" นั่นไอ้วิน นี่กู! "
" อย่ากลืนน้ำลายตัวเองเหมือนไอ้วินนะโว้ยยไอ้ธันคนเย็นชา " กรเอ่ยแซวเพื่อนรักแต่แฝงไปด้วยถ้อยคำกระแนะกระแหน
" อย่าโมโหเลยค่ะ อ้าปากสิคะคุณธันเดี๋ยวเชอรี่ป้อนค่ะ? " แม่สาวนมโต หยิบขนมในจานจ่อปากชายหนุ่มพร้อมกับบอกคนตรงหน้าเสียงหวาน ธันก็อ้าปากรับอย่างไม่เรื่องมาก
" สาวมึงบริการดีว่ะ " แพททริคเอ่ยแซวอีกครั้ง
" แล้วส้มไม่บริการดีเหรอ? " สาวนมโตข้างกายของแพททริคเอ่ยถามด้วยน้ำเสียง เง้างอน
" บริการดีสิจ๊ะ " แพททริคพูดพลางก้มหอมแก้มสาวนมโตข้างกาย ฟอดใหญ่
" ไอ้ธันถ้ามึงแต่งงาน สาวคนที่มึงแอบปลื้มล่ะ? " กรถามอีกครั้งเมื่อรู้ว่าเพื่อนรักนั้นแอบชอบสาวที่เรียนหมอรุ่นเดียวกันมานาน ธันคิดอยู่นานก่อนจะตอบคำถามเพื่อนรัก
" กูไม่รู้ "
" ทำไมไม่ขอเป็นแฟนไปเลยว่ะไหน ๆ ก็ชอบมานานแล้วไม่ใช่? แล้วบอกพ่อมึงว่ามึงมีคนรักอยู่แล้ว "
" กูเคยขอแล้วเธอปฏิเสธ "
" เล่นตัวหรือเปล่าวะ? " แพททริคโพล่งขึ้นอย่างคาดเดา
" มายไม่ใช่ผู้หญิงอย่างนั้น "
" ปกป้องด้วยว่ะ เออที่กูพูดเรื่องน้องหวานเมื่อกี้กูว่ามันคงไม่กลืนน้ำลายตัวเองหรอกมันมีคนที่ชอบแล้วนี่หว่า "
" ไม่แน่นะโว้ย " กรพูดขัดขึ้นอย่างมีประสบการณ์จากเรื่องของเทวิน
" หยุดพูดเรื่องยัยนั่นได้แล้ว!!! "
" ก็ได้ แล้วทำไมเธอถึงปฏิเสธมึงกูพอจะดูออกนะว่ายัยนั่นก็ชอบมึง " แพททริคกล่าว
" มายบอกยังไม่พร้อมที่จะมีแฟน "
" สาวมึงนี่ ดูเรียบร้อยนะแต่กูว่าร้ายในว่ะ "
" มึงก็พูดไปไอ้แพทเคยเจอครั้งเดียวทำเป็นรู้ดี "
" กูมีตาทิพย์โว้ยย! " แพททริคโพล่งขึ้นอย่างติดตลก
" ไอ้สัส!!!! "
วันต่อมา ----
แสงแดดยามเช้าสอดส่องเข้าผ้าม่านสีครีมเข้ามาตกกระทบกับใบหน้าเกลี้ยงเกลาของหญิงสาวให้ตื่นขึ้นมารับเช้าวันใหม่ หวานค่อย ๆ ปรือตาดวงกลมโตขึ้นมาอย่างยากลำบากก่อนจะใช้มือขยี้ตาเบา ๆ เพื่อให้การมองเห็นของม่านตาชัดขึ้นเธอดันตัวลุกขึ้นนั่งพิงกับเตียงขนาดใหญ่พร้อมกับปิดปากหาวอย่างงัวเงีย เธอเหลือบมองนาฬิกาแขวนโดยเข็มสั้นชี้เลขเก้าเข็มยาวชี้เลขแปดบ่งบอกว่าเวลานี้เก้าโมงจะสิบโมงแล้ว เธอจึงก้าวขาลงจากเตียงแล้วไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเมื่อทำอะไรเสร็จแล้วเธอก็เดินลงบันไดมาข้างล่าง
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณหวานรับอาหารเช้าเลยหรือเปล่าคะ? "
" ค่ะ ป้าอิ่ม " เธอตอบรับแค่นั้นด้วยรอยยิ้มจากนั้นจึงเดินมานั่งรออาหารเช้าที่โต๊ะอาหารพร้อมกับหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านข่าวสาร
" ขอบคุณค่ะป้า " เธอกล่าวขอบคุณทันทีเมื่อป้าอิ่มนำอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้เธอ
" ค่ะ "
" ใครมาไม่รู้เดี๋ยวป้าไปดูก่อนนะคะ "
" ค่ะป้า " หวานตอบรับแค่นั้นป้าอิ่มก็เดินออกไปดูคนที่พึ่งมาใหม่ทันที
" สวัสดีค่ะคุณท่าน "
" หวานล่ะป้า " ทั้งสองพยักหน้าตอบรับ จากนั้นพิมพ์จึงเอ่ยถามหาลูกสาวคนสวยของเธอ
" ทานข้าวอยู่ค่ะ "
" ค่ะ "
" คุณท่านทั้งสองทานอะไรมาหรือยังคะ? ให้ป้าเตรียมเลยไหม? "
" ยังไม่ต้องเตรียมก็ได้จ้ะป้าขอน้ำเย็น ๆ ก็พอ "
" ค่ะ " ป้าอิ่มตอบแค่นั้นพิมพ์และชิตก็เดินเข้าไปหาลูกสาวที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่โต๊ะอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
" อร่อยไหมลูก? " พิมพ์เอ่ยถามลูกสาวด้วยรอยยิ้ม เมื่อหวานได้ยินเสียงผู้เป็นแม่เธอจึงหันขวับทันทีก่อนจะเอ่ยเรียกพร้อมกับวิ่งเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง
" คุณแม่คิดถึงจังเลยค่ะ "
" แม่ก็คิดถึงลูกค่ะ "
" คิดถึงแต่แม่แกหรือไง? " ระหว่างนั้นเสียงของชิตผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงแข็งเป็นเชิงว่าเขากำลังน้อยใจลูกสาว หวานผละกอดออกจากผู้เป็นแม่ก่อนจะกล่าวสวัสดีผู้เป็นพ่อด้วยรอยยิ้ม
" สวัสดีค่ะพ่อ "
" ทานข้าวต่อเถอะลูก "
" หวานอิ่มแล้วค่ะ ไหนว่าคุณพ่อ คุณแม่จะมาตอนเย็นคะ? "
" ไปนั่งก่อนไหมจะยืนคุยกันทำไม! "
" พูดดี ๆ ก็ได้คุณทำไมต้องทำเสียงแข็งใส่ลูก " พิมพ์แหวใส่สามีอย่างไม่ชอบใจ ชิตได้แต่เหลือบตามองภรรยาอย่างไม่พอใจก่อนจะเบี่ยงสายตาไม่ทางอื่นเมื่อโต้เถียงอะไรไม่ได้
" ปะลูกเราไปนั่งคุยกันในห้องรับแขกดีกว่า "
" ค่ะ " หวานตอบแค่นั้นเขาสามคนก็พากันไปนั่งที่ห้องรับแขกทันทีพร้อมกับพูดคุยกันตามประสา
" ที่ฉันกับแม่แกมาเช้าก็เพราะว่าตอนเย็นฉันจะพาแกไปทานข้าวกับคู่หมั้นแกที่บ้านเพื่อนฉัน "
" หวานไม่อยากไป "
" แต่แกต้องไปนี่คือคำสั่ง! "
" ค่ะ " หวานกระแทกเสียงตอบผู้เป็นพ่ออย่างนึกโมโหกับคำสั่งเผด็จการ
" หวานลูกงานที่ทำเหนื่อยไหม? " เมื่อพิมพ์เห็นสีหน้าลูกสาวเศร้าเธอจึงเอ่ยถามขึ้น
" ไม่ค่ะ หวานสนุกมากเลยนะคะ "
" ชอบไปได้ไงงานเขียนไร้สาระพวกนั้น แกเลิกทำแล้วมาทำงานที่บริษัทซะ! "
" ก็หวานชอบอีกอย่างงานเขียนของหวานไม่ได้ไร้สาระซะหน่อย ถ้าคุณพ่อจะให้หวานไปทำงานที่บริษัทหวานก็จะไม่แต่งงาน! " เธอยืนกรานเถียงผู้เป็นพ่อเสียงแข็งอย่างไม่ยอมแพ้
" ยัยหวาน!!!! "
" พอแล้วค่ะคุณแค่นี้ก็บังคับลูกมากแล้ว อย่าให้พิมพ์หมดความอดทนกับคุณนะ!! " พิมพ์ปรามและขู่สามีในประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงจริงจังทำให้ชิตถึงกับเงียบไปทันทีก่อนจะเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่นอย่างหงุดหงิด
" หวานขอตัวขึ้นไปทำงานก่อนนะคะ คุณแม่ "
" จ้ะ ลูก " พิมพ์ตอบลูกสาวแค่นั้นหวานเธอจึงเดินขึ้นไปทำงานบนห้องทำงานของเธอทันที อย่างนึกโกรธผู้เป็นพ่อที่เอาแต่บังคับเธอ
หลายชั่วโมงต่อมา ----
" ป้าอิ่มขึ้นไปตามยัยหวานให้หน่อยไม่มาสักที " ชิตสั่งป้าอิ่มทันทีอย่างหงุดหงิดเมื่อลูกสาวตัวดีไม่ยอมลงมาสักที
" ค่ะคุณท่าน "
" จะรีบไปไหนคุณ ลูกอาจจะแต่งตัวไม่เสร็จ! "
" คุณพิมพ์มันใกล้ถึงเวลานัดแล้วนะยัยตัวดีของคุณยังไม่ลงมาอีก! "
" เฮ้ออ! พิมพ์ไม่อยากเถียงกับคุณแล้ว! " พิมพ์เอ่ยเสียงดุใส่สามีอย่างกระเง้ากระงอดก่อนจะสะบัดหน้าหนีทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
" คุณหวานคะ คุณท่านให้มาตามค่ะ " ป้าอิ่มเคาะประตูห้องหวานก่อนจะตะโกนบอกกับคุณหนูของบ้าน
" เดี๋ยวหวานจะลงไปแล้วค่ะ " หวานตะโกนบอกป้าอิ่มเสียงเรียบ ที่จริงเธอแต่งตัวเสร็จนานแล้วแต่เธอไม่อยากไปเลยขอนั่งบนเตียงใหญ่ทำใจก่อน
" ค่ะ "
" ฉันต้องไปจริง ๆ เหรอเนี่ยทำไมชีวิตฉันถึงไม่มีทางเลือกอย่างนี้นะ เฮ้อออ! " หวานตัดพ้ออย่างนึกน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองพร้อมกับถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง
" กว่าจะลงมานะยัยหวาน! "
" ก็หวานแต่งตัวยังไม่เสร็จหนิคะคุณพ่อ! "
" แกนี่มันจริง ๆ เลย "
" พอแล้วสองพ่อลูกขึ้นรถกันได้แล้วค่ะ! " พิมพ์ปรามสามีและลูกสาวเสียงด้วยน้ำเสียงดุ จากนั้นสองพ่อลูกก็พากันเดินขึ้นรถยนต์หรูไปด้วยใบหน้าบึ้งตึกกันทั้งสองพิมพ์ได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างเบื่อหน่ายกับการต่อล้อต่อเถียงของสามีและลูกสาว
บ้าน นฤเบศร์
" แกอย่าทำให้ฉันขายหน้าล่ะตาธัน " อาจบอกกับลูกชายด้วยน้ำเสียงแข็งในขณะที่กำลังนั่งรอแขกที่จะมาร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยธันไม่ได้ตอบผู้เป็นพ่อเพียงแต่เหลือบสายตาหงุดหงิดมองแค่นั้น
" ป้าเพ็ญคะ เดี๋ยวคุณชิตกับคุณพิมพ์มาป้าก็ยกอาหารมาเลยนะคะ "
" ค่ะคุณ นาดา "
" หมอธันโอเคไหมลูก? "
" มันไม่เป็นอะไรหรอกคุณนา "
" นาไม่ได้ถามคุณนะคะ " นาดาเอ่ยเสียงเรียบใส่สามีพร้อมกับตวัดสายตาดุมองทำให้อาจเงียบลงทันที
" ว่าไงลูกโอเคหรือเปล่า? "
" ผมไม่เป็นไรครับแม่ " ธันตอบผู้เป็นแม่เสียงเรียบโดยไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาที่จริงเขาไม่อยากจะมาด้วยซ้ำแต่ทำไงได้ขัดใจพ่อตัวเองได้ซะที่ไหน
" เสียงรถมาแล้ว คุณนาไปกับผม " ขณะเดียวกันเสียงรถยนต์หรูขับเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าบ้าน
" ค่ะ "
อาจกับนาดาจึงลุกขึ้นเดินไปต้อนรับแขกที่มาใหม่
" รอนานไหมวะไอ้อาจ? " ทันทีที่ลงจากรถยนต์หรูมาชิตจึงเอ่ยทักทายเพื่อนรักอย่างเป็นกันเองทันที
" นี่หนูหวานใช่ไหมพิมพ์สวยมากเลยนะ? "
" ใช่จ้ะ หวานสวัสดีคุณน้านาดาสิลูก "
" สวัสดีค่ะคุณน้านาดา "
" จ้ะ "
" เข้าไปทานข้าวกันเถอะ หนูหวาน คุณพิมพ์ " อาจเอ่ยชวน ทั้งสองจึงพยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้มก่อนจะพากันเดินเข้าไปในบ้านทันที
" ลูกชายมึงอยู่ข้างในใช่ไหมไอ้อาจ? "
" เออ สิวะ " ขณะที่เดินเข้ามาเพื่อนรักทั้งสองก็คุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาเพื่อนที่ไม่ค่อยได้เจอกัน
" นั่นไงไอ้ลูกชาย ตาธัน " อาจแนะนำให้เพื่อนรักรู้จักก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อลูกชายที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร หวานที่ได้ยินชื่อเธอถึงกับขมวดคิ้วยุ่งอย่างคุ้นกับชื่อที่ได้ยินเมื่อสักครู่และมันทำให้เธอหยุดชะงักไปในทันทีเมื่อธันลุกขึ้นพร้อมกับหันหน้ามาตามเสียงเรียกของผู้เป็นพ่อ ไม่ใช่แค่หวานที่ชะงักไปธันเองก็ไม่ต่างกันทั้งคู่สบตากันอย่างไม่อยากเชื่อว่าโลกจะกลมถึงขนาดนี้จริง ๆ
" หมอธันสวัสดีคุณอาทั้งสองสิลูก " นาดาเรียกสติลูกชายตัวเองกลับมาเมื่อธันเอาแต่จ้องหวานราวกับสติเขานั้นหลุดล่องลอยไปไหนสักที่หวานเธอเองก็ไม่ต่างกัน
" สวัสดีครับ " เมื่อเขาได้ยินเสียงผู้เป็นแม่จึงละสายตาจากหวานก่อนจะเอ่ยสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสองคน ก่อนจะเหลือบสายตาดุมองหวานอีกครั้งแต่เธอกับหลบสายตา
" หมอธันหล่อมากเลยนะเนี่ย "
" เหมือนพ่อมันไงวะไอ้ชิต "
" ไอ้สัส หลงตัวเอง "
" เออ ๆ ไปทานข้าวกันเถอะ "
" หนูหวานนั่งข้างหมอธันเลยลูก " นาดาบอกกับหวาน เธอลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะไม่อยากเสียมารยาทต่อหน้าผู้ใหญ่
" ค่ะ "
" หมอธันขยับเก้าอี้ให้น้องด้วยสิ "
" ครับ " ธันตอบรับผู้เป็นแม่อย่างว่าง่ายก่อนจะลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้เธออย่างไม่เต็มใจนัก หวานจึงนั่งลงตามมารยาท
" หวานขอบคุณพี่ด้วยสิ "
" ขอบคุณ! " หวานเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงแข็งอย่างไม่เต็มใจ ชิตที่ได้ยินอย่างนั้นจึงตวัดสายตาไม่พอใจมองลูกสาวทันที หวานจึงทำเป็นไม่สนใจ
จากนั้นทุกคนก็พูดคุยตามประสาคนรู้จักจะมีแต่ธันกับหวานเนี่ยแหละที่เอาแต่นั่งเงียบโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
" หนูหวานทำงานอะไรลูก? " นาดาเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้
" หนูเป็นนักเขียนนิยายค่ะ "
" อ๋อ จ้ะ "
--------------------------
หลายชั่วโมงต่อมา ---" พ่อกับแม่กลับก่อนนะ "" ครับ/ค่ะ " หวานและธันตอบรับพ่อแม่ตัวเองพร้อมกัน" หวานพรุ่งนี้หวานคงมีคำตอบให้พี่แล้วใช่ไหม? "" ค่ะ "หวานตอบรับอย่างเข้าใจ ในขณะที่ธันเดินเข้าในบ้านอย่างหงุดหงิดหวานหันมองเพียงนิดเธอพอจะรู้ว่าคนรักของเธอกำลังโกรธ" ขับรถดี ๆ นะคะ "" ครับ "มาร์คตอบรับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินขึ้นรถยนต์หรูของตัวเองและขับออกไปทันทีแกร๊ก ---หวานเปิดประตูห้องนอนเข้ามามองหาคนรัก ซึ่งขึ้นมาก่อนหน้าแต่ไม่พบจึงยู่หน้าถอนหายใจ พร้อมกับบ่นอุบอิ๊บ" เฮ้อออ ขี้น้อยใจจัง "แกร๊ก ---เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาหวานจึงหันมองตามเสียง" ไปไหนมาคะ? "" ห้องทำงาน " ธันตอบเสียงเรียบด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเดินผ่านหน้าเธอไป" เย็นชาใส่หวานอีกแล้วนะพี่ธัน! " ประโยคของหวานทำให้ธันหยุดทันที เธอจึงเดินไปยืนเผชิญหน้ากับคนรัก" เป็นอะไรอีกคะ? "" เปล่า หายกลัวแล้ว? " ธันปฏิเสธก่อนจะเลิกคิ้วถามเสียงเรียบ" ค่ะหายแล้ว โกรธหวานเรื่องไหนระหว่างไปดูงานกับเรื่องพี่มาร์ค? "" ทั้งสองเรื่อง พี่ไม่ชอบให้หวานใกล้ชิดกับมันเกินไปดูก็รู้ว่ามันไม่คิดกับหวานแค่น้อง! "" จะสนใจทำไมคะ ในเมื่อ
" นี่นายชาร์ทไหนว่าจัดการลูกน้องธันหมดแล้วไง!! ทำไมถึงมีเสียงปืน?!! " มายตวาดถามอย่างโมโห" หยุดถามสักที!!! เอาตัวอีนี่ออกไปต่อรองกับมันไม่ต้องกลัวพ่อของเธอเป็นตำรวจ!! " ชาร์ท ตวาดสั่ง ก่อนจะพูดขึ้นพร้อมกับสะบัดหน้าไปทางเรดี้" น้องหวาน! " พรีนเอ่ยเรียกหวานด้วยใบหน้าตกใจเขาไม่คิดว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่" คุณพรีนพี่ธันล่ะคะ? "" หวาน!! " ขณะเดียวกันธันและเหล่าเพื่อนจึงรีบวิ่งเข้ามา ธันมองหน้ามายด้วยสายตาอำมหิตอย่างไม่อยากให้อภัย มายเมื่อเห็นธันใบหน้าเธอจึงถอดสีทันที" มาแล้วเหรอวะไอ้ธัน มาทันเวลาพอดีกูกำลังจะฆ่าเมียมึงเหมือนที่มึงฆ่าน้องสาวกู!!! "" น้องมึงบังกระสุนแทนมึงเองช่วยไม่ได้ ถ้ามึงไม่รังครวญกูก่อนน้องมึงคงไม่ตายมึงนั่นแหละฆ่าน้องมึงเอง!! "" ไม่จริง! "กรึก!!ชาร์ทตะคอกปฏิเสธเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะลั่นไกลแต่ปืนดันไม่มีลูก ทำให้ใบหน้า ชาร์ทซีดไม่เหลือสีอย่างรู้สึกหวาดกลัว ในเมื่อตอนนี้ลูกน้องตัวเองถูกลูกน้องพรีนจัดการหมดแล้ว" ลืมบอกปืนไม่มีลูก หึ ๆ! " หวานกล่าวด้วยน้ำเสียงสบายอารมณ์ ก่อนจะหัวเราะในลำคอ เบา ๆ อย่างสะใจ" คิดว่ากูไม่มีปืนหรือไง!! "พรึบ!ปึก!" อ๊ะ! " เรดี้ร้
วันต่อมา ---ย๊วบ ย๊วบ!เสียงยุบตัวของเตียงทำให้หวานรู้สึกตัวตื่นขึ้นเธอค่อย ๆ ลืมตามองตามเสียง ก่อนจะเอื้อมมือเปิดไฟหัวเตียง เมื่อเห็นว่าธันกำลังก้าวขาลงจากเตียงหวานจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียพร้อมกับดันตัวลุกขึ้น" ไปไหนแต่เช้าคะ? "" ไปทำงาน " ธันเอี่ยวหลังตอบเสียงเรียบแค่นั้น ก่อนจะก้าวขาเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว การกระทำเย็นชาของคนรักตอนนี้มันทำให้เธอรู้ทันทีว่าเขากำลังงอนเธอเรื่องคืนที่ผ่านมา" ขี้งอนชะมัดไอ้หมอหน้านิ่ง! " หวานบ่นอุบอิ๊บหน้ามุ่ยอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงเข้าไปเตรียมชุดทำงานให้ธันในห้องแต่งตัว" อรุณสวัสดิ์ค่ะนายหญิงวันนี้ตื่นเช้ามาทำอาหารเองเลยเหรอคะ? " ป้าใจเดินเข้าห้องครัวมาเอ่ยถาม ขณะที่หวานกำลังตักกุ้งใส่หม้ออยู่" ใช่ค่ะ "" ทำข้าวต้มกุ้งเหรอคะ? "" ค่ะ ทำให้พี่ธัน เขางอนหวานอยู่ต้องเอาใจหน่อย "" น่ารักจังเลยค่ะ นายหญิงคะป้าขอถามเรื่องคุณหมอมายกับผู้หญิงคนนั้นหน่อยได้ไหมคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น? "" ไว้เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหวานค่อยเล่าให้ฟังนะคะป้าใจ "" ค่ะ ขอโทษนะคะที่เสียมารยาท "" ไม่เป็นไรค่ะ หวานวานป้าใจยกกาแฟไปไว้ที่โต๊ะอาหารให
หลายชั่วโมงต่อมา ---แกร๊ก ---" เป็นยังไงบ้างคะ? " หวานเอ่ยถามพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินเข้าไปหาคนรัก" มายบอกพี่ทุกอย่างแล้ว "" พี่จะทำอะไรเธอหรือเปล่าคะ? "" ถ้ามายหยุดแค่นี้พี่คงต้องปล่อยเธอไปยังไงก็เพื่อนกันอีกอย่างมายเป็นคนเดียวที่คอยช่วยเหลือพี่สมัยเรียนหมอมาตลอด "" หวานเข้าใจไม่เป็นไรนะคะ " หวานพูดปลอบเสียงอ่อน ก่อนจะสวมกอดคนรักพร้อมกับลูบแผ่นหลังแกร่งเบา ๆ เพื่อปลอบประโลมให้รู้สึกดีขึ้น เมื่อเห็นแววตาผิดหวังและเศร้าจากเขา ธันจึงกระชับกอดหวานแน่น" ขอบคุณนะหวานที่เชื่อใจพี่ "" ค่ะ หวานรักพี่หมอของหวานนะ "" รักเหมือนกันครับ "ฟอดดดดดดดดธันตอบรับหวานพร้อมกับซุกใบหน้าคมคายหอมซอกคอขาวเนียนของเธอฟอดใหญ่ ก่อนจะผละกอดออกเปลี่ยนมาเป็นกุมมือทั้งสองข้างของเธอไว้แทน เขาส่งยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าจนเห็นฟันขาวเรียงตัวกันอย่างสวยงาม" คิดถึงจัง "" คิดถึงอะไรค ะ? " หวานเลิกคิ้วถามด้วยสายตาจับผิด เมื่อสายตาเขามองเธอนั้นช่างกะลิ้มกะเลี่ยอย่างเจ้าเล่ห์" คิดถึงหวานไงครับ "" เหรอคะ? มองสายตาเยิ้มขนาดนี้กินหวานเข้าไปตอนนี้เลยดีไหมคะ? "" ได้เหรอ? งั้นพี่กินเลยนะ! " ธันแกล้งเลิกคิ้วประทวนคำ
" คุณหวานทำยังไงดีค่ะ? " ป้าใจถามอย่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน มายและเร ยังสุดดึงกันไปมาอยู่" โอ้ยยย!!!! อีบ้า!!! "" ไปเอาปืนในห้องหวานมาค่ะ "" อะไรนะคะ?!!! "" ปืนค่ะ " หวานตอบอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชาโดยสายตาไม่ละไปจากธันเลยสักนิดทำให้ธันรีบก้มหน้างุดทันที" ค่ะ ๆๆ " ป้าใจตอบแค่นั้นจึงรีบวิ่งออกไปทันที" พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นนะหวาน หวานเชื่อพี่นะ " ธันรีบเดินเข้ามากุมมือหวานไว้หลวม ๆ พร้อมกับ อธิบายเสียงอ่อน" หวานรู้แล้วก็เชื่อด้วยค่ะ เล่นเนียนเหมือนเรียนการแสดงมาเลยนะพี่หมอ "" หึ ๆ " ธันหัวเราะในลำคอเบา ๆ อารมณ์ดี ก่อนจะคลี่ยิ้มร้ายให้หญิงคนรักตรงหน้า" ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วค่ะ "" ครับ "ธันตอบรับแค่นั้นจึงเดินออกจากห้องเรดี้ไปทันที" แกอีหน้าด้านกล้าแย่งผัวกูหรือไง! "เพี๊ยะ!!!" คิดว่าฉันจะยอมหรือไง? "เพี๊ยะ!เรดี้และมายยังตบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยมีหวานนั่งมองอย่างมีความสุขเธอแสยะยิ้มมุมปากราวกับกำลังดูละครฉากใหญ่" ปะ...ปืนค่ะนายหญิง " ขณะนั้นป้าใจยื่นปืนให้นายหญิงของบ้านอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ" ขอบคุณค่ะ ป้าไปทำงานต่อเถอะ
หลายชั่วโมงต่อมา --ผับแทน" ไงมาถึงก็นั่งซึมเลยนะมึง? " แทนเดินเข้ามากระแนะกระแหนเพื่อนรักที่นั่ง น่าเศร้า อยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์คนเดียวเงียบ ๆ โดยมีเสียงเพลงดังกระหึ่มทั่วผับชายหญิงต่างโยกย้ายส่ายสะโพกเมามันไปกับเสียงเพลงพร้อมกับแสงสีที่สอดส่องไปมาหลายสี" ก็แค่เบื่อ เจอแต่เรื่องให้ปวดหัวตลอดเลย "" เรื่องผัว? " แทนเลิกคิ้วถามอย่างรู้ทัน หวานได้ยินอย่างนั้นจึงกระดกเหล้าเข้าปากอึกใหญ่รวดเดียวหมด" ใจเย็น ๆ อีสัสเดี๋ยวก็กลับบ้านไม่ได้หรอกเป็นภาระให้กูอีก! "" เมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบสักทีฉันเบื่อที่จะแก้ปัญหาแล้วนะ อึกกก " หวานตัดพ้อออกมาอย่างเหนื่อยใจก่อนจะฟุบหน้าลงร้องไห้ออกมา" เหนื่อยก็ร้องออกมาเถอะ วันนี้กูจะไม่ด่ามึง " แทนลูบหลังเพื่อนรักอย่างปลอบประโลมพร้อมกับพูดปลอบเสียงอ่อนพรึบ!" อึกกก เหนื่อยอ่ะฉันควรทำยังไงต่อวะอีแทนอึกกก ฮื้ออออ " หวานเงยหน้าขึ้นสวมกอดแทนทันทีพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้อ อีกทั้งยังมีความเมาเริ่มแทรกเข้ามาจึงทำให้อารมณ์อ่อนไหวง่ายไปอีก" ปล่อยนายหญิง! " ระหว่างนั้นเสียงเหี้ยมเกรียมของใครบางคนดังแทรกเข้ามา ทำให้หวานและแทนรีบผละออกจากกันก่อนจะหันมองตามเสียง