แชร์

บทที่ 2 แรกพบ

ผู้เขียน: รุ่งอรุโณทัย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-30 16:53:13

“อยู่ไหนเนี่ย!....”  หนูนาบ่นพร้อมกับก้มๆเงยๆ และสลับนอนราบไปกับพื้น ซึ่งเธอกำลังหาพวงกุญแจที่คิดว่าน่าจะทำร่วงในห้องพักสตูดิโอแห่งนี้แถวบริเวณโซฟาที่เธอวางเป้ก่อนออกจากห้องไปตอนเที่ยงของวันนี้ เมื่อเธอหมดคราสเรียน ตั้งใจจะไปแจ้งต่อสเตฟานคุณลุงใจดีชาวอิตาเลี่ยนที่รับเธอเข้าทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟก่อนหน้านี้ เพราะเธอไม่สามารถมาทำได้อีกสักพัก เพราะเมื่อกลุ่มศิลปินกลับมาจากทัวร์คอนเสิร์ต นอกจากเวลาที่เธอไปเรียนเวลาที่เหลือเธอต้องมาอยู่ที่สตูดิโอเพื่อทำหน้าที่ที่ได้รับว่าจ้างไว้ ตามที่ได้ตกลงกับคุณเอียนไว้ก่อนหน้านี้

            “ทำไงดี...ถ้าหาไม่เจอ แล้วคืนนี้จะนอนที่ไหนละเนี่ย!!! นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว ถ้าต้องไปติดต่อเจ้าของหอพักตอนนี้  มันไม่ควรเลย!!!!” หนูนาหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ ได้แต่นั่งขาพับอยู่กับพื้นบ่นกับตัวเอง เพราะตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยและง่วงมากๆ วันนี้เธอต้องตื่นมาตั้งแต่เช้า เพื่อมาปฎิบัติภาระกิจประจำของวันนี้... 

            ขณะที่กำลังกลุ้ม สายตาก็มองไปรอบๆก็คิดได้ว่า ตั้งแต่เธอเข้ามา ก็ไม่เจอใครในนี้ เพราะตามที่ได้รับแจ้งจากคุณเอียน กลุ่มศิลปินจะมีการทำงานกันทั้งคืน เพราะเวลาส่วนใหญ่ถ้าพวกเขาไม่ออกทัวร์คอนเสิร์ตหรือมีการถ่ายทำนอกสถานที่     ทุกคนก็จะใช้เวลาอยู่ในห้องนี้เพื่อทำงานเพลงกัน แต่วันนี้!ตอนที่เธอกลับเข้ามาในสตูดิโออีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ เพื่อมาหาพวงกุญแจหอพักเธอกลับไม่พบใคร

            “ขอนอนที่นี่แล้วกันนะ!!!...สำหรับคืนนี้” เมื่อคิดได้ดังนั้นโซฟาข้างตัวก็ขอเป็นที่พนักเพื่อที่จะไปเฝ้าพระอินทร์แล้วกัน

            ถึงแม้ห้องพักสตูดิโอแห่งนี้ จะมีห้องนอนเพื่อเป็นที่พักของกลุ่มศิลปิน ยามอ่อนเพลียจากการทำงานพวกเขาสามารถนอนพักผ่อนที่นี่ได้เลย แต่หนูนาก็ไม่คิดจะไปนอนในนั้น เพราะมันไม่สมควรอย่างยิ่ง สำหรับเธอคิดอย่างนั้น

            “แกร็ก...” ขณะที่หนูนาเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ก็มีเสียงลูกบิดประตูผลักเข้ามาปีเตอร์มองเข้ามาในห้องที่มืด เพราะนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มหลังจากที่ออกไปฉลองกับกลุ่มเพื่อนๆ เพราะวันนี้เป็นวันที่แปด ตุลาคม วันคล้ายวันเกิดอายุครบยี่สิบเก้าปี ทั้งผู้จัดการและเพื่อนๆต่างร่วมฉลองกันเป็นปกติเหมือนกันทุกคน  แต่ครั้งนี้เขากลับขอตัวกลับก่อน เนื่องจากมีเหตุผลที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับพวงกุญแจที่เก็บได้เมื่อตอนเที่ยง

            ปีเตอร์มองเข้ามาในความมืดด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง และขณะกำลังจะถอยพร้อมปิดประตู ก็ต้องชะงัก! เพราะได้ยินเสียงบางอย่างซึ่งเป็นจังหวะที่หนูนากำลังพลิกตัว ปีเตอร์เพ่งสายตาไปที่บริเวณโซฟาก็เห็นบางอย่าง จึงเปิดไฟดวงเล็กเพียงหนึ่งดวงและเดินเข้ามาข้างในอย่างช้าๆและเงียบๆ เพราะเขาค่อนข้างมั่นใจว่ามีใครบางคนกำลังใช้โซฟาที่เขาชอบนั่งใช้ความคิด เป็นที่พักผ่อนไปแล้วตอนนี้ ปีเตอร์ค่อยๆเดินไปนั่งชันเข่าและจ้องมองหญิงสาวที่เขามั่นใจว่าเป็นเจ้าของพวงกุญแจ เพราะเธอมีผมที่หยิกยาวเป็นลอนแบบธรรมชาติคล้ายตุ๊กตาพวงกุญแจ หน้าผากนูน คิ้วเข้มหนาได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ ขนตายาวงอนยามที่หลับสนิท จมูกเชิดนิดๆแสดงถึงว่าเจ้าของเป็นคนดื้อเล็กๆ ปากอิ่มได้รูป เป็นผู้หญิงที่รูปหน้าสวยคมแบบคนเอเชียโดยแท้ผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียด ปีเตอร์ไล่สายตาไปเรื่อยๆรูปร่างที่อยู่ภายใต้เสื้อโค้ชที่ตอนนี้มีหน้าที่อีกอย่างคือเป็นผ้าห่มคลุมลร่างเล็กบอบบางเกือบมิดชิด...

            “ทำไมหัวใจต้องเต้นแรงแบบนี้” ปีเตอร์บ่นกับตัวเองขณะจ้องมองพิจารณาหญิงสาวตรงหน้า “ถ้าให้นอนตรงนี้ คงน่าสงสารแย่” เมื่อคิดได้ดังนั้น   ปีเตอร์ค่อยๆเข้าไป และค่อยๆช้อนตัวเธออย่างระมัดระวังอย่างอ่อนโยน ขณะที่กำลังช้อนตัวเธอขึ้นเข้าสู่วงแขน เขาก็ต้องกลั้นใจ!! เพราะเกรงว่าเธอจะตื่นเมื่อเธอขยับตัวปีเตอร์หยุดการเคลื่อนไหวโดยทันที  แต่แล้วเมื่อมั่นใจว่าเธอคงหลับสนิท ขณะที่อุ้มเธอนั้นสายตาก็ไม่ได้ละจากใบหน้าคมหวานเลย และสายตาก็มาหยุดที่ริมฝีปากอิ่ม แอบคิดว่าจะนุ่มและหวานแค่ไหนนะถ้าได้สัมผัส เมื่อมาถึงห้องนอนในสตูดิโอก็ค่อยๆบรรจงวางเธอลงอย่างเบามือพร้อมลากผ้าห่มคลุมกายให้ และนั่งมองหน้าที่ตอนนี้หลับอย่างสบายโดยไม่รู้ตัวว่าถูกจ้องมอง

            ปีเตอร์ค่อยๆก้มหน้าเข้าไปใกล้อย่างเคลิบเคลิ้มและลืมตัวจุมพิตที่หน้าผากนูน ดวงตาที่ปิดสนิท จมูกที่รั้น และริมฝีปากอิ่มอย่างลืมตัว  และต้องกลั้นใจอีกครั้งเมื่อเธอขยับตัวอีกครั้ง เขาต้องค่อยๆถอยออกห่างร่างบางอย่างเสียดาย และเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ ไม่อยากรบกวนเวลาบรรทมของ “นางฟ้าของเขา”

            “เอ๊ะ!!!…”

            ปีเตอร์รู้สึกตกใจกับความคิดของตัวเองที่ตอนนี้ออกมานั่งที่โซฟาที่เธอใช้เป็นที่พักผ่อนก่อนหน้านี้ ว่าเพียงแค่เก็บพวงกุญแจและเห็นเจ้าของพวงกุญแจในยามหลับ ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากเป็น ‘เจ้าของเธอ’ และเก็บเธอไว้เป็นของเขา เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยมีและเกิดขึ้นแม้กับเจซี เขาจ้องมองตุ๊กตาพวงกุญแจในมืออย่างกับมันสามารถทดแทนใบหน้าที่นอนหลับอยู่ในห้องข้างๆได้ “ของขวัญวันเกิดปีนี้ช่างดีจริงๆ” และเผลอหลับไปตรงนั้น

            “ฮื้ม...!” หนูนาค่อยๆบิดและขยับตัว เมื่อรู้สึกตัวน่าจะเช้าแล้ว และเมื่อค่อยๆลืมตามองไปรอบๆ “เอ๊ะ!!!...ที่นี่มัน....มานอนในนี้ได้ไงเนี่ย!!!” คำถามซึ่งไร้คำตอบ เพราะมองไปรอบๆในห้องมีแค่เธอ  หนูนารู้สึกตกใจตื่นตาสว่างรีบลงจากเตียงหมุนรอบตัวเอง มองไปที่เตียงอย่างกับเห็นสัตว์ประหลาด ถึงแม้จะตกใจแต่เธอก็จำได้ว่านี่คือห้องนอนในสตูดิโอที่เธอเข้ามาเมื่อคืน และรีบสำรวจตัวเองก็ยังอยู่ในชุดเมื่อวานนี้เหมือนเดิม

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จังหวะรักมาเฟีย   บทที่ 243 จบบริบูรณ์ หนูนา & พีท จังหวะรักมาเฟีย Happy Ending

    ปีเตอร์ดูดรั้งยอดเกสรดอกไม้ตูมตามอารมณ์และแรงการขยับมือนั้นที่จังหวะเปลี่ยนไปจนเร็วขึ้นเรื่อยๆ ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นในตัวของเขาทำให้ระบบการเต้นของหัวใจเป็นจังหวะที่เร็วขึ้น เขาผละออกจากดอกไม้ตูมหนูนาก็ขยับตามแต่มือเล็กทั้งสองยังไม่ยอมหยุดกระทำการต่อไปจนปีเตอร์แหงนหน้าพิงกับพนักโซฟาหายใจใบหน้าแดงก่ำจากการกระทำอย่างต่อเนื่องของมือเล็กๆของเธอ หนูนาเร่งจังหวะมือให้เร็วขึ้นเมื่อเสียงครางอย่างพึงพอใจของสามีดังออกมาอย่างต่อเนื่อง หนูนาผละมือออกข้างหนึ่งเพื่อที่จะดึงกางเกงยีนส์ออกจากสามีแต่มืออีกข้างก็ยังคงทำหน้าที่สร้างความกระสันเสียวซ่านให้กับสามีต่อไป ปีเตอร์ให้ความร่วมมือกับหนูนาเป็นอย่างดีจนตอนนี้ตัวเขาไม่มีอาภรณ์ชิ้นใดบนร่างกาย หนูนาแทรกตัวเองเข้าไประหว่างขาของปีเตอร์ที่เขาขยับให้กว้างขึ้น เธอย่อตัวคุกเข่าลงนั่งกับพื้นปากอิ่มเปิดกว้างและเข้าครอบครองแก่นกายที่ขยายพองตัวแข็งแรง และกระทำการสร้างความเสียวให้กับปีเตอร์เพิ่มเป็นทวีคูณ ป

  • จังหวะรักมาเฟีย   บทที่ 242 เด็กชายอลัน

    “พ่อพีทครับ...ผมเก่ง...สมเป็นลูก...พ่อมั้ย...ครับ” คราวนี้เด็กชายอลันพูดเป็นภาษาอังกฤษ ปีเตอร์หันมายิ้มกับหนูนา “รักพ่อ...กับแม่มากๆ...ครับ” เด็กชายอลันโบกมือบ้ายบายกับกล้อง และกล่าวเป็นภาษาอังกฤษกับผู้เป็นพ่อ และเมื่อเขาพูดกับผู้เป็นแม่เขาจะพูดเป็นภาษาไทย หนูนาหันไปมองปีเตอร์และอดยิ้มไม่ได้ เมื่อคิดไปถึงเช้าวันหนึ่งที่จู่ๆ ปีเตอร์ตื่นนอนขึ้นมาและเขารู้สึกวิงเวียนศีรษะและมีอาการคลื่นไส้ “พีท...เป็นอะไรคะ...” หนูนารู้สึกตัวตื่น เมื่อได้ยินเสียงสามีอาเจียนอยู่ในห้องน้ำ “ขอโทษนะที่ทำให้หนูนาต้องตื่น...ผมไม่รู้เป็นอะไรจู่ๆก็คลื่นไส้” “อาหารเป็นพิษหรือเปล่าคะ?

  • จังหวะรักมาเฟีย   บทที่ 241 จบตอนพิเศษ & บทส่งท้าย

    ทีมที่ถูกจัดให้เดินทางไปประเทศไทยคือ โคล ฌอว์น และมาเรียที่เดินทางกลับมาพร้อมกับฌอว์น โดยที่มาเรียต้องปลอมตัวมา เพื่อไม่ให้เป็นที่เห็นของสมาชิกแก๊งของพ่อเธอและแน่นอนแผนนี้ อีธาน เบนเน็ต รู้เป็นอย่างดีและอีกคนในสมาชิกแก๊งที่รู้ก็คือ ดอม มือขวาของอีธานนั้นเอง เพราะดอมเป็นผู้อารักขาเด็กชายอลัน ซาวันเดอร์ ไปประเทศไทย และสมาชิกที่ติดตามไปอีกกว่าสิบคนจะเป็นคนของฌอว์นที่จะปะปนไปกับเครื่องบินที่จะบินไปประเทศไทยในวันนี้ เพราะเครื่องบินเที่ยวพิเศษถูกจองกว่าครึ่งลำเพื่อทีมอารักขาทุกคนโดยทันที แผนการณ์นี้ถูกเตรียมไว้ทันที เมื่อหนูนารู้ตัวว่าท้องและทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปเมื่อเด็กในท้องของหนูนาเป็นผู้ชาย เพราะเขาจะต้องเกิดมาเป็น อลัน เบนเน็ต ไม่ใช่ อลัน ซาวันเดอร์ แต่หนูนาไม่สามารถที่จะให้ลูกของตัวเองต้องเข้าไปเติบโตในแก๊งที่ยังคงเป็นสีเทา เพราะเธอไม่ต้องการให้ลูกของเธอต้องแปดเปื้อนกับสิ่งเหล่านี้ เพราะจนถึงตอนนี้ปีเตอร์เองก็เป็นเพียงทายาทเพราะอีธาน ยังคงรับตำแหน่งต่อไป เพราะอีธานเองก็คิดเหมือนหนูน

  • จังหวะรักมาเฟีย   บทที่ 240 ตอนพิเศษ

    ปีเตอร์ หยุดยืนอยู่หน้าห้องโดยที่ยังไม่ผลักประตูเข้าไป เพราะว่าตอนนี้เขาเองก็รู้สึกอ่อนแอและเจ็บปวดเช่นกัน ปีเตอร์ได้รับแจ้งจากมาเซลหลังจากที่เขาทำการแสดงจบ ว่าลูกชายเขาหายตัวไปจากโรงพยาบาลในขณะที่เขากำลังวาดลวดลายทั้งร้องทั้งเต้นบนเวทีแสดงคอนเสิร์ตให้เหล่าแฟนเพลง มาเซลต้องรอให้เขาแสดงจบก็กว่าชั่วโมงแล้วที่ลูกเขาถูกลักพาตัวไป มาเซลได้ประสานงานกับทีมค้นหากันโดยตลอด ข่าวที่ลูกชายของเขาได้หายไปล่วงรู้ไปยังสมาชิกแก๊งมาเฟียแล้ว อีธาน เบนเน็ต ได้จัดทีมเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อติดตามหาหลานชายของตนเองทั่วทุกรัฐในอเมริกา ปีเตอร์ต้องเดินทางกลับจากลานคอนเสิร์ตด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่ถูกส่งไปรอรับเขาทันที ปีเตอร์สูดหายใจยาวๆเข้าออกก่อน และเขาค่อยๆเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูและค่อยๆผลักเข้าไป พร้อมกับสมาชิกในวงที่ต่างก็เดินตามเขาเข้ามา หลังจากที่ไรอัลกับพอลได้พยุงตัวมาเซล ส่งให้กับการ์ดที่ยืนมองไม่ห่าง ต่างเข้ามาช่วยเพื่อพามาเซลไปทำแผล เหล่าสมาชิกต่างมองกลับมาที่

  • จังหวะรักมาเฟีย   บทที่ 239 ตอนจบ & ตอนพิเศษ

    “หนูนา...โอ้วว...” ปีเตอร์ร้องบอกพร้อมกับขยับสะโพกกระแทกแรงขึ้นเมื่อเขาถูกตอดรัดมากขึ้น และเขาก็ใกล้ที่จะถึงจุดปลดปล่อย และอีกเพียงไม่กี่ครั้งเสียงร้องครางจากหนูนาและปีเตอร์ก็ดังเมื่อปีเตอร์เป็นผู้สร้างสวรรค์บนดิน ณ ที่แห่งนี้ให้กับเธอและตัวเขาเองอีกครั้ง ปีเตอร์ดึงหนูนาลงมานั่งบนตักเขา เมื่อเขาปลดปล่อยธารน้ำใส่ภายในตัวของหนูนา โดยที่จุดประสานยังคงตราตรึงอยู่ในตัวเธอ ปีเตอร์นั่งนิ่งๆปล่อยให้หนูนาได้พักหายใจ เขารอจนเธอระบบการหายใจเข้าสู่ปกติและค่อยๆถอดแก่นกายออกมา และเขาเอื้อมมือดึงกระดาษทิชชู่เช็ดทำความสะอาดให้หนูนา และช่วยแต่งตัวให้เธอจนเรียบร้อยและหันมาจัดการตัวเองจนทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็จูงมือหนูนาเดินออกจากห้องหนังสือเพื่อไปยังห้องอาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยตามเวลาดินเนอร์ “อิ่มจัง...ถ้ากินแบบนี้ทุกมื้อมีหวังหนูนากลายเป็นหมูแน่ๆ” หนูนาเดินเอามือข้างที่ว่างลูบท้อง หลังจากที่ทั้งเธอและปีเตอร์ทานดินเนอร์เสร็

  • จังหวะรักมาเฟีย   บทที่ 238 เอกสารการครอบครองทรัพย์สินร่วมกัน

    “ผมต้องการให้หนูนาเซ็นเอกสารในซองนี้” ปีเตอร์พูดพร้อมกับเอื้อมหยิบซองที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาและส่งให้หนูนา ซึ่งเธอก็รับมาพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจและเธอก็ดึงเอกสารที่อยู่ข้างในขึ้น “นี้มัน!...” หนูนาพูดออกมาทันทีเมื่อเห็นหัวกระดาษ นี้เป็นเอกสารการครอบครองทรัพย์สินร่วมกันและในเอกสารก็มีชื่อจริงของสามีและชื่อเธอ “เซ็น...” ปีเตอร์พูดพร้อมกับส่งปากกาให้หนูนา ส่วนมืออีกข้างก็กอดรัดเอว หนูนาไว้อย่างไม่ต้องการให้หนูนาลุกออกจากเขาไปได้จนกว่าเขาจะอนุญาต “ไม่เซ็น...” หนูนากล่าวปฎิเสธทันทีเมื่อพลิกดูใบต่อไป “ผมบอกแล้วนะ...ถ้ารู้แล้ว...ห้ามดื้อ...ห้ามขัด...ต้องทำตามที่ผมสั่งทุกอย่าง” ปีเตอร์รั้งเอวหนูนาไว้แน่น เพราะหน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status