EPISODE 5
ชายคาเดียวกัน 1
ตอนดึก
เวลาล่วงเลยผ่านไปก็นานแล้ว คนที่หายเงียบไปยังไม่กลับเข้าบ้านมาสักที ฉันไม่อยากทำตัวเป็นพวกถ้ำมองหรอก แต่ชะเง้อมองออกไปที่ข้างบ้านทีไรก็ยังเห็นรถพวกนั้นจอดนิ่งสนิทอยู่ที่เดิมไม่หายไปเลยแม้แต่คันเดียว ตั้งแต่เที่ยงวันลากยาวมาจนเที่ยงคืนแล้ว ก็ยังไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่องกันสักที
ฉันก็ไม่ว่าเขาหรอก ยังไงเราก็เพิ่งรู้จักกัน เขาอาจจะอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง นั่นก็เป็นเรื่องปกติ
เพราะตอนนี้ตัวฉันเองก็ได้เวลาส่วนตัวแล้วเหมือนกัน…
หลังจากโบกครีมพอกหน้าจนขาววอกแล้ว ฉันก็หอบเอาโน้ตบุ๊กลงมาจากชั้นสองของตัวบ้าน เสื้อผ้าเวอร์วังอลังการที่ชอบใส่ เปลี่ยนมาอยู่ในชุดนอนวาบหวิวโชว์สัดส่วนที่แม้จะมีเนื้อนมไข่น้อยกว่าคนบ้านข้าง ๆ แต่ถึงงั้นฉันก็ปลอบใจตัวเองเสมอมาว่าทุกอย่างบนเรือนกายของตัวเองมันดูดี
แม้ว่าจะเข้าสู่โหมดทำงานเต็มรูปแบบ แต่แน่นอนว่าฉันไม่สามารถแต่งตัวเป็นป้าเหมือนตอนอยู่บ้านได้ ถ้าเฮียเข้ามาเห็นกันสภาพเสื้อยืดคอย้วยกับกางเกงทรงคุณยายแบบที่มักจะใส่ประจำตอนนอนที่บ้านแบบนั้น ความหวานชื่นของคู่รักก็เป็นอันหมดลงพอดี
คงยังไม่ได้บอกว่างานอดิเรกที่กำลังจะกลายเป็นอาชีพหลักในอนาคตอันใกล้ของฉันคือการเป็นนักเขียน… นักเขียนที่เขาว่ากันว่าไส้แห้งนั่นแหละ แต่คำพูดนั้นมันใช้ไม่ได้กับสมัยนี้แล้ว เพราะมีระบบการอ่านแบบดิจิทัลเข้ามามีบทบาท การอ่านก็มีรูปแบบที่ต่างไป ทุกวันนี้ทุกคนสามารถอ่านนิยายได้จากโทรศัพท์ ไอแพด หรืออะไรก็ตามที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
และนั่นทำให้คนทำอาชีพนักเขียนส่วนหนึ่งทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำจากการเขียนนิยายเผยแพร่ในช่องทางออนไลน์
แต่อย่าเพิ่งคิดไปไกล…
เพราะฉันยังเป็นแค่นักเขียนตัวเล็กตัวน้อย ไม่ได้มีรายได้เยอะขนาดนั้น บางเดือนแทบจะไม่พอยาไส้ ต้องไปรบกวนขอแม่อยู่บ่อย ๆ แม้ว่าการหันมาจับงานเขียนส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะอยากจะแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่บ้านในวันที่สถานะทางการเงินของเราย่ำแย่ก็ตาม
แต่ฉันก็ยังไม่เก่งพอที่จะยืนได้ด้วยตัวเอง เพราะงั้นก็เรียกได้ว่ายังไม่ใช่อาชีพหลักก็แล้วกัน อาชีพหลักคือการเป็นลูกแม่เหมือนเดิม แบบนั้นน่าจะถูกต้องมากกว่า
แค่เปิดจอโน้ตบุ๊กซึ่งค้างอยู่ที่หน้าโปรแกรมการพิมพ์ก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เนื้อเรื่องที่ค้างอยู่หน้าจอเป็นฉากที่มีการบรรยายเนื้อหาสิบแปดบวก อะไรที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อนย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้งแบบที่ทำเอาใจเต้นแรง
การเสนอตัว ทั้งยังเป็นฝ่ายรุกเข้าหาเฮียครามก่อนในตอนนั้น จริง ๆ แล้วนอกจากตั้งใจให้ความสัมพันธ์ของเรามันเดินหน้าไปได้แบบไม่ต้องเหนียมอายกัน อีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ฉันตัดสินใจจะทำเรื่องแบบนั้นก็เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี่ไง
ครืด!!
ประตูบานเลื่อนเปิดออกในตอนที่ฉันกำลังจ้องหน้าจออย่างใจจดใจจ่อ คนที่หายไปทั้งวันเดินกลับเข้าบ้านมาได้ในที่สุด พร้อมกันก็ได้ยินเสียงติดเครื่องยนต์ของรถดังขึ้นที่หน้าบ้านข้าง ๆ
เฮียครามชำเลืองมองดูนาฬิกาติดผนังที่ตอนนี้เวลาล่วงเลยเข้าเลขหนึ่งไปแล้ว ก่อนจะหันมามองกัน
“ทำไมไม่ไปนอน”
“หยีไม่ง่วง นี่เวลาทำงาน”
“…ทำงานดึกขนาดนี้?”
“อือฮึ…” ฉันพยักหน้ารับ แต่ก็อดที่จะเลิกคิ้วทำหน้ากวนอย่างเสียไม่ได้ “ทำไมอะ? เปลี่ยนใจอยากจะนอนกับหยีแล้วเหรอ?”
“…”
เฮียครามไม่ตอบ ทำเป็นเมินกันทั้งอย่างนั้น แต่สายตาก็ไปหยุดอยู่ที่อะไรบางอย่างแทน มันเป็นกองหนังสือของฉันเองที่ยังไม่ได้เก็บให้เรียบร้อย วางกองเป็นตั้งอยู่บนพื้น คิ้วหนาเลื่อนเข้าหากันทันทีที่เห็นว่ามันคือหนังสือนิยายสำหรับผู้ใหญ่ที่หน้าปกดูอีโรติกเต็มขั้น และฉันก็รีบเฉลยให้ฟัง ไม่ต้องรอให้เจ้าตัวถาม
“หยีเป็นนักเขียนนะเผื่อเฮียไม่รู้”
“…”
“เขียนนิยายสำหรับผู้ใหญ่ด้วย”
“…”
สายตานิ่งสนิทเลื่อนมาสบตากันอีกครั้ง เรียวคิ้วยังคงขมวดเข้าหากัน และพอได้เห็นสีหน้าตึงเครียดแบบนั้นของเขา ฉันก็เกือบจะหลุดขำออกมา เฮียคงคิดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าจะได้เมียเป็นนักเขียนนิยายติดเรต ก็แหงสิ… เผลอ ๆ ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเมียที่แต่งมาทำงานอะไร…
“พวกนั้นเป็นหนังสือทำมาหากินของหยีเอง” ฉันทำเป็นไม่สนใจสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคู่สนทนา ก่อนจะแหย่เล่นอีกหน่อยด้วยการคว้าเอาเล่มที่อยู่ใกล้มือที่สุดมาถือไว้ “…เล่มนี้เรื่องโปรดเลย สามีร้อนรัก”
คนได้ฟังถึงกับพ่นลมหายใจออกมาเมื่อรู้ว่ากำลังโดนกวนประสาทซึ่ง ๆ หน้า นัยน์ตาคมเปลี่ยนจุดมองมาจับจ้องที่ชุดนอนวาบหวิวของฉันแทน ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเห็นแบบนี้เข้าคงวิ่งเข้าใส่ แต่คนตรงหน้ากลับขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
“ใส่แบบนั้นไม่หนาวรึไง?” ไม่พูดเปล่าแต่ชำเลืองมองไปยังเครื่องปรับอากาศที่กำลังอยู่ที่อุณหภูมิประมาณยี่สิบห้าองศา
“ไม่หนาวหรอก” ฉันโกหก… จริง ๆ ก็หนาวจะตายอยู่แล้ว แต่เพราะอยากให้คนเป็นสามีกลับมาเห็นกันในสภาพเซ็กซี่ขยี้ใจเลยจำใจต้องใส่ไง…
ถึงเฮียจะทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรออกมา แต่สุดท้ายก็ทำเพียงแค่เดินขึ้นบันไดไปด้านบน ส่วนฉันก็หันกลับมาสนอกสนใจงานตรงหน้าต่อ เพราะถ้าวันนี้เสร็จงานไวก็จะได้รีบขึ้นไปนอน
และเพราะงานเขียนแทบจะทั้งหมดของฉันเป็นนิยายสำหรับผู้ใหญ่ ทำให้ต้องมีฉากอย่างว่า และตลอดเวลาที่ผ่านมาเรื่องนี้ก็ทำให้ฉันเป็นทุกข์มาเสมอ
การไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครมาก่อนเลยตลอดชีวิตแล้วยังสะเหล่อมาแต่งนิยายแบบนี้ สุดท้ายก็ทำให้ต้องเจอคอมเมนต์ตรงไปตรงมาจากใจนักอ่าน
คอมเมนต์ประเภทที่ว่าจี้ใจดำ…
ทุกครั้งที่ได้อ่านทำให้ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นกลางอก รู้สึกเหมือนโดนมีดปักตรงกลางหัวใจ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาแสดงความคิดเห็นต่อนิยายในลักษณะที่ว่านั่น แต่เพราะมันมีบ่อยเกินไปต่างหากที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นประสาทหนักขึ้นทุกวัน!
MUMIN
ได้แสดงความคิดเห็นต่อนิยายเรื่อง ‘ร้อนรักอาจารย์สาว’
เดาได้เลยว่าคนเขียนไม่เคยมีเซ็กซ์
CHANCHAO
ได้แสดงความคิดเห็นต่อนิยายเรื่อง ‘ร้อนรักอาจารย์สาว’
บรรยายไม่ได้เรื่อง ถามจริงเคยมีอะไรกับใครบ้างรึยัง?
SOMSOM
ได้แสดงความคิดเห็นต่อนิยายเรื่อง ‘ร้อนรักอาจารย์สาว’
ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ เดี๋ยวนี้มีวิธีศึกษาเรื่องเซ็กซ์หลายแบบนะคะ เป็นห่วงกลัวคนเขียนโดนคนอ่านถล่มค่ะ
นี่แค่ตอนเดียวนะ! นี่แค่ความคิดเห็นตอนเดียว! และในนิยายทุกเรื่องของฉันพอถึงฉากอย่างว่าทีไรก็ต้องโดนค่อนขอดแบบนี้ตลอดเลย
และใช่… ไอ้การที่ฉันเสนอตัวอยากจะถวายพรหมจรรย์ให้เฮียมันเสียเหลือเกิน ก็มีเรื่องนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก ใครจะมองยังไงก็ช่าง แต่สำหรับฉันแล้วถือว่าวินวิน ไม่ได้มีใครได้เปรียบเสียเปรียบอะไร ก็ถ้ามองกันตามจริงแล้วฉันอาจจะเป็นคนได้เปรียบมากกว่าด้วยซ้ำ
เพราะฉันทำไปเพราะมีจุดประสงค์… แต่เฮียทำเพราะอารมณ์…
หลังจากนี้… ก็ได้แต่หวังว่างานเขียนจะออกมาดีขึ้น เพราะตัวฉันเองก็ได้สัมผัสกับเซ็กซ์แล้วจริง ๆ แบบที่ไม่ใช่การมโนจินตนาการไปเอง หรือไม่ก็เปิดวิดีโอหนังสำหรับผู้ใหญ่แล้วมานั่งทำความเข้าใจการเด้งเอวรับสู้ดุเดือดของนักแสดงเหมือนคนไม่ประสีประสาแบบที่เคยทำมาตลอด
ยังไงประสบการณ์ตรงก็ทำให้อินมากกว่าอยู่ดี…
และถูกต้อง… ไอ้ของเล่นผู้ใหญ่ที่ฉันสั่งมาจากร้านค้าออนไลน์เมื่อคราวก่อนที่เฮียบังเอิญเป็นคนรับเอาไว้ให้ นั่นก็เป็นอีกหนึ่งข้อมูลในการเขียนนั่นแหละ ก็แค่สั่งมาทดลองดูการทำงานของมันเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดจะใช้จริงจัง
ยังไม่ทันที่จะได้เริ่มลงมือทำงานก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าคนที่เพิ่งเดินขึ้นไปยังไม่ทันถึงสิบนาที ตอนนี้กลับลงมาพร้อมผ้าห่มผืนหนาในอ้อมแขน
เฮียครามไม่ได้พูดอะไรนอกจากโยนมันมาให้ฉันแบบที่เรียกได้ว่าโยนส่ง ๆ ผ้าห่มถูกดึงลงจากหัว ร่างสูงก็เดินกลับขึ้นไปโดยไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใด เป็นฉันเองที่ต้องพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้เพราะความน่ารักแบบที่ไม่คิดว่าคนหน้าบูดเป็นตูดแบบนั้นจะมี
อาจเป็นเพราะบรรยากาศวันแรกใต้ชายคาเดียวกันของเราไม่ได้กระอักกระอ่วนแบบที่ฉันกังวลใจก่อนหน้านี้ รู้ตัวอีกทีฉันก็เดินตามเขาขึ้นมาข้างบน เฮียครามที่กำลังถอดเสื้อออกหันกลับมามองกันด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ไหนบอกว่าทำงาน”
“ก็ทำงาน”
“แล้วขึ้นมาทำไม?”
“…”
ฉันไม่ตอบแต่ทำใจกล้ารีบเดินเข้าไปจนใกล้ กอดตัวเองเข้าหาเอวแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแบบคนสุขภาพดีพึงมี คนตัวสูงกว่าก้มลงมามองพร้อมทั้งพยายามจะดันไหล่ฉันออกห่างอย่างหวงเนื้อหวงตัว แม้ว่าตัวเองจะตัวโตกว่าเกือบเท่าก็ตาม
ฉันเมินการปฏิเสธของเขาด้วยการเขย่งปลายเท้าสองข้างขึ้นไปประทับจูบที่ข้างแก้มขาว เฮียครามนิ่งชะงักไปเล็กน้อย และตอนที่เราสบตากันในระยะประชิด ฉันก็เลื่อนริมฝีปากเข้าหาคนเป็นสามีแบบที่เรียกได้ว่าแรดเต็มขั้น แต่กลับถูกอีกคนใช้มือยันหัวเอาไว้ราวกับเดจาวูเหมือนเมื่อคราวก่อนไม่มีผิด
“หน้าวอกขนาดนี้ยังจะมาจูบคนอื่น”
“กูดไนต์คิสไง”
“…”
“หรือจะให้หยีไปล้างหน้าก่อนดี? เฮียจะได้เห็นว่ามีเมียสวย”
“…”
คนตรงหน้าถอนหายใจเบา ๆ อย่างหนักใจ สายตาดูอ่อนล้าเต็มทีกับการเข้าหาแบบจู่โจมของฉัน แต่สุดท้ายแล้วเจ้าตัวก็ไม่ได้ถอยห่างออกไป แม้ใบหน้าหล่อจะฉายชัดว่าไม่ได้เต็มใจ แต่ก็ยืนปักหลักอยู่ที่เดิมราวกับต้องจำยอมต่อหน้าที่ ‘สามี’
แน่นอนว่าฉันไม่แคร์สายตาแบบนั้นหรอก…
วินาทีต่อมาฉันก็จูบเฮีย จูบแบบดูดดื่ม แบบที่เขาสอนกันเมื่อครั้งก่อนนู้น… ก็เกือบจะมีจังหวะที่คนตรงหน้าเคลิ้มไปเล็กน้อยแต่ก็ราวกับจะรู้ตัวตอนที่เขาทำท่าเหมือนจะจูบตอบ จู่ ๆ ก็หยุดเอากลางคัน ดันไหล่ฉันออกจากตัวอีกครั้ง
“พอใจยัง?”
“…พอก็ได้”
ถึงจะอยากต่ออีกหน่อย แต่เดี๋ยวจะเป็นการไปบังคับอีกคนจนเกินไป สุดท้ายฉันเลยถอยห่างออกมา กระนั้นก็ยังหยอดยิ้มหวานให้คนที่กำลังเม้มปากเต๊ะท่ามองมา
“ฝันดีนะคะเฮียขา”
“…”
คนตรงหน้าทอดถอนใจยาว หันหน้าหนีไป ไร้ซึ่งการตอบรับใด ๆ ฉันไม่สนใจหรอก ยังไงก็สวยออกอย่างนี้ จะเมินกันได้สักกี่น้ำก็อยากจะรู้เหมือนกัน…
EPISODE 50ตอนพิเศษ 3 วันต่อมา ผมตื่นแล้ว… เพราะเสียงรัวกดกริ่งดังไม่หยุดที่หน้าบ้านนั่น ให้เดาก็คงเป็นไอ้พริกกับไอ้รามนั่นแหละ แต่ต่อให้เสียงกริ่งจะดังแค่ไหนก็ดูเหมือนคนข้าง ๆ จะไม่ได้ยิน รู้อีกทีผมก็อุ้มหลานพาดบ่า ถือตะกร้าขวดนมเดินลงมาข้างล่าง สภาพสะลึมสะลือขีดสุดเพราะแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน นัยน์ตาต้องหรี่ลงเพราะแสงอาทิตย์จ้าในช่วงสายของวัน “สภาพน่ารักแบบนี้กูต้องอัดรูปใส่กรอบแล้วมั้ง” เสียงร่าเริงของไอ้ห่ารามดังขึ้น พร้อมกันมันก็รีบยกโทรศัพท์รัวถ่ายรูปยกใหญ่ “ยิ้มเป็นไงบ้าง?” พอประตูเปิด คนเป็นแม่รีบรับลูกต่อไป ท่าทางเป็นห่วง ผมส่งต่อตะกร้านมให้ไอ้ราม ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นลูบใบหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน “ขี้ทั้งคืน มึงรีบพาไปหาหมอเลย” “โถ…” “แค่นี้นะ กูจะไปนอน” “ตอนเย็นมาแดกข้าวด้วย” เสียงไอ้รามยังคงดังต่อ ผมไม่ได้สนใจเพียงแค่หมุนตัวเดินกลับเข้าบ้าน โบกมือให้มันนิดหน่อยเท่านั้น พอขึ้นมาถึงห้องนอนก็พบว่าหยีเหมือนจะเพิ่งตื่น หัวผงกขึ้นมองเล็กน้อย นัยน์ตาใสปรือมองก่อนจะตบที่นอน
EPISODE 49ตอนพิเศษ 2 หลายชั่วโมงต่อมา “เฮียชงนมเสร็จรึยัง?” “แป๊บ” “ยิ้มร้องไม่หยุดเลยทำไงดี?” “เดี๋ยวเฮียอุ้มเอง หยีไปอาบน้ำได้แล้ว” “ไม่เอาอะ” ผมเดินกลับมาหาคนที่กำลังยืนอุ้มหนูยิ้มพาดบ่า เสียงร้องไห้โยเยดังมาได้ร่วมชั่วโมงแล้วแบบไม่มีพัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยิ้มถึงได้ร้องไม่หยุดแบบนี้ แต่จะให้โทรไปบอกให้พริกก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวแม่งไม่เป็นอันทำห่าอะไรกันพอดี หยีไม่ยอมให้เอายิ้มมา กลับเดินหนีไปอีกทาง วางร่างเล็กของหลานไว้บนเตียงก่อนจะป้อนนมเข้าปากเล็กนั่น และพอได้จับขวดนม นัยน์ตาใสแป๋วที่เมื่อครู่มีน้ำตาคลอก็ชะงักเงียบไป มืออ้วนป้อมจับขวดนมถือเอง พลิกตัวไปทางเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ผมเม้มปากกลั้นยิ้ม ยกแขนขึ้นปาดเหงื่อ แม้ว่าในห้องจะเปิดแอร์จนเย็นฉ่ำแต่เพราะสถานการณ์เมื่อครู่ทำให้แอบเหนื่อยไม่น้อย ทั้งที่ปกติหนูยิ้มเป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้อง แต่อาจจะเป็นเพราะห่างพ่อห่างแม่ทำให้เกิดอาการร้องไม่หยุดแบบนี้ ก็เด็กนั่นแหละ แถมเป็นหลานผมด้วย จะบอกว่ารักเหมือนลูกตัวเองก็คงไม่ผิดนัก
EPISODE 48ตอนพิเศษ 1 KRAM TALKS เวลาผ่านเลยไปก็หลายเดือน ทุกอย่างดูสงบสุขดี เว้นก็แต่… หยีไม่ยอมกินข้าวเลย เอาแต่ทำงาน ซ้ำยังไม่มีเวลาให้คนเป็นสามีแบบผมด้วย และใช่… มันน่าหงุดหงิด อยากจะจับมาฟัดสักทีสองที บรรยากาศในบ้านช่วงบ่ายอ่อน ๆ ที่แสนจะเงียบเชียบ มีเสียง ‘ต๊อกแต๊ก ๆ’ ดังอยู่เหมือนเช่นทุกวัน ต่อให้ผมเดินผ่าน หรือเปิดประตูบ้านเข้ามา คนที่กำลังนั่งห่อตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา ใส่แว่นตาทรงโต ในรูจมูกข้างหนึ่งมียาดมเสียบเอาไว้ ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจกันเลยแม้แต่นิด ช่วงนี้หยีจริงจังกับการเขียนนิยายมากจนผมไม่อยากจะไปกวน แต่บางทีมันก็แอบอยากอยู่ด้วย อยากชวนไปข้างนอก ไม่ก็ชวนหาอะไรทำ… เราไม่ได้เข้านอนพร้อมกันมาร่วมเดือนแล้ว และเรื่องพวกนั้นก็แทบไม่ได้ทำกันเลย เพราะน้องมันเอาแต่ทำงาน พอหัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับเป็นตาย ใครแม่งจะไปกล้ากวน แต่เพราะระยะนี้เจ้าตัวออกจะอาการหนักเกินไปสักหน่อย ถึงขั้นไม่กินข้าวกินปลาเหมือนตอนก่อนนู้นสมัยที่เราย้ายมาอยู่ด้วยกันแรก ๆ ผมเลยตั้งใจว่าอาจจะต้องบังคับให้เมียหยุดทำงาน
EPISODE 47ก้าวไปข้างหน้า หลายเดือนต่อมา “กรี๊ด!!!!!!” “อะไร…” “เฮีย! ตื่นมาดูนี่เร็ว!” “…” คนข้าง ๆ ยกหัวขึ้นมามองในตอนที่ฉันกำลังส่องหน้าจอโทรศัพท์ให้เขาดู มือไม้สั่นหนักจนเฮียครามต้องดึงไปดูเอาเอง คิ้วหนาเลื่อนเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจจนฉันต้องดึงมันกลับมาดูอีกครั้ง ส่งเสียงวี้ดว้ายไปมาอย่างหยุดไม่อยู่ “เฮีย! นิยายของหยี… ได้ขึ้นหน้าหนึ่งขายดีแล้วนะ!!!” “อืม…” “เฮียอะ!! ไม่ดีใจหน่อยเหรอ?” “ดีใจดิ” “เฮียดูสิ ๆ ๆ หยีตื่นเต้นอะ!” “ใจเย็น” คนข้าง ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งหัวเราะออกมาเบา ๆ ดึงเอาตัวฉันไปกอดจูบลงบนเรือนผมกันสองสามที ถึงจะไม่ได้แสดงอาการดีอกดีใจได้มากไปกว่านี้ แต่แค่นี้สำหรับคนแบบเฮียแล้วก็ถือว่าโอเค… และใช่… หลังจากที่ฉันตั้งอกตั้งใจเขียนนิยายต่อเนื่องกันอยู่หลายเดือนแบบที่เรียกได้ว่าข้าวปลาไม่สนใจจะกิน ตอนนี้ก็ราวกับว่าความพยายามนั้นสัมฤทธิ์ผลเข้าให้แล้ว การตั้งตารอให้นิยายที่ตัวเองเขียนขึ้นหน้าขายดีของ
EPISODE 46งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉันยังคงนั่งนิ่ง พยายามเก็บอาการตระหนกตกใจเอาไว้ไม่ให้ผิดสังเกต คนข้าง ๆ กำลังทำเป็นส่งยิ้มให้คนอื่น ๆ แบบที่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเฮียจะฝืนใจตัวเองทำแบบนี้ได้ลง แต่ก็อย่างที่เห็นว่าเขากำลังทำ “เฮียทำไรอะ?” พอเห็นว่าอีกสามคนไม่ได้มองอยู่ ฉันก็รีบกระซิบถามทันที เฮียครามไหวไหล่เล็กน้อยราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร “แค่มาอยู่เป็นเพื่อนหยีไง” “ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย” “บอกแล้วไงว่าเป็นของขวัญ” “แต่…” “ไม่เป็นไร… เฮียตั้งใจจะช่วยเด็ก ๆ อยู่แล้ว” คนข้าง ๆ ยิ้มใจดี เลื่อนมือมากุมมือฉันไว้เมื่อเห็นว่าฉันผู้ซึ่งได้รับความช่วยเหลือแบบที่ว่านี้ไม่ได้ยินดีอะไรนัก ดูก็รู้ว่าเฮียคงอยากจะช่วยทำให้ฉันหายเป็นกังวลในเรื่องสังคมป่วย ๆ นี่ และใช่… ฉันไม่เห็นด้วยที่เฮียจะทำถึงขนาดนี้ แต่ถ้าเขาพูดมางั้นว่าอยากช่วยน้อง ๆ ฉันจะไปทำอะไรได้ ก็แค่… ไม่คิดว่าเฮียจะเต็มใจมาจนถึงขั้นแต่งองค์ทรงเครื่องเบอร์นี้ “เอ… จริง ๆ ยิหวาคุ้นหน้าเฮียครามมากเลยนะคะ” เสียงคนตรงหน
EPISODE 45ครบรอบ หลายวันต่อมา ฉันกำลังแต่งตัวเตรียมไปงานเปิดตัวกระเป๋าอะไรสักอย่างนั่นของคุณส้มที่ลิลลี่พูดถึง ถึงใจจะไม่อยากไป แต่ด้วยความที่ไม่อยากจะเป็นคนเดียวที่ถูกนินทาก็เลยจำใจต้องไป เฮียครามเพิ่งกลับมาจากข้างนอก กำลังถอดเสื้อเชิ้ตโยนใส่ตะกร้า เท้าสะเอวมองมาเงียบ ๆ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้เฮียฟังอีก ก็รู้อยู่หรอกว่าเขาไม่ชอบที่จะให้ฉันไปปั้นหน้าเข้าสังคมแบบนั้น แต่ถึงงั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่แน่นอนว่าก็ไม่ยอมไปด้วยอยู่ดี “หยีน่าจะกลับดึก ๆ หน่อย”ฉันว่าพลางใส่ต่างหูที่กลั้นใจซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่บอกว่ากลั้นใจซื้อเพราะว่าระยะหลังมานี้ฉันไม่ได้มีเงินให้ใช้ฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อน ถึงสถานการณ์ที่บ้านกำลังอยู่ในช่วงที่ดีขึ้นตามลำดับ แต่ฉันก็ไม่อยากจะไปรบกวนอะไรให้มากนัก อีกทั้งเฮียเองก็บังคับให้ใช้เงินเขา เพราะงั้นไอ้ของฟุ่มเฟือยนี่ก็คือเงินเก็บของฉันเองที่ได้จากการขายงานนั่นแหละ“สวยไหม?”หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็หันกลับไปหมุนตัวให้คนเป็นสามีดู เฮียที่ยังคงอยู่ในสภาวะหน้านิ่งชำเลืองข