั้ง! เสียงประตูปิดลงและคุณหมอหนุ่มเดินตามหลังมาติดๆ“หนูหิวน้ำ ขอไปกินน้ำก่อนนะคะ” เท้าเล็กรีบเดินเข้าห้องครัว เปิดตู้เย็นคว้าขวดน้ำขึ้นมาเทใส่แก้วและยกขึ้นดื่มเกือบหมดแก้ว โดยไม่รู้เลยว่าเจ้าของห้องนั้นเดินตามหลังเธอเข้าด้วย“พี่ขอกินด้วยสิ / อ๊ะ!” รดาร้องขึ้นด้วยความตกใจยังกำแก้วในมือแน่น“พี่ขอกินด้วยหน่อย”“เดี๋ยวหนูรินให้ใหม่ค่ะ”“ไม่ต้อง พี่กินกับหนูก็ได้” คำพูดถูกกลืนลงคอไปจนหมด ปากหยักได้รูปก้มลงดูดหยดน้ำที่เกาะอยู่มุมปากจนเกิดเสียงดัง“จ๊วบ! หวาน พึ่งรู้ว่าน้ำยี่ห้อนี้หวานขนาดนี้”กองทัพรั้งท้ายทอยเล็กเข้าประกบจูบอีกครั้ง ครั้งนี้เริ่มลุกล้ำเข้าไปในโพรงปาก ริมฝีปากทำหน้าที่แลกลิ้นกลืนกินน้ำลายซึ่งกันและกันกระโปรงทรงเอถูกดันขึ้นสูงก่อนร่างเล็กจะถูกอุ้มขึ้นนั่งบนโต๊ะหินอ่อนเคาน์เตอร์ครัว แพนตี้สีขาวถูกดึงลงต่ำพอๆ กับใบหน้าคมจังหวะร่างสูงย่อตัวลง ประชิดปลายจมูกกลางใจสาวที่ปิดสนิทลมหายใจอุ่นพ่น
ตอนที่27 สินสอดทองหมั้น สนามแข่ง“เดี๋ยวนี้พกกองเชียร์ติดตัวมาด้วยเหรอวะ” เสียงน่านฟ้าเอ่ยแซวเมื่อกองทัพและรดาเดินเข้ามาที่ห้องพักส่วนตัวข้างสนาม โดยมีน่านฟ้า นที ดิน และนิสานั่งรออยู่ก่อน บนโต๊ะมีแก้วไวน์และขวดไวน์ที่ถูกรินไปเกือบครึ่งขวดวางอยู่ด้วย บ่งบอกว่าทั้งสามหนุ่มนั้นนั่งดื่มกันมาสักพักแล้ว“พี่ดิน พี่นที พี่น่านฟ้า พี่นิสา สวัสดีค่ะ” รดายกมือไหว้ทุกคนอย่างมีมารยาท“สวัสดีครับ น้องรดาคนสวย วันนี้เพื่อนๆ ไม่มาด้วยเหรอครับ” นทีถามขึ้น ส่วนที่เหลือได้แต่พยักหน้าตอบรับ“มาค่ะ เชอรี่กำลังไปรับอิงเอยและกิ่งแก้วอยู่ค่ะ”“เอ้าไอ้หมอ มึงจะยืนอวดความหล่ออีกนานไหม ไม่นั่งล่ะครับ” ดินถามขึ้นพร้อมกับขยับที่นั่งข้างๆ ให้เพื่อน“มึงลุกไปนั่งกับไอ้นที” กองทัพเอ่ยบอกเสียงเรียบ“อะไรของมึงวะ ห่างน้องมันบ้างก็ได้ หวงของแบบนี้เคลียร์ตัวเองเรียบร้อยหรือยังครับ” ดินพูดขึ้นขณะที่ลุกขึ้นและขยับไปนั่งข้างนทีที่ยังมีที่ว่างอยู่อีกหนึ่งที่“ไอ้น่าน กูถอนหมั้นกับเมียมึงอย่างเป็นทางการแล้วนะ”“มึงน่าจะทำตั้งนานแล้ว ตามใจนิสามันอยู่ได้ กูต้องอยู่ในสถานะชู้มาตั้งหลายปี..ไอ้ห่า” น่านฟ้าบ่นออกไปดูไม่จริงจังน
ตอนที่26 ถอนหมั้นอย่างเป็นทางการครืด ครืด ครืด เสียงสั่นของโทรศัพท์กระทบกับพื้นโต๊ะทำงาน“กองทัพไอ้เจเดนมันมาท้าแข่งรถกับมึง มึงจะว่ายังไง” น่านฟ้าเจ้าของสนามแข่งรถชื่อดังพูดขึ้น“กูไม่ว่าง มีงานต้องทำเยอะแยะ” กองทัพปฏิเสธกลับทันที“มันฝากมาบอกมึงว่า ถ้ามึงปฏิเสธแสดงว่ามึงกลัว กลัวว่าจะแพ้มันคาสนามแข่งที่บ้านตัวเอง” ความจริงแล้วคำพูดพวกนี้น่านฟ้าเป็นคนพูดขึ้นเองทั้งหมด เพราะของเดิมพันครั้งนี้คือรถเฟอร์รารี่สีแดงรุ่นพิเศษที่น่านฟ้าอยากได้และหาซื้อมานานแล้ว แต่เนื่องจากรุ่นนี้ผลิตออกมาไม่กี่สิบคันจึงยังหาซื้อไม่ได้สักที“แค่นี้ใช่ไหม กูจะทำงาน”“เฮ้..เฮ้..เฮ้ มึงอย่าพึ่งวางสิ” ยังไม่ทันที่กองทัพจะกดวางสายเสียงร้องห้ามของน่านฟ้าก็ดังขึ้น“ของเดิมพันคืออะไร” กองทัพถามกลับเสียงเรียบราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว“รู้ทันกูตลอด แกล้งโง่บ้างก็ได้”“กี่ทุ่ม”“มึงถามกูอย่างนี้ แสดงว่ามึงรับคำท้าใช่ไหม”“มึงอยากได้ไม่ใช่เหรอ แต่กูขายต่อนะไม่ได้ให้ฟรี”“รุ่นนี้กูอยากได้มานานแล้วแต่หาซื้อไม่ได้สักที”“เฟอร์รารี่สีแดงคันนั้นสินะ มันกล้าเอารถคันโปรดมันมาเดิมพันเลยเหรอวะ” เฟอร์รารี่สีแดงรุ่นลิมิเต็ดที่ผลิตออ