Share

บทที่ 15

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-04 13:06:30

สตรีดอกบัวขาว

เมื่อทุกสิ่งกระจ่างผู้คนต่างแยกย้ายไปทำธุระของตน จินเยว่รีบสะบัดหน้าหนีความอับอายไปขึ้นรถม้ากลับบ้าน ครั้งนี้เจียอีเอาคืนนางได้เจ็บแสบนัก ตอนที่ลู่จิวเล่าให้ฟังว่าเจียอีนั้นร้ายเพียงใดจินเยว่ยังพอคิดว่าตนเองน่าจะเอาเจียอีอยู่ เหตุการณ์วันนี้ทำให้จินเยว่รู้แล้วว่านางประเมินเจียอีต่ำเกินไป นางแสบสันกว่าที่จินเยว่เคยคิดเอาไว้หลายเท่านัก

ตั้ง 300 ตำลึงเงินเชียวนะ 300 ตำลึงเงิน! เรื่องนี้ต้องเหยียบไว้ให้มิด เพราะนางให้สาวใช้ไปฉกฉวยเงินมาจากคลังสมบัติโม่เจียวลู่ หากบิดาของนางทราบเรื่องเขาคงไม่ยอมง่าย ๆ แน่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็จงให้เขารู้เพียงว่า 300 ตำลึงเงินที่นางเสียไปวันนี้ คือเงินของเจียอีฝากมาติดสินบนหล่างคุน

เจียอีกับหล่างคุนยังมีเรื่องต้องหารือด้วยกันอีก ดังนั้นทั้งสองจึงไปนั่งดื่มน้ำชาในโรงเตี๊ยมเพื่อจะคุยเรื่องการจัดส่งสินค้า หล่างคุนแนะนำวิธีการข้อปฏิบัติพลางยกน้ำชาขึ้นจิบแก้กระหาย

"ทุก 35 วันเรือจะเข้าท่าเรือแล้วจอดรอรับของเพียง 3 วัน ของที่รับไปขายไม่ได้มีแค่ของ ๆ เจ้า เจ้าต้องจัดส่งสินค้ามาขึ้นเรือให้ทัน ให้จัดเตรียมเหม่งสุ้นมาขึ้นเรืออย่างน้อยให้ได้น้ำหนัก 2000 ชั่ง ข้ารับเหม่งสุ้น

ของเจ้าไปขายในราคาสี่เท่าคิดจากราคาที่ร้านค้าขายไม่ใช่รับจากราคาที่เจ้าส่งร้านค้า"

"หา! รับจากราคาที่ร้านค้าขาย 2000 ชั่ง"

"ถูกต้อง"

"โอ้ แม่เจ้า"

เจียอีกางนิ้วมือออกมาคำนวณ 2000 ชั่ง ร้านค้าขายอยู่ที่ชั่งละ 7 อีแปะ สี่เท่าก็ 28 อีแปะ เช่นนั้นทุก 35 วันนางจะทำเงินได้ 56 ตำลึงเงิน

หึ หึ...

เดี๋ยวก่อนนะ ค่าเงินในสมัยนี้มันเยอะปานนี้เชียวหรือ เช่นนั้น 300 ตำลึงเงินที่ได้มาจากการรีดไถจินเยว่ก็ทำให้นางเป็นคนรวยได้แล้วสิ ม้าหนึ่งตัวราว 30 ตำลึงเงิน ที่ม้ามีราคาแพงเพราะม้าถูกนำเข้าใช้ในสนามรบ เกวียนไม่น่าจะเกิน 2 ตำลึงเงิน รถม้าราว 5 ตำลึงเงิน ต้องเอาไปซื้อที่ดินด้วยสิถึงจะถูก เมืองหลวงของประเทศจีนในยุคปัจจุบันห่างจากนี่มากน้อยเท่าใดกันหนอนางจะกว้านซื้อให้หมด...เจียอีคิดแล้วก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนนางร้ายในละคร ทำให้หล่างคุนตกตะลึงกับพฤติกรรมแปลกประหลาดของนางจนหน้าเหวอ

"คริ ๆ ๆ ๆ นี่ข้ากำลังเป็นคนรวยแล้วหรือนี่"

ทว่าไม่นานเสียงหัวเราะของเจียอีก็หายไป ใบหน้างามแปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียดแทน เนื่องจากนางเริ่มคิดได้ว่า...

"ไม่ได้ ๆ ท่านแม่ลู่เสียนต้องไม่อนุญาตให้ข้ารวยแน่ ๆ หากนางรู้ว่า 300 ตำลึงเงินนี้ข้าได้มาอย่างไร เฮ้อ...ท่านแม่ลู่เสียนนางดีเกินไป เจ้าของร่างนี้ก็ดีเกินไป ส่วนตัวข้าก็เหลี่ยมจัดจนเกือบจะชั่ว มิหนำซ้ำวันนี้ข้ายังทำตัวเหมือนพวกมิจฉาชีพ โอ้ย หาความพอดีไม่ได้สักอย่าง ปวดหัว ๆ"

"อะ เอ่อ มะ แม่นางเจียอีเจ้าบ่นอะไรของเจ้า หรือว่าเจ้าจะไม่สบาย"

"อะ เอ๋ อ้อ ๆ ข้าแค่คิดในใจแบบมีเสียงเจ้าค่ะ เถ้าแก่อย่าถือสา"

หลินเจียอีใช้มือกุมขมับ เอาเป็นว่าคิดไปทีละเรื่องก่อนก็แล้วกัน ดังนั้นเอาเรื่องเหม่งสุ้นก่อน ถ้าเช่นนั้นนางคงต้องชำต้นไผ่ปลูกไผ่ไว้ใช้เอง แล้วส่วนหนึ่งรับซื้อจากชาวบ้าน ทำเช่นนี้ดูท่าจะเป็นไปได้ แต่หน่อไม้ก็ใช่ว่าจะงอกออกมาจากดินได้ทุกวัน โชคยังดีที่ป่าผืนนี้กว้างใหญ่เหลือคนานับ สองในสี่ส่วนของฝืนป่ายังเต็มไปด้วยต้นไผ่ นอกจากจะรับซื้อจากชาวบ้านในหมู่บ้านนางก็ยังจะต้องไปติดป้ายประกาศรับซื้อจากชาวบ้านหมู่บ้านใกล้เคียงอีก หลินเจียอีคิดคำนวนแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

"ว่าอย่างไรเล่าแม่นางเจียอี เกินกำลังเจ้าไปหรือไม่"

"ได้เจ้าค่ะ ข้าคิดว่าข้าทำได้"

กลับถึงบ้านเจียอีก็จัดการฝัง 300 ตำลึงเงินลงดินก่อน จุดที่นางฝังอยู่ห่างจากบ่อน้ำไปห้าก้าวนับจากทิศตะวันตก ทำเช่นนี้จะจดจำได้ง่ายดี หากพร้อมเมื่อไรนางถึงจะเอ่ยปากบอกเล่าที่มาของเงินจำนวนนี้ให้ลู่เสียนและคนอื่น ๆ ฟังในภายหลัง วันรุ่งขึ้นเรือจะออกจากท่า เจียอีได้ขอหล่างคุนรับเหม่งสุ้นไปขายให้ก่อนจำนวน 1000 ชั่ง เป็นเหม่งสุ้นที่นางทำเก็บไว้ในห้องเก็บของเพื่อกระจายสู่ร้านค้า ในห้องเก็บของยังมีเหม่งสุ้นที่นางสงวนไว้ให้ร้านขายของแห้งของเฟิ้งหรั่นอยู่เพื่อให้ไม่เป็นการเสียคู่ค้าที่ดีไป เท่ากับว่าตอนนี้เจียอีสามารถกระจายสินค้าไปได้สองทาง คือร้านขายของแห้งของเฟิ้งหรั่นกับส่งขึ้นเรือให้หล่างคุนขายทางใต้

ณ บ้านหยวน

บนโต๊ะอาหาร มื้อเช้าถูกจัดวางอย่างล้นเหลือ มีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน จิวลู่กำลังคีบเหม่งสุ้นที่แม่ครัวปรุงมาเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย อู๋ห่างก็เช่นกัน ส่วนจางหย่งค่อย ๆ ทานอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย

"ท่านพี่ แม่ครัวบอกว่าสิ่งนี้ท่านเป็นคนนำมาให้แม่ครัวปรุงอาหาร ท่านได้มาจากที่ใดเจ้าคะอร่อยยิ่งนัก"

"ของสิ่งนี้ท่านยายของแม่นางเจียอีให้มา"

พรวด!!!

ลู่จิวได้ยินชื่อเจียอีก็สำลักเหม่งสุ้นออกมาจากปากทันที นางรีบคว้าน้ำมาดื่ม สองมือทุบอกตัวเองเบา ๆ ไล่อาหารที่กลืนไปแล้วให้ลงกระเพาะไว ๆ จะได้หายใจคล่องขึ้น หยวนอู๋ห่างเห็นอาการลูกสาวไม่ค่อยจะดีจึงรีบเข้ามาลูบหลังปากก็ถามไถ่อย่างเป็นห่วงเป็นใย

"เจ้าเป็นอย่างไรบ้างจิวเอ๋อร์ของพ่อ"

"ข้าไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ เมื่อครู่นี้ท่านพี่ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ ของสิ่งนี้ได้มาจากท่านยายของเจียอี ท่านพี่ไปเอามาได้อย่างไร เอามาตอนไหน! ตอนไหนเจ้าคะ! ไปเจอกับมันตอนไหน!"

นางรีบยิงคำถามจนพูดแทบไม่เป็นคำ จางหย่งมองหน้าน้องสาวอย่างเบื่อหน่ายถอนหายใจเฮือกใหญ่ ระยะหลังมานี้นางทำตัวเหมือนเป็นแม่คนที่สองของเขาเข้าไปทุกที ไม่ว่าเขาจะไปที่ใดก็เอาแต่ตามติด ถ้าไม่ออกจากบ้านก่อนนางตื่นนอนนางก็จะคอยติดตามเขาไปทุกที่ หากวันไหนจางหย่งไม่ได้ออกไปไหน ที่ที่เขาอยู่แล้วสบายใจที่สุดเห็นเพียงจะมีแต่ห้องอ่านตำรา

"ท่านพี่ ข้าถามท่านพี่นะเจ้าคะ"

"เมื่อสองวันก่อนข้าให้นางติดรถม้ากลับบ้าน ท่านยายหวังจึงให้เหม่งสุ้นนี้มาเป็นการตอบแทนน้ำใจ"

"ท่านพี่!!!"

ก่อนที่ลู่จิวจะอ้าปากพูดประโยคต่อไปสาวใช้ก็นำสำลีมาวางไว้ข้าง ๆ สองพ่อลูก หยวนอู๋ห่างและจางหย่งหยิบสำลีมายัดเข้าไปในรูหู รอให้นางสงบจิตสงบใจเสียก่อน พอมองเห็นว่าริมฝีปากนางได้หุบลงสนิทกันเมื่อนั้นทั้งสองจึงเอาสำลีออก

"ลูกสาว ใจเย็นก่อนลูกสาวคนสวยของพ่อ ท่านพี่ของเจ้าก็แค่มีน้ำใจไปส่งแม่นางเจียอี เจ้าจะปล่อยพลังเสียงใส่พ่อกับพี่เจ้าไปใย"

"ก็ข้าไม่ชอบนางนี่เจ้าคะ ถ้าท่านพี่เกิดชอบนางขึ้นมาแล้ว...แล้ว"

"แล้วอย่างไร" จางหย่งเอ่ยน้ำเสียงเนิบนาบ

"แล้วข้าก็ไม่อยากได้นางเป็นพี่สะใภ้นะสิ"

"พี่สะภ้งพี่สะใภ้อะไรเล่า พ่อได้หมายตาหญิงสาวที่จะมาเป็นพี่สะใภ้เจ้าไว้แล้ว เจ้าอย่าได้คิดไปไกล คิดไกลไปพ่อก็ปวดหูเปล่า ๆ"

"ท่านพ่อ!"

นางทำหน้าเง้างอ จับตะเกียบขึ้นมาแล้ววางกระแทกลงที่ขอบชามข้าวดังเดิม ทำท่าทางกระฟึดกระฟัดเหมือนเด็กเอาแต่ใจ

"ว่าแต่ท่านพ่อหมายตาหญิงใดให้ท่านพี่หรือเจ้าคะ ข้าอยากรู้ว่ารายชื่อที่ท่านพ่อมีในใจจะตรงกับข้าหรือไม่ แง้ม ๆ เจ้าค่ะ แง้ม ๆ"

"จะใครได้อีกเล่านอกเสียจากเยว่เอ๋อร์ ทั่วละแวกนี้สตรีเรียบร้อยนิสัยดีมีเพียงเยว่เอ๋อร์คนเดียวที่เหมาะสมกับพี่ชายเจ้า"

รายชื่อภายในใจของอู๋ห่างบังเอิญว่าตรงใจลู่จิวพอดี ลู่จิวพึงพอใจจนยิ้มไม่หุบ ทว่าสีหน้าของจางหย่งกลับนิ่งเฉยไร้สีสัน ไม่ทราบได้ว่ายินดีหรือยินร้ายกันแน่ เขาเพียงแต่นั่งฟังพ่อกับน้องคุยกันเงียบ ๆ มือก็จับตะเกียบคีบอาหารเข้าปากต่อ เคี้ยวแล้วกลืนลงไม่รับรู้รสชาติของอาหารว่าจืดหรือเค็มเปรี้ยวหรือหวาน

"ท่านพี่จินเยว่เป็นสตรีที่แสนดีอันดับหนึ่ง นางเปรียบเสมือนดอกบัวขาว นางดีกับข้าเป็นที่สุด เหมาะสมกับท่านพี่จางหย่งแล้วเจ้าค่ะ ท่านพ่อตาแหลมยิ่งนัก"

"ฮ่า ๆ"

เสียงหัวเราะแหบห้าวของอู๋ห่างดังออกไปนอกบ้าน ทำให้ผู้ที่เพิ่งก้าวเท้ามาเยือนรู้ได้ในทันทีว่าสมาชิกในครอบครัวนี้กำลังอยู่ส่วนใดของบ้านหลังใหญ่หลังนี้ จินเยว่มีตะกร้าสิ่งของติดมือมาเช่นเคย นางยกยิ้มแล้วเดินไปทางห้องที่ทุกคนกำลังนั่งทานมื้อเช้า

"อ้าว นั่นท่านพี่จินเยว่นี่"

ลู่จิวชี้นิ้วไปที่หน้าประตูสีหน้าชื่นมื่น พลอยทำให้อู๋ห่างและจางหย่งหันไปมองตามทิศทางนั้น นางสวมอาภรณ์สีอ่อนหวาน มวยผมครึ่งศีรษะปักปิ่นรูปผีเสื้อ จินเยว่วางตะกร้าลงบนโต๊ะแล้วทำท่าคารวะอู๋ห่างอย่างนอบน้อม เปรยตามองบุรุษที่ตนหมายตาเอาไว้อย่างเหนียมอาย จางหย่งมองตอบวูบหนึ่งก็หันไปสนใจอาหารบนโต๊ะต่อ

"ท่านลุงอู๋ ข้าขออภัยที่มาไม่รู้เวลาเผลอเข้ามารบกวนเวลามื้อเช้าของทุกคนเจ้าค่ะ"

"รบกวนอะไรเล่า มา ๆ นั่งลงข้าง ๆ จางหย่ง นั่ง ๆ"

อู๋ห่างผายมือเชื้อเชิญ จิวลู่รีบกระเถิบตัวเปิดทางให้จินเยว่นั่งใกล้ ๆ จางหย่งพลางมองที่ตะกร้าที่จินเยว่ถือมา

"นั่นท่านพี่จินเยว่นำสิ่งใดติดมือมาเจ้าคะ"

"ข้างในนี้คือขนมกุ้ยฮวาที่เจ้าชอบ รับไปซะสิลู่จิว"

"ว้าว พี่จินเยว่ช่างรู้ใจข้าจริง ๆ"

ลู่จิ่วยิ้มแก้มปริเปิดตะกร้าออกหยิบขนมมาเข้าปาก จินเยว่มองขนมในตะกร้าแล้วก็เกิดกลัวว่าจางหย่งจะไม่ได้ชิมฝีมือทำขนมของนางจึงพูดจาเชิญชวน

"ท่านพี่จางหย่งลองชิมขนมกุ้ยฮวาดูสิเจ้าคะ ข้าเป็นคนทำเอง"

"ข้าทานข้าวไปเยอะแล้ว เกรงว่าหากทานขนมของเจ้าอีกท้องข้าคงรับไม่ไหว"

"อะ อ๋อ เป็นเช่นนั้นเอง"

แม้จะเสียหน้าแต่จินเยว่ก็ฝืนยิ้มให้จางหย่ง อู๋ห่างที่ต้องการจะจับคู่ให้ทั้งสองอยู่แล้วเห็นแบบนั้นจึงรีบพูดปลอบใจจินเยว่กลัวว่านางจะเสียน้ำใจ

"เช่นนั้นเจ้าก็แบ่งไว้ไปทานในห้องตำราเถิดจางหย่ง ช่วงสาย ๆ เจ้าชอบหิวไม่ใช่หรือ เอาไปไว้รองท้อง"

"...ขอรับ"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ (จบ)   บทที่ 139

    เจียอียิ้มแห้งแล้ววางฝ่ามือลูบตรงท้องน้อย ลู่จิวเห็นท่าทางเช่นนั้นก็ได้แต่เอียงคอมองด้วยความสงสัย "ห๋า!...อย่าบอกนะว่าเจ้า""อื้ม""จะ เจ้าหิว!""...เฮ้อ..."เหตุใดลู่จิวถึงไม่เปลี่ยนไปเลยนะ..."ข้ากำลังตั้งครรภ์ต่างหากเล่า""ตั้งครรภ์! จริงหรือเนี่ย""จริง"สิ้นเสียงยืนยันลู่จิวกระโดดโลดเต้นราวก

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ (จบ)   บทที่ 138

    "...ตั้งครรภ์!"แม้น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจะตกใจเล็กน้อย แต่ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจระคนตื่นเต้น เขาจำต้องทวนถามสาวใช้อีกครั้งเพราะไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง"จริงหรือ""เจ้าค่ะ คนท้องมักจะอยากกินของแปลก ๆ หากไม่ได้กินก็จะงอแงน้อยใจ ท่านแม่ทัพเชิญหมอมาตรวจดูดีกว่าเจ้าค่ะเพื่อความแม่นยำ""อืม เช

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ (จบ)   บทที่ 137

    บทส่งท้ายจากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพหลายเดือนผ่านไปที่ค่ายบูรพายังคงสงบสุขด้วยดี สาวใช้สองนางที่ประจำการอยู่เรือนรับรองเดินยกอาหารเข้ามาให้เจียอี หนึ่งในสองคนนั้นวางอาหารลงบนโต๊ะแล้วเดินไปเรียกเจียอีที่กำลังทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่ที่เตียง"ฮูหยินเจ้าคะ ข้าได้ทำตามวิธีการที่ฮูหยินบอกทุกประกา

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ (จบ)   บทที่ 136

    "ไปอยู่ที่ค่ายบูรพาดูแลตัวเองดี ๆ นะ""ข้าจะดูแลตัวเองดี ๆ...เจ้าก็เช่นกัน""อื้ม" หลังจากร่ำลาเรียบร้อยแล้วลู่จิวก็หันมาสบตาจือเฉิน เขายกยิ้มให้นางเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าลู่จิวจะมาเพื่อรั้งเขาไว้หรือพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด...นางแค่มาลาสหายของนางเพียงเท่านั้นจือเฉินรู้สึกเหมือนหัวใจแหล

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ (จบ)   บทที่ 135

    ดินแดนบูรพา (จบ)ในระหว่างที่ลู่จิวและอู๋ห่างกำลังจะเดินทางถึงหน้าโรงเตี๊ยม จือเฉินได้ควบม้ามาขวางเอาไว้ จึงทำให้คนขับรถม้าต้องดึงบังเหียนหยุดกะทันหัน คนที่นั่งอยู่ในรถม้าไม่ทันตั้งตัวทำให้ร่างกายเสียหลักจากแรงบังคับหยุด ลู่จิวรีบประคองอู๋ห่างเอาไว้แล้วแหวกม่านเดินลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก พ

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ (จบ)   บทที่ 134

    "อื้อ...จริงสิ ข้าเห็นยามากมายในห้องท่านพ่อ ปกติท่านพ่อกินยาบำรุงเยอะขนาดนี้เลยหรือ""...คุณหนู ข้า...เอ่อ ข้าไม่รู้จะพูดดีไหม""พูดมา""คราวนั้นที่ข้าล่วงหน้ากลับมาก่อน พอข้ามาถึงก็พบเถ้าแก่หยวนนอนหมดสติอยู่ในห้องอ่านตำราของคุณชายจางหย่ง ดีที่เรียกหมอมาดูอาการทันเวลา ตั้งแต่นั้นมาเถ้าแก่ก็ป่วยบ่อย

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status