로그인ในค่ำคืนนั้น คเชนทร์ตัดสินใจชวนราชันทร์ผู้เป็นเพื่อนสนิทออกท่องราตรี หวังจะปลดปล่อยความเครียด จิตใจจะได้หายฟุ้งซ่าน ทว่าร้านที่พวกเขาไปนั้น คือร้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันแสนเร่าร้อนระหว่างคเชนทร์และหลานสาวนอกไส้คนสวย พอดื่มน้ำเมาเข้าไปจนได้ที่ ชายหนุ่มก็พรั่งพรูความรู้สึกออกมาอย่างน้ำไหลไฟดับ
ราชันทร์ก็ทำได้เพียงแต่นั่งรับฟัง“ไอ้ราช กูต้องตัดใจมึงเข้าใจไหม แต่พอกูได้เห็นสายตากี้วันนี้ กูโคตรเกลียดตัวเองที่ทำให้กี้ต้องเจ็บปวด” ว่าจบคเชนทร์ก็เทเครื่องดื่มสีอำพันลงคอจนหมดแก้ว
“ถ้าเป็นกูนะ หลานกี้เสร็จกูไปแล้ว”
“เชี่ย มึงไปสมมติคนอื่น อย่ามายุ่งกับกี้”
“โห มึงหวงขนาดนี้ ถ้าวันนึงเขามูฟออนจากมึงได้ ไปหาคนอื่น มึงไม่โซ่หลุดไปไล่งับผู้ชายคนนั้นเหรอวะ”
คเชนทร์หันไปมองเพื่อนรักตาขวาง นอกจากจะไม่ให้คำปรึกษาที่ดีได้แล้ว ยังพูดจาหมา ๆ ชวนให้โมโหไปอีก ราชันทร์ก็หาได้สนใจ ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความลงในสมาร์ตโฟนเครื่องหรูส่งหาใครบางคน
คเชนทร์วางแก้วที่เหลือเพียงน้ำแข็งลงบนโต๊ะ ก่อนหยัดกายลุกขึ้นยืน
“อ้าว มึงจะไปไหน”
“ฉี่”
สั้น ๆ แต่ได้ใจความ
คเชนทร์เดินออกมาจากโต๊ะตรงไปยังทางเดินคับแคบทอดยาวสู่ห้องน้ำ เมื่อเดินไปจนถึงทางแยกเข้าสู่ห้องเก็บของหลังร้านก็ยิ่งทำให้นึกถึงกันติชาขึ้นมา ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนตัดใจเดินต่อไป
เมื่อจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย คเชนทร์ก็เดินกลับมาที่โต๊ะ และภาพที่ปรากฏตรงหน้า คือ ราชันทร์กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อยถึงสามคน
“เป็นไงไอเชนทร์ กูเรียกน้อง ๆ มาเพื่อมึงโดยเฉพาะเลยนะ” ราชันทร์ว่าพลางยืดอกทำหน้าราวกับภาคภูมิใจ
“กูไม่มีอารมณ์” คเชนทร์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามราชันทร์ ก่อนรินเครื่องดื่มสีอำพันลงในแก้ว ยกขึ้นดื่มต่อ
“น้อง ๆ นั่งรอพี่แป๊บนึงนะครับ อยากกินอยากดื่มอะไรสั่งได้เต็มที่เลยนะ” ราชันทร์ว่าจบก็ลุกขึ้นมานั่งลงบนโซฟาที่อยู่ติดกับคเชนทร์ “ตกลงมึงจะตัดใจหรือไม่อยากกันแน่ นี่กุหาวิธีให้มึงอยู่นะ เลือกไปสักคนเผื่อได้กลิ่นใหม่ ๆ มึงจะได้หายบ้า”
“เออ ๆ เอามาคนนึง” คเชนทร์ตอบรับไปอย่างเสียไม่ได้ ราชันทร์จึงหันไปส่งสัญญาณให้หนึ่งในสาวสวยลุกขึ้นมาหาคเชนทร์
หญิงสาวร่างระหงในชุดเดรสสั้นสีแดงเกาะอกรัดรูป เดินนวยนาดมาหาชายหนุ่ม ก่อนนั่งลงบนตักกว้าง แขนข้างหนึ่งวาดมาโอบรอบลำคอแกร่ง ส่วนแขนอีกข้างลูบไล้แผงอกกว้าง
“อารมณ์ไม่ดีเหรอคะ” เสียงหวานอันแฝงด้วยจริตจะก้าน ที่สามารถจัดการชายหนุ่มให้อยู่หมัดได้มานักต่อนัก ทว่ายิ่งกลับทำให้เคชนทร์หงุดหงิดรำคาญใจ
“อืม” คำตอบห้วนสั้นทำเอาสาวสวยหน้าเสีย แต่เธอก็ยังคงไม่ละความพยายาม นั่งบดเบียดบั้นท้ายลงบนต้นขาแข็งแรง
“ให้หนูช่วยไหมคะ หนูจะทำให้พี่ลืมทุกสิ่งทุกอย่างเลย”
นิ้วเรียวสวยกรีดกรายขึ้นมาบนใบหน้าคมเข้มไล้ลงมาตามแก้มสาก ก่อนจับปลายคางให้ใบหน้าชายหนุ่มหันมาทางเธอ หญิงสาวค่อย ๆ โน้มลงมาใกล้จนลมหายใจรดกัน ชายหนุ่มถอนหายใจทิ้ง ก่อนตัดสินใจโอนอ่อนผ่อนตาม พร้อมค่อย ๆ หลับตาลง รอรับลีลาของคนบนตัก ทว่าเมื่อเปลือกตาปิดสนิท ดวงหน้าสวยของหลานสาวนอกไส้ก็ลอยเข้ามาทันที
บ้าฉิบ!!!ทำไมเขาต้องรู้สึกผิดด้วย
คเชนทร์ลืมตาโพลง ก่อนจับหญิงสาวยกขึ้นตัวลอย วางแหมะลงข้างตัว สร้างความตกอกตกใจให้กับราชันทร์และสาวสวยอีกสองคน ส่วนคนที่อยู่เคียงข้างทำหน้าบึ้งตึง เม้มริมฝีปากเข้าหากันด้วยความโมโห
“กูไปก่อน”
คเชนทร์เดินจากมาโดยทิ้งให้เพื่อนรักและสาว ๆ นั่งอึ้งไปตาม ๆ กัน
ทางด้านกันติชา หลังจากจัดการเคลียร์เรื่องความสัมพันธ์กับคเชนทร์เป็นที่เรียบร้อย เธอก็ทุ่มเทความสนใจทั้งหมดที่มีให้กับการเรียนรู้งานผู้ช่วยเลขานุการอย่างจริงจัง ในแต่ละวันเธอได้เจอหน้าคเชนทร์เพียงไม่กี่ครั้ง และทุกครั้งเธอก็มักจะแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร เพราะอยากให้ชายหนุ่มคิดว่าเธอสามารถตัดใจได้แล้วจริง ๆ
เวลาอยู่ที่บริษัทกันติชาก็มักใช้เวลาว่างอยู่กับอลิษาและกลุ่มเพื่อนแผนกต่าง ๆ ที่สนิทกับ
อลิษา ทำให้เธอเริ่มสนิทสนมคุ้นเคยกับพนักงานหลายคนในบริษัท บางคนก็อยากรู้จักเธอ เพราะเธอเป็นที่กล่าวถึงอยู่ช่วงหนึ่ง เนื่องจากมีหลายคนเห็นท่านประธานอุ้มเธอไปห้องพยาบาล แต่สุดท้าย อลิษาก็ช่วยออกหน้าแก้ต่างให้เธอจนข่าวลือเงียบไปเวลาผ่านไปร่วมเดือน เธอก็เริ่มทำงานได้คล่องแคล่วมากขึ้น อลิษาก็เริ่มมอบหมายงานให้เธอมากขึ้น บางครั้งเธอจึงต้องติมตามคเชนทร์ไปพบลูกค้าบ้างในเวลาที่อลิษาติดงานสำคัญ
“ลูกค้าดูท่าทางจะชอบกี้นะ อาไม่คิดว่ากี้จะพูดภาษาจีนเก่งขนาดนี้” คเชนทร์เอ่ยปากชมขณะที่ขับรถออกจากร้านอาหารหรูใจกลางเมือง หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงกับลูกค้าชาวจีนเสร็จเรียบร้อย
“กี้สนใจช่วงที่เริ่มติดซีรี่จีนหนัก ๆ ค่ะ ถึงขนาดให้พ่อส่งไปเรียนภาษาที่จีนช่วงปิดเทอมเลยนะคะ แต่ก็ได้แค่พูดกับฟังนะคะ อ่านกับเขียนนี่คืนครูไปแล้วค่ะ” กันติชากล่าวติดตลกจนชายหนุ่มหลุดขำออกมา
“แล้วช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง”
“เป็นยังไง...เรื่องอะไรคะ”
“ก็ทุกเรื่อง ความเป็นอยู่ เพื่อนร่วมงาน เอ่อ ถ้าเผื่อพี่กฤษณ์โทรมาถามอาจะได้รายงาน”
“อ๋อ” กันติชาดีใจได้เพียงไม่กี่อึดใจ ด้วยคิดว่าคเชนทร์เป็นห่วงเป็นใย ทว่าถามไปตามหน้าที่อีกเช่นเคย
“ก็ดีค่ะ ความเป็นอยู่ก็เรื่อย ๆ ช่วงนี้เพื่อนติดงานกันหมด เลยอดไปกินเหล้า ส่วนเพื่อนร่วมงานทุกคนดีกับกี้มาก อาเชนทร์ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าพ่อถาม กี้จะบอกว่าอาเชนทร์ดูแลกี้ดีมาก เพราะฉะนั้นอาเชนทร์ไม่ต้องเป็นห่วงกี้เลยค่ะ กี้ดูแลตัวเองได้” กล่าวจบเธอก็เบือนหน้ามองไปนอกหน้าต่าง เป็นสัญญาณว่าอยากจบการสนทนานี้ สารถีหนุ่มจึงต้องหันไปสนใจมองทางข้างหน้า เหยียบคันเร่ง
แอสตันมาร์ตินมุ่งหน้าสู่บริษัทเมื่อรถแอสตันมาร์ตินคันงามของท่านประธานแล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าทางเข้าอาคารบริษัทเทย์เลอร์ อิเล็คทริค พนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนก็เข้ามาเปิดประตูให้เจ้านาย และผู้ช่วยเลขานุการคนสวย คเชนทร์ยื่นกุญแจให้กับพนักงานนำรถไปจอด ก่อนเดินนำกันติชาเข้าไปในบริษัท
“น้องกี้” เสียงชายหนุ่มปริศนาดังขึ้นทำให้
กันติชาและคเชนทร์หยุดเดิน และหันไปมองพร้อมกัน“อ้าวพี่ธีร์ กลับมาจากญี่ปุ่นเมื่อไหร่คะ”
กันติชากล่าวทักทายธีร์ หนุ่มแผนกไอทีที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเธอมักต้องประสานงานเกี่ยวกับปัญหาด้านไอทีกับชายหนุ่มเป็นประจำ“เพิ่งกลับมาเมื่อวาน พี่ซื้อขนมมาฝากเยอะแยะเลย เดี๋ยวเอาขึ้นไปให้นะ น้องกี้รีบขึ้นไปเถอะ” ธีร์รีบสิ้นสุดการสนทนา เมื่อหันไปเห็นสายตาดุดันของท่านประธานที่กำลังจ้องเขม็ง
“โอเคค่ะ กี้ไปนะ” กันติชาส่งยิ้มสดใสพร้อมโบกมือลา
เมื่อเธอหันมาอีกที ก็เห็นคเชนทร์เดินนำไปจนเกือบถึงหน้าลิฟต์ หญิงสาวจึงรีบซอยเท้าบนส้นสูงอย่างรีบร้อน วิ่งผ่านประตูลิฟต์ที่ชายหนุ่มกดรอเธอ ก่อนที่จะเข้าไปยืนหายใจหอบเหนื่อย
“นายคนนั้นเป็นใคร”
“พี่ธีร์แผนกไอทีค่ะ”
“ดูสนิทกันดีนะ”
“ค่ะ พี่ธีร์เขาเป็นคนสุภาพ มีน้ำใจ เวลาคอมหรืออุปกรณ์อะไรมีปัญหาเขาก็รีบขึ้นมาช่วยเลยค่ะ”
“ฮึ ก็ดี” น้ำเสียงเข้มขึ้นจมูก ทำให้กันติชาหันไปมองอย่างไม่สบอารมณ์
“กี้ไม่ชอบน้ำเสียงอาเชนทร์ มันดูเหมือนกำลังประชดประชัน”
“อาขอโทษ อาแค่เป็นห่วง จะคบใครก็ต้องดูให้ดี”
“กี้ดูคนเป็นค่ะ กี้บอกแล้วใช่ไหมคะว่าอาเชนทร์ไม่ต้องเป็นห่วง ยิ่งอาเชนทร์ทำแบบนี้กี้ก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด ส่วนเรื่องที่กี้จะคบใคร มันเป็นสิทธิ์ของกี้ ใครก็ไม่มีสิทธิ์ห้าม แม้แต่พ่อก็ห้ามกี้ไม่ได้”
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก กันติชาก็ก้าวเดินนำออกมาโดยไม่สนใจท่านประธานหนุ่มที่มองตามตาละห้อย คเชนทร์เดินตามออกมาจากลิฟต์ ก่อนตรงเข้าห้องทำงาน
ท่านประธานหนุ่มกลับมาทำงานที่บริษัทได้เกือบอาทิตย์ โดยไร้เงาผู้ช่วยเลขานุการสาวสวย คเชนทร์ไม่ได้รับการติดต่อจากกันติชาเลย พอโทรไปถามกฤษณ์ดนัยก็ได้คำตอบแบบเดิมซ้ำ ๆ ว่ากันติชาใกล้กลับมาแล้ว จนแล้วจนรอดก็ผ่านไปเกือบสัปดาห์เต็ม หากไม่ได้งานช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ ชายหนุ่มคงได้อกแตกตายเสียก่อนในแต่ละวัน คเชนทร์ลองกดโทรหากันติชาหลายต่อหลายครั้ง หวังว่าจะโทรติดและเธอรับสาย ทว่าปลายสายนั้นกลับปิดเครื่อง แม้แต่เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมก็ไม่มีความเคลื่อนไหว ชายหนุ่มก็ยังอุตส่าห์กดเข้าไปดูวันละหลายรอบ ราวกับจะรอให้เกิดปาฏิหาริย์อะไรขึ้นสักอย่างวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เขายังคงทำเช่นนั้น หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฝ่ามือหนาก็หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูขึ้นมาด้วยความเคยชิน ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งตัวตรง เลื่อนดูรูปภาพในอินสตาแกรมของแฟนสาวที่เพิ่งจะอัปเดตเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ในภาพนั้นเธออยู่ในชุดบิกินี่สีแดงเพลิงกำลังนอนอาบแดดอยู่ริมสระว่ายน้ำ องค์ประกอบภายในภาพมีสิ่งหนึ่งที่สะดุดตาคือท่าจอดเรือยอชต์ที่อยู่ไกลออกไป มีเรือยอชต์ที่ดูคุ้นตาจอดลอยลำอยู่เหนือผิวน้ำนอกจากนี้ยังมีแคปชั่น ‘พา
กันติชากลับมาอยู่บ้านได้สามวัน คเชนทร์ก็ตามมาเชียงใหม่ตั้งแต่วันแรก ทว่าต้องรออยู่หน้าบ้านทุกวัน เนื่องจากกฤษณ์ดนัยให้ลูกน้องที่เป็นชายฉกรรจ์ร่วมสิบคนเฝ้ารอบบ้าน ทั้งสองทำได้เพียงมองหน้ากันผ่านหน้าต่างห้องนอนของหญิงสาว ไม่สามารถพูดคุยกันได้ เพราะผู้เป็นพ่อยืดโทรศัพท์มือถือของลูกสาวเอาไว้ แต่เธอก็ยังมีอิสระอยู่ภายในบ้าน ไม่ได้ถูกกักขังอยู่แต่ในห้องนอน หญิงสาวจึงขอร้องป้าอิ่มให้ช่วยไปดูแลถามไถ่คนรักกันติชาลงมือเข้าครัวทำอาหารคาวหวาน ให้เด็กในบ้านนำไปส่งให้คเชนทร์ที่นั่งปักหลักทำงานอยู่ในศาลานั่งเล่นหน้าบ้านไม่ยอมไปไหน ตกกลางคืนก็อาศัยนอนหลับพักผ่อนภายในรถเอสยูวีที่เช่ามาจากสนามบินกฤษณ์ดนัยเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างภายในบ้านตลอดจนศาลาหน้าบ้านผ่านกล้องวงจรปิด บางครั้งลูกสาวสุดที่รักก็ทำกับข้าวไปร้องไห้ไป เช็ดน้ำตาป้อย ๆ อยู่หน้าเตา ทำเอาหัวใจคนเป็นพ่อเจ็บปวดไม่น้อยเหตุการณ์ทุกอย่างก็ดำเนินไปเช่นเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง จนเวลาล่วงเลยครบสัปดาห์เต็มในช่วงบ่ายที่กันติชาคิดว่าผู้เป็นพ่อยังทำงานอยู่ในไร่ส้ม หญิงสาวแอบย่องลงมาเพื่อจะออกไปหาคเชนทร์ และต้องผ่านห้องทำงานของกฤษณ์ดนัย เธอก็ได้ยินบทสนท
ทางด้านกฤษณ์ดนัยผู้รักลูกสาวดั่งแก้วตาดวงใจ ยิ่งกันติชาเกริ่นว่ามีคนที่คบหาดูใจอยู่อยากนัดให้มาเจอกันอย่างเป็นทางการก็รีบเคลียร์งานที่ไร่เปี่ยมรักให้เสร็จสิ้น และรีบเดินทางมากรุงเทพฯทันทีด้วยงานที่เสร็จเร็วก่อนกำหนด ทำให้กฤษณ์ดนัยเดินทางมาถึงคอนโดของลูกสาวก่อนเวลานัดหลายชั่วโมงกฤษณ์ดนัยขับรถซีดานคันงามที่เช่ามาจากสนามบินเข้ามาจอดบนลานจอดรถหน้าคอนโด ขณะที่กฤษณ์ดนัยกำลังลงจากรถ ก็มีรถแอสตันมาร์ตินสีดำเงาวับขับผ่านไป ความสวยหรูของซูเปอร์คาร์คันแพงระยับดึงดูดสายตาของเขาให้มองตามไปจนกระทั่งรถคันดังกล่าวจอดห่างออกไปไม่ไกลนักสารถีหนุ่มที่ก้าวลงจากรถเป็นคนที่กฤษณ์ดนัยคุ้นเคยเป็นอย่างดีจนเกือบจะอ้าปากเรียก ทว่าหญิงสาวที่ก้าวตามลงมาจากที่นั่งอีกฝั่งข้างคนขับทำให้กฤษณ์ดนัยชะงักไปยิ่งฝ่ายชายเดินเข้ามาโอบเอวบางเข้าแนบชิด ก้มลงหอมแก้มฝ่ายหญิง ก่อนเดินโอบกอดคลอเคลียกันไปยังทางขึ้นคอนโด ทำเอากฤษณ์ดนัยมองตาค้าง ในหัวสมองขาวโพลน พยายามตั้งสติปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด กว่าจะตั้งสติได้ว่าเพื่อนรุ่นน้องคนสนิท คือคนที่ลูกสาวสุดที่รักกำลังคบหาอยู่ ทั้งสองคนก็เดินหายลับสายตาไปแล้วเมื่อสติสัมปชัญญะก
ร่างอรชรในชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มยาวกรอมเท้า เปิดเปลือยแผ่นหลังขาวเนียนจรดบั้นเอว ทว่าดูไม่โป๊เท่าไรนัก เพราะได้ทรงผมดัดลอนรวบครึ่งศีรษะแผ่สยายจนถึงกลางหลัง พอได้เห็นผิวสวยวับ ๆ แวม ๆเธอหมุนตัวสำรวจความเรียบร้อยของตนเองอยู่ที่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ ดวงหน้าสวยถูกแต่งแต้มอย่างประณีตด้วยเครื่องสำอางราคาแพงยิ่งทำให้กันติชาสวยสง่ายิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวร่างสูงเดินเข้ามาทางด้านหลัง ก่อนหยุดยืนเคียงข้าง คเชนทร์สวมชุดสูทแบรนด์หรูสีน้ำเงินเข้มเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มมองภาพสะท้อนของคนรักในกระจกด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างเปิดเผย“อาเชนทร์แน่ใจนะคะว่าจะควงกี้เปิดตัว”“ไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อนเลยครับ” ว่าจบเขาโน้มตัวลงจูบข้างขมับหญิงสาวหนึ่งทีตั้งแต่วันที่คเชนทร์ประกาศต่อหน้านุชนภางค์ว่ากันติชาคือคนรัก ชายหนุ่มก็ไม่คิดปกปิดความสัมพันธ์นี้อีกต่อไป เขาไปไหนมาไหนกับกันติชาอย่างเปิดเผย พนักงานหลายคนในบริษัทเริ่มสังเกตเห็น จนมีการจับกลุ่มซุบซิบกันบ้างเป็นธรรมดา หากแต่ไม่สร้างความเสื่อมเสียให้กับกันติชา เขาก็ไม่คิดเข้าไปก้าวก่ายทางด้านเศรษฐาลูกค้าคนสำคัญ เมื่อรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักมาก่อเรื่
หลังสิ้นสุดกิจกรรมเอาท์ติ้งของบริษัทกันติชาและอลิษาก็กลับมาหัวหมุนยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากมีโพรเจคใหญ่ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ทำให้สองสาวต้องจัดการงานกองโตของคเชนทร์กันมือเป็นระวิงแต่ทว่าแม้งานจะยุ่งเพียงใด คเชนทร์ก็ยังคงหมั่นเติมความหวานให้คนรักไม่เคยขาด บางวันก็ส่งดอกไม้มาให้กำลังใจทั้งที่เจอหน้ากันทุกวัน ทำให้บนโต๊ะของผู้ช่วยสาวมีดอกไม้ประดับส่งกลิ่นหอมไม่เคยขาด เมื่อดอกไม้เริ่มทำท่าจะเหี่ยวเฉาเมสเซนเจอร์ก็นำดอกไม้ช่อใหม่มาส่งหากวันใดเลิกงานเร็ว คเชนทร์ก็จะพาหญิงสาวไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนบ้าง ดูหนังฟังเพลงบ้างสิ่งเล็กน้อยที่คเชนทร์ทำให้นั้น กลับสร้างความสุขให้เธอได้อย่างมากมาย แม้จะทำงานหนักแต่กลับหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งในตอนนี้ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะไป ๆ มา ๆ ระหว่างคอนโดของกันติชาและบ้านของคเชนทร์โดยจะย้ายเข้าบ้านเป็นการถาวรก็ต่อเมื่อกันติชาบอกกฤษณ์ดนัยผู้เป็นบิดาแล้วเท่านั้น ซึ่งทั้งคู่ก็มีความเห็นตรงกันคเชนทร์เสนอว่าหลังจากโพรเจคสำคัญผ่านพ้นไป ชายหนุ่มจะเดินทางไปเชียงใหม่พร้อมเธอ เพื่อพูดคุยกับกฤษณ์ดนัยอย่างเป็นทางการยิ่งใกล้งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เข้า
กว่าคเชนทร์จะพากันติชากลับขึ้นฝั่งก็ปาเข้าไปเช้ามืด หลังจากตื่นขึ้นมากลางดึก ชายหนุ่มพาเธอไปอาบน้ำ ก็ยังไม่วายจัดหนักเธอต่ออีกหลายยกกันติชาต้องแอบย่องเข้าห้องพัก เพราะเกรงว่าอลิษาจะตื่น ค่อย ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าท่ามกลางความมืดอย่างระมัดระวัง ก่อนล้มตัวลงนอนบนเตียงหนานุ่มอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงกว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็ในช่วงสายของอีกวัน โดยวันนี้เธอได้ตกลงกับแฟนหนุ่มสุดเอาแต่ใจว่าต้องอยู่ห่างกันสักพัก จนกว่าจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ มิเช่นนั้นทั้งคู่อาจถูกจับได้ถ้าหายไปด้วยกันอีกโชคดีที่อลิษาไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร เพราะพี่เลขานุการคนสนิทกว่าจะกลับจากปาร์ตี้เมื่อคืนก็ดึกดื่นค่ำคืนไปแล้ว จึงไม่ได้สังเกตว่ากันติชากลับมาเกือบสว่างหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยสองสาวจึงชวนกันออกไปกินข้าวเช้า ก่อนจะลงไปทำกิจกรรมกันที่ชายหาดอีกครั้ง“น้องกี้ ไปโดนตัวอะไรกัดมาหรือเปล่าคะ ที่คอเป็นรอยแดง ๆ”กันติชาเดินออกมาในชุดแม็กซี่เดรสยาวกรอมเท้า เปิดเปลือยแผ่นหลังขาวผ่อง ก็โดนอลิษาทักเข้า หญิงสาวจึงเดินไปส่องกระจกเอียงคอดูก็เห็นจ้ำแดงสองจุดบริเวณซอกคอระหงค่อนไปทางด้านหลังทำให้เธอไม่ทันได้สังเกต“น้องกี้ ข้างหลั







