Share

บทที่ 9 ออกเดินทาง

last update Last Updated: 2025-09-29 11:06:43

บทที่ 9 ออกเดินทาง

แน่นอนว่าหลังจากที่ไป่ซินซินมุ่งหน้าไปบริเวณที่ระบบวิเคราะห์ความสำเร็จบอกไม่นาน เธอก็กลับลงมาจากเขา ตัวตะกร้าที่สะพายมาเต็มแน่นไปด้วยเห็ดหอมดอกใหญ่สีน้ำตาลเข้ม และยังมีเห็ดโคนสีขาวนวลที่ผุดขึ้นมาเป็นกลุ่มๆ ราวกับว่าพวกมันรอการค้นพบจากเธออย่างไรอย่างนั้น นอกจากเห็ดเหล่านั้นแล้ว เธอยังได้ผักป่ากลับมาอีกหอบใหญ่ แน่นอนว่าเพราะมีระบบชี้นำทำให้เธอรู้ว่าผักชนิดไหนที่สามารถกินได้ ชนิดไหนที่กินไม่ได้ ดังนั้นครั้งนี้การขึ้นภูเขาของเธอก็ประสบความสำเร็จอีกครั้ง

เมื่อไป่ซินซินเดินกลับมาถึงกระท่อม ไป่เหมยที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าบ้านก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที ดวงตาเล็กๆ เบิกกว้างเมื่อเห็นของที่พี่สาวหอบหิ้วมา

“พี่ใหญ่! กลับมาแล้ว! แล้วนี่อะไรคะ เต็มตะกร้าเลย!”

ไป่เหมยร้องด้วยความตื่นเต้น มือเล็กๆ ชี้ไปที่ตะกร้าเห็ด

ไป่ซานที่ออกมาดูด้วย ก็เบิกตาโตไม่แพ้กัน

“โห! เห็ดเยอะแยะเลยครับพี่ใหญ่! แล้วนี่ผักอะไรครับ ไม่เคยเห็นเลย!”

ไป่ซินซินยิ้มกว้าง “พี่กลับมาแล้วจ้ะ! นี่ไง เห็ดหอมกับเห็ดโคน แล้วก็ผักป่าที่เราจะเอาไว้กินกันนะ”

เธอลูบหัวน้องๆ อย่างอ่อนโยน

“พวกเราจะได้มีของอร่อยๆ กินกันตลอดฤดูหนาวเลย!”

หลังจากกลับลงมาจากภูเขา เธอก็รีบจัดการล้างเห็ดเหล่านั้นทันทีอย่างคล่องแคล่ว แม้จะเคยเป็นนักธุรกิจในโลกอนาคต แต่ความรู้จากการเรียนทำอาหาร และการดูคลิปวิดีโอสอนทำอาหารถนอมอาหารที่แพร่หลายในยุคปัจจุบันก็ทำให้เธอเชี่ยวชาญวิธีต่างๆ ไป่ซินซินรู้ว่าวิธีการที่จะทำให้ทั้งเห็ดและปลาแห้งเร็วที่สุดก็คือการอบรมควัน เธอเริ่มก่อไฟในเตาดินที่ถูกปรับปรุงให้มีช่องระบายควัน และนำเห็ดกับปลาที่เตรียมไว้ไปแขวนรมควันอย่างเป็นระบบ กลิ่นหอมฟุ้งของควันไฟผสมกับกลิ่นเห็ดและปลาค่อยๆ ลอยอบอวลไปทั่วบริเวณ กระตุ้นต่อมรับรสของทุกคน

หลังจากปลาและเห็ดส่วนใหญ่ถูกนำไปรมควันจนแห้งสนิท ส่งกลิ่นหอมชวนกินไปทั่วบริเวณ ไป่ซินซินก็จัดแจงเก็บเสบียงเหล่านั้นอย่างเป็นระเบียบ เธอแยกส่วนที่จะเก็บไว้กินกับน้องๆ และส่วนที่จะนำติดตัวไปสำหรับเดินทาง

เธอตรวจสอบอุปกรณ์อีกครั้ง มีดเก่าๆ ถูกลับจนคมกริบ เชือกปอที่เคยดูไม่แข็งแรงถูกมัดทดสอบความแน่นหนา ส่วนเสื้อคลุมของพ่อที่เธอเย็บซ่อมแซมอย่างพิถีพิถันก็ถูกพับเก็บไว้อย่างดีพร้อมใช้งาน แม้จะมั่นใจในแผนการ แต่เธอก็รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ความเสี่ยง 70% ที่ระบบแจ้งเตือนไม่ใช่ตัวเลขที่น่ามองข้าม

ไป่ซินซินตัดสินใจนำเห็ดหอมภูเขาและเห็ดโคนส่วนหนึ่งที่อบรมควันแล้ว รวมถึงผักป่าบางชนิดที่เธอเก็บมาได้จากการขึ้นเขาครั้งล่าสุด ไปขายให้กับหมอเฒ่าหลี่ ซึ่งเป็นลูกค้าประจำและเป็นผู้ที่เธอสร้างความสัมพันธ์อันดีด้วย เธอรู้ว่าหมอเฒ่าหลี่เป็นคนเถรตรงและไว้ใจได้ และเขาเองก็ชื่นชมในความสามารถของเธอ

เมื่อไปถึงบ้านหมอเฒ่าหลี่ กลิ่นหอมของเห็ดรมควันก็ลอยแตะจมูกหมอเฒ่าหลี่ทันที

“โอ้โห! เจ้าหนู! นี่มันเห็ดหอมอบรมควันรึ! กลิ่นหอมฟุ้งเชียว!” หมอเฒ่าหลี่กล่าวด้วยความประหลาดใจ

“แล้วนี่เห็ดโคนด้วยรึ! เจ้าไปหามาจากไหนกัน! ของดีๆ ทั้งนั้นเลย!” เพราะว่าเขาทราบดีว่าของป่านั้นถูกชาวบ้านหากันทุกวันเหตุใดยังมีของดีหลงเหลือให้เจ้าเด็กนี้เก็บอยู่อีก

ไป่ซินซินยิ้ม “ใช่ค่ะท่านหมอ ฉันเพิ่งไปเก็บมาจากบนเขาหลังบ้านค่ะ” ไป่ซินซินไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักและเธอก็คิดว่าหมอหลี่ก็ถามไปเช่นนั้นเอง เขาไม่ได้อยากจะรู้จริงๆ หรอกว่าเธอไปเก็บจากบริเวณใดของภูเขา เธอยื่นตะกร้าเห็ดและสมุนไพรให้หมอเฒ่าหลี่พิจารณาหมอเฒ่าหลี่พิจารณาเห็ดและสมุนไพรอย่างละเอียด ก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ

“คุณภาพดีเยี่ยมเหมือนเดิมเลย! เจ้าหนูไป่เก่งจริงๆ ไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเลย”

เขาชั่งน้ำหนักและจ่ายเงินให้ไป่ซินซินในราคาที่ยุติธรรมกว่าครั้งก่อนๆ มาก เพราะเห็ดเหล่านี้ถูกแปรรูปมาอย่างดีและเก็บรักษาได้นาน และราคาก็ย่อมสูงกว่าเห็ดสดอยู่แล้ว และครั้งนี้เธอทำเงินจากหมอหลี่ไปได้ 7 หยวน ไป่ซินซินเก็บเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็ว พลางคิดในใจว่าหากว่ามีมิติก็คงจะดี 'ถ้ามีมิติเก็บของแบบในนิยายน่ะ จะดีแค่ไหนนะ ไม่ต้องแบกให้หนักแบบนี้ และยังปลอดภัยด้วย' เธอเอ่ยลอยๆ ในใจไม่ได้ระบุถึงผู้ใดเลยจริงๆ นะ!!!… แต่สายตาเฉียบคมของเธอกลับจับจ้องเขม็งไปที่หน้าต่างของระบบที่ปรากฏขึ้นในมโนสำนึก เหมือนกำลังส่งคำถามแบบอ้อมๆ ไปยัง ‘ใครบางคน’ ที่อยู่เบื้องหลังระบบนี้ประมาณว่า 'ว่าไงนะจ๊ะ ระบบที่รัก? จะมีโควต้ามิติเก็บของให้ฉันด้วยไหมเนี่ย? หรือว่าต้องรออัปเกรดอีกนานแค่ไหนกันนะ?'

ติ๊ง! แคร๊กกกก... ซ่าาาา..ซ่าาา

เสียงของระบบดังขึ้นในหัวของไป่ซินซิน แต่คราวนี้ไม่ใช่เสียงใสชัดเจนเหมือนปกติ มันกลับมีเสียงซ่าเหมือนคลื่นรบกวนคล้ายเครื่องรับวิทยุที่กำลังหาคลื่นไม่เจอ ตามมาด้วยเสียงแครกๆ คล้ายวงจรไฟฟ้าขัดข้อง หรือเหมือนคอมพิวเตอร์ที่กำลังจะแฮงก์ หน้าต่างโปร่งใสที่เคยแสดงผลอย่างราบรื่นก็กะพริบถี่ๆ ก่อนจะปรากฏตัวอักษรผิดเพี้ยนบางอย่างขึ้นมาแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แล้วทุกอย่างก็เงียบลงอีกครั้ง ไม่มีคำตอบใดๆ จากระบบ

ไป่ซินซินถึงกับปากกระตุก…หึหึหึ…ok รับทราบ…

เมื่อเสร็จสิ้นการซื้อขาย ไป่ซินซินก็เอ่ยปากด้วยความประหม่าเล็กน้อย

“ท่านหมอคะ ฉันมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากท่านหมอได้ไหมคะ?”

หมอเฒ่าหลี่เลิกคิ้ว “อะไรล่ะ? ถ้าฉันช่วยได้ ก็บอกมาเถอะ”

“คือ… ฉันวางแผนจะเดินทางขึ้นเขาเมฆาค่ะ” ไป่ซินซินกล่าว เธอตัดสินใจบอกความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะไม่อยากให้หมอเฒ่าหลี่เป็นห่วงมากเกินไป

“ฉันได้ยินมาว่าบนนั้นมีสมุนไพรหายากบางชนิดที่น่าจะมีประโยชน์มากค่ะ แต่เส้นทางมันค่อนข้างอันตราย… ฉันไม่แน่ใจว่าท่านหมอพอจะมีอุปกรณ์เดินป่าที่พอจะให้ฉันยืมได้บ้างไหมคะ? เช่น พวกเชือกที่แข็งแรงกว่านี้ มีดสักด้ามหรืออุปกรณ์ปีนป่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้ฉันปลอดภัยมากขึ้น”

หมอเฒ่าหลี่ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ

“เขาเมฆางั้นรึ? จะไปทำไม!!ที่นั่นมันอันตรายมากนะ! ไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาจะขึ้นไปได้ง่ายๆ เลย!”

เขามองไป่ซินซินด้วยสายตาประเมิน เขาอยู่ที่นี่มานานเหตุใจจะไม่รู้ถึงอันตรายของภูเขาลูกนั้น แม้แต่นายพรานเก่งๆ ยังบาดเจ็บลงมาหลายครั้ง เพราะทั้งภูเขาที่ซับซ้อนและอันตรายจากสัตว์ป่าขนาดใหญ่ เจ้าหนูไป่ผู้นี้จะใจกล้าเกินไปแล้วนะ นี่หากว่าพ่อแม่ยังอยู่คงจะตีเจ้าหนูนี่ตายแน่ที่คิดจะไปที่ภูเขาลูกนั้น…

แต่เมื่อมองไปที่สายตาที่แน่วแน่ ดื้อตาใสแบบนี้ให้เขาพูดอย่างไรก็คงจะไม่ยอมฟังแน่นอน…เฮ้อ…เด็กสมัยนี้ช่างไม่กลัวอันตรายจริงๆ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ไม่นานนักเขาก็กลับออกมาพร้อมกับเชือกเส้นใหญ่ที่ดูแข็งแรงทนทาน ค้อนเล็กๆ สำหรับตอกหมุดยึด มีดคมด้านยาวที่คล้ายกับดาบ และถุงผ้าใบเล็กบรรจุสมุนไพรแก้ปวดและยาทาแผล…

“เชือกนี่แข็งแรงมากฉันได้มาจากพวกต่างชาติหลายปีแล้ว และค้อนนี่ก็จะช่วยให้เจ้าปีนป่ายได้มั่นคงขึ้น มีดดาบเอาไป” หมอเฒ่าหลี่กล่าว

“ส่วนนี่คือยาที่ฉันเตรียมไว้ให้ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน” เขาหยิบยาสมุนไพรอีกห่อหนึ่งออกมา

“นี่เป็นยาบำรุงกำลัง กินแล้วจะช่วยให้ร่างกายมีเรี่ยวแรง ไม่เหนื่อยง่ายนัก”

ไป่ซินซินรู้สึกตื้นตันใจอย่างมาก

“ขอบคุณค่ะท่านหมอ! ขอบคุณจริงๆ ค่ะ!” เธอรู้ดีว่าอุปกรณ์เหล่านี้มีค่ามากในยุคนี้ และการที่หมอเฒ่าหลี่ยอมให้ยืมโดยไม่ลังเล แสดงว่าเขาเชื่อมั่นในตัวเธอ หรือไม่ก็กันเอาไว้เผื่อว่าเธอจะบาดเจ็บกลับมาให้เป็นปัญหาเขาอีก เขาจึงให้อุปกรณ์และยาไปอย่างไม่ลังเล

“ไม่ต้องขอบใจหรอก เพราะฉันรู้ว่าห้ามอย่างไรเธอก็คงจะไม่ฟัง” หมอเฒ่าหลี่โบกมือ

“แต่จำไว้นะ ระมัดระวังตัวให้มากที่สุด อย่าประมาทเด็ดขาด!”

ไป่ซินซินพยักหน้าอย่างหนักแน่นถี่ๆ ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวในยามราตรี แม้ปากจะไม่ได้เอ่ยคำใด แต่ท่าทางนั้นกลับสื่อความหมายได้อย่างชัดเจนว่า 'ไม่ต้องห้ามหรอกค่ะท่านหมอ เพราะถึงจะห้ามยังไงฉันก็ไม่ฟังอยู่ดีนั่นแหละ' แววตาซุกซนเล็กน้อยฉายผ่านความมุ่งมั่น บ่งบอกถึงความดื้อรั้นน่าเอ็นดูของเด็กสาวที่รู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร และพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายนั้น ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆ ขวางหน้า

เย็นนั้นหลังจากกลับมา ไป่ซินซินก็เก็บอุปกรณ์และอาหารแห้งทุกอย่างลงในกระเป๋าผ้าขนาดใหญ่ที่เธอเย็บต่อกันจนกลายเป็นเป้สะพายหลังเพื่อความสะดวกในการเดินทาง เธอจัดเรียงปลาแห้ง เห็ดหอมตากแห้ง และเสบียงอื่นๆ อย่างเป็นระเบียบ จากนั้นก็แบ่งอาหารแห้งส่วนที่เหลือเก็บไว้ในไหดินเผาในครัวอย่างมิดชิด เธอหันไปบอกน้องๆ ว่าหากจะทำอาหารให้แบ่งออกมาทำได้ เพราะวันนั้นเธอได้แวะซื้อข้าวสารและแป้งธัญพืชมาเพิ่มอีก 3 ชั่งเพื่อเก็บไว้ให้น้องทำอาหารระหว่างที่เธอไม่อยู่ เธอรู้ดีว่าการผจญภัยครั้งนี้จะไม่ง่าย แต่การเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสำเร็จภารกิจและกลับมาหาน้องๆ ได้อย่างปลอดภัย

ก่อนฟ้าสางเล็กน้อย หลังจากที่ทำอาหารเอาไว้ให้เด็กๆ ไป่ซินซิน เดินไปบอกไป่ซานที่ตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียง

"พี่ใหญ่จะออกไปหาของดีๆ มาให้พวกเรานะ ไม่ต้องเป็นห่วง พี่จะรีบกลับมา ดูแลตัวเองและดูแลน้องเล็กด้วยนะ"

ไป่ซานที่ยังงงอยู่เพราะตอนนี้เช้ามาก ได้แต่พยักหน้ารับและเอ่ยว่า3

“พี่ใหญ่ระวังตัวด้วยนะ และกลับมาเร็วๆ นะ” เขาได้ยินน้องเล็กพูดเช่นนี้หลายครั้งและทุกครั้งพี่ใหญ่ก็กลับมา เขาจึงได้เอ่ยแบบน้องสาวบ้าง

“พี่จะรีบไปรับกลับจ๊ะ”

เมื่อทุกอย่างพร้อม ทั้งเสบียง อาหารแห้งที่ได้จากการแปรรูปปลาและเห็ด อุปกรณ์ยังชีพที่หาได้ในกระท่อม และเสื้อคลุมของพ่อ ไป่ซินซินก็สะพายตะกร้าที่บรรจุของทั้งหมดไว้เต็มแน่น มีดเหน็บอยู่ที่เอวพร้อมใช้งาน และเสื้อคลุมของพ่อพาดบ่าเป็นเกราะป้องกันลมหนาว เธอเปิดประตูบ้านออกไปสู่ความมืดมิดยามเช้าตรู่ แสงจันทร์ยังคงส่องสว่างนำทางให้เธอเดินออกไปจากหมู่บ้านอย่างเงียบเชียบ

เส้นทางสู่ยอดเขาเมฆาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันเต็มไปด้วยหินผาขรุขระ ทางลาดชันที่ต้องปีนป่าย และป่าทึบที่แสงอาทิตย์ยังส่องไม่ถึง บางช่วงเธอต้องใช้มือช่วยยึดเกาะก้อนหินเพื่อปีนขึ้นไป บางช่วงต้องใช้มีดถางทางที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้หนาทึบ แต่ไป่ซินซินไม่ย่อท้อ เธอเดินหน้าต่อไปอย่างมุ่งมั่น ความคิดถึงบ้านใหม่ที่อบอุ่นสำหรับน้องๆ คือแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดของเธอ

'โสมพันร้อยปี... เห็ดหลินจือจักรพรรดิ... ฉันจะไปนำพวกเธอมาให้ได้!'

เธอพึมพำกับตัวเอง สายลมหนาวพัดโชยมาปะทะใบหน้า บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้าของเธอที่ย่ำไปบนใบไม้แห้งกรอบแกรบราวกับเสียงกลองศึกที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณนักสู้ในตัวเธอให้ตื่นขึ้นเต็มที่

**** ของมันต้องมี ต้องมานะ โสมกับเห็ดหลินจือนี่ 5555 *****

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที133  ตอนพิเศษ... สมการรักนิรันดร์

    บทที133 ตอนพิเศษ... สมการรักนิรันดร์ณ คฤหาสน์ตระกูลหวังในสวนอันเงียบสงบ หลิวเจียยืนอยู่เบื้องหน้าหวังหลิน ไม่ใช่ในฐานะอัจฉริยะผู้เย็นชา แต่เป็นเพียงชายหนุ่มที่ตรรกะทั้งชีวิตได้พังทลายลงเพราะสตรีเพียงคนเดียว"หวังหลิน... ผมขอโทษ" น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ"สมการที่ผมเคยเชื่อว่าสมบูรณ์แบบมันผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น ผมมองข้ามตัวแปรที่สำคัญที่สุดนั่นคือหัวใจของเธอ"หวังหลินมองลึกเข้าไปในดวงตาที่สับสนของเขา ก่อนจะยิ้มออกมาบางเบา"สมการที่ซับซ้อนที่สุด ก็อาจมีคำตอบที่เรียบง่ายที่สุดค่ะ รุ่นพี่ฉันไม่เคยต้องการให้ใครมาคำนวณคุณค่าของฉัน ฉันแค่ต้องการใครสักคนที่มองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น"คำพูดนั้นปลดเปลื้องความหนักอึ้งในใจของหลิวเจียจนหมดสิ้นเมื่อทั้งสองเดินกลับเข้ามาในตัวคฤหาสน์ หวังเทียนซานนั่งรออยู่ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยแต่แววตาฉายแววหยั่งรู้ หลิวเจียไม่ลังเล เขาก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมที่สุดในชีวิต"ท่านลุงหวังครับ ผมได้กระทำการอันโง่เขลาและเย่อหยิ่งต่อคุณหนูหวังหลิน ผมใช้ตรรกะที่เย็นชาของตัวเองตัดสินคุณค่าของเธออย่างผิดพลาด ผมยอมรับผิดทุกประการและมาเพื่อขอโอกาส... โอกาสที่จะได้พิสูจน์ว่าผมคู่ควร

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที่ 132 บทส่งท้าย...แต่งงานกันเถอะ!!

    บทที่ 132 บทส่งท้าย...แต่งงานกันเถอะ!!อาณาจักรของกลุ่มพันธมิตรก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเซี่ยงไฮ้เท่านั้นหากคุณเดินทางไปที่ใดก็ตามในประเทศจีนยุคใหม่นี้... เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะไม่พบเห็นสัญลักษณ์ของพวกเขาณ กรุงปักกิ่ง... เด็กนักศึกษาสาวกำลังเปิดถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ หงส์เพลิงกินแก้หิวในช่วงอ่านหนังสือสอบตอนดึก โลโก้รูปหงส์สีแดงสดของมันคือสัญลักษณ์ของคุณภาพและความอร่อยที่ทุกคนวางใจณ นครฉงชิ่ง... ในห้องครัวของทุกบ้าน จะต้องมีขวดซอสพริกเสฉวนและเครื่องปรุงรสสูตรเด็ดของแบรนด์ หงส์เพลิง วางอยู่คู่ครัวเสมอ มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของรสชาติที่ทุกครอบครัวคุ้นเคยณ นครกว่างโจว... บนทางด่วนที่ทอดยาวข้ามเมือง ตู้คอนเทนเนอร์นับร้อยที่ติดโลโก้เฟิงหลง โลจิสติกส์กำลังลำเลียงสินค้าออกสู่ท่าเรือเพื่อส่งออกไปทั่วโลกณ มหานครเซี่ยงไฮ้... ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดใจกลางย่านการเงินนั้นมีป้ายชื่อขนาดใหญ่ติดอยู่...สำนักงานใหญ่กลุ่มบริษัทเฟิงหลงไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อในหมู่บ้านห่างไกล หรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่หรูหราที่สุดในเมืองหลวง... ผลิตภัณฑ์ของหงส์เพลิง ได้แทรกซึมและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนจีนไปแ

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที่ 131 ความสำเร็จของเหล่าลูกหงส์ ตระกูลเฟิง

    บทที่ 131 ความสำเร็จของเหล่าลูกหงส์ ตระกูลเฟิงกาลเวลาหมุนเวียนผันผ่าน ฤดูแล้วฤดูเล่า... ปีแล้วปีเล่า...เหล่าทายาทแห่งตระกูลเฟิงและพันธมิตรที่เคยยืนเคียงข้างกันในวันวาน ต่างแยกย้ายกันไปบนเส้นทางแห่งการเติบโตของตนเอง พวกเขาก้มหน้าก้มตาศึกษาเล่าเรียนอย่างหนักหน่วง อดทนต่อความเหนื่อยล้าและความกดดัน ลับคมดาบแห่งสติปัญญาและความสามารถของตนให้คมกริบ เพื่อรอวันที่จะกลับมาพบกันอีกครั้งอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิมและบัดนี้... เมื่อเวลาอันควรมาถึง เมล็ดพันธุ์ที่ตระกูลเฟิงได้หว่านเพาะไว้ในดินแดนต่างๆ ก็ได้เติบใหญ่เป็นต้นไม้ที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะแผ่กิ่งก้านสาขาและออกดอกผลอย่างงดงามในที่สุด... ลูกหลานของตระกูลเฟิงที่แยกกันไปศึกษาเล่าเรียน ต่างก็ประสบความสำเร็จในด้านการศึกษาของตัวเองอย่างสมบูรณ์ รอวันที่จะนำความรู้ความสามารถทั้งหมดที่สั่งสมมา กลับมาเป็นกำลังสำคัญในการสร้างอาณาจักรของตระกูลให้ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานที่ปักกิ่ง เฟิงเจีย ไม่ได้เป็นเพียงดาวเด่นแห่งคณะเศรษฐศาสตร์ แต่เขาได้กลายเป็น ศาสตราจารย์น้อยผู้เป็นตำนานที่ยังมีชีวิตของมหาวิทยาลัยไปแล้ว บทวิเคราะห์ที่เฉียบคมและมองการณ์ไกลของเขา ไม่ได้หยุดอ

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที่ 130 ประตูสู่อนาคต

    บทที่ 130 ประตูสู่อนาคตความเย้ายวนที่ทำลายล้างและวินาทีนั้นเองหวังหลินก็ได้รู้แล้วว่าโลกของเธอได้กลับตาลปัตรไปแล้วโดยสิ้นเชิง...จูบนั้นจบลงแล้ว... แต่พายุอารมณ์ที่มันทิ้งไว้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นหวังหลินยืนนิ่งงันราวกับถูกแช่แข็ง สัมผัสร้อนผ่าวที่รุนแรงและเอาแต่ใจยังคงตราตรึงอยู่บนริมฝีปากของเธอ สมองขาวโพลนไปชั่วขณะเธอไม่เข้าใจ... บุรุษที่เพิ่งผลักไสเธออย่างเลือดเย็นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน บัดนี้กลับมาทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในตัวเธออย่างดุเดือด... เขาต้องการอะไรกันแน่?ส่วนหลิวเจีย ทันทีที่เขาถอนริมฝีปากออกมา ป้อมปราการแห่งเหตุผลที่พังทลายไปชั่วขณะก็เริ่มซ่อมแซมตัวเองอย่างรวดเร็ว ความเย็นชากลับคืนสู่ดวงตาของเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ มันแฝงไปด้วยความสับสนที่ปิดไม่มิด เขาตกใจในการกระทำของตัวเอง เขาเกลียดการสูญเสียการควบคุม และผู้หญิงตรงหน้าคือสาเหตุของมันทั้งหมด…เธอต้องรับผิดชอบเขา!!เขาไม่พูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว เพียงแค่จ้องมองนางนิ่งๆ ราวกับจะจารึกภาพใบหน้าที่แดงก่ำและแววตาที่สั่นไหวของนางไว้ในความทรงจำ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้หวังหลินยืนอยู่กับคำถามนับล้านในใจสองวันต่อมา บรรยากา

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที่ 129  ลูกผู้ชายวัดกันที่หมัด!

    บทที่ 129 ลูกผู้ชายวัดกันที่หมัด!เสียงที่ดังขึ้นเมื่อครู่ดังราวกับฟ้าผ่าลงกลางปฐพี ทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยความเป็นเจ้าของอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หวังหลินได้แต่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ ส่วนหวงเฟยหลงยังคงรักษารอยยิ้มบนใบหน้า แต่สายตาที่เขามองมาที่หลิวเจียกลับแฝงไว้ด้วยความเย็นชาท้าทายถึงขีดสุด"แล้วถ้าฉันอยากเป็นคนสอนการบ้านรุ่นน้องหวังหลินตลอดไปล่ะ?" หวงเฟยหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงท้าทาย"คนของนายเหรอ?? ..." เขาเว้นช่วงไปก่อนจะมองไปรอบๆ ร่างกายแสนสวยของรุ่นน้องหวังหลินราวกับจะหาอะไรสักอย่างก่อนจะเอ่ยว่า"ไม่เห็นมีป้ายติดเอาไว้นี่"สิ้นคำพูดนั้น ทุกตรรกะและเหตุผลในสมองของหลิวเจียก็ขาดสะบั้นลงในพริบตา ความรู้สึกเป็นเจ้าของที่ ดิบเถื่อนและรุนแรงเข้าครอบงำเขาจนหมดสิ้นหลิวเจียแค่นหัวเราะในลำคอ เสียงหัวเราะที่ไร้อารมณ์ใดๆ ก่อนที่กำปั้นของเขาจะพุ่ง"หึหึหึ! อยากจะดูป้ายแสดงความเป็นเจ้าของใช่ไหม ได้!!"เข้าหาใบหน้าหล่อเหลาของหวงเฟยหลงอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าผัวะ!หมัดแรกถูกชกเข้าที่แก้มซ้ายของหวงเฟยหลงอย่างจังจนร่างสูงเซไปเล็กน้อย แต่หวงเฟยหลงนั้นถึงแม้ถูกต่อยแต่ยังคงเท่อย

  • (จบแล้ว )รวยแน่ 100% !!ไป่หลิงย้อนอดีตไปเป็นเศรษฐีในปี 80’s   บทที่ 128 สมการที่ไร้คำตอบ และกรรมสิทธิ์เหนือดอกทานตะวัน!!

    บทที่ 128 สมการที่ไร้คำตอบ และกรรมสิทธิ์เหนือดอกทานตะวัน!!ความมุ่งมั่น... คือทรัพยากรเพียงอย่างเดียวที่หวังหลินมีอยู่อย่างไม่จำกัด หลังจากคืนนั้นที่คฤหาสน์ตระกูลหวัง เธอก็ได้ตัดสินใจแล้ว ในเมื่อการเป็นดาวบริวารที่โคจรอยู่ห่างๆ นั้นไร้ความหมาย เธอก็จะลองเสี่ยงเดินเข้าไปในใจกลางพายุ... เผชิญหน้ากับดวงอาทิตย์ที่แผดเผาโดยตรง แม้ว่าจะต้องมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านก็ตามสองวันต่อมา หวังหลินดักรอหลิวเจียที่ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารคณะเศรษฐศาสตร์และห้องสมุดกลาง เธอรู้ตารางเรียนของเขา ไม่สิ ต้องบอกว่าเธอจดจำทุกอย่างที่เป็นของเขาได้ขึ้นใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่เขาชอบ เสื้อผ้าที่เขาชอบใส่ หรือว่าเวลาส่วนใหญ่เขาเอาไปใช้ทำอะไร เด็กสาวล้วนรู้หมด เธอเฝ้ารออย่างใจจดจ่ออยู่ไม่นานร่างสูงโปร่งที่แสนจะหล่อเหลาและคุ้นเคยปรากฏขึ้น หัวใจดวงน้อยของเด็กสาวก็เต้นระรัว แต่คราวนี้... เธอไม่หลีกทางให้เขาอีกต่อไป"รุ่นพี่หลิวเจียคะ!"หลิวเจียชะงักฝีเท้า เขาหรี่ตามองเธอเล็กน้อย แววตาฉายแววรำคาญอย่างไม่ปิดบัง เขาถอนหายใจออกมาเสียงดัง ไม่พยายามที่จะปกปิดความรู้สึกด้วยซ้ำ"หวังหลินใช่ไหม!!! ฉันคิดว่าเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะ ห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status