Share

บทที่ 6  พี่ใหญ่กลับมาแล้ว!

last update Last Updated: 2025-09-28 09:20:36

บทที่ 6  พี่ใหญ่กลับมาแล้ว!

หมอเฒ่าหลี่นำเห็ดทั้งหมดไปชั่งน้ำหนัก ได้น้ำหนักรวมสองจินครึ่งพอดิบพอดี เขาเดินกลับเข้าไปในบ้านครู่หนึ่งก่อนจะออกมาพร้อมกับเงินจำนวน 2 หยวน 5 เหมา และห่อยาเล็กๆ สองสามห่อ

"นี่เงินของเธอ 2 หยวน 5 เหมา ส่วนนี่คือยาลดไข้กับยาแก้อักเสบ ฉันแถมให้ ถือเป็นการเปิดการค้าที่ดีต่อกัน เอากลับไปต้มให้น้องเธอกินซะ"

"ขอบคุณค่ะท่านหมอ! ขอบคุณจริงๆ ค่ะ!" ไป่ซินซินโค้งคำนับอย่างจริงใจ เธอไม่ได้ดีใจแค่เรื่องยาที่ได้มาฟรี แต่ดีใจที่สามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในหมู่บ้านได้สำเร็จ ท่านหมอหลี่ที่ดูเหมือนจะเคี้ยวและเข้มงวดแต่ในใจก็ยังสงสารสามพี่น้องอยู่เหมือนกัน

เธอกำเงินที่เพิ่งได้มาไว้ในมือแน่น มันเป็นธนบัตรเก่าๆ แต่สำหรับเธอในตอนนี้ มันคือเงินทุนก้อนแรก คือเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงความหวังของครอบครัวเล็กๆ ของเธอ หลังจากร่ำลาหมอเฒ่าหลี่ เธอก็รีบตรงกลับกระท่อมทันที แต่ระหว่างทาง เธอแวะที่บ้านของป้าจวง หญิงม่ายใจดีที่อาศัยอยู่คนเดียวและมีฐานะพอมีพอกินที่สุดคนหนึ่งในละแวกนั้น เธอใช้เงิน 20 เหมา ซื้อข้าวสารมาหนึ่งชั่ง และไข่ไก่สดๆ ห้าฟอง เครื่องปรุงซีอิ๊วกับเกลืออีกเล็กน้อย เพราะที่บ้านนั้นหมดไม่เหลืออะไรเลย

เมื่อกลับถึงกระท่อม ภาพแรกที่ไป่ซินซินเห็นคือร่างเล็กจิ๋วของไป่เหมยที่นั่งขดตัวอยู่ตรงธรณีประตู ดวงตาคู่กลมโตฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าเล็กๆ ซูบผอมที่ยังคงมีร่องรอยความเจ็บป่วยหันซ้ายทีขวาที มองไปตามเส้นทางที่พี่สาวจากไปอย่างใจจดใจจ่อ ทุกครั้งที่มีเสียงลมพัด หรือเงาไม้ไหว เธอก็จะสะดุ้งเฮือก เงยหน้าขึ้นมองด้วยความหวังอันริบหรี่ แล้วก็ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แววตาของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความกลัวว่าพี่สาวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่จะจากไปอีกคน ทิ้งให้เธอและไป่ซานต้องเผชิญโลกอันโหดร้ายเพียงลำพัง ลมหายใจเล็กๆ ถอนออกมาราวกับจะขาดห้วงทุกครั้งที่ความหวังมลายหายไป ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างกัดกินหัวใจดวงน้อยๆ จนเจ็บปวด

และเมื่อร่างคุ้นตาของพี่สาวปรากฏขึ้นที่ปลายทางเดิน ใบหน้าที่ซีดเซียวของไป่เหมยก็พลันสว่างไสวขึ้นมาในทันที ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความดีใจระคนโล่งอก ราวกับเห็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดสุดขอบฟ้า ร่างเล็กๆ พุ่งทะยานออกไปราวกับลูกกระสุน ไม่สนว่าพื้นดินจะเปรอะเปื้อนหรือมีก้อนหินขรุขระ เธอต้องการเพียงแค่ไปให้ถึงอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั้นให้เร็วที่สุด เสียงเล็กๆ ที่เคยแหบพร่าด้วยความกังวล บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นเสียงใสๆ ที่เต็มไปด้วยความปิติ

"พี่ใหญ่! กลับมาแล้ว!"

"พี่กลับมาแล้ว"

ไป่ซินซินยิ้มอย่างอบอุ่นเป็นครั้งแรก เธอโอบกอดร่างเล็กของไป่เหมยแน่นสัมผัสได้ถึงความสั่นเทาที่ยังไม่หายไปจากตัวน้องสาว หัวใจของไป่ซินซินบีบรัดด้วยความเจ็บปวดและสงสาร ภาพของไป่เหมยที่นั่งเฝ้ารอที่ประตูอย่างใจจดใจจ่อเมื่อครู่ยังคงติดตา เธอรู้ดีว่าความกลัวที่จะถูกทอดทิ้งนั้นฝังรากลึกอยู่ในจิตใจของเด็กน้อยทั้งสองคน ความรู้สึกผิดที่ไม่ใช่ของเธอโดยตรง แต่เป็นความรู้สึกผิดที่ไป่ซินซินคนเดิมเคยแบกรับไว้ถาโถมเข้ามา

เธอเคยเป็นจักรพรรดินีผู้เด็ดขาด ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ แต่ตอนนี้หัวใจของเธอเจ็บปวดราวกับถูกบีบขยี้ เธอมองใบหน้าซูบผอมของน้องสาวที่ซบลงกับอกของเธอ น้ำตาอุ่นๆ ซึมผ่านเนื้อผ้า เธอสาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีวันปล่อยให้น้องๆ ต้องเผชิญความกลัวเช่นนี้อีกต่อไป จะไม่มีใครต้องอดอยาก หรือโดดเดี่ยวอีกแล้ว ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าฉายชัดในดวงตาที่เคยเย็นชาของนักธุรกิจหมื่นล้าน

"และพี่มีของดีมาด้วย ไปทำอาหารกันน้องรัก"

ไป่ซินซินกระซิบเสียงอ่อนโยน พลางผละกอดออกเล็กน้อย แต่ยังคงประคองใบหน้าเล็กๆ ของไป่เหมยไว้ในมือ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักที่ไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัสในชีวิตนี้

เธอจัดการก่อไฟในเตาดินเก่าๆ อย่างคล่องแคล่ว ความทรงจำของไป่ซินซินคนเดิมทำให้เธอรู้วิธีใช้ชีวิตในยุคนี้เป็นอย่างดี เธอต้มยาให้ไป่ซานก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ป้อนยาที่เย็นลงแล้วให้น้องชายทีละช้อนและให้เขานอนพักต่อในขณะที่เธอลุกไปทำอาหาร… ก็ถึงเวลาของอาหารมื้อแรกที่จะพลิกฟื้นชีวิตของพวกเขา!

เธอหุงข้าวต้มในหม้อดินจนส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วกระท่อม กลิ่นไอข้าวผสมกับกลิ่นดินหอมๆ ลอยอวลในอากาศราวกับโอบอุ้มความอบอุ่นไว้ ขณะเดียวกันไป่ซินซินก็นำเนื้อส่วนที่ดีที่สุดของงูที่ได้มาจากการผจญภัยบนภูเขามาสับจนละเอียด แม้จะดูเป็นของแปลกสำหรับบางคน แต่สำหรับไป่ซินซินแล้ว นี่คือแหล่งโปรตีนชั้นดีที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายของน้องชาย เธอต้มเนื้อละเอียดนั้นรวมกับข้าวต้ม ปรุงรสด้วยเกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยพอให้มีรสชาติกลมกล่อมกำลังดี

แม้ในอดีตชาติเธอจะเป็นถึงนักธุรกิจหมื่นล้านผู้ไม่เคยต้องเข้าครัว แต่ในอีกมุมหนึ่ง ไป่หลิงในวัยเยาว์นั้นคือเด็กกำพร้าที่เคยต้องเผชิญกับความหิวโหยและความแร้นแค้นอย่างสาหัส ดังนั้น เมื่อเริ่มมีเงินมีทองในชีวิตก่อน เธอจึงได้ลงเรียนการทำอาหารหลากหลายแขนง ไม่ใช่แค่เพราะความชอบ แต่เป็นเพราะความปรารถนาลึกๆ ที่จะไม่ต้องกลับไปอดอยากอีก และเพื่อที่จะสามารถสร้างสรรค์อาหารดีๆ ให้กับคนที่เธอรักได้ ความรู้และทักษะเหล่านั้นได้ติดตัวเธอข้ามภพมา และบัดนี้ก็ได้ถูกนำมาใช้เพื่อชีวิตของน้องๆ ที่แสนรัก

และไฮไลท์ของมื้อนี้... ไข่ตุ๋น! เธอตอกไข่สามฟองใส่ชาม ตีให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว ผสมกับน้ำเล็กน้อย แล้วนำไปนึ่งบนปากหม้อข้าวต้มที่กำลังเดือดปุดๆ จนสุกกำลังดี ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนนุ่มสีเหลืองทองอร่ามดูน่ากินจนน่าเหลือเชื่อ ไอน้ำร้อนๆ ลอยกรุ่นพร้อมกลิ่นหอมละมุน เธอวิ่งไปหลังบ้านเด็กต้นหอมที่ปลูกเอาไว้เล็กน้อยมาหันและโรยเพิ่มความหอมให้ไข่ตุ๋นของเธอมากขึ้น กลิ่นหอมของอาหารทำให้เด็กทั้งสองท้องร้องเสียงดัง ไป่ซานที่เพิ่งได้กินยาก็เริ่มรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมาอย่างอ่อนแรง

"พี่ใหญ่..."

ไป่ซานเรียกเสียงแผ่วที่ได้กินยาและนอกพักระหว่างที่ไป่ซินซินทำอาหารตอนนี้สติยังคงเลือนราง ดวงตาเล็กๆ ปรือมองหาพี่สาวอย่างอ่อนแรง

"พี่อยู่นี่แล้วซานซาน"

ไป่ซินซินกล่าวปลอบโยน เธอเดินถือชามข้าวต้มเนื้อตุ๋นร้อนๆ มาวางข้างเตียงไม้เล็กๆ ที่ไป่ซานนอนซมอยู่ ควันกรุ่นๆ ลอยขึ้นมาพร้อมกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ เธอค่อยๆ ตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าเบาๆ จนไอความร้อนจางลง ก่อนจะป้อนให้น้องชายอย่างนุ่มนวล

"มากินข้าวก่อนนะ กินแล้วจะได้มีแรง"

เธอพูดพร้อมส่งช้อนแรกเข้าปากไป่ซาน ไป่ซานรับข้าวต้มอุ่นๆ เข้าไปในปากอย่างเชื่องช้า แต่ทันทีที่รสชาติกลมกล่อมและความอบอุ่นแผ่ซ่านลงสู่กระเพาะที่ว่างเปล่า ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ความหิวโหยที่กัดกินมาหลายวันบรรเทาลงในทันที ไป่ซินซินป้อนไป่ซานจนแน่ใจว่าเขากินได้มากพอ จากนั้นจึงตักข้าวต้มและไข่ตุ๋นให้ไป่เหมย และตักของตัวเองเป็นคนสุดท้าย

ฉากสามพี่น้องนั่งล้อมวงกินอาหารมื้อแรกที่สมบูรณ์ที่สุดในรอบหลายเดือนจึงเริ่มต้นขึ้น ข้าวต้มร้อนๆ ไหลผ่านลำคอที่แห้งผากลงสู่กระเพาะที่ว่างเปล่า ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนนุ่มละลายในปากราวกับความฝัน

ไป่เหมยและไป่ซานกินไปน้ำตาไหลไป มันคือน้ำตาแห่งความสุขและความโล่งใจที่เอ่อล้นออกมาโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกปลอดภัยที่ได้กินอิ่ม ได้รับความอบอุ่นจากพี่สาวช่างเป็นสิ่งที่พวกเขาโหยหามานานแสนนาน

ส่วนไป่ซินซินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่พองโต น้ำตาอุ่นๆ คลอเบ้าด้วยความตื้นตันใจ เธอกัดริมฝีปากแน่นเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ เธอไม่เคยคิดเลยว่าการได้เห็นน้องๆ กินอิ่ม จะทำให้เธอรู้สึกสุขใจได้มากขนาดนี้ ความสำเร็จในชาติก่อนที่ยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ไม่เคยเทียบเท่าความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอได้รับในตอนนี้ เธอรู้แล้วว่านี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตใหม่ของเธอ และเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาความสุขนี้ไว้

ติ๊ง!

[ระบบวิเคราะห์ความสำเร็จ: ตรวจพบการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์]

[ไป่ซาน: ความรู้สึกปลอดภัยเพิ่มขึ้น 80%, ความหวังในชีวิตเพิ่มขึ้น 75%]

[ไป่เหมย: ความรู้สึกปลอดภัยเพิ่มขึ้น 90%, ความหวังในชีวิตเพิ่มขึ้น 85%, ความผูกพันกับผู้ใช้เพิ่มขึ้น 95%]

[สถานะความสุขโดยรวมของครอบครัว: 60% (จากเดิม 10%) ]

เสียงของระบบดังขึ้นในหัวของไป่ซินซิน ยืนยันความรู้สึกที่เธอสัมผัสได้ด้วยตัวเอง เธอรู้แล้วว่านี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตใหม่ของเธอ และเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาความสุขนี้ไว้

นี่เป็นเพียงก้าวแรก... ก้าวเล็กๆ แต่สำคัญที่สุดบนเส้นทางสู่ความรวยแน่ 100% ของเธอ! เธอจะไม่มีวันยอมให้เด็กสองคนนี้ต้องหิวโหยหรือเจ็บป่วยอีกต่อไป

****

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที133  ตอนพิเศษ... สมการรักนิรันดร์

    บทที133 ตอนพิเศษ... สมการรักนิรันดร์ณ คฤหาสน์ตระกูลหวังในสวนอันเงียบสงบ หลิวเจียยืนอยู่เบื้องหน้าหวังหลิน ไม่ใช่ในฐานะอัจฉริยะผู้เย็นชา แต่เป็นเพียงชายหนุ่มที่ตรรกะทั้งชีวิตได้พังทลายลงเพราะสตรีเพียงคนเดียว"หวังหลิน... ผมขอโทษ" น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ"สมการที่ผมเคยเชื่อว่าสมบูรณ์แบบมันผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น ผมมองข้ามตัวแปรที่สำคัญที่สุดนั่นคือหัวใจของเธอ"หวังหลินมองลึกเข้าไปในดวงตาที่สับสนของเขา ก่อนจะยิ้มออกมาบางเบา"สมการที่ซับซ้อนที่สุด ก็อาจมีคำตอบที่เรียบง่ายที่สุดค่ะ รุ่นพี่ฉันไม่เคยต้องการให้ใครมาคำนวณคุณค่าของฉัน ฉันแค่ต้องการใครสักคนที่มองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น"คำพูดนั้นปลดเปลื้องความหนักอึ้งในใจของหลิวเจียจนหมดสิ้นเมื่อทั้งสองเดินกลับเข้ามาในตัวคฤหาสน์ หวังเทียนซานนั่งรออยู่ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยแต่แววตาฉายแววหยั่งรู้ หลิวเจียไม่ลังเล เขาก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมที่สุดในชีวิต"ท่านลุงหวังครับ ผมได้กระทำการอันโง่เขลาและเย่อหยิ่งต่อคุณหนูหวังหลิน ผมใช้ตรรกะที่เย็นชาของตัวเองตัดสินคุณค่าของเธออย่างผิดพลาด ผมยอมรับผิดทุกประการและมาเพื่อขอโอกาส... โอกาสที่จะได้พิสูจน์ว่าผมคู่ควร

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที่ 132 บทส่งท้าย...แต่งงานกันเถอะ!!

    บทที่ 132 บทส่งท้าย...แต่งงานกันเถอะ!!อาณาจักรของกลุ่มพันธมิตรก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเซี่ยงไฮ้เท่านั้นหากคุณเดินทางไปที่ใดก็ตามในประเทศจีนยุคใหม่นี้... เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะไม่พบเห็นสัญลักษณ์ของพวกเขาณ กรุงปักกิ่ง... เด็กนักศึกษาสาวกำลังเปิดถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ หงส์เพลิงกินแก้หิวในช่วงอ่านหนังสือสอบตอนดึก โลโก้รูปหงส์สีแดงสดของมันคือสัญลักษณ์ของคุณภาพและความอร่อยที่ทุกคนวางใจณ นครฉงชิ่ง... ในห้องครัวของทุกบ้าน จะต้องมีขวดซอสพริกเสฉวนและเครื่องปรุงรสสูตรเด็ดของแบรนด์ หงส์เพลิง วางอยู่คู่ครัวเสมอ มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของรสชาติที่ทุกครอบครัวคุ้นเคยณ นครกว่างโจว... บนทางด่วนที่ทอดยาวข้ามเมือง ตู้คอนเทนเนอร์นับร้อยที่ติดโลโก้เฟิงหลง โลจิสติกส์กำลังลำเลียงสินค้าออกสู่ท่าเรือเพื่อส่งออกไปทั่วโลกณ มหานครเซี่ยงไฮ้... ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดใจกลางย่านการเงินนั้นมีป้ายชื่อขนาดใหญ่ติดอยู่...สำนักงานใหญ่กลุ่มบริษัทเฟิงหลงไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อในหมู่บ้านห่างไกล หรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่หรูหราที่สุดในเมืองหลวง... ผลิตภัณฑ์ของหงส์เพลิง ได้แทรกซึมและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนจีนไปแ

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที่ 131 ความสำเร็จของเหล่าลูกหงส์ ตระกูลเฟิง

    บทที่ 131 ความสำเร็จของเหล่าลูกหงส์ ตระกูลเฟิงกาลเวลาหมุนเวียนผันผ่าน ฤดูแล้วฤดูเล่า... ปีแล้วปีเล่า...เหล่าทายาทแห่งตระกูลเฟิงและพันธมิตรที่เคยยืนเคียงข้างกันในวันวาน ต่างแยกย้ายกันไปบนเส้นทางแห่งการเติบโตของตนเอง พวกเขาก้มหน้าก้มตาศึกษาเล่าเรียนอย่างหนักหน่วง อดทนต่อความเหนื่อยล้าและความกดดัน ลับคมดาบแห่งสติปัญญาและความสามารถของตนให้คมกริบ เพื่อรอวันที่จะกลับมาพบกันอีกครั้งอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิมและบัดนี้... เมื่อเวลาอันควรมาถึง เมล็ดพันธุ์ที่ตระกูลเฟิงได้หว่านเพาะไว้ในดินแดนต่างๆ ก็ได้เติบใหญ่เป็นต้นไม้ที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะแผ่กิ่งก้านสาขาและออกดอกผลอย่างงดงามในที่สุด... ลูกหลานของตระกูลเฟิงที่แยกกันไปศึกษาเล่าเรียน ต่างก็ประสบความสำเร็จในด้านการศึกษาของตัวเองอย่างสมบูรณ์ รอวันที่จะนำความรู้ความสามารถทั้งหมดที่สั่งสมมา กลับมาเป็นกำลังสำคัญในการสร้างอาณาจักรของตระกูลให้ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานที่ปักกิ่ง เฟิงเจีย ไม่ได้เป็นเพียงดาวเด่นแห่งคณะเศรษฐศาสตร์ แต่เขาได้กลายเป็น ศาสตราจารย์น้อยผู้เป็นตำนานที่ยังมีชีวิตของมหาวิทยาลัยไปแล้ว บทวิเคราะห์ที่เฉียบคมและมองการณ์ไกลของเขา ไม่ได้หยุดอ

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที่ 130 ประตูสู่อนาคต

    บทที่ 130 ประตูสู่อนาคตความเย้ายวนที่ทำลายล้างและวินาทีนั้นเองหวังหลินก็ได้รู้แล้วว่าโลกของเธอได้กลับตาลปัตรไปแล้วโดยสิ้นเชิง...จูบนั้นจบลงแล้ว... แต่พายุอารมณ์ที่มันทิ้งไว้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นหวังหลินยืนนิ่งงันราวกับถูกแช่แข็ง สัมผัสร้อนผ่าวที่รุนแรงและเอาแต่ใจยังคงตราตรึงอยู่บนริมฝีปากของเธอ สมองขาวโพลนไปชั่วขณะเธอไม่เข้าใจ... บุรุษที่เพิ่งผลักไสเธออย่างเลือดเย็นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน บัดนี้กลับมาทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในตัวเธออย่างดุเดือด... เขาต้องการอะไรกันแน่?ส่วนหลิวเจีย ทันทีที่เขาถอนริมฝีปากออกมา ป้อมปราการแห่งเหตุผลที่พังทลายไปชั่วขณะก็เริ่มซ่อมแซมตัวเองอย่างรวดเร็ว ความเย็นชากลับคืนสู่ดวงตาของเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ มันแฝงไปด้วยความสับสนที่ปิดไม่มิด เขาตกใจในการกระทำของตัวเอง เขาเกลียดการสูญเสียการควบคุม และผู้หญิงตรงหน้าคือสาเหตุของมันทั้งหมด…เธอต้องรับผิดชอบเขา!!เขาไม่พูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว เพียงแค่จ้องมองนางนิ่งๆ ราวกับจะจารึกภาพใบหน้าที่แดงก่ำและแววตาที่สั่นไหวของนางไว้ในความทรงจำ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้หวังหลินยืนอยู่กับคำถามนับล้านในใจสองวันต่อมา บรรยากา

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที่ 129  ลูกผู้ชายวัดกันที่หมัด!

    บทที่ 129 ลูกผู้ชายวัดกันที่หมัด!เสียงที่ดังขึ้นเมื่อครู่ดังราวกับฟ้าผ่าลงกลางปฐพี ทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยความเป็นเจ้าของอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หวังหลินได้แต่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ ส่วนหวงเฟยหลงยังคงรักษารอยยิ้มบนใบหน้า แต่สายตาที่เขามองมาที่หลิวเจียกลับแฝงไว้ด้วยความเย็นชาท้าทายถึงขีดสุด"แล้วถ้าฉันอยากเป็นคนสอนการบ้านรุ่นน้องหวังหลินตลอดไปล่ะ?" หวงเฟยหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงท้าทาย"คนของนายเหรอ?? ..." เขาเว้นช่วงไปก่อนจะมองไปรอบๆ ร่างกายแสนสวยของรุ่นน้องหวังหลินราวกับจะหาอะไรสักอย่างก่อนจะเอ่ยว่า"ไม่เห็นมีป้ายติดเอาไว้นี่"สิ้นคำพูดนั้น ทุกตรรกะและเหตุผลในสมองของหลิวเจียก็ขาดสะบั้นลงในพริบตา ความรู้สึกเป็นเจ้าของที่ ดิบเถื่อนและรุนแรงเข้าครอบงำเขาจนหมดสิ้นหลิวเจียแค่นหัวเราะในลำคอ เสียงหัวเราะที่ไร้อารมณ์ใดๆ ก่อนที่กำปั้นของเขาจะพุ่ง"หึหึหึ! อยากจะดูป้ายแสดงความเป็นเจ้าของใช่ไหม ได้!!"เข้าหาใบหน้าหล่อเหลาของหวงเฟยหลงอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าผัวะ!หมัดแรกถูกชกเข้าที่แก้มซ้ายของหวงเฟยหลงอย่างจังจนร่างสูงเซไปเล็กน้อย แต่หวงเฟยหลงนั้นถึงแม้ถูกต่อยแต่ยังคงเท่อย

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที่ 128 สมการที่ไร้คำตอบ และกรรมสิทธิ์เหนือดอกทานตะวัน!!

    บทที่ 128 สมการที่ไร้คำตอบ และกรรมสิทธิ์เหนือดอกทานตะวัน!!ความมุ่งมั่น... คือทรัพยากรเพียงอย่างเดียวที่หวังหลินมีอยู่อย่างไม่จำกัด หลังจากคืนนั้นที่คฤหาสน์ตระกูลหวัง เธอก็ได้ตัดสินใจแล้ว ในเมื่อการเป็นดาวบริวารที่โคจรอยู่ห่างๆ นั้นไร้ความหมาย เธอก็จะลองเสี่ยงเดินเข้าไปในใจกลางพายุ... เผชิญหน้ากับดวงอาทิตย์ที่แผดเผาโดยตรง แม้ว่าจะต้องมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านก็ตามสองวันต่อมา หวังหลินดักรอหลิวเจียที่ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารคณะเศรษฐศาสตร์และห้องสมุดกลาง เธอรู้ตารางเรียนของเขา ไม่สิ ต้องบอกว่าเธอจดจำทุกอย่างที่เป็นของเขาได้ขึ้นใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่เขาชอบ เสื้อผ้าที่เขาชอบใส่ หรือว่าเวลาส่วนใหญ่เขาเอาไปใช้ทำอะไร เด็กสาวล้วนรู้หมด เธอเฝ้ารออย่างใจจดจ่ออยู่ไม่นานร่างสูงโปร่งที่แสนจะหล่อเหลาและคุ้นเคยปรากฏขึ้น หัวใจดวงน้อยของเด็กสาวก็เต้นระรัว แต่คราวนี้... เธอไม่หลีกทางให้เขาอีกต่อไป"รุ่นพี่หลิวเจียคะ!"หลิวเจียชะงักฝีเท้า เขาหรี่ตามองเธอเล็กน้อย แววตาฉายแววรำคาญอย่างไม่ปิดบัง เขาถอนหายใจออกมาเสียงดัง ไม่พยายามที่จะปกปิดความรู้สึกด้วยซ้ำ"หวังหลินใช่ไหม!!! ฉันคิดว่าเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะ ห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status