Share

ตอนที่ 13 หักหน้า

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-06 00:06:36

 ท่ามกลางแสงแดดอ่อนของยามสายที่สาดกระทบหมู่บ้านจิ่วอัน เงาร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางลานกว้างเงาที่แม้จะไม่ขยับเคลื่อนไหวแต่กลับสามารถทำให้ผู้คนต้องละสายตาจากทุกสิ่งได้โดยง่าย ความงามของนางมิใช่เพียงงามธรรมดา แต่เป็นงามที่เหนือขึ้นไปกว่านั้น เป็นความงามที่ เกินกว่าสามัญสำนึกจะเข้าใจ ราวกับนางคือสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่หลงทางจากสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์ ไป๋เสวี่ยหรง ยามนี้งดงามเกินกว่าที่ผู้ใดในหมู่บ้านจะเทียบเคียงรัศมีของนางเปล่งประกายจากภายในสง่างาม เยือกเย็น และแฝงด้วยอำนาจลี้ลับที่แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับสูงก็ยังสัมผัสได้ถึงความลึกล้ำเกินหยั่งถึงชายหนุ่มผู้หนึ่งค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาพร้อมจ้องนางไม่วางตา จ้าวหงเทียน ชายหนุ่มรูปงามแห่งยุทธภพผู้มีทั้งพรสวรรค์ที่เหนือชั้นและความมั่นใจอันล้นฟ้าผู้ที่เคยทำให้สตรีนับไม่ถ้วนต้องใจเต้นเพียงแค่รอยยิ้มเดียวแต่ในตอนนี้… เขากลับถูกจับจ้องอย่างแน่นิ่งจากสตรีเพียงนางเดียวแววตาของเขาแน่วแน่ จิตใจสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้เขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อยแววตานั้นมั่นใจดั่งเคย แต่ลึกลงไปกลับมีความลังเลที่เขาไม่เคยรู้จักเขาก้าวเข้าใกล้ไปอีกขั้น จนเหลือเพียงระยะห่างไม่กี่ก้าวระหว่างเขาและนาง

"ไป๋เสวี่ยหรง..." เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยออกมา "เจ้านั้นยังคงมีความงดงาม... ไม่เคยเปลี่ยน"

หญิงสาวหันหน้ามามองเขา แววตาของนางสงบ… เรียบเย็น… ไร้ความตื่นเต้นใดๆ สายตานั้นทำให้หัวใจของจ้าวหงเทียนเต้นสะดุดราวกับถูกปลิดความมั่นใจไปในชั่วพริบตาเดียว

"ขอบคุณ" คำเพียงคำเดียวที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากของนางเสียงของนางไพเราะและสุภาพแต่กลับเปี่ยมไปด้วยความห่างเหินราวกับโลกทั้งใบถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมิติต้องแสดงอารมณ์ใดในขณะที่เขาคาดหวังจะเห็นแววตาสั่นไหวสิ่งที่ได้รับคือ… ความว่างเปล่า เขาเงียบงัน หัวใจคล้ายถูกหยุดนิ่งชั่วครู่ เขาคือยอดฝีมือผู้ที่ใครๆ ก็ยอมศิโรราบแต่ในยามนี้ เขากลับรู้สึกเหมือนเพียง เด็กหนุ่มธรรมดา ที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งเกินเอื้อมถึง

“ตัวข้านั้นคือจ้าวหงเทียน…” ชายหนุ่มยืดอก สีหน้าภาคภูมิใจเต็มเปี่ยม

“ข้าคือชายที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ที่สุดในหมู่บ้านแห่งนี้! และบัดนี้ ข้าได้กลายเป็นข้ารับใช้ของตระกูลเซี่ยตระกูลผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน!” เสียงของเขาดังชัดเจน พูดออกมาราวกับต้องการให้ทุกผู้คนได้ยินแม้ว่า ไป๋เสวี่ยหรง จะรู้จักชื่อของเขาดีอยู่แล้วแต่เขากลับตั้งใจ แนะนำตัวเอง ไม่ใช่เพื่อน… แต่ในฐานะชายผู้มีคุณค่าคู่ควรกับนาง! สายตาหลายคู่เริ่มมองมาด้วยความสนใจ บ้างอิจฉา บ้างอยากรู้อยากเห็นเพราะทุกคนก็รู้ดีว่าจ้าวหงเทียน คือชายหนุ่มรูปงามผู้เต็มเปี่ยมด้วยพรสวรรค์บัดนี้ยังมีฐานะใหม่ที่ใครๆ ต่างหมายปอง

“ไป๋เสวี่ยหรง…” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเป็นแผ่วนุ่มแฝงความมั่นใจ “ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่มีชายใดอีกแล้วที่คู่ควรกับเจ้า... นอกจากข้า ข้าจะขอให้ท่านพ่อท่านแม่ทำพิธีสู่ขอเจ้าอย่างสมเกียรติ!”

เขาพูดออกมาด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจราวกับคำพูดของเขาได้ปิดผนึกชะตาของนางเรียบร้อยแล้ว แต่... สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงกำลังจะเกิดขึ้น ในขณะที่เสียงรอบข้างเริ่มอื้ออึง ผู้คนต่างรอลุ้นคำตอบของหญิงสาวที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และลึกลับที่สุดในหมู่บ้านเสียงของนางกลับดังออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เจ้ามันช่างไร้ยางอายนัก ข้ายังไม่ได้พูดสักคำ... ว่าข้าจะเป็นของเจ้า” คำพูดของนางเรียบสงบแต่กลับแฝงไว้ด้วย ความเย็นเยียบ ดั่งลมหายใจของเหมันต์ที่พัดผ่านหุบเหวผู้คนที่อยู่ใกล้ต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบแม้จะไม่ได้เป็นเป้าหมายของถ้อยคำเหล่านั้นก็ตามจ้าวหงเทียนเบิกตากว้าง ราวกับถูกราดด้วยน้ำเย็นจัดต่อหน้าผู้คน

“เจ้าว่าอะไรนะ…?” เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย ราวกับไม่เชื่อหูตนเอง เขาคาดหวังคำตอบที่อ่อนหวานเขาคาดหวังว่าผู้คนจะยินดีต่อ คู่รัก ที่น่าภาคภูมิใจ แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะถูกปฏิเสธ... ต่อหน้าผู้คนเช่นนี้!

แววตาของไป๋เสวี่ยหรงยังคงเรียบเฉย ไม่มีแม้แต่ความสะเทือนอารมณ์เล็กน้อยนางมิได้พูดเพื่อสร้างความอับอาย แต่นางพูดด้วยความจริงใจอันไร้เยื่อใย นี่คือคำปฏิเสธจากสตรีผู้สูงศักดิ์ ผู้ที่ไม่เคยคิดจะก้มศีรษะให้ผู้ใด แม้แต่ชายหนุ่มผู้ได้รับการยกย่องที่สุดในหมู่บ้าน… ก็ไม่มีสิทธิ์ได้ครอบครองหัวใจของนาง!

“ตัวเจ้านั้นเป็นเพียงแค่สตรีที่ต้อยต่ำ!” เขาคำรามออกมาด้วยเสียงที่สั่นเทา“เจ้าควรจะรู้สึกภูมิใจเสียด้วยซ้ำ... ที่ข้าหมายตาในตัวเจ้า!” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความดุดันพยายามกู้ศักดิ์ศรีที่พังทลายแต่น้ำเสียงนั้นกลับเหมือนเสียงโหยหวนของผู้พ่ายแพ้ฟังแล้วชวนให้น่าเวทนา มากกว่าน่ายำเกรง

ไป๋เสวี่ยหรงเงยหน้ามองเขาอีกครั้งสายตาของนางยังคงเรียบสงบ ไร้คลื่นอารมณ์แต่สิ่งที่ออกมาจากริมฝีปากของนาง…

กลับทำให้ทั้งลานต้องเงียบงัน “เป็นแค่สุนัขรับใช้ตัวเล็กๆ ของตระกูลเซี่ยแต่คำพูดของท่าน... ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน” ผู้คนโดยรอบถึงกับอ้าปากค้าง บางคนกลั้นหัวเราะไว้แทบไม่ไหววาจาของนางช่างอ่อนโยนดุจสายธารแต่กลับแหลมคม... ดั่งกระบี่น้ำแข็งเสียบทะลุศักดิ์ศรีจนแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี

"เจ้า... เจ้า..." เสียงของจ้าวหงเทียนสั่นระริกเขาพยายามจะพูดอะไรออกมา แต่คำพูดกลับติดอยู่ในลำคอริมฝีปากเขาเผยอ แต่ไร้เสียงใดหลุดออก ร่างของเขาสั่นระริก ใบหน้าบิดเบี้ยว แดงก่ำ ร้อนผ่าวราวกับถูกเพลิงเผาในขณะที่หัวใจกลับเย็นยะเยือกราวกับถูกแช่แข็งชายหนุ่มผู้เคยหยิ่งทะนง... ถูกหักหน้าด้วยวาจาเพียงไม่กี่ประโยคในสายตาของฝูงชน เขาไม่ได้ดูสง่างามอีกต่อไป

และไป๋เสวี่ยหรง... ยังคงยืนนิ่งสง่างาม ราวกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อาจแตะต้องนางไม่ได้ใช้พลังปราณใด ไม่ได้ยกมือกระทำอันใดเลยแต่นางกลับทำให้ชายหนุ่มผู้แสนภาคภูมิ ล้มเหลว… ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ

แม้ความอับอายที่ได้รับจะรุนแรงราวกับเปลวเพลิงเผาไหม้ใจ แม้จะอยากมุดแผ่นดินหนีจากสายตาผู้คนให้พ้นพ้นแต่ความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ของไป๋เสวี่ยหรงกลับตราตรึงเขาอย่างยิ่งยวดงดงามเสียจน… เขายินดีแลกศักดิ์ศรีทั้งหมดเพื่อให้ได้ครอบครองนางจ้าวหงเทียนสูดหายใจลึก ดวงตาเต็มไปด้วยไฟแห่งความครอบครองเสียงของเขาเอ่ยขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้แฝงไปด้วยแรงกดดันที่ใครฟังก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง

"ไป๋เสวี่ยหรง... เจ้าอย่าได้ทำตัวถือดีไปนัก" เสียงของเขาเข้มข้นขึ้น คล้ายกลบเกลื่อนความอัปยศเมื่อครู่

"การแต่งงานกับข้า เปรียบเสมือนของขวัญจากสวรรค์ที่เจ้าควรจะสำนึกบุญคุณเสียด้วยซ้ำ!" เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นจากบางคนที่ยืนอยู่ใกล้บางคนเบือนหน้าหลีกสายตา ด้วยความอึดอัดแทนแต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจ เดินเข้าไปใกล้นางอีกก้าวหนึ่ง

"ทุกคำพูดของเจ้าเมื่อครู่... ข้ายินดีจะปล่อยผ่านแต่หากเจ้ากล้าปฏิเสธข้าอีก...จงเตรียมรับผลที่จะตามมาได้เลย"

คำขู่อันเหี้ยมเกรียมในคราบถ้อยคำแห่งความรักนี่คือวิธีของจ้าวหงเทียนผู้ไม่เคยยอมรับการพ่ายแพ้และไม่เคยเชื่อว่าใครมีสิทธิ์ปฏิเสธเขาแต่สิ่งที่เขาได้รับตอบกลับมา คือวาจาแผ่วเบา ทว่าคมกริบกว่าใบมีดใดๆ

"เจ้านี่มันช่างไร้ยางอายจริงๆ" เสียงของนางยังคงนุ่มนวลแต่แววตานั้น... เยือกเย็นดั่งหิมะที่ตกบนหลุมศพคำพูดของนางไม่ดังนักแต่กลับฝังลึกลงไปในหัวใจของจ้าวหงเทียนดั่งคำพิพากษาและนั่นคือฟางเส้นสุดท้ายความอดกลั้นทั้งหมดของเขา พังทลายลงในพริบตา

แววตาเขาเริ่มบิดเบี้ยว เต็มไปด้วยความดำมืดแห่งแรงอาฆาตริมฝีปากที่เคยยิ้มอย่างมั่นใจกลับเม้มแน่นด้วยความคั่งแค้น

"หากข้าไม่ได้เจ้า...ก็อย่าหวังเลยว่าจะมีชายใดได้ครอบครองเจ้าอีก!"

บรรยากาศโดยรอบพลันเยือกเย็นลงลมหายใจของผู้คนชะงักงันราวกับถูกแช่แข็งนี่ไม่ใช่คำพูดของชายที่ตกหลุมรักแต่มันคือถ้อยคำของผู้ที่เริ่มเดินเข้าสู่ด้านมืดของหัวใจตนเอง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 91 ครอบครัวพร้อมหน้า (จบ)

    ในช่วงเวลาที่ ไป๋เสวี่ยหรง พำนักอยู่ในสำนักหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็ง นางมิได้เพียงมาเพื่อพักผ่อนหรือชำระความแค้นเท่านั้น แต่ยังถือโอกาสรังสรรค์สิ่งล้ำค่าไว้ให้สำนักแห่งนี้ตำราทักษะวิชาเยือกแข็งเล่มใหม่ที่นางบรรจงเขียนด้วยมือของนางเองทักษะที่ถูกจารึกลงในตำรานั้นมีความลึกซึ้งอย่างหาใดเปรียบได้ มันมิใช่เพียงศาสตร์แห่งการต่อสู้ แต่ยังเป็นผลรวมของประสบการณ์ ความเจ็บปวด และสัจธรรมที่นางสะสมมาตลอด ย่อมเป็นสิ่งที่เจ้าสำนักคนก่อนอย่าง ฉินเยว่หาน มิอาจเทียบชั้นได้แม้เพียงเศษเสี้ยว"สำหรับสำนักหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็งแห่งนี้ ข้าจะเป็นผู้วางรากฐาน... แต่ปล่อยให้มันเติบโตด้วยพลังของพวกเจ้าเอง" ไป๋เสวี่ยหรงกล่าวอย่างแผ่วเบา ขณะส่งมอบตำราให้กับ จิ่วเยว่ซิน ศิษย์ผู้ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด"จิ่วเยว่ซิน... ต่อไปนี้เจ้าจงดูแลสำนักของข้าให้ดี" น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่หาได้ยากยิ่งในโลกแห่งยุทธ์"ท่านอาจารย์... ตัวท่านจะไปแล้วจริงๆ เหรอ" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยอาลัย แม้เวลาที่รู้จักกันจะไม่นาน แต่ไป๋เสวี่ยหรงคือผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตของนาง จากหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสับสน สู่ผู้ครอบครอง

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 90 ตำนานของสองเพื่อนรัก

    ใต้ท้องฟ้าสีเทาเงิน ผืนหิมะที่ปกคลุมผาแห่งการสิ้นสุดยังคงหล่นโปรยราวกับร่วมไว้อาลัยให้กับจุดจบของตำนานหนึ่ง... และมิตรภาพที่ไม่มีวันหวนกลับไป๋เสวี่ยหรงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางเศษน้ำแข็งที่ยังคงล่องลอย ร่างบางของนางไม่ขยับเขยื้อน ราวกับกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งอีกหนึ่งชิ้นในสถานที่แห่งนี้ สายตาที่ทอดยาวออกไปเบื้องหน้าช่างว่างเปล่า แต่ภายในเบื้องลึกของแววตานั้นคือกระแสความรู้สึกมากมายที่ถาโถมย้อนกลับมาทุกเสียงหัวเราะ ทุกหยาดน้ำตา ทุกคำสัตย์ที่เคยให้กันในวัยเยาว์"ข้าไม่อยากให้เรื่องของเรามันจบลงเช่นนี้เลย... เพื่อนรักของข้า"เสียงของนางเบาราวสายลม ละมุนราวบทกลอนส่งท้าย ดั่งคำอำลาที่ไม่มีผู้รับฟังแม้ศัตรูจะสิ้นสูญ แม้การล้างแค้นจะสัมฤทธิ์ แต่นางไม่ได้รู้สึกถึงชัยชนะ หากมีเพียงความว่างเปล่าอันแหลมคมทิ่มแทงอยู่ในอกลึก เพียงลมหายใจเดียวต่อมา ไป๋เสวี่ยหรงก็ปิดเปลือกตาลงอย่างแผ่วเบา เสี้ยวความทรงจำของฉินเยว่หานในหัวใจของนางค่อย ๆ เลือนลางลง ราวกับว่าไม่เคยมีสตรีนางนั้นอยู่บนโลกใบนี้มาก่อน ไม่เคยมีเสียงหัวเราะร่วมกัน ไม่เคยมีมือที่เคยจับไว้ในยามทุกข์เมื่อดวงตางามคู่นั้นลืมขึ้นอีกครั้ง ก็ไม่มีแม้แต่เ

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 89 ชำระแค้น

    ในยามนี้ ทั่วทั้งสำนักเงียบงันราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน...เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสแห่งหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็ง ต่างยืนตัวแข็งทื่อลมหายใจสะดุด ใบหน้าซีดเผือด มือไม้เย็นเฉียบไม่มีผู้ใดกล้าเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า...มันเหนือความเข้าใจและเกินกว่าจินตนาการ นางเซียนเยือกแข็งเจ้าสำนักผู้เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งสวรรค์ของพวกเขาบัดนี้กลับมีผู้กล้าสตรีนิรนามผู้มีใบหน้าอ่อนวัย ยืนหยัดต่อกรกับนางอย่างไม่หวั่นไหวและไม่ใช่แค่ท้าทาย... แต่กลับสามารถต้านรับแรงกดดันของเจ้าสำนักได้อย่างไม่ขาดตก"นางผู้นั้นเป็นใคร?""เหตุใดพลังของนางถึง...ไม่ธรรมดาถึงเพียงนี้?"เสียงกระซิบของเหล่าศิษย์เริ่มดังขึ้นประปรายด้วยความตื่นตระหนกแม้แต่ผู้อาวุโสระดับสูงบางคนก็เริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นกลางหน้าผาก ทั้งที่อากาศยังเย็นยะเยือกรัศมีพลังเยือกแข็งของหญิงสาวปริศนาแผ่กระจายออกไปอย่างมั่นคงเยียบเย็น... ลึกซึ้ง... แน่นิ่งดั่งมหาสมุทรใต้ธารน้ำแข็งหากพลังของฉินเยว่หานคือห่าหิมะที่โหมกระหน่ำพลังของหญิงสาวผู้นั้น...กลับคล้ายหิมะที่หลับใหลมานับพันปี รอเพียงปริบตาเดียวก็พร้อมแช่แข็งโลกทั้งใบศิษย์ตาต่ำพวกเขามองไ

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 88 ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีก

    ภายใต้ใบหน้าอันงดงามดุจนางเซียนของฉินเยว่หาน ซึ่งมักจะสงบนิ่งไม่ไหวติงต่อสิ่งใด ในยามนี้กลับฉายแววตื่นตะลึงอย่างปิดไม่มิดไม่ใช่เพราะพลังอันมหาศาลของหญิงสาวเบื้องหน้า แต่เป็นเพราะคลื่นพลังนั้นช่างคุ้นเคย… คุ้นจนเกินจะหลอกตัวเองได้"เป็นไปไม่ได้... มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?"นางพึมพำซ้ำไปมา ราวกับพยายามสลัดความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าให้หลุดออกจากจิตใจ หญิงสาวปริศนา ผู้มีใบหน้าเยาว์วัยราวเด็กสาวเพิ่งแตกเนื้อสาวกลับยืนประจันหน้ากับนางอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาคู่นั้นคมดั่งกระบี่น้ำแข็ง จ้องลึกเข้ามาในหัวใจของผู้เคยเป็นเพื่อนรัก"เป็นอย่างไรบ้าง ฉินเยว่หาน... เจ้าดูแก่ขึ้นมากเลยนะ"เสียงหวานนุ่มดังขึ้นราวกับสายลม คำทักทายธรรมดา กลับกลายเป็นคมมีดกรีดลงกลางใจของฉินเยว่หานอย่างแผ่วเบาแต่รุนแรง ใบหน้าเยือกเย็นของนางเริ่มสั่นไหว มือขาวกำแน่นจนเล็บจิกฝ่ามือคลื่นพลังลมปราณที่แผ่ออกมา ไม่ผิดแน่…เป็นพลังของ หลานเสวี่ยอิง ผู้ที่นางเคยคิดว่าได้ส่งลงนรกไปแล้วด้วยมือของตนเองสองเท้าที่เคยมั่นคงของฉินเยว่หาน บัดนี้กลับเหมือนเหยียบอยู่บนผืนหิมะบางที่พร้อมจะถล่มลงทุกเมื่อสายตาของนางจ้องลึกเข้าไปในดวงหน้าของหญิง

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 87 อดีตเพื่อนรักของข้า

    ทุกท่วงท่า ทุกการเคลื่อนไหวของจิ่วเยว่ซินล้วนแล้วเฉียบคมไร้ปรานี พลังลมปราณที่แผ่ออกมาแต่ละระลอกนั้นแฝงไว้ด้วยเจตนาแห่งการสังหารอย่างชัดเจน การโจมตีทุกครั้งมิใช่เพียงเพื่อทดสอบฝีมือ หากแต่เป็นการประลองเพื่อปลิดชีพโดยแท้ หากฉินเยว่หานพลั้งเผลอแม้เพียงครึ่งก้าว ก็อาจต้องสูญสิ้นชีวิตยิ่งเวลาผ่านไป รูม่านตาของฉินเยว่หานก็ค่อย ๆ ขยายกว้างขึ้น แววตาที่เคยสงบนิ่งเริ่มสะท้อนแววหวั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่ การเคลื่อนไหวของจิ่วเยว่ซินเริ่มทับซ้อนกับภาพจำบางอย่างในอดีต ภาพของสตรีผู้หนึ่ง... สตรีที่นางพยายามลบเลือนจากห้วงความคิดมานานหลายสิบปีหลานเสวี่ยอิงนามนั้นแม้จะถูกกลบฝังในก้นบึ้งของสำนึก แต่มันก็ผุดขึ้นมาราวกับต้องมนต์สะกด ไม่มีสิ่งใดสามารถปิดบังความรู้สึกคุ้นเคยนี้ได้อีกต่อไปแต่ก่อนที่ฉินเยว่หานจะถลำลึกไปในห้วงคิด ทักษะของจิ่วเยว่ซินก็พลันจู่โจมเข้ามาอีกระลอก ความคุ้นชินในเคล็ดวิชาเยือกแข็งที่นางเคยสอนกลับถูกแก้ทางอย่างแนบเนียนทีละชั้น ทักษะที่นางเคยภาคภูมิใจกำลังถูกลบล้างด้วยปลายนิ้วของศิษย์สาวผู้เป็นความภาคภูมิใจของนางเอง“นี่ข้า... กำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยศิษย์ของตนเองอย่างนั้นหรือ?”

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 86 นางคิดลอบสังหารฆ่าเหรอ

    ใต้แสงสลัวของตำหนักน้ำแข็ง ดวงตาของจิ่วเยว่ซินฉายแววอ่อนโยนเช่นเคย รอยยิ้มยังคงงดงาม ทว่าภายในนั้นคือความเยียบเย็นที่แม้หิมะพันปียังมิอาจเทียบเคียงได้ นางยืนอยู่เบื้องหน้าอาจารย์ผู้เลี้ยงดูและหล่อหลอมตนมาแต่เล็กผู้หญิงที่นางเคยบูชาเทียบเท่าฟ้าดิน และในเวลาเดียวกันคือผู้ที่ล้างผลาญครอบครัวของนางทั้งตระกูลนางรู้ดีว่าภาพลักษณ์ภายนอกที่แสดงออกจะต้องไร้ที่ติทุกกระเบียดนิ้ว เพราะสายตาของฉินเยว่หานนั้นแหลมคมเกินกว่าที่ใครจะตบตาได้โดยง่าย แม้จะอ่อนโยนแต่ก็ซ่อนพิษลึก ราวกับกลีบเหมยบนผืนน้ำแข็ง หากเพียงเผลอสัมผัสอาจถูกหนาวสะท้านถึงวิญญาณ"จิ่วเยว่ซิน ข้ารู้สึกชอบแววตาของเจ้าในตอนนี้ยิ่งนัก"เสียงของฉินเยว่หานดังขึ้น เงียบงัน ทว่าเจือด้วยความพึงพอใจความพึงพอใจของผู้ที่คิดว่าตนสามารถหล่อหลอมชีวิตผู้อื่นตามอำเภอใจได้เสมอคำชมที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นนั้น กลับเป็นเหมือนมีดที่กรีดลงกลางหัวใจของจิ่วเยว่ซิน ช่างน่าขันยิ่งนัก… แม้แต่แววตาที่ผ่านความเกลียดชังและการทรยศมาแล้ว ยังถูกหล่อนชมด้วยรอยยิ้มหญิงสาวสูดลมหายใจแผ่วเบา ก่อนกล่าวเสียงนุ่ม"เจ้าค่ะอาจารย์"คำพูดของนางยังคงสุภาพและสงบ ราวกับไม่มีอะไรเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status