Beranda / รักโบราณ / จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล / ตอนที่ 12 ความหยิ่งยโสของผู้ที่ลืมรากเหง้า

Share

ตอนที่ 12 ความหยิ่งยโสของผู้ที่ลืมรากเหง้า

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-06 00:06:14

 เวลาผ่านไปอีก 5 ปี…

หมู่บ้านจิ่วอันหมู่บ้านเล็กๆ ที่เคยเงียบสงบ และเป็นเพียงที่ซ่อนตัวของผู้คนธรรมดาบัดนี้กลับกลายเป็น สถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ราวกับได้รับพรจากสวรรค์ปราการณ์น้ำแข็งโปร่งแสงที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ป้องกันสัตว์อสูร มิให้พวกมันบุกเข้ามาในหมู่บ้านแต่ มันยังส่งผลต่อสภาพแวดล้อมของที่นี่โดยสิ้นเชิง!

ผู้คนต่างพบว่าพืชผลที่ปลูกในปีนี้… เติบโตเร็วกว่าปกติ ต้นไม้ที่เคยแห้งแล้งกลับออกผลมากมายเกินกว่าที่ควรเป็นแม่น้ำที่เคยไหลเอื่อย กลับใสสะอาดและเต็มไปด้วยปลามากมายแม้แต่สมุนไพรล้ำค่า ที่หาได้ยากยิ่งในขุนเขา… ก็เริ่มเติบโตขึ้นรอบหมู่บ้านทุกสิ่งทุกอย่างของหมู่บ้านจิ่วอันในตอนนี้ เปลี่ยนแปลงไปจนมิอาจเชื่อได้ว่าเคยเป็นหมู่บ้านธรรมดา!

ผู้คนต่างกล่าวขานว่าเป็นพรจากสวรรค์ แต่แท้จริงแล้ว… นี่มิใช่พรจากสวรรค์ มันเป็นผลลัพธ์ของพลังอันแข็งแกร่งที่ซุกซ่อนอยู่ที่นี่เป็นผลจาก ปราการณ์เยือกแข็งลี้ลับ ที่ปกป้องหมู่บ้านแห่งนี้มาโดยตลอด

ผลกระทบของปราการณ์ศักดิ์สิทธิ์แม้ไม่มีใครรู้ที่มาแต่พลังลี้ลับนี้… กลับส่งผลต่อหมู่บ้านอย่างมหาศาล

ดินแดนที่นี่ไม่เคยเผชิญภัยแล้ง สัตว์อสูรไม่กล้าเหยียบย่างเข้ามา พืชพันธุ์งอกงามเกินกว่าสถานที่ใดแต่มันเป็นเพราะอำนาจของผู้ที่ควบคุมปราการณ์นี้อยู่เบื้องหลัง!

ไป๋เสวี่ยหรงในเวลานี้คือดอกไม้ที่ผลิบานอย่างเต็มที่ นางในตอนนี้มีอายุครบ 20 ปีเต็ม ความงดงามที่เหนือมนุษย์ของนางเปล่งประกายราวกับดวงดาราในค่ำคืน

ผิวพรรณของนาง ขาวราวกับหยกงาม เปล่งประกายอ่อนโยนใต้แสงจันทร์ ดวงตาของนาง ล้ำลึกดุจห้วงน้ำแข็งที่มิอาจละสายตาได้แม้ว่านางจะยังคงสวมใส่อาภรณ์เรียบง่ายของหญิงชาวบ้านแต่ความสง่างามของนางกลับไม่อาจปิดบังได้อีกต่อไป! ในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยผู้คนธรรมดา… นางช่างเป็นดั่งดวงดาราที่ลอยอยู่บนฟากฟ้า

นางดูราวกับสตรีที่หลงทางมาจากแดนสวรรค์ ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านต่างเอ่ยเช่นนั้น ราวกับพวกเขาตระหนักได้ถึงความแตกต่างที่ไม่อาจเอื้อมถึงสตรีที่สูงส่งเช่นนี้… เหตุใดจึงยังอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ เช่นนี้กัน?

แม้ว่า ไป๋เสวี่ยหรง จะสามารถสะกดพลังของนางไว้ได้แม้ว่านางจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้แต่มีสิ่งหนึ่งที่นางมิอาจปิดบังได้เลยนั่นคือรูปลักษณ์ที่สูงส่งของนาง!

20 ปีที่ผ่านมานางเติบโตขึ้นท่ามกลางผู้คนธรรมดาแต่ยิ่งเวลาผ่านไป ความแตกต่างของนางกับพวกเขาก็ยิ่งชัดเจนขึ้นแม้ว่านางจะสวมใส่อาภรณ์เรียบง่าย แต่นางกลับงดงามราวกับดวงจันทร์บนท้องฟ้าแม้ว่านางจะใช้ชีวิตแบบหญิงชาวบ้าน แต่นางกลับมีรัศมีที่มิอาจปิดบังแม้ว่านางจะพยายามทำตัวให้กลมกลืนกับคนทั่วไป แต่ผู้คนรอบตัวกลับสัมผัสได้ถึงความสูงส่งที่มิอาจเอื้อมถึง

เพียงแค่นางเดินผ่าน… บรรยากาศรอบตัวกลับเงียบสงัด เพียงแค่นางปรายตามอง… กลับให้ความรู้สึกดุจเทพธิดา ไป๋เสวี่ยหรงมิได้อาศัยพลังเวทใดๆ เพื่อดึงดูดสายตาผู้คนแต่เพราะ ตัวตนของนางยิ่งใหญ่เกินไป… ไม่ว่าผู้ใดที่ได้พบเห็นนางเพียงครู่เดียวก็มิอาจละสายตาได้อีกเลย!

"ข้าพยายามหลบซ่อนตัวเองมาตลอด…"ไป๋เสวี่ยหรงทอดสายตาไปยังขอบฟ้าแม้ว่านางจะสามารถปกปิดพลังของนางได้…แต่รูปลักษณ์ของนางไม่เคยปิดบังได้เลย! เพราะตัวตนของนาง ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะอยู่ในที่แห่งนี้อีกต่อไป!

"หรือว่านี่คือสัญญาณที่บอกว่า ข้าควรจากไปได้แล้ว?"สตรีผู้สูงศักดิ์เช่นนาง มิอาจซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ได้ตลอดไป

วันหนึ่งโลกภายนอกจะต้องได้รับรู้ว่านางคือใครและในวันนั้นทั้งยุทธภพจะต้องสั่นสะเทือน!

ห้าปีที่ผ่านมามิใช่เพียงไป๋เสวี่ยหรงเท่านั้นที่เติบโตขึ้นเด็กหนุ่มสาวที่เคยออกจากหมู่บ้านเพื่อเข้าสู่เส้นทางของการฝึกตน บัดนี้กลับมาเยือนสถานที่ที่พวกเขาเคยจากไป

ในวันนี้เหล่าศิษย์จากสำนักใหญ่ที่ได้รับการคัดเลือกกลับมายังหมู่บ้านพวกเขาเคยเป็นเด็กหนุ่มสาวชาวบ้านธรรมดาแต่บัดนี้ พวกเขากลายเป็นศิษย์ของ สำนักฝึกตนอันทรงอิทธิพลพวกเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อครั้งยังเยาว์วัย พวกเขาเป็นเด็กชาวบ้านธรรมดาที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่บัดนี้…บุคลิกและท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไปจนมิอาจหวนกลับคืน

การแต่งกายหรูหรากว่าชาวบ้านทั่วไป แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเองพวกเขายืนในท่วงท่าที่สูงส่ง ราวกับพวกเขามิใช่ชาวบ้านธรรมดาอีกต่อไป "เห้อ… ไม่ไหว ไม่ไหว สถานที่แห่งนี้หาดีไม่ได้เลย"

ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขึ้นน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกถากถาง "ข้าเคยเติบโตมาในสถานที่เช่นนี้อย่างนั้นหรือ?"

"บ้านเรือนยังคงทรุดโทรม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ชีวิตของพวกเจ้าก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีความก้าวหน้าใดๆ" พวกเขาไม่ได้กลับมาเพื่อรำลึกถึงอดีต พวกเขากลับมา… เพื่อเปรียบเทียบตนเองกับผู้ที่ยังอยู่ที่นี่! พวกเขาเริ่มดูถูกคนรุ่นเดียวกัน พวกเขามิได้เพียงกล่าววาจาดูถูกสถานที่ที่พวกเขาเคยเติบโต แต่ยังมองผู้ที่มิได้รับเลือกให้ออกจากหมู่บ้าน… ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยกว่า!

"ดูสิ พวกเจ้าที่ไม่ได้รับเลือกไปฝึกตน...ตอนนี้ก็ยังเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น! ไม่มีพลัง ก็เป็นได้แค่สามัญชนไร้ค่า"

ชายหนุ่มผู้เป็นศิษย์ของสำนักชั้นสูงกล่าวขึ้น เขาสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ราวกับไม่ต้องการเสียเวลาพูดกับ "คนธรรมดา"

"ช่างน่าสมเพชนัก" หนึ่งในสตรีที่กลับมาจากสำนักฝึกตนกล่าวขึ้นพลางหัวเราะเบาๆ

"เราคงอยู่ที่นี่นานไม่ได้ เดี๋ยวจะติดกลิ่นสกปรกของชาวบ้านเสียเปล่า"

เสียงหัวเราะของพวกเขาดังก้องไปทั่วพวกเขาลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่ง พวกเขาก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านนี้!

ครั้งหนึ่ง พวกเขาเคยเป็นเด็กที่วิ่งเล่นในท้องทุ่ง ครั้งหนึ่ง พวกเขาเคยเป็นเพื่อนของคนที่พวกเขากำลังดูถูกอยู่ตอนนี้

แต่บัดนี้… พวกเขากลับมองสถานที่แห่งนี้ด้วยสายตาเย้ยหยัน ไป๋เสวี่ยหรงเฝ้ามอง… อย่างเงียบงัน ไป๋เสวี่ยหรงยืนกอดอก ฟังทุกถ้อยคำโดยมิได้กล่าวอะไรออกมาริมฝีปากของนางยังคงเรียบเฉยแต่แววตาของนางกลับเต็มไปด้วย ความเย้ยหยันที่มิอาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

"มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้..." นางคิดในใจ "เมื่อได้รับอำนาจ พวกเขาก็มองผู้อื่นต่ำลง"

แต่หากวันหนึ่ง… พวกเขาพบว่าตนเองยังมิได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุด หากวันหนึ่ง พวกเขาพบว่ามีตัวตนที่สูงส่งกว่าพวกเขาไปไกลแสนไกล…พวกเขาจะยังคงหยิ่งยโสเช่นนี้อีกหรือไม่? หรือจะทำทีกระดิกหางไปมาแล้วพูดจาประจบสอพลอเมื่อเจอคนที่สู่งล้ำกว่า...นางไม่เคยให้ค่าคนพวกนี้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 91 ครอบครัวพร้อมหน้า (จบ)

    ในช่วงเวลาที่ ไป๋เสวี่ยหรง พำนักอยู่ในสำนักหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็ง นางมิได้เพียงมาเพื่อพักผ่อนหรือชำระความแค้นเท่านั้น แต่ยังถือโอกาสรังสรรค์สิ่งล้ำค่าไว้ให้สำนักแห่งนี้ตำราทักษะวิชาเยือกแข็งเล่มใหม่ที่นางบรรจงเขียนด้วยมือของนางเองทักษะที่ถูกจารึกลงในตำรานั้นมีความลึกซึ้งอย่างหาใดเปรียบได้ มันมิใช่เพียงศาสตร์แห่งการต่อสู้ แต่ยังเป็นผลรวมของประสบการณ์ ความเจ็บปวด และสัจธรรมที่นางสะสมมาตลอด ย่อมเป็นสิ่งที่เจ้าสำนักคนก่อนอย่าง ฉินเยว่หาน มิอาจเทียบชั้นได้แม้เพียงเศษเสี้ยว"สำหรับสำนักหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็งแห่งนี้ ข้าจะเป็นผู้วางรากฐาน... แต่ปล่อยให้มันเติบโตด้วยพลังของพวกเจ้าเอง" ไป๋เสวี่ยหรงกล่าวอย่างแผ่วเบา ขณะส่งมอบตำราให้กับ จิ่วเยว่ซิน ศิษย์ผู้ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด"จิ่วเยว่ซิน... ต่อไปนี้เจ้าจงดูแลสำนักของข้าให้ดี" น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่หาได้ยากยิ่งในโลกแห่งยุทธ์"ท่านอาจารย์... ตัวท่านจะไปแล้วจริงๆ เหรอ" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยอาลัย แม้เวลาที่รู้จักกันจะไม่นาน แต่ไป๋เสวี่ยหรงคือผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตของนาง จากหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสับสน สู่ผู้ครอบครอง

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 90 ตำนานของสองเพื่อนรัก

    ใต้ท้องฟ้าสีเทาเงิน ผืนหิมะที่ปกคลุมผาแห่งการสิ้นสุดยังคงหล่นโปรยราวกับร่วมไว้อาลัยให้กับจุดจบของตำนานหนึ่ง... และมิตรภาพที่ไม่มีวันหวนกลับไป๋เสวี่ยหรงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางเศษน้ำแข็งที่ยังคงล่องลอย ร่างบางของนางไม่ขยับเขยื้อน ราวกับกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งอีกหนึ่งชิ้นในสถานที่แห่งนี้ สายตาที่ทอดยาวออกไปเบื้องหน้าช่างว่างเปล่า แต่ภายในเบื้องลึกของแววตานั้นคือกระแสความรู้สึกมากมายที่ถาโถมย้อนกลับมาทุกเสียงหัวเราะ ทุกหยาดน้ำตา ทุกคำสัตย์ที่เคยให้กันในวัยเยาว์"ข้าไม่อยากให้เรื่องของเรามันจบลงเช่นนี้เลย... เพื่อนรักของข้า"เสียงของนางเบาราวสายลม ละมุนราวบทกลอนส่งท้าย ดั่งคำอำลาที่ไม่มีผู้รับฟังแม้ศัตรูจะสิ้นสูญ แม้การล้างแค้นจะสัมฤทธิ์ แต่นางไม่ได้รู้สึกถึงชัยชนะ หากมีเพียงความว่างเปล่าอันแหลมคมทิ่มแทงอยู่ในอกลึก เพียงลมหายใจเดียวต่อมา ไป๋เสวี่ยหรงก็ปิดเปลือกตาลงอย่างแผ่วเบา เสี้ยวความทรงจำของฉินเยว่หานในหัวใจของนางค่อย ๆ เลือนลางลง ราวกับว่าไม่เคยมีสตรีนางนั้นอยู่บนโลกใบนี้มาก่อน ไม่เคยมีเสียงหัวเราะร่วมกัน ไม่เคยมีมือที่เคยจับไว้ในยามทุกข์เมื่อดวงตางามคู่นั้นลืมขึ้นอีกครั้ง ก็ไม่มีแม้แต่เ

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 89 ชำระแค้น

    ในยามนี้ ทั่วทั้งสำนักเงียบงันราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน...เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสแห่งหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็ง ต่างยืนตัวแข็งทื่อลมหายใจสะดุด ใบหน้าซีดเผือด มือไม้เย็นเฉียบไม่มีผู้ใดกล้าเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า...มันเหนือความเข้าใจและเกินกว่าจินตนาการ นางเซียนเยือกแข็งเจ้าสำนักผู้เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งสวรรค์ของพวกเขาบัดนี้กลับมีผู้กล้าสตรีนิรนามผู้มีใบหน้าอ่อนวัย ยืนหยัดต่อกรกับนางอย่างไม่หวั่นไหวและไม่ใช่แค่ท้าทาย... แต่กลับสามารถต้านรับแรงกดดันของเจ้าสำนักได้อย่างไม่ขาดตก"นางผู้นั้นเป็นใคร?""เหตุใดพลังของนางถึง...ไม่ธรรมดาถึงเพียงนี้?"เสียงกระซิบของเหล่าศิษย์เริ่มดังขึ้นประปรายด้วยความตื่นตระหนกแม้แต่ผู้อาวุโสระดับสูงบางคนก็เริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นกลางหน้าผาก ทั้งที่อากาศยังเย็นยะเยือกรัศมีพลังเยือกแข็งของหญิงสาวปริศนาแผ่กระจายออกไปอย่างมั่นคงเยียบเย็น... ลึกซึ้ง... แน่นิ่งดั่งมหาสมุทรใต้ธารน้ำแข็งหากพลังของฉินเยว่หานคือห่าหิมะที่โหมกระหน่ำพลังของหญิงสาวผู้นั้น...กลับคล้ายหิมะที่หลับใหลมานับพันปี รอเพียงปริบตาเดียวก็พร้อมแช่แข็งโลกทั้งใบศิษย์ตาต่ำพวกเขามองไ

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 88 ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีก

    ภายใต้ใบหน้าอันงดงามดุจนางเซียนของฉินเยว่หาน ซึ่งมักจะสงบนิ่งไม่ไหวติงต่อสิ่งใด ในยามนี้กลับฉายแววตื่นตะลึงอย่างปิดไม่มิดไม่ใช่เพราะพลังอันมหาศาลของหญิงสาวเบื้องหน้า แต่เป็นเพราะคลื่นพลังนั้นช่างคุ้นเคย… คุ้นจนเกินจะหลอกตัวเองได้"เป็นไปไม่ได้... มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?"นางพึมพำซ้ำไปมา ราวกับพยายามสลัดความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าให้หลุดออกจากจิตใจ หญิงสาวปริศนา ผู้มีใบหน้าเยาว์วัยราวเด็กสาวเพิ่งแตกเนื้อสาวกลับยืนประจันหน้ากับนางอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาคู่นั้นคมดั่งกระบี่น้ำแข็ง จ้องลึกเข้ามาในหัวใจของผู้เคยเป็นเพื่อนรัก"เป็นอย่างไรบ้าง ฉินเยว่หาน... เจ้าดูแก่ขึ้นมากเลยนะ"เสียงหวานนุ่มดังขึ้นราวกับสายลม คำทักทายธรรมดา กลับกลายเป็นคมมีดกรีดลงกลางใจของฉินเยว่หานอย่างแผ่วเบาแต่รุนแรง ใบหน้าเยือกเย็นของนางเริ่มสั่นไหว มือขาวกำแน่นจนเล็บจิกฝ่ามือคลื่นพลังลมปราณที่แผ่ออกมา ไม่ผิดแน่…เป็นพลังของ หลานเสวี่ยอิง ผู้ที่นางเคยคิดว่าได้ส่งลงนรกไปแล้วด้วยมือของตนเองสองเท้าที่เคยมั่นคงของฉินเยว่หาน บัดนี้กลับเหมือนเหยียบอยู่บนผืนหิมะบางที่พร้อมจะถล่มลงทุกเมื่อสายตาของนางจ้องลึกเข้าไปในดวงหน้าของหญิง

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 87 อดีตเพื่อนรักของข้า

    ทุกท่วงท่า ทุกการเคลื่อนไหวของจิ่วเยว่ซินล้วนแล้วเฉียบคมไร้ปรานี พลังลมปราณที่แผ่ออกมาแต่ละระลอกนั้นแฝงไว้ด้วยเจตนาแห่งการสังหารอย่างชัดเจน การโจมตีทุกครั้งมิใช่เพียงเพื่อทดสอบฝีมือ หากแต่เป็นการประลองเพื่อปลิดชีพโดยแท้ หากฉินเยว่หานพลั้งเผลอแม้เพียงครึ่งก้าว ก็อาจต้องสูญสิ้นชีวิตยิ่งเวลาผ่านไป รูม่านตาของฉินเยว่หานก็ค่อย ๆ ขยายกว้างขึ้น แววตาที่เคยสงบนิ่งเริ่มสะท้อนแววหวั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่ การเคลื่อนไหวของจิ่วเยว่ซินเริ่มทับซ้อนกับภาพจำบางอย่างในอดีต ภาพของสตรีผู้หนึ่ง... สตรีที่นางพยายามลบเลือนจากห้วงความคิดมานานหลายสิบปีหลานเสวี่ยอิงนามนั้นแม้จะถูกกลบฝังในก้นบึ้งของสำนึก แต่มันก็ผุดขึ้นมาราวกับต้องมนต์สะกด ไม่มีสิ่งใดสามารถปิดบังความรู้สึกคุ้นเคยนี้ได้อีกต่อไปแต่ก่อนที่ฉินเยว่หานจะถลำลึกไปในห้วงคิด ทักษะของจิ่วเยว่ซินก็พลันจู่โจมเข้ามาอีกระลอก ความคุ้นชินในเคล็ดวิชาเยือกแข็งที่นางเคยสอนกลับถูกแก้ทางอย่างแนบเนียนทีละชั้น ทักษะที่นางเคยภาคภูมิใจกำลังถูกลบล้างด้วยปลายนิ้วของศิษย์สาวผู้เป็นความภาคภูมิใจของนางเอง“นี่ข้า... กำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยศิษย์ของตนเองอย่างนั้นหรือ?”

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 86 นางคิดลอบสังหารฆ่าเหรอ

    ใต้แสงสลัวของตำหนักน้ำแข็ง ดวงตาของจิ่วเยว่ซินฉายแววอ่อนโยนเช่นเคย รอยยิ้มยังคงงดงาม ทว่าภายในนั้นคือความเยียบเย็นที่แม้หิมะพันปียังมิอาจเทียบเคียงได้ นางยืนอยู่เบื้องหน้าอาจารย์ผู้เลี้ยงดูและหล่อหลอมตนมาแต่เล็กผู้หญิงที่นางเคยบูชาเทียบเท่าฟ้าดิน และในเวลาเดียวกันคือผู้ที่ล้างผลาญครอบครัวของนางทั้งตระกูลนางรู้ดีว่าภาพลักษณ์ภายนอกที่แสดงออกจะต้องไร้ที่ติทุกกระเบียดนิ้ว เพราะสายตาของฉินเยว่หานนั้นแหลมคมเกินกว่าที่ใครจะตบตาได้โดยง่าย แม้จะอ่อนโยนแต่ก็ซ่อนพิษลึก ราวกับกลีบเหมยบนผืนน้ำแข็ง หากเพียงเผลอสัมผัสอาจถูกหนาวสะท้านถึงวิญญาณ"จิ่วเยว่ซิน ข้ารู้สึกชอบแววตาของเจ้าในตอนนี้ยิ่งนัก"เสียงของฉินเยว่หานดังขึ้น เงียบงัน ทว่าเจือด้วยความพึงพอใจความพึงพอใจของผู้ที่คิดว่าตนสามารถหล่อหลอมชีวิตผู้อื่นตามอำเภอใจได้เสมอคำชมที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นนั้น กลับเป็นเหมือนมีดที่กรีดลงกลางหัวใจของจิ่วเยว่ซิน ช่างน่าขันยิ่งนัก… แม้แต่แววตาที่ผ่านความเกลียดชังและการทรยศมาแล้ว ยังถูกหล่อนชมด้วยรอยยิ้มหญิงสาวสูดลมหายใจแผ่วเบา ก่อนกล่าวเสียงนุ่ม"เจ้าค่ะอาจารย์"คำพูดของนางยังคงสุภาพและสงบ ราวกับไม่มีอะไรเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status