Share

บทที่ 6 ห้วงมิติพิศวง

last update Last Updated: 2025-11-24 04:06:33

นางสามารถเอามือล้วงเข้าไปในห้วงมิติ แล้วสามารถเคลื่อนย้ายห้วงมิติเอาไว้ที่ใดก็ได้ จื่อเถาจึงเอาใส่ไว้ในแขนเสื้อ เพื่อเวลาล้วงเข้าไปหยิบของคนจะได้ไม่สงสัย

         สองแม่ลูกเดินเข้าไปในร้านเครื่องนอน สั่งเครื่องนอนสองชุด พร้อมทั้งให้ไปส่งที่ร้านของนางไม่ต้องขนไปเองให้เหนื่อย แล้วทั้งคู่ก็เดินสำรวจตลาด เพราะไม่ได้ออกมากันตั้งนานอยากเดินดูให้ทั่วก่อน

         “ท่านแม่เจ้าคะ ร้านนี้ทำเครื่องเรือนสวยนักเจ้าค่ะ เอาไว้พวกเรามาสั่งต่อโต๊ะกับเก้าอี้นะเจ้าคะ” จื่อเถามองดูเครื่องเรือนที่ในร้านพบว่าฝีมือประณีตนัก หากสั่งต่อโต๊ะ

ในร้านสักสามสี่โต๊ะ กับให้ช่างที่ทำเตาไปทำให้ในร้าน ก็คงดีไม่น้อย

         “ได้สิลูก”

         ทั้งสองเดินดูตลาดจนทั่วแล้วก็กลับไปที่ร้านของตัวเอง จื่อเถารู้แล้วว่าร้านขายพวกถั่วต่าง ๆ อยู่ตรงไหน นางค่อยไปซื้อได้ โม่บดถั่วโม่แป้งนางก็สั่งมาเช่นกัน อีกสองถึงสามวันจะมาส่งพร้อมกับทำเตาในร้านให้นาง

         นางพบว่าที่นี่มีการใช้น้ำมันบัวแล้ว เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของน้ำมันมะพร้าวกับน้ำมันอย่างอื่นเอาไว้สำหรับทอดอาหาร อย่างน้อยนางก็ไม่ต้องใช้น้ำมันหมูที่มันเหม็นหืนง่ายในการทอดเต้าหู้ของนาง

         ความพิเศษของการทำเต้าหู้ที่นางได้รับสืบทอดมาตั้งแต่ต้นตระกูล คือเมื่อทอดออกมาแล้วเนื้อภายนอก

จะกรอบภายในจะนุ่มคล้ายเต้าหู้อ่อน แน่นอนว่ายุคนี้ย่อมมีนางผู้เดียวที่ทำได้

         ร้านในตลาดย่อมมีร้านที่ทำเต้าหู้อยู่แล้ว แต่ทว่าคุณภาพไม่ดีเท่านางแน่นอน นางมั่นใจ และนางไม่ลืมสั่งถาดรองเต้าหู้มาด้วยห้าถาด

         เมื่อนั่งไล่เรียงสิ่งต่าง ๆ แล้วนางก็ตัดสินใจยืมเงินท่านแม่ 100 ตำลึงทอง เพื่อลงทุนและเป็นทุนหมุนเวียนในร้านในช่วงเริ่มแรก และจะคืนส่วนที่ยืมพร้อมกับดอกเบี้ยให้กับท่านแม่อีกด้วย

         “เถาเอ๋อร์ แม่ไม่ห้ามถ้าเจ้าจะทำการค้า แต่เจ้ามั่นใจแล้วใช่หรือไม่ที่จะทำมัน” นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าบุตรสาวจะทำเต้าหู้เป็น นางยังทำไม่เป็นด้วยซ้ำ และสูตรการทำล้วนไม่มีใครบอกกล่าวเป็นความลับ ต่อให้ซื้อสูตรการทำเต้าหู้มาก็ไม่มีใครบอกหมด อย่างไรร้านต้นตำรับก็ยังมีรสชาติที่ดีกว่า

         “ท่านแม่โปรดวางใจข้าย่อมไม่ทำให้ท่านแม่ผิดหวัง รอเพียงถาดมาส่ง ครั้งแรกข้าจะทำแจกคนแถวนี้เจ้าค่ะ” จื่อเถายืนยันให้มารดาคลายกังวลใจ แล้วก็แยกย้ายกับท่านแม่ไปนอนห้องตัวเอง

         นางอายุหกหนาวแล้วย่อมไม่นอนกับท่านแม่

แยกห้องมาตั้งแต่บ้านบิดา และที่สำคัญนางอยากรู้ว่าห้วงมิติพิศวงของนางทำสิ่งใดได้บ้าง

         เมื่อเข้าห้องลงกลอนประตูนางก็ย้ายช่องมิติรูปเมฆมงคลมาอยู่ที่ข้างผนังห้องบนเตียงนอนของนาง นางพบว่ามันขยายใหญ่ได้ และนางสามารถเข้าไปทั้งตัวได้ด้วย

         “โอ้โห...นี่คือความลับสำหรับคนทะลุมิติสินะ”

         เสียงอุทานอย่างตื่นเต้นของเด็กหญิงไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา เพราะว่าในห้วงมิติมีเพียงนางเท่านั้น น้ำพุวิเศษนี้ก็ช่างทำให้นางสดชื่นดีจัง นางตัดสินใจตักขึ้นมาแล้วล้างหน้าล้างตาและดื่มมันไปหนึ่งอึก เมื่อชะโงกใบหน้าเข้าไปตรงน้ำพุพบว่าใบหน้ากระจ่างใสนัก

         “อู้หู...สรรพคุณดีเยี่ยงนี้” นางเริ่มคิดเอาน้ำพุในห้วงมิติของนางไปผสมในอาหารที่นางทำ มันจะเพิ่มรสชาติให้อร่อยเพียงใดนะ

         ขณะที่ครุ่นคิดชั่วครู่นางเหลือบสายตาไปมองยังชั้นที่วางของพบว่าพื้นที่นี้ปลูกผลไม้และพืชพรรณที่จำเป็นหลายอย่างในการทำการค้าของนาง มีทั้งพริกแดงจินดาที่โตเต็มวัยออกผลจนทั่วต้น นางเลือกเก็บมันออกมาแล้วเก็บไว้ทำน้ำจิ้มรสเด็ด มีผักชี ต้นหอม ถั่วลิสงอีกด้วย และหันไปมองยังพื้นที่ปลูกอีกฝั่งก็มีต้นใบเตย นางคิดไปถึงการต้ม

น้ำเต้าหู้

         นางทำเต้าหู้ย่อมมีน้ำเต้าหู้ และมีกากถั่วเหลือง

นางคิดขายกากถั่วเหลืองให้กับบ้านเลี้ยงหมู เพื่อไม่ให้

ถั่วเหลืองต้องสูญเปล่า แค่คิดตำลึงก็เรียงกันเข้ากระเป๋านางแล้ว แต่ทว่านางต้องทำแจกเสียก่อน ก่อนอื่นต้องมีกระบอกไม้ไผ่เจาะรูร้อยเชือกปอสำหรับคนหิ้วกลับ และเริ่มแรกนางต้องแจกก่อนขายจริง

         เมื่อดูจนครบแล้ว นางก็ออกจากห้วงมิติวิ่งมาชั้นล่างเอาถังใส่น้ำหิ้วขึ้นไปด้านบน แล้วไปตักน้ำพุวิเศษออกมาเพื่อทำอาหาร รับรองว่าอาหารทุกอย่างที่นางทำจะรสชาติดีไร้ที่ติเลยทีเดียว

         นางวิ่งขึ้นลงอยู่สามเที่ยวก็ได้น้ำเต็มตุ่มเล็ก ๆ ในร้านที่เอาไว้สำหรับน้ำกินแล้ว และนางก็จัดการให้มันวางอยู่ในที่ที่นางใช้สะดวก

         เมื่อจัดการเสร็จแล้วนางก็เหนื่อยอ่อนด้วยใช้กำลังวิ่งขึ้นลง แต่มานึกได้ตอนท้ายว่าหากย้ายห้วงมิติลงมาคงดีไม่น้อย แต่ก็จะทำให้คนอื่นเห็นว่านางทะลุกำแพงได้ ท่านแม่ของนางอาจจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน

         เมื่อขึ้นมาชั้นบนนางเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำในน้ำพุวิเศษที่ไม่มีวันแห้งเหือด เพราะขี้เกียจลงมา ยิ่งเมื่ออาบไปคล้ายกับผิวจะเด้งนุ่มเนียนเหมือนเต้าหู้ไม่มีผิด เช่นนี้ต้องเอาน้ำไปผสมน้ำอาบและน้ำดื่มให้ท่านแม่ ท่านแม่ของนางจะได้สาวและสวยจนบุรุษมองเหลียวหลัง และท่านพ่อของนางต้องเสียดาย ที่ทอดทิ้งท่านแม่ของนางไปคว้าเอาสตรีชั่วเหยาเอินมาเป็นภรรยา

         ความคิดการแก้แค้นเล็ก ๆ เริ่มต้นขึ้นในสมอง

น้อย ๆ แค่มีห้วงมิติและของที่จำเป็นในการค้า นางก็เริ่มต้นได้ดีกว่าคนอื่นไปหลายขุมแล้ว

         “ข้าและท่านแม่จะมั่งคั่ง”

         แต่นางคิดอีกอย่างเรื่องการขอทะเบียนบ้านกับการเปลี่ยนแซ่ สมัยนี้นางรู้ว่าสตรีที่เป็นม่ายสามารถขอทะเบียนบ้านได้ ดังนั้นให้ท่านแม่ขอทะเบียนบ้านโดยใช้ร้านของพวกเขาเป็นบ้าน เพราะเป็นชื่อท่านแม่อยู่แล้ว ทั้งมีหนังสือหย่าขาดปลดภรรยาเรียบร้อย ยื่นให้ท่านนายอำเภอและขอใช้แซ่เดิมมารดา เท่านี้นางก็ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่เฉียน และการฆ่าล้างตระกูลก็จะไม่เกิดขึ้น

         คิดได้ดังนั้นนางก็หลับเป็นสุขแล้ว เพราะค่อย ๆ หลีกหนีชะตาที่มีจุดจบไม่ดีของตัวละครตัวนี้ไปได้แล้ว

คิดจนพอใจแล้วก็ได้เวลาพักผ่อนนอนหลับเสียที วันนี้เจอเรื่องราวมามากมายจนนางเพลีย

         รุ่งเช้าวันใหม่อากาศสดใส เพราะเป็นฤดูใบไม้ร่วงช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ท้องฟ้าแจ่มใสกับต้นไม้หลังร้านค้าของนางค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีส้ม สร้างความสุขให้นางไม่น้อย เมื่อตื่นเช้ามาเดินลงมาล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว

นางก็เอาน้ำจากตุ่มในร้านไปผสมกับน้ำที่อยู่ในตุ่มหลังบ้านทุกตุ่ม แล้วใช้มันรดต้นไม้ทุกต้นเอาไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาที่นางว่างจะมาจัดการสวนหลังบ้านให้สวยงามเรียบร้อยกว่าที่เป็นอยู่

         ต่อให้อยู่กับมารดาสองคน ชีวิตนางก็ต้องดี

         เมื่อเดินสำรวจรอบร้านเสร็จแล้ว พบว่าท่านแม่ของนางอยู่ในครัว น่าจะกำลังทำโจ๊กให้นางทาน นางจึงเข้าไปทักทายท่านแม่

         “อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านแม่” เด็กน้อยวัยหกหนาวเข้าไปสวมกอดมารดาจากทางด้านหลัง นางรู้ว่ามารดาคงยังเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น บางครั้งมักเห็นท่านแม่เหม่อลอย เช่นนั้นนางจะรักษาใจให้ท่านแม่เอง

         “ตื่นเช้าจังลูก แม่กำลังทำโจ๊ก ตั้งใจจะทำเผื่อเจ้าสองแฝดข้างบ้านด้วย ไม่มีมารดาทำอาหารให้คงจะลำบากกัน เดี๋ยวลูกไปเรียกมากินด้วยกันนะ” ชุยชิงชิงตื่นแต่เช้าเห็นข้างร้านก็ตื่นมานึ่งซาลาเปาปั้นซาลาเปาแต่เช้า นางจึงยิ้มให้ทักทาย แล้วไปตลาดซื้อของมาทำอาหารทั้งถ้วยจานตะเกียบ นางเอ็นดูเจ้าสองก้อนนั่นเหมือนลูกเหมือนหลาน

         “เจ้าค่ะท่านแม่” จื่อเถาเดินไปข้างร้านคารวะท่านลุงลู่จื้อก่อนจะถามหาเด็ก ๆ

         “เด็ก ๆ ตื่นหรือยังเจ้าคะ”

         “น่าจะตื่นกันแล้วคงจะปัดกวาดเช็ดถูอยู่ข้างใน

อาเถาเจ้าลองเข้าไปข้างในเถิด” ลู่จื้อให้เด็กหญิงตัวน้อยน่ารักวัยไม่ห่างจากบุตรชายมากเข้าไปเรียก เพราะตนนั้นกำลังยุ่งกับการปั้นซาลาเปาทั้งขายซาลาเปาไปด้วย

         “เช่นนั้นรบกวนท่านลุงแล้วนะเจ้าคะ” จื่อเถาโค้งให้อย่างมีมารยาทแล้วไปดูเด็ก ๆ ว่าทำสิ่งใดอยู่ แต่เมื่อเห็นเจ้าหนูน้อยที่ขยันขันแข็ง แต่ดูเหมือนมันจะอันตรายเกินไป

จึงห้ามปราม

         “พวกเจ้าลงมาเถิด...อันตราย” เจ้าหนูน้อยปีนขึ้นไปปัดกวาดหยากไย่ด้านบน แต่ตัวเท่าลูกเจี๊ยบแค่นี้ตกมาขาหักจะยุ่งเอา

         “พี่สาวจื่อเถา” สองแฝดเรียกอย่างดีใจที่พี่สาวข้างบ้านมาหา ทั้งคู่ไม่มีแม่แล้ว เขาย่อมต้องช่วยบิดาให้มาก

นั่นจึงทำให้เขาทั้งสองช่วยกันทำงานบ้านที่พอทำได้แบ่งเบาภาระบิดา แต่เมื่อเห็นพี่สาวคนสวยเข้ามาหาจึงยิ้มแป้น

ลงมาแต่โดยดี

         “หิวกันหรือยัง ไปกินมื้อเช้ากันเถอะ แม่ข้าทำโจ๊กหมูอร่อยนะ” จื่อเถาเอาอาหารมาล่อทำให้ทั้งสองดวงตาเปล่งประกายพร้อมกับท้องที่เริ่มร้องแล้ว

         “ข้าอยากกินขอรับ”

         “ข้าด้วยขอรับ” ลู่หลงกับลู่จิ่นตอบกลับจื่อเถา

แล้วรีบไปล้างมือ เตรียมไปทานข้าวเช้าบ้านพี่สาวคนสวย...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 200 ตอนพิเศษ 9

    เสียงกระบี่ดึงจากฝัก ทำให้คนที่อยู่ในชุดแดงเจ้าสาวภายใต้ผ้าคลุมถึงกับสะดุ้ง ความมืดรอบกายทำให้นางตัวสั่นเทาแสงกระบี่ที่สะท้อนกับแสงจันทร์จากหน้าต่างแยงตาทำให้นางถอยทั้งที่ยังคลุมผ้าจนไปนั่งลงบนเตียง “ฮึก...ไม่นะ” จื่อเถาส่ายหน้าเบา ๆ นางไม่อยากตายในคืนเข้าหอ นาง...นางอยากอยู่ต่อมีชีวิตกับคนที่รัก ปลายกระบี่ตวัดขึ้นทำให้ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวเปิดออก ใบหน้าคนผู้นี้มืดดำไปด้วยความคับแค้น นางส่ายหน้าไปมาหาทางหนีรอดแต่ไม่มี “ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย” เสียงหวีดร้องของจื่อเถาดังขึ้นสุดเสียง แต่ทว่าไม่ทำให้คนที่ยืนตรงหน้าลดกระบี่ลงเลยสักนิดทั้งเสียบเข้ามาที่กลางท้อง ฉึก! กรี๊ด!!! เสียงกรีดร้องพร้อมกับร่างที่ลุกขึ้นนั่งหอบหายใจ ทำให้คนที่นอนเคียงข้างนางตื่นขึ้นมา แล้วโอบกอดนางไว้ “เจ้าเป็นอะไรไป...ฮูหยินของข้า” เขาดึงนางเข้ามากอดปลอบลูบหลังเบา ๆ ให้นางสงบใจ หากให้เดานางคงฝันร้ายกระมังถึงได้ร้องขนาดนี้ “ท่านพี่ข้า...ข้าฝันไป” จื่อเถาไม่รู้จะบอกอย่างไรดี นางฝันถึงคืนแต่งงานและถูกสังหารอย่างเลือดเย็น หรือนี่จะเป็นวิญญาณจื่อเถาที่แท้จ

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 199 ตอนพิเศษ 8

    ลู่หลงเจ็บปวดใจที่โดนแกล้ง วันนี้เขาตื่นแต่เช้ามาผัดข้าวผัดให้ทุกคนได้กินฝีมือเขาเพื่อเป็นการสั่งสอน โดยไม่บอกผู้ใดด้วย วันนี้เป็นวันส่งท้ายปี เช่นนั้นเจ้าพวกนี้ต้องโดนเขาสั่งสอน กลิ่นหอมของข้าวผัดคลุ้งไปทั่ว และแน่นอนว่าลู่หลงไม่ให้พวกเขารู้เด็ดขาดว่าข้าวผัดนี้ฝีมือเขาทำ เพราะถ้ารู้เจ้าพวกนี้จะบ่ายเบี่ยงไม่ยอมกินเข็ดหลาบตั้งแต่ครั้งพี่จื่อเถาป่วย “พวกเจ้าต้องได้กินข้าวผัดฝีมือข้า...!”เสียงที่อำมหิตนั้นทำเอาจื่อเถาที่แอบเข้ามาดูในครัวว่าผู้ใดทำอาหารกัน เห็นเจ้าลู่หลงตัวแสบแอบมาทำก็เข้าใจทันทีว่าเขาโดนกลั่นแกล้งจึงต้องเอาคืน นางจะเก็บไว้เป็นความลับก็แล้วกัน แล้วไปดูสาวใช้จัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษว่าไปถึงไหนแล้วกระดาษแดงเขียนคำว่ามงคลประดับอยู่ ร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ อายุยืนนาน ติดรอบบ้านทำให้ดูครึกครื้นยิ่งนักบรรยากาศเช่นนี้ดีจริง ๆ บรรยากาศแสนอบอุ่น พี่น้องพร้อมหน้า ทำกิจกรรมร่วมงานหลังจากเมื่อวานให้คนจัดการเรื่องศพของท่านยายเหิงเจี๋ย นางก็ให้ท่านหมอจากในเมืองมาตรวสุขภาพคนแก่คนเฒ่าในหมู่บ้าน ทั้งจัดยาให้โดยนางออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ปีนี้ผลผลิตไม่ได้ตามเ

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 198 ตอนพิเศษ 7

    “ท่านพูดอะไรเจ้าคะ” จื่อเถามึนไปหมด วันนี้นางพูดอะไรผิดไปหรือ ไปต่อว่าเขาเมื่อไหร่กันแน่ “ก็เจ้า...ชอบทุกคนที่ซื้อของให้ แต่ข้าซื้อให้เจ้าไม่เห็นชมข้าบ้างเลย” จื่อเถาไม่คิดว่าเขาจะคิดเยอะขนาดนี้ อยู่ด้วยกันมาหลายปี มีลูกด้วยกันตั้งสี่คน แต่อย่างว่าครอบครัวก็ต้องใส่ใจทุกคนอย่างเท่าเทียมสินะ นางเข้าไปสวมกอดเขาไว้ ซุกหน้ากับแผ่นหลังคล้ายอ้อนเล็กน้อย ทำให้อีกคนที่กำลังน้อยใจภรรยาสีหน้าดีขึ้น “ท่านพี่...ท่านนะดีที่สุดในใจข้าแล้ว ตั้งแต่แต่งงานกันมาท่านดูแลข้าดีที่สุด” เสียงอ่อนหวานทำให้อีกคนยิ้มออก มือหนายกขึ้นทาบมือนุ่มของนางเอาไว้ บอกให้รู้ว่าเขารักนางมากเพียงใด จื่อเถาเคยแต่ดูแลทุกคนมาตลอดชีวิต เมื่อแต่งงานจึงได้เข้าใจว่าการได้มีคนดูแลมันดีเพียงใด แล้วเขาจะไม่ดีได้อย่างไรกันเล่า “เช่นนั้นเจ้าชมข้าบ่อย ๆ ดีหรือไม่” เขาหันกลับมาหานางแล้วยกนางขึ้นอุ้มเดินไปที่เตียง และไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสามีต้องการสิ่งใด “ได้...ข้าจะชมท่านทั้งคืน” แล้วคนขี้น้อยใจก็ร่วมรักภรรยาคนงามทั้งคืน วันถัดมาเหล่าองค์ชายอีกสองคนจึงตามมาสมทบและได้พั

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 197 ตอนพิเศษ 6

    หลังจากพาเด็ก ๆ นอนกลางวันแล้ว เหล่าพี่น้องของนางถึงได้ปลีกตัวมาหานางได้ นางจึงทำขนมบัวลอยที่เคยทำเมื่อตอนงานหยวนเซียวให้พวกเขาได้กินกัน ทุกคนต่างคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ “ข้าคิดถึงงานเทศกาลโคมปีแรกของเจียงซู ข้าเกือบไม่รอดเสียแล้ว” เสิ่นหนิวที่จำช่วงนั้นได้ดี ไฟไหม้ตอนเทศกาลโคมไฟ มีเขาคนเดียวที่ติดอยู่ในกองเพลิงและพี่จื่อเถาก็กล้าหาญมากที่เข้าไปช่วยเขา แม้ตอนหลังท่านลุงเผิงหยวนจะมาช่วยพวกเขาอีกที “เวลาผ่านมาพอคิดย้อนไป พวกเราไม่น่ารอดกันมาได้เลย เจอแต่ละเหตุการณ์” ลู่หลงพูดขึ้นแล้วก็ขำ ความอดทนของพวกเขานี้จะมีใครเทียบได้อีก “ทั้งหมดเพราะพี่จื่อเถาต่างหาก ที่พาพวกเราผ่านความเป็นความตายมาได้ ตอนท่านยายตายข้าคิดจะตายตามท่านยายไปเสียแล้ว แต่ท่านก็ช่วยเหลือจนข้ามีกำลังใจสู้ต่อ” อี้หานกล่าว หากเขาเลือกตายตามท่านยายไปเขาจะไม่รู้เลยว่าตนเองยังมีญาติ แม้พวกเขาจะไม่ติดต่อตนก็ตาม แต่นับว่าไม่ได้อยู่ในโลกนี้โดดเดี่ยว และมีบ้านที่เจียงซูยังอบอุ่นเสมอ “ว่าแต่เจ้าเถอะ ทำไมมาก่อนสององค์ชายนั่น” จื่อเถาฟังพวกเขารำลึกความหลัง แล้วก็ต้องถามด้วยความประหลาดใ

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 196 ตอนพิเศษ 5

    “เจ้าว่าอึกเดียวจะเป็นอะไรไหม” ลู่หลงป้องปากกระซิบกระซาบกับลู่จิ่น ไม่ให้พี่ไป๋ได้ยิน “คงไม่เป็นอะไร ลูกผู้ชายต้องดื่มเหล้า ยิ่งธนู ขี่ม้า ถึงสมกับเป็นลูกผู้ชาย” ลู่จิ่นให้เหตุผลสนับสนุนการลองชิมสุราหลิ่งจือ แม้จะมีรสชาติหวานล้ำ แต่ว่าดื่มไม่ระวังก็เมาหัวทิ่มเช่นกันพี่จื่อเถาบอก จื่อเถาเดินมาสมทบเห็นเจ้าแฝดลู่กระซิบกระซาบอะไรกันแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ เจ้าพวกนี้ต้องให้ท่านน้าของพวกเขาทำเรื่องไม่ดีแน่ “นั่นพวกเจ้าวางแผนอะไรกัน” จื่อเถาหรี่ตามองจับผิด ต่อให้โตแล้วสองแฝดแซ่ลู่ก็ยังแสบเหมือนตอนเด็ก ๆ นางไม่รู้ว่าความแสบสันนี้ได้มาจากใครกัน “ปะ...เปล่านะขอรับ ข้าเพียงตกลงกันว่าคืนนี้จะเอาเผิงซานกับเผิงซุนไปนอนด้วยก็เท่านั้น ไม่ได้วางแผนสักหน่อย” เสียงเล็กเสียงน้อยของลู่หลงตัดพ้อจื่อเถาทำเอานางอยากจะหยิกเหมือนตอนเด็ก ๆ เสียจริง “แม่หนูหนิงมาหาพี่จื่อเถาสิลูกให้ท่านพ่อเหลาดาบได้สะดวก” นางเห็นไป๋อวิ๋นเอาลูกสาวนั่งตักไปด้วยเหลาไม้ไปด้วยก็กลัวว่าเขาจะไม่ถนัด “เจ้าค่ะ” ไป๋หนิงวิ่งมาหาจื่อเถานางย่อตัวอุ้มน้องสาวที่อายุห่างกันมากเหลือเกินจนนางแทบเป

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 195 ตอนพิเศษ 4

    4 ปีผ่านไป จื่อเถาให้กำเนิดบุตรชายสี่คน เป็นฝาแฝดทั้งสองท้อง โดยมีชื่อ เผิงซาน เผิงซุน เผิงเซียว และเผิงซื่อ นางเลี้ยงเหล่าเด็ก ๆ ให้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ นางแบ่งแปลงปลูกผูเถาสีแดง ใช้นำจากบ่อน้ำพุวิเศษรดทำให้ลูกดกยิ่งนัก และตอนนี้เหล้าหมักจากผลผูเถาชื่อว่าเหล้าหลิ่งจือที่แปลว่าความหอมหวานแห่งสายลมเป็นที่ต้องการของทั้งแคว้น และองค์รัชทายาทกับองค์ชายรองมาซื้อไปเกือบครึ่งของแต่ละรอบ ของการเปิดถังหมักทำให้เหล้าหลิ่งจื่อไม่พอต่อการขาย คราวนี้นางจึงไม่ให้พวกเขาซื้อและเอาขายหน้าร้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้เขาตัดพ้อต่อว่านางเสียยกใหญ่ แต่นางก็ไม่สนใจเพราะมัวแต่เอาไปในวังทั้งองค์ชายอี้หาญและเขาทั้งสองก็ไม่เป็นอันทำอะไร ตกเย็นจับกลุ่มกันดื่มเหล้า “ท่านแม่ไหนี้ข้าชิมได้หรือไม่” เผิงซานเป็นพี่ใหญ่เกิดวันเดียวกับเผิงซุน แต่ความทะเล้นเหมือนได้ลู่หลงมาจนเต็มทั้งอยากชิมของทุกอย่างที่นางทำ กระทั่งเหล้าหมักผูเถาของนาง “เหล้ากินไม่ได้ เจ้าจะเมาเอา” จื่อเถายิ้มตอบพร้อมลูบหัวเจ้าก้อนซาลาเปาน้อยของนาง ยิ่งเห็นใบหน้าเศร้าทำเอานางอดขำไม่ได้ “ไปฝึกเพลงดาบกับท่านตาไป๋ของเจ้าดีหร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status